ภาพนิ่ง 1

Download Report

Transcript ภาพนิ่ง 1

PRINTER
นางสาวกัญญาพัชร
นางสาวธัญญา
นางสาวสุชาดา
คุณารักษ์ 54230007
ศิริวรรณ 54230035
สัมพันธ์มิตร 54230089
เครื่องพิมพ์ (Printer) เป็ นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้ากับ
คอมพิวเตอร์ เพื่อทาหน้ าที่ในการแปลผลลัพธ์ที่ได้จากการ
ประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้อยู่ในรูปของ
อักขระหรือรูปภาพที่ปรากฏอยู่บนกระดาษ
เครื่องพิมพ์แบ่งออกเป็ น 4 ประเภท
1. Dot - matrix printer
2. Ink - jet printer
3. Laser printer
4. Plotter
1. DOT- MATRIX PRINTER
เป็ นที่นิยมในสมัยก่อน
 เป็ นแบบใช้หว
ั เข็ม และใช้ผา้ หมึก
 ระบบการพิมพ์จะใช้ระบบกระแทก
 มักใช้พิมพ์งานที่ ต้องการทาสาเนา
 สามารถพิมพ์กระดาษต่อเนื่ องได้
 อายุการใช้งานค่อนข้างนาน
 ความละเอียดในการพิมพ์ที่ 360 x 360 จุดต่อตารางนิ้ว


หลักการทางาน


การใช้หวั เข็มกระแทกผ่านผ้าหมึกให้เกิดเป็ นภาพ หัวเข็มจะทางาน
ไปทีละบรรทัด ตัวอักษรที่ได้จะค่อยๆ ปรากฏจากด้านบน หัวเข็มจะ
ค่อยๆ พิมพ์ไปทีละบรรทัดจนจบ
ข้อดี




สามารถพิมพ์สาเนาได้มากถึง 4 ฉบับ (ขึน้ อยู่กบั ความสามารถของ
เครื่องพิมพ์)
ผ้าหมึกมีราคาถูก และยังใช้ได้กบั กระดาษต่อเนื่ อง
อะไหล่ และ ค่าซ่อมมีราคาไม่สงู มาก
มีความแข็งแรงทนทานในการใช้งานสูง
 ข้อเสีย



คุณภาพงานพิมพ์ตา่
มีเสียงดังขณะพิมพ์งาน
มีขนาดใหญ่ น้าหนักมาก และ กินกระแสไฟฟ้ ามาก

ตัวอย่างเครื่องพิมพ์ Dot-matrix printer
<< Oki Micro line 390 Turbo
Epson LQ-300+ >>
2. INKJET PRINTER
ปัจจุบนั ค่อนข้างได้รบั ความนิยม
 มีราคาที่ ไม่สงู จนเกินไป
 การพิมพ์เป็ นแบบการพ่นหมึกพิมพ์
เป็ นหยดๆ ลงบน กระดาษ
 พิมพ์งานได้หลากหลาย เช่น
เอกสาร, ภาพถ่าย, โปสการ์ด
 มักมีขนาดไม่เกิน A3


หลักการทางาน
ใช้หลักการพ่นน้าหมึกออกมาเพื่อให้เกิดภาพ หรือตัวอักษร ยิ่ง
มีจานวนสีของหมึกพิมพ์มากยิ่งจะทาให้ภาพที่ได้จากการผสมสี
ของน้าหมึก มีความสมจริง ดูเป็ นธรรมชาติมากยิ่งขึน้
 การทางานของหัวพิมพ์จะเหมือนกับการยิงธนู โดยหัวพิมพ์จะมี
แรงดึงน้าหมึกถอยหลัง เหมือนการดึงลูกธนูก่อนที่จะพ่นน้า
หมึกลงสู่ กระดาษด้วยความแรงที่ต่างกัน ถ้าดึงด้วยแรงที่มาก
พอปล่อยแล้วก็จะพ่นน้าหมึกที่มีขนาดใหญ่ออกมา ถ้าดึงด้วย
แรงที่น้อยก็จะพ่นน้าหมึกที่มีขนาดเล็กออกมา ซึ่งหัวพิมพ์จะ
สามารถควบคุมขนาดของน้าหมึกที่พ่นลงสู่กระดาษเองโดย
อัตโนมัติ


ข้อดี






สามารถพิมพ์ภาพสี หรือ ภาพกราฟิกได้ดี
มีความเร็วและความละเอียดในการพิมพ์สงู
เสียงในขณะพิมพ์จะเงียบมาก
ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และ มีน้าหนักเบา
สามารถเติมน้าหมึกเองได้ในราคาไม่แพง
ข้อเสีย
หัวพิมพ์อดุ ตันได้ง่าย
 หมึกพิมพ์แท้มีราคาแพง
 ราคาอะไหล่ค่อนข้างแพง
 ไม่นิยมซ่อมเพราะค่าซ่อมแพง


ตัวอย่างเครื่องพิมพ์ Inkjet printer
<< CANON PIXMA IP100 MOBILE
EPSON STYLUS OFFICE T1100 A3 >>
3. LASER PRINTER
ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร
 เป็ นการพิมพ์แบบยิงเลเซอร์
 มีคณ
ุ ภาพสูงมากกว่าเครื่อง
พิมพ์แบบพ่นหมึก
 มีหน่ วยความจา ที่ มากกว่า
เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก
 มีราคาสูง การบารุงรักษาสูง
 เหมาะกับการพิมพ์ที่ต้องการ
คุณภาพที่สงู

 หลักการทางาน
ใช้หลักการความร้อน โดยใช้แสงเลเซอร์เสียงหนึ่ งเส้น เมื่อแสง
เลเซอร์ไปกระทบกับกระจก แสงที่กระทบผ่านกระจกก็จะแตก
ออกเป็ นหลายๆ เส้น เส้นที่ผา่ นจากกระจกไปแล้วก็จะไป
กระทบกับโทนเนอร์ โทนเนอร์กจ็ ะบรรจุผงหมึกไว้ เมื่อความ
ร้อนไปกระทบโทนเนอร์ที่บรรจุผงหมึก ผงหมึกที่โดนความร้อน
ก็จะไปกระทบบนกระดาษทาให้เกิดขึน้ มาเป็ นภาพ
 ความเร็ว 15 แผ่นต่อนาทีขึน
้ ไปในเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์แบบ
ขาวดา (Mono Laser Printer)
 ความเร็ว 12 แผ่นต่อนาทีขึน
้ ไปในเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์แบบ
สี (Color Laser Printer)


ขัน้ ตอนการทางานของเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์

1. ใช้แสงเลเซอร์ที่มีความเข้มแสงและรายละเอียดสูงเป็ นตัว
ฉายแสงลงบน Photoreceptor

2. บนผิวของฟิล์มที่เคลือบบน photoreceptor drum เมื่อ drum
หมุนมา แสงเลเซอร์ที่มีข้อมูลจะวาดรูปที่ต้องการลงบน drum
จากนัน้ กลิ้งผงหมึก Toner ลงบน drum ผงหมึก

3. drum จะพิมพ์ลงบนกระดาษ จากนัน้ จะผ่านความร้อนทาให้
หมึกละลาย เกาะติดกระดาษอย่างแน่ นหนาและไม่หลุดลอก
(จะรู้สึกว่ากระดาษอุ่นเมื่อพิมพ์ออกมาเสร็จใหม่ๆ)

ข้อดี






คุณภาพการพิมพ์มีความคมชัดมากที่สดุ
มีความเร็วในการพิมพ์สงู ที่สดุ
เสียงในขณะพิมพ์จะเงียบมาก
ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และ ราคาถูกลงมาก
เราสามรถเติมผงหมึกเองได้ไม่ยาก
ข้อเสีย
ไม่สามารถพิมพ์ภาพสีได้ หากพิมพ์ได้จะมีราคาแพงมาก
 ตลับหมึกของแท้ราคาแพง แต่ปัจจุบน
ั มีแบบนากลับมาใช้ใหม่ได้
 ค่าอะไหล่ และ ค่าซ่อมค่อนข้างแพง


ตัวอย่างเครื่องพิมพ์ Laser printer
<< Fuji Xerox Phaser 3310
Canon Laser Shot LBP-1210 >>
<< Lexmark Optra T420D
4. PLOTTER
ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ
ลงบน
กระดาษที่ทาเฉพาะงาน
 การพิมพ์โดยใช้วิธีเลื่อนกระดาษ
 สามารถใช้ปากกาได้ 6-8 สี
 มีหน่ วยวัดความเร็วเป็ นนิ้วต่อวินาที (Inches Per Second : IPS)
 งานพิมพ์ขนาดใหญ่มีหน้ ากว้าง
 เหมาะกับงานการเขียนแบบทางวิศวกรรม และงานตกแต่ง
ภายใน


มี 2 ประเภท

1. Flatbed Plotter เป็ น
ประเภทที่ใส่กระดาษวางไว้
อยู่กบั ที่ แต่ส่วนเคลื่อนที่คือ
ปากกา ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปมา
บนแกนโลหะ เพื่อวาดลงบน
กระดาษอีกทีหนึ่ ง ขนาดของ
กระดาษที่ใช้มีต่างกันตัง้ แต่
28x43 ซม. จนถึง 2.44x3.66
เมตร อัตราความเร็วของการ
วาดมีตงั ้ แต่ 15 ถึง 100 ซม.
ต่อวินาที นิยมนามาใช้วาด
แผนที่ กราฟ หรือการแสดง
ภูมิอากาศ

2. Drum Plotter เป็ นเครื่องที่มีล้อยางด้านล่าง ทาหน้ าที่เคลื่อนกระดาษ
มีรปู เป็ นทรงกระบอกหรือดรัม มีกระดาษพันรอบ ดรัมนี้ จะหมุนไป
ข้างหน้ าและข้างหลังได้ มีปลายเป็ นเหมือนปากกาติดอยู่เหนื อดรัม ซึ่ง
จะเลื่อนไปซ้ายไปขวาได้ เวลาวาด จะลากเป็ นเส้นลงบนกระดาษ การ
ขยับขึน้ ลงของดรัม และปากกาจะทาให้เกิดเป็ นเส้นตรงหรือเส้นโค้งได้
ความแม่นยาของเครื่องวาดชนิดนี้ มีน้อยกว่าเครื่องวาดแบบระนาบ
(flatbed plotter) แต่ราคาก็ถกู กว่า จึงนิยมใช้กนั มากในเชิงพาณิชย์

หลักการทางาน

รับสัญญาณ จากเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ควบคุมการเลื่อน
ปากกาไปบนกระดาษ สามารถจาแนกได้
เครื่องพล็อตเตอร์ปากกา (Pen Plotter) วาดเส้นหรือาภาพโดยการ
เคลื่อนย้ายดินสอหรือปากกา 1 แห่ง หรือมากกว่า
 เครื่องพล็อตเตอร์ฉีดหมึก (Ink-Jet Plotter) วาดเส้นและรูปทรงเป็ นสี ๆ
ได้ โดยการฉี ดหมึกลงบนกระดาษ เครื่องพล็อตเตอร์ฉีดหมึกนิยมใช้กบั
งานด้านวิศวกรรม และงานออกแบบยานยนต์
 เครื่องพล็อตเตอร์ไฟฟ้ าสถิต (Electrostatic Plotter) ใช้ไฟฟ้ าสถิตใน
การวาดภาพโดยการสร้างจุดเล็ก ๆ บนกระดาษพิเศษ งานที่นิยมใช้
เครื่องพล็อตเตอร์ประเภทนี้ ได้แก่ งานโฆษณา และกานออกแบบ
ภาพกราฟิก
 เครื่องพล็อตเตอร์ความร้อน (Thermal Plotter) วาดเส้นหรือภาพโดย
การใช้หวั เข็มไฟฟ้ า และกระดาษที่ไวต่อความร้อน และพิมพ์ได้เพียง 2
สี เท่านัน้

ขอบคุณ
ค่ะ