Presentation – Chapter 9

Download Report

Transcript Presentation – Chapter 9

Unit 9
Social networks
(สั งคมชีวติ นักแปล)
160
• การสมมุติ(การอนุมาน)
161
• การสมมุติที่จะเป็ นนักแปล
161
• การสมมุติที่จะเป็ นผูอ้ ่านต้นฉบับและกลุ่มเป้ าหมายของผูเ้ ขียน
164
• การสมมุติที่จะเป็ นสังคมของการใช้ภาษา
165
• การเรี ยนรู้ที่จะเป็ นนักแปล(บทนา)
168
• การสอนและหลักการของการแปลซึ่ งเป็ นกิจกรรมของสังคม(การอนุมาน) 170
• การอภิปราย
176
• แบบฝึ กหัด
177
• การแนะนาการอ่านในอนาคต
183
การแปลนาไปสูก่ ารค้ นพบภาษาเป้าหมาย แหล่งกาเนิดคาศัพท์และวลี มันยังนาไปสูก่ ารติดต่อกับลูกค้ า
หน่วยงาน ลูกจ้ าง การทาเครื อข่าย การวิจยั การใช้ เทคโนโลยี และการรับรู้บทบาททัว่ ๆไปในสังคม
สังคมความเป็ นอยู่ของนักแปล
มันควรจะปราศจากการพูดถึง ไม่ใช่แค่สงั คมของนักแปลเท่านั ้น ยังรวมถึงศีลธรรมของการดาเนินชีวิตของ
มนุษย์ด้วย สังคมการดาเนินชีวิตของพวกเขาคือสิง่ สาคัญเพื่อความเชี่ยวชาญ นอกจากเครื อข่ายทางสังคมพวก
เขายังไม่เคยเรี ยนภาษาใดๆเลย นอกจากเครื อข่ายทางสังคมแล้ วพวกเขาไม่เคยป้องกันการเปลี่ยนแปลงใน
ภาษาที่เขาพูด ไม่มีความคิดเห็นว่าอะไรที่ผ้ เู ชี่ยวชาญมองหาจากการแปล ไม่มีสถานที่จะส่งการแปลที่เสร็จแล้ ว
และไม่สามารถจ่ายเงินมันได้
ทั ้งหมดนี ้คือความชัดเจนที่ดเู หมือนจะต้ องการความไม่ละเอียด ทุกคนรู้ว่านักแปลคือความเป็ นอยูท่ างสังคม
และขึ ้นอยู่กบั การดารงชีวิตบนการติดต่อกับสังคมมนุษย์อื่นๆ
อะไรคือความแปลกประหลาด อย่างไรก็ตาม มันคือความสาคัญของบทนี ้ สาหรับทฤษฎีและการปฏิบตั ิของการ
แปลถูกจาแนกเมื่อเร็วๆนี ้โดยนักวิชาการด้ านการแปล จนกระทัง่ ยุค 1970 ทฤษฎี Polysystem เกิดขึ ้น
ยุค 1980 ทฤษฎี Skopos/Handlung และยุคหลัง 1980 ก่อน 1990 เกิดทฤษฎี
Postcolonial โดยแท้ จริงแล้ วไม่มีสงิ่ ไหนจาเป็ นที่สดุ ในกิจกรรมทางสังคม การแปลคือกิจกรรมทาง
ภาษาศาสตร์ ที่ดาเนินการตามต้ นฉบับ
ปั จจัยที่สาคัญในการควบคุมการแปลคือ โครงสร้ างนามธรรมของความเสมอภาค คาจากัดความและความแตกต่างของ
สัญลักษณ์ ไม่ใช่เครื อข่ายทางสังคมของประชาชน นักเขียน อธิบดีด้านการแปล ผู้เชี่ยวชาญด้ านคาศัพท์ ผู้อ่าน และ
คนทางาน การตีพิมพ์จริงเท่านั ้นคือความถูกต้ อง และความถูกต้ องคือการการให้ คาจากัดความทั ้งแบบแคบ ระยะเวลา
ทางความเสมอภาคของภาษาศาสตร์ และมีอยู่โดยทัว่ ๆ ไป ด้ วยความที่ไม่ให้ ความสนใจในความแตกต่าง ความต้ องการ
และความคาดหมายของความจริง มันยากที่จะสร้ างภาษาศาสตร์ อย่างเป็ นระเบียบระหว่างแหล่งต้ นฉบับ และความสั ้น
หรื อยาวกว่าต้ นฉบับ ถูกใส่ไว้ ในแหล่งกาเนิดข้ อความ ไม่ใช่การแปล ถ้ ามันไม่เป็ นการอธิบายของโครงสร้ างนามธรรม
ของภาษาศาสตร์ มันไม่ใช่การแปล และโดยทัว่ ๆ ไปไม่ใช่การอธิบายเลยแม้ แต่น้อย การแปลแต่ละอันคือความถูกต้ อง
ในความรู้สกึ ของความถูกต้ องได้ ถ่ายทอดเป็ นข้ อมูลของบทความต้ นฉบับ และความถูกต้ องของนามธรรม การวิเคราะห์
ตามหลักภาษาศาสตร์ นอกจากความสนใจว่าใครแปลและเพื่อจุดประสงค์อะไร ในสถานการณ์อะไรทางประวัติศาสตร์
หรื อมันไม่ใช่การแปล และไม่ได้ สนใจที่นกั แปล หรื อนักวิชาการการแปล
ทัศนคติเหล่านี ้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในยุค 1970 หนังสือเล่มนี ้เป็ นภาพสะท้ อนของการเปลี่ยนแปลง
เหล่านั ้น อย่างไรก็ตาม ธรรมเนียมเก่าๆก็ยงั ไม่จางหายไป ประเพณีทางปั ญญาที่คิด ภาษานามธรรมการแปลเป็ นไป
ตามที่เก่ามาก มันวิ่งกลับไปที่จดุ เริ่มต้ นของอารยธรรมตะวันตกในการกาหนดของศาสนายุคกลาง และเหตุผลที่แท้ จริง
ของกรี ก ชอบที่จะละเลยการสร้ างสังคม การบารุงรักษา และการกระจายความรู้เป็ นประเพณีตะวันตกโบราณ และมรดก
ยังคงเป็ นส่วนหนึ่งในความคิดของเราวันนี ้ อย่างไรก็ตาม ปรัชญาโจมตีตลอดศตวรรษที่ 20 ดังนั ้นก็ยงั ดูเหมือนว่า “สัน
ชาติญาณถูกต้ อง” วันนี ้เป็ นที่กนั ดีว่าการเติบโตทางสังคมที่มีผลกระทบต่อการแปล เพื่อตัดสินความสาเร็จของการแปล
เมื่อเทียบกับภาษาแท้ จริง แต่ในระดับทางปั ญญาของเราไม่สามารถช่วยตัวเองได้ เป็ นผลมาจากความขัดแย้ งภายใน
เหล่านี ้ คุณอาจพบเนื ้อหาเหล่านี ้ในหนังสือพร้ อมกัน 1.สมบูรณ์ชดั เจน ดั ้งนั ้นจึงไม่ต้องพูดถึง 2.และไม่เกี่ยวข้ องกับ
การศึกษาการแปล จึงดูเหมือนว่ามันเกือบจะไร้ สาระมันจะไปโดยไม่บอก การแปลที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับภาษาที่แท้ จริง แต่
ในเวลาเดียวกันปั จจัยดูเหมือนจะเป็ นอันดับรอง มีความสาคัญกว่าความหมายจริงของบทความ
แสร้ งทาเป็ นนักแปล
นักแปลคืออะไร นักแปลคือใคร มีหลายคนที่ได้ รับเรี ยกว่านักแปล ในปี ที่ไม่มีการเข้ ารับวิชาชีพเฉพาะ และอาจแปลได้
หลายภาษาก่อนเริ่มเป็ นนักแปล มีความแตกต่างระหว่าง แปล และ การแปล จะกลายเป็ นนักแปลได้ อย่างไร นีเ้ ป็ น
คาถามที่ถกู ถามบ่อยในกลุม่ นักแปลออนไลน์ เช่น Lantra และ FLEFO ฉันจะเป็ นนักแปลได้ อย่างไร ปกติคนถาม
ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศจะมีทกั ษะภาษาต่างประเทศอยูแ่ ล้ ว และอาจจะมีโอกาสแปลงานที่มีศกั ยภาพ บางครัง้ ผู้
ถามก็ทาได้
สวัสดี
ฉันชื่อ โวล์เกอร์ อายุ 30ปี สัญชาติเยอรมัน อาศัยอยู่ในเนเธอแลนด์และเริ่มเป็ นนักแปลอิสระ
ฉันไม่เคยเป็ นนักแปลอิสระมาก่อน ฉันมีคาถามเกี่ยวกับทางการทางานนี ้ คุณรู้ไหมการจัดการในเนเธอแลนด์หรื อใน
เยอรมัน อันไหนที่ฉนั ควรจะกลับไป
คาถามอื่นๆ ฉันไม่มีความคิด นักแปลอิสระต้ องจ่ายภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าหนี ้ มีกฎหรื อมาตรฐานไหม
ขอบคุณสาหรับเวลาของคุณ
โวล์เกอร์
การแปลหนึ่งหรื อสองบททาให้ สนุกต่อการทางาน และขณะนี ้คิดว่าเธออาจต้ องการทามันต่อไป แต่ชดั เจนทั ้ง
เพื่อคนถามและเพื่อสมาชิกคนอื่นๆ ซึง่ บุคคลนี ้ยังไม่ได้ เป็ นนักแปล คาตอบที่ง่ายที่สดุ คือ ประสบการณ์ นักแปล
ที่มีประสบการณ์ ผู้ยงั ไม่ได้ เริ่มฝึ กหัด เป็ นผลให้ นกั แปลพูดถึงนักแปลผู้ยงั ไม่ได้ เริ่ มฝึ กหัด นักแปลมืออาชีพมี
สมมติฐานบางอย่างเกี่ยวกับการทางานทุกๆอย่าง ที่เธอพูดเพราะผู้เริ่มหัดยังไม่มีสมมติฐาน เธอมักจะกล่าวว่า
สิง่ ที่ว่าโง่ไปแปล เช่น ฉันไม่สามารถซื ้อคอมพิวเตอร์ ของฉันเองได้ แต่ฉนั เพื่อนที่จะให้ ฉนั ทางานในเวลาใดก็
ตามที่ฉนั ต้ องการ(ในกลางดึกใช่ไหม เมื่อเธอเลิกจากงานเลี ้ยงใช่ไหม เธอมีซอฟแวร์ รุ่นใหม่ล่าสุดใช่ไหม หุ่นจา
รองที่ทนั สมัย และบัญชีอีเมลล์ใช่ไหม)
และคาตอบจะเป็ นจริงเกือบทั ้งหมด นักแปลเสียงเหมือนนักแปล เพราะเขามีประสบการณ์ในการทางาน
ปั ญหาของคาตอบคือ ไม่อนุญาตให้ นกั แปลฝึ กหัดได้ รับประสบการณ์ การแปลคุณต้ องมีความชางทาอย่างไร
เมื่อไม่มีประสบการณ์
ทางแก้ ปัญหาคือ เข้ าสูโ่ ปรแกรมอบอบรมนักแปล หนึ่งในข้ อเสนอที่ดีที่สดุ นานเพียงพอในการใช้ โทรศัพท์
หน่วยงานหรื อลูกค้ าที่มอบหมายงานให้ คณ
ุ ให้ นกั เรี ยนมีความรู้สกึ ว่าเป็ นมืออาชีพ ( แต่นี ้ไม่เคยสอนในชั ้น
เรี ยนเลย และทาโดยค่อยๆซึมซับ) โดยให้ ความสนใจกับวิธีการพูดของครูเกี่ยวกับอาชีพที่พวกเขาแสดงออก
บางโปรแกรมฝึ กให้ เปลี่ยนเป็ นมืออาชีพ อย่างไรก็ตามลักษณะเฉพาะของนักแปลฝึ กหัดต้ องเปลี่ยนแปลง
ความคิดของตัวเอง คาพูดของตัวเอง ชีวิตของตัวเอง
การเริ่มต้ นพรี เซ็นของตัวเขาและเธอเองให้ เป็ นอย่างมืออาชีพ
“คุณสามารถส่งอีเมล์มาโดยแนบไฟล์ที่สมบูรณ์มาให้ พวกเราในวันศุกร์ ได้ ใช่ไหม”
“ใช่ ไม่มีปัญหา แต่ว่าอาจจะเป็ นในวันพฤหัสบดีเลย”
คุณไม่เคยส่งอีเมล์โดยการแนบไฟล์มาก่อน คุณไม่ร้ ูว่าต้ องทาอย่างไร แต่คณ
ุ มีเวลาจนถึงวันศุกร์ ที่จะ
ตรวจสอบ วันนี ้เป็ นวันอังคาร คุณไม่ได้ พดู ว่า อะไรคือการแนบไฟล์ คุณสัญญาว่าจะส่งอีเมล์ให้ พวกเขาและ
ต้ องเร่งรี บที่จะหาใครบางคนมาสอนวิธีการทาให้ กบั คุณ
“เท่าไหร่เหรอ”
“มันขึ ้นอยู่กบั ความแตกต่างของต้ นฉบับ คุณโทรสารมันมาให้ ฉนั ก่อน และฉันจะดูมนั แล้ วฉันจะโทรกลับหา
คุณ”
มันคืองานแรกของคุณ และคุณตระหนักว่าคุณไม่มีความคิดเกี่ยวกับราคาของงานนี ้ คุณมีเวลาครึ่งชัว่ โมงหรื อ
ก่อนที่บริษัทตัวแทนหรื อลูกค้ าจะไม่อดทนรอโทรศัพท์ของคุณ คุณรอโทรสารมาถึง และโทรศัพท์ กลับไปหาเพื่อ
ถามถึงราคา เมื่อโทรกลับไปแล้ ว คุณควรที่จะพูดให้ เหมือนผู้ที่มีความชานาญ
แน่นอนว่าผลที่คาดว่าจะเกิดขึ ้นในอนาคตนั ้นก็คือปรารถนาให้ คณ
ุ รู้เกี่ยวกับพื ้นฐานของการส่งโทรสารต้ นฉบับ
ให้ กบั ล่ามและเพื่อให้ ลา่ มนั ้นได้ มีโอกาสดูงานก่อนที่จะตัดสินใจก่อนที่จะรับทางานนี ้ ถ้ าหากคุณไม่ร้ ูว่าจะทา
อย่างไร และ คุณไม่มีทางที่จะถ่วงเวลาแล้ วจึงพูดไปว่า “อืม ฉันไม่ร้ ู แล้ วคุณเคยจ่ายเท่าไหร่” นี ้คือความ
เสียหายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึง่ ส่วนของงานนี ้จะนาไปสูค่ วามช่วยเหลือจากล่ามใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ าคุณ
สามารถแปลสัมพันธ์กบั ต่างประเทศ การรวมภาษาในที่นี ้คือความยากเพื่อค้ นหาความยอดเยี่ยมอย่างมือ
อาชีพ ซึง่ คุณเป็ นตัวแทนที่ยงั อ่อนหัดอยู่ และโดยมากตัวแทนที่ถกู ต้ องตามหลักจริยธรรมนั ้นไม่เพียงพอ และ
ด้ วยเหตุนี ้จึงหยิบข้ อได้ เปรี ยบของความโง่เขลาของคุณมาอ้ างได้ อย่างไร้ สาระ แต่ถ้าการรวมภาษาของคุณนั ้น
ไม่ธรรมดามากเกินไป และเขาก็จะเรี ยกคุณ เนื่องจากพวกเขาทางานอิสระ นี ้คือโอกาสของคุณที่จะแสดง
ศักยภาพของผู้ที่เพิ่งเริ่มต้ นทาสิง่ นี ้
ดังนั ้นถ้ าคุณคุณแสร้ งทาเป็ นล่ามผู้มปี ระสบการณ์ คุณกลายเป็ นล่ามโดยการแสร้ งทา ดังเช่นคุณเห็น พอล คัส
มอล ในหน่วยที่ 7 “พฤติกรรมความชานาญคือบทบาทหน้ าที่ที่ได้ รับมา” มันควรจะรู้ให้ ชดั เจนมากกว่า คุณจะ
ทาอย่างไรในการทางานให้ ได้ อย่างเชี่ยวชาญ ซึง่ มันจะง่ายกว่าที่จะแสร้ งทาเป็ นว่าเราเชี่ยวชาญ ด้ วยเหตุนี ้การ
เรี ยน การค้ นหาในห้ องเรี ยนหรื อการอ่านหนังสือและบทความจึงมีความสาคัญ
สวัสดี, แลนทรานทุกคน
ฉันได้ รับข้ อตกลงเกี่ยวกับการเป็ นล่ามอิสระ และฉันต้ องการได้ ยินจากผู้คนที่มีประสบการณ์ เยอะ คุณทาอย่างไร
เกี่ยวกับการจ่ายภาษี เมื่อทางานให้ กบั ลูกค้ าในต่างประเทศ คุณจ่ายภาษีให้ กบั ต่างประเทศ ประเทศตนเอง หรื อ
ทั ้งสอง
มันไม่ได้ แตกต่างเลย ในเมื่อคุณทางานเต็มเวลาตามข้ อตกลง และทางานแปลทุกเย็นใช่ไหม
ขอบคุณอย่างสูงสาหรับความช่วยเหลือของคุณ
แอนนา เคสต้ า
หรื อโดยการถามการทางานของผู้ที่เชี่ยวชาญว่าเขาทาอย่างไร และทุกครัง้ ที่คณ
ุ หลอกลวงสาเร็ จ นั ้นจะทาให้ คณ
ุ
เพิ่มความรู้ นั ้นจะทาให้ การเสแสร้ างง่ายขึ ้นในครัง้ ต่อไป
บันทึก อย่างไรก็ตาม ความจาเป็ นของการเสแสร้ งคือล่ามที่มีประสบการณ์มากมักจะทาการตัดสินใจอย่าง
รวดเร็ว พฤติกรรมของผู้ชานาญมีความสามารถทุกสถานการณ์
ความแตกต่างหลักระหว่างประสบการณ์ของล่ามและผู้เริ่มเป็ นล่ามนั ้น ประสบการณ์ของล่ามมีมากกว่า เมื่อ
ได้ รับอนุญาตให้ เข้ าไปด้ วยความไม่ร้ ู เมื่อพูดว่า “ฉันไม่ร้ ู ขอฉันตรวจสอบก่อน” หรื อ “ฉันไม่ร้ ู แล้ วคุณคิด” มัน
ไม่ใช่เพียงไม่เหมาะสม แต่ยงั เสียหน้ าด้ วย ซึง่ เป็ นเครื่ องหมายแห่งความไม่เป็ นผู้เชี่ยวชาญ
การเสแสร้ งคือบ่อเกิดของผู้อ่านและผู้เขียน
ลักษณะความสาคัญอื่นของการเสแสร้ งในการทางานของล่าม คือ กระบวนการของการแปล และการก้ าวไปสู่
การเกิดผู้อ่าน เข้ าใจได้ ว่าการเกิดต้ นฉบับนั ้น ผู้อ่านต้ องมีความตั ้งใจ และหลังจากนั ้นคือจุดหมายของผู้เขียน
ไปสู่ จานวนผู้อ่านซึง่ ในทางที่ดีนั ้นควรตกลงกับมาตรฐานความคาดหวังของผู้รับหน้ าที่แปล
คุณรู้ได้ อย่างไรว่าบ่อเกิดของต้ นฉบับหมายถึงอย่างไร หรื อการทางานสามารถคาดคะเนได้ อย่างไร คุณอาศัย
ทักษะทางภาษาของคุณ ในการตรวจสอบพจนานุกรม และอ้ างอิงหนังสือ คุณถามผู้เชี่ยวชาญ คุณติดต่อ
ตัวแทน และ หรื อลูกค้ า ถ้ าคุณอย่างให้ ประโยชน์ คุณถามเขาได้ ว่าคาศัพท์นี ้หมายถึงอะไร แต่ผลการค้ นคว้ า
มักจะเป็ นข้ อสรุปที่ไม่ชดั เจน หรื อไม่เป็ นที่น่าพอใจ และบางจุดคุณอาจตัดสินใจดาเนินการ ถ้ าคุณมีข้อมูล
ทั ้งหมด คุณจาเป็ นต้ องทาให้ งานของคุณดูเป็ นมืออาชีพ ในคาศัพท์อื่นๆที่คณ
ุ แสร้ งทาให้ มีผลต่อผู อ่าน แต่มนั
เป็ นเพียงการแสร้ งทา ไม่ใช่การหลองลวงแน่นอน แต่ถ้าหากคุณมีปัญหาเกิดขึ ้นที่เกี่ยวกับความเข้ าใจของคุณ
ในส่วนของต้ นฉบับนี ้ คุณก็ควรที่จะเรี ยนรู้การเดาคาศัพท์ การอ้ างอิงคาศัพท์ หรื อวลีที่ไม่มีใครที่จะสามารถช่วย
คุณได้
และการนาเสนอการแปลของคุณให้ ประสบความสาเร็จเป็ นไปอย่างเรี ยบร้ อย
คุณจะรู้ได้ อย่างไรว่าใครคือกลุม่ เป้าหมายต่อไปที่จะเกิดขึ ้น และพวกเขาคาดหวังอะไรบ้ างที่จะทาให้ พวกเขา
พอใจ ในบางกรณี ล่ามอาจจะรู้ได้ ว่าใครคือกลุม่ เป้าหมายที่จะเกิดขึ ้น โดยปกติก็ไม่ได้ หมายถึงกฎเกณฑ์
สถานการณ์ที่ซงึ่ ผู้แปลชี ้เฉพาะสาหรับห้ องเรี ยน กลุม่ ประเทศ ของผู้อ่านที่แน่นอน เช่น EU official ,
German end-user หรื อ การประชุมปรึกษาหารื อระดับประเทศ การประชุม, ห้ อง ,การสื่อสาร,
การแพทย์ และอื่นๆซึง่ เป็ นแบบฉบับของล่ามที่ผ้ ชู มเห็น และ อาจจะมีผลต่อผู้แปลและผู้รับ ข้ อสมมุติฐาน และ
มีความคาดหวัง
ว่าการเป็ นล่ามจะเพิ่มขึ ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่มีผ้ เู ขียนที่จะให้ ข้อมูลที่เหมาะสมเกี่ยวกับผู้อา่ นทั ้งเขาและเธอ ,
ไม่มีคนพูดเกี่ยวกับผู้ฟังทั ้งหญิงและชาย ซึง่ นัน่ ก็ถกู ต้ องทั ้งกับผู้แปล และล่าม ซึง่ เขาจะเขียนและพูดโดย
ปราศจาก
ที่มาของข้ อความในแต่ละภาษา บางจุดที่ผ้ แู ปล หรื อ ล่าม จะตั ้งข้ อสมมุติฐานที่แน่นอนเกี่ยวกับที่อยู่ของคนที่
แน่นอนเป็ นการอ้ างอิงที่เหมาะสม หรื อใช้ สมุดทะเบียน หรื อก็จะให้ คา หรื อ วลี อีกทางหนึ่ง ผู้แปล หรื อ ล่าม
จะแสร้ งทาเป็ นรู้มากกว่าที่คนอื่นรู้ มันง่ายที่จะทาให้ งานของเขาดาเนินต่อไปอย่างเป็ นผู้เชี่ยวชาญ
การเสแสร้ งของคนที่ใช้ ภาษาในชุมชน
Anthony Pym (1992a:121-5)ให้ เหตุผลที่มีความเชื่อถือได้ ในทางตรงกันข้ ามข้ อสันนิฐานก็ได้
แพร่กระจายออกไป “ข้ อความพิเศษ” ซึง่ ข้ อความนี ้เป็ นแบบฉบับมากกว่าข้ อความทัว่ ไป และซึง่ นักเรี ยนได้ ใช้
โปรแกรมในการแปล
ดังนั ้น อันดับแรกคือฝึ กฝนข้ อความทัว่ ไปก่อน แล้ วต่อมาค่อยมาฝึ กฝนข้ อความที่มีลกั ษณะพิเศษในภายหลัง
Pym ได้ จดั ตั ้งเหตุผลของเขา ว่าควรคิดใคร่ครวญให้ รอบครอบว่าอะไรที่เรี ยกว่าวัฒนธรรมในสังคม”ฝั ง
แน่น”หรื อ “ไม่เกี่ยวข้ องกับสังคมนั ้นเลย”ความหมายของข้ อความคือสายใยของคนในสังคมซึ่ง คา วลี
รูปแบบ สมุดทะเบียนที่แตกต่างกัน และ การใช้ ที่เป็ นแบบฉบับ ซึง่ มันแสดงได้ มากกว่าคาว่า “ฝั งแน่น”
ข้ อความที่ใช้ กนั ในสังคมนั ้นเป็ นแหล่งกาเนิดวัฒนธรรม ซึง่ จะแปลได้ ยากกว่า เพราะว่า 1 มันจะยากกว่า
สาหรับผู้แปลที่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับผู้คนว่าแตกต่างกันอย่างไรนัน่ คือความเข้ าใจในสายใยของ คา วลี
รูปแบบ และ อื่นๆ 2. โชคชะตาที่ดีกว่าซึง่ ไม่คล้ ายคลึงกับสายใยของการดารงชีวิตในสังคมในสังคม
เป้าหมาย และ 3. มันจะยากกว่าสาหรับผู้แปลที่จะตัดสินใจว่าภาษาของกลุม่ ผู้อ่านเป้าหมายเป็ นอย่างไรจะ
ตอบรับกับผลลัพธ์ที่เขาแต่งขึ ้นไหม
ทีมงานและคุณภาพชีวติ ในการทางาน
ในที่สุดผูจ้ ดั การหลายคนประกอบด้วยผูจ้ ดั การฝ่ ายทรัพยากรมนุษย์ การ
ประเมินคุณภาพชีวิตในการทางานของพนักงานเพราะว่าพวกเขาเชื่อว่าโดยการ
ปรับปรุ งสภาพการทางานของพนักงานก็จะปรับปรุ งประสิ ทธิผลของทีม ความ
บกพร่ องของความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตในการทางานและทีม
ดาเนินการแนะนาว่าคุณภาพชีวติ ในการทางานไม่ได้หมายถึงการสิ้ นสุ ด (นัน่
คือการดาเนินการ) เป็ นที่เข้าใจว่าวรรณกรรมเกี่ยวกับการจัดการพนักงาน
บริ การ แทนที่ คุณภาพชีวิตในการทางานของพนักงาน นั้นสิ้ นสุ ดลงในตัวของ
มันเอง
ดังนั ้นผู้จดั การไม่สามารถบอกได้ ว่าการลงทุนในคุณภาพชีวิตในการทางานของพนักงานเพื่อไล่ออกจากผลการกระทา
คนเดียว พวกเขาคิดว่ามันเป็ นสิง่ ที่ถกู ต้ องในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ขององค์กร การปลูกฝั งคุณธรรมเป็ นสิง่ ที่ท้า
ทายของบริษัท คุณธรรมที่ท้าทายแตกต่างกับแนวโน้ มในองค์กรโรงแรม เพื่อให้ ประโยชน์แก่ความต้ องการของเจ้ าของ
และความสาคัญของลูกค้ า ประสิทธิภาพของบริษัทในขณะที่ไม่เน้ นมิตขิ องพนักงาน ในหน้ าประวัติศาสตร์ ของบริษัท
ควบรวมและการตัดค่าใช้ จ่ายยกเว้ นองค์กรที่ติดต่อโดยตรงและทันที เราถามหลายบริษัทว่าจะทาให้ เขาต้ องลงทุน
เพิ่มคุณภาพชีวิตในการทางานของพนักงานของตน
อีกด้ านหนึ่ง
คาถามที่หลายคนยังคง พวกเขาเป็ นทีมงานที่เรี ยบง่ายหรื อมีความ
อดทนอยู่ พวกเขาสามารถทาให้ประสบความสาเร็ จในทุกส่ วนของ
โรงแรมหรื อไม่ หลังจากนั้น ความสนใจในการอ่านนี้ส่วนใหญ่ในทีม
อุตสาหกรรมที่พกั ว่าพวกเขาถูกใช้ในการบริ การอาหาร อุตสาหกรรม
การบิน ปัจจัยที่ทาให้ทีมประสบความสาเร็ จในสภาพแวดล้อมเหล่านี้
แตกต่างจากที่ทางานในที่พกั หรื อไม่ ทีมงานที่ทาในภาคเศรษฐกิจของ
อุตสาหกรรมที่พกั หรื อไม่ คาถามที่ตอ้ งการให้เรามองการไกลในการ
.....
อย่างไรก็ตาม ทวนเพื่อวิจยั ก่อนหน้ านี ้ในเวลานั ้น ความแตกต่างที่สาคัญไม่พบในดัชนีของความพึงพอใจใน
งานระหว่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีคนให้ คาปรึกษาและผู้ที่ไม่มีคนให้ คาปรึกษา การศึกษาติดตามได้
ดาเนินการในปี ถัดไปกับผู้จดั การทัว่ ไปการสารวจรูปแบบและพลวัตของความสัมพันธ์ให้ คาปรึกษา หน้ าที่ให้
คาปรึกษารายงานผู้จดั การทัว่ ไปในการศึกษานี ้อย่างใกล้ ชิดเหมือนผลจากวรรณคดีธรุ กิจทั่วไป ผู้ให้ คาปรึกษา
ผู้จดั การทัว่ ไปโดยมีความมัน่ ใจในการให้ คาปรึกษา อาชีพ คาแนะนาทางการเมือง และความเชี่ยวชาญด้ าน
เทคนิค Rutherford และ Wiegenstein (1985) ตัวชี ้วัดความเคลื่อนไหวของอาชีพ ความสาเร็ จ
และความพึงพอใจ ถึงแม้ ว่าความแตกต่างจะไม่มีความหมายด้ านสถิติ รูปแบบทัว่ ไปในคาชี ้แนะผู้จดั การได้
รายงานความสาเร็จ และความพึงพอใจกับงานและอาชีพที่ไม่ใช่ผ้ จู ดั การที่ไม่ถกู ชี ้แนะของตนเองมากขึ ้น
การศึกษาสรุปได้ ว่าผลกระทบทางบวกแนะแนวอาชีพของโรงแรมผู้จดั การทัว่ ไป
ในการศึกษาเหล่านี ้ก่อนหน้ านี ้ ส่วนใหญ่จะเป็ นผู้ชายอย่างท่วมท้ น การศึกษาล่าสุด อย่างไรก็ตาม ได้
ยืนยันความสาคัญการให้ คาปรึกษา สาหรับเพศหญิงในอุตสาหกรรมการโรงแรม จากการสัมภาษณ์
ผู้บริหารสมาคมสตรี 21 คน เปิ ดเผยว่าผู้ให้ คาปรึกษา มีอิทธิพลสาคัญในขั ้นต้ นของอาชีพ ผู้บริหารหญิง
พบว่าพี่เลี ้ยงช่วยพวกเขาบรรลุตาแหน่งสมาคมเป็ นอันดับแรกและยังช่วยในการเจรจาต่อรองเงินเดือน คน
ให้ คาปรึกษายังให้ คาแนะนาเกี่ยวกับ ทิศทางอาชีพ ทิศทางการฝึ กงาน และการเข้ าถึงเครื อข่ายและข้ อมูล
(Coffey และแอนเดอร์ สนั 1998) ตามที่ระบุไว้ ก่อนหน้ านี ้ถึงแม้ ว่าผู้ให้ คาปรึกษาสาหรับผู้หญิงอาจไม่
สามารถเข้ าถึงได้ ภายในองค์กร
ดังนั ้น ภายนอกความสัมพันธ์ของเช่นเครื อข่ายของผู้บริหารสตรี ในงานการโรงแรม) ส่วนใหญ่ของงานวิจยั
บนการให้ คาปรึกษาในโรงแรม องค์กรได้ เน้ นผู้จดั การหรื อผู้บริหารระดับของพนักงาน หนึ่งการศึกษาล่าสุด
หนึ่งได้ สารวจบทบาทของการให้ คาปรึกษาในโรงแรม ชีวิตของพนักงานต้ อนรับ และประเมินประเมิน
ขอบเขตที่สนับสนุนการให้ คาปรึกษาในการทางานมากประสบการณ์ ประมาณ 457 คน
(nonsupervisory)
เครือข่ ายผู้บริหารสตรีในงานการโรงแรม
เครื อข่ายของผู้บริหารสตรี ในโรงแรม (NEWH) เป็ นองค์กรที่ไม่แสวงหากาไรมุง่ ส่งเสริมมาตรฐานความสาเร็จของ
ผู้หญิงในงานการโรงแรมและสาขาที่เกี่ยวข้ อง ได้ ก่อตั ้งในปี 1984 ใน Los Angeles โดยกลุม่ ผู้หญิงที่ใช้ พนั ธบัตร
ร่วมกันในการทางานของพวกเขา พวกเขาหวังว่าผู้หญิงที่มีการประกอบอาชีพในสาขาการโรงแรมในนั ้น จะสามารถ
นาประสบการณ์มาบอกต่อให้ กบั ผู้หญิงที่เพิ่งเข้ ามาในสายงานของการโรงแรม นอกจากเครื อข่ายที่เสนอโอกาส
สาหรับสมาชิก NEWH มีเป้าหมายดังต่อไปนี ้
1 เพิ่มการรับรู้ของอุตสาหกรรมการการโรงแรมเป็ นตัวเลือกอาชีพ
2 ส่งเสริมให้ นกั เรี ยนประกอบอาชีพการโรงแรม
3 ให้ การสนับสนุนทางการเงินและความรู้ให้ หญิงสาวเข้ ามาสูอ่ ตุ สาหกรรมการโรงแรม
NEWH มี 14 สานักงานทัว่ ประเทศ ข้ อมูลทั ้งสามในการสร้ างเป็ นสมาชิกประเทศที่กาลังเติบโต NEWH ได้ รับ
รางวัลมากกว่า $ 750,000 ในทุนการศึกษาแก่หญิงสาวที่ติดตามอาชีพในอุตสาหกรรมการบริการ สาหรับข้ อมูล
เพิ่มเติมเกี่ยว NEWH, เข้ าสูเ่ ว็บไซต์ได้ ที่ http://www.newh.org
แต่โปรดทราบว่าทั ้งสองแนวคิดนี ้ เป็ นสาเหตุของการสร้ างทฤษฎีการแปล เป็ นสังคมอย่างชัดเจน พวกเขาได้ รับมา
อย่างสมเหตุสมผล สาหรับทฤษฎีการแปลจาก “ความไม่บริสทุ ธิ์ ” หรื อ “ค่าวิทยาศาสตร์ ฟรี ” แต่จากความ
จาเป็ นในการอยู่อาศัยและทางานในโลกสังคมและการเดินทางไปพร้ อมกับคนอื่นๆ (ในกรณีนี ้ผู้ที่จ่ายเราจะทา
อย่างไรกับงาน) และขณะที่ทฤษฎีการแปลใหม่ ด้ วยเหตุผลทางสังคมเหล่านั ้นเป็ นตั ้งแต่ปี 1970-เริ่มต้ นการ
ทางาน / การดาเนินการเชิงการแปล ใน สโกโพส/แฮนด์ลงุ โรงเรี ยนในเยอรมันนี (แคทรี น่า เรี ยบ, ฮันส์ เจ. เวอร์
เมียร์ , จัสต้ าร์ ฮอลส์-แมทตารี , คริสเตียน นอร์ ด, อื่นๆ) และสัญลักษณ์ระบบ/การศึกษา การจัดการเรี ยนการแปล
/ ในประเทศเบเนลักซ์และอิสราเอล (อิตามาร์ อีเว่น-โซฮา, กิดดิออน ทูรี, เอดเดร เลเฟบเว่อร์ , เจมส์ เอส. โฮมล์,
ทีโอ เฮอร์ แมนส์, อื่นๆ) – ทฤษฎีการแปลอย่างชัดเจน การสร้ างการแปลในด้ านสังคมเหล่านี ้ – การแปลของนัก
ทฤษฎีเหล่านี ้ได้ รับการยืนยันจะถูกควบคุมโดยเครื อข่ายสังคมปฎิสมั พันธ์ทางสังคม คนพูดถึงกัน “ฉันหใ้้จานวน
คุณเท่านี ้ ถ้ าคุณทาเช่นนี ้” คุณสามารถช่วยเป็ นต้ นทฤษฎีการแปลและเป็ นส่วนหนึ่งที่หลบหนีไม่พ้น ในความเป็ น
จริงหากทฤษฎีไม่ใช่สว่ นหนึ่งของปฎิสมั พันธ์ทางสังคม เช่น ทฤษฎีเหล่านี ้จะไร้ ประโยชน์ – เกมการศึกษาเพียงวิธี
ที่จะได้ รับการเผยแพร่เพื่อสร้ างชื่อเสียงที่จะส่งเสริมและอื่นๆ
ตั ้งแต่สงิ่ ที่เป็ นที่ร้ ูจกั กันหลากหลาย เป็ นการสร้ างระบบหรื อ “เรี ยนการแปลพรรณนา” (ดีทีเอส) หรื อ “การ
จัดการเรี ยน” ปกติจะสนใจในระบบทางวัฒนธรรมขนาดใหญ่กว่าในเครื อข่ายทางสังคมในประเทศเราจะกลับไป
ทางานของกลุม่ ทฤษฎี ในบทที่ สิบ ทั ้งนี ้ทั ้งนั ้น ความกังวลของเราโรงเรี ยนเยอรมันจะมีหลากหลายทฤษฎีการ
แปล การทางาน, ทฤษฎีการแปล/แฮนด์ลงุ เชิงวิเคราะห์การแปลข้ อความ หรื อ ทฤษฎีสโกโพส
กลุม่ นี ้ได้ ทางานกับความเครี ยดความสาคัญของการทางานเพื่อสังคม และ ปฎิกิริยาการแปลเพื่อวัตถุประสงค์
หลักจริง เป็ นจริงขึ ้นเมื่อพวกเขาเชื่อว่า การศึกษาการแปลจริงในสิง่ ที่เกิดขึ ้น เมื่อคนแปลว่ากองกาลังสังคมจริงๆ
การควบคุมการแปลมากกว่าในคาสากลแบบนามธรรมของข้ อความที่สมมูล (แปลความหมายเพื่อความ, ไม่คา
สาหรับคา). ตั ้งแต่การเรี ยกร้ องของพวกเขาคือสังคมแปลได้ เสมอ แต่ตอนนี ้เป็ นเพียงการรับรู้ ในแง่ของลักษณะ
ทางสังคมของจริง วิธีนี ้เป็ นเพียงพื ้นฐานการแก้ ไข : จะพยายามเป็ นบ่อนทาลายวิธีแบบดั ้งเดิมที่วางกฎหมาย
ทัว่ ไปโดยไม่คานึงถึงสถานการณ์หลากหลายมากมายที่ฝึกการแปล
ในการทางานนี ้/การดาเนินการเชิงทฤษฎี สโกโพส พัฒนาที่เป็ นการทาให้ ถกู ต้ องของทฤษฎี ข้ อความดั ้งเดิม โดย
เลื่อนขั ้นตอนที่ใกล้ ชิดกับสิง่ ที่เรี ยกชักนาพวกเขา สารวจประสบการณ์ของตนเอง มีอิทธิพลของการแปลและสร้ าง
ทฤษฎีใหม่ จากการสังเกต อุทิศให้ “ประสบการณ์” การปฎิบตั ิของนักแปลมืออาชีพจริงในบริบทจริง ได้ ทาแนวทาง
ปฎิบตั ิมากน่าสนใจมาก และนักเรี ยนการแปลแบบนี ้ ทฤษฎีทกุ ทฤษฎีการแปลทางานสังคมการแปลเพื่อสร้ างทฤษฎี
พวกเขาย้ ายจากความซับซ้ อนทาให้ งงของคาจริงในเสถียรภาพความสัมพันธ์ของการทาให้ เป็ นแบบอย่างในอุดมคติ
และนามธรรม ของแผนผังที่อ้างสิทธิถึงการครอบคลุมทุกอย่างและบางครัง้ ภาษษที่เข้ าใจยากนั ้นคล้ ายกับมาจาก
ดาวอังคาร แต่เพราะพวกเขาเองเป็ นนักแปลมืออาชีพที่มีทฤษฎีกิดขึ ้นจากการปฎิบตั ิของพวกเขาเองจาก
ประสบการณ์อปุ นัย พวกเขายังคงภักดีกบั ความซับซ้ อนของการปฎิบตั ิ ดังนั ้นในขณะที่แบบแผนกฎสาคัญมากมัน
จะอธิบายเพียงวิธีการที่เครื อข่ายสังคมรอบการปฎิบตั ิงานของนักแปลพวกเขาต้ องเตือนผู้อา่ นว่าสิง่ นี ้ไม่ได้ ง่าย
ทั ้งหมดเลยทีเดียว หรื อมันเป็ นสมมุติฐานเสริมที่แตกต่างกันในบางครัง้
ภาพประกอบที่ดีของสมมุติฐานที่อยู่เบื ้องหลังวิธีการดาเนินการคือ การวิเคราะห์ข้อความจาก Christiane
Nord’s book หนังสือในการแปล(1991) แปลภาษาอังกฤษของตัวเองก่อนภาษาเยอรมัน หนังสือ Textanalyse
และ อุซเบกิสถาน (1988). Nord เป็ นประโยชน์ง่ายต่อการสรุปประเด็นหลักของการปฏิบตั ิหน้ าที่หรื อการ
กระทา ในบทแรกของเธอในการวิเคราะห์และแผนภาพและตัวอย่างในบทที่มีสาระสาคัญสรุปพิมพ์เป็ นอักษร
ตัวหนาขนาดใหญ่ และมีอยู่ในกล่องขอให้ ใช้ คาแถลงเหล่านี ้เพื่อแนะนาการเข้ าถึงของหน้ าที่ที่นี ้
วัฒนธรรมการเป็ นอยู่เกี่ยวกับภาษาศาสตร์ ทั ้งแหล่งข้ อมูลและข้ อความเป้าหมายเป็ นที่แน่นอนโดย
สถานการณ์การสื่อสารที่พวกเขาทาหน้ าที่ในการถ่ายทอดข้ อความ
ความหมาย : ต้ นฉบับเดิมทั ้งหมดไม่เป็ นเพียงแค่การแปลจะถูกกาหนดโดยสถานการณ์การสื่อสารที่ไม่เป็ นไป
ตามนามธรรมสากลที่ควบคุมการเขียนหรื อการพูด มันเป็ นไปไม่ได้ เพราะฉะนั ้น จึงกล่าวว่าข้ อความที่เท่ากัน
นั ้นหรื อมันควรที่จะเป็ นกฎเกณ์ให้ คาจากัดความของการแปลที่ดี หรื อนั ้นเป็ นประเภทเดียวของความเท่ากัน
เท่านั ้น เป็ นหนึ่งเดียวเท่านั ้นที่การแปลทั ้งหมดยอมรับได้
การเริ่มต้ นขั ้นแรกกระบวนการการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม เพราะเขาต้ องการใช้ เครื่ องมือการสื่อสาร
โดยเฉพาะข้ อความเป้าหมาย
กลุม่ ทฤษฎีนี ้เป็ นกลุม่ แรกที่เริ่มการพูดและการเขียนของการริเริ่มหรื อกรรมาธิการ ผู้ที่ต้องการข้ อความ
เป้าหมายและขอให้ ใครบางคนสร้ าง ที่คนนั ้นอยู่และผลกระทบต่อกระบวนการและธรรมชาติของการแปลนัน้ ควรที่
จะทาให้ ชดั เจน แต่ไม่มีใครให้ ความสาคัญและความตั ้งใจกับทฤษฎีนี ้เพียงให้ ความสาคัญในทฤษฎีเดิมแหล่งที่มา
ของผู้เขียน นักแปลและเป้าหมายของผู้อ่านแหล่งที่มาของผู้เขียนและเป้าหมายของผู้อ่านเป็ นจินตนาการบาง
ประเภทที่พยายามมีอานาจอิทธิพลอยู่เหนือนักแปล โดยไม่มีการไกล่เกลี่ยของคาแท้ ผ้ คู นซึ่งอยู่ในความจริงที่มี
อิทธิพลความคิดต่อโทรศัพท์,โทรสาร,ข้ อความอีเมลล์และการชาระเงิน
การปฏิบตั ิของข้ อความเป้าหมายไม่ได้ มาถึงโดยอัตโนมัตจิ ากการวิเคราะห์ของข้ อความที่มา แต่มีการ
กาหนดอย่างจริงจังโดยวัตถุประสงค์ของการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
ความหมาย : 1. การแปลนั ้นมีวตั ถุประสงค์เพื่อบริการการปฏิบตั ิของสังคมหรื อการปฏิบตั ิการ
2. การปฏิบตั ิการนี ้ ไม่เหมือนกับนามธรรมต้ นฉบับเดิม เช่น การปฏิบตั ิเชิงสานวน หรื อ การปฏิบตั ิให้ ความรู้แต่การ
กระทามากกว่าต้ นฉบับออกแบบบริบทให้ เข้ ากับผู้คนที่จะใช้ ในสังคม
3.การปฏิบตั ิการนี ้ไม่สามารถกาหนดในลักษณะมัน่ คงหรื อถาวรแต่ต้องตกลงกันใหม่อย่างจริงจังในทุก ๆ บริบทใหม่
ของการสื่อสารและ 4. เป็ นแนวทางในการเจรจาวัตถุประสงค์(skopos) การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
ผู้คนที่หลากหลายหวังที่จะบรรลุผลและผ่านมันไปได้
การรับของนักแปล เช่นวิธีการที่เขาจะได้ รับข้ อความ จะพิจารณาจากความต้ องการสื่อสารของผู้เริ่ มหรื อข้ อความ
เป้าหมายผู้รับ
ความหมาย : นักแปลอ่านข้ อความเมื่อล่ามได้ ยินข้ อความที่ไม่แน่นนอนในบางประสบการณ์ทศั นคติของ
ข้ อความอัตสังขารไม่เกี่ยวกับคติอนาธิปไตยบริสทุ ธิ์ แต่เป็ นแนวทางโดยหวังว่าผู้คนที่ต้องการการแปล
นักแปลไม่ได้ส่งแหล่งที่มาของข้อมูลแต่สร้างข้อความในวัฒนธรรมเป้ าหมายที่
บางคนนามาให้บางคนมีเป้ าหมายที่จะสร้างเครื่ องมือการสื่ อสารเพื่อ
กลุ่มเป้ าหมายวัฒนธรรม หรื อ เอกสารเป้ าหมายวัฒนธรรมของแหล่งที่มาการ
สื่ อสารทางวัฒนธรรม
นักแปลเป็ นเครื่ องมือที่ไม่ใช่ตน้ ฉบับเดิมของผูเ้ ขียน จะถือว่าบ่อย
กว่าในทฤษฎี แต่เป้ าหมายวัฒนธรรมนั้นมีสงั คมอานาจกล่าวคือ ผูค้ นทางาน
ร่ วมกันในวัฒนธรรมเป้ าหมายผูท้ ี่ตอ้ งการสร้างการสื่ อสารทางด้านวัฒนธรรม
และปัจจุบนั นักแปลกับงานเฉพาะในความพึงพอใจของความต้องการเหล่านั้น
แหล่งข้อมูลมาเสมอเพื่อที่นกั แปลนามาซึ่งความมีรูปร่ างที่มีขอบเขตก่อน
ตีความ โดยจัดเป้ าหมายวัฒนธรรมที่ซบั ซ้อน
ความหมาย :
ข้ อความที่เป็ นการสื่อสารที่สามารถเข้ าใจได้ โดยรวมหมายถึงการพูดหรื อไม่พดู
ข้ อความที่ไม่ว่าจะเป็ นวัตถุคงที่ที่สามารถศึกษาในสภาพห้ องปฎิบตั ิการและอธิบายวัตถุประสงค์ที่เชื่อถือได้ เป็ น
การกระทาทางสังคมและเข้ าร่วมหลากหลายสถานการณ์ของการกระทาดังกล่าวทั ้งหมด ใช้ เวลาในการบังคับการ
กระทาที่ไม่เพียงแต่ที่ผ่านคาผ่านน ้าเสียง พูดเป็ นหรื ออ่านออกเสียงแสดงลักษณะท่าทางและสานวน
ภาพประกอบรูป,โลโก้ บริษัท ฯลฯ โดยสัญลักษณ์เดียวกันและแหล่งข้ อความที่พบโดยนักแปลในหนังสือหรื อ
สานักงานทันตแพทย์จะแตกต่างจากทางโทรสาร หรื อ อีเมล แปลโดยลูกค้ าหรื อตัวแทนแม้ ว่าคาเหมือนการ
กระทากริยาการส่งข้ อความที่แปลโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์หรื อการเปลี่ยนแปลงการสื่อสาร
การรับข้ อความนั ้นขึ ้นอยู่กบั ความคาดหวังของบุคคลผู้ซงึ่ ถูกกาหนดโดยสถานการณ์ที่เขาได้ รับข้ อความเท่าที่
จะเป็ นไปได้ โดยพื ้นฐานสังคมของเขา ความรู้ของเขาหรื อความต้ องการสื่อสารของเขา
หรื อ Nord(1991:16) glosses นี ้ ความตั ้งใจของผู้สง่ และความคาดหวังของผู้รับอาจจะเหมือนกัน
แต่ไม่จาเป็ นต้ องเหมือนกันหรื อแม้ จะเข้ ากันได้ มากกว่า ผู้ใช้ ทกุ คนไม่แปล (คณะกรรมการผู้รับ) แม้ คาดว่าให้ ตรง
หรื อสามารถเข้ ากันได้ บางส่วน แต่นี ้อยู่ไกลจากความต้ องการที่หมาะแน่นอนสาหรับการแปลที่มีต่อทฤษฎีแบบ
ดังเดิมได้ ทาให้ มนั ออกไปทั ้งหมด
โดยรูปแบบที่ครอบคลุมการวิเคราะห์ข้อความที่คานึงถึงภายในต้ นฉบับของข้ อความ เป็ นปั จจัยข้ างนอกต้ นฉบับเดิม
ที่แปล สามารถยอมรับการปฎิบตั ิการวัฒนรรม ของแหล่งข้ อความ เขาเปรี ยบเทียบนี ้ด้ วยในอนาคต การปฎิบตั ิการ
วัฒนธรรมของข้ อความเป้าหมายตามริเริ่มในการระบุและแยกออกปั จจัยสาคัญเหล่านั ้นซึง่ จะต้ องรั กษาหรื อ
ดัดแปลงในการแปล
ผู้จดั การไม่สามารถคาดเดาว่าการทางานในหลายด้ านนาไปสูก่ ารทางานเป็ นทีมได้ อย่างดี จะผลิตสิ่งที่ต้องการได้
อย่างดี
นักแปลเป็ นสื่อ ในคาอื่น ระหว่าง 2 คาในต้ นฉบับ ที่มาของข้ อความเป็ นแสดงถึงหน้ าที่ของแหล่งวัฒนธรรมและ
(ความต้ องการ)จุดมุง่ หมาย ซึง่ ผู้เขียนต้ องการแสดงหน้ าที่ของแหล่งวัฒนธรรม ในที่สดุ ความต้ องการของผู้เขียนจะ
กาหนดชนิดของข้ อความแต่ความต้ องการเหล่านั ้นต้ องกรองก่อนว่าอะไรที่ผ้ แู ปลต้ องการจะสื่อในแหล่งวัฒนธรรม
หลักจริยธรรมต้ องการในการแปล เมื่อนักแปล (หรื อบางคน) รู้สกึ ว่ามีความขัดแย้ งมากเกินไป
หน้ าที่ที่เท่าเทียมกันระหว่างแหล่งข้ อมูลและข้ อความต้ นฉบับ ที่เหตุผลของการแปลไม่ปกติ แต่เรื่ องที่ยกเว้ นจึงเป็ น
สาเหตุให้ เป็ นจุดเปลีย่ น คือ จุดกาหนด
ตั ้งแต่นั ้นมาข้ อความเอิมจะใช้ ในแหล่งวัฒนธรรมที่แตกต่างกันและวัฒนธรรมในแต่ละสังได้ จากการใช้ คา
เหล่านั ้นมาจาก แหล่งวัฒนธรรมเดิม เป็ นสิง่ ที่ยากสาหรับการแปลให้ หน้ าที่ที่เหมือนกัน เพื่อให้ เป็ นรรมชาติการ
เปลี่ยนหน้ าที่จงึ เป็ นเรื่ องปกติ คาถามที่พบบ่อยคือ หน้ าที่ของข้ อความเดิมจะเปลีย่ นเป็ นข้ อความจากแหล่ง
วัฒนธรรมได้ อย่างไร ดังนั ้นจึงเป็ นคานิยามของการแปล
การแปลเป็ นการสร้ างหน้ าที่ของข้ อความเดิม การรักษาความสัมพันธ์เกี่ยวกับการให้ แหล่งที่มาของข้ อความเป็ น
ตัวกาหนดโดยให้ ขึ ้นอยู่กบั ความตั ้งใจหรื อความต้ องการใช้ การแปลคือการถ่ายทอดเพราะเป็ นการรักษาภาษาและ
วัฒนธรรมจะไม่มีทางเป็ นอุปสรรคได้
ความสัมพันธ์ : ความสัมพันธ์ที่ไม่เป็ นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อเป็ นการกาหนดให้ มีความก้ าวหน้ าในทุกเวลาและทุกๆ ที่
จะเป็ นความสัมพันธ์ที่สงั คมมีบทบาทในการตัดสอนใจ
ความคิดนี ้ของการแปลเป็ นการควบคุมโดยหน้ าที่ของสังคมเพราะในสังคมจริงมีความชัดในการมีบทบาทกับ
ทฤษฎีและการสอนแปลที่ดี
ขั ้นตอนแรก ทฤษฎีการแปลจะต้ องชัดเจนและไม่นอกเรื่ อง นักทฤษฎีพยายามสร้ างความรู้สกึ ในสังคมเพื่อเป็ นตัว
ควบคุมการแปลไม่ใช่เหตุผลของวิทยาศาสตร์ บริสทุ ธิ์ แต่เพื่อการสอน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแปล) เพื่อให้ เข้ าใจ
สังคมมากขึ ้น ดังนั ้นความรับผิดชอบและหน้ าที่ ความรับผิดชอบหมายถึงการดูแลและการตัดสินใจว่าควรทา
อย่างไรสภาวะกดดัน ในการแปลจากทฤษฎีและการแปลจากคาสอนเพื่อให้ การแปลและการตัดสินใจดีขึ ้น
และขั ้นตอนที่สอง การเป็ นนักแปลได้ แพร่หลายมากขึ ้น พวกเขาพยายามที่จะเข้ าใจในงานให้ มากขึ ้น เช่น
ยอมรับการติเตือนเพื่อให้ ได้ เห็นปั ญหาที่แท้ จริง นักวิจารณ์จะต้ องตรงไปตรงมา ให้ ข้อมูลที่เป็ นจริง เพื่อที่จะได้
นามาปรับปรุงแก้ ไขและพิจารณาไปตามเนื ้อเรื่ อง มากกว่าการแปลทฤษฎีและครูต้องสร้ างทฤษฎีให้ กบั พวกเขา
และศิลปะการสอนว่าควรจับประเด็นไหนเป็ นเรื่ องแรก โดยเริ่มจากการใช้ ประสบการณ์และจาไว้ เสมอว่าความ
ซับซ้ อนไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ ้น ความซับซ้ อนไม่ใช่แค่ที่มาของแนวความคิด ความรู้ ความเข้ าใจใหม่ๆ มันเป็ นเพียง
แค่สงิ่ ที่อยู่ในทฤษฎี กฎ และการอบรมสามารถช่วยให้ เราจับประเด็นและการใช้ ได้ การเรี ยนรู้ของนักเรี ยน การ
สอนของครู และการสร้ างทฤษฎี เหมือนกับการแปลของนักแปล เป็ นสัตย์สงั คมที่มีสว่ นเกี่ยวข้ องกันอย่างมาก
โดยเฉพาะการสื่อสารเป็ นสิง่ จาเป็ นต้ องเป็ นคนจริงในสังคมจริง
การอภิปราย
อะไรคือความแน่นอน ความมัน่ คง การประกันเป็ นสิง่ ที่สญ
ู หายไปจากหลักฐานข้ อมูลทฤษฎีของการแปลจากพื ้นฐาน
การแปลในสังคม สิง่ เหล่านี ้สาคัญอย่างไร พวกเราสามารถจัดการอย่างไร ความคิดที่จะอวกอ้ างเพื่อที่จะเป็ นนักแปล
มืออาชีพ การคาดหวังอาจทาให้ ร้ ูสกึ ดีขึ ้น คุณรู้สกึ อย่างไร และจะสามารถบอกเกี่ยวกับความรู้ สึกนั ้นแล้ วทาอย่างไร
ไม่ว่าวิธีใดในปั จจุบนั ในสังคมของนักแปลต้ องยึดหลักการเป็ นมืออาชีพ คุณจะได้ จากสมาชิกคนอื่นๆ ในสังคม ไม่ว่า
พื ้นฐานของคุณจะเป็ นอย่างไร พยายามจดทุกสิง่ ในสังคมที่คณ
ุ เป็ นส่วนหนึ่ง อธิบายได้ ว่าคุณสามารถบอกได้ ว่าว่า
ไหนจบและที่ไหนเริ่ม ค้ นหาวิธีเหล่านั ้นจากความเป็ นตัวตนของคุณ การกระทา การพูด และการเปลี่ยนแปลง ว่าเมื่อ
คุณย้ ายจากสังคมหนึ่งไปที่อื่นๆ สังคมไหนที่เป็ นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ ทาไม ไม่ว่าวิธีใด การแปลจากทฤษฎี คุณรู้ว่า
เป็ นการบริการของนักแปล ได้ ผลอย่างไรในการบริการ ควรจะแปลทฤษฎีเพื่อที่จะเป็ น บริการผู้แปลดีกว่าอย่างไร
มาตรฐานการตัดสินใจว่าบางคนจะแสดงอย่างไร อย่างไรก็ตามพวกเขาจะออกไปอย่างแน่นอนเพื่อลงมือเล่นใน
แบบของการแสดง สิง่ ที่สาคัญคือ สถานที่ตั ้งในลักษณะที่ตอบสนองสามารถตีความเป็ นความหมายได้ (ให้ เรา
เปิ ดรับตอนนี ้ว่าการตีความดังกล่าว ได้ เคยแยกผู้ติดต่อเข้ าร่วมกับผู้เรี ยกร้ อง “ผู้ผลิต” และ “ผู้รับ”) มันไม่
สาคัญเท่าไหร่ว่ามาตรฐานความพอใจเป็ นอย่างไรมากกว่าพยายามเพื่อตอบสนองความต้ องการ อะไรที่ตรง
ประเด็นคือหน้ าที่ของการแสดง Eykman ได้ แสดงให้ เห็นว่าภาพลักษณ์สามารถเปลี่ยนได้ เนื่องด้ วย
ภาพลักษณ์อื่น การจัดเป็ นสูตรกับการจัดเป็ นสูตรอื่น ปราศจากการเปลี่ยนแปลงของต้ นฉบับ Eykman กล่าว
ไว้ ว่าไม่ต้องแตกต่าง แต่ต้องปรับตัว สาหรับการแปลหมายถึง (1) การปรับตัวภายใต้ สถานการณ์ ที่ถกู ต้ อง (2)
สถานการณ์เหล่านี ้มีการฝึ กฝนโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น สถานการณ์ของความต้ องการนี ้เหมือนระดับของความ
ปกติธรรมดาที่มีอยู่
วัตถุประสงค์ที่สาคัญรองลงมาของการกระทาและความสาเร็จ
การกระทาที่สาเร็จแล้ วเมื่อสามารถวิเคราะห์ถึงที่ตั ้งที่เหมาะสม (มีความหมาย) ได้ มีการเสนอถึงความพอใจมา
ก่อนความต้ องการของตัวผู้ผลิตเอง เขาจะบอกสิง่ ที่เขาตั ้งใจไว้ เราจะเห็นจริง ๆ ว่าการแสดงอย่างไรที่ไม่สอง
คล้ องเหมาะสมที่สดุ เสมอกับความตั ้งใจ (คุณตอกนิ ้วของคุณ ก่อนเล็บที่เชื่อมต่ออยู่ด้วย) ในขณะที่ค่โู ต้ ตอบยัง
ค้ นหาคาอธิบาย พฤติกรรมของผู้ผลิตและผู้รับอาจแตกต่างจากการที่ผลิต การทดลองที่คาดหวังต่อกันนี ้จะนามัน
ไปสูก่ ารพิจารณาในการแสดงของพวกเขา ความสาเร็จในการแสดงทาให้ ประเมินแยกโดยผู้ผลิตและผู้รับ และคง
ความถูกต้ องในแต่ละอย่างไว้ ที่สามในที่สดุ
จะใช้ วลีเปรี ยบเทียบในภาษาอังกฤษหรื อภาษาแหล่งอื่นและเป็ นไปได้ ที่การแปลของนั ้นจะมาเป็ นลาดับตาม
ตัวอักษรของการแปล เช่น “มันยังไม่จบจนกว่าผู้หญิงอ้ วนร้ องเพลง” เหมือนแปลเป็ นภาษาสเปนว่า No se
acaha hasta que cante la gorda (มันยังไม่จบจนกว่าผู้หญิงอ้ วนร้ องเพลง) No se acaba
hasta que se acaba (มันยังไม่จบจนกว่ามันจะจบ) Siempre hay esperanza (มีหวังเสมอ)
รวมการแปลที่ต่างกันมากเท่าที่คณ
ุ สามารถแปลได้ อย่างน้ อยก็สามหรื อสี่
(ตัวอย่างการแปลภาษาสเปนเป็ นภาษาอังกฤษอีกอันหนึ่ง : จากนวนิยายของ Laura Esquivel เรื่ อง Como
agua para chocolate แปลเป็ นภาษาอังกฤษคือ ชอบน ้าสาหรับช็อกโกแลต แต่ตวั อย่างอันนี ้ง่ายเป็ นทวีคณ
ู
ครัง้ หนึ่งนานมาแล้ ว มีไข่ทวั่ ใบหน้ าของคุณ ประมาณหกถึงเจ็ดใบ ได้ พฒ
ั นาและส่งออกทางเรื อ บางคนอ่านแล้ วเกิด
ความสับสน สิง่ สาคัญคือ พอคุณได้ เลือกวลีมากับสถานการณ์จริงที่เป็ นไปได้ ต่าง ๆ อาจได้ รับการพิจารณาอย่าง
จริงจัง
ขณะนี ้การเข้ ากันของสังคมที่สง่ ผลต่อกัน เช่น Reβ กับ Vermeer ได้ คยุ กับผู้ผลิตคนหนึ่งและผู้รับคนหนึ่ง และ
มาอภิปรายความคิดเกี่ยวกับการตั ้งรับ หรื อจู่โจมถึงความสาเร็จในการแปลของวลี ในบริบทที่เฉพาะเจาะจง เนื ้อหา
รายละเอียดของบริบทอย่างแรก : ตัวแทนโฆษณาประสานงานแคมเปญโฆษณาสิบสี่ประเทศสาหรับเทปเสียง งานที่
เป็ นงานอิสระการแก้ ไขการเข้ าซื ้อกิจการเพื่อกดการค้ าที่สาคัญที่มีประกาศเรื่ องราวที่เขียนขึน้ จากความทรงจาของนัก
โอเปร่าหญิง ทางานกับศาสตราจารย์ของดุริยางค์ศาสตร์ ที่เป็ นนักแปล ในบ้ านของนักแปลและเจ้ านายของเธอ
อภิปรายเกี่ยวกับการแปลวลีในเชิงตลกในเอกสารเทคนิคชื่อว่า การเขียนจดหมายชีวประวัติเพื่อแก้ ไขหรื อค้ านการ
แปลของเรื่ องบทสนทนากับนักแปลที่มีศกั ยภาพสามคน (เช่นการหาผู้เขียนบรรณาธิการต้ นฉบับ) อภิปรายที่ประสบ
ความสาเร็จในการแปลจากลักษณะพิเศษ ถ้ าคุณสามารถเห็นด้ วยในการใช้ เวลาเล็กน้ อยหลังจากศึกษาอย่างถี่ถ้วน
ว่าจะทาอย่างไรให้ ง่ายดายหรื อไม่ง่ายกับข้ อสงสัย
ตอนนี ้ลองจินตนาการโครงสร้ างทัว่ ไปของการประเมินความสาเร็จหรื อการแปลที่ดีมนั เป็ นไปได้ อย่างไร? หรื อคุณ
สงสัยกับสังคมหัวรุนแรงของ Reβ และ Vermeer ถึงตัวอย่าง? อย่างไร? หรื อตัวอย่างในทางอื่น
การเรี ยนแผนผังของ Basissituation für translatorishes Hamdeln พื ้นฐานของหน้ าที่กิจกรรม
ในการแปลจากหนังสือของ Justa HolzMänttan ชื่อ Translatorishes Hendeln ที่มากับหนังสือ
การแปลภาษาอังกฤษและคาอธิบายที่กว้ างขึ ้น
Bedartsträger ([เป้าหมายของข้ อความ]ต้ องการผู้นา) : คนที่ต้องการแปลและให้ กระบวนการของการแปล
ตั ้งแต่เริ่มการแปล)
Besteller (กรรมาธิการ : ผู้ถามนักแปลที่จะให้ ข้อความเป้าหมายตามหน้ าที่ที่เหมาะสมสาหรับสถานการณ์ใช้
เฉพาะ)
Translator (นักแปล/ล่าม : วิชาการแปลภาษาเยอรมันมันใช้ คาละตินหมายถึงการผลิตของทั ้งพูดหรื อเขียน
ความที่จะเรี ยกว่าปกติ Überseter และ der Dolmetscher ตามลาดับ)
Zieltext-Applikator (ผู้ที่ทาให้ ตาราเรี ยนบรรลุเป้าหมาย) คนที่ให้ ข้อความเป้าหมายการปฏิบตั ิงานที่ทา
ร่วมกันในสังคมโลก เช่น เผยแพร่ที่ใช้ เป็ นสาเนาการโฆษณาส่งเป็ นจดหมายทางธุรกิจที่กาหนดให้ นกั เรี ยน
การทางานเป็ นทีมเพื่อที่จะพัฒนาเรื่ องราวให้ ดมู ีคณ
ุ ค่าสาหรับโครงการในการนาเสนอ HolzManttari ผู้
ริเริ่มการแปล, ผู้ได้ รับมอบหมายการทาธุรกิจ, ผู้ร้ ูแหล่งข้ อมูล, ผู้แปลหรื อล่าม, ผู้ปฏิบตั ิตามเป้าหมาย, และผู้
ที่รับมอบเป้าหมาย โดยจะมีชื่อและผู้เชียวชาญเป็ นสิง่ บ่งบอกไว้ มีเงื่อนไขกาหนด “ใคร, ที่ไหน, และเมื่อไหร่ ”
เริ่มต้ นโดยผู้ริเริ่มการแปลของโครงการ และทั ้งผู้ร้ ูแหล่งข้ อมูลและผู้ที่ได้ รับมอบหมายทาธุรกิจ รวมเป็ นหนึ่งถ้ า
เป็ นไปได้ จากนั ้นผู้แปลหรื อล่ามจะดาเนินต่อไป และสุดท้ ายผู้ที่ได้ รับมอบหมายของตาราและการรับมอบงาน
จะวนกัน
รูปแบบความต้ องการการแปลนี ้? แหล่งข้ อมูลยังดารงอยู่โดยกระบวนการเริ่มต้ นใช่หรื อไหม? ใครคือผู้ที่ได้ รับ
มอหมายให้ ทาธุรกิจ? ส่วนไหนที่ดาเนินการในกระบวนการนี ้? ผู้ที่ได้ รับมอบหมายงานได้ ตดั สินผู้แปล
อย่างไร? ทาอย่างไรให้ เป้าหมายได้ สาเร็จในการฝึ กฝน? ใครคือผู้ที่ได้ รับเจตนาที่ตั ้งไว้ ? และทาอย่างไร
ผู้ปฎิบตั ิจะได้ เป็ นผู้รับมอบหมายงาน? เรื่ องราวเหมือนบทความในหนังสือพิมพ์ หรื อเรื่ องเล่าสั ้นๆ แต่ผ้ รู อบรู้
การบรรยายเรื่ องเป็ นผู้ร้ ูทกุ อย่าง
การวาดและการคิดค้ นขึ ้นใหม่ในโครงการแผนการละครเพื่อให้ เหมาะสม ผู้ริเริ่มการแปลคือ ผู้แปลและผู้
ได้ รับมอบหมาย หล่อนได้ อ่านนิยายและค้ นพบประโยคในภาษาต่างประเทศ ซึง่ หล่อนได้ ประสบ
ความสาเร็จเพียงเล็กน้ อย ดังนั ้นหล่อแปลมันออกมาโดยตัวหล่อนเอง ตามโครงเรื่ องอย่างถูกต้ องและอย่าง
เหมาะสม จากนั ้นก็แปลมันเป็ นภาษาอังกฤษด้ วยตัวเอง เหมือนกับการรอ Golot (ทาไม? เพื่อใคร? เป็ นการ
แปลที่ได้ รับมอบหมายหรื อไม่? เป็ นบรรณาธิการของ Beckett หรื อตัวแทน หรื อผู้ผลิต หรื อผู้กากับ หรื อบาง
คนที่ให้ บริการเป็ นผู้ตอบรับจุดมุง่ หมายของบทความหรื อไม่?)
นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันเลือกพัสดุในที่ทาการไปรษณีย์ใน เซเวาเดอ ประเทศบราซิล แต่จะเจ้ าหน้ าที่
ไปรษณีย์ก็บอกว่า เป็ นหนี ้ภาษีเขา และเขาก็ไม่สามารถพูดภาษาโปรตุเกสได้ แต่พนักงานก็พูดเยอรมันไม่ได้
ดังนั ้นพนักงานที่อยู่ถดั ไปก็เป็ นสื่อกลางระหว่างพวกเขา
เลีย ผู้เขียนตาราเรื่ องต้ นกาเนิดของตารา เป็ นผู้เชียวชาญด้ านฟิ สกิ ส์ ชาวบังกลาเย ผู้ซงึ่ เคยถูกเชิญให้ ไปพูดใน
การประชุมนานาชาติเป็ นภาษาอังกฤษ เธอเขียนในภาษาบังเกอเรี ยในกระดาน แต่เธอก็ได้ รับค่าจ้ าง จาก
คณบดีของเธอที่จ่ายให้ คณบดีใช้ ภาษาอังกฤษ โซเฟี ย (พวกที่เรี ยนสาขาภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัย) เพื่อที่
แปลเป็ นภาษาอังกฤษ ดังนั ้นเธอได้ สง่ มันไปที่การประชุมผู้ก่อตั ้งผู้ที่สง่ คาแนะนามาให้ เธอ เพื่อที่จะ
เปลี่ยนแปลง ก่อนที่มนั จะถูกรวมเพื่อตีพิมพ์ เธอเคยส่งไปแต่ก็สง่ กลับ เธอยังต้ องจ่ายให้ ผ้ แู ปลเพื่อช่วยเธอใน
บางการออกเสียง ดังนั ้น ผู้ร่วมการประชุมจะเข้ าใจเมือ่ เธออ่าน
(C.) ตอนนี ้ต้ องคิดและร่างตารางใหม่ เพื่อที่จะอธิบายในการแสดงบทบาทของ Holz-Manttan ปรึกษาการค้ นคว้ า
การแปลตามลูกค้ าเกี่ยวกับการแปลที่ผ่านมา ยังเป็ นบทความที่คล้ ายกัน เพื่อช่วยเกี่ยวกับคาศัพท์เฉพาะ เขาเรี ยก
ลูกค้ าและพูดคุยเดียวกัน นักเขียนทางเทคนิค, วิศวกร, ผู้ชานาญ, พนักงานทางการตลาด ฯลฯ (ที่ปรึกษาด้ านการ
ค้ นคว้ าเหล่านี ้ จะถูกนับเป็ นส่วนหนึ่งของผู้ที่ได้ รับมองหมายไหม? ส่วนหนึ่งของแหล่งข้ อความ หรื อผู้เขียน
ข้ อความ) มักแปล และส่งเมล์ออกไปสอบถาม Lantra-L หรื อ FLEFO ขอความช่วยเหลือกับคาศัพท์ หรื อวลีเฉพาะ
และเธอจะส่งแฟกซ์ อีเมล์เพื่อนของเธอในแหล่งข้ อความ หรื อ จุดมุง่ หมายของข้ อความ วัฒนธรรมอาจจะสามารถ
ช่วยได้ เช่น คนไปภายเฉินเบอ ของจุดมุง่ หมายของภาษาและแก้ ไขข้ อความให้ ถกู ต้ อง
สังคมของนักแปล คาแปลบทสนทนาระหว่าง Texan Chican ถูกกล่าวหาว่า กระทาผิดต่อเด็ก และสังคมของ
คนทางานใน Anglo ส่งไปโดยประกาศคาศัพท์ การไต่สวน เธอหยุดการสนทนาหลายครัง้ เพื่อที่จะทาหนึ่งในผู้พดู
เพื่อให้ กระจ่างยิ่งขึ ้น หรื อ คาหรื อวลีที่ไม่ชดั เจน คนพูดทั ้งสองคนก็ให้ พดู หลายๆครัง้ เหมือนกัน แหล่งข้ อความของ
ผู้เขียนเป้าหมายของบทความ และที่ปรึกษาการค้ นคว้ า
ในบทความใดๆก็ตาม ใน A-C คนที่หนึ่งของการมอง การนามาใช้ บทบาทที่แตกต่างกันอย่างน้ อย 2 บท เพื่อพบ
ความสาเร็จ การทบทวนและวาดตารางใหม่ เพื่อที่จะค้ นหาจุดใหม่ของการสังเกต
การแนะนาการอ่าน
วัฒนธรรม
- ความรู้ด้านวัฒนธรรม
- การวางโครงการด้ วยตนเองเพื่อเข้ าถึงชาวต่างชาติ (การนาเสนอ)
- การเชื่อในวัฒนธรรม (การพิสจู น์)
- การสร้ างจิตสานึกระหว่างวัฒนธรรม (การอนุมาน)
- การอภิปราย
- การฝึ กฝน
- การแนะนาการอ่าน
สมาชิกกลุ่ม
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
นางสาวยุวดี
นางสาวชมพูนุท
นางสาวรัตนาพร
นางสาววิรุทยั
นางสาวเสาวลักษณ์
นางสาวณฐพร
นางสาวหัทยา
นางสาววราพร
นางสาวเพชรรัตน์
บุญมาเลิศ
แสงทองดี
แสนบริสุทธิ์
อิทธิฤทธิ์ไพศาล
แซ่ คู
อิม่ มาก
ญาณสะอาด
พวงเรือนแก้ว
หมืน่ แก้ว
ภาษาอังกฤษเพือ่ การสื่ อสารสากล 3-2