สนามที่เปลีย่ นแปลงตามเวลาและสมการของแมกเวลล์ สมการของแมกเวลล์ และศักดาไฟฟ้าหน่ วง กสิ ณ ประกอบไวทยกิจ ห้องวิจยั การออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ดว้ ยระบบคอมพิวเตอร์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้ า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Download ReportTranscript สนามที่เปลีย่ นแปลงตามเวลาและสมการของแมกเวลล์ สมการของแมกเวลล์ และศักดาไฟฟ้าหน่ วง กสิ ณ ประกอบไวทยกิจ ห้องวิจยั การออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ดว้ ยระบบคอมพิวเตอร์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้ า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สนามที่เปลีย่ นแปลงตามเวลาและสมการของแมกเวลล์ สมการของแมกเวลล์ และศักดาไฟฟ้าหน่ วง กสิ ณ ประกอบไวทยกิจ ห้องวิจยั การออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ดว้ ยระบบคอมพิวเตอร์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้ า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สมการแมกเวลล์ ทอี่ ยู่ในรู ปสมการเชิงอนุพนั ธ์ (1) สาหรับสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้ าที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา dB E dt dD H J dt (2) สาหรับสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้ าสถิตย์ D v B 0 สมการแมกเวลล์ ทอี่ ยู่ในรู ปสมการเชิงอนุพนั ธ์ (3) กฎของแรง (Force Law) สาหรับสนามแม่เหล็ก/ไฟฟ้ าสถิตย์ F Q(E v B) [N] F คือแรงที่เกิดจากประจุไฟฟ้ า Q เคลื่อนที่ดว้ ยความเร็ ว v ผ่าน สนามไฟฟ้ า E และสนามแม่เหล็ก B (4) กฎของโอห์ม (Ohm’s Law) สาหรับความหนาแน่นกระแสไฟฟ้ าที่ เกิดจากประจุไฟฟ้ าเคลื่อนที่ในตัวนาไฟฟ้ า J E สภาพการนาไฟฟ้ า [โมห์/เมตร หรื อ ซีเมนต์] สมการแมกเวลล์ ทอี่ ยู่ในรู ปสมการเชิงอนุพนั ธ์ (5) กฎของโอห์มสาหรับความหนาแน่นกระแสไฟฟ้ าที่เกิดจากความหนาแน่น ประจุไฟฟ้ าเคลื่อนที่ดว้ ยความเร็ว v เมตร/วินาที J v v [A/m2 ] (6) Permittivity หรื อค่าคงตัวของไดอิเล็กทริ ก (Dielectric Constant) D 0 r E 0 Permittivity of space 1 10 9 [F/m] 36 สมการแมกเวลล์ ทอี่ ยู่ในรู ปสมการเชิงอนุพนั ธ์ (7) Permeability B 0 r H [A/m2 ] 0 Permeability of space 4 10 7 [H/m] สมการแมกเวลล์ ทอี่ ยู่ในรู ปอินทิกรัล dB E d L - s dt d S แรงเคลื่อนไฟฟ้ ามีค่าเท่ากับค่าลบของการอินทีกรัลพื้นที่ผิวของ สนามแม่เหล็กไฟฟ้ า B ที่เปลี่ยนค่าตามเวลาคูณด้วยพื้นที่หน้าตัด ที่สนามแม่เหล็ก B ผ่าน สมการแมกเวลล์ ทอี่ ยู่ในรู ปอินทิกรัล dD H d L I s dt d S แรงเคลื่อนไฟฟ้ ามีค่าเท่ากับผลรวมของกระแสไฟฟ้ า(อาจจะเป็ น ได้ท้ งั กระแสนา กระแสพา หรื อกระแสกระจัด) ที่ไหลผ่านวงจร แบบปิ ด สมการแมกเวลล์ ทอี่ ยู่ในรู ปอินทิกรัล D d S dv vol กฎของเกาส์ เส้นสนามไฟฟ้ าที่พงุ่ ออกจากพื้นที่ผิวปิ ดใด ๆ จะ มีค่าเท่ากับประจุไฟฟ้ าที่ถกู ล้อมอย่างมิดชิดโดยพื้นที่ผวิ ปิ ดนั้น สมการแมกเวลล์ ทอี่ ยู่ในรู ปอินทิกรัล B d S 0 การอินทิกรัลพื้นที่ผวิ ของสนามแม่เหล็ก B คูณด้วยพื้นที่หน้าตัด ที่สนามแม่เหล็ก B ไหลผ่านมีค่าเท่ากับศูนย์ (ไม่เกี่ยวกับเวลา) ทดลองทา จงหาค่าความหนาแน่นกระแสการกระจัดที่เกิดขึ้น ณ. (ก) เครื่ องรับวิทยุเอฟเอ็ม กาหนดให้ สถานีส่งส่ งคลื่นสนาม แม่เหล็ก H ดังนี้ H 0.2cos[2.1(3108 t x)]az [A/m] (ข) ภายในตัวเก็บประจุไฟฟ้ า กาหนดให้ ที่เกิดในตัวเก็บประจุไฟฟ้ าเท่ากับ 6 r 6 และสนามไฟฟ้ า E E 100 sin[1.25710 (310 t 2.453)]ax 8 ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) ศักดาไฟฟ้ าหน่วงคือศักดาไฟฟ้ าที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา ในสนามไฟฟ้ าสถิตย์ ศักดาไฟฟ้ าที่เกิดจากประจุไฟฟ้ าสามารถหาได้จาก v dv V [volt] 4R v V 2 E - V [volt] ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) ในสนามแม่เหล็กสถิตย์ ศักดาไฟฟ้ าที่เกิดจากกระแสไฟฟ้ าสามารถหาได้จาก J dv A [Amp.] 4R 2 A - J [Amp.] B A จากสมการแมกเวลล์ สาหรับสนามไฟฟ้ าแม่เหล็กสถิตย์ที่เกิดจากไฟฟ้ ากระแสตรง B 0 A 0 B A ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) ในสนามไฟฟ้ าสถิตย์ E 0 แต่สาหรับสนามไฟฟ้ าที่เปลี่ยนค่าตามเวลานั้น E 0 E - V N E 0 N ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) จากกฎของฟาราเดย์สาหรับแม่เหล็กไฟฟ้ าที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา dB N dt d N - ( A) dt dA N - dt dA N dt ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) dA E - V dt สมมุติให้ B A เป็ นสมการแม่เหล็กที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา เพราะฉะนั้น dA ลงในสมการ เมื่อแทนค่า B A และ E - V dt dD H J dt และ D v ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) dV d2 A A J 2 dt dt 1 และ d V A v dt ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) dV d2 A A J 2 dt dt 1 เพราะว่า dV d2 A A J 2 dt dt A ( A) - ( A) เพราะฉะนั้น 2 d V d A 2 A ( A) - A) J 2 dt dt ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) d V A v dt v d V A dt 2 ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) สาหรับสนามแม่เหล็กสถิตย์ A 0 2 A J v V 2 สาหรับสนามแม่เหล็กที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา เราสามารถหาค่า B และ E ได้จาก B A และ E - V ddtA ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) พิจารณา B A เราสามารถพิสูจน์ได้วา่ A 0 สมมติวา่ ขนาดของ A คือ Ay และ Az เท่ากับ 0 เราจะได้วา่ d d d d d d A Az Ay a x Ax Az a y Ay Ax a z dz dx dy dz dy dx d d A 0 a x Ax a y Ax a z dz dy ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) A B Bx a x By a y Bz az สรุ ปได้วา่ d d Bx 0, By Ax , Bz Ax dz dy สรุ ปได้วา่ A 0 ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) กาหนดให้ d A V dt ตามกฎของลอเรนท์ และสมการ 2 d V d A 2 ( A) - A) J 2 dt dt v d V A dt 2 ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) d dV d2 A 2 - V - A J dt dt dt 2 2 d A 2 A J dt2 สมการคลื่นไม่เอกพันธ์ (Inhomogeneous Wave) ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) v d V A dt v d d 2 V - V dt dt v d2 - 2 V dt 2 สมการคลื่นไม่เอกพันธ์ (Inhomogeneous Wave) ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) B A d A V dt dA E - V dt ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) v dv V [volt] 4R [ v ]dv V [volt] 4R J dv A [Amp.] 4R [ J ]dv A [Amp.] 4R R [ρv ] ρ t- v เวลาถ่วง (Retarded Time) ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) R t t- v ' R การหาค่า V ที่เวลา t นั้นต้องทราบค่า ที่เวลา t- v R ระยะทางระหว่างเวลา t กับ t- Rv ที่ตอ้ งการหาค่า V v v คือการเคลื่อนที่ของคลื่นมีค่าเท่ากับ 1 , 3x108 m/s ในอากาศ ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) P h R Az iz การหาค่า V, A ที่จุด P ณ. เวลา t นั้นต้องทราบค่าที่เวลา t- R v R t dv v A [Amp.] 4R ซึ่ งอยูห่ ่างจุด P เป็ นระยะทาง R ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) เมื่อ J dv I d L จากรู ปจะได้ R t dv v A I d L dl Az a z 4R หรื อ h R Az I z t 4r v R Az Iz t 4R v ศักดาไฟฟ้าหน่ วง (Retarded Potentials) ถ้า I z I 0 cos(t ) เราจะได้ hI0 R Az cos wt t 4r v