นพดล โป่งอาย ้ ศึ กษานิเทศก ์ สพป.ชม.3 การสร้างข้อสอบ จุดมุ่งหมายทางการศึกษา ด้านพุทธิพสิ ยั (Cognitive domain) จาแนกออกเป็ น 1.00 ความรูค้ วามจา 2.00 ความเข้าใจ 3.00 การนาไปใช้ 4.00 การวิเคราะห์ 5.00 การสังเคราะห์ 6.00 การประเมินผล ง่าย ยาก.

Download Report

Transcript นพดล โป่งอาย ้ ศึ กษานิเทศก ์ สพป.ชม.3 การสร้างข้อสอบ จุดมุ่งหมายทางการศึกษา ด้านพุทธิพสิ ยั (Cognitive domain) จาแนกออกเป็ น 1.00 ความรูค้ วามจา 2.00 ความเข้าใจ 3.00 การนาไปใช้ 4.00 การวิเคราะห์ 5.00 การสังเคราะห์ 6.00 การประเมินผล ง่าย ยาก.

นพดล
โป่งอาย
้
ศึ กษานิเทศก ์ สพป.ชม.3
การสร้างข้อสอบ
จุดมุ่งหมายทางการศึกษา
ด้านพุทธิพสิ ยั (Cognitive domain)
จาแนกออกเป็ น
1.00 ความรูค้ วามจา
2.00 ความเข้าใจ
3.00 การนาไปใช้
4.00 การวิเคราะห์
5.00 การสังเคราะห์
6.00 การประเมินผล
ง่าย
ยาก
จุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรม
(Behavioral Objective)
ส่ วนประกอบสำคัญ 3 ส่ วน คือ
• พฤติกรรมทีค่ ำดหวัง (Expected behavior)
• สถำนกำรณ์ (Situation)
• เกณฑ์ (Criteria)
คาที่แสดงการกระทาจาแนกตามระดับต่างๆ
ของจุดมุ่งหมายทางการศึกษาด้านพุทธิพสิ ยั
1.00 ความรู-้ ความจา
บอก บ่งชี้ บรรยาย แยกประเภท จัดลาดับ ระบุ
ให้ตวั อย่าง ให้นิยาม ให้เครื่องหมาย
2.00 ความเข้าใจ
แปล เปลีย่ นรูป ใช้ภาษาของตนเอง ยกตัวอย่าง
ตีความ บอก จัดเรียงใหม่ ทานาย กะประมาณ
ขยาย คาดคะเน ลงสรุป
3.00 การนาไปใช้ บอก ใช้ คานวณ เลือก สร้าง เสนอ แก้ปญั หา
ผลิต แสดง ดัดแปลง สาธิต เตรียม
คาที่แสดงการกระทาจาแนกตามระดับต่างๆ
ของจุดมุ่งหมายทางการศึกษาด้านพุทธิพสิ ยั
4.00 การวิเคราะห์ บอก บ่ง จาแนก สกัด ค้นหา แยกแยะ
บอกความแตกต่าง-คล ้ายคลึง ลงสรุป จัดประเภท
ประมาณราคา จัดจาพวก ตัง้ คาถาม ทดสอบ
5.00 การสังเคราะห์
บอก เขียน สร้าง แก้ไข รวบรวม ประกอบ ขยาย
ริเริ่ม ผลิต วางโครงการ เสนอ ออกแบบ ปรับปรุง
พัฒนา อนุมาน พิสูจน์ ค้นหา
6.00 การประเมินผล
ตัดสิน ประเมิน โต้แย้ง ใช้เกณฑ์วพิ ากษ์วจิ ารณ์
ชี้ขาด พิจารณา เปรียบเทียบ ให้คะแนน
ใช้เกณฑ์เปรียบเทียบ บ่งเหตผล บ่งความสอดคล ้อง
ลักษณะทัว่ ไปของข้อสอบที่ดี
1. มีความตรงตามเนื้อหา
2. มีความเทีย่ ง คงเส้นคงวา
3. มีความเป็ นปรนัย
4. มีความยากง่ายพอเหมาะ
5. มีอานาจจาแนก
6. มีความยุตธิ รรม
7. มีความจาเพาะเจาะจง
8. มีความพอดีในด้านเวลา
9. มีความเหมาะสมกับผูส้ อบ
ขัน้ ตอนการสร้างแบบทดสอบที่ครูสร้าง
(Teacher-made Test)
1. ศึกษาจุดมุ่งหมายของรายวิชา เนื้ อหาที่จะวัด
2. สร้างตารางการสร้างข้อสอบ (Test Blueprint)
3. กาหนดรูปแบบข้อสอบ จานวนข้อสอบ และคะแนน
4. ลงมือสร้างข้อสอบตามเนื้ อหาและพฤติกรรมที่จะวัด
ตามที่ระบุในข้อ 2.
5. ตรวจทาน แก้ไขปรับปรุงพร้อมทาเฉลย
ขัน้ ตอนการสร้างแบบทดสอบที่ครูสร้าง
(Teacher-made Test)
6. รวบรวมข้อสอบเข้าเป็ นฉบับ พร้อมทัง้ เขียนคาชี้แจง เวลา คะแนน
ในแต่ละข้อ และออกแบบกระดาษคาถามและกระดาษคาตอบ
7. ดาเนิ นการพิมพ์ และจัดเตรียมแบบทดสอบ
8. ดาเนิ นการสอบและตรวจให้คะแนน
9. วิเคราะห์หาคุณภาพของแบบทดสอบหลังสอบทัง้ รายข้อ และทัง้
ฉบับ
10. นามาแก้ไขปรับปรุง และเก็บไว้ในคลังข้อสอบ
ตำรำงกำรสร้ ำงข้ อสอบ (Test Blueprint)
วิชำ หลักภำษำ
เนื้อหา
อันดับ
จานวนข้อสอบ
ความ
พฤติกรรมด้านพุทธิพสิ ยั
1.00 2.00 3.00 4.00 5.00 6.00 รวม สาคัญ
1. ความรู ้เกี่ยวกับภาษาไทย
12
2. ประวัติอกั ษรไทย
6
3. ลักษณะสาคัญของภาษาไทย
6
4. คาและความหมายของคา
13
5. หน้าที่ของคาเมื่อเข้าประโยค
3
6. แบบแผนคาประพันธ์ประเภทกาพย์ 6
รวม
46
อันดับความสาคัญ
1
2
6
8
4
1
4
5
3
13
3
4
3
6
9
5
6
33
2
- - 16
- - 10
- - 12
- - 28
- - 19
- - 15
- - 100
- - -
3
6
5
1
2
4
-
ข้อสอบแบบเลือกตอบ
ตัวอย่ างข้ อสอบแบบเลือกตอบ
คาชีแ้ จง ข้ อสอบต่อไปนี ้เป็ นแบบเลือกตอบชนิด 5 ตัวเลือก มีจำนวน 7 ข้ อ
ให้ นกั เรี ยนเลือกตัวเลือกที่ถกู ที่สดุ เพียงตัวเลือกเดียว
1) เรำเรี ยกกระบวนกำรที่น ้ำและคำร์ บอนไดออกไซด์ ผสมกันเป็ นแป้งและน ้ำตำล
ด้ วยพลังงำนแสงสว่ำงและคลอโรฟิ ล ว่ำอะไร
ก. ปฏิกิริยำเคมี
ข. ปฏิกิริยำแสง
ค. สังเครำะห์แสง
ง. วิเครำะห์แสง
จ. กำรปรุงแสง
ข้อสอบแบบเลือกตอบ
2) เมื่อแช่เทอร์ มอมิเตอร์ ไว้ ในกำต้ มน ้ำนัน้ เรำจะเห็นระดับปรอทสูงขึ ้นเรื่ อยๆ
จนหยุดนิ่งอยูท่ ี่ระดับหนึง่ ตลอดเวลำที่น ้ำยังเดือดอยู่ กำรที่ปรอทหยุดนิ่งนี ้
แสดงว่ำอะไร
ก. น ้ำหยุดดูดควำมร้ อน
ข. กำรระเหยต้ องกำรควำมร้ อน
ค. ควำมร้ อนถูกนำไปใช้ ในกำรพำ
ง. เมื่อไอน ้ำรวมตัวจะคำยควำมร้ อน
จ. กำรเปลี่ยนแปลงของระดับปรอทต้ องกำรควำมร้ อน
ข้อสอบแบบเลือกตอบ
3) จันทรุปรำคำ จะปรำกฎอยูน่ ำน และเห็นเป็ นอำณำเขตกว้ ำงกว่ำ สุริยปุ รำคำ
เพรำะเหตุใด
ก. ดวงจันทร์ โคจรช้ ำกว่ำ
ข. เงำของโลกใหญ่กว่ำเงำของดวงจันทร์
ค. เรำเห็นดวงจันทร์ โตเท่ำๆ กับดวงอำทิตย์
ง. ดวงอำทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก อำจอยูเ่ ยื ้องๆ กันได้
จ. แสงจำกดวงจันทร์ ถกู บัง ไม่ใช่จำกแสงดวงอำทิตย์ถกู บัง
ข้อสอบแบบเลือกตอบ
4) ข้ อควำมต่อไปนี ้ กล่ำวถึงอะไร
" ควำมรู้ของมนุษย์เกิดได้ หลำยทำง ปั จจุบนั นิยมหำควำมรู้โดย
ใช้ กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ อันได้ แก่ วิธีทดลองและวิธีทำงสถิติ"
ก. ควำมรู้
ข. มนุษย์
ค. กำลเวลำ
ง. วิธีทำงสถิติ
จ. วิธีทดลอง
นาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรี ยน ที่สร้างเสร็ จเรี ยบร้อย
แล้วให้ผเู้ ชี่ยวชาญ จานวน 3 ท่าน ซึ่ งเป็ น ครู ที่เชี่ยวชาญด้านการ
สอนและนักวัดผลการศึกษา เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ความ
สอดคล้องของเนื้อหากับจุดประสงค์ โดยหา ดัชนีความสอดคล้อง
(Index of Consistency : IOC) แล้วคัดเลือกข้อคาถามที่มีค่า IOC 
0.50 ไว้ใช้ต่อไป
จุดประสงค์
ข้อคาถาม
+1
ความคิดเห็น
0
-1
วิเครำะห์ หำค่ ำควำมยำกง่ ำยและค่ ำอำนำจจำแนก
คัดเลือกข้อสอบ
1. ค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.20 - 0.80
2. ค่าอานาจจาแนกที่มีค่าตั้งแต่ 0.20 ขึ้นไป
3. ค่าอานาจจาแนกรายตัวลวงมีค่ามากกว่า 0 ขึ้นไป
หำค่ ำควำมเชื่อมัน่ และหำคุณภำพของแบบทดสอบ
วัดผลสั มฤทธิ์ นำข้ อสอบไปทดลองใช้ กบั นักเรียน
การวิเคราะห์ขอ้ สอบ
ที่ง่ายที่สุดในโลก
EVANA
แบบแผนการทดลอง
การเปรี ยบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรี ยน
การวิเคราะห์ t-test
ที่ง่ายที่สุดในโลก
SPSS
สร้างแบบวัดความพึงพอใจของนักเรี ยน
1. สร้างข้อคาถามความพึงพอใจของนักเรี ยน โดยตั้ง
คุณลักษณะให้เหมาะสม
2. จัดระดับความคิดเห็น เป็ น 5 ระดับ คือ มากที่สุด มาก
ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด
กาหนดการแปลความหมายของค่าเฉลี่ยของความ
พึงพอใจใช้เกณฑ์ในการแปลความหมาย
4.51 – 5.00 หมายถึง มากที่สุด
3.51 – 4.50 หมายถึง มาก
2.51 – 3.50 หมายถึง ปานกลาง
1.51 – 2.50 หมายถึง น้อย
1.00 – 1.50 หมายถึง น้อยที่สุด
นาแบบวัดความพึงพอใจนาไปให้ผูเ้ ชี่ยวชาญตรวจสอบ
ความถูกต้องและข้อเสนอแนะ นามาปรับปรุงแก้ไข