ดาบซามูไร Samurai sword

Download Report

Transcript ดาบซามูไร Samurai sword

ดาบซามูไร
Samurai sword
จัดทำโดย
นำย ธนสิทธิ์ อุ่นคำ
รหัสนิสิต 55520963
กลุ่ม 208
ดาบซามูไร ตานานของอาวุธสั งหาร และงานศิลปะ
ภายใต้ ความประณีตผสมผสานเนื ้อเหล็กชั ้นดี และวิวฒ
ั นาการขั ้นสูงสุดของชาวญี่ปุ่นตั ้งแต่สมัย
โบราณราวหนึ่งพันปี เศษ ทาให้ ดาบญี่ปนได้
ุ่ ชื่อว่าเป็ นอาวุธที่ร้ายแรงที่สดุ เหนือกว่าดาบของชนชาติ
อื่นๆ อย่างสิ ้นเชิง
ราวพันปี ก่อนช่างตีดาบเขาผลิตดาบเนื ้อดีแข็งแกร่งและคมอย่างมีดโกนได้ อย่างไร
ภายใต้ อาวุธสังหารอันคมกริบ ดาบซามูไรก็เป็ นงานศิลปะชั ้นยอด เป็ นของที่มีค่าและวิธีการตีดาบ
ซามูไรยังเป็ นศาสตร์ ที่สงู ส่งอย่างไม่น่าเชื่อ
คนไทยเริ่มรู้จกั ดาบซามูไรเมื่อติดต่อค้ าขายกับญี่ปนตั
ุ่ ้งแต่สมัยอยุธยา สงครามโลกครัง้ ที่สอง...ดาบ
ซามูไรเป็ นเครื่ องมือสาคัญที่ทหารญี่ปนใช้
ุ่ ตดั หัวเชลยศึกขาด...ได้ ด้วยการฟั นเพียงครัง้ เดียวและทา
ให้ ดาบซามูไรเริ่มรู้จกั กันอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา และแทบไม่น่าเชื่อว่า...ยุคทองของดาบซามูไร
นั ้นมีมานานกว่า ๗๐๐ ปี ถือเป็ นยุคที่ดาบมีคณ
ุ ภาพดีที่สดุ เหนือกว่ายุคใดๆ ของดาบญี่ปนุ่
Samurai
ซามูไร (Samurai) คือนักรบหรื อมีความหมายว่าผู้รับใช้ ดาบคู่กายซามูไร
เปรี ยบเหมือนจิตวิญญาณของซามูไรทุกคน หากซามูไรลืมดาบ...เท่ากับว่านาตนเองไปสูค่ วาม
ตายได้ ทกุ เมื่อ ลัทธิ "บูชิโด" สอนให้ เหล่าซามูไรยึดมัน่ ในความซื่อสัตย์ต่อหน้ าที่และจงรักภักดีตอ่
เจ้ านายของตน ซามูไรถือว่าความตายเป็ นเรื่ องเล็กน้ อย
ปรัชญาแห่งบูชิโดกล่าวไว้ ว่า "ความตายเป็ นสิง่ เบาบางยิ่งกว่าขนนก"
ชาวญี่ปนโบราณยกย่
ุ่
องชาวนาและช่างฝี มือเป็ นอย่างมาก โดยเฉพาะ "ช่างตีดาบ"
เดิมนักรบชาวญี่ปนใช้
ุ่ ดาบจากจีนและเกาหลีในการสู้รบ ในสมัย "นาร่า" (Nara Period)
ประมาณปี พ.ศ. ๑๑๙๓-๑๓๓๖ หรื อประมาณ ๑,๓๐๐ ปี เศษล่วงมาแล้ ว ปั ญหาที่ตามมาคือ
เวลาสู้รบดาบมักหักออกเป็ นสองท่อน จักรพรรดิจงึ สัง่ ให้ ชา่ งตีดาบปรับปรุงดาบให้ ดีขึ ้นกว่าเดิม
ยุคสมัยของดาบซามูไร แบ่ งออกได้ 4 ยุค
1.ยุคดาบโบราณ (Ancient Sword) ก่อนคริสต์ศกั ราช ๙๐๐ (ก่อน พ.ศ. ๑๔๔๓)
ยุคที่ดาบของ "อามากุนิ" ถือกาเนิดขึ ้นพร้ อมกับการถลุงเหล็กเนื ้อดีในสมัยนาร่า
2. ยุคดาบเก่า (Old Sword) ราวปี พ.ศ. ๑๔๔๓-๒๐๗๓ ถือเป็ นยุคทองของดาบซามูไร
แทบไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ ศิลปะไทย จะอยู่ในช่วงเดียวกับศิลปะสมัยทวารวดี
(พุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๘) จนถึงสมัยศิลปะสุโขทัย (พุทธศตวรรษที่ ๑๘-๒๐) ในขณะที่ปี พ.ศ.
๑๘๔๐ เป็ นปี ที่ดาบของ "มาซามูเน่" ถือกาเนิดขึ ้นและภูมปิ ั ญญาขั ้นสูงสุดที่ตกทอดเป็ น
มรดกของดาบชั ้นยอด
3.ยุคดาบใหม่ (New Sword) ราวปี พ.ศ. ๒๑๓๙-๒๔๑๐ ซึง่ อยู่ช่วงเดียวกับศิลปะสมัย
อยุธยา และต้ นรัตนโกสินทร์ คือช่วงสมัยเอโดะ และยุคที่ญี่ปนปิ
ุ่ ดประเทศห้ ามคนเข้ าออก
อย่างเด็ดขาด (พ.ศ. ๒๑๘๒)
4.ยุคดาบสมัยโมเดิร์น (Modern Sword) ราวปี พ.ศ. ๒๔๑๑ ถึงปั จจุบนั ยุคที่ดาบ
ทหารถือกาเนิดขึ ้น (พ.ศ. ๒๔๑๑-๒๔๘๘) การผลิตเป็ นจานวนมากเพื่อการสงครามไม่มี
พิธีกรรมแบบโบราณ ดาบญี่ปนมั
ุ่ วหมองเพราะถูกใช้ ในสงครามโลกครัง้ ที่ ๒ การตัดคอเชลย
ศึกไม่ใช่ประเพณีของชนชั ้นซามูไร พอมาถึงสมัยปั จจุบนั ดาบกลายเป็ นงานศิลปะชั ้นสูงที่มี
ราคาแพง
ชนิดของดาบซามูไร
โตะเคน 刀剣ที่เป็ นคาเรี ยกรวมอาวุธมีคมทั ้งหมดของญี่ปนโดยจะจ
ุ่
าแนกได้ ดงั นี ้
1.刀(โตะ)(คะตะนะ) อาวุธประเภทดาบโดยมากมีคมด้ านเดียว.
2.剣(เคน) ดาบสองคม หรื อ อาวุธที่มีสองคมจาพวก หอกยาริ
โดยจาแนกตามหมวดหมูไ่ ด้ ดงั นี ้
刀 (かたな)(とう) คะตะนะ,โตะ สามารถจัดลาดับได้ ตามขนาดต่างๆที่เรี ยกว่า大小(ไดโช)ซึง่ เป็ นคา
เรี ยกรวมดาบ เป็ นชุดหมายความว่า ใหญ่ (ได 大) และ เล็ก (โช 小) โดยดาบที่มีหมวดหมูข่ นาดยาวเกิน 60
cm (2 ชะคุ) เรี ยกว่า 大刀(ไดโตะ) ส่วน ต่ากว่า 50 cm (1 ชะคุ 5 ซุง) เรี ยกว่า 小刀(โชโตะ)
大刀
ไดโตะแบ่ งได้ ดังนี.้
1.野太刀โนดำชิ
เป็ นดาบคมด้ านเดียวขนาดยาวเกิน 80 cm ขึ ้นไป โดยเฉลี่ยด้ ามดาบจะอยู่ที่ 30 cm ขึ ้นไป เป็ นดาบที่ซามูไร
นิยมใช้ ในสงคราม โดยจัดอยู่ในหน่วยกองหน้ าทะลวงฟั น ด้ วยลักษณะทางกายภาพของดาบที่ยาว และมีน ้าหนัก
มากจึงสามารถใช้ ในการฟั นเพื่อเปิ ดทางทัพหน้ าได้ ดี และบ่อยครัง้ ในการใช้ เพื่อจู่โจมใน การโอบตีกองทหารม้ า
เมื่อสามารถบีบพื ้นที่กองทหารม้ าของศัตรู เข้ าไว้ ในพื ้นที่แคบ ทาให้ ดาบโนดาชิ มีประสิทธิภาพในการใช้ ฟันซามูไร
ที่ใส่เกราะและม้ าศึกได้ อย่างดี.
2.太刀ทำชิ
ดำบทำชิมีรูปแบบหลักที่พบบ่ อยอยู่สำมแบบ เป็ นรู ปแบบกำรประดับเครื่ องทรงที่ญ่ ีปุ่นเรี ยก โคชิรำเอะ
มีรูปแบบดังนี ้
糸巻き太刀 อิโตะมากิ-ทาชิ เป็ นรูปแบบดาบทาชิที่พบบ่อยที่สดุ เป็ นเครื่ องทรงดาบที่นิยมในหมูซ่ ามูไรชั ้นสูง
โดยทัว่ ไป ที่สามารถใช้ ดาบลักษณะนี ้ได้ เป็ นรูปแบบดาบที่พนั ด้ ามและฝั กด้ วยเชือก ตามคาเรี ยกตรงตัวของญี่ปนุ่
ว่า อิโตะ-มากิ แปลว่าการพันเชือก เป็ นรูปแบบที่สามารถใช้ ได้ สะดวกและบารุงรักษาง่าย ซามูไรผู้เป็ นนายจึงใช้
เครื่ องทรงชนิดนี ้เวลาออกภาคสนามบัญชาการรบ และสามารถใช้ รบได้ อยากสมบุกสมบันโดยไม่ต้องพะวงเรื่ อง
การเสียงหายของดาบ
銀太刀 ,金太刀 จินดาชิ , คินทาชิ เป็ นรูปแบบดาบทรงเครื่ องประดับเงินหรื อทอง โดยทั ้งในส่วน Fitting
หรื อ การตีแผ่นเงิน,ทอง มาหุ้มด้ ามหรื อฝั กดาบ เป็ นดาบที่ซามูไรระดับปกครอง หรื อ เจ้ าเมืองไดเมียว โชกุนนิยมใช้
กัน โดยมากมันใช้ ประดับบารมี ฐานนันดรของตน และใช้ เป็ นเครื่ องออกงานในพีธีการ ส่วนถ้ ามีการรบ หรื อ ออก
งานบัญชาการรบ มันจะนาใบดาบใส่ โคชิราเอะ แบบ อิโตะมากิ แทน
エフ太刀เอฟุตาชิ หรื อ โฮโซตาชิ เป็ นตาชิที่ประดับFitting รูปหัวนกฟิ นิกซ์ ประดับด้ วยเงินทอง
อัญมณีอนั มีค่า โดยมากเป็ นเครื่ องทรงของ ขุนนางในราชสานัก เป็ นดาบใช้ แต่งคู่กบั การแต่งกายของชน
ชั ้นในราชสานัก ซึง่ จะแต่งแตกต่างจากซามูไร โดยสิ ้นเชิง มีกฎเกณฑ์ว่าเจ้ าเมือง โชกุนที่เข้ าเฝ้า
สมเด็จพระจักรพรรดิ ก็ต้องแต่งกายด้ วยเครื่ องแบบราชสานักเช่นกัน ในแง่มมุ ทางสังคมวิทยา ชนชั ้นขุนนาง
ราชสานักมีรากฐานมาจากตระกูลเก่าแก่ที่สบื เชื ้อสายมาตั ้งแต่ สมัยยุค จักรพรรดิยงั มีอานาจในการบริหาร
จวบจนโดนยึดอานาจโดยผู้บญ
ั ชาการทหารสูงสุดในขณะนั ้น ที่เรี ยกตาแหน่งนี ้ว่า โชกุน ที่มากจากตระกูล
ซามูไรบ้ านนอกตระกูลใหม่
3.小太刀โคดำชิ
เป็ นดาบทาชิขนาดย่อมใกล้ เคียงกับดาบคะตะนะคือมีความยาว ตั ้งแต่ 60 cm ขึ ้นไป แต่งเครื่ องประดับเช่นเดียว
ทาชิทวั่ ๆไป เป็ นดาบซามูไรชั ้นสูงที่มีขนาดร่างกายเล็กดังภาพ
4.刀 คะตะนะ
เป็ นดาบคมเดียวที่มีบทบาทโดดเด่นในช่วงยุคท้ าย มูโรมาชิ 室町 จนถึง เอโดะยุคปลาย 江戸 เนื่องจาก
ปลายยุคมูโรมาชิ ถ้ าสูย่ คุ โมโมยามะ 桃山เป็ นยุคที่เกิดสงครามกลางเมื่อใหญ่ที่เรี ยกว่า ยุคเซนโกคุจไิ ด 戦国
時代เป็ นยุคแห่งการรบพุ่ง โดยตระกูลใหญ่เช่น โฮโจ ,อิมากาว่า,อุเอะทซึกิ,โอดะ,ทาเคดะ,โมริ ,ชิมาสึ โดยแต่ละ่
ตระกูล เกิดจากการรวมตระกูลย่อยต่างๆทาให้ เกิด กองกาลังทหารจานวนมาก และระบบการรบเป็ นกรมกองได้
เกิดขึ ้น หลังจากบทเรี ยนที่มองโกลบุกขึ ้นญี่ปนุ่ ที่อ่าวฮากาตะ แต่ไม่สาเร็จเพราะโดนลมพายุที่ญี่ปนุ่ ถือว่าเป็ นลม
เทพเจ้ า กามิ-กาเซะ 神風 ทาให้ การรบความได้ เปรี ยบในการรบเกิดขึ ้นจาก พลซามูไรเดินเท้ าที่เรี ยกว่า อาชิการุ
足軽 ที่ดดั แปลงพัฒนาเอาดาบ ทาชิมาตัดให้ สั ้นลง เพื่อคล่องตัวในการรบบนพื ้นดิน และเกิดความคล่องตัวใน
การชักดาบเพื่อต่อสู้ จนยุคหลังๆช่างตีดาบจึงหันมาตีดาบที่มีความยาวสั ้นลงและความโค้ งสันดาบตรง ขึ ้น ก็คือ
ดาบคะตะนะนั ้นเอง
小刀โชโตะแบ่ งได้ ดังนี ้
1.脇差วำกิซำชิ
เป็ น ดาบขนาดกลางที่มีความยาวตั ้งแต่ 60 cm ลงมาเฉลี่ยถึง 50 cm เป็ นดาบเล่มที่สองที่ซามูไรจะพกไปในที
ต่างๆเสมอโดยพกคู่กบั คะตะนะ โดยวากิซาชิ มีความพิเศษคือสามารถนาเข้ าไปในเคหะสถานของซามูไรผู้อื่นได้
โดยดาบคะตะนะไม่สามารถนาเข้ าไปได้ ซามูไรต้ องฝากไว้ กบั คนติดตามของตนรอด้ านนอกเท่านั ้น เป็ นดาบที่
สามารถใช้ ต่อสู้สารองจาก คะตะนะได้ และเป็ นดาบที่ใช้ ในการ เซปปุกุ 切腹 หรื อที่นิยมพูดกันในยุคหลังคือ ฮา
ระคิริ腹切り นั ้นเอง โดยซามูไรจะพกดาบคู่สั ้นยาวที่เรี ยกว่า ไดโช นี ้เพื่อเป็ นสัญลักษณ์ในการบ่งบอกชนชั ้น
ตนเอง โดยมากซามูไรมักจะสัง่ ไดโชให้ โคชิระเอะ เข้ าชุดกันเสมอเหมือนดาบแม่ลกู เพื่อความสวยงามในการ
พกพา
2.短刀ตันโตะ
เป็ น ดาบขนาดย่อมที่สั ้นกว่า 30 cm ลงมาแต่ขนาดมาตราฐานที่พบได้ บอ่ ยคือ 26 cm เป็ นดาบที่มีบทบาทการ
ใช้ งานเน้ นเพื่อเป็ นมีดประจากายที่ใช้ ในการเซปปุกุ โดยในยุคแรกนิยมใช้ ในซามูไรที่เป็ นซามูไรระดับสูง ที่ไม่ได้ มี
หน้ าที่ในการรบพุ่งหรื อ ต้ องอยู่ในบทบาทที่ต้องเป็ นคนคุ้มกัน ทาให้ ไม่มีความจาเป็ นในการใช้ ดาบสั ้นเพื่อเป็ นดาบ
สารองในการรบ จึงทาให้ ลดขนาดของดาบลงมามีขนาดสั ้นลงเพื่อพกพาสะดวกและสวยงาม ต่อมาเมื่อบ้ านเมือง
สงบสุขจากภัยสงคราม ความจาเป็ นที่ต้องใช้ ดาบขนาดกลางในการสารองเพื่อการรบจึงหมดไป ซามูไรจานวนไม่
น้ อยจึงนิยมหันมาพก ตันโตะแทน วากิซาชิ.
3.匕首,合い口ไอคุชิ
เป็ นตันโตะชนิดหนึ่งที่ใส่ โคชิราเอะ เฉพาะซึง่ เป็ นรูปแบบที่ไม่มี ซึบะ(กระบังดาบ)และไม่มี คูริกาตะ (ห่วงร้ อยเชือก
ที่ฝัก) ที่มีขนาดใหญ่ และทารูปแบบฝั กให้ บางเรี ยว เพื่อสะดวกในการพกพาไว้ ในกิโมโนของตอน โดย ไอคุชิ นี ้จะ
เป็ นมีดสั ้นที่ หญิงในตระกูลซามูไรพกติดตัวเอาไว้ ในการเพื่อใช้ ในการป้องกันตอนเองจากภัย ต่างๆ และใช้ ปลิดชีพ
ตนเองในกรณีถกู หยามเกียรติตามแบบฉบับของหญิงในตระกูลซามูไรที่ เรี ยกว่า จิไก ซึง่ เป็ นการแทงคอตอนเอง
เพื่อตัดเส้ นเลือดใหญ่ที่คอ.
ควำมลับของดำบซำมูไรกับเลขยกกำลัง
ดาบนี ้มีต้นกาเนิดจาก เหล็ก ไฟ และ นำ้ บวกกับ ค้ อน ของช่างตีดาบด้ วย กระบวนการทาดาบทั ้งหมด
ใช้ เวลาถึง 3 เดือน
โดยช่างตีดาบจะหลอมโลหะเหล็กหลายชิ ้นเข้ าด้ วยกันเป็ นก้ อนสี่เหลี่ยม และทาการทุบด้ วยค้ อน และทา
การพับก้ อนเหล็กก้ อนนั ้น จนเป็ นเหมือนก้ อนสี่เหลี่ยมอีกครัง้ แล้ วทาให้ เย็นด้ วยน ้า จากนั ้นก็นาเข้ าเตาหลอมและตี
ซ ้าและพับอีกครัง้ ช่างตีดาบจะทาเช่นนี ้ซ ้าแล้ วซ ้าเล่า ความลับของดาบอยู่ที่ตรงนี ้ครับ ทุกครัง้ ที่เหล็กถูกพับและตี
จะสร้ างชั ้นของโลหะขึ ้นมา เหมือนที่เราพับกระดาษนัน่ แหละครับ ช่างตีดาบจะพับทั ้งหมด 22 ครัง้ ซึง่ ทาให้ เกิดชั ้น
โลหะทั ้งหมด 222 = 4,194,304 ชั ้น! ชั ้นโลหะเหล่านี ้แหละครับคือความลับ ของความแข็งแกร่งและความยืดหยุน่
ในคราวเดียวกันนัน่ เอง
อ้ างอิงจาก
1.http://lightingsun.exteen.com/20090809/entry
2.http://www.thaiblogonline.com/kabuto.blog?PostID=26309
3.http://www.gungallery.in.th/2012/index.php?topic=172.0
ขอบคุณทีร่ ับชม
Thank you for watching.