Transcript Lecture 2
หล ักสูตรอบรม ิ ธิภาพและผลิตภาพของการผลิตสน ิ ค้า การว ัดประสท เกษตรด้วยแบบจาลอง DEA ผศ. ดร. ศุภว ัจน์ รุง ่ สุรย ิ ะวิบล ู ย์ คณะเศรษฐศาสตร์ ี งใหม่ มหาวิทยาล ัยเชย Lecture 2: ขอบเขตเนือ ้ หา • แบบจาลองการวิเคราะห์การล้อมกรอบข้อมูล (DEA model) • แบบจาลอง input-orientated CRS CCR DEA • แบบจาลอง output-orientated CRS CCR DEA • แบบจาลอง input-orientated VRS BCC DEA • แบบจาลอง output-orientated VRS BCC DEA แบบจาลองการวิเคราะห์การล ้อมกรอบข ้อมูล (DEA model) • การวิเคราะห์การล้อมกรอบข้อมูล (Data Envelopment ้ Analysis, DEA) เป็ นวิธ ีท ี่ใ ช ค้ านวณหาเส นพรมแดน (frontier) โดยอาศัยหลักการคานวณทางคณิตศาสตร์ (nonparametric) • ้ เสนพรมแดนที ถ ่ ก ู คานวณด ้วยวิธ ี DEA เกิดจากการสร ้างเขตแดน การผลิตโดยการล ้อมกรอบข ้อมูลจากกลุม ่ ตัวอย่างทัง้ หมด และ ้ อาศัย การแก ้ปั ญ หาโปรแกรมมิง่ เช งิ เส นตรงเพื ่อ ค านวณหาค่า ิ ธิภาพของแต่ละหน่วยผลิต ประสท • ั เชน ่ วิธ ี DEA ไม่จาเป็นต้องกาหนดรูปแบบของฟังก์ชน ั ทีก Cobb-Douglas หรือ Translog ให ้แก่ฟังก์ชน ่ าลังพิจารณา ้ ่ (SFA) เหมือนในกรณีของแบบจาลองเสนพรมแดนเช งิ เฟ้ นสุม แบบจาลองการวิเคราะห์การล ้อมกรอบข ้อมูล (DEA model) • แบบจาลองการวิเคราะห์การล้อมกรอบข้อมูล สามารถแบ่ง ออกตามข้อสมมติฐานของเทคโนโลยีการผลิตได้เป็น 1. แบบจาลองระยะผลได ้ต่อขนาดคงที่ (CRS DEA model) 2. แบบจาลองระยะผลได ้ต่อขนาดไม่คงที่ (VRS DEA model) • แบบจาลอง DEA สามารถแบ่งตามการว ัดได้เป็น 1. วัดจากปั จจัยการผลิต (input-orientated DEA model) 2. วัดจากผลผลิต (output-orientated DEA model) • ใ น ที่ นี้ จ ะ เ ริ่ ม ต น ้ ด ว้ ย ก า ร พิ จ า ร ณ า แ บ บ จ า ล อ ง inputorientated CRS DEA แบบจาลอง input-orientated CRS DEA • Charnes, Cooper และ Rhodes (1978) เสนอแบบจาลอง DEA โดยอาศั ย วิธ ี ก ารวั ด ปั จจั ย การผลิต (input-orientated) และก าหนดคุณ สมบั ต ข ิ องเทคโนโลยีก ารผลิต ภายใต ้ระยะที่ ผลได ้ต่อขนาดคงที่ (constant returns to scale, CRS) • แบบจาลองเรียกว่า input-orientated CRS CCR DEA • พิจารณาหน่วยผลิตแต่ละหน่วย (Decision Making Unit, DMU) จากจานวนทัง้ หมด N ราย ใชปั้ จจัยการผลิต K ชนิดเพือ ่ ผลิต ิ ค ้า M ชนิด สน • i คือ ดัชนีแสดงหน่วยผลิต i = 1,…, I n คือ ดัชนีแสดงปั จจัยการผลิต n = 1,…, N m คือ ดัชนีแสดงผลผลิต m = 1,…, M • ว ัตถุประสงค์ของแบบจาลอง DEA คือ สร ้างเขตแดนการผลิต ั การ โดยการล ้อมกรอบข ้อมูลของกลุม ่ ตัวอย่างทัง้ หมดและอาศย ้ ิ ธิภาพ แก ้ปั ญหาโปรแกรมมิง่ เชงิ เสนตรงเพื อ ่ คานวณหาค่าประสท ของหน่วยผลิตแต่ละราย แบบจาลอง input-orientated CRS CCR DEA ้ พรมแดน (frontier) ทีส เสน ่ ร้างจากแบบจาลอง DEA เกิดจากการล ้อม กรอบข ้อมูลจากกลุม ่ ตัวอย่างทัง้ หมด โดยไม่มข ี ้อมูลทีเ่ กิดขึน ้ จริง (observed ้ พรมแดนด ังกล่าว ้ data) ถูกวางอยูภ ่ ายนอกเสนพรมแดนที ได ้สร ้างขึน ้ เสน ้ ตรงของข้อมูลต่างๆทีส ั ันธ์ซงึ่ ก ันและก ัน จะเป็นด้านประกอบเชงิ เสน ่ มพ ้ เสนพรมแดนที ก ่ าหนดได ้จากหน่วย ผลิต A, B, C, D, E คือ เสน้ A’ADD’ A’ ◘ λA C ้ พรมแดน ณ ตาแหน่ง C’ บนเสน xC’ = (λA*xA) + (λD*xD) ◘ λD ด ังนน ั้ xC’ ≤ xC L(y) ◘ C’ 0 E ◘ A ั ระยะทางปั จจัยการผลิตของ ฟั งก์ชน หน่วยผลิต C = OC/OC’ ≥ 1 B ◘ X2 D D’ X1 กาหนด θC = TEI = OC’/OC ≤ 1 ด ังนน ั้ xc’ = θcxc แบบจาลอง input-orientated CRS CCR DEA ้ ในทีน ่ ต ี้ อ ้ งการให้คา ่ θ มีคา ่ น้อยทีส ่ ด ุ ภายใต ้เสนพรมแดนที ่ ถูกกาหนดขึน ้ จากการล ้อมกรอบข ้อมูลทัง้ หมด พิจารณาหน่วยผลิตที่ k Notation: • i = 1,...,k,...,I DMUs (decision-making units) • m = 1,..., M outputs • n = 1,...,N inputs Model output: • efficiency score θi • λ factors for each DMU แบบจาลอง input-orientated CRS CCR DEA • สาหรับหน่วยผลิตรายที่ 1 ภายใต ้เงือ ่ นไขบังคับ θ1 min θ ,λ y11 λ11 y11 λ 21 y12 λ I 1 y1I 0 y21 λ11 y21 λ 21 y22 λ I 1 y2 I 0 yM 1 λ11 yM 1 λ 21 yM 2 λ I 1 yMI 0 θx11 λ11x11 λ 21x12 λ I 1 x1I 0 θx21 λ11x21 λ 21 x22 λ I 1 x2 I 0 θx N 1 λ11x N 1 λ 21x N 2 λ I 1 x NI 0 λ11 , λ 21 , , λ I1 0 ตัวอย่าง The professorial contest Professor y x1 x2 1 l 2 5 2 3 2 3 2 6 4 6 4 1 3 2 5 2 6 2 Y= จานวนบทความทีส ่ ามารถตีพม ิ พ์ได ้ในแต่ละปี X1 = ้ ั ดาห์ จานวนชวั่ โมงทีใ่ ชในการเขี ยนบทความในแต่ละสป X2 = จานวนผู ้ชว่ ยวิจัย ตัวอย่าง แบบจาลอง input-orientated CRS CCR DEA • พิจารณากระบวนการผลิตทีป ่ ระกอบไปด ้วย: ปั จจัยการผลิต 2 ชนิด และผลผลิต 1 ชนิด โดยทีจ ่ านวนหน่วยผลิตทัง้ หมด 5 ราย • พิจารณาหน่วยผลิตรายที่ 1 minθ,λ θ1 ภายใต ้เงือ ่ นไขบังคับ y11 λ11 y11 λ 21 y12 λ 51 y15 0 θx11 λ11 x11 λ 21 x12 λ 51 x15 0 θx21 λ11 x21 λ 21 x22 λ 51 x25 0 λ11 , λ 21 , , λ 51 0 โปรแกรม Excel • ดูต ัวอย่าง professorial contest ในแฟ้ม Excel การแก ้ปั ญหาความหย่อนยานในแบบจาลอง DEA ปัญหาความหย่อนยาน (slack) สามารถแบ่งออกได้เป็น 1. ความหย่อนยานของปัจจ ัยการผลิต (input slack) หมายถึง การที่ ้ หน่วยผลิตทาการผลิตอยูบ ่ นเสนพรมแดนการผลิ ตแต่สามารถลดการใช ้ ิ ค ้าได ้ในปริมาณเท่าเดิม ปั จจัยการผลิต โดยสามารถผลิตสน 2. 1. ความหย่อนยานของผลผลิต (output slack) หมายถึง การทีห ่ น่วย ้ ผลิตทาการผลิตอยูบ ่ นเสนพรมแดนการผลิ ตแต่สามารถเพิม ่ ผลผลิตได ้โดย ใชปั้ จจัยการผลิตในปริมาณเท่าเดิม การขจ ัดปัญหาความหย่อนยานสามารถทาได้โดยการแก้ไขสมการ ข้อจาก ัดของผลผลิตและปัจจ ัยการผลิต สมการข ้อจากัดของผลผลิตสามารถแก ้ไขดังนี้ I แก้ไขเป็น 2. ym k λ ik ym i sm k 0 i 1 สมการข ้อจากัดของปั จจัยการผลิตสามารถแก ้ไขดังนี้ แก้ไขเป็น I θ xnk λ ik xni snk 0 i 1 สมการข ้อจากัดของผลผลิต สมการข้อจาก ัดผลผลิต: สามารถแก้ไขโดยการกาหนดค่า slack ของผลผลิตลงในสมการ ด ังนี:้ I ymk ik ymi smk 0 Y yB B i 1 ● λB = 0.5 C* yC, ∑ypλp ◘ ● C -yC +[(0.5 * yA) + (0.5 * yB)] – 0 = 0 λA = 0.5 yA A● s+ yD ◘ 0 ● D -yD +[(1.0 * yA)] – s+ = 0 X สมการข ้อจากัดของปั จจัยการผลิต สมการข้อจาก ัดปัจจ ัยการผลิต: สามารถแก้ไขโดยการกาหนดค่า slack ของปัจจ ัยการผลิตลงใน สมการ ด ังนี:้ I Y θ xnk λ ik xni snk 0 sB ● ● λB = 0.5 C* Q ● ◘ ● λA = 0.5 C i 1 D (1.0 * xD) - [(1.0 * xB)] - S- = 0 (0.5 * xC) - [(0.5 * xA) + (0.5 * xB)] - 0 = 0 A ● θ C QC /QC 0.5 0 θCxC, ∑xpλp xC X แบบจาลอง output-orientated CRS CCR DEA ้ เสนพรมแดนที ถ ่ ก ู กาหนดจาก หน่วยผลิต A, B, C, D, E คือ เสน้ A’ADD’ y2 A A’ λA ◘ λD ◘ C’ B ◘ ◘ ้ พรมแดน ณ ตาแหน่ง C’ บนเสน D C yC’ = (λA* yA) + (λD*yD) ◘ 0 ั ระยะทางผลผลิตของ ฟั งก์ชน หน่วยผลิต C = OC/OC’ ≤ 1 ด ังนน ั้ yC ≤ yC’ E P(x) D‘ y1 กาหนด ФC = 1/TEo = OC’/OC ≥ 1 ด ังนน ั้ yc’ = Φcyc แบบจาลอง output-orientated CRS CCR DEA ้ ในทีน ่ ต ี้ อ ้ งการให้คา ่ Φ มีคา ่ มากทีส ่ ด ุ ภายใต ้เสนพรมแดนที ถ ่ ก ู กาหนดขึน ้ จากการล ้อมกรอบข ้อมูลทัง้ หมด Notation: • i = 1,...,k,...,I DMUs (decision-making units) • m = 1,..., M outputs • n = 1,...,N inputs Model output: • efficiency score Φ • λ factors for each DMU แบบจาลอง output-orientated CRS CCR DEA • พิจารณากระบวนการผลิตทีป ่ ระกอบไปด ้วยปั จจัยการผลิต 2 ชนิด และผลผลิต 1 ชนิด และหน่วยผลิตทัง้ หมดจานวน 5 ราย • สาหรับหน่วยผลิตรายที่ 1 ภายใต ้เงือ ่ นไขบังคับ maxΦ,λ Φ1 Φy11 λ11 y11 λ 21 y12 λ 51 y15 0 x11 λ11x11 λ 21x12 λ 51x15 0 x21 λ11x21 λ 21x22 λ 51x25 0 λ11,λ 21,, λ 51 0 การประยุกต์ใชด้ ้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โปรแกรมการคานวณ DEA • Excel, Lindo, Shazam – ผู ้ใชต้ ้องเขียนคาสงั่ ในการคานวณ DEA เอง • DEAP – Dos-based DEA program • EMS, Onfront, Warwick DEA – Windows-based DEA program ตัวอย่าง The professorial contest Professor y x1 x2 1 l 2 5 2 2 2 4 3 3 6 6 4 1 3 2 5 2 6 2 Y= จานวนบทความทีส ่ ามารถตีพม ิ พ์ได ้ในแต่ละปี X1 = ้ ั ดาห์ จานวนชวั่ โมงทีใ่ ชในการเขี ยนบทความในแต่ละสป X2 = จานวนผู ้ชว่ ยวิจัย โปรแกรม DEAP • DEAP – (Data Envelopment Analysis Program) – Tim Coelli, University of Queensland, Australia – Free of charge – Downloadable at http://www.uq.edu.au/economics/cepa/software.htm ้ การใชโปรแกรม DEAP • Create a data file from any spreadsheet software • Copy data into a data file for DEAP program • Create instruction file for DEAP program • Execute DEAP program to produce an output file แบบฝึ กหัด 1 • Data – 5 DMUs – 1 output and 2 inputs • Original Data file – eg1to4.xls • Data file – prof.txt • Instruction file – Prof-ins.txt • Output file – profo.txt Firm y x1 x2 1 1 2 5 2 2 2 4 3 3 6 6 4 1 3 2 5 2 6 2 แบบฝึ กหัด 1 • Data file – prof.txt 1 1 2 5 2 2 2 4 3 3 6 6 4 1 3 2 5 2 6 2 แบบฝึ กหัด 1 • Instruction file – Prof-ins.txt prof.txt profo.txt 5 1 1 2 0 0 0 DATA FILE NAME OUTPUT FILE NAME NUMBER OF FIRMS NUMBER OF TIME PERIODS NUMBER OF OUTPUTS NUMBER OF INPUTS 0=INPUT AND 1=OUTPUT ORIENTATED 0=CRS AND 1=VRS 0=DEA(MULTI-STAGE), 1=COST-DEA, 2=MALMQUISTDEA, 3=DEA(1-STAGE), 4=DEA(2-STAGE) x2/y x1/y แบบจาลอง variable returns to scale (VRS) Banker, Charnes, และ Cooper (1984) ได ้พัฒนาแบบจาลองของ Charnes, Cooper และ Rhodes (1978) เพือ ่ วิเคราะห์กรณีทเี่ ทคโนโลยี การผลิตมีคณ ุ สมบัตริ ะยะทีผ ่ ลได ้ต่อขนาดแปรผัน (variable returns to scale, VRS) แบบจาลองดังกล่าวเรียกว่า แบบจาลอง VRS BCC DEA y CRS T พิจารณาหน่วยผลิต P TECRS = APC/AP S R TEVRS = APV/AP SE = APC/APv A PC Pv P TECRS = TEVRSxSE S VRS x แบบจาลอง input-orientated VRS BCC DEA ภายใต้เทคโนโลยีการผลิต VRS สามารถทาได ้โดยการกาหนด เงือ ่ นไขบ ังค ับของการเว้าเข้า (convexity constraint) ้ เพิม ่ เติมในการแก ้ปั ญหาโปรแกรมมิง่ เชงิ เสนตรง Model output: • efficiency score θi • λ factors for each DMU I λ ik i 1 1 Convexity condition แบบจาลอง input-orientated VRS BCC DEA • พิจารณากระบวนการผลิตทีป ่ ระกอบไปด ้วยปั จจัยการผลิต 2 ชนิด และผลผลิต 1 ชนิด และหน่วยผลิตทัง้ หมดจานวน I ราย • สาหรับหน่วยผลิตรายที่ 1 ภายใต ้เงือ ่ นไขบังคับ minθ,λ θ1 y11 λ11 y11 λ 21 y12 λ I 1 y1I 0 θx11 λ11x11 λ 21x12 λ I 1 x1I 0 θx21 λ11x21 λ 21x22 λ I 1 x2 I 0 λ11 λ 21 λ I1 1 แบบจาลอง output-orientated VRS BCC DEA Model output: • efficiency score 1/Φ • λ factors for each DMU Convexity condition แบบจาลอง output-orientated VRS BCC DEA • พิจารณากระบวนการผลิตทีป ่ ระกอบไปด ้วยปั จจัยการผลิต 2 ชนิด และผลผลิต 1 ชนิด และหน่วยผลิตทัง้ หมดจานวน I ราย • สาหรับหน่วยผลิตรายที่ 1 maxφ ,λ Φ1 ภายใต ้เงือ ่ นไขบังคัΦบy λ y λ y λ y 0 11 11 11 21 12 I 1 1I x11 λ11x11 λ 21x12 λ I 1 x1I 0 x21 λ11x21 λ 21x22 λ I 1 x2 I 0 λ11 λ 21 λ I1 1 Non-increasing returns to scale (NIRS) Non-increasing returns to scale (NIRS) สามารถกาหนด ได้โดยการแก้ไขเงือ ่ นไขบ ังค ับของการเว้าเข้า (convexity constraint) เป็น I λ ik 1 i 1 เงือ ่ นไขด ังกล่าวแสดงว่าให้เห็นว่า หน่วยผลิต i จะไม่ถก ู นามาใชเ้ ป็น benchmark ของหน่วยผลิตทีม ่ ข ี นาดใหญ่กว่า แต่จะถูกนามาใชเ้ ป็น benchmark ของหน่วยผลิตทีม ่ ข ี นาดเล็ก กว่าเท่านนเท่ ั้ านน ั้ Non-increasing returns to scale (NIRS) y CRS T NIRS S R A PC Pv P S VRS x ่ ง IRTS ถ้า TENIRS ≠ TEVRS แสดงถึงการผลิตอยูใ่ นชว ่ ง DRTS ถ้า TENIRS = TEVRS แสดงถึงการผลิตอยูใ่ นชว ตัวอย่าง แบบจาลอง VRS และ CRS DMU y x 1 l 2 2 2 4 3 3 3 4 5 5 5 5 6 แบบฝึ กหัด 1 แบบจาลอง VRS และ CRS • Instruction file – bcc.txt bcc.txt bcco.txt 5 1 1 1 0 1 0 DATA FILE NAME OUTPUT FILE NAME NUMBER OF FIRMS NUMBER OF TIME PERIODS NUMBER OF OUTPUTS NUMBER OF INPUTS 0=INPUT AND 1=OUTPUT ORIENTATED 0=CRS AND 1=VRS 0=DEA(MULTI-STAGE), 1=COST-DEA, 2=MALMQUISTDEA, 3=DEA(1-STAGE), 4=DEA(2-STAGE) แบบจาลอง ต ้นทุนตา่ สุด กรณีทรี่ าคาของปัจจ ัยการผลิตสามารถจ ัดหาได้ min * wi xi λ ,xi x* คือ ปริมาณปั จจัยการผลิตทีท ่ าให ้ ต ้นทุนตา่ สุดและคานวณหาได ้จาก LPs I s.t . . λ ik ym i ym i 1 xn I λ ik xni i 1 I λ i 1, i 1 λ ik 0 Convexity condition ตัวอย่าง แบบจาลอง ผู ้ผลิตต ้องการต ้นทุนตา่ สุด DMU y x1 x2 w1 w2 1 l 2 5 1 3 2 2 2 4 1 3 3 3 6 6 1 3 4 1 3 2 1 3 5 2 6 2 1 3 y= ผลผลิต x1 = ปั จจัยการผลิตชนิดที่ 1 w1 = ราคาปั จจัยการผลิตชนิดที่ 1 x2 = ปั จจัยการผลิตชนิดที่ 2 w2 = ราคาปั จจัยการผลิตชนิดที่ 2 แบบฝึ กหัด 2 ผู ้ผลิตต ้องการต ้นทุนตา่ สุด • Instruction file – cost.txt cost.txt costo.txt 5 1 1 2 0 0 1 DATA FILE NAME OUTPUT FILE NAME NUMBER OF FIRMS NUMBER OF TIME PERIODS NUMBER OF OUTPUTS NUMBER OF INPUTS 0=INPUT AND 1=OUTPUT ORIENTATED 0=CRS AND 1=VRS 0=DEA(MULTI-STAGE), 1=COST-DEA, 2=MALMQUISTDEA, 3=DEA(1-STAGE), 4=DEA(2-STAGE) แบบจาลอง ผู ้ผลิตต ้องการรายรับมากสุด กรณีทรี่ าคาของผลผลิตสามารถจ ัดหาได้ max * λ , yi I i 1 y* คือ ปริมาณผลผลิตทีท ่ าให ้ได ้รายรับ มากสุดและคานวณหาได ้จาก LPs pi yi I s.t . . λ ik ym i ym k i 1 xnk I λ ik xni i 1 I λ ik 1, i 1 λ ik 0 Convexity condition แบบฝึ กหัด 3 • พิจ ารณากระบวนการผลิต ที่ป ระกอบไปด ้วยผลผลิต 1 ชนิด ั พันธ์ดงั นี้ และปั จจัยการผลิต 3 ชนิด ดังความสม y = f(x1,x2,x3) • ข ้อมูลการผลิตของหน่วยผลิตจานวน 20 ราย ระยะเวลา 5 ปี ื่ Ex lecture 2 agricultural ถูกกาหนดในตัวอย่าง file ชอ data