โครงงาน “ชาอูหลง” เครือ ่ งดืม ่ ่ ในตานาน จัดทาโดย นักเรียนมัธยมศึ กษาปี ท6ี่ โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคมจังหวัด สมุทรปราการ สั งกัดสานักงานพืน ้ ทีก ่ ารศึ กษา ศึ กษา มัธยมศึ กษาเขต 6

Download Report

Transcript โครงงาน “ชาอูหลง” เครือ ่ งดืม ่ ่ ในตานาน จัดทาโดย นักเรียนมัธยมศึ กษาปี ท6ี่ โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคมจังหวัด สมุทรปราการ สั งกัดสานักงานพืน ้ ทีก ่ ารศึ กษา ศึ กษา มัธยมศึ กษาเขต 6

โครงงาน “ชาอูห
่ ลง” เครือ
่ งดืม
่
ในตานาน
จัดทาโดย
ึ ษาปี ท6
นักเรียนมัธยมศก
ี่
โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคมจังหวัด
สมุทรปราการ
ึ ษา
สงั กัดสานักงานพืน
้ ทีก
่ ารศก
ึ ษา
ึ ษาเขต 6
ศก
มัธยมศก
่
ทีมาของ
โครงงาน “ชาอูห
่ ลง”
เครือ
่ งดื่ ม
่ ในต
านาน
่
่
เครืองดืมในปั จจุบน
ั ทีได้ร ับความ
่ ด หนี ไม่พน
้ คือ
นิ ยมมากทีสุ
่
่ “ชา” ถ้าพู ดถึง ชา จะต้อง
เครืองดื
ม
่ นเครืองดื
่
่ มี
่
นึ กถึง “ชาจีน” ซึงเป็
มที
“ตานาน”ความเป็ นมาอน
ั ยาวนานที่
้ หลากหลาย
น่ าสนใจ ชาจีนนันมี
ประเภท หลากหลายชนิ ด ส่วนชาจีน
่ ชอเสี
่ ดของจีนคือ “ชาอู ่
ทีมี
ื่ ยงทีสุ
้
หลง” ฉะนันแล้
ว คณะผู จ
้ ด
ั ทาจึง
ประวัตค
ิ วามเป็ นมาของ “ชาจีน”中国茶
ย ้อนไปถึงปี 2737ก่อนคริสต์กาล ก็กว่า
ิ
4700 ปี มาแล ้ว ในรัชสมัยของจักรพรรดิเสน
ิ เสด็จล่าสต
ั ว์ ขณะทรง
วันหนึง่ จักรพรรดิเสน
พักผ่อนใต ้ร่มไม ้ และทรงต ้มน้ าดืม
่ หน ้ากอง
ไฟ มีกระแสลมพัด พาเอาใบไม ้หล่นลงใน
ิ น้ า
หม ้อน้ าทีก
่ าลังต ้ม เมือ
่ จักรพรรดิทรงชม
ทีต
่ ้ม พบว่ามีรสชาติดแ
ี ละมีกลิน
่ หอมจาก
ใบไม ้ชนิดนัน
้ คือใบชา และจากนัน
้ มา ชาก็
กาเนิดขึน
้ เป็ นทีร่ ู ้จักและนิยมดืม
่ กันไปทั่ว
โลกตราบจนถึงปั จจุบัน
ประเภทของ “ชาจีน”
ชา สามารถจัดประเภทตามกระบวนการแปรรูปต่างๆ ได ้
ดังนีต
้ อ
่ ไปนี้
 ชาขาว: ตูมชาและยอดอ่อนชาทีถ
่ ก
ู ทิง้ ให ้สลด แต่ไม่ได ้
บ่ม เมือ
่ ชงชาแล ้วจะได ้ครือ
่ งดืม
่ ทีม
่ ส
ี เี หลืองอ่อน
 ชาเหลือง: ใบชาทีไ
่ ม่ได ้ถูกทิง้ ให ้สลด และไม่ได ้บ่ม แต่
ทิง้ ใบชาให ้เป็ นสเี หลือง
 ชาเขียว: ใบชาทีไ
่ ม่ได ้ถูกทิง้ ให ้สลดและไม่ได ้บ่ม เมือ
่
ชงจะได ้เครือ
่ งดืม
่ สเี ขียวอ่อน
ั่
 ชาแดง: ใบของชาเขียวทีผ
่ า่ นกระบวนการออกซเิ ดชน
หรือการหมัก จนได ้เป็ นใบชาสเี ข ้ม เมือ
่ ชงจะได ้
ี ้ าตาลแดง
เครือ
่ งดืม
่ สน
 ชาอูห
่ ลง: ใบชาทีท
่ งิ้ ให ้สลด นวด และบ่มเล็กน ้อย
เครือ
่ งดืม
่ ทีไ่ ด ้จะมีสเี ขียวทอง
 ชาดา: ใบชาทีท
่ งิ้ ให ้สลด (อาจมีการนวดอย่างแรง) และ
ี ดงเข ้ม
ผ่านการบ่มเต็มกระบวนการ เครือ
่ งดืม
่ ทีไ่ ด ้มีสแ
ี า
จนถึงสด
ประวัตข
ิ อง“ชาอูห
่ ลง”
ชามีตน
้ กาเนิ ดมาจากประเทศจีน ถ้า
นับย้อนหลังไปก็รวมระยะเวลา ได้กว่า
่ 2737 ปี ก่อน
4,000 ปี กล่าวคือ เมือ
คริสต ์ศ ักราช ชาได้ถูกพบโดย
่ น
จักรดิพรรดิ นามว่า เสินหนง ซึงเป็
บัณฑิต และนักสมุนไพร เป็ นคนร ักความ
่
้ าต้มสุกเท่านัน
้
สะอาดมาก ดืมเฉพาะน
่ นหนง กาลังพักผ่อนอยู ่
วันหนึ่งขณะทีเสิ
่ ตน
่
้ั
ทีใต้
้ ชา และกาลังต้มน้ าดืมอยู
่นน
่ เป็ นเหตุให้ใบ
ปรากฏว่าได้มล
ี มโบกกิงไม้
่
ชาร่วงหล่นลงในน้ าซึงใกล้
เดือดพอดี
ประโยชน์และสรรพคุณของการ
่
ดืมชาอู
ห
่ ลง
- ด้านการป้ องกันมะเร็ง เพราะชาอูห
่ ลงมีสารทีส
่ าคัญ
มากมาย ทาหน ้าทีเ่ ป็ น แอนติออกซเิ แดนท์ ป้ องกันการ
เกิด
่
- การดืมชาอู
ห
่ ลงมีประโยชน์ในการลดความอ้วนและ
ลดคลอเรสเตอรอลในร่างกาย เพราะสารในใบชา
้ อด และลดระดับ
สามารถลดปริมาณไขมันเลวในเสนเลื
คลอเรสเตอรอลได ้เป็ นอย่างดี
- ต้านโรคไขข้ออ ักเสบ กล่าวกันว่าชาอูห
่ ลงชว่ ยป้ องกัน
โรคข ้ออักเสบรูหม
์ าติก ทีม
่ ักจะเกิดกับสตรีวย
ั กลางคน
่
- ร ักษากลินปากและแบคที
เรีย ป้ องกันฟั นผุ ต่อสูกั้ บ
ื้ ไวรัสในปากโดยกาจัดเชอ
ื้ แบคทีเรีย
เชอ
้
- ป้ องกันเชือไวร
ัสเอชไอ ชาอูห
่ ลงเข ้มข ้นชว่ ยป้ องกัน
อิทธิพล“ชาอูห
่ ลง” ในประเทศ
ไทย
ในสมัยสุโขทัยชว่ งมีการแลกเปลีย
่ นวัฒนธรรม
กับจีน พบว่าได ้มีการดืม
่ ชากัน แต่ก็ไม่ปรากฏ
หลักฐานว่านาเข ้ามาได ้อย่างไร และเมือ
่ ใด แต่จาก
จดหมายของท่านลาลูแบร์ในสมัยสมเด็จพระ
นารายณ์มหาราช ได ้กล่าวไว ้ว่า คนไทยได ้รู ้จักการ
ดืม
่ ชาแล ้ว โดยนิยมชงชาเพือ
่ รับแขกการดืม
่ ชา
่ ้ าตาล
ของคนไทยสมัยนัน
้ ดืม
่ แบบชาจีนไม่ใสน
สาหรับการปลูกชาในประเทศไทยนัน
้ แหล่งกาเนิด
เดิมจะอยูท
่ างภาคเหนือ
ประเภทของชาอู ห
่ ลง มี 2 ประเภท…
1.ชาอู ห
่ ลงแบบญีป
่ น
ุ่ ชาอู ห
่ ลงแบบญีป
่ นไม่
ุ่
ต ้อง
คัว่ ใบชา ชาอู ห
่ ลงมีสารอาหารพวกโปรตีน น้ าตาล
เล็กน ้อย และมีวต
ิ ามินอีสงู
2.ชาอู ห
่ ลงแบบจีน ชาอู ห
่ ลงแบบจีนจะมีการคัว่
ด ้วยกะทะร ้อน วิตามินเอและวิตามินอีทม
ี่ อ
ี ยูใ่ นใบ
อุปกรณ์การชงชา
แบบจีน











a - ถาดรอง สาหรับรองน้ าไม่ให ้หกเลอะ
ี าว
b - จอกชา ควรเลือกจอกทีม
่ พ
ี น
ื้ ด ้านในสข
c - ป้ านชา (ปั ้นชา ก็เรียก
่ าไว ้ในการนานๆ
d - เหยือกพักชา เนือ
่ งจาก การแชช
่
e - ทีกรองชา
ใชส้ าหรับรองเศษ
่ ้ านป้ องกันไม่ให ้ชา
f - กรวย ใชส้ าหรับ วางบนปากป้ านชา เวลาตักชาใสป
หล่นกระจัดกระจาย
g - คีมคีบ ใชคี้ บจอกเวลาลวก เพือ
่ ไม่ให ้น้ าร ้อนโดนมือ
้ ไม่ควรใชมื้ อล ้วงหยิบ
h - ช้อนตัก ใชตั้ กใบชา การตักใบชา ควรใชช้ อน
ื้ ในมือ ไปทาปฎิกริ ย
เพราะจะทาให ้ความชน
ิ า กับใบชา
i - ไม้ปลายแหลม ใชส้ าหรับเขีย
่ เศษชาทีต
่ ด
ิ ค ้างอยูใ่ นพวยกา หรือ ป้ าน
่
j - ไม้เขียใบชา
ใชส้ าหรับ เขีย
่ ใบชาทีช
่ งแล ้ว ออกจากป้ าน
วัฒนธรรมการชงชาแบบจีน
้
่ ้ านชา
1. ใชช้ อนตั
กใบชาใสป
2. รินน้ าเดือด ลงในป้ านชา ชงให ้สูง
เพือ
่ ให ้น้ ากระแทก ใบชาให ้คลีต
่ วั
3. ปิ ดฝาป้ านชา
4. รีบรินชาออกมา รอบแรกไม่นย
ิ มดืม
่
ชงเพือ
่ ล ้างและกระตุ ้นใบชาเท่านัน
้
5. ใชน้ ้ าร ้อนทีร่ น
ิ ออกมา ราดป้ านชา เพือ
่ รักษา
อุณหภูม ิ
้
6. น้ าร ้อนทีร่ น
ิ ออกมานัน
้ ยังสามารถ ใชลวกท
า
ความสะอาดจอกชาได ้อีกด ้วย
7. รินน้ าร ้อน ชงอีกครัง้
8. ใบชาเมือ
่ โดนน้ าร ้อน เริม
่ คลีต
่ วั
9. ปิ ดฝาป้ านชา
10. ใชน้ ้ าร ้อนราดป้ านชา เพือ
่ รักษาอุณหภูม ิ
ของป้ านชา และใช ้ เวลาสกัดชาประมาณ 50
้
วินาที สาหรับการชงครัง้ ทีห
่ นึง่
และใชเวลา
เพิม
่ ขึน
้ อีกประมาณ 15 วินาที สาหรับการชงใน
ครัง้ ต่อๆไป
่ อก โดยรินวนให ้ครบทุกจอก
11. รินชาใสจ
เพือ
่ ให ้ชาทุกจอกมี รสชาติเท่ากัน
เกร็ดเล็กเกร็ดน ้อย เกีย
่ วกับการรินชา คือ มี
คากล่าวว่า "จอกแรกคือการต ้อนรับ , จอกทีส
่ อง
คือสนทนาพาที ,จอกทีส
่ ามคือสง่ ผู ้มาเยือน"
ดังนัน
้ หากเรารินชาให ้แขกรอบทีส
่ าม แสดงว่า
เรากาลังจะไล่เขากลับครับ ชารอบทีส
่ าม จึงควร
ให ้แขกเป็ นผู ้ริน สว่ นรอบหลังจากนีเ้ ราสามารถ
ริน
แหล่งข ้อมูลทีม
่ าอ ้างอิง






http://www.takchamber.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=441
745&Ntype=2
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8A%E0%B8%B2
http://www.isaratea.com/index.php?option=com_content&view=articl
e&id=60&Itemid=94&lang=th
http://plernshop.9nha.com/ulong.html
http://อูห
่ ลง.com/?p=161
http://www.14kumpa.com/2010/07/kungfu-tea-gongfucha.html#ixzz27Gu1pyfu
แสดงบทบาทสมมติ
ึ ษาปี ท6
นักเรียนมัธยมศก
ี่
โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคมจังหวัดสมุทรปราการ