ตัวอย่าง power point

Download Report

Transcript ตัวอย่าง power point

ตัวอยา่ ง
พันตรี วรวุฒิ อยู่เย็น
สั สดีอำเภอปำกเกร็ด
ประวัติส่วนตัว
และการทางาน
หัวข้ อบรรยำย
- พ.ร.บ. รับรำชกำรทหำร ๒๔๙๗
- ขั้นตอนกำรตรวจเลือกฯ
หน้ ำที่ของชำยไทยตำมกฎหมำย
บุคคลมีหน้ ำทีป่ ้ องกันประเทศ รักษำผลประโยชน์
ของชำติและปฏิบัติตำมกฎหมำย
.. รัฐธรรมนูญแห่ งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ.๒๕๕๐
หมวด ๔ มำตรำ ๗๑
บุคคลมีหน้ ำทีร่ ับรำชกำรทหำร.. ทั้งนี้
ตำมที่กฎหมำยบัญญัติ
.. รัฐธรรมนูญแห่ งรำชอำณำจักรไทย
พ.ศ.๒๕๕๐ หมวด ๔ มำตรำ ๗๓
พระรำชบัญญัติรับรำชกำรทหำร พ.ศ.๒๔๙๗
ชำยที่มีสัญชำติเป็ นไทยตำมกฎหมำย มีหน้ ำที่
รับรำชกำรทหำรด้ วยตนเองทุกคน
.. หมวด ๑ มำตรำ ๗
คำจำกัดควำม
๑ วิธีนับอำยุ ถ้ ำเกิดพุทธศั กรำชใดให้ ถือว่ ำมีอำยุครบหนึ่งปี
บริ บูรณ์ เมื่อสิ้ นพุทธศั กรำชที่เกิดนั้ น ส่ วนกำรนั บอำยุ
ต่ อไปให้ นับแต่ เฉพำะปี ทีส่ ิ้นพุทธศักรำชแล้ว ถ้ ำไม่ ปรำกฏ
ปี เกิดให้ นำยอำเภอท้ องที่เป็ นผู้กำหนด ตำมทีก่ ำหนดใน
กฎกระทรวง
๒ ทหำรกองเกิน หมำยควำมว่ ำ ผู้ซึ่งมีอำยุต้ังแต่ สิบแปดปี
บริ บู ร ณ์ และยั ง ไม่ ถึ ง สำมสิ บ ปี บริ บู ร ณ์ ซึ่ ง ได้ ล งบั ญ ชี
ทหำรกองเกินตำมมำตรำ ๑๖ หรื อผู้ซึ่งได้ ลงบัญชี ทหำร
กองเกินตำมมำตรำ ๑๘ แล้ ว
คำจำกัดควำม
๓ ทหำรกองประจำกำร หมำยควำมว่ ำ ผู้ซึ่งขึน้ ทะเบียนกอง
ประจำกำร และได้ เข้ ำรับรำชกำรในกองประจำกำรจนปลด
๔ ทหำรกองหนุนประเภทที่ ๑ หมำยควำมว่ ำ ทหำรทีป่ ลดจำก
กองประจำกำรโดยรับรำชกำรในกองประจำกำรจนครบ
กำหนด หรือทหำรกองเกินซึ่งสำเร็จฝึ กวิชำทหำรตำม
กฎหมำย ฯ
ม.๑๖
บรรดำชำยซึ่งมีสัญชำติไทย เมือ่ มีอำยุย่ำงเข้ ำ
สิ บแปดปี ในพุทธศักรำชใดให้ ไปแสดงตนเพือ่ ลงบัญชี
ทหำรกองเกินภำยในพุทธศักรำชนั้น
ปี เกิด + ๑๗ = ลงบัญชีปีนั้น
ม.๕
บุคคลซึ่งต้ องลงบัญชีทหำรกองเกิน
ให้ ลงบัญชีที่อำเภอดังต่ อไปนี้
(๑) บุคคลซึ่งบิดำยังมีชีวติ อยู่หรือถ้ ำบิดำถึงแก่กรรมแล้ว
มำรดำยังมีชีวติ อยู่ หรือถ้ ำทั้งบิดำและมำรดำถึงแก่กรรม
แล้ วมีผู้ปกครองให้ ลงบัญชีทหำรกองเกินทีอ่ ำเภอท้ องทีท่ ี่
บิดำหรือมำรดำหรือผู้ปกครองมีภูมลิ ำเนำแล้ วแต่ กรณี
(๒) บุคคลซึ่งเกิดนอกสมรสและ บิดำมิได้ จดทะเบียน
รับรองบุตร หรือถ้ ำมำรดำถึงแก่ กรรมแล้ วมีผู้ปกครอง
ลงบั
ญ
ชี
ท
หำรกองเกิ
น
ที
อ
่
ำเภอท้
อ
งที
ท
่
่
ี
ม
ำรดำ
ให้
หรือผู้ปกครองมีภูมลิ ำเนำแล้ วแต่ กรณี
(๓) บุคคลนอกจากที่กล่าวใน (๑) และ (๒)
หรื อบุคคลที่ไม่อาจลงบัญชีทหารกองเกินตาม (๑)
หรื อ (๒) ได้ไม่วา่ ด้วยกรณี ใดก็ตาม
ให้
ลงบัญชีทหารกองเกินที่อาเภอท้องที่ที่
บุคคลนั้นมีภูมิลาเนา ถ้าบุคคลนั้นไม่ปรากฏ
ภูมิลาเนาก็ให้ลงบัญชีทหารกองเกินทีอ่ าเภอ
ท้องที่ที่พบตัวบุคคลนั้น ฯลฯ
๑. บัตรประจำตัวประชำชน
๒. สำเนำทะเบียนบ้ ำนฉบับเจ้ ำบ้ ำน
๓. สู ตบิ ัตร
ม.๑๘ บุคคลซึ่งยังมิได้ ลงบัญชีทหำรกองเกิน
ที่อำเภอพร้ อมกับคนชั้นปี เดียวกันเพรำะเหตุ
ใด ๆ ก็ดี ถ้ ำอำยุยงั ไม่ ถงึ สี่ สิบหกปี บริบูรณ์ ให้
ปฏิบัติทำนองเดียวกับ ม.๑๖ ภำยในสำมสิ บวัน
นับแต่ วนั ที่สำมำรถจะปฏิบัติได้ แต่ จะให้ ผู้อนื่
แจ้ งแทนไม่ ได้ ฯลฯ
ผู้ทลี่ งบัญชีทหำรกองเกินตำม ม.๑๖ ให้ ถือว่ ำ
เป็ นทหำรกองเกินตั้งแต่
วันที่ ๑ มกรำคม ของ พ.ศ.ถัดไป
ผู้ทลี่ งบัญชีทหำรกองเกินตำม ม.๑๘ ให้ ถือว่ ำ
เป็ นทหำรกองเกินตั้งแต่
วันที่ลงบัญชีทหำรกองเกิน
หน้ ำที่ชำยไทยตำม พ.ร.บ.รับรำชกำรทหำรฯ
บรรดำชำยซึ่งมีสัญชำติไทย เมือ่ มีอำยุย่ำงเข้ ำสิ บแปดปี
ในพุทธศักรำชใด ให้ ไปแสดงตนเพือ่ ลงบัญชีทหำรกองเกินภำย
ในพุทธศักรำชนั้น
... หมวด ๓ มำตรำ ๑๖
อธิบำย
๑๗ ปี บริบูรณ์
ม.ค. – ธ.ค.
ลงบัญชีทหำร
เขต/อำเภอภูมลิ ำเนำบิดำ/มำรดำ/ผู้ปกครอง/ตนเอง... แล้ วแต่ กรณี
๒๕๓๘ + ๑๗ = ๒๕๕๕
๒๕๓๙ + ๑๗ = ๒๕๕๖
๒๕๔๐ + ๑๗ = ๒๕๕๗
ทหำรกองเกินเมือ่ มีอำยุย่ำงเข้ ำยีส่ ิ บเอ็ดปี ในพุทธศักรำชใด
ต้ องไปแสดงตนเพือ่ รับหมำยเรียกทีอ่ ำเภอท้ องทีซ่ ึ่งเป็ นภูมลิ ำเนำ
ทหำรของตนภำยในพุทธศักรำชนั้น ... หมวด ๔ มำตรำ ๒๕
อธิบำย
๒๐ ปี
ม.ค. – ธ.ค.
รับหมำยเกณฑ์
ปี เกิด + ๒๐ = ปี รับหมำยเรียก
๒๕๓๘ + ๒๐ = ๒๕๕๘
๒๕๓๙ + ๒๐ = ๒๕๕๙
๒๕๔๐ + ๒๐ = ๒๕๖๐
ทหำรกองเกินซึ่งถูกเรียกต้ องมำให้ คณะกรรมกำรตรวจ
เลือกทำกำรตรวจเลือกตำมกำหนดนั้น... ถ้ ำไม่ มำหรือ
มำแต่ ไม่ เข้ ำรับกำรตรวจเลือก... หรือไม่ อยู่จนกว่ ำกำรตรวจ
เลือกแล้ วเสร็จ.... ให้ ถือว่ ำทหำรกองเกินนั้นหลีกเลีย่ งขัดขืน
... หมวด ๔ มำตรำ ๒๗
๒๑ ปี
๑ - ๑๒ เม.ย.
ตรวจเลือกทหำร
ควำมผิดตำม พ.ร.บ.รับรำชกำรทหำร พ.ศ.๒๔๙๗
๑. มำตรำ ๔๔ ไม่ ไปลงบัญชีทหำร/ไม่ ไปรับหมำยเกณฑ์
ตำมกำหนด จำคุกไม่ เกิน ๓ เดือน หรือปรับไม่ เกิน
๓๐๐ บำท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
๒. มำตรำ ๔๕ ไม่ เข้ ำรับกำรตรวจเลือกจำคุกไม่ เกิน ๓ ปี
๓. กรณีในข้ อ ๒ หำกศำลติดสิ นว่ ำมีควำมผิด เมื่อเข้ ำเกณฑ์
จะถูกให้ เป็ นทหำรโดยไม่ มสี ิ ทธิจับสลำก
นักศึกษำวิชำทหำร เมื่อศึกษำจนจบปี ที่ ๓ แล้ ว
จะได้ รับกำรขึน้ ทะเบียนและนำปลดเป็ นทหำรกองหนุน
แต่ งตั้งยศและมีสภำพเป็ นกำลังพลสำรอง จะต้ องปฏิบัติ
หน้ ำที่ตำมมำตรำ ๓๖ ตำมรำชกำรกำหนด
(๑:๑:๑:๓:)
ทหำรกองเกินหรือทหำรกองหนุนมีหน้ ำทีเ่ ข้ ำรับรำช
กำรทหำร ในกำรเรียกพลเพือ่ ตรวจสอบ เพือ่ ฝึ กวิชำทหำร
หรือเพือ่ ทดลองควำมพรั่งพร้ อม และในกำรระดมพล
... หมวด ๕ มำตรำ ๓๖
ผู้ใดหลีกเลีย่ งขัดขืน ไม่ เข้ ำรับกำรเรียกพลเพือ่ ฝึ ก
วิชำทหำร เพือ่ ทดลองควำมพรั่งพร้ อม หรือกำรระดมพล
ตำม ม. ๓๖ ต้ องระวำงโทษจำคุกตั้งแต่ ๓ เดือน ถึง ๔ ปี
... หมวด ๗ มำตรำ ๔๖
ผู้ใดหลีกเลีย่ งขัดขืน ไม่ เข้ ำรับกำรเรียกพลเพือ่ ตรวจสอบ
ตำม ม.๓๖ ระวำงโทษจำคุกไม่ เกิน ๓ เดือน หรือปรับไม่ เกิน
๓๐๐ บำท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
... หมวด ๗ มำตรำ ๔๗
กำรยกเว้ นสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
กำรยกเว้นไม่ ต้องเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ (ยกเว้นตลอดไป) ได้ แก่ มำตรำ ๑๓
(๑) พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์/เป็ นเปรียญและนักบวชในพระพุทธศำสนำ
แห่ งนิกำยจีนหรือญวนที่มีสมณศักดิ์
(๒) คนพิกำรทุพพลภำพซึ่งไม่ สำมำรถเป็ นทหำรได้
(๓) บุคคลซึ่งไม่ มีคุณวุฒิที่จะเป็ นทหำรได้ เฉพำะ
บำงท้ องที่ตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง
กำรยกเว้ นสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
กำรยกเว้นไม่ เรียกมำตรวจเลือกเข้ ำรับรำชกำรทหำร
ในยำมปกติได้ แก่ มำตรำ ๑๔ บุคคลดังต่ อไปนี้ เมื่อลงบัญชีทหำร
กองเกินแล้วไม่ เรียกมำตรวจเลือกฯ ในยำมปกติ
(๑) พระภิกษุ สำมเณร และนักบวชในพระพุทธศำสนำ
ที่เป็ นนักธรรม ตำมที่กระทรวงศึกษำธิกำรรับรอง
(๒) นักบวชศำสนำอืน่ ตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง
และผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดออกใบสำคัญให้
(๓) บุคคลซึ่งอยู่ในระหว่ ำงกำรฝึ กวิชำทหำรตำม
กฎหมำยว่ำด้ วยกำรส่ งเสริมกำรฝึ กวิชำทหำร
กำรยกเว้ นสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
(๔) นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหำร
(๕) ครู ซึ่งประจำทำกำรสอนหนังสื อหรือวิชำกำร
ทั้งนีต้ ำมทีก่ ำหนดในกฎกระทรวง
(๖) นักศึกษำของศูนย์ กลำงอบรมกำรศึกษำผู้ใหญ่
ของกระทรวงศึกษำธิกำร
(๗) นักศึกษำของศูนย์ ฝึกกำรบินพลเรือน
ของกระทรวงคมนำคม
กำรยกเว้ นสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
(๘) บุคคลซึ่งได้ สัญชำติไทยโดยกำรแปลงสั ญชำติ
(๙) บุคคลซึ่งได้ รับโทษจำคุกตั้งแต่ สิบปี ขึน้ ไป
หรือเคยได้ รับโทษจำคุกหลำยครั้งรวมกันตั้งแต่ สิบปี
ขึน้ ไปหรือเคยถูกศำลพิพำกษำให้ กกั กัน
กำรยกเว้ นสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
ครู ทจี่ ะมีสิทธิได้ รับกำรยกเว้ น ตำมมำตรำ ๑๔ (๕)
- เป็ นครู ประจำทำกำรสอนนักเรียน นิสิตหรือนักศึกษำ
- จำนวนนักเรียน นิสิต นักศึกษำไม่ น้อยกว่ ำ ๑๕ คนเป็ นปกติ
- มีเวลำสอนไม่ น้อยกว่ ำ ๑๘ ชม. /สั ปดำห์ สำหรับครู
ประจำทำกำรสอนตั้งแต่ มัธยมศึกษำลงมำ
หรือไม่ น้อยกว่ ำ ๑๕ /สั ปดำห์ ชั่วโมงสำหรับครู ประจำ
ทำกำรสอนในสถำนศึกษำระดับสู งกว่ ำมัธยมศึกษำ
กำรยกเว้ นสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
กำรดำเนินกำรขอยกเว้ น
ให้ ผ้ ูมีสิทธิทจี่ ะขอยกเว้ นยืน่ หลักฐำนต่ อนำยอำเภอท้ องที่
ถึงผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด แล้ วแต่ กรณี เพือ่ ขอยกเว้ นก่ อนกำร
ตรวจเลือกฯ ในปี นั้น
กำรผ่ อนผันสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
กำรผ่ อนผัน
บุคคลทีไ่ ด้ รับกำรผ่ อนผันฯตำม พ.ร.บ.
รับรำชกำรทหำรพ.ศ.๒๔๙๗ กำหนดไว้ ใน
มำตรำ ๒๗ และมำตรำ ๒๙
กำรผ่ อนผันสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
มำตรำ ๒๗
(๑) ข้ ำรำชกำรซึ่งได้ รับคำสั่ งของผู้บังคับบัญชำ
ให้ ไปรำชกำรอันสำคัญยิง่
(๒) นักเรียนซึ่งออกไปศึกษำวิชำ ณ ต่ ำงประเทศ
ตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง
(๓) ข้ ำรำชกำรหรือผู้ปฏิบัตงิ ำนในสถำนทีร่ ำชกำร
หรือโรงงำนอืน่ ใดในระหว่ ำงที่มีกำรรบหรือกำรสงครำม
กำรผ่ อนผันสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
(๔) บุคคลซึ่งกำลังปฏิบัตงิ ำนในรำชกำรสนำม
(๕) เกิดเหตุสุดวิสัย
(๖) ไปเข้ ำตรวจเลือกที่อนื่
(๗) ป่ วยไม่ สำมำรถจะมำได้ โดยให้ บุคคลซึ่งบรรลุนิติภำวะ
และเชื่อถือได้ มำแจ้ งต่ อคณะกรรมกำรตรวจเลือก
กำรผ่ อนผันสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
มำตรำ ๒๙
(๑) บุคคลทีจ่ ำเป็ นต้ องหำเลีย้ งบิดำหรือมำรดำซึ่ง
ไร้ ควำมสำมำรถ/พิกำรทุพพลภำพ/ชรำจนหำเลีย้ งชีพไม่ ได้
(๒) บุคคลทีจ่ ำเป็ นต้ องหำเลีย้ งบุตรซึ่งมำรดำตำย
หรือไร้ ควำมสำมำรถ หรือพิกำรทุพพลภำพ (รวมทั้งพีห่ รือ
น้ องร่ วมบิดำหรือมำรดำด้ วย)
(๓) บุคคลทีอ่ ยู่ในระหว่ ำงกำรศึกษำตำมทีก่ ำหนด
ในกฎกระทรวง
กำรผ่ อนผันสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
กำรดำเนินกำรขอผ่ อนผัน
- บุคคลทีม่ ีสิทธิผ่อนผันตำมมำตรำ ๒๗(๑) (๓) และ(๔)
ให้ ส่วนรำชกำรทีเ่ กีย่ วข้ องแจ้ งต่ อผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดผ่ อนผันให้
- สำหรับบุคคลทีม่ ีสิทธิผ่อนผันตำมมำตรำ๒๗(๒)ให้ สำนักงำน กพ.,
ผู้ขอผ่ อนผัน หรือผู้ปกครองแล้ วแต่ กรณีขอผ่ อนผันต่ อ
- ผู้ว่ำรำชกำรกรุงเทพฯ/ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด กรณีทุนรัฐบำล
- ผู้อำนวยกำรเขต/นำยอำเภอ กรณีทุนส่ วนตัว
ทั้งนี้ ก่ อนกำรตรวจเลือกในปี นั้น
กำรผ่ อนผันสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
กำรขอผ่ อนผันตำมมำตรำ ๒๙(๑)และ(๒)
ให้ ผ้ ูขอผ่ อนผัน ขอผ่ อนผันต่ อนำยอำเภอท้ องทีก่ ่ อน
วันตรวจเลือกฯไม่ น้อยกว่ ำ ๓๐ วันเพือ่ พิจำรณำ เว้ นกรณีพเิ ศษ
ซึ่งไม่ ใช่ ควำมผิดของผู้ร้องให้ ร้องต่ อประธำนกรรมกำร
ตรวจเลือกในวันตรวจเลือกฯ สำหรับผู้อยู่ระหว่ ำงกำรศึกษำ
ตำมมำตรำ ๒๙(๓) ให้ สถำบันกำรศึกษำส่ งรำยชื่อให้
ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเพือ่ ขอผ่ อนผันภำยในเดือน ก.พ. ของปี
ที่จะเข้ ำรับกำรตรวจเลือกฯ
กำรยกเว้ น/ผ่ อนผันสำหรับกำรเข้ ำรับรำชกำรทหำรฯ
มำตรำ ๑๕
บุคคลซึ่งพ้นจำกฐำนะยกเว้ น/ผ่ อนผันตำมที่
กำหนดไว้ ในมำตรำ ๑๓(๑) มำตรำ ๑๔(๑),(๒),(๓),(๕),(๖)
หรือ(๗) มำตรำ ๒๗(๒) หรือ ๒๙(๓) ให้ แจ้ งด้ วยตนเอง
ต่ อนำยอำเภอภูมิลำเนำทหำรภำยในสำมสิ บวันนับแต่ วนั ที่
พ้นฐำนะเช่ นนั้น เพือ่ รับหมำยเรียกฯเข้ ำรับกำรตรวจเลือกฯ
ในปี ต่ อไป หรือเพือ่ ดำเนินกำรทำงบัญชีทหำรฯที่เกีย่ วข้ อง
ขั้นตอนกำรเกณฑ์ ทหำรและกำรปฏิบัติ
๑. เตรียมร่ ำงกำย
๒. เตรียมหลักฐำน
บัตรประชำชน, สด.๙, หมำยเกณฑ์ , หลักฐำนกำรศึกษำ,
ใบรับรองแพทย์ และประวัติกำรรักษำ(ถ้ ำมี)
๓. ไปถึงสถำนที่ก่อนเวลำ ๐๗๐๐
๔. รอฟังเรียกชื่อตำมลำดับ (อย่ ำให้ พลำด)
๑. เรียกชื่อ ตรวจหลักฐำน พิมพ์ลำยนิว้ มือ
๒. ตรวจควำมสมบูรณ์ ของร่ ำงกำย
คนจำพวกที่ ๑ : ร่ ำงกำยสมบูรณ์ ไม่ พกิ ำรหรือมีโรคทีข่ ดั ต่ อ
(จับสลำก)
กำรรับรำชกำรทหำร
คนจำพวกที่ ๒ : ร่ ำงกำยเห็นได้ ชัดว่ ำไม่ สมบูรณ์ ดเี หมือนคน
(คัดออก)
จำพวกที่ ๑ แต่ ไม่ ถึงทุพพลภำพ
คนจำพวกที่ ๓ : ร่ ำงกำยยังไม่ แข็งแรงพอเพรำะป่ วยซึ่งจะ
(เกณฑ์ ใหม่ ) บำบัดให้ หำยภำยในกำหนด ๓๐ วันไม่ ได้
คนจำพวกที่ ๔ : พิกำรทุพพลภำพ หรือมีโรคทีไ่ ม่ สำมำรถ
(คัดออก)
รับรำชกำรทหำรได้
๓. วัดขนำดร่ ำงกำย
๑. คนจำพวกที่ ๑ ได้ ขนำด
สู ง ๑๖๐ ซม. รอบตัว ๗๖ ซม. ขึน้ ไป ... จับสลำก
๒. คนจำพวกที่ ๑ ขนำดถัดรอง
สู ง ๑๕๙-๑๔๖ ซม. รอบตัว ๗๖ ซม.ขึน้ ไป ... ปล่ อย
๓. คนจำพวกที่ ๑ ไม่ ได้ ขนำด
สู งตำ่ กว่ ำ ๑๔๖ ซม. รอบตัวต่ำกว่ ำ ๗๖ ซม ... ปล่ อย
๔. จับสลำก
ใบดำ
ใบแดง
:
:
ปล่อย
รับรำชกำรตำมกำหนด
ผลัด ๑
ผลัด ๒
ผลัด ๒
ผลัด ๓
ผลัด ๔
๑ พ.ค.(ทบ.,ทอ.,ทร.)
๑ พ.ย.(ทบ.,ทอ.)
๑ ส.ค.(ทร.)
๑ พ.ย.(ทร.)
๑ ก.พ.(ปี ถัดไป)
สิ ทธิต่ำงๆ ในกำรเกณฑ์ ทหำร
กำรลดวันรับรำชกำร
รด.ปี ๑
... สมัคร ๑ ปี จับสลำก ๑ ปี ๖ เดือน
รด.ปี ๒, ป.ตรี , ปวส. , อนุปริญญำ
... สมัคร ๖ เดือน จับสลำก ๑ ปี
ม.๖ หรือเทียบเท่ ำ
... สมัคร ๑ ปี
ต้ องยืน่ คำร้ องพร้ อมหลักฐำนในวันเกณฑ์ เท่ ำนั้น!!
กำรขอสละสิ ทธิผ่อนผัน
๑. แจ้ งต่ อเขต/อำเภอ ภูมลิ ำเนำทหำร
๒. แจ้ งต่ อกรรมกำรในวันเกณฑ์
- ยืน่ คำร้ องภำยใน ๑๒.๐๐ น.
ข้ อแนะนำ
๑. หำกคิดว่ ำตนเองมีโรคที่ขัดต่ อกำรเป็ นทหำร ให้ ไปขอรับ
กำรตรวจโรคก่ อนเกณฑ์ ได้ ที่โรงพยำบำลในสั งกัดกองทัพ
บกทั่วประเทศ ตั้งแต่ ต.ค. – ๒๐ ก.พ. ของปี ที่เกณฑ์
๒. ผู้เข้ ำตรวจเลือกทุกคนจะต้ องได้ รับใบรับรองผลกำร
ตรวจเลือก (แบบ สด.๔๓) จำกประธำนกรรมกำรในวัน
เกณฑ์ เท่ ำนั้น จึงจะถือว่ ำได้ ผ่ำนกำรเกณฑ์ โดยถูกต้ อง
ตำมกฎหมำย
เรื่องอืน่ ๆ ที่เกีย่ วข้ องกำรตรวจเลือกฯ
กฎกระทรวงฉบับที่ ๗๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕)
ให้ เพิม่ (๑๒) ของวรรคสำม ในข้ อ ๓ แห่ ง กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๓๗ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ซึ่งแก้ไขเพิม่ เติมโดยกฎกระทรวงฉบับที่ ๔๗
(พ.ศ. ๒๕๑๘) ดังนี้
“(๑๒) ภำวะเพศสภำพไม่ ตรงกับเพศกำเนิด (Gender Identity disorder)”
ภำวะเพศสภำพไม่ ตรงกับเพศกำเนิด
(Gender Identity Disorder)
1. ทำกำรแปลงเพศแล้ ว
2. ปรับเปลีย่ นร่ ำงกำยให้ เป็ นสภำพของเพศหญิง
แต่ ยงั ไม่ แปลงเพศ
3. ไม่ ได้ แปลงเพศ และไม่ ได้ ปรับเปลีย่ นร่ ำงกำย
แต่ มหี นังสื อรับรองของ รพ.หรือสถำบันทำงกำรแพทย์
ของรัฐ โดยแพทย์ ทำงจิตเวชเป็ นผู้วนิ ิจฉัย
เรื่องอืน่ ๆ ที่เกีย่ วข้ องกำรตรวจเลือกฯ
กฎกระทรวงฉบับที่ ๗๖ (พ.ศ. ๒๕๕๕)
แก้ไขเพิม่ เติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗๔(พ.ศ. ๒๕๔๐) ดังนี้
ข้อ ๑ ให้เพิ่มความ
“(ซ) ประสาทการเคลื่อนไหวลูกตาไม่ทางาน สู ญเสี ยอย่างถาวร
(Cranial nerve 3rd,4th, 6th)”
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความใน (ก) ของ (๔) ในข้อ ๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(ก) โรคเลือดหรื ออวัยวะสร้างเลือดผิดปกติอย่างรุ นแรงและอาจเป็ น อันตรายถึงชีวิต”
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความใน (๕) ของข้อ ๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๕) โรคระบบหายใจ
(ก)โรคหื ด (Asthma) ที่ได้รับการวินิจฉัยตามเกณฑ์การวินิจฉัย
เรื่องอืน่ ๆ ที่เกีย่ วข้ องกำรตรวจเลือกฯ
(ข) โรคทางปอดที่มีอาการไอ หอบเหนื่อย และมีการสูญเสี ยการทางานของระบบ
ทางเดินหายใจ โดยตรวจสอบสมรรถภาพปอดได้ค่า Forced Expiratory Volume
in One Secondหรื อ Forced Vital Capacity ต่ากว่าร้อยละ ๖๐ ของค่ามาตรฐานตามเกณฑ์
(ค) โรคความดันเลือดในปอดสูง (Pulmonary Hypertension) ซึ่ งวินิจฉัยโดย
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสี ยงความถี่สูง (Echocardiogram) หรื อโดยการใส่ สายวัดความ
ดันเลือดในปอด
(ง) โรคถุงน้ าในปอด (Lung Cyst) ที่ตรวจวินิจฉัยได้โดยภาพถ่ายรังสี ทรวงอก
หรื อเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอด
(จ) โรคหยุดการหายใจขณะนอนหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ซึ่ งวินิจฉัย
ด้วยการตรวจการนอนหลับ (Polysomnography)”
เรื่องอืน่ ๆ ที่เกีย่ วข้ องกำรตรวจเลือกฯ
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความใน (ก) ของ (๗) ในข้อ ๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(ก) โรคข้อหรื อความผิดปกติของข้อ ดังต่อไปนี้
๑) ข้ออักเสบเรื้ อรัง (Chronic Arthritis)
๒) ข้อเสื่ อมเรื้ อรัง (Chronic Osteoarthritis)
๓) โรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบเรื้ อรัง (Spondyloarthropathy)”
ข้อ ๕ ให้เพิม่ ความต่อไปนี้เป็ น (ช) ของ (๘) ในข้อ ๒
“(ช) ภาวะต่อมธัยรอยด์ทางานมากผิดปกติ (Hyperthyroidism)”
เรื่องอืน่ ๆ ที่เกีย่ วข้ องกำรตรวจเลือกฯ
ข้อ ๖ ให้ยกเลิกความใน (๑๑) ของข้อ ๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๑๑) โรคทางจิตเวช
(ก) โรคจิตที่มีอาการรุ นแรงหรื อเรื้ อรัง
๑) โรคจิตเภท (Schizophrenia)
๒) โรคจิตกลุ่มหลงผิด (Resistant Delusional Disorder, Induced Delusional
Disorder)
๓) โรคสคิซโซแอฟแฟ็ คทีป (Schizoaffective Disorder)
๔) โรคจิตที่เกิดจากโรคทางกาย (Other Mental Disorder due to Brain
Damage and Dysfunction)
๕) โรคจิตอื่น ๆ (Unspecified Nonorganic Psychosis)
เรื่องอืน่ ๆ ที่เกีย่ วข้ องกำรตรวจเลือกฯ
(ข) โรคอารมณ์แปรปรวนที่มีอาการรุ นแรงหรื อเรื้ อรัง
๑) โรคอารมณ์แปรปรวน (Manic Episode, Bipolar Affective Disorder)
๒) โรคอารมณ์แปรปรวนที่เกิดจากโรคทางกาย (Other Mental Disorder
due to Brain Damage and Dysfunction and to Physical Disorder)
๓) โรคอารมณ์แปรปรวนอื่น ๆ (Other Mood (Affective) Disorder,
Unspecified Mood Disorder)
๔) โรคซึ มเศร้า (Depressive Disorder, Recurrent Depressive Disorder)
(ค) โรคพัฒนาการทางจิตเวช
๑) จิตเจริ ญล่าช้าที่มีระดับเชาว์ปัญญา ๗๐ หรื อต่ากว่า (Mental Retardation)
๒) โรคหรื อความผิดปกติในการพัฒนาการของทักษะทางสังคมและภาษา
(Pervasive Developmental Disorder)”
เรื่องอืน่ ๆ ที่เกีย่ วข้ องกำรตรวจเลือกฯ
ข้อ ๗ ให้ยกเลิกความใน (ค) ของ (๑๒) และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(ค) ตับอักเสบเรื้ อรัง (Chronic Hepatitis)”
ข้อ ๘ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็ น (ฌ) ของ (๑๒) ในข้อ ๒
“(ฌ) โรคผิวหนังลอกหลุดตัวผิดปกติแต่กาเนิ ดชนิ ดเด็กดักแด้ (Lamellar Ichthyosis
& Congenital Ichthyosiform Erythroderma)”
เรื่องอืน่ ๆ ที่เกีย่ วข้ องกำรตรวจเลือกฯ
กำรแก้ ไขกฎกระทรวงฉบับที่ ๔๕ ( พ.ศ.๒๕๑๘)
บุคคลซึ่งไม่ มีคุณวุฒจิ ะเป็ นทหำรได้ เฉพำะบำงท้ องที่
โดยปัจจุบัน กห. อนุมัตใิ ห้ แก้ ไขพืน้ ทีย่ กเว้ นดังกล่ ำวแล้ ว ขั้นตอน
ต่ อไปเป็ นเรื่องของคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ และคณะกรรมกำร
สิ ทธิมนุษยชนได้ มีข้อห่ วงใยเรื่องของสิ ทธิทสี่ ำมำรถย้ อนหลังได้
หรือไม่ โดยทำงหน่ วยให้ ยดึ หลักตำมข้ อกฎหมำยคือสำมำรถ
ลงบัญชีทหำรกองเกินได้ ต้งั แต่ อำยุ ๑๗ – ๔๕ ปี บริบูรณ์ แต่ จะมี
ผลในกำรตรวจเลือกฯ เฉพำะอำยุ ๒๑ – ๒๙ ปี บริบูรณ์
สอบถำมเพิม่ เติม
๑. สั สดีเขต, สั สดีอำเภอ, สั สดีจังหวัด
๒. เว็บไซต์ www.sussadee.com
๓. เบอร์ โทร ๐ - ๒๒๒๓ - ๓๒๕๙