Transcript เอกสารประกอบ 3 (คลิกดาวน์โหลดที่นี่..)

ผู้อำนวยกำรวิทยำลัยเทคโนโลยีวริ ุณบริหำรธุรกิจ (VBAC)
หัวหน้ ำนักวิจยั ภำคเหนือ มูลนิธิสถำบันวิจยั และพัฒนำกำรเรียนรู้
สิ่ งที่เป็ น Prerequisite ของ Rubric คือ
หลักสูตรแกนกลำงฯ 2551
หลักสูตรสถำนศึกษำ
ภำระงำน
รูบริค ( Rubric ) หมำยถึง
กฎ ( Rule ) หรือ กติกำ
รูบริค ( Rubic ) ในบริบทกำรวัด-ประเมินผล :
หมายถึง แนวทาง หรื อเครื่ องมือในการให้คะแนน
ที่ตอ้ งมี 2 สิ่ งต่อไปนี้ คือ ...
1. มาตรวัด / ระดับคะแนน ( Scale ) / เกณฑ์ ( Criteria )
กาหนดได้ต้ งั แต่ 3-8 ระดับ
2. คาบรรยายคุณภาพ ( Quality Description ) หรื อ
ความสามารถในการแสดงออกของแต่ละระดับ / มาตรวัด
อย่างชัดเจน
ดังนั้น ... ในบริ บทของการประเมินสภาพจริ ง
R = S/C+Q
รู บริ ค เป็ นเครื่ องมือที่แสดงถึงระดับความสามารถ หรื อระดับการ
แสดงออกในแต่ละระดับ ซึ่งจะทาให้เรารู้วา่ นักเรี ยน “รู้” อะไร “ทา”
อะไรได้มากน้อยแค่ไหนและคุณลักษณะหรื อคุณภาพของนักเรี ยน
เป็ นอย่างไร
จำกสมกำร R = S / C + Q
ดังนั้นรู บริ คจึงทาให้ ...
มองเห็นสภำพที่แท้ จริงของนักเรี ยน
รูบริค 2 ประเภท
1. รู บริ คที่ไม่ติดเนื้อหา / ทัว่ ไป ( General Rubric )
2. รู บริ คที่ติดเนื้อหา ( Specific Rubric )
รูปแบบของรูบริค ( ที่นิยม ) 2 รูปแบบ
1. รูบริ คแบบภำพรวม ( Holistic ) คื อ แนว
ทางการให้คะแนนโดยพิจารณาจากภาพรวมของผลงาน /
ชิ้นงาน หรื อการปฏิบตั ิ
2. รู บ ริ คแบบแยกส่ วน ( Analytic ) คื อ แนว
ทางการให้คะแนนโดยพิจารณาจากส่ วนย่อยแต่ละส่ วน
ของผลงาน / ชิ้นงาน หรื อการปฏิบตั ิ
ประโยชน์ ของรู บริค ( นอกเหนือจำกกำรใช้ ประเมิน )
1. ใช้เป็ นเครื่ องมือในการพัฒนางานของนักเรี ยนได้
2. ช่ ว ยให้ค รู เ กิ ด ความชัด เจนว่า ต้อ งการให้นัก เรี ย น “รู้ ”
อะไร และ “ทา” อะไร
3. ช่วยนักเรี ยนควบคุมตนเองในการพัฒนางาน
4. ช่ ว ยให้ผูเ้ กี่ ย วข้อ งมี ค วามเข้า ใจที่ ต รงกัน ในการตัด สิ น
ผลงานของนักเรี ยน ( มีความเป็ นปรนัย )
ขั้นตอนกำรสร้ ำง Rubric
1. กำหนดประเภทของ Rubric
2. ทำควำมเข้ ำใจตัวชี้วดั ของมำตรฐำนกำรเรียนรู้และกำหนดภำระงำน
3. ระบุรำยกำร “พฤติกรรมย่ อย” หรือ “ควำมสำมำรถย่ อย” ของภำระ
งำนตำมข้ อ 2
4. สร้ ำง Rubric
4.1 กำหนดระดับของเกณฑ์
4.2 จัดทำคำอธิบำยคุณภำพในแต่ ละระดับ
~ ตัวอย่ ำง ~
ระดับ ( Scale )
คำอธิบำยคุณภำพ ( Quality Description )
เขียนตามแบบที่กาหนดได้ มีขอ้ ความสั้น ๆ
1
เขียนขยายความเพิ่มเติม เขียนได้ยาวขึ้น มีตวั อย่าง
2
ประกอบ มีความหลากหลายในการใช้คา แต่เนื้ อหา
อยูใ่ นขอบเขตจากัด
เขียนอย่างเป็ นลาดับมีใจความชัดเจนมีการขยายความ
3
และอธิ บายอย่างกว้างขวาง
เขี ยนโดยคานึ งถึ งผูอ้ ่านให้ผูอ้ ่านได้รั บสาระสาคัญ
4
อย่างถูกต้องชัดเจน