Document 7355166

Download Report

Transcript Document 7355166

่
ดร. ยิงมณี
ตระกูลพัว
ไวร ัสก่อโรคทางเดินหายใจ
ระบบทางเดินหายใจแบ่งเป็ น 2 ส่วน
1. ส่วนบน (upper respiratory tract)
โพรงจมู ก คอหอย กล่องเสียง
2. ส่วนล่าง (lower respiratory tract)
หลอดลม ถุงลม ปอด
อาการหลังการติดเชือ้
้
1. โรคติดเชือทางเดิ
นหายใจส่วนบน
หวัด (common cold) มีอาการไข้ ไอ มีน้ ามู ก
คออ ักเสบ (pharyngitis)
ต่อมทอนซิลอ ักเสบ (tonsillitis)
้
2. โรคติดเชือทางเดิ
นหายใจส่วนล่าง
หลอดลมอ ักเสบ (bronchitis)
ปอดอ ักเสบ (pneumonitis)
ปอดบวม (pneumonia)
Influenza virus
• ไวร ัสก่อโรคไข้หวัดใหญ่
• Family
Orthomyxoviridae
• กรดนิ วคลีอค
ิ เป็ น RNA
, มี envelope
้
• มีการระบาดเกิดขึน
บ่อยเนื่องจาก genetic
recombination
้ั อเนื
่
่องจากมีเชือต
้ ัวใหม่
• เกณฑ ์การตงชื
ตลอดเวลา
1. Type
่
้
2. ชนิ ดของสัตว ์ทีแยกเชื
อได้
ถ้าแยกจากคน
ไม่ตอ
้ งบอก
่ แยกเชื
่
้
3. สถานทีที
อได้
้ แยกได้
่
้
4. ลาด ับของเชือที
ในปี นัน
่
้
5. ปี ค.ศ. ทีแยกเชื
อไวร
ัสได้
6. ถ้าเป็ น type A ต้องบอก subtype H, N
Ex. A/Bangkok/1/79 (H3N2)
การติดต่อและพยาธิกาเนิ ด
้
• ไวร ัสเข้าสู ่รา่ งกายโดยหายใจเอาเชือจาก
อากาศ ละอองน้ ามู ก น้ าลาย
• ไวร ัสทาให้ความหนื ดของเมือกบริเวณ
ทางเดินหายใจลดลง ทาให้ไวร ัสเข้าสู ่เซลล ์ได้
่ ปวดศีรษะ
• อาการของโรค มีไข้สูง หนาวสัน
่
้ มีน้ ามู ก เจ็บคอ คออ ักเสบ
ปวดเมือยกล้
ามเนื อ
หลอดลมอักเสบ
Rhinovirus
• ไวร ัสก่อโรคไข้หวัด
ธรรมดา (common
cold)
• Family
Picornaviridae
Genus Rhinovirus
• กรดนิ วคลีอค
ิ เป็ น
RNA , icosahedral
capsid
การติดต่อและพยาธิกาเนิ ด
่
• ติดต่อทางการหายใจ สัมผัสโดยตรงกับเยือ
เมือกบุทางเดินหายใจ
่ จมู ก
่ านวนในเซลล ์เยือบุ
• ไวร ัสเพิมจ
• อาการคัดจมู ก มีน้ ามู ก จาม เจ็บคอ ปวดศีรษะ
ไอโดยไม่มไี ข้ อาจมีอาการปอดบวม หรือ
หลอดลมอก
ั เสบ
ไวร ัสก่อโรคอุจจาระร่วง
Rotavirus
•
Family Reoviridae,
Genus Rotavirus
• กรดนิ วคลีอค
ิ เป็ น RNA
, icosahedral capsid
• Capsid เรียงตัวเป็ น 2
้ั คล้ายซีล้
่ อเกวียน
ชน
(rota)
การติดต่อและพยาธิกาเนิ ด
่
้ อนเชือ้ ติดต่อใน
• ติดต่อโดยกินอาหารทีปนปื
ครอบคร ัว หรือในกลุ่มเด็กเล็กตามโรงเรียน
้
สถานร ับเลียงเด็
ก
• ไวร ัสมีความทนทานในสภาวะแวดล้อม
่ านวนในเซลล ์บุภายในลาไส้เล็ก
• ไวร ัสเพิมจ
โดยจาเพาะต่อเซลล ์ส่วนปลาย villus
• การย่อย ดูดซึมอาหารเสียไป เกิดลาไส้อ ักเสบ
อุจจาระร่วง
่
• พบในเด็กอายุตากว่
า 2 ขวบ
่
่
่ งสุดในเดือน
• ระบาดในเดือนทีฝนเริ
มตก
เพิมสู
อาการของโรค
่
• มีไข้ อาเจียนเนื่ องจากลาไส้เคลือนไหว
น้อยลง
• อุจจาระร่วงประมาณ 2-5 วัน มีลก
ั ษณะเป็ น
น้ า
• รุนแรงมากอาจทาให้รา่ งกายเสียน้ า
(dehydration)
เกิดภาวะเสียสมดุลของ electrolyte
ไวร ัสก่อโรคตับอ ักเสบ
• แบ่งเป็ น 2 กลุ่มตามวิธก
ี ารติดต่อ
่
้ อนด้วย
1. ทางการกินอาหาร หรือน้ าทีปนเปื
อุจจาระ
่ เชือ้
ทีมี
้
- HAV, HEV ก่อให้เกิดการติดเชือแบบ
เฉี ยบพลัน
2. ทางเลือด หรือเข็มฉี ดยา ทางเพศสัมพันธ ์
จากมารดาไปสู ่ทารก
- HBV, HCV, HDV ก่อให้เกิดการติดเชือ้
Hepatitis A virus (HAV)
• Family Picornaviridae, Genus Hepatovirus
• กรดนิ วคลีอค
ิ เป็ น RNA , icosahedral capsid
่ านวนในเซลล ์
• เข้าสู ่รา่ งกายโดยการกิน ไวร ัสเพิมจ
่ ผวิ ในลาไส้ ก่อนเข้าสู ่กระแสเลือด และก่อการ
เยือบุ
้
ติดเชือในเซลล
์ต ับ
• ระยะฟั กตัว 2-4 สัปดาห ์
้ กไม่แสดงอาการ บางรายมีอาการ
• การติดเชือมั
่
คลืนไส้
อาเจียน ท้องเสีย ต่อมาพบอาการดีซา่ น ตัว
เหลือง ตาเหลือง เนื่องจากตับอ ักเสบ
้ ้ง
• จะหายเป็ นปกติใน 3-8 สัปดาห ์ ไม่เป็ นพาหะเรือร
Hepatitis B virus (HBV)
• Family Hepadnaviridae
Genus Orthohepadnavirus
• กรดนิ วคลีอค
ิ เป็ น DNA , icosahedral capsid
มี envelope
• ผิวนอกประกอบด้วยโปรตีน hepatitis B surface
Ag (HBsAg) บน envelope
• โปรตีนส่วน nucleocapsid เรียกว่า hepatitis B
core antigen (HBcAg)
่
• โปรตีนทีสลายจาก
HBcAg เรียกว่า HBeAg
การติดต่อและพยาธิกาเนิ ด
• ติดต่อทางการร ับเลือด
ผลิตภัณฑ ์ของเลือด
เพศสัมพันธ ์ จากมารดาสู ่
ทารก
้ ความทนทานที่
• เชือมี
อุณหภู มห
ิ อ
้ ง
อยู ่ได้นานถึง 6 เดือน
• ในซีร ัมพบอนุ ภาค 3 แบบ
- ขนาด 42 nm
(Dane particle)
HBsAg
อาการของโรค
• ไม่แสดงอาการ
• อาการต ับอ ักเสบเฉี ยบพลัน
่
มีไข้ เบืออาหาร
วิงเวียน และมีอาการต ัวเหลือง
ตาเหลือง
่
- เมือหายจะตรวจพบ
anti-HBs
้
- หรืออาจมีอาการตับอ ักเสบรุนแรง ถึงขัน
เสียชีวต
ิ
้ ้ง
• พาหะเรือร
ตรวจพบ HBsAg นานเกิน 6 เดือน
่ แสดงอาการ
- เป็ นพาหะทีไม่
Hepatitis D virus (HDV)
• เป็ น defective virus
• กรดนิ วคลีอค
ิ เป็ น RNA , capsid ไม่ช ัดเจน
่ จาก HBV
มี envelope ทีได้
การติดเชือ้
แบ่งเป็ น 2 รู ปแบบ
1. Coinfection
้ั
การติดเชือ้ HBV ร่วมกับ HDV ในครงแรก
ทาให้โอกาสเกิดตับวายสู ง
2. Superinfection
่ นพาหะ HBV
การติดเชือ้ HDV ในคนทีเป็
เกิดอาการตับอักเสบรุนแรง อาจเสียชีวต
ิ
จากภาวะตบ
ั วาย
Hepatitis C virus (HCV)
• Family Flaviviridae
• กรดนิ วคลีอค
ิ เป็ น RNA , icosahedral capsid
มี envelope
• ศึกษาจาก HCV gene เนื่ องจากแยกอนุ ภาคไวร ัสไม่ได้
serum จากผู ป
้ ่ วยฉี ดในลิงชิมแปนซี
สกัด viral RNA
complementary DNA (cDNA) นาไป clone ใน
expression vector
HCV gene
• Structural gene (1/3-1/4 ของ genome)
สร ้าง core (nucleocapsid protein), envelope
protein (E1, E2)
• Nonstructural gene (2/3-3/4 ของ genome)
่ านวนของไวร ัส
สร ้างโปรตีน เอนไซม ์ในการเพิมจ
• Non-coding region
5’ , 3 ’ untranslated region ควบคุมการ
ทางานของยีนต่างๆ
การติดต่อและพยาธิกาเนิ ด
•
•
ติดต่อทางเลือด ผลิตภัณฑ ์จากเลือด
้ ัง มะเร็งตับ
เกิดอาการตับอ ักเสบ ตับอ ักเสบเรือร
Hepatitis E virus (HEV)
• Family Caliciviridae
• กรดนิ วคลีอค
ิ เป็ น RNA , icosahedral
capsid
• เข้าสู ่รา่ งกายทางการกิน ระยะฟั กตัว 2-9
สัปดาห ์
่ านวนในเซลล ์ตับ ทาให้ต ับอ ักเสบ
เพิมจ
เกิดอาการเหลือง
้ เกิดภาวะเรือร
้ ังหรือเป็ น
• การติดเชือไม่
Hepatitis G virus (HGV)
• ค้นพบโดย Genelabs Technologies ในปี
1995
• Family Flaviviridae กรดนิ วคลีอค
ิ เป็ น
RNA
้ ัง
• ติดต่อทางเลือด เกิดตับอก
ั เสบเรือร
GB agents (GBV-A, GBV-B, GBV-C)
• ค้นพบโดย Abbott Laboratories ในปี
1995