ดูงาน

Download Report

Transcript ดูงาน

ปัจจัยทีท
่ ำให้เกิดกำรเปลีย
่ นแปลงควำมถี่
ของแอลลีล
ควำมเป็ นจริงสภำพธรรมชำติมห
ี ลำกหลำย
ปัจจัยทีท
่ ำให้ควำมถีแ
่ อลลีลเปลีย
่ นแปลงไป ไม่
เป็ นไปตำมกฎของฮำร ดี
จึง ท ำให้
์ – ไวน์ เบิร ก
์
โ ค ร ง ส ร้ ำ ง ท ำ ง พั น ธุ ก ร ร ม ข อ ง ป ร ะ ช ำ ก ร
เปลี่ ย นแปลงไป กำรเปลี่ ย นแปลงโครงสร้ ำง
พันธุกรรมในประชำกรทีละเล็กทีละน้อยจนทำให้
เ กิ ด วิ วั ฒ น ำ ก ำ ร ร ะ ดั บ จุ ล ภ ำ ค
(microevolution) ซึ่ง เป็ นกำรเกิด วิว ฒ
ั นำกำรใน
ระดับสปี ชีส์ของสิ่ งมีชีว ต
ิ ขึ้น ปัจจัยต่ำงๆ ทีท ำ
1. กำรคัดเลือกโดย
ธรรมชำติ
ท ำให
้ สมำชิ ก ของประชำกรที่ ม ี ล ัก ษณะ
เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมมีจำนวนมำกเพิม
่ ขึน
้
ลักษณะทีไ่ มเหมำะสมกั
บสภำพแวดลอมจะถู
กคัด
่
้
ทิง้ ทำให้ควำมถีข
่ องแอลลีลทีเ่ ป็ นองคประกอบ
์
ทำงพัน ธุ ก รรมในประชำกรมีก ำรเปลี่ย นแปลง
แต่มีเ พีย งกำรคัด เลือ กโดยธรรมชำติเ ท่ำนั้ น ที่
กำรเปลีย
่ นแปลงควำมถีข
่ องแอลลีลในประชำกร
ทำให้มีลก
ั ษณะทีเ่ หมำะสมกันสภำพแวดลอม
้
สิ่ งมีชีวต
ิ ทีม
่ ล
ี ก
ั ษณะสปี ชีส์เดียวกันที่
มี ค ว ำ ม แ ต ก ต่ ำ ง กั น อ ย่ ำ ง เ ห็ น ไ ด้ ชั ด ท ำ ง
ก ร ร ม พั น ธุ ์ ซึ่ ง เ รี ย ก ว่ ำ โ พ ลี ม อ ร ์ ฟิ ซึ ม
ตัวอยำง
่
ดวงที
ม
่ ย
ี น
ี สี น้ำตำลหนีกำรปลนสะดมและรอด
้
้
ชีวต
ิ ในกำรทำซำ้ บอยกว
่ ให้
ำด
ม
่ ย
ี น
ี สี เขียวเพือ
่
่ วงที
้
มำกกวำยี
นต
่ นสี น้ำตำลไดในรุ
้
่ อไป
่
ทีม
่ ำ:
http://evolution.berkeley.edu/evolibrary/article/ev
o_39
สิ่ งมีชี ว ิต กำรผ่ ำเหล่ำหรือ มิว เทชัน มีท ้งั ที่เ กิด กับ เซลล ์
ร่ ำ ง ก ำ ย ซึ่ ง เ รี ย ก ว่ ำ โ ซ ม ำ ติ ค มิ ว เ ท ชั น ( somatic
mutation) และทีเ่ กิดกับเซลลสื์ บพันธุเรี
ตค
ิ มิวเท
่
์ ยกวำแกมี
ชัน (gametic mutation) มิวเทชันทีม
่ ผ
ี ลตอขบวนกำร
่
วิว ฒ
ั นำกำรมำก คือ มิว เทชัน ที่เ กิด กับ เซลล สื์ บพัน ธุ ์
เนื่องจำกสำมำรถถำยทอดไปสู
่
่ รุนต
่ อๆไปได
่
้ มิวเทชันทำ
ให้ เ กิ ด ก ำ ร แป ร ผั น ท ำ ง พั น ธุ ก รร ม นอ ก จ ำ ก นั้ น ใ น
กระบวนกำรสื บพัน ธุ แบบอำศั
ย เพศ จะมีก ำรแบ่งเซลล ์
์
ดวยวิ
ธไี มโอซิสเพือ
่ สรำงเซลล
สื์ บพันธุ ์ ในกระบวนกำรไม
้
้
โอซิสจะมีครอสซิงโอเวอร ์ (crossing
over) โดยมีกำร
แลกเปลีย
่ นชิ้น ส่วนของโฮโมโลกัส โครโมโซมซึ่งมีผลทำ
ให้ อัล ลีล ของยีน เกิด กำรเปลี่ย นต ำแหน่ งได้ รวมทั้ง กำร
รวมกลุ่มกัน อย่ำงอิส ระของโครโมโซม ที่แ ยกตัว จำกคู่
ของมันแล้วเป็ นผลให้ยีนต่ำงๆ ได้ รวมกลุมกั
่ นใหม่ใน
แต่ละรุ่น ดังนั้นกำรสื บพันธุแบบอำศั
ยเพศจึงช่วยให้ยีน
์
ต่ ำงๆ ทั้ง เก่ ำและใหม่ ได้ มีโ อกำสรวมกลุ่ มกัน (gene
ตัวอยำง
่
บำง "ยีน สี เขีย ว" กลำยพัน ธุ แบบสุ
์
่ มไปที่
"ยีนสี น้ำตำล" (แม้วำตั
์
่ ง้ แตเกิ
่ ดกำรกลำยพันธุใด
โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง จะหำยำก, กระบวนกำรนี้
เพีย งอย่ ำงเดีย วไม่ สำมำรถบัญ ชี ส ำหรับ กำร
ั ลีล มำกกว่ำรุ่น
เปลี่ย นแปลงใหญ่ในควำมถี่อ ล
หนึ่ง)
ทีม
่ ำ:
ทีม่ า : http://evolution.berkeley.edu/evolibrary/article/evo_39
http://evolution.berkeley.edu/evolibrary/article/ev
o_39
้
ของสมำชิก ส่งผลให้มีกำรหมุนเวียนพันธุกรรม
ห รื อ ที่ เ รี ย ก ว่ ำ ก ำ ร ไ ห ล ข อ ง ยี น ( gene
flow) เกิด ขึ้น ระหว่ำงประชำกรย่อยๆ ซึ่ ง กำร
อพยพจะทำให้สั ดส่วนของ อัลลีลเปลีย
่ นแปลง
ไป ในประชำกรที่ ม ี ข นำดใหญ่ มำกๆ กำร
อพยพเข้ ำหรื อ อพยพออกของสมำชิ ก อำจจะ
เกือบไมมี
่ ผลตอสั
่ ดส่วนของยีนในกลุมประชำกร
่
่ มีสมำชิก
เลย แตถ
่ ้ำประชำกรมีขนำดเล็ก เมือ
อพยพออกไปท ำให้ กลุ่ มประชำกรสู ญ เสี ยยีน
บำงส่ วนท ำให้ มี โ อกำสในกำรถ่ ำยทอดหรื อ
แลกเปลีย
่ นยีนกับกลุมยี
่ นนั้นน้อยลงไป หรือไม่
มีโอกำสเลยในทำงกลับกัน กำรอพยพเข้ำของ
ประชำกรในกลุมประชำกรขนำดเล็
ก จะทำให้
่
เกิดกำรเพิม
่ พูนบำงส่วน หรือบำงยีนใหมเข
่ ้ำมำ
ตัวอยำง
่
ดวงบำงคนที
ม
่ ย
ี น
ี สี น้ำตำลอพยพมำจำก
้
ประชำกรอืน
่ หรือดวงบำงแบกยี
นสี เขียวอพยพ
้
4. เจเนติกดริฟต ์
มีกำรเปลีย
่ นแปลงควำมถีข
่ องแอลลีล
ทีเ่ กิดขึน
้ ในประชำกรทีม
่ ข
ี นำดเล็ก ไมได
่ เกิ
้ ดจำก
กำรคัดเลือกโดยธรรมชำติ ทำให้บำงแอลลีลไมมี
่
โอกำสถำยทอดไปยั
งรุนลู
่
่ กได้
แรนดอมจีเนติกดริฟท ์ ทีพ
่ บใน
ธรรมชำติม ี 2สถำนกำรณ ์ คือ ปรำกฏกำรณ ์
คอขวด (Bottleneck effect) และ ผลกระทบ
จำกผูก
้ อตั
่ ว (Founder effect)
ตัวอยำง
่
เมื่ อ ด้ วงท ำซ้ ำ เพี ย งแค่ ยี น สุ่ มโชคน้ ำตำล
ม ำ ก ก ว่ ำ ยี น สี เ ขี ย ว สิ้ น สุ ด ล ง ใ น ลู ก ห ล ำ น ใ น
แผนภำพทีด
่ ำนขวำยี
นสี น้ำตำลเกิดขึน
้ บอยครั
ง้ มำก
้
่
ขึน
้ เล็ กน้อยในลูกหลำน (29%) กว่ำในรุ่นพ่อแม่
(25%)
ทีม
่ ำ:
http://evolution.berkeley.edu/evolibrary/articl
e/evo_39
สิ่ งมีชว
ี ต
ิ ส่วนมำกจะมีรป
ู แบบกำรสื บพันธุ ์
แบบอำศั ยเพศอยำงเด
นชั
่
่ ด โดยแบงเป็
่ น2 กรณี คือ
1. กำรผสมพันธุแบบสุ
่ม
์
เป็ นรูปแบบทีเ่ กิดขึน
้ เป็ นส่วนมำกในประชำกร กำร
ผสมพันธุแบบสุ
ย
่ นแปลงควำมถี่
่ มนี้จะไมมี
่ ผลตอกำรเปลี
่
์
ยีนในแตละชั
ว
่ อำยุมำกนัก
่
2. กำรผสมพันธุที
่ นแบบสุ่ม
์ ไ่ มเป็
เป็ นรูปแบบทีเ่ กิดขึน
้ เป็ นบำงครัง้ โดยมีกำรเลือก
คูผสมภำยในกลุ
ม
่ ะทำให้เกิดกำรผสม
่
่ ซึง่ มีแนวโน้มทีจ
พันธุภำยในสำยพั
นธุเดี
์
์ ยวกัน หรือทีเ่ รียกวำ่ อินบรีดดิง
(inbreeding) อันจะยังผลให้เกิดกำรเปลีย
่ นแปลงควำมถี่
ของยีนในประชำกรนั้นได้ เพรำะถำเป็
้ นกำรผสมภำยใน
สำยพันธุเดี
่
์ ยวกัน และประชำกรมีขนำดเล็กยอมจะมี
โอกำสทีย
่ น
ี บำงยีนเพิม
่ ควำมถีส
่ งู ขึน
้ ในรุนต
และใน
่ อมำ
่
ทีส
่ ุดจะไมมี
้ โดยส่วนใหญ่
่ กำรแปรผันของยีนเกิดขึน
อำจเป็ นสภำพโฮโมไซกัส และเป็ นสำเหตุให้ยีนบำงยีนมี
แตกตำงกั
นในลักษณะทำงสั ณฐำนและโครงสร้ำงทำง
่
กำยวิภ ำคของสิ่ งมีชีว ต
ิ ใช้ เป็ นแนวคิด ในกำรศึ กษำ
2. สปี ชี ส์ ทำงด้ ำนชี ว วิท ยำ หมำยถึง สิ่ งมีชีว ิต ที่
สำมำรถผสมพันธุกั
ให้กำเนิด
์ นได้ในธรรมชำติ
ลูกทีไ
่ ม่เป็ นหมันแต่ถ้ำเป็ นสิ่ งมีชีวต
ิ ต่ำงสปี ชีส์กัน ก็
อำจให้กำเนิดลูกไดเช
้ ่ นกันแตเป็
่ นหมัน
แนวคิดของสปี ชีส์ทำงด้ำนชีววิทยำโดย
พิจำรณำควำมสำมำรถในกำรผสมพันธุและให
้กำเนิด
์
ลูกหลำนทีไ่ มเป็
ี ่ิ งมีชว
ี ต
ิ ตำงส
่ นหมัน ในธรรมชำติมส
่
ปี ชส
ี ์ กันอยูด
นจำนวนมำก
่ วยกั
้
สิ่ งมีชีวต
ิ ต่ำงสปี ชีส์กันมีกำรป้องกันกำร
ผสมพัน ธุ ์ระหว่ ำงสปี ชี ส์ ได้ โดยกลไกกำรแยกทำง
สื บพันธุ ์ แบงออกเป็
น 2 ระดับ
่
คือ 1.กลไกกำรแยกทำงสื บพันธุก
่
์ อน
ระยะไซโกต
2.กลไกกำรแยกทำงสื บพันธุหลั
์ ง
1.2.1 กลไกกำรแยกทำงสื บพันธุก
์ อนระยะไซโกต
่
เป็ นกลไกทีป
่ ้ องกันไม่ให้ เซลล สื์ บพัน ธุจำก
์
สิ่ งมีชีวต
ิ ตำงสปี
ชีส์กันได้มำผสมพันธุกั
่
์ น กลไก
เหลำนี
่ ้ไดแก
้ ่
ย
1. ถิน
่ ทีอ
่ ยูอำศั
่
สิ่ งมีชี ว ิต ต่ ำงสปี ชี ส์ กัน ที่อ ำศั ย ในถิ่น ที่อ ยู่
ตำงกั
น เช่น กบป่ำ อำศั ยอยูในแอ
งน
่
่
่ ้ำซึ่งเป็ น
แหลงน
ส่วนกบบูลฟรอกอำศั ย
่ ้ ำจืดขนำดเล็ก
อยู่ในหนองน้ ำ หรือ บึง ขนำดใหญ่ที่ม ีน้ ำ ตลอดปี
กบทัง้ 2 สปี ชีส์นี้มล
ี ก
ั ษณะรูปรำงใกล
่
้เคียงกัน
ม ำ ก แ ต่ อ ำ ศั ย แ ล ะ ผ ส ม พั น ธุ ์ ใ น แ ห ล่ ง น้ ำ ที่
แตกตำงกั
นทำให้ไมมี
นธุกั
่
่ โอกำสไดจั
้ บคูผสมพั
่
์ น
ตัวอยำง
่
กบป่ำอำศัยในแหลงน
่ ้ำขนำดเล็ก กบบูล
ฟรอกอำศั ยในบึงขนำดใหญ่
ทีม
่ ำรูปภำพ
http://sci.hatyaiwit.ac.th/present/evolution.ppt#
358,89,Slide
2.พฤติกรรมกำรผสมพันธุ ์
เช่ น พฤติก รรมในกำรเกี้ย วพำรำสี ของ
นกยุงเพศผู้ ลักษณะกำรสร้ำงรังทีแ
่ ตกต่ำงกัน
ของนกและกำรใช้ ฟี โรโมนของแมลง เป็ นต้ น
พฤติกรรมตำงๆ
นี้ จะมีผลตอสั
่
่ ตวเพศตรงข
์
้ำม
ใน
สปี ชีส์เดียวกันเท่ำนั้นทีจ
่ ะจับคู่ผสมพันธุ ์
กัน
ลักษณะกำรสรำงรั
้ งที่
แตกตำงกั
นของนก 2
่
สปี ชส
ี ์
ภำพที่ 19-23
หนังสื อเรียนสำระกำร
เรียนรูพื
้ ฐำนและ
้ น
เพิม
่ เติมชีววิทยำเลม
่ 5
3. ช่วงเวลำในกำรผสมพันธุ ์
อำจเป็ นวัน ฤดู ก ำล หรือ ช่ วงเวลำของ
ก ำ ร ผ ส ม พั น ธุ ์ ตั ว อ ย่ ำ ง เ ช่ น แ ม ล ง ห วี่
Drosophila pseudoobscura
มี ช่ ว ง เ ว ล ำ
เหมำะสมในกำรผสมพัน ธุ ์ในตอนบ่ ำย แต่
Drosophila persimilis จะมีช่วงเวลำทีเ่ หมำะสม
ในตอนเช้ำ ทำให้ไมมี
่ โอกำสในกำรผสมพันธุ ์
กันได้
ทีม
่ ำ
รูปภำพ
http://www.pieam.com/newpicture/200
4. โครงสร้ำงของอวัยวะสื บพันธุ ์
สิ่ งมีชว
ี ต
ิ ตำงสปี
ชีส์กันจะมีขนำดและ
่
รูป ร่ำงของอวัย วะสื บพัน ธุ แตกต
์
่ำงกัน ท ำให้ ไม่
สำมำรถผสมพันธุกั
์ นได้ เช่น โครงสร้ำงของ
่ 19-23
หนั
งกสืษณะ
อเรียน
ดอกไม้บำงชนิดมีลก
ั ภำพที
ษณะสอดคล
องกั
บ
ลั
้
สำระกำรเรี
ยำให
นรู้ พื
้น ฐำนและ
ของแมลงหรือ สั ต ว บำงชนิ
ด
ท
แมลงหรื
อ
์
้
เ พิ่ ม เ ติเม
ชี ว วิ ทชยในสปี
ำ เ ล่ มชีส 5
สั ต ว นั
้
น
ๆ
ถ
ำยละอองเรณู
ฉพำะพื
์
่
์
หน้ำ 144
เดียวกันเทำนั
้
น
่
โ ค ร ง ส ร้ ำ ง ข อ ง
ดอกไมที
่ ตกตำงกั
น
้ แ
่
ก. กลี บ ดอกที่ ม ี ข นำด
เหมำะสมกับ ชนิ ด ของผึ้ง ตัว
เล็ก
ข. กลี บ ดอกที่ ม ี ข นำด
5. สรีรวิทยำของเซลลสื์ บพันธุ ์
เมื่อ เซลล สื์ บพัน ธุ ของสิ
่ งมีชีว ิต ต่ำงสปี ชีส์
์
กันมีโอกำสมำพบกัน แตไม
สนธิกน
ั
่ สำมำรถปฎิ
่
ได้ อำจเป็ นเพรำะอสุ จ ิไ ม่สำมำรถอยู่ภำยใน
ร่ำงกำยเพศเมีย ได้ หรือ อสุจ ิไ ม่สำมำรถสลำย
สำรเคมีทห
ี่ ุ้มเซลลไข
่ งมีชว
ี ต
ิ ตำงสปี
ชส
ี ์ ได้
์ ของสิ
่
่
โกต
ในกรณีทเี่ ซลลสื์ บพันธุของสิ
่ งมีชว
ี ต
ิ
์
ตำงสปี
ชส
ี ์ สำมำรถเขำไปผสมพั
นธุกั
่
้
์ นไดไซ
้
โกตทีเ่ ป็ นลูกผสมเกิดขึน
้ แลว
้ กลไกนี้จะ
ป้องกันไมให
่ ้ลูกผสมสำมำรถเจริญเติบโตเป็ น
ตัวเต็มวัยหรือสื บพันธุต
์ อไปได
่ ้
่
้ กลไกเหลำนี
ไดแก
้ ่
1. ลูกผสมตำยกอนถึ
งวัยเจริญพันธุ ์
่
เช่น กำรผสมพันธุกบ
(Rana
์
spp.) ตำงสปี
ชส
ี ์ กัน พบวำจะมี
กำรตำยของ
่
่
ตัวออนในระยะต
ำงๆกั
น และไมสำมำรถ
่
่
่
เจริญเติบโตเป็ นตัวเต็มวัยได้
2. ลูกผสมเป็ นหมัน
เช่น ลอ
่ เกิดจำกกำรผสม
ภำพที่ 19-24 หนังสื อเรียนสำระกำรเรียนรู้
พืน
้ ฐำนและเพิม
่ เติมชีววิทยำเลม
่ 5 หน้ำ145
3. ลูกผสมลมเหลว
้
เ ช่ น ก ำ ร ผ ส ม ร ะ ห ว่ ำ ง ด อ ก
ทำนตะวัน(Layia spp.) 2 สปี ชส
ี ์ พบวำ่ ลูกผสม
ทีเ่ กิดขึน
้ สำมำรถเจริญเติบโตและให้ลูกผสมใน
รุ่น F1 ได้ แต่ในรุ่น F2 เริ่ม อ่อนแอและเป็ น
หมันประมำณร้อยละ 80 และจะปรำกฏเช่นนี้
ในรุนต
่ อๆไป
่
่
่
์
์
กลไกกำรเกิด สปี ชี ส์ ใหม่ ลัก ษณะนี้ เกิด
จำกประชำกรดัง้ เดิม ในรุ่นบรรพบุ รุ ษ ที่เ คยอำศั ย อยู่ใน
พืน
้ ทีเ่ ดีย วกัน เมื่อ มีอุ ป สรรคมำขวำงกั้น เช่ น ภูเ ขำ
แมน
รุษ
่ ้ำ ทะเล เป็ นต้น ทำให้ประชำกรในรุนบรรพบุ
่
ทีเ่ คยอำศั ยอยูในพื
น
้ ทีเ่ ดียวกัน เกิดกำรแบงแยกออกจำก
่
่
กั น เ ป็ น ป ร ะ ช ำ ก ร ย่ อ ย ๆ แ ล ะ ไ ม่ ค่ อ ย มี ก ำ ร ถ่ ำ ย เ ท
เคลือ
่ นย้ ำยยีน ระหว่ำงกัน ประกอบกับ ประชำกรแต่ละ
แหงต
มก
ี ำรปรับเปลีย
่ นองคประกอบทำงพั
นธุกรรมไป
่ ำงก็
่
์
ตำมทิศทำงกำรคัดเลือกโดยธรรมชำติจนกระทัง่ เกิดเป็ นส
ปี ชส
ี ์ ใหม่
กำรเกิด สปี ชี ส์ ใหม่ ในลัก ษณะแบบนี้ เ ป็ น
กระบวนกำรค่อยเป็ นค่อยไป อำจใช้ เวลำนำนนับ เป็ น
พัน ๆ หรือล้ำน ๆ รุน
เช่น กระรอก 2 สปี ชีส์ใน
่
รัฐอริโซนำ ประเทศสหรัฐอเมริกำซึ่งมีลก
ั ษณะใกล้เคียง
กันมำก แต่พบว่ำอำศั ยอยู่บริเวณขอบเหว แต่ละด้ำน
ของแกรนดแคนยอนซึ่ ง เป็ นหุ บ ผำที่ล ึก และกวำง นั ก
2.2 กำรแยกแขนงสปี ชีส์ ในเขตภู ม ิศ ำสตร ์
เดียวกัน
เกิด จำกกำรเพิ่ม จ ำนวนชุ ด โครโมโซม
ห รื อ เ รี ย ก ว่ ำ ก ำ ร เ กิ ด พ อ ลิ พ ล อ ย ดี
(polyploidy) ในรุนพ
่ อ
่ - แม่ ทำให้เซลล ์
สื บพันธุมี
่
์ จำนวนโครโมโซม 2 ชุด (2n) เมือ
เซลลสื์ บพันธุนี
ม
่ ี
์ ้เกิดกำรปฏิสนธิจะไดไซโกตที
้
โ ค ร โ ม โ ซ ม ม ำ ก ก ว่ ำ 2 ชุ ด เ ช่ น มี
โครโมโซม 3 ชุด (3n) หรือมีโครโมโซม 4
ชุด (4n) ทำให้ได้สิ่ งมีชว
ี ต
ิ สปี ชีส์ใหม่ ส่วน
ใ ห ญ่ จ ะ พ บ ใ น พื ช แ ต่ ใ น สั ต ว ์ ก็ ส ำ ม ำ ร ถ
เกิดขึน
้ ได้ เช่น ตัว Hyla ornata เป็ นสั ตว ์
สะเทินน้ำสะเทินบกพบในแคนำดำ
บรรณำนุ
http://evolution.berkeley.edu/evolibrary/ar
กรม
ticle/evo_39
http://evolutiongroup2.blogspot.com/2012/02/blogpost_1029.html
http://ideal-bio.exteen.com/evolution4
https://sites.google.com/site/biologyroom
610/evolution/evolution4
http://www.thaigoodview.com/node/4722
0
http://www.skoolbuz.com/library/content/
4911
ก ลุ่ ม
จัดทำโดย
8 ศิ รริ กั ษ์
1. นำยกษิดศ
ิ
เลขที่ 2 ก
(ตรวจอักษร)
2. นำงสำวนลพรรณ สิ ทธิกร
เลขที่ 14 ก
(จัดทำขอมู
้ ล)
3. นำยอภิญญะ
วิวฒ
ั นะ
เลขที่ 7 ข
(Design)
4. นำยธีระยุทธ
ประสพบุญ
9ข
(ตรวจอักษร)
5. นำงสำวอรพินท ์
พงษเจริ
์ ญ
16 ข
(ตรวจอักษร)
ชัน
้ มัธยมศึ กษำปี ท ี่ 6/9
เสนอตอ
เลขที่
เลขที่