การพัฒนาระบบสารสนเทศ

Download Report

Transcript การพัฒนาระบบสารสนเทศ

321450
Management of Information
Technology
Chapter 12
การพัฒนาระบบสารสนเทศ
Asst. Prof. Wichai Bunchua
E-mail : [email protected]
http://www.informatics.buu.ac.th/~wichai
Chapter Outlines
การพัฒนาระบบสารสนเทศ
่ ยวข
่
 บุคลากรทีเกี
้องกับการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ
 แนวทางในการพัฒนาระบบสารสนเทศ
 วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศและแบบจาลอง
กระบวนการ
 ระเบียบวิธป
ี ฏิบต
ั ใิ นการพัฒนาระบบสารสนเทศ
้
 ขันตอนการพั
ฒนาระบบสารสนเทศ
่ อสนับสนุ นการพัฒนาระบบสารสนเทศ
 เครืองมื
่
1 January
[email protected]

หลั2013
กการพัฒนาระบบ
ตัวชีวั้ ด และความเสียง

3
การพัฒนาระบบสารสนเทศ
การพัฒนาระบบ
(System
Development)
หมายถึง กิจกรรมใน
การสร ้างระบบ
สารสนเทศเพือ่
แก ้ปัญหาหรือสร ้าง
โอกาสให ้กับองค ์ธุรกิจ
[Laudon and
1 January 2013
[email protected]
Laudon, 2007]
4
การพัฒนาระบบสารสนเทศ
การพัฒนาระบบ
้
 ไม่ได ้หมายถึงการสร ้างระบบสารสนเทศขึนมา
ใหม่เพียงอย่างเดียว
่
 แต่ยง
ั มีความหมายรวมถึงการปร ับเปลียนระบบ
่ อยู่แล ้ว ให ้สามารถทางานเพือ่
สารสนเทศเดิมทีมี
แก ้ปัญหาการดาเนิ นงานทางธุรกิจได ้ ตามความ
ต ้องการของผูใช
้ ้งาน
1 January 2013
[email protected]
5
ทาไมต ้องมีการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ
เหตุทท
ี่ าให้ตอ
้ งมีการพัฒนาระบบสารสนเทศ
เช่น
่ ้อยู่ปัจจุบน
 ระบบสารสนเทศทีใช
ั ไม่สามารถ
ตอบสนองความต ้องการของผูใ้ ช ้ได ้อีกต่อไป
่ ้อยู่ปัจจุบน
 ระบบสารสนเทศทีใช
ั ไม่สามารถ
สนับสนุ นการดาเนิ นงานในอนาคตได ้ เนื่ องจาก
่
สภาพแวดล ้อมทางธุรกิจเปลียนแปลงไป
 เทคโนโลยีทใช
ี่ ้ในระบบสารสนเทศปัจจุบน
ั อาจ
ล ้าสมัย มีต ้นทุนสูง ต ้องเสียค่าใช ้จ่ายในการ
1 January
2013
[email protected]
6
บารุ
งร ักษามากและมี
ประสิทธิภาพตา่
ทาไมต ้องมีการพัฒนาระบบสารสนเทศ
(ต่อ)
่ ้อยู่ปัจจุบน
้ั
ระบบทีใช
ั มีขนตอนการท
างานที่
ยุ่งยากและซ ับซ ้อน ทาให ้การใช ้งาน การ
ควบคุมกลไกในการดาเนิ นการ การตรวจสอบ
ข ้อผิดพลาด และการบารุงร ักษาข ้อมูลทาได ้
ยาก
่ ้อยู่ปัจจุบน
ั มีการดาเนิ นงานผิดพลาด
 ระบบทีใช
่ อให ้เกิดความเสียหายแก่องค ์กร
ซึงก่
่ ยวข
่
โดยเฉพาะระบบสารสนเทศทีเกี
้องกับการ
ตัดสินใจของผูบ้ ริหาร
 ระบบเอกสารของระบบปัจจุบน
ั ไม่มม
ี าตรฐาน
1 January 2013
่ ้อ ้างอิงระบบ เป็ นผลให ้การ 7
หรือขาดเอกสารที[email protected]
ใช

่ ยวข
่
บุคลากรทีเกี
้องกับการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ
่ ยวข
่
่
บุคลากรทีเกี
้องโดยทัวไป
คณะกรรการดาเนิ นงาน (Steering
Committee)




่
มีหน้าทีในการตั
ดสินใจ กาหนดรูปแบบ และ
วัตถุประสงค ์ของการพัฒนาระบบ
้ นจากบุ
้
จัดตังขึ
คคลหลายระดับ เช่น ผูบ้ ริหาร
่
ระดับสูง เจ ้าของระบบ และผูเ้ ชียวชาญด
้าน
สารสนเทศ
ผู บ
้ ริหารระบบสารสนเทศ (MIS
Manager)

1 January 2013
่ แลและประสานงานในการวางแผน
มีหน้าทีดู
[email protected]
่ ยวข
่
โครงการต่าง ๆ ทีเกี
้องกับการพัฒนา
8
่ ยวข
่
บุคลากรทีเกี
้องกับการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ
ผู บ
้ ริหารโครงการ (Project Manager)



่
มีหน้าทีในการวางแผน
จัดการ และควบคุมให ้งาน
่ สาเร็จลุลว่ ง และมี
โครงการดาเนิ นไปได ้อย่างราบรืน
ประสิทธิภาพ
ร ับผิดชอบในการจัดสรรทร ัพยากรในการดาเนิ นงาน
ของโครงการให ้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ ภายใต ้
่ าหนด
งบประมาณ ระยะเวลา และขอบเขตทีก
นักวิเคราะห ์ระบบ (System Analyst)

่ นตัวกลางในการติดต่อระหว่างทีมพัฒนา
ทาหน้าทีเป็
่
ระบบสารสนเทศกับกลุม
่ ผูเ้ กียวข
้อง
่ าคัญคือการวิเคราะห ์และออกแบบระบบ ทังยั
้ ง

หน้าทีส
1 January 2013
[email protected]
9
ต ้องสามารถแก ้ปัญหาเชิงกระบวนการทางธุรกิจได ้

่ ยวข
่
บุคลากรทีเกี
้องกับการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ
โปรแกรมเมอร ์ (Programmer)


่
มีหน้าทีในการพั
ฒนาชุดคาสัง่ (เขียนโปรแกรม)
ให ้สอดคล ้องกับความต ้องการของระบบ
่
เจ้าหน้าทีรวบรวมข้
อมู ล (Information
Center Personnel)


1 January 2013
่
มีหน้าทีคอยช่
วยเหลือนักวิเคราะห ์ระบบและ
โปรแกรมเมอร ์ ในการเก็บรวบรวมข ้อมูลที่
จาเป็ นต่อการพัฒนาระบบ
[email protected]
10
่ ยวข
่
บุคลากรทีเกี
้องกับการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
ผู ใ้ ช้ระบบ (User)

่ นเจ ้าหน้าทีปฏิ
่ บต
่ ้องใช ้
หมายถึง บุคคลทีเป็
ั งิ านทีต
ระบบสารสนเทศโดยตรง
่ บทบาทสาคัญมากต่อการ

นับว่าเป็ นบุคคลทีมี
พัฒนาระบบสารสนเทศ
่ ้ข ้อมูล หรือบอกปัญหา

เนื่ องจากเป็ นผูท้ ท
ี่ าหน้าทีให
่ ดขึนกั
้ บระบบเดิม และกาหนดความต ้องการ
ทีเกิ
ของระบบใหม่แก่ทม
ี งานพัฒนาระบบ

ดังนั้น ผูใ้ ช ้จึงต ้องมีสว่ นร่วมตลอด
กระบวนการพัฒ[email protected]
นาระบบ
1 January 2013
11

่ ยวข
่
บุคลากรทีเกี
้องกับการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
1 January 2013
[email protected]
12
แนวทางในการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ
การพัฒนาระบบของแต่ละองค ์กรอาจใช ้แนวทาง
่
(Approach) ทีแตกต่
างกัน เนื่ องจาก
ขนาดของระบบ ความ
ซ ับซ ้อน และจานวน
่
ผูเ้ กียวข
้องต่างกัน
 ขนาดขององค ์กร และ
้
ขันตอนการท
างานของ
องค ์กร
[email protected]
13

1 January 2013
แนวทางในการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
5 แนวทางสาคัญ คือ
้ ม (Traditional
 การพัฒนาแบบดังเดิ
Approach)
 การพัฒนาด ้วยการทาต ้นแบบ (Prototype
Approach)
 การพัฒนาระบบโดยผูใ
้ ช ้ (End-User
Development)
 การใช ้แพ็ กเกจซอฟต ์แวร ์สาเร็จรูป
1 January 2013
[email protected]
(Application Software
Package)
14
แนวทางในการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
้ั ม (Traditional
การพัฒนาแบบดงเดิ
Approach)
้ มจะใช ้วิธก
ี ารพัฒนา
 การพัฒนาระบบแบบดังเดิ
ระบบแบบเป็ นวงจรชีวต
ิ (Life Cycle)
้ั
 มีขนตอนการพั
ฒนาเป็ นลาดับ การดาเนิ นการจะ
่ าหนดไว ้
้
ก
เป็ นไปตามขันตอนที
้
 โดยต ้องพัฒนาขันตอนแรกให
้เสร็จก่อนจึงจะทา
้
การพัฒนาขันตอนต่
อไป
 จาเป็ นต ้องใช ้นักวิเคราะห ์ระบบ นักออกแบบระบบ
และโปรแกรมเมอร ์
1 January 2013
[email protected]
15
แนวทางในการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
การพัฒนาด้วยการทาต้นแบบ (Prototype
Approach)
่ ยมนาไปใช ้พัฒนาระบบขนาดเล็ก
 เป็ นแนวทางทีนิ
่ ้องการความรวดเร็ว
ทีต
้ าไปใช ้เมือ
่
 วิธน
ี ี จะน




ความต ้องการของผูใ้ ช ้ไม่ชดั เจน
่
มีการเปลียนแปลงความต
้องการบ่อยครง้ั
ต ้องการพัฒนาระบบให ้เสร็จโดยเร็ว
่
่ ฒนา และ
ไม่มค
ี วามเข ้าใจเกียวกั
บระบบทีจะพั
มีงบประมาณจากัด

1 January 2013
[email protected]
16
แนวทางในการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
1 January 2013
[email protected]
17
แนวทางในการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
การพัฒนาโดยผู ใ้ ช้ (End-User
Development)
 เป็ นการพัฒนาระบบสารสนเทศโดยผูใช
้ ้ระบบ จึงไม่
่
ต ้องจ ้างผูเ้ ชียวชาญมาช่
วยให ้คาปรึกษา
 พัฒนาตามแนวทางของผูใ้ ช ้ ระบบจึงมีต ้นทุนน้อย
สามารถพัฒนาได ้อย่างรวดเร็ว
 ผูใ้ ช ้มีสว
่ นร่วมมากขึน้ และเข ้าใจความต ้องการ
ระบบสารสนเทศขององค ์กรได ้อย่างแท ้จริง
่ องจากผูใ้ ช ้เป็ นผู ้พัฒนาเอง โดยอาศัยโปรแกรม
เนื
1 January 2013
[email protected]
18
่
แนวทางในการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
ใช้ซอฟต ์แวร ์สาเร็จรู ป
 ซอฟต ์แวร ์ASP (Application Services
้
Provider) เช่าหรือซือมาให
้บริการแก่ลก
ู ค ้า
 ส่วนใหญ่เป็ นผลิตภัณฑ ์จากบริษท
ั ผูผลิ
้ ต
ซอฟต ์แวร ์รายใหญ่ เช่น Microsoft, Oracle เป็ น
่
ต ้น โดยผูผ
้ ลิตต่างก็มผ
ี ลิตภัณฑ ์ทีเหมาะส
าหร ับ
ASP โดยเฉพาะไว ้ให ้ด ้วย
 ASP คือ การให ้บริการแบบหนึง
่ ซงึ่ เป็ นบริษัท
หรือเจ ้าของในตั[email protected]
ว Application โดยทีก
่ าร 19
1 January 2013
แนวทางในการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
การจ้างบริษท
ั ภายนอก
 การจ ้างบริษท
ั ภายนอก (Outsourcing) คือ การ
่
่
ทีองค
์กรว่าจ ้างบริษท
ั อืนภายนอกเข
้ามา
่
่ ยวข
้องกับระบบ
ร ับผิดชอบ และดาเนิ นงานทีเกี
่
สารสนเทศขององค ์กร แทนทีองค
์กรจะดาเนิ นการ
เอง
1 January 2013
[email protected]
20
วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
วงจรการพัฒนาระบบ (System Development Life
้
Cycle: SDLC) เป็ นการกาหนดขันตอนการ
ทางานของกระบวนการ พัฒนาระบบสารสนเทศ
โดยออกเป็ นระยะ (Phases) ได ้แก่

การวางแผน (Planning Phase)

การวิเคราะห ์ (Analysis Phase)

การออกแบบ (Design Phase)

การพัฒนาและติดตัง้ (Implementation
Phase)

การบารุงร ักษา (Maintenance
Phase)
1 January 2013
[email protected]
21
แบบจาลองกระบวนการ
การนา SDLC ไปประยุกต ์ใช ้พัฒนาระบบ
สารสนเทศของแต่ละองค ์กรอาจแตกต่างกัน
่ ดคือแสดงให ้เห็นถึง

วิธท
ี ง่ี่ ายทีสุ
้
กระบวนการพัฒนาระบบทังหมด
หรือ การสร ้าง
่ ยกว่า
เป็ น “แบบจาลองของกระบวนการ ทีเรี
“แบบจาลองกระบวนการพัฒนาระบบ
(System Development Process
Model)”
่

รายละเอียดของกระบวนการพัฒนาทีปรากฏใน
แบบจาลองกระบวนการจึงเป็ นรายละเอียดเพียง
้
บางส่
1 January
2013 วนเท่านัน [email protected]
22

แบบจาลองกระบวนการ (ต่อ)
่ ยมใช ้กัน
ตัวอย่างแบบจาลองของกระบวนการทีนิ

Waterfall Model

Evolutionary Model

Incremental Model

Spiral Model

Rational Unified Process (RUP)
1 January 2013
[email protected]
23
แบบจาลองกระบวนการ (ต่อ)
1 January 2013
[email protected]
24
ระเบียบวิธป
ี ฏิบต
ั ใิ นการพัฒนา
ระบบสารสนเทศ
ระเบียบวิธป
ี ฏิบต
ั ใิ นการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ

ระเบียบวิธป
ี ฏิบต
ั ิ (Methodology) คือ
วิธก
ี าร หรือกรรมวิธท
ี จะน
ี่ ากระบวนการทาง
ความคิดของวงจรการพัฒนาระบบ
สารสนเทศมาปฏิบต
ั จิ ริง จนกลายเป็ นระบบ
่
สารสนเทศทีสามารถใช
้งานได ้
้

ภายใน Methodology จะระบุถงึ ขันตอนใน
การปฏิบต
ั ิ ชนิ ดของแบบจาลอง เทคนิ ค และ
่ อทีต
่ ้องใช ้ในแต่ละขันตอนด
้
เครื
องมื
้วย
1 January 2013
[email protected]
[Satzinger, 2007]
25
ระเบียบวิธป
ี ฏิบต
ั ใิ นการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
Structured System Analysis and
Design Methodology (SSAD)


้ มทีใช
่ ้ SDLC
เป็ น Methodology ดังเดิ
Waterfall Model เป็ นต ้นแบบ
่ นลาดับขันตอนเมื
่
้
จึงมีวธิ ก
ี ารปฏิบต
ั งิ านทีเป็
อ
้
่ งแล ้วเสร็จ จะต ้องนาเสนอต่อเจ ้าของ
ขันตอนหนึ
่ จารณาอนุ มต
ระบบเพือพิ
ั ิ จึงจะสามารถ
้
ดาเนิ นการขันตอนต่
อไปได ้
1 January 2013
[email protected]
26
ระเบียบวิธป
ี ฏิบต
ั ใิ นการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
Rapid Application Developmentbased Methodology (RAD)
RAD เป็ น Methodology แนวใหม่ที่
้
่
พัฒนาขึนมาเพื
อแก
้ไขจุดอ่อนของ SSAD

ด ้วยการปร ับระยะในวงจรการพัฒนาระบบให ้
้ั
่
มีขนตอนการท
างานทีรวบร
ัดมากขึน้
่ อ (Tool) และเทคนิ ค

เน้นการใช ้เครืองมื
่ วยให ้การพัฒนา
(Technique) ต่าง ๆ เพือช่
1 January 2013
27
ลุลว่ งได ้โดยเร็ว[email protected]

ระเบียบวิธป
ี ฏิบต
ั ใิ นการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
Object-oriented Analysis and Design
Methodology (OOSAD)
เป็ นวิธก
ี ารวิเคราะห ์และออกแบบตามแนวทางเชิง
วัตถุ
่ าง ๆ ในระบบเป็ น “อ็อบ

กล่าวคือ ใช ้วิธม
ี องสิงต่
เจ็กต ์ (Object)” หรือ “วัตถุ”

ภายในอ็อบเจ็กต ์จะมี “ข ้อมูล (Data)” และ “การ
ทางาน (Process)” ถูกห่อหุ ้มไว ้ด ้วยกัน และแต่ละอ็
่ ้ระบบเกิดการ
อบเจ็กต ์จะต ้องมีปฏิสม
ั พันธ ์กันเพือให
ทางาน
้

หากอ็
อ
บเจ็
ก
ต
์ใดมี
ค
ณ
ุ
ลั
ก
ษณะ
(ข
้อมู
ล
)
พื
นฐาน
1 January 2013
[email protected]
28
เหมือนกันจะถูกรวมไว ้ใน “คลาส (Class)” เดียวกัน

ระเบียบวิธป
ี ฏิบต
ั ใิ นการพัฒนาระบบ
สารสนเทศ (ต่อ)
Agile Methodology
่ น
เป็ นระเบียบวิธท
ี แตกแขนงจาก
ี่
RAD ทีเน้
การพัฒนาระบบแบบเร่งด่วน มีความ
คล่องตัวในการทางานสูง

สืบเนื่ องจากการพัฒนาระบบในรูปแบบต่าง ๆ
มีลก
ั ษณะเชิงบังคับให ้ทาตามลาดับทุก
้
ขันตอนอย่
างต่อเนื่อง

นักพัฒนาซอฟต ์แวร ์บางกลุม
่ จึงต ้องการผัน
ตนเองออกนอกกรอบการทางานแบบเดิม จึง
ได ้คิดค ้นวิธก
ี ารพั
ฒนาระบบแบบใหม่ทมี
ี่
1 January 2013
[email protected]
29

้
ขันตอนการพั
ฒนาระบบสารสนเทศ
้
่
ขันตอนหลั
ก ๆ ในการพัฒนาระบบสารสนเทศโดยทัวไป
้
มี 5 ขันตอน
ดังนี ้
1.
การวางแผน (Planning Phase)
2.
การวิเคราะห ์ (Analysis Phase)
3.
การออกแบบ (Design Phase)
4.
การพัฒนาและติดตัง้ (Implementation
Phase)
5.
การบารุงร ักษา (Maintenance Phase)
1 January 2013
[email protected]
30
้
ขันตอนการพั
ฒนาระบบสารสนเทศ
(ต่อ)
1 January 2013
[email protected]
31
้
ขันตอนการพั
ฒนาระบบสารสนเทศ (ต่อ)
1. การวางแผน (Planning)
่ ้นขันตอนแรกด
้
 เริมต
้วยการสารวจความต ้องการของ
ผูใ้ ช ้ระบบ
่ ้นหาโครงการพัฒนาระบบที่
 นามาวิเคราะห ์เพือค
สามารถตอบสนองความต ้องการของผูใ้ ช ้ได ้
่
าหนดขอบเขตของ
 คัดเลือกโครงการทีเหมาะสมและก
ระบบใหม่
 ศึกษาความไปได ้ของโครงการ จัดตารางการ
าเนิ2013
นงาน วางแผนการใช
้ทร ัพยากร และจัดทา 32
1ด
January
[email protected]
้
ขันตอนการพั
ฒนาระบบสารสนเทศ
(ต่อ)
2. การวิเคราะห ์ (Analysis)
้
 ในระยะนี ้ ทีมงานจะต ้องศึกษาขันตอนการ
่ าความเข ้าใจกับ
ดาเนิ นงานของระบบเดิมเพือท
่ ดขึน้
ปัญหาทีเกิ
 รวบรวมความต ้องการในระบบใหม่จากผูใช
้ ้ระบบ
แล ้วนาความต ้องการเหล่านั้นมาศึกษาและ
วิเคราะห ์
 หาทางแก ้ไขปัญหา โดยนาแบบจาลองต่างๆ มา
1 January
2013
ช่วยในการวิ
เคราะห[email protected]
์ เช่น DFD, E-R Diagram, 33
้
ขันตอนการพั
ฒนาระบบสารสนเทศ
(ต่อ)
3. การออกแบบ (Design)
้
่ มงานจะต ้องออกแบบสารสนเทศทีจะ
่

เป็ นขันตอนที
ที
่ ้
นามาใช ้แก ้ปัญหาหรือตอบสนองความต ้องการทีได
วิเคราะห ์ไว ้
 โดยการกาหนดรายละเอียดขององค ์ประกอบส่วนต่าง
ๆ ของระบบ เรียกรายละเอียดดังกล่าวว่า “ข ้อกาหนด
ของการออกแบบ (Design Specification)”
1 January 2013
[email protected]
34
้
ขันตอนการพั
ฒนาระบบสารสนเทศ
(ต่อ)
4. การพัฒนาและติดตง้ั (Implementation)
้

เป็ นขันตอนของการสร
้างระบบ (โดยการเขียน
่
โปรแกรม หรือจัดหาโปรแกรมจากแหล่งอืน)
้
 ทดสอบ และติดตังระบบ
่
 จากนั้นทีมงานจะต ้องเตรียมการเปลียนปลงจาก
ระบบเก่าไปเป็ นระบบใหม่


โดยการอบรมการใช ้งานให ้แก่ผูใ้ ช ้ และ
จัดเตรียมคูม
่ อ
ื ประกอบการใช ้งานด ้วย
1 January 2013
[email protected]
35
้
ขันตอนการพั
ฒนาระบบสารสนเทศ (ต่อ)
5. การบารุงร ักษา (Maintenance)
้
่ มงานต ้องคอยดูแลการทางานของ
 เป็ นขันตอนที
ที
่ และมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
ระบบใหม่ให ้ราบรืน
 โดยการให ้การสนับสนุ นและช่วยเหลือผูใ้ ช ้งาน
่ ดขึนระหว่
้
แก ้ไขปัญหาทีเกิ
างการใช ้งาน
 หลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่ งของการใช ้งานระบบ
ผ่านไป อาจมีคาร ้องขอให ้ปร ับปรุงหรือ
่
เปลียนแปลงระบบ
่
่ ดขึน้ เหตุผล
 โดยทัวไปจะมี
ระบบจัดเก็บปัญหาทีเกิ
่
และความจาเป็ นเอาไว ้ด ้วย เพือมาใช
้เป็ นข ้อมูล
่
ความต ้องการเพือปร
ับปรุงระบบ และเข ้าสูว่ งจรการ
พัฒ2013
นาระบบอีกครง้ั [email protected]
1 January
36
การบริหารโครงการ
การบริหารโครงการ (Project
Management) คือ การประยุกต ์ใช ้องค ์ความรู ้
่ อ และเทคนิ ค เพือด
่ าเนิ นกิจกรรม
ทักษะ เครืองมื
ตามความต ้องการของโครงการให ้บรรลุ
่ าหนดไว ้
วัตถุประสงค ์ทีก
่ หารโครงการ ก็คอื “ผูบ้ ริหารหรือ
 ผูท
้ ท
ี่ าหน้าทีบริ
หัวหน้าโครงการ (Project Manager/Project
่ หน้าทีในการสั
่
่ ้ทีมงานของ
Leader)” ซึงมี
งให
่ ้ร ับมอบหมาย ควบคุม
โครงการทางานตามทีได
1 January 2013
[email protected]
กากับดูแล และติดตามการท
างานของทีมงานให ้ 37

การบริหารโครงการ (ต่อ)
วงจรชีวต
ิ ของโครงการ
่ ดตังขึ
้ นแบ่
้
โครงการทุกประเภททีจั
งออกเป็ น 4 ระยะ
ได ้แก่
่ ้นโครงการ (Project Initiation)
1. ระยะเริมต
2. ระยะวางแผนโครงการ (Project Planning)
3. ระยะดาเนิ นโครงการ (Project Execution)
4. ระยะปิ ดโครงการ (Project Closing)
1 January 2013
[email protected]
38
การบริหารโครงการ (ต่อ)
1 January 2013
[email protected]
39
การบริหารโครงการ (ต่อ)
กิจกรรมในการบริหารโครงการ
 การเขียนข ้อเสนอโครงการ (Proposal Writing)
 การวางแผนและการจัดตารางงานโครงการ
(Project Planning and Scheduling)
 การประมาณการต ้นทุนโครงการ (Cost
Estimation)
 การติดตามและทบทวนโครงการ (Project
Monitoring and Review)
 การคัดเลือกและประเมินบุคลากร (Staff Selection
and Evaluation)
1 January
การเขี
2013 ยนและนาเสนอรายงาน
[email protected] (Report Writing40
and Presentation)
การบริหารโครงการ (ต่อ)
เทคนิ คในการบริหารโครงการ
่ ยมใช ้ในการบริหารโครงการได ้แก่
 เทคนิ คทีนิ
 Gantt Chart
 PERT

CPM
1 January 2013
[email protected]
41
เทคนิ คในการบริหารโครงการ



Gantt Chart ใช ้จัดตารางการทางานใน
โครงการ (Project Scheduling) Gantt Chart
เป็ นกราฟแท่งในแนวนอนแสดงระยะเวลาของ
้
กิจกรรมแต่ละขันตอน
่ จกรรมจะถูกแสดงไว ้ในแนวตังด
้ ้าน
โดยรายชือกิ
ซ ้ายมือ
ระยะเวลาการทางานจะแสดงในแนวนอนของ
แผนภาพ แสดงตัวอย่างดังรูป
1 January 2013
[email protected]
42
เทคนิ คในการบริหารโครงการ(ต่อ)
1 January 2013
[email protected]
43
เทคนิ คในการบริหารโครงการ (ต่อ)
PERT (Project Evaluation Review
Technique)
่ ้อง
 เป็ นเทคนิ คในการวิเคราะห ์หรือประเมินเวลาทีต
ใช ้ในแต่ละกิจกรรมของโครงการ
 โดยแสดงเป็ นแผนภาพกิจกรรมของโครงการที่
่
เชือมโยงกั
นในลักษณะของเครือข่าย (ข่ายงาน)
้
 ทาให ้ทราบว่าจะต ้องดาเนิ นกิจกรรมใดให ้เสร็จสิน
ก่อนกิจกรรมถัดไป ตลอดจนกิจกรรมวิกฤติ
 โดยแต่ละกิจกรรมจะแทนด ้วยเส ้นลูกศร
่
(Activity
on Arch:
AOA) และเชือมโยงกั
นด ้วย44
1 January
2013
[email protected]
่
่
เทคนิ คในการบริหารโครงการ (ต่อ)
CPM (Critical Path Method)
 เป็ นเทคนิ คในการวิเคราะห ์เส ้นทางหรือกิจกรรม
วิกฤติ โดยแสดงเป็ นแผนภาพเครือข่ายของ
กิจกรรมเช่นเดียวกัน PERT
 แต่ CPM จะแสดงกิจกรรมด ้วยสัญลักษณ์รป
ู
่ ยมเชื
่
่
วงกลม เรียกว่า “โหนด” หรือรูปสีเหลี
อมโยง
กันด ้วยเส ้นลูกศร (Activity on Node: AON)
CPM
่
้
 เหมาะสาหร ับโครงการทีเคยเกิ
ด
ขึ
นแล
้วในอดีต ท45า
1 January 2013
[email protected]
่
เทคนิ คในการบริหารโครงการ (ต่อ)
1 January 2013
[email protected]
46
แนวคิดต่อการพัฒนาระบบสารสนเทศใน
ปัจจุบน
ั
ปัจจุบน
ั ระบบสารสนเทศไม่ใช่ระบบคอมพิวเตอร ์ที่
ใช ้จัดเก็บและจัดการข ้อมูลอีกต่อไป
่ อและกลยุทธ ์สาคัญทีจะ
่
 แต่ได ้กลายเป็ นเครืองมื
สร ้างความได ้เปรียบคูแ่ ข่งขัน เข ้าถึงลูกคา้ ค ้นหา
ลูกค ้ากลุม
่ ใหม่ และจะต ้องสร ้างความพึงพอใจให ้แก่
ลูกค ้า ฯลฯ
่
 สิงเหล่
านี ล้ ้วนทาให ้ทีมงานต ้องพัฒนาระบบ
่ คณ
สารสนเทศทีมี
ุ ภาพทางานได ้เร็ว ราคาไม่แพง มี
การวิเคราะห ์และปร[email protected]
ับปรุง “กระบวนการทางธุรกิจ47
1 January 2013

่ อสนับสนุ นการพัฒนาระบบ
เครืองมื
สารสนเทศ
CASE (Computer-aided Software
Engineering)
่ นเครืองมื
่ อทีมี
่ สว่ นช่วย
 คือ ซอฟต ์แวร ์ทีเป็
สนับสนุ นการทางานในกิจกรรมต่าง ๆ ของ
ทีมงานพัฒนาระบบ
่ น CASE Tools จึงต ้องมี
 ซอฟต ์แวร ์ทีเป็
ฟังก ์ช ันต่าง ๆ ให ้เลือกใช ้ เช่น หน้าต่าง
ออกแบบโปรแกรม (Design Editor)
พจนานุ กรมข ้อมู[email protected]
ล (Data Dictionary)
1 January 2013
48
่ อสนับสนุ นการพัฒนาระบบ
เครืองมื
สารสนเทศ (ต่อ)
สรุปความสามารถของ CASE Tools
่ อสร ้างแผนภาพ (Diagram Tools) เช่น

เครืองมื
Microsoft Visio, Rational Rose,
SmartDraw, Visible Analyst,
PowerDesigner
้

ใช ้สร ้างแบบจาลองชนิ ดต่าง ๆ ในขันตอนการ
วิเคราะห ์และออกแบบ
่ อสร ้างส่วนประสานกับผู ้ใช ้และรายงาน

เครืองมื
(User Interface and Report Generator)
เช่น Microsoft Visio, Visual Basic
1 January 2013
[email protected]
49
่ อสนับสนุ นการพัฒนาระบบ
เครืองมื
สารสนเทศ (ต่อ)
สรุปความสามารถของ CASE Tools (ต่อ)
่ อวิเคราะห ์ (Analyst Tools) เช่น

เครืองมื
Eclipse, Rational Rose, Visible Analyst,
Data Architecture ใช ้วิเคราะห ์ความถูกต ้อง
และสอดคล ้องของแผนภาพ แบบฟอร ์ม และ
รายงาน
่ อใช ้สร ้างต ้นแบบ User Interface และ

เครืองมื
ต ้นแบบรายงาน (Report)
1 January 2013
[email protected]
50
่ อสนับสนุ นการพัฒนาระบบ
เครืองมื
สารสนเทศ (ต่อ)
สรุปความสามารถของ CASE Tools (ต่อ)

ฐานข ้อมูลของ CASE Tools (Repository) เป็ นที่
ใช ้จัดเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของโครงการพัฒนา
ระบบไว ้

รายละเอียดของแบบจาลอง

พจนานุ กรมข ้อมูล

ซอร ์สโค ้ด
่ ้นักวิเคราะห ์ระบบสามารถวิเคราะห ์ และแก ้ไข

เพือให
่
แบบจาลองได ้อย่างอัตโนมัต ิ โดยทัวไป
่ น CASE 51
Repository
จะมีอ[email protected]
ยู่ในซอฟต ์แวร ์ทีเป็
1 January
2013
่ อสนับสนุ นการพัฒนาระบบ
เครืองมื
สารสนเทศ (ต่อ)
สรุปความสามารถของ CASE Tools (ต่อ)
่ อสร ้างเอกสาร (Documentation
 เครืองมื
Generator) เช่น JSDoc, Doxygen ใช ้สร ้าง
่ น
เอกสารคูม
่ อ
ื การใช ้งานระบบโดยมีรป
ู แบบทีเป็
มาตรฐาน
่ อสร ้างซอร ์สโค ้ด (Code Generator)
 เครืองมื
เช่น Rational Rose, Eclipse ใช ้สร ้างโค ้ด
โปรแกรมบางส่วนจากแบบจาลองได ้อัตโนมัต ิ
1 January 2013
[email protected]
52
หลักการในการพัฒนาระบบ
่ มงานจะต ้องคานึ งถึง
หลักการทีที
 คานึ งความต ้องการของเจ ้าของระบบและผูใ
้ ช้
 พยายามเข ้าถึงปัญหาให ้ตรงจุด
้
 กาหนดขันตอนการท
างานให ้ช ัดเจน
 กาหนดมาตรฐานในระหว่างการพัฒนาระบบ
้
และจัดทาเอกสารประกอบทุกขันตอน
 พึงระลึกอยู่เสมอว่า “การพัฒนาคือการ
่ ้องการความคุ ้มค่าในการลงทุน
ลงทุน” ทีต
1 January 2013
[email protected]
53
หลักการในการพัฒนาระบบ (ต่อ)
่ มงานจะต ้องคานึ งถึง (ต่อ)
หลักการทีที

แตกระบบใหญ่ให ้เป็ นระบบย่อย หรือแตก
ปัญหาออกเป็ นส่วนย่อย จะทาให ้วิเคราะห ์
ปัญหาได ้ง่ายขึน้
่

ออกแบบระบบเพือรองร
ับการเติบโตและการ
่
เปลียนแปลงในอนาคต

การได ้ร ับการสนับสนุ นจากผูบริ
้ หาร

พยายามให ้ผูใ้ ช ้มีสว่ นร่วมในการพัฒนา
่ ด
ระบบให ้มากทีสุ
1 January 2013
[email protected]
54
หลักการในการพัฒนาระบบ (ต่อ)
่ มงานจะต ้องคานึ งถึง (ต่อ)
หลักการทีที
่ ความเชียวชาญ
่

ใช ้ทีมงานทีมี
้
่

ดาเนิ นการพัฒนาระบบตามลาดับขันตอนที
้
กาหนด ไม่ควรลัดขันตอน

ทดสอบระบบอย่างรอบคอบ

จัดให ้มีการฝึ กอบรม
่

พัฒนาประสิทธิภาพในการสือสารระหว่
างกลุม
่
บุคคลเสมอ

ให ้ยกเลิกการดาเนิ นโครงการทันทีหากเห็นว่า
่
ไม่คุ ้มทุนหรือเสี[email protected]
ยงเกิ
นไป
1 January 2013
55
ต ัวชีว้ ัด
ตัวชีวั้ ดความสาเร็จของการนาระบบสารสนเทศมา
ใช ้งาน จะวัดจากได ้จากตัวชีวั้ ด ดังนี ้
่ ร ับ จะวัดจากประโยชน์ที่
 ประสิทธิภาพทีได้
่ าระบบสารสนเทศมาใช ้
ได ้ร ับจากการลงทุนเพือน
่ ้ เวลาในการ
งาน โดยวัดจากทร ัพยากรทีใช
่ ้ร ับเทียบกับงบประมาณที่
ทางาน หรือผลกาไรทีได
ใช ้ในการพัฒนาระบบ
่ ร ับ จะพิจารณาว่าระบบ
 ประสิทธิผลทีได้
่ ามาใช
สารสนเทศที
น
้ สามารถตอบสนอง
1 January
2013
[email protected]
56
ต ัวชีว้ ัด (ต่อ)
จานวนการใช ้งานระบบ หากระบบสารสนเทศถูก
ใช ้ง่ายบ่อยครง้ั แสดงว่าระบบถูกนาไปใช ้งานได ้
จริง

คูณภาพของระบบสารสนเทศ การทางานของ
่ ความ
ระบบสารสนเทศจะต ้องให ้ผลลัพธ ์ทีมี
่
ถูกต ้องและเทียงตรง

ความพอใจของผูใ้ ช ้ จะพิจารณาจากความพึง
้ ฝ่าย
พอใจของผูใ้ ช ้งานในทุกระดับ ตังแต่
ปฏิบต
ั ก
ิ ารจนถึงฝ่[email protected]
ายบริหาร
1 January 2013
57

่
ความเสียงต่
อการล้มเหลว
่
ระด ับความเสียงต่
อการล้มเหลวต่างกัน
้
ขึนอยู
่ก ับปั จจัยด ังนี ้

โครงสร ้างของระบบ


1 January 2013
หากโครงสร ้างของระบบมีความชัดเจน มีการ
่
ระบุข ้อมูลทีไหลเวี
ยนอยูใ่ นระบบไว ้อย่างชัดเจน
่
หรือไม่มก
ี ารเปลียนแปลงความต
้องการ
จะทาให ้ทราบว่าระบบดังกล่าวต ้องการข ้อมูล
อะไร ลักษณะดังกล่าวทาให ้การดาเนิ นการ
พัฒนาใช ้เวลาน้อยลง
[email protected]
58
่
ความเสียงต่
อการล้มเหลว (ต่อ)
ขนาดของระบบ


หากระบบมีขนาดใหญ่ย่อมส่งผลกระทบในหลาย
้ ้านจานวนคนและงบประมาณ ดังนั้นจึงมี
ด ้าน ทังด
ความเสียงสูงตามไปด ้วย
่
ความเชียวชาญในด
้านเทคโนโลยี


่ ความเชียวชาญ
่
หากผูพ
้ ฒ
ั นาระบบขาดบุคลากรทีมี
ด ้านเทคนิ ค อาจทาให ้ระบบไม่สามารถทางานได ้เต็ม
ประสิทธิภาพ และต ้องการเสียเวลาในการศึกษา
่ ม รวมทังท
้ าให ้ค่าใช ้จ่ายเพิมขึ
่ น้
ด ้านเทคนิ คเพิมเติ
1 January 2013
[email protected]
59
ระบบ
ทีไ่ ม่เสร็จ
สมบูรณ์
1 January 2013
[email protected]
60
Questions?
1 January 2013
[email protected]
61
Assignment#12
12a การพัฒนาระบบสารสนเทศนั้นคือ
อย่างไร หลักในการในการพัฒนาระบบมี
อะไรบ ้าง
12b ทาไมต ้องมีการพัฒนาระบบสารสนเทศ
12c CASE Tools คืออะไร ทาอะไรได ้บ ้าง
1 January 2013
[email protected]
62
ส วั ส
ดี
1 January 2013
[email protected]
63