ตำนานและพงสวดารท้องถิ่น

Download Report

Transcript ตำนานและพงสวดารท้องถิ่น

ข. ประเภทตำนำน-พงศำวดำรท้ องถิ่น
เอกสารประเภทนี เ้ ป็ นเพียงเอกสารชัน้ รองที่ ใ ช้ ป ระกอบ
การศึกษากับหลักฐานประเภทอื่นแบ่งได้ เป็ น 2 ประเภท
คือ
พระราชพงศาวดาร / ตานานพื ้นบ้ าน
 ตานานศาสนา

- ประเภทพระรำชพงศำวดำรและตำนำนพืน้ บ้ ำน เช่น
 พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริ ฐฯ เป็ นพระราช
พงศาวดารกรุงศรี อยุธยาที่สาคัญ น่าเชื่อถือที่สดุ รวบรวม
ขึ ้นเมื่อ พ.ศ. 2223)
 พงศาวดารเมืองน่าน(พงศาวดารล้ านนาไทย)
 พงศาวดารโยนก เป็ นต้ น
- ประเภทตำนำนศำสนำ ได้ แก่ ชินกาลมาลีปกรณ์
ตานานมูลศาสนา สิหิงคนิทาน เป็ นต้ น
หลักฐานประเภทนี ้จัดเป็ นเอกสารชันที
้ ่ 2 คือ
ข้ อความที่เขียนขึ ้นภายหลังเหตุการณ์ โดยผู้เขียนมิได้
เห็นเหตุการณ์ และอาจเพิ่มเติมความเห็นส่วนตั วเข้ า
ไปด้ วย ดังนันการศึ
้
กษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ที่เป็ นลายลักษณ์อกั ษร (ทังที
้ ่เป็ นศิลาจารึก ใบลาน
สมุดข่อยฯ) จึงจาเป็ นต้ องตรวจสอบและพิจารณาให้
ดีเสียก่อน
ค. จดหมำยเหตุจีน
จดหมายเหตุจีนเป็ นเอกสาร
สาคัญที่ให้ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ของดินแดนในเอเชีย
ตะวันออกเฉี ยงใต้ ที่น่าสนใจซึ่งอาจไม่พบในเอกสารอื่น
เนื่องจากจีนเป็ นชาติที่สนใจประวัติศาสตร์ และราชสานัก
จีนให้ ความสาคัญแก่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การ
บันทึกเหตุการณ์และวันเวลาจึงเป็ นสิ่งสาคัญ ดังนันวั
้ น
เวลาที่กล่าวถึงในจดหมายเหตุจีนจึงมีความน่าเชื่อถือสูง
ข้ อมูลอกสารจีนที่เกี่ยวกับสุโขทัยถือเป็ นข้ อมูลชันที
้ ่ 1 ซึง่
หมายถึงข้ อความที่บันทึกหรื อเล่าโดยผู้อยู่ร่วมสมัยกับ
เหตุการณ์นนๆ
ั้
หลักฐำนที่ไม่ เป็ นลำยลักษณ์ อักษร
ได้ แก่ หลักฐานโบราณคดีและหลักฐานทางศิลปกรรม
ประเภทต่างๆ, หลักฐานจากภาพถ่ายทางอากาศ และ
ภาพถ่ายดาวเทียม, ชุมชนโบราณ
หลักฐานทางโบราณคดีและศิลปกรรม ได้ แก่
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
สถาปั ตยกรรม
ประติมากรรม
จิตรกรรม
เครื่ องสังคโลก
ชุมชนโบราณ
สถำปั ตยกรรม
ก. เจดีย์ เจดีย์สโุ ขทัยแบ่งได้ เป็ น
1. แบบสุโขทัยแท้ ฐานเป็ นสี่เหลี่ยม 3 ชันซ้
้ อนกัน
องค์เจดีย์เหลี่ยมย่อมุม ยอดเป็ นทรงพุ่มข้ าวบิณฑ์
หรื อรูปดอกบัวตูม เช่น ที่วดั มหาธาตุ, วัดตระพังเงิน,
พระเจดีย์องค์กลางที่วดั เจดีย์เจ็ดแถว เมืองศรี สชั นาลัย
(รูป 2,3,4)
2. เจดีย์ทรงกลมหรื อเจดีย์ทรงลังกำ คงได้ อิทธิพลมา
จากเกาะลังกาพร้ อมพุทธศาสนาลัทธิลงั กาวงศ์ ตัวอย่าง
ของเจดีย์แบบนี ้ เช่น เจดีย์ที่วดั ตะกวน, วัดสระศรี
นอกจากนี ้เจดีย์ช้างล้ อมก็จดั อยูใ่ นประเภทนี ้ (รูป 5,6,7)
3. เจดีย์แบบศรี วิชัย หรื อ เจดีย์ทรงปรำสำท คือ
เจดีย์ที่มีฐานและองค์ระฆังสูงทาเป็ นสี่เหลี่ยม บางครัง้ มี
คูหาประดิษฐานพระพุทธรูป ตอนบนเป็ นพระเจดีย์ทรง
กลมแบบลังกา และเจดีย์องค์เล็กๆประกอบอยู่ที่ มมุ
ตัวอย่างได้ แก่ มณฑปวัดเขาใหญ่ และเจดีย์รายบางองค์
ในวัดเจดีย์เจ็ดแถว ลักษณะของเจดีย์แบบนี ้คงได้ รับ
อิทธิพลจากศิลปะศรี วิชยั แต่นกั วิชาการบางท่านกล่าว
ว่าได้ รับแบบอย่างมาจากศิลปะพม่าที่เมืองพุ กาม (รู ป
8,9,10)
เจดีย์อีกแบบหนึง่ ที่พบในสุโขทัย คือ เจดีย์ทรง
จอมแห เป็ นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม ส่วนบนของฐานมีคหู า
ประดิษฐานพระพุทธรูป องค์ระฆังก่อเป็ นริ ว้ คล้ ายแห
ได้ แก่เจดีย์ที่เขาพระบาทน้ อย (รูป 11)
ข. ปรำสำทเขมร
ในกาแพงเมืองเก่าสุโขทัยมีอยูส่ องแห่ง คือ ศาลตาผาแดง
กับปราสาทสามหลังวัดศรี สวาย สร้ างด้ วยอิฐ ศาสนสถาน
ทังสองเป็
้
นปราสาทในศิลปะเขมร (รูป 12,13)
ค. ปรำงค์
สถาปั ตยกรรมสุโขทัยอีกประเภทหนึ่งคือ พระปรางค์
เป็ นสถาปั ต ยกรรมที่ รั บ อิ ท ธิ พ ลขอมแต่มี ลั ก ษณะ
ทรวดทรงที่สงู ชลูดขึ ้นกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น พระ
ปรางค์ที่วดั ศรี สวาย ซึ่งสันนิษฐานว่าแต่เดิมเป็ น
เทวาลัยในศาสนาพราหมณ์ และพระปรางค์วดั พระ
ศรี รัตนมหาธาตุเชลียง (รูป 14-15)
ง. โบสถ์ และวิหำร
โดยทัว่ ไปวิหารสมัยสุโขทัยจะใหญ่กว่าโบสถ์ ผนังก็มกั
เจาะเป็ นช่องลูกกรงเล็กๆแทนหน้ าต่าง ตัวอย่างเช่น
วิหารที่วดั นางพญา เป็ นต้ น (รูป 16)
จ. มณฑป
(เรื อนที่ประดิษฐานพระพุทธรูป) เป็ นสถาปั ตยกรรม
ที่นิยมอีกแบบหนึ่งในสมัยสุโขทัย มีลกั ษณะเป็ นทรงแท่ง
สี่เหลี่ยม และมักมีพระพุทธรูปสี่อิริยาบถประดับที่ผนังด้ าน
นอกทังสี
้ ่ด้าน ตัวอย่าง เช่น มณฑปวัดศรี ชมุ ผนังของ
มณฑปมี 2 ชัน้ มีบนั ไดอยู่กลางซึง่ สามารถเดินขึ น้ ไปที่
ด้ านหลังพระพุทธรูปและหลังคาได้ (รูป 17)
มณฑปนี ้ เป็ นเอกลักษณ์เฉพาะของสถาปั ตยกรรม
เมืองศรี สชั นาลัย มีรูปแบบพิเศษ คือ นิยมสร้ างประตูทาง
เข้ าด้ านหน้ าโค้ งแหลม (แบบโค้ งกลีบบัว) มีซ้ มุ ประตูซ้อน
กัน 2 ชัน้ แบ่งออกเป็ น
ก. มณฑปขนาดเล็ก – นิยมประดิษฐานพระพุทธรูป
ปางมารวิชยั เช่น มณฑปวัดชมชื่น วัดกุฎีราย
วัดสวนแก้ วอุทยานน้ อย (รูป 18,19,20)
ข. มณฑปขนาดใหญ่ – ประดิษฐานพระพุทธรูปปาง
ลีลาหรื อยืน เช่น มณฑปวัดพญาดา วัดสระปทุม
วัดหัวโขน