โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ. ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ โดย ดร.สุรชาติ กิม่ มณี วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550 การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ แนวคิดหลักในการนาเสนอ การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้

Download Report

Transcript โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ. ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ โดย ดร.สุรชาติ กิม่ มณี วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550 การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ แนวคิดหลักในการนาเสนอ การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้

Slide 1

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 2

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 3

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 4

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 5

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 6

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 7

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 8

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 9

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 10

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 11

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 12

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 13

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 14

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 15

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 16

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 17

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 18

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 19

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 20

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 21

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 22

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 23

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 24

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 25

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 26

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 27

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 28

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 29

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 30

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 31

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 32

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 33

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 34

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 35

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 36

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 37

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 38

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 39

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 40

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 41

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 42

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42


Slide 43

โครงการพัฒนาการให้ บริ การของหน่ วยลูกค้ าสัมพันธ์ พ.พ.

ทักษะในการนาเสนออย่ างมืออาชีพ
โดย

ดร.สุรชาติ กิม่ มณี
วันที่ 24 และ 31 มีนาคม 2550

0

การนาเสนอที่มีประสิ ทธิภาพ

1

แนวคิดหลักในการนาเสนอ
การนาเสนอ หมายถึง การสื่ อสารประเภทหนึ่ง

เพือ่ ให้ ผู้ฟังสามารถเข้ าใจ ประทับใจ เกิดความรู้ สึกยอมรับ
เห็นด้ วย จนกระทั่งยอมปฏิบัตติ ามในสิ่ งที่เรานาเสนอซึ่ง

บรรลุวตั ถุประสงค์ ของเรา
2

สถานการณ์ ในการนาเสนอ
1. จานวนผู้ฟัง
2. ลักษณะของสถานที่
3. วัฒนธรรมของกลุ่มผู้ฟัง
4. เรื่องที่ต้องนาเสนอ
3

การเตรียมการเบือ้ งต้ นในการนาเสนอ
1. การวิเคราะห์ ผู้ฟัง
1.1 ระดับการศึกษา
1.2 ตาแหน่ งงานหรืออาชีพ

2. วิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ
4

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ
หัวข้ อที่ 1

วัตถุประสงค์

แนวทางในการเตรียมวัตถุประสงค์ น้ัน สามารถทาได้ โดยการ
ตั้งคาถาม ดังนี้ คือ

1. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ วผู้ฟังจะต้ องทราบหรือเข้ าใจอะไรบ้ าง
2. เมื่อสิ้นสุ ดการนาเสนอแล้ ว ผู้ฟังจะมีความรู้ สึกอย่ างไร หรือ
อยากจะทาอะไร อันเนื่องมาจากข้ อมูลทีเ่ รานาเสนอ
5

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก

ประเด็นหลักจะเป็ นประเด็นหรือหัวข้ อประเด็นที่จะ
ตอบสนองหรือสนับสนุนให้ วตั ถุประสงค์ ในการนาเสนอบรรลุผล
อย่ างไรก็ตาม ประเด็นหลัก (Key Point) จะถูกกาหนดโดย
พิจารณาจากวัตถุประสงค์
6

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 2

การกาหนดประเด็นหลัก (ต่ อ)

ถ้ าเราคิดว่ าประเด็นหลัก 3-5 ประเด็นไม่ สามารถ
ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอได้ อย่ างครบถ้ วน เรา
สามารถตัดสิ นใจดาเนินการได้ สองแนวทาง คือ
1. จัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง

2. ลดเนือ้ หาในการนาเสนอ
7

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
ตัวอย่ างตารางการจัดกลุ่มประเด็นหลักหลาย ๆ ประเด็นให้ เหลือน้ อยลง
ประเด็นหลักเดิม

ประเด็นหลักที่ จดั กลุ่มใหม่

1. กิจกรรมในห้องน้ำ
1. กิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้า
2. กิจกรรมในการแต่งกายตอนเช้า
3. การเดินทางไปทำงาน
4. การปฏิบัติภารกิจในการทำงาน 2. กิจกรรมในการทำงาน
5.
6.
7.
8.
9.

การเดินทางกลับสู่ที่พัก
กิจกรรมในห้องน้ำ
กิจกรรมในการทานอาหารเย็น
กิจกรรมในการพักผ่อน
เข้านอน

3. กิจกรรมหลังการทำงาน

8

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก
1. เรียงลาดับเวลาในการเกิด
2. เรียงลาดับตามพืน้ ที่
3. เรียงลาดับตามความสาคัญ

9

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 3

การเรียงลาดับประเด็นหลัก (ต่ อ)

4. เรียงลาดับตามปัญหาและวิธีการแก้ ไข
4.1 สภาพปัญหาที่กาลังเกิดขึน้ เช่ น พนักงานมาทางานสาย
4.2 ผลกระทบของปัญหา เช่ น ผลกระทบต่ อการให้ บริการผู้มาติดต่ อ
4.3 สาเหตุของปัญหา เช่ น สาเหตุด้านแรงจูงใจในการมาปฏิบัตงิ าน

4.4 ข้ อเสนอในการแก้ไข เช่ น ข้ อเสนอในการปรับปรุงการเลือ่ นขั้น
เลือ่ นตาแหน่ ง

10

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 4

การกาหนดประเด็นย่ อยและเนือ้ หา

การกาหนดเนือ้ หา หรือ ประเด็นย่ อย ขึน้ อยู่กบั วัตถุประสงค์ ของ
ประเด็นหลัก เช่ น
- ประเด็นหลัก “สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
- ประเด็นย่ อย เป็ นตัวอธิบายหรือสนับสนุนประเด็นหลัก
“สาเหตุด้านแรงจูงใจ”
11

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 5

การกาหนดสะพานเชื่อมประเด็นหลัก

สะพานเชื่อมเหล่ านีจ้ ะเป็ นตัวสร้ าง

ความสั มพันธ์ ระหว่ างประเด็นหลักให้
กลมกลืนกันในการนาเสนอ

12

การเตรียมเนือ้ หาในการนาเสนอ (ต่ อ)
หัวข้ อที่ 6

การกาหนดตัวเปิ ดฉาก

1. การกล่าวถึงคาพูดของคนทีผ่ ้ฟู ังยอมรับนับถือ (Authoritative Quotation)
2. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังตั้งคาถามในเรื่องทีเ่ กีย่ วข้ องกับการนาเสนอ
(Rhetorical Question)

3. การใช้ คาประกาศในเรื่องต่ างๆ (Declarative Statement) ที่เกีย่ วข้ องกับ
เรื่องทีน่ าเสนอ
4. การใช้ วธิ ีการชวนให้ ผ้ฟู ังสร้ างภาพบางอย่ าง (Scenario) ที่สามารถนาเข้ า
13
สู่ เรื่องทีน่ าเสนอ

โครงสร้ างในการนาเสนอ
1. ส่ วนนา (Introductory)
1.1 การทักทายผู้ฟัง
1.2 การเปิ ดฉาก
1.3 การแนะนาตัวเอง
1.4 การบอกชื่อเรื่องที่จะนาเสนอ
1.5 การบอกวัตถุประสงค์ ในการนาเสนอ
1.6 การบอกภาพรวมของเนือ้ หาหลัก
1.7 การบอกเงือ่ นไขต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับการนาเสนอครั้งนี้
14

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
2. ส่ วนเนือ้ หา (Body)
2.1 ประเด็นหลัก (Key Point)
2.2 ประเด็นย่ อย (Sub Key Point) และเนือ้ หา (Supporting
Material)
2.3 สะพานเชื่อมประเด็นหลัก (Transition)

15

โครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
3. ส่ วนท้ าย (Closing)
3.1 สรุป (Summary)
3.2 การเน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย หรือปฏิบัติตาม

16

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ
1. การทักทาย

1. ท่านประธาน ท่านผู้อำนวยการ และท่านผู้บริหารทุกท่าน

2. การเปิดฉาก

2. นโยบายขององค์กรได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกส่วนงานจะต้อง
ปฏิบตั ิตามนโยบายในเรื่องต่ างๆ ทีก่ าหนดไว้ อย่ างเคร่ งครัด
เพราะนโยบายทีถ่ ู กกาหนดมานั้น จะเป็ นกลไกทีจ่ ะนาองค์ กรบรรลุ
เป้ าหมายทีก่ าหนดไว้ ในเรื่องงบประมาณรายจ่ ายต่ างๆ ถือเป็ น
ส่ วนหนึ่งของนโยบายองค์ กรทีส่ าคัญ ซึ่งทุกส่ วนงานต้ องปฏิบตั ิ
ให้ สอดคล้ องตามทีน่ โยบายกาหนดไว้

3. แนะนำตนเอง

3. ผมวิรัช อยู่เย็น ผู้อำนวยการกองบัญชี ……

4. บอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ 4. จะนำเสนอรายงานค่าใช้จ่ายประจำปีขององค์กร
17

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
5. บอกวัตถุประสงค์ในการ 5. ซึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่าน
นาเสนอ
ได้ ทราบถึงค่ าใช้ จ่ายรวมทีเ่ กิดขึน้ ในปี นี้ โดยแยกตามราย
การและส่ วนงาน รวมทั้งปัญหาต่ างๆที่ เกิดขึน้ ในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายต่ างๆ
6. เกริ่นนำ (Preview)
6. โดยประเด็นหลักที่ผมจะนำเสนอมีอยู่ด้วยกัน 3
ประเด็น ได้ แก่
6.1 งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้
6.2 รายการค่าใช้จ่ายประจำปีที่เกิดขึ้นจริง และ
6.3 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
18

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
7. การบอกเงื่อนไข
ในการนาเสนอ

7. ในการนาเสนอครั้งนีผ้ มจะใช้ เวลาประมาณ
20 นาที สาหรับรายละเอียดต่ างๆ ผมได้ พมิ พ์
ไว้ ในเอกสารทีไ่ ด้ แจกท่ านไป ในบางช่ วงของ
การนาเสนอผมอาจจะขอให้ ทุกท่ านดูเอกสาร
ประกอบด้ วย ถ้ าท่ านใดมีข้อซักถามในการนา
เสนอของผม สามารถสอบถามได้ หลังจากที่
ผมนาเสนอเสร็จ

19

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
8. ประเด็นหลัก

8.

- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่อย/ เนือ้ หา
- สะพานเชื่อม
20

สรุปโครงสร้ างในการนาเสนอ (ต่ อ)
9. สรุป

10. เน้ นยา้ ให้ เห็นด้ วย
หรือปฏิบัติตาม

9. ที่ผมได้ เสนอไปทั้งหมดนั้นประกอบ
ไปด้ วย 3 ประเด็นหลัก ได้ แก่
- งบประมาณรายจ่ ายขององค์ กรในปี นี้
- รายการค่ าใช้ จ่ายจริงที่เกิดขึน้ แยกตาม
รายการและส่ วนงาน
- และประเด็นสุ ดท้ ายคือปัญหาในเรื่องค่ า
ใช้ จ่ายที่เกิดขึน้
10. ท่ านคงเห็นแล้ วนะครับ ปัญหาความล่ าช้ า
ในการทางานที่เกิดจากการเบิกจ่ ายล่ าช้ านั้น
เป็ นเพราะมีการตั้งเบิกจ่ ายเกินงบประมาณที่
ตั้งเอาไว้ สิ่ งที่จะช่ วยแก้ ปัญหานีไ้ ด้ กค็ อื
ความร่ วมมือของทุกท่ านในการควบคุมราย
จ่ ายในส่ วนงานของท่ านให้ เป็ นไปตาม
งบประมาณที่ต้งั ไว้

21

สรุปภาพรวมโครงสร้ างในการนาเสนอ
ส่ วนนา
- การทักทาย
- การเปิ ดฉาก
- แนะนาตนเอง
- บอกชื่อเรื่อง
- บอกวัตถุประสงค์
- เกริ่นนา
- บอกเงื่อนไข

เนือ้ หา
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นย่ อย
- สะพานเชื่อม

ส่ วนท้ าย
- สรุป
- เน้ นยา้

22

บุคลิกภาพในการนาเสนอ

1. การแต่ งกาย (Dressing)
2. การวางตัว (Posture)

23

ทักษะการพูด
1. นา้ เสี ยง
1.1
1.2
1.3
1.4

รักษาระดับนา้ เสี ยงให้ อบอุ่นและเป็ นมิตร
พูดให้ ดงั และชัดเจน
พูดด้ วยความเร็วทีเ่ หมาะสม ไม่ เร็วหรือช้ าจนเกินไป
รู้ จกั การใช้ เสี ยงสู ง-ต่า ในการเน้ นความหมายอย่ าง
เหมาะสม
1.5 รู้ จกั ใช้ ความดัง-ค่ อย ในการเน้ นหรือแสดงความรู้ สึก
24

ทักษะการพูด (ต่ อ)
2. การหยุดในบางจังหวะการพูด
2.1 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการจับประเด็นได้ ทนั

2.2 เพือ่ ให้ เวลาผู้ฟังในการคิด และทาความเข้ าใจ
ความสาคัญของเนือ้ หาทีเ่ ราพูด
25

ทักษะการพูด (ต่ อ)
3. ภาษาที่ใช้
3.1 ขยายความศัพท์ เทคนิค หรือข้ อความบางอย่ างทีค่ ลุมเครือ
3.2 พยายามเลีย่ งศัพท์ เทคนิคที่ไม่ จาเป็ น
3.3 หลีกเลีย่ งการใช้ คาขยะ เช่ น นะครับ นะคะ แบบว่ า
เอ้ อ อ้ า ฯลฯ
26

การใช้ ภาษาท่ าทาง
1

การแสดงออกและท่ าทาง
1.1 ทาตัวให้ ดูอบอุ่น และเป็ นมิตร ยิม้ และ
ทาตัวให้ ผ่อนคลาย
1.2 ใช้ กริยาท่ าทางที่เป็ นธรรมชาติแต่ ต้องสุ ภาพ
27

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
2

ตาแหน่ งและการเคลือ่ นไหว
2.1 หาทางยืนในการนาเสนอจะดีกว่ าการนั่ง
2.2 เคลือ่ นไหว และเคลือ่ นทีบ่ ้ าง แต่ อย่ ามากเกินไป เพื่อใกล้ ชิด
กับกลุ่มต่ าง ๆทุกกลุ่ม ซึ่งเท่ ากับเป็ นการกระตุ้นคนฟัง
2.3 หันหน้ าเข้ าหาผู้ฟังตลอดเวลา แม้ กระทัง่ ในเวลาทีก่ าลังใช้
อุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ
28

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
3

การใช้ สายตา
3.1 มองทุกคนทีละคนบ่ อย ๆ เพือ่ รักษาการสื่ อสาร
3.2 พยายามรักษาระดับสายตาโดยไม่ มองเพดาน หรือพืน้

29

การใช้ ภาษาท่ าทาง (ต่ อ)
4

การใช้ ภาษากาย

4.1 ใช้ มือประกอบในขณะนาเสนอให้ เข้ ากับข้ อความทีน่ าเสนอ
บ้ างแต่ พองาม
4.2 ขยับเขยือ้ นศีรษะได้ บ้างแต่ พองามขณะนาเสนอ ให้ เข้ากับ
ข้ อความทีน่ าเสนอ
30

การใช้ สื่อประกอบการนาเสนอ

31

ประโยชน์ ของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
1. ทาให้ เข้ าใจเรื่องราวแจ่ มชัดยิง่ ขึน้ ในเวลาจากัด
2. ทาให้ ผู้ฟังเกิดความสนุกสนานตื่นเต้ นไม่ เบื่อหน่ าย
3. ทาให้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
4. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถ
สื่ อข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
5. ทาให้ จดจาได้ ง่ายต่ อการเรียงลาดับเนือ้ หาของผู้นาเสนอ
6. ทาให้ แบ่ งเบาภาระของผู้บรรยาย
7. ทาให้ ผู้นาเสนอทีข่ าดทักษะในการบรรยายปากเปล่า สามารถสื่ อ
ข้ อความได้ ง่าย และสะดวกขึน้
32
8. ทาให้ ผู้ฟังได้ รับความรู้มากในเวลาจากัด

ประเภทของเครื่องโสตทัศนูปกรณ์
แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. วัสดุโสตทัศนูปกรณ์
(Audiovisual Materials)

- กระดานดา ชอล์ ก
- หนังสื อคู่มอื
- กระดานแม่ เหล็ก (Magnetic Board)

2. เครื่องมือโสตทัศน์
(Audiovisual Equipment)

- เครื่องฉายภาพยนต์ , จอฉายภาพยนต์
- เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ (Overhead Projectors)
- เครื่องฉายภาพทึบ (Visualize Projectors)

3. กิจกรรมทางโสตทัศน์
(Audiovisual Activities)

- การสาธิต (Demonstration)
- การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
- การศึกษานอกสถานที่ (Study Tour)
- นิทรรศการ (Exhibition)

33

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์
หนังสื อคู่มือ

1. เนือ้ หาสาระครบถ้ วน
2. ค่ าใช้ จ่ายถูก

3. แก้ ไขง่ าย
4. ไม่ ประทับใจ/เห็นภาพได้ ไม่ ชัดเจน

5. ควรใช้ คู่กบั การบรรยาย/ วิธีอนื่
34

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
ภาพยนตร์ หรือเทปโทรทัศน์
1. ขั้นตอนการจัดทายากลาบาก เพราะต้ องเขียนบทและทาผัง Chart การแสดง

ตลอดจนมุมกล้อง แต่ ถ้าเป็ นคนที่เรียนมาทางด้ านนีก้ ส็ ามารถทาได้ ไม่ ยากนัก
2. เหมาะกับเรื่องทีไ่ ม่ มีการเปลีย่ นแปลง เช่ น ประวัติขององค์ การ หรือเป็ นเรื่องที่
ใช้ สอนบ่ อยครั้ง ต้ องคิดเทียบกับต้ นทุนแล้วคุ้มจึงสมควรจัดทา
3. ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู ง
4. ภาพมีการเคลือ่ นไหวน่ าสนใจ

5. เนือ้ หาสาระครบถ้ วนไม่ ตกหล่น ถ้ าเขียน Scrip ดี

35

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
สไลด์
1. ใช้ แสดงภาพจริงซึ่งถ้ าเปรียบเทียบกับภาพเหมือนจริงแล้วจะชัดเจนกว่ า
เช่ น ภาพเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ ในการทางาน ภาพดอกไม้ ภาพวิวทิวทัศน์ ต่างๆ เป็ นต้ น
2. เนือ้ หาสาระกาหนดไว้ แน่ นอนได้ ถ้ าทาเป็ น Case Study อาจจะอัดเสี ยงด้ วยเทป
และ ซิงโครไนส์ เข้ ากับสไลด์
3. เปลีย่ นแปลงภาพ-เนือ้ หาได้ ง่าย
4. งบประมาณไม่ มาก
5. ใช้ ง่าย
6. ปัจจุบันไม่ ค่อยใช้ ในวงการฝึ กอบรม แต่ มักใช้ เป็ นระบบ Multi Vision ในการ Presentation
36
หรือใช้ ประกอบการแสดงใหญ่ ๆ มากกว่ า

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
เครื่องฉายภาพข้ ามศีรษะ
1. จัดทาได้ ง่าย
2. เปลีย่ นแปลงข้ อความได้ ง่าย
3. สลับแผ่ น Transparency ที่จะใช้ ได้ ง่าย
4. ไม่ ค่อยน่ าสนใจ
5. ในระหว่ างการบรรยายจะสลับหัวข้ อ หรือ
งดใช้ แผ่ นใสแผ่ นใดแผ่ นหนึ่งก็ทาได้ ง่าย
37

แนวทางในการตัดสิ นใจเลือกใช้ เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ (ต่ อ)
Computer/ PowerPoint
1. จัดทาได้ ง่าย/ประหยัดเวลา
2. ภาพทีแ่ สดงออกมาน่ าสนใจ
3. สามารถนาเสนอได้ หลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะเป็ นภาพเคลือ่ นไหว
วีดีโอ ภาพนิ่ง ทั้งมีเสี ยงและไม่ มีเสี ยงได้
4. ยุ่งยากเล็กน้ อยเวลาทีฉ่ ายกลับไปกลับมา

5. ต้ องมีทุนพอสมควรในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย
38

เทคนิคในการตอบคาถาม
1. ทวนคาถามจากผู้ฟัง โดยใช้ ประโยคของเราเองพูดคาถาม
ของผู้ฟัง ซึ่งต้ องรักษาความหมายเดิมเอาไว้
2. ตอบคาถามชัดเจนทุกประเด็น

39

เทคนิคในการตอบคาถาม (ต่ อ)
3. เราอาจชักชวนให้ ผู้ฟังร่ วมกันตอบคาถามบางคาถามได้บ้าง
ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ นาเสนอ
4. ถ้ าไม่ มีข้อมูลในการตอบคาถาม ให้ บอกไปเลยว่ า ไม่ มขี ้ อมูล
และจะไปค้ นหามาให้ ภายหลัง หรืออาจโยนคาถามไปให้ ผ้ฟู ัง
คนอืน่ ช่ วยตอบให้ กไ็ ด้ ถ้ าเขามีข้อมูล การกระทาแบบนี้ ไม่
ถือว่ าเสี ยหน้ า
40

สรุปทักษะในการนาเสนอ
1. มีการวิเคราะห์ สถานการณ์ ในการนาเสนอ

2. ศึกษาความหมาย รายละเอียด และวิธีการเตรียม
การในการนาเสนอทั้งสามขั้นตอนหลัก คือ ส่ วนนา
ส่ วนเนือ้ หา และส่ วนท้ าย อย่ างเป็ นระบบ
41

สรุปทักษะในการนาเสนอ
3. ดาเนินการนาเสนอตามโครงสร้ างการนาเสนอโดยใช้ สิ่งต่ างๆ
ที่ได้ เตรียมการมา
4. นาเสนอโดยใช้ เทคนิคต่ าง ๆ เข้ าเสริมไม่ ว่าจะเป็ นการใช้ สื่อ
ประกอบ การพูด การวางท่ าทาง การใช้ ภาษาพูด และ
ภาษา ท่ าทาง เป็ นต้ น
42