๑. สรางพลเมื อ งให เป็ น ้ ้ ใหญ่ ๒. การเมืองใสสะอาด และสมดุล ๓. หนุ นสั งคมทีเ่ ป็ น ธรรม มีมาตรการสาคัญดังนี้ ๑. ยกระดับราษฎร (subject) ให้เป็ นพลเมือง (citizen) มีทง้ั สิ ทธิ เสรีภาพ หน้าที่ และความ รับผิดชอบ ตอบานเมือง โดยไมเห็ นแก.

Download Report

Transcript ๑. สรางพลเมื อ งให เป็ น ้ ้ ใหญ่ ๒. การเมืองใสสะอาด และสมดุล ๓. หนุ นสั งคมทีเ่ ป็ น ธรรม มีมาตรการสาคัญดังนี้ ๑. ยกระดับราษฎร (subject) ให้เป็ นพลเมือง (citizen) มีทง้ั สิ ทธิ เสรีภาพ หน้าที่ และความ รับผิดชอบ ตอบานเมือง โดยไมเห็ นแก.

๑. สรางพลเมื
อ
งให
เป็
น
้
้
ใหญ่
๒. การเมืองใสสะอาด
และสมดุล
๓. หนุ นสั งคมทีเ่ ป็ น
ธรรม
1
มีมาตรการสาคัญดังนี้
๑. ยกระดับราษฎร
(subject)
ให้เป็ นพลเมือง (citizen) มีทง้ั สิ ทธิ
เสรีภาพ หน้าที่ และความ
รับผิดชอบ
ตอบานเมือง โดยไมเห็ นแก
2
๒. ขยายและเพิม
่ สิ ทธิตาง
ๆ ที่
่
เป็ นสิ ทธิมนุ ษยชน
และสิ ทธิพลเมือง
- สิ ทธิในครอบครัวทีเ่ ป็ น
ปึ กแผน
่ และเป็ นสุข
- สิ ทธิในการศึ กษา ๑๕ ปี
- กสทช. ตองให
้
้ความสาคัญกับ
3
- กาหนดให้ทรัพยากรธรรมชาติ
ทุกประเภทเป็ น
ทรัพยากรชาติ เพือ
่ ประโยชน์
สาธารณะ
- รัฐมีหน้าทีต
่ องด
าเนินการให้
้
สิ ทธิพลเมืองเกิดผล
ตามความสามารถทางการคลัง
4
๓. เพิม
่ ส่วนรวมทางการเมื
องและ
่
การบริหาร
- ส่วนรวมของพลเมื
อง และ
่
ชุมชนในการกาหนดนโยบายสาธารณะ
จาก
ในการไดประโยชน
้
์
ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่ งแวดลอม
้
- ให้หน่วยงานของรัฐช่วย
ประชาชนจัดทารางกฎหมาย
และราง
่
่
5
- ให้สมัชชาพลเมืองเป็ นทีร่ วมของ
ผูแทนองค
กรชุ
มชน ประชาสั งคม
้
์
เอกชน นักวิชาการ ปราชญชาวบ
าน
้
์
ฯลฯ เพือ
่ ให้ความเห็นในการบริหารงาน
ของผูว
งหวัด และองคกร
้ าราชการจั
่
์
บริหารทองถิ
น
่
้
- ให้มีสภาตรวจสอบภาคพลเมือง
ประกอบดวยผู
แทนจากสมั
ชชาพลเมือง
้
้
6
- ให้การฝ่าฝื นจริยธรรมอยางร
่ ายแรง
้
ของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. และ
ส.ว. ทีส
่ มัชชาคุณธรรมชีม
้ ล
ู ส่งเรือ
่ งไป
ให้ กกต. จัดให้ประชาชนลงมติถอด
ถอน (กรณี ส.ว.) หรือห้ามดารง
ตาแหน่ง ๕ ปี (นรม., รมต., ส.ส.)
ในการเลือกตัง้ ทัว่ ไป
- ถาเป็
้ น นรม., รมต. ตอง
้
7
ส่วนกรณีทุจริต รา่ รวย
ผิดปกติ
ทาผิดตอต
่ าแหน่งหน้าที่ ฯลฯ
คงให้ ปปช. ไตสวน
และ
่
ถอดถอนโดยรัฐสภา และ
ดาเนินคดีอาญาในศาลฎีกา
แผนกคดีอาญาเหมือนเดิม
เพราะเป็ นเรือ
่ งซับซ้อนทางกฎหมาย
8
ให้
พลเมืองเลือก
จัดลาดับคนใน
บัญชีรายชือ
่
(party list)
ไดแทนที
จ
่ ะให้
้
เลื
อ
กพรรค
เป็ นการ
จัดลาดับของ เลือกคน
พรรค
9
ให้ประชาชนออกเสี ยงประชามติ
- ในการแกไขหลั
กการสาคัญ
้
พืน
้ ฐานทางรัฐธรรมนูญ
- ในเรือ
่ งทีก
่ ฎหมายบัญญัต ิ
- ในเรือ
่ งที่ ครม. มีมติให้ขอ
ประชามติ
- ในเรือ
่ งระดับทองถิ
น
่
้
10
- ถาร
างกฎหมายที
พ
่
ลเมื
อ
ง
้ ่
เสนอตกไป ส.ส. ส.ว.
หรือสมาชิกทัง้ สองสภารวมกันมี
จานวนไมน
่งในสิ บของ
่ ้ อยกวาหนึ
่
จานวนสมาชิกเทาที
ม
่
อ
ี
ยู
ของทั
ง
้
่
่
สองสภา อาจรองขอใหมีการ
11
มีมาตรการ
สาคัญดังนี้
12
มีมาตรการดังนี้
๑. กาหนดลักษณะผู้นา
การเมืองทีด
่ ม
ี ค
ี ุณธรรมจริยธรรมและ
พรรคการเมืองทีด
่ ี
๒. ให้มีสมัชชาคุณธรรม
แห่งชาติกากับการปฏิบต
ั ต
ิ าม
จริยธรรม และประเมินจริยธรรม
13
๓. กาหนดให้ผูสมั
้ ครรับเลือกตัง้
ทัง้ ระดับชาติ และทองถิ
น
่ ตอง
้
้
แสดงหลักฐานการเสี ยภาษียอนหลั
ง
้
สามปี เพือ
่ การตรวจสอบ
๔. กาหนดให้มีการเปิ ดเผย
ขอมู
้ ลการใช้เงินแผนดิ
่ นของ
หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทีม
่ ี
14
๕. กาหนดให้พลเมืองมีส่วนรวม
่
ตรวจสอบทุจริต และคุมครอง
้
ผูกระท
าการตรวจสอบโดยสุจริต แต่
้
หากทาโดยไมสุ
บโทษ
่ จริตก็ตองรั
้
๖. ให้ กกต. เป็ นผูออก
้
กฎเกณฑ ์ ควบคุมเลือกตัง้ และ
วินิจฉัยให้เลือกตัง้ ใหม่ แตให
่ ้
15
๗. ให้ ปปช. มีอานาจตรวจสอบ
ทุจริตผูด
้ ารงตาแหน่งการเมือง และ
หัวหน้าส่วนราชการเทานั
่ ให้
่ ้น เพือ
คดีรวดเร็ว
๘. ตัง้ แผนกคดีวน
ิ ย
ั การ
คลัง และงบประมาณ ในศาล
ปกครองเพือ
่ ควบคุมการดาเนินการที่
16
๙. - มีสภาตรวจสอบภาคพลเมือง
- มีการถอดถอนโดยประชาชน
17
มีมาตรการดังนี้
๑. ความสมดุลระหวาง
่
การเมืองของนักการเมืองกับการเมือง
ของพลเมือง
๒. ความสมดุลระหวางสภาล
างกั
บ
่
่
สภาบน
สภาผู้แทนราษฎรเป็ นสภา
18
วุฒส
ิ ภาเป็ นสภาพหุนิยม (pluralist
chamber) ของพลเมืองหลากหลาย
อาชีพ เพือ
่ ถวงดุ
ลสภาผูแทนราษฎร
่
้
เป็ นสภาทีด
่ งึ ส่วนรวมจากทุ
กภาคส่วน
่
ของสั งคมทีไ่ มได
่ ้
สั งกัดพรรค
า่ โครงสราง
Montesquieu กลาวว
้
่
ทางการเมืองทีด
่ ต
ี องเป็
นโครงสรางที
ด
่ งึ
้
้
19
ทีม่ ำของวุฒสิ ภำ (สภำผู้แทนพลเมือง)
ตำมร่ ำงรัฐธรรมนูญ
วุฒสิ ภา (สภาผู้แทนพลเมือง)
สภาพหุนิยม
ไม่ เกิน 200 คน
1. ผู้เคยดำรงตำแหน่ ง
นำยกรัฐมนตรี ประธำน
รัฐสภำ ประธำนศำลฎีกำ
เลือกกันเองไม่ เกิน 10 คน
2. ผู้เคยดำรงตำแหน่ ง
ผู้บริหำรระดับสู งใน
ภำครัฐ เลือกกันเองไม่
เกิน 30 คน
3. ผู้แทนองค์ กร
วิชำชีพทีม่ กี ฎหมำย
จัดตั้ง เลือกกันเอง
ไม่ เกิน 10 คน
4. ผู้แทนองค์ กร
ด้ ำนต่ ำง ๆ เช่ น
เกษตรกรรม แรงงำน
ท้ องถิ่น วิชำกำร
ชุมชน เลือกกันเอง
ไม่ เกิน 50 คน
สมัชชำพลเมือง / ผู้บริหำรท้ องถิ่น /
สมำชิกสภำท้ องถิ่นทุกประเภท
5. ผู้ทรงคุณวุฒิด้ำน
ต่ ำง ๆ เช่ น กำรศึกษำ
ชำติพนั ธุ์ เยำวชน
ผู้ด้อยโอกำส ปรำชญ์
ชำวบ้ ำนทีไ่ ด้ รับกำร
เลือกจำก ไม่ เกิน 100
คน
เลือก
20
(๑) ผู้ซึง่ เคยดารงตาแหน่งนายกรัฐมนตรี ประธาน
รัฐสภา และประธานศาลฎีกา
ซึง่ เลือกกันเองให้ไดไม
้ เกิ
่ นสิ บคน
(๒) ผู้ซึง่ เคยเป็ นขาราชการฝ
้
่ ายพลเรือนซึง่ ดารง
ตาแหน่งปลัดกระทรวงหรือเทียบเทา่ ซึง่ เป็ นตาแหน่ง
บริหาร ข้าราชการฝ่ายทหารซึง่ ดารงตาแหน่ง
ปลัดกระทรวงกลาโหม
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือผูบั
้ ญชาการเหลาทั
่ พ
พนักงานของรัฐหรือเจ้าหน้าทีข
่ องรัฐในรัฐวิสาหกิจ
องคการมหาชน
หรือหน่วยงานอืน
่ ของรัฐ ซึง่ ดารง
์
ตาแหน่งหัวหน้าองคกรดั
งกลาว
ซึง่ เลือกกันเองในแตละ
์
่
่
21
(๕) ผู้ทรงคุณวุฒแ
ิ ละคุณธรรมดานการเมื
อง ความ
้
มัน
่ คง การบริหารราชการแผนดิ
่ น กฎหมายและ
กระบวนการยุตธิ รรม การปกครองทองถิ
น
่ การศึ กษา
้
การเศรษฐกิจ
การสาธารณสุข สิ่ งแวดลอม
ผังเมืองทรัพยากรธรรมชาติ
้
พลังงาน วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
สั งคม ชาติพน
ั ธุ ์
์
ศาสนา
ศิ ลปะ วัฒนธรรม คุ้มครองผูบริ
ก
้ โภค ดานเด็
้
เยาวชน สตรี ดานผู
พิ
ปราชญ ์
้
้ การ ผู้ดอยโอกาส
้
ชาวบาน
ผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ และดานอื
น
่ จานวนไม่
้
้
เกินหนึ่งรอยคน
้
ใหมีคณะกรรมการสรรหาบุคคลดานตาง ๆ
22
ตัวอยางของวุ
ฒส
ิ ภาทีม
่ าจากการเลือกตัง้ โดย
่
ทางออม
๒๑ ประเทศ
้
มีตวั อยาง
ดังนี้
่
- ออสเตรีย Bundesrat ๖๑ คน
มาจากการ
เลือกตัง้ โดยออมทั
ง้ หมด
้
- เบลเยีย
่ ม Senate ๗๑ คน
มาจากการ
เลือกตัง้ โดยออม
๒๑ คน
้
- ฝรัง่ เศส Senat ๓๔๘ คน
มาจาก
การเลือกตัง้ โดยออมทั
ง้ หมด
้
- เยอรมัน Bundesrat ๖๙ คน
มาจาก
23
ตัวอยางของวุ
ฒส
ิ ภาทีม
่ าจากการเลือกโดยฐาน
่
วิชาชีพ (Vocational Base) จานวน ๓ ประเทศ
เช่น
- ไอรแลนด
์
์ Seanad Eireann ๖๐ คน มาจาก
การเลือกโดยฐานวิชาชีพ (Vocational Base) ๔๓
คน
24
๓. ระบบเลือกตัง้ ส.ส. เดิมเป็ น
ระบบทีท
่ าให้พรรคการเมืองใหญได
่ ้
คะแนนเกินกวาความนิ
ยมที่
่
ประชาชนลงคะแนน
25
ปัญหำของระบบเลือกตั้งเสี ยงข้ ำงมำกธรรมดำเขตละคน
: กรณีศึกษำผลกำรเลือกตั้ง ๓ กรกฎำคม ๒๕๕๔
พรรค
แบ่ งเขตเลือกตั้ง
จำนวน ส.ส.
คะแนน
พรรคใหญ่ 1
205 คน
(54.67 %)
14,125,219
(44.47 %)
พรรคใหญ่ 2
114 คน
(30.40 %)
10,095,250
(31.78 %)
พรรค 3
29 คน
(7.73%)
3,483,153
(10.97 %)
พรรค 4
15 คน
(4 %)
1,515,320
(4.77 %)
พรรค 5
-
-
12 คน
(3.2 %)
2,542,046
(8 %)
375 คน
31,760,968
พรรคอื่นๆ
รวม
แบบสัดส่ วน
ควรได้ 167 คน
= เกิจนำนวน
ไป 38
ส.ส.คน
คะแนน
ส.ส.ทั้งหมด
คน คน
ควรได้60119
(48 %)
= ขำดไป
5 คน
15,752,470
(48.82 %)
265 คน
45 คน
(35 %41
) คน
ควรได้
11,435,640
(35.15 %)
159 คน
= ขำดไป
5 คน 12 คน
34 คน
(4 %)
1,281,652
(3.94 %)
19 คน
(3.2 %)
907,106
(2.79 %)
998,668
(3.07 %)
4 คน
7 คน
(5.69 %)
2,159,691
(6.64 %)
19 คน
125 คน
32,535,227
500 คน
ควรได้ 18 คน
4 คน
= ขำดไป
3 คน
ควรได้4 คน
30 คน
(3.2 %)
= ขำดไป
18 คน
26
การเลือกตัง้ ส.ส. ใหม่ ตอง
้
ปรับระบบให้สมดุลระหวางความนิ
ยม
่
ทีป
่ ระชาชนมีในพรรคการเมืองและ
จานวน ส.ส. ทีไ่ ดอย
จริ
้ างแท
่
้ ง
โดยใช้ระบบสั ดส่วนผสมระหวาง
่
ส.ส. บัญชีรายชือ
่ กับ ส.ส. เขต
โดยใช้สั ดส่วนจากบัญชีรายชือ
่
27
28
29
ระบบการเลือกตัง้ นี้ จะไม่
ทาให้พรรคใหญได
่ ้ ส.ส. เกินจริง
และเป็ นประโยชนกั
์ บพรรคขนาด
กลางและเล็ก ทาให้เกิดรัฐบาลผสม
ทีเ่ อือ
้ ตอบรรยากาศการปรองดอง
่
30
สร้างความสมดุลระหว่าง
นายทุนพรรคในบัญชีกบั เสี ยง
ที่แท้จริ งของประชาชนโดยให้
ประชาชนจัดลาดับ ผูท้ ี่จะ
ได้รับเลือกตั้งในบัญชีรายชื่อ
ของพรรคและกลุ่มการเมือง
(open list)
เลือกพรรค
เลือกคน
31
๔. ความสมดุลระหวางพรรค
่
การเมือง ซึง่ ตองใช
้
้ทุนมหาศาลกับ
กลุมการเมื
อง ทีต
่ ง้ั มาจากสมาคม
่
ให้กลุมการเมื
องสามารถส่งผูสมั
่
้ คร
ส.ส. บัญชีรายชือ
่ และผูสมั
้ คร
ส.ส. เขตได้ เพือ
่ ให้กลุมต
ๆ
่ าง
่
เขามาร
วมมากขึ
น
้
้
่
32
๕. สรางสมดุ
ลในอานาจ ๒ สภา
้
- สภาผูแทนราษฎร
- ประธานสภา
้
ผูแทนเป็
นประธานรัฐสภา
้
- เลือกนายกรัฐมนตรี
- ควบคุมรัฐบาล / ไม่
ไววางใจ
้
นายกรัฐมนตรีได้
- เสนอกฎหมายได้
- หากเห็นไมตรงกั
บ
่
33
- วุฒส
ิ ภา
ถอดถอน
- เสนอกฎหมายได้
- ประชุมรวมกั
บ ส.ส.
่
ดวยคะแนนเกิ
น
้
กึง่ หนึ่งของรัฐสภา
- ประชุมรวมกั
บ ส.ส.
่
แกรั
้ ฐธรรมนูญใช้
คะแนน ๒ ใน ๓
34
๖. สรางสมดุ
ลระหวางวิ
ั พรรค
้
่ นย
กับอิสระของ ส.ส.
- ห้ามผูที
่ ใิ ช่ ส.ส. มีมติให้ ส.ส.
้ ม
ลงมติ
- หาก ส.ส. ลาออกจากพรรคหรือ
องพนจาก
กลุมการเมื
้
่
การเป็ น ส.ส.
- ส.ส. ลงมติโดยอิสระในสภา ถา้
พรรคพนจากการเป็
นสมาชิก ไมพ
้
่ น
้
35
๗. สรางสมดุ
ลโดยแยกอานาจนิต ิ
้
บัญญัตจ
ิ ากอานาจบริหาร : ส.ส. เป็ นรัฐมนตรี
ไมได
่ ้
มีมาตรการป้องกันไมให
่ ้ ส.ส. ทีไ่ มได
่ ้
เป็ นรัฐมนตรีทาลายเสถียรภาพรัฐบาลไทย
๗.๑ การอภิปรายไม่
ไววางใจ
ถาลงมติ
ไมไว
้
้
่ วางใจชนะสภา
้
ผู้แทนราษฎรตองยุ
บ เพือ
่ บีบให้ ส.ส. ไปใช้
้
กลไกอืน
่ ทีม
่ ป
ี ระสิ ทธิภาพในการตรวจสอบ
มากกวาคื
่ อ
36
๗.๒ นรม. ขอความไววางใจจากสภา
้
ผู้แทนราษฎร
๗.๓ นรม. แถลงวาร
ง้ ฉบับ
่ างกฎหมายทั
่
หรือบางมาตรา
เป็ นการให้ความไววางใจต
อรั
้
่ ฐบาล
- รอพิจารณารางกฎหมาย
ตองยื
น
่
่
้
ญัตติไมไว
่ วางใจใน
้
๔๘ ชัว
่ โมง ถาไม
ยื
่ รางกฎหมายผ
านสภา
้
่ น
่
่
ผู้แทนราษฎร
37
๘. สรางสมดุ
ลระหวางฝ
้
่ ่ ายการเมืองซึง่ กาหนด
นโยบายกับฝ่ายประจาซึง่ ตองท
าตามนโยบาย
้
- คณะกรรมการดาเนินการแตงตั
่ ง้ ขาราชการ
้
โดยใช้ระบบคุณธรรม
- ห้ามแทรกแซงการแตงตั
่ ง้ โยกยาย
้
ขาราชการ
เจ้าหน้าที่ เวนแต
ท
้
้
่ าตาม
กฎหมาย
38
๙. สร้างสมดุลระหวางพรรคฝ
่
่ ายรัฐบาลและ
พรรคฝ่ายค้าน
ใน
สภาผู้แทนราษฎร
๙.๑ มีบทบัญญัตก
ิ าหนดกลไกไมให
่ ้
พรรครัฐบาลรวบอานาจในทาง
นิต ิ
บัญญัตโิ ดยกาหนดให้ตาแหน่งรองประธานสภา
ผู้แทนราษฎร ไดมาจากผู
้
้ทีไ่ ดรั
้ บคะแนนเสี ยง
ในการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร
เป็ นลาดับที่ ๒ ทาให้สมาชิกพรรคฝ่ายคานมี
้
โอกาสดารงตาแหน่งรองประธานสภา
39
ให้มีการปฏิรป
ู ดานต
าง
ๆ ดังนี้
้
่
๑. ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการ
ยุตธ
ิ รรม
- ให้ประชาชนเขาถึ
้ งกฎหมาย
และกฎโดยงาย
ให้ตรากฎหมายวา่
่
ดวยการจั
ดทาประมวลกฎหมายเพือ
่
้
รวบรวมและปรับปรุงกฎหมาย และ
40
- ให้ประชาชนผูมี
้ รายไดน
้ ้ อย
ไดรั
้ บความช่วยเหลือ
ทางกฎหมายและคดีอยางมี
่
ประสิ ทธิภาพ
- ปรับปรุงกฎหมายซึง่ กาหนดเรือ
่ ง
การออกใบอนุ ญาตทีม
่ ล
ี ก
ั ษณะเป็ น
การผูกขาด ให้สั มปทาน หรือให้
สิ ทธิ
41
มาตรา ๒๑๘ วรรคสี่ : ความโปรงใส
่
• คาพิพากษา คาวินิจฉัย และคาสั่ ง ตองแสดง
้
เหตุผลประกอบการวินิจฉัยหรือการมีคาสั่ ง ต้อง
อานโดยเปิ
ดเผย และตองให
่
้
้ผู้มีส่วนไดเสี
้ ย
สามารถเขาถึ
าย
เวนแต
เป็
่ งที่
้ งไดโดยง
้
่
้
่ นเรือ
เกีย
่ วกับประโยชนสาธารณะ
ประชาชนทัว่ ไปอาจ
์
เขาถึ
้ งไดด
้ วย
้
มาตรา ๒๒๐ วรรคสอง : การสรางความ
้
เป็ นธรรม
๑. สิทธิและเสรีภาพ
สิทธิในกระบวนการยุตธิ รรม
(ม. ๔๔)
๒. แนวนโยบายพืน้ ฐานแห่ งรั ฐ
กฎหมายและกระบวนการ
ยุตธิ รรม (ม. ๘๗)
ด้ านกฎหมายและ
กระบวนการยุตธิ รรม
๓. ศาลและกระบวนการยุตธิ รรม
หลักนิตธิ รรม (ม.๒๑๗)
ความโปร่ งใส (ม.๒๑๘)
การสร้ างความเป็ นธรรม (ม.๒๒๐)
๔. การปฏิรูป
รวม ๗ เรื่ องสาคัญ
(ม. ๒๘๒)
๒. ปฏิรป
ู ดานการเงิ
น การคลัง และ
้
ภาษีอากร
- จัดระบบภาษีเป็ น ๒ ระดับ คือ
ระดับชาติ และระดับทองถิ
น
่
้
- ให้มีกฎหมายกาหนดให้บุคคลตอง
้
แสดงรายไดของตนต
อหน
้
่
่ วยงานของ
รัฐทีเ่ กีย
่ วของ
เพือ
่ ให้ผูมี
้
้ รายไดทุ
้ กคน
เขาสู
วนสมบู
รณ ์
้ ่ ระบบภาษีอยางครบถ
่
้
44
- ปฏิรป
ู ระบบภาษี ให้เกิด
ประสิ ทธิภาพ เป็ นกลาง เป็ นธรรม
และลดความเหลือ
่ มลา้ ทางเศรษฐกิจ
โดยพิจารณายกเลิกมาตรการ
ลดหยอนหรื
อยกเวนภาษี
ให้เหลือน้อย
่
้
ทีส
่ ุด
- จัดให้มีระบบบานาญแหงชาติ
่
45
๓. ปฏิรป
ู ดานการบริ
หารราชการ
้
แผนดิ
่ น
- ให้มีองคกรบริ
หารการพัฒนา
์
ภาค ทาหน้าทีส
่ นับสนุ นการพัฒนา
จังหวัดตาง
ๆ ทีต
่ ง้ั อยูในภาคและ
่
่
กากับดูแลหน่วยงานของรัฐในพืน
้ ที่
จัดทาแผนและบริหารงบประมาณ
46
๔. ปฏิรป
ู ดานการ
้
บริหารทองถิ
น
่
้
- ตรากฎหมายและ
จัดให้มีกลไกทีจ
่ าเป็ น
สาหรับการจัดตัง้ องคกร
์
บริหารทองถิ
น
่ เต็มพืน
้ ที่
้
จังหวัด
และดาเนินการจัดตัง้
47
๕. การปฏิรป
ู ดานการศึ
กษา
้
๑. สิทธิและเสรีภาพ
สิทธิในการรับการศึกษา
(ม. ๕๒)
๒. แนวนโยบายพืน้ ฐานแห่ งรั ฐ
การจัดการศึกษาอบรม
ทุกระดับ ทุกรู ปแบบ (ม. ๘๔)
ด้ านการศึกษา
๓. การปฏิรูป
รวม ๑๒ เรื่ องสาคัญ
(ม. ๒๘๖)
การปฏิรูปการศึ กษา:
ม. ๒๘๖
• ลดบทบาทของรัฐ จากการเป็ น
“ผู้จัดการศึ กษา” เป็ น “ผู้จัดให้มี
การศึ กษา” + ให้สถานศึ กษาบริหาร
จัดการการศึ กษาไดอย
อส
ิ ระ มี
้ างมี
่
ประสิ ทธิภาพ และรับผิดชอบตอ
่ โดย
ให้เอกชน ชุมชน และองคกรบริ
หาร
์
ทองถิ
น
่ มีส่วนรวมอย
างเหมาะสม
้
่
่
การปฏิรูปการศึ กษา:
ม. ๒๘๖
• ปรับปรุง “ระบบการพัฒนาเด็กปฐมวัย” ตัง้ แตใน
่
ครรภ ์
• ปรับปรุง “การอาชีวศึ กษา”
• ปรับปรุง “ระบบอุดมศึ กษา” + วิชาการรับใช้
สั งคม
• พัฒนา “ระบบการเรียนรู”้ โดยเน้นกระบวนการ
คิด การใช้เหตุผล
การปฎิบต
ั ิ , ส่งเสริมการศึ กษาดานวิ
ชาการ
้
การปฏิรูปการศึ กษา:
ม. ๒๘๖
• พัฒนา “ระบบธรรมาภิบาล” ในวงการการศึ กษา
• ปรับปรุง “ระบบการทดสอบและประเมินผล
การศึ กษา”
• ปรับปรุง “โครงสรางการบริ
หารการศึ กษา” ทัง้
้
ระดับชาติ ระดับพืน
้ ที่
และระดับทองถิ
น
่
้
• จัดทา “ประมวลกฎหมายการศึ กษา” เพือ
่
สนับสนุ นการปฏิรป
ู ในทุกดาน
้
๖. การปฏิรป
ู ดานทรั
พยากรธรรมชาติ
้
สิ่ งแวดลอม
้
และการผังเมือง
๑. สิทธิและเสรีภาพ
สิทธิดารงชีวติ ในสิ่งแวดล้ อมที่เอือ้
ต่ อสุขภาพที่ดี (ม. ๕๘)
สิทธิชุมชน (ม.๖๓)
สิทธิพลเมือง (ม.๖๔)
๒. แนวนโยบายพืน้ ฐานแห่ งรั ฐ
ทรั พยากรธรรมชาติเป็ นสมบัติ
ของชาติเพื่อประโยชน์
สาธารณะ (ม. ๙๒)
ด้ านทรัพยากรธรรมชาติ
สิ่งแวดล้ อม และการผังเมือง
๓. การปฏิรูป
รวม ๔ ด้ านสาคัญ (ม. ๒๘๗)
๑. องคกร
กฎหมาย
์
๒. เครือ
่ งมือ กลไก
 ประมวลกฎหมาย
 การทารายงาน EIA /
สิ่ งแวดลอม
EHIA
้
 ประมวลกฎหมาย
 การประเมินสิ่ งแวดลอม
้
ทรัพยากรดานต
างๆ
ระดับยุทธศาสตร ์ (SEA)
้
่
 ตรากฎหมายทรัพยากร
 การผังเมือง การจัดเขต
น้า , พืน
้ ทีค
่ ุ้มครองทาง
การใช้ประโยชนที
่ น
ิ
์ ด
ทะเล, ขยะและของเสี ย
ระบบการจัดเขต
อันตราย, สิ ทธิชุมชนและ
การใช้ประโยชนพื
้ ทีใ่ น
์ น
กระจายอานาจ
ทะเล
3. กระบวนการยุตธิ รรม
 การคานวณตนทุ
้ นความ
เสี ยหาย
ดานสิ
่ งแวดลอม
้
้
 กฎหมายการดาเนินคดี
และ
การเยียวยาความ
เสี ยหาย
 องคกรและสถาบั
น
์
เกีย
่ วกับ
4. การมีส่วนรวม
่
กลไกและกระบวนการมี
หลัวมของประชาชน
ส่วนร
่ กปรัชญาเศรษกิจ
พอเพี
และชุมชนอย
างแท
่ ยง ้จริง
+
หลักธรรมาภิบาล
สิ่ งแวดล้อม
+
การเข้าถึงทรัพยากรอย่าง
เป็ นธรรม
และยัง่ ยืน +
๗. ปฏิรป
ู ดานพลั
งงาน
้
- บริหารจัดการพลังงานอยางมี
ธรรมาภิ
่
บาลและยัง่ ยืน ให้ปิ โตรเลียมและ
เชือ
้ เพลิงธรรมชาติอน
ื่ เป็ นทรัพยากรของ
ชาติ และมีไวเพื
่ ประโยชนสู
้ อ
์ งสุดของ
ประเทศและประชาชนอยางแท
จริ
่
้ ง
- ดาเนินการจัดทาหรือปรับปรุง
กฎหมาย
57
๘. ปฏิรป
ู ดานเศรษฐกิ
จมหภาค
้
- ปรับปรุงกฎหมายเพือ
่ ป้องกัน
ลด จากัดหรือขจัดการผูกขาด
และการกีดกันการแขงขั
น
่ นอยางเป็
่
ระบบและมีประสิ ทธิภาพ และ
ส่งเสริมให้ธุรกิจมีการแขงขั
่ นอยาง
่
เสรีและเป็ นธรรม รวมทัง้ ป้องกันมิ
ใหผูประกอบการรายใหญใชอานาจ
58
- ในกรณีทรี่ ฐั จาเป็ นตองท
าการ
้
ผูกขาดในกิจการ
อันเป็ นสาธารณประโยชนเพื
่
์ อ
ประชาชนส่วนใหญ่ รัฐตองก
ากับ
้
ดูแลเพือ
่ ให้เกิดความเป็ นธรรมตอ
่
ผูบริ
้ โภค
- จัดสรรงบประมาณพิเศษเพิม
่ เติม
ตามความเหมาะสมอยางตอเนื่อง
59
- บริหารจัดการรัฐวิสาหกิจอยาง
่
เป็ นระบบ ทบทวนความจาเป็ นใน
การดารงอยูของรั
ฐวิสาหกิจแตละ
่
่
แหง่ ตลอดจนให้มีการปฎิรป
ู
รัฐวิสาหกิจทีข
่ าดทุนหรือ
ขาดประสิ ทธิภาพ โดยจัดให้มี
ม
่ ค
ี วามเป็ นอิสระ
องคกรที
์
60
- ปรับโครงสรางการก
ากับดูแลและ
้
การส่งเสริมสหกรณ ์ โดยยกระดับ
มาตรฐานการดาเนินงานของสหกรณ ์
เพือ
่ การออมทรัพยให
์ ้เป็ นสถาบัน
การเงินทีม
่ น
่ ั คง และมีธรรมาภิบาล
และยกระดับมาตรฐานสหกรณ ์
ประเภทอืน
่ เพือ
่ ส่งเสริมการรวมตัว
61
การแกไขปั
ญหาความเหลือ
่ มลา้
้
- ให้มีหน่วยงานกลางในการแกไขปั
ญหา
้
ความยากจนและปัญหาความเหลือ
่ มลา้ ดาน
้
รายไดและโอกาสทางสั
งคม
้
- จัดสรรงบประมาณพิเศษเพิม
่ เติมตาม
ความเหมาะสมอยางต
อเนื
่ พัฒนา
่
่ ่อง เพือ
พืน
้ ทีย
่ ากจนและกลุมคนผู
่
้มีรายไดน
้ ้ อย
เพือ
่ ให้ชุมชนเขมแข็
งและลดความเหลือ
่ มลา้
้
ทางเศรษฐกิจ
62
๙. ปฏิรูปดานเศรษฐกิ
จรายสาขา
้
ภาคการเกษตร
- กระจายการถือครองทีด
่ น
ิ อยางเป็
นธรรม
่
จัดหา จัดรูป และบริหารจัดการทีด
่ น
ิ ของรัฐ
และของเอกชนทีไ่ มใช
จ
่ ้ประโยชนทางเศรษฐกิ
์
เพือ
่ เอือ
้ ให้เกษตรกรและชุมชนสามารถเข้าถึง
ทีด
่ น
ิ เพือ
่ ทากิน รวมทัง้ รักษาทีด
่ น
ิ ทากินไวได
้ ้
โดยใช้มาตรการในการจัดตัง้ ธนาคารทีด
่ น
ิ
การให้สิ ทธิชุมชนในการจัดการทีด
่ น
ิ และ
63
- คุมครองเกษตรกรให
้
้ไดรั
้ บความเป็ นธรรม
จากการผูกขาดทางการเกษตร ระบบเกษตร
พันธสั ญญา และการทาสั ญญาทีไ่ มเป็
่ นธรรม
โดยการปรับปรุงกฎหมาย
- สรางระบบประกั
นความเสี่ ยงแกเกษตรกร
้
่
กรณีเกิดความเสี่ ยงทางการผลิตหรือการตลาด
- ส่งเสริมการพัฒนาและขยายพืน
้ ทีก
่ ารทา
ระบบเกษตรกรรมยัง่ ยืนให้มีสัดส่วนพืน
้ ทีอ
่ ยาง
่
น้อยหนึ่งในสี่ ของพืน
้ ทีเ่ กษตรกร
64
ภาคอืน
่ ๆ
- ส่งเสริมอุตสาหกรรมการทองเที
ย
่ วให้
่
เป็ นแหลงท
ย
่ วคุณภาพ ไมเป็
่ องเที
่
่ นอันตราย
ตอสิ
และสอดคลองกั
บอัตลักษณ์
่ ่ งแวดลอม
้
้
วัฒนธรรม เพือ
่ เพิม
่ รายไดแก
้ ประเทศและ
่
กระจายรายไดสู
ว่ ถึง
้ ่ ประชาชนอยางทั
่
- ปฏิรป
ู เพือ
่ ยกระดับโครงสรางพื
น
้ ฐาน
้
และโลจิสติกส์ ปฏิรป
ู ระบบการขนส่ง และ
เชือ
่ มโยงการคมนาคมขนส่งทุกรูปแบบ ทุก
65
- สรางและพั
ฒนาสั งคมผูประกอบการ
โดย
้
้
สนับสนุ นให้เกิดวิสาหกิจขนาดยอมและ
่
ขนาดกลางอยางเป็
นระบบ ส่งเสริมการ
่
ลงทุน สรางความสามารถในการเข
าถึ
้
้ ง
แหลงทุ
่ น ใช้นวัตกรรมในการสราง
้
ผลิตภัณฑเชิ
์ งพาณิชย ์ รวมทัง้ ส่งเสริม
เศรษฐกิจสรางสรรค
้
์
- สนับสนุ นและส่งเสริมการลงทุนของ
ภาคเอกชนไทยในตางประเทศอยางเป็ น
66
๑๐. ปฏิรูปสั งคม
- ปฏิรป
ู ระบบสวัสดิการสั งคม ทัง้
ดานการให
้
้บริการสั งคม การ
ประกันสั งคมทุกกลุมวั
่ ย การช่วยเหลือ
ทางสั งคม และการสนับสนุ นหุ้นส่วน
ทางสั งคม ทีม
่ ค
ี วามครอบคลุมเพียงพอ
ยัง่ ยืน มีคุณภาพ เขาถึ
้ งได้ และมี
ส่วนรวมจากภาคส
ๆ โดยเน้น
่
่ วนตาง
่
67
- รัฐ หน่วยงานของรัฐ องคกร
์
บริหารทองถิ
น
่ และ
้
ื้ ที่
ดให้มีพน
ศาสนสถาน ตองจั
้
สาธารณะเพือ
่ ให้คนในชุมชน
ใช้ประโยชนร์ วมกั
นในการทากิจกรรม
่
เพือ
่ สรางสั
มพันธ ์
้
ทางสั งคม กิจกรรมนันทนาการ และ
กีฬา
68
- จัดทาแผนระยะยาวและดาเนินการ
เพือ
่ รองรับสั งคมผูสู
้ งอายุของประเทศ
ไทย โดยเฉพาะการจัดให้มีระบบการ
ออมเพือ
่ การดารงชีพในยามชรา และ
การเตรียมความพรอมสู
้
่ วัยสูงอายุท ี่
เหมาะสมของประชาชน การปรับปรุง
ระบบการเกษียณอายุทเี่ หมาะสม การ
ปฏิรป
ู ระบบสวัสดิการผูสู
้ งอายุทไี่ มมี
่
69
๑๑. ปฏิรป
ู ดานวิ
ทยาศาสตรและเทคโนโลยี
้
์
- ให้มีคณะกรรมการปฏิรป
ู ดานวิ
ทยาศาสตร ์
้
และเทคโนโลยี
ทาหน้าทีก
่ าหนดยุทธศาสตร ์ นโยบายและ
แผนเพือ
่ การปฏิรป
ู วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
์
- ลงทุนดานการศึ
กษา วิจย
ั การสราง
้
้
นวัตกรรม โครงสรางพื
น
้ ฐานดาน
้
้
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ของประเทศอยาง
่
์
พอเพียง
70
๑๒. การปฏิรป
ู ดานการสื
่ อสารมวลชนและ
้
เทคโนโลยีสารสนเทศ
การปฏิรูปสื่ อสารมวลชนและเทคโนโลยีฯ :
ม. ๒๙๖
• กลไกส่งเสริมผูปฎิ
ั งิ านในวิชาชีพสื่ อมวลชน
้ บต
ให้มี “เสรีภาพ”
ควบคูกั
่ บ “ความรับผิดชอบ” + ส่งเสริม “สวัสดิ
ภาพและสวัสดิการ”
ั งิ านฯ
ของผูปฏิ
้ บต
• พัฒนากลไกและมาตรการ “กากับดูแล
สื่ อสารมวลชน” ทัง้ การกากับดูแลตนเองดาน
้
จริยธรรม การกากับโดยภาคประชาชน +
73
- เพื่อประโยชน์ในการสร้างบรรยากาศของความ
สมานฉันท์ เสริ มสร้างความปรองดองระหว่างคนในชาติ
และสร้างแนวทางที่จะนาพาประเทศไปสู่ความมี
เสถียรภาพและสันติสุขอย่างแท้จริ ง ให้มีคณะกรรมการ
เสริ มสร้างความปรองดองแห่งชาติ จานวน ๑๕ คน
- ให้มีกฎหมายว่าด้วยการเสริ มสร้างความปรองดอง
แห่งชาติ
74
75
- อยูในร
างรั
่
่ ฐธรรมนูญภาค ๔
การปฏิรป
ู และการสรางความปรองดอง
้
ทีจ
่ ะมีอายุอยูเพี
่ ยง ๕ ปี ยกเว้นจะมี
การลงประชามติให้ตออายุ
ไดอี
่
้ กไมเกิ
่ น
๕ ปี
- มีกลไกแยกตางหากจากการบริ
หาร
่
ประเทศตามปรกติ ๒ กลไก คือ
คณะกรรมการเสริมสรางความปรองดอง
้
แหงชาติ
และคณะกรรมการหรือสภา
่
76
- กระบวนการตรากฎหมายในภาค ๔
จะแตกตางจากกระบวนการตรากฎหมาย
่
ตามปรกติ
(๑) ให้เริม
่ ต้นทีว่ ุฒส
ิ ภา
(๒) ให้สภาผูแทนราษฎรพิ
จารณา
้
รางกฎหมายที
ผ
่ าน
่
่
การพิจารณาจากวุฒส
ิ ภา ไดเพี
้ ยง
เห็ นชอบหรือไมเห็
่ นชอบ เทานั
่ ้น
(๓) หากสภาผู้แทนราษฎรไม่
เห็ นชอบ วุฒส
ิ ภาก็อาจยืนยันไดดวยเสี ยง
77
มาตรา ๒๗๙
เพือ
่ ประโยชนแห
าเนินการปฏิรป
ู
่
์ งการด
ประเทศให้ตอเนื
่ ่องจนบรรลุผล
ให้มีสภาขับเคลือ
่ นการปฏิรป
ู ประเทศและคณะกรรมการ
ยุทธศาสตรการปฏิ
รป
ู แหงชาติ
่
์
ซึง่ มีองคประกอบและที
ม
่ า ดังตอไปนี
้
่
์
(๑) สภาขับเคลือ
่ นการปฏิรป
ู ประเทศ
ประกอบดวย
้
สมาชิกไมเกิ
ส
่ ิ บคน
่ นหนึ่งรอยยี
้
ซึง่ พระมหากษัตริยทรงแต
งตั
้
่ ง้ จากบุคคลดังตอไปนี
่
์
(ก) สมาชิกสภาปฏิรป
ู แหงชาติ
ตามรัฐธรรมนูญแหง่
่
ราชอาณาจักรไทย (ฉบับชัว
่ คราว) พุทธศั กราช ๒๕๕๗
จานวนหกสิ บคน
(ข) สมาชิกสภานิตบ
ิ ญ
ั ญัตแ
ิ หงชาติ
ตามรัฐธรรมนูญแหง่
่
ราชอาณาจักรไทย
(ฉบับชัว
่ คราว) พุทธศั กราช ๒๕๕๗ จานวนสามสิ บคน
78
ประกอบดวย
กรรมการซึง่ ปฏิบต
ั ิ
้
หน้าทีเ่ ต็มเวลาและมาจากผูทรงคุ
ณวุฒซ
ิ ง่ึ มีความเชีย
่ วชาญใน
้
การปฏิรป
ู ดานต
างๆ
้
่
ไมเกิ
งตั
่ นสิ บห้าคนซึง่ พระมหากษัตริยทรงแต
่ ง้ ตามมติสภา
์
ขับเคลือ
่ นการปฏิรูปประเทศ
มีอานาจหน้าทีด
่ งั ตอไปนี
้
่
(๑) ขับเคลือ
่ นการปฏิรป
ู โดยการเสนอแนะนโยบายและ
ข้อเสนอในการปฏิรป
ู
ตอรั
่ วข้อง
่ ฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือหน่วยงานทีเ่ กีย
(๒) นาแผนและขัน
้ ตอนการออกกฎหมายและการปฏิบต
ั ิ
เพือ
่ ให้เกิดการปฏิรป
ู
ของสภาปฏิรป
ู แหงชาติ
่
(๓) ส่งเสริมการศึ กษา การวิจย
ั และการเผยแพร่
ความรูเกี
่ วกับการปฏิรป
ู
้ ย
(๔) เสริมสรางและพั
ฒนาศั กยภาพของประชาชนเพือ
่
้
79
กำรได้ มำซึ่งนำยกรัฐมนตรีของประเทศไทย
80
ก่ อนปี พ.ศ. 2535
พระมหำกษัตริย์
นำควำมกรำบบังคมทูลเพือ่ ทรง
แต่ งตั้งนำยกรัฐมนตรี
ประธาน
วุฒสิ ภาจาก
การแต่ งตัง้
เป็ นประธาน
รัฐสภา
หัวหน้ ำ
พรรค 1
หัวหน้ ำ
พรรค 2
ทรงแต่ งตัง้ นายกรัฐมนตรี
ซึ่งจะเป็ น ส.ส. หรือไม่ กไ็ ด้
สภาผู้แทนราษฎร
ไม่ มีบทบาทใด
มีจดหมำยสนับสนุนบุคคลให้
เป็ นนำยกรัฐมนตรี
หัวหน้ ำ
พรรค 3
81
ก่ อนปี พ.ศ. 2535 - 2540
พระมหำกษัตริย์
นำควำมกรำบบังคมทูลเพือ่ ทรง
แต่ งตั้งนำยกรัฐมนตรี
ทรงแต่ งตัง้ นายกรัฐมนตรี
จาก ส.ส.
1. ประธานสภา
ผู้แทนราษฎรเป็ น
ประธานรั ฐสภา
สภาผู้แทนราษฎร
ไม่ มีบทบาทใด
2. ผู้ท่ จี ะเป็ น
นายกรั ฐมนตรีต้อง
เป็ น ส.ส.
มีจดหมำยสนับสนุนบุคคลให้
เป็ นนำยกรัฐมนตรี
หัวหน้ ำ
พรรค 1
หัวหน้ ำ
พรรค 2
หัวหน้ ำ
พรรค 3
82
ตามรั ฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540, 2550
พระมหำกษัตริย์
นำควำมกรำบบังคมทูลเพือ่ ทรง
แต่ งตั้งนำยกรัฐมนตรี
1. ประธานสภา
ผู้แทนราษฎรเป็ น
ประธานรั ฐสภา
2. ผู้ท่ จี ะเป็ น
นายกรั ฐมนตรี
ต้ องเป็ น ส.ส.
ทรงแต่ งตัง้
นายกรัฐมนตรี
จาก ส.ส.
3. สภาผู้แทนราษฎร
ลงมติเลือกโดย
เปิ ดเผย
เกิดวิกฤตในปี 2557 หำทำงออกไม่ ได้
83
ตามร่ างรั ฐธรรมนูญ
พระมหำกษัตริย์
นำควำมกรำบบังคมทูล
เพือ่ ทรงแต่ งตั้ง
นำยกรัฐมนตรี
1. ประธานสภา
ผู้แทนราษฎร
เป็ นประธานรั ฐสภา
ทรงแต่ งตัง้
นายกรัฐมนตรี
2.สภาผู้แทนราษฎร
ลงมติเลือกโดย
เปิ ดเผย
โดยปกติ สภำผู้แทนรำษฎรจะลงมติเลือก ส.ส. เป็ นนำยกรัฐมนตรี
84
ประเทศที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ
ว่ านายกรั ฐมนตรี ต้องเป็ นสมาชิกรั ฐสภา
(ทั่วโลกมีเพียง 30 ประเทศ)
เช่ น ออสเตรเลีย, รัฐเอกราชปาปั วนิวกินี, สหพันธรัฐมาเลเซีย,
ราชอาณาจักรกัมพูชา, ญี่ปน,
ุ่ ราชอาณาจักรภูฏาณ, ไอร์ แลนด์,
ศรี ลงั กา, สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ, สาธารณรัฐมอลตา,
สาธารณรัฐสิงคโปร์ , สาธารณรัฐฟิ จิ, สหพันธ์สาธารณรัฐ
ประชาธิปไตยเอธิโอเปี ย , สาธารณรัฐกายอานา, รัฐอิสราเอล,
สาธารณรัฐตุรกี, สาธารณรัฐวานูอาตู, สาธารณรัฐตรินิแดดและ
โตเบโก, สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล, อินเดีย
ประเทศที่รัฐธรรมนูญมิได้ บัญญัตวิ ่ า
นายกรั ฐมนตรี ต้องเป็ นสมาชิกรั ฐสภา
(ประมาณ 60 ประเทศในระบบรั ฐสภา)
เช่ น สาธารณรัฐออสเตรี ย, ราชอาณาจักรเบลเยียม
, สาธารณรัฐบัลแกเรี ย, แคนาดา, สาธารณรัฐโครเอเชีย,
สาธารณรัฐเช็ก, ราชอาณาจักรเดนมาร์ ก, สาธารณรัฐฟิ นแลนด์,
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี, ฮังการี , ไอซ์แลนด์,สาธารณรัฐอิตาลี,
นิวซีแลนด์ ,ราชรัฐลักเซมเบิร์ก, ราชอาณาจักรสเปน,
ราชอาณาจักรสวีเดน, สหราชอาณาจักร,สาธารณรัฐมาซิโดเนีย,
มองโกเลีย, มอนเตรเนโกร, สาธารณรัฐนาอูล,ู ปากีสถาน,
สาธารณรัฐโปแลนด์, สาธารณรัฐโปรตุเกส, ซานมาริโอ, เซอร์ เบีย,.
สโลวาเกีย, สโลวิเนีย, แอฟริกาใต้ ,สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า
85