ดร. สุจต ิ รา ธนานันท์ 1. ความหมาย ของการประเมินค่า งาน • กระบวนการตีคา่ งานเพือ ่ นามาเปรียบเทียบ ก ันภายในองค์การ โดยมีว ัตถุประสงค์ เพือ ่ พิจารณาการจ่ายค่าตอบแทน • ่ นหนึง่ การกาหนดค่าของงานและเป็นสว ของระบบค่าตอบแทน.
Download ReportTranscript ดร. สุจต ิ รา ธนานันท์ 1. ความหมาย ของการประเมินค่า งาน • กระบวนการตีคา่ งานเพือ ่ นามาเปรียบเทียบ ก ันภายในองค์การ โดยมีว ัตถุประสงค์ เพือ ่ พิจารณาการจ่ายค่าตอบแทน • ่ นหนึง่ การกาหนดค่าของงานและเป็นสว ของระบบค่าตอบแทน.
ดร. สุจต ิ รา ธนานันท์ 1 1. ความหมาย ของการประเมินค่า งาน • กระบวนการตีคา่ งานเพือ ่ นามาเปรียบเทียบ ก ันภายในองค์การ โดยมีว ัตถุประสงค์ เพือ ่ พิจารณาการจ่ายค่าตอบแทน • ่ นหนึง่ การกาหนดค่าของงานและเป็นสว ของระบบค่าตอบแทน 2 2. ขนตอน ั้ การประเมินค่างาน • ตงคณะกรรมการประเมิ ั้ นค่างาน (Job Evaluation Committee) • เก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection) • กาหนดปัจจ ัยทีใ่ ห้คา่ ตอบแทน (Factors) 3 3. วิธก ี าร ประเมินค่างาน 1. วิธก ี ารจ ัดลาด ับ The ranking method ั้ 2. วิธก ี ารจ ัดชนงาน หรือ การจาแนกตาแหน่ง Job Grading or Job classification ่ นประกอบของงาน 3. วิธก ี ารเปรียบเทียบสว Factor Comparison Method 4. วิธก ี ารให้คา่ คะแนน The point method 4 1. วิธก ี ารจ ัดลาด ับ (The ranking method) วิธก ี าร • นางานทุกอย่างทุกตาแหน่งมาจ ัดอ ันด ับร่วมก ัน ด้วยการประเมินหรือการเปรียบเทียบ • ไม่มก ี ารแยกแยะงานเป็นรายละเอียดหรือให้นา้ หน ัก ต่องาน • จ ัดทาโดยผูบ ้ ริหารหรือคณะกรรมการการประเมิน ภายใต้การควบคุมของผูบ ้ ริหาร และ ห ัวหน้างาน แผนกต่าง ๆ 5 1. วิธก ี ารจ ัดลาด ับ (The ranking method) ขนตอน ั้ 1. ประเมินผลแต่ละตาแหน่งในแผนก 2. นาผลการจ ัดลาด ับของแต่ละแผนก มาเปรียบเทียบและจ ัดลาด ับการ ประเมินร่วมก ันทงองค์ ั้ การ 6 1. วิธก ี ารจ ัดลาด ับ (The ranking method) ประเภท 1. การเรียงลาด ับแบบอนุกรม (Job Series Rank) เรียงลาด ับจาก 1, 2, 3,……ไปเรือ ่ ยๆ 7 2. การจ ับคูเ่ ปรียบเทียบ (Paired - Comparison) ใชใ้ นกรณีทต ี่ าแหน่งงานมีจานวนมาก ้ ต ทาโดยใชส ู ร N = n (n-1) 2 ตามสูตร หมายถึง จานวนของการ เปรียบเทียบและจานวนของตาแหน่งงาน 8 ต ัวอย่าง กรณีมต ี าแหน่งงาน 100 ตาแหน่ง มีการ เปรียบเทียบ 100 = 100 (100-1) 2 = 9900 2 = 4950 ครงั้ ้ จานวนการเปรียบเทียบจะมีมากและเพิม ่ ขึน ้ เมือ ่ จานวนตาแหน่งในการจ ัดลาด ับมีมากขึน 9 1. วิธก ี ารจ ัดลาด ับ (The ranking method) ข้อดี • เหมาะสาหร ับกิจกรรมขนาดเล็กที่ ตาแหน่งงานไม่มาก • สะดวกและจ ัดทาง่าย รวมทงเข้ ั้ าใจง่าย ้ า่ ย • ประหย ัดค่าใชจ 10 1. วิธก ี ารจ ัดลาด ับ (The ranking method) ี ข้อเสย • มีขอ ้ โต้แย้งและไม่สามารถอธิบายได้ใน ่ งความแตกต่างระหว่าง รายละเอียดของชว ลาด ับต่าง ๆ ั • ไม่ชดเจน ไม่มม ี าตรฐานทีแ ่ น่นอน • ใชไ้ ม่ได้ก ับตาแหน่งงานทีม ่ จ ี านวนมาก 11 ั้ 2. วิธก ี ารจ ัดชนงาน หรือ การจาแนกตาแหน่ง (Job Grading or Job classification ) วิธก ี าร • งานหลายงานสามารถจ ัดกลุม ่ และ ั้ จาแนกออกเป็นชน หรือเป็นกลุม ่ ่ • โดยยึดถือเกณฑ์ เชน - ระด ับความร ับผิดชอบ - ความสามารถ - ความชานาญงาน - ความรูแ ้ ละภาระหน้าที่ 12 ั้ 2. วิธก ี ารจ ัดชนงาน หรือ การจาแนกตาแหน่ง (Job Grading or Job classification ) แนวทาง • ั้ ส จ ัดแบ่งชนที ่ ามารถคลุมงานต่าง ๆ ทีจ ่ ะประเมิน ทงหมด ั้ • ั้ ระบุให้ทราบถึงชนและคุ ณล ักษณะของงานต่าง ๆ • ั้ าง ๆ จาแนกงานแต่ละอย่างให้เข้าตามชนต่ ที่ กาหนดไว้ • ิ้ ให้ราคาต่อค่าของงานแต่ละชน • จ ัดระบบการตรวจสอบติดตามเป็นครงคราว ั้ 13 ั้ 2. วิธก ี ารจ ัดชนงาน หรือ การจาแนกตาแหน่ง (Job Grading or Job classification ) ข้อดี • ง่ายต่อการจ ัดทาและเข้าใจง่าย • ประหย ัดเวลาและเทคนิควิธท ี ี่ ั อ ้ น ยุง ใชไ้ ม่ซบซ ่ ยาก 14 ั้ 2. วิธก ี ารจ ัดชนงาน หรือ การจาแนกตาแหน่ง (Job Grading or Job classification ) ี ข้อเสย • • • • • ้ บ่งไม่ชดเจน ั เกณฑ์หรือปัจจ ัยทีใ่ ชแ ั้ มาตรฐานในการจ ัดชนงานหรื อจาแนกตาแหน่ง ไม่แน่นอน ั้ เกิดปัญหางาน งานบางอย่างถูกจ ัดเข้าไว้ 2 ชน คาบเกีย ่ วก ัน อิทธิพลของต ัวบุคคล เงินเดือน และค่าจ้าง ั้ จ การขยายต ัวของกิจการเป็นผลให้ชนที ่ ัดหรือ จาแนกไม่เพียงพอหรือผิดความเป็นจริง 15 3. วิธก ี ารเปรียบเทียบสว่ นประกอบของงาน (Factor Comparison Method) วิธก ี าร • นางานทุกอย่างเปรียบเทียบและประเมินตามปัจจ ัย ่ หล ัก (critical factors) เชน - ความชานาญงาน (skill) - ความร ับผิดชอบ (responsibility) ้ รงงาน (physical effort) - การใชแ ้ วามคิด (mental effort) - การใชค - สภาพของงาน (working conditions) 16 3. วิธก ี ารเปรียบเทียบสว่ นประกอบของงาน (Factor Comparison Method) ขนตอน ั้ 1. เลือกงานหล ัก ประมาณ 10-20 งาน เพือ ่ ใชเ้ ป็นต ัวอย่างของการ ประเมินงานทงหมด ั้ 2. วิเคราะห์งานหล ักและเปรียบเทียบก ับปัจจ ัยต่าง ๆ 3. จ ัดลาด ับงานหล ักทีเ่ ลือกมา แล้วเน้นความสาค ัญตามปัจจ ัยต่าง ๆ โดยนางานหล ักมาจ ัดลาด ับตามความสาค ัญทีละปัจจ ัย 4. ให้คา่ เป็นเงินต่อปัจจ ัยต่าง ๆ เหล่านน ั้ 5. เปรียบเทียบงานหล ักทีไ่ ด้จ ัดลาด ับก ับตารางเงินเดือนและค่าจ้าง 6. ประเมินงานอืน ่ ๆ โดยเปรียบเทียบก ับงานหล ัก 17 3. วิธก ี ารเปรียบเทียบสว่ นประกอบของงาน (Factor Comparison Method) ข้อดี • แต่ละหน่วยงานมีโอกาสจ ัดทาแผนการประเมิน ค่างาน • การกาหนด evaluation scale ทาให้สะดวก และง่ายต่อการประเมิน • เป็นวิธท ี ใี่ ชเ้ ปรียบเทียบระหว่างงานโดยแท้จริง เพราะได้เปรียบเทียบถึงปัจจ ัยต่าง ๆ โดยตรง 18 3. วิธก ี ารเปรียบเทียบสว่ นประกอบของงาน (Factor Comparison Method) ี ข้อเสย • มีปญ ั หาเมือ ่ งานหล ักมีมากเกินไป และมีขอ ้ โต้แย้งง่ายถ้ามีงานหล ักน้อยเกินไป • เกิดปัญหาเมือ ่ งานหล ักเปลีย ่ นแปลง • สามารถนาไปใชไ้ ด้ยากอธิบายให้เข้าใจยาก 19 4. วิธก ี ารให้คา่ คะแนน (The point method) วิธก ี าร • วิธน ี ม ี้ แ ี นวคิดว่าในงานต่าง ๆ ทีจ ่ ะประเมินนนมี ั้ ปัจจ ัยสาหร ับการประเมินจานวนหนึง่ ครอบคลุม อยู่ ซงึ่ ปัจจ ัยแต่ละอย่างสามารถกาหนดค่าด้วย วิธก ี ารให้แต้มเป็นคะแนนได้ • การให้คา่ คะแนนต่อปัจจ ัยต่าง ๆจะให้ตามความ เหมาะสมของงานทีแ ่ ตกต่างก ัน 20 4. วิธก ี ารให้คา่ คะแนน (The point method) ขนตอน... ั้ 1. จ ัดเตรียมปัจจ ัยต่างๆ ให้พร้อมและให้คาจาก ัด ความของปัจจ ัยแต่ละอย่าง พร้อมให้นา้ หน ักแก่ ปัจจ ัยเหล่านน ั้ 2. กาหนดค่าคะแนนสาหร ับแต่ละปัจจ ัย เพือ ่ ใชเ้ ป็น เครือ ่ งมือว ัดทีช ่ ใี้ ห้เห็นขนาดความแตกต่างของแต่ ละปัจจ ัยได้ 3. เลือกงานหล ักเพือ ่ นามาเปรียบเทียบก ับงานที่ ต้องการประเมินค่า 21 4. วิธก ี ารให้คา่ คะแนน (The point method) ขนตอน ั้ (ต่อ) ึ ษาและวิเคราะห์งานต่างๆ สาหร ับเก็บข้อมูลและ 4. ศก ทา job description 5. ทา job description, specification และ rating sheet 6. จ ัดลาด ับความสาค ัญของงานให้แตกต่างก ันตาม ั้ จานวนคะแนนเพือ ่ กาหนดชนของงาน จากนน ั้ นาไปแปลงความหรือตีคา่ ออกเป็นค่าจ้างอ ัตรา ้ ฐาน และให้ราคาแก่งานต่าง ๆ พืน 22 4. วิธก ี ารให้คา่ คะแนน (The point method) ข้อดี... • มีความถูกต้องมากกว่าวิธอ ี น ื่ ๆ เพราะละเอียดและก่อให้เกิด ้ ังมีความ ความเข้าใจระหว่างผูป ้ ระเมินด้วยก ัน นอกจากนีย ้ ย่างต่อเนือ แน่นอนในการประเมิน หากใชอ ่ งการประเมินจะ ้ ถูกต้องมากขึน • ปลอดอิทธิพลจากฝ่ายต่างๆ สหภาพแรงงาน • ั มีความชดแจ้ งในการประเมินเพราะมีการแยกปัจจ ัยและ แบ่งเป็นรายละเอียด ทงฝ ั้ ่ ายนายจ้าง ลูกจ้างหรือ 23 4. วิธก ี ารให้คา่ คะแนน (The point method) ข้อดี (ต่อ) • มีความคล่องต ัวเพราะเปิ ดโอกาสให้เลือกใช ้ ปัจจ ัยต่าง ๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละ องค์การ ั้ • ชนของงานสามารถแบ่ งได้งา่ ย สะดวกและ สมเหตุสมผลเพราะการประเมินงานเป็นคะแนน ื่ ถือ เพราะเป็นวิธท • น่าเชอ ี เี่ ข้าใจง่าย 24 4. วิธก ี ารให้คา่ คะแนน (The point method) ี ข้อเสย ั • ต้องอาศยความช านาญ และประสบการณ์ เป็นอ ันมาก • เป็นวิธท ี ต ี่ อ ้ งใชเ้ วลามาก • มีรายละเอียดมาก 25 4. มาตรการ พิจารณาการเลือกใช ้ วิธก ี ารประเมินค่างาน • ้ ค วิธท ี เี่ ลือกใชม ี วามถูกต้องหรือไม่ • วิธท ี เี่ ลือกใชเ้ หมาะสมก ับสภาพการณ์ของบริษ ัท หรือไม่ • พิจารณาว่ามีบค ุ ลทีม ่ ค ี วามสามารถในการจ ัดทา หรือดาเนินการหรือไม่ • วิธท ี เี่ ลือกใชเ้ ป็นทีย ่ อมร ับของนายจ้างและคนงาน หรือไม่ 26 5. ผลล ัพธ์ ของการประเมินค่างาน... • เลือกตาแหน่งทีเ่ ป็นต ัวแทนของสายงานต่าง ๆใน แต่ละระด ับทีไ่ ด้ประเมินค่างานไว้ ไปสารวจเปรียบ เทียบผลตอบแทนก ับองค์การภายนอก • กาหนดสายงานเดินของตาแหน่งงาน (benchmark position) ภายในองค์การให้เป็น รูปธรรมว่าตาแหน่งทีเ่ ริม ่ จากระด ับตา ่ จะมีวธ ิ เี ลือ ่ น ่ าแหน่งระด ับสูงได้อย่างไร ไปสูต 27 5. ผลล ัพธ์ ของการประเมินค่างาน (ต่อ) • ทาให้ทราบว่าตาแหน่งใดควรมีการรวมงาน หรือแบ่งงานเพือ ่ ให้เหมาะสมก ับสภาพทีเ่ ป็น จริงในขณะนน ั้ • กระตุน ้ ให้มก ี ารพ ัฒนาปร ับปรุงงานของแต่ ละตาแหน่งให้สอดคล้องก ับนโยบายและ เป้าหมายขององค์การ 28