กรมป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย กำรฝึ กอบรมกำรใช้ แบบมำตรฐำนและโปรแกรมประมำณรำคำ โครงกำรพัฒนำแหล่งนำ้ กรมป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย วันที่ 21 มกรำคม 2553 เกณฑ์ กำหนดกำรออกแบบ บริษัท โลตัส คอนซัลแตนท์ จำกัด ควำมเป็ นมำของโครงกำร ด้ วยศูนย์ ป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย มีภำรกิจหน้ ำทีศ่ ึกษำวิเครำะห์ ควำมเหมำะสมด้ ำนวิศวกรรม และประเมินรำคำโครงกำรที่ประสบสำธำรณภัย เพือ่

Download Report

Transcript กรมป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย กำรฝึ กอบรมกำรใช้ แบบมำตรฐำนและโปรแกรมประมำณรำคำ โครงกำรพัฒนำแหล่งนำ้ กรมป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย วันที่ 21 มกรำคม 2553 เกณฑ์ กำหนดกำรออกแบบ บริษัท โลตัส คอนซัลแตนท์ จำกัด ควำมเป็ นมำของโครงกำร ด้ วยศูนย์ ป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย มีภำรกิจหน้ ำทีศ่ ึกษำวิเครำะห์ ควำมเหมำะสมด้ ำนวิศวกรรม และประเมินรำคำโครงกำรที่ประสบสำธำรณภัย เพือ่

กรมป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย
กำรฝึ กอบรมกำรใช้ แบบมำตรฐำนและโปรแกรมประมำณรำคำ
โครงกำรพัฒนำแหล่งนำ้ กรมป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย
วันที่ 21 มกรำคม 2553
เกณฑ์ กำหนดกำรออกแบบ
บริษัท โลตัส คอนซัลแตนท์ จำกัด
ควำมเป็ นมำของโครงกำร
ด้ วยศูนย์ ป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย มีภำรกิจหน้ ำทีศ่ ึกษำวิเครำะห์
ควำมเหมำะสมด้ ำนวิศวกรรม และประเมินรำคำโครงกำรที่ประสบสำธำรณภัย เพือ่ ขอรับกำร
สนับสนุนงบกลำงและเงินทดรองรำชกำรเพือ่ เร่ งรัดดำเนินกำรฟื้ นฟูสภำพพืน้ ทีป่ ระสบภัย
จึงมอบหมำยให้ บริษัททีป่ รึกษำจัดทำแบบมำตรฐำนโครงกำรพัฒนำแหล่ งนำ้ ขนำดเล็ก
เพือ่ ให้ ศูนย์ ป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัยสำมำรถใช้ แบบมำตรฐำนประกอบกำรออกแบบ
เขียนแบบโครงกำรและประมำณรำคำโครงกำรได้ อย่ ำงรวดเร็วและมีประสิ ทธิภำพ
วัตถุประสงค์
จัดทำแบบมำตรฐำนโครงกำรพัฒนำแหล่ งนำ้ ขนำดเล็ก
และคู่มอื กำรใช้ งำนแบบมำตรฐำน ประกอบด้ วย
1. แบบมำตรฐำนฝำยนำ้ ล้นแบบสั นมน
2. แบบมำตรฐำนฝำยนำ้ ล้นแบบไหลตกตรง
3. แบบมำตรฐำนฝำยนำ้ ล้นแบบสั นกว้ ำงบนดิน
4. แบบมำตรฐำนแสดงรำยละเอียดต่ ำงๆ ของฝำยนำ้ ล้ น
5. แบบมำตรฐำนบำนประตูระบำยทรำยแบบบำนโค้ ง
6. แบบมำตรฐำนประตูระบำยทรำยแบบบำนตรง
7. แบบมำตรฐำนอำคำรบังคับนำ้ ของฝำยนำ้ ล้ น
8. แบบมำตรฐำนกำแพงกันดิน
9.แบบมำตรฐำนท่ อเหลีย่ มคอนกรีตเสริมเหล็ก
วัตถุประสงค์ (ต่ อ)
10. แบบมำตรฐำนเครื่องกว้ ำน
11. แบบมำตรฐำนอำคำรระบำยนำ้ ล้นข้ ำมถนน
12. แบบมำตรฐำนท่ อลอดถนน
13. แบบมำตรฐำนกำรขุดลอกคลอง
14. แบบมำตรฐำนกำรขุดลอกหนองนำ้
15. แบบมำตรฐำนกำรขุดสระนำ้
16. แบบมำตรฐำนอำคำรประกอบสระ
17. แบบมำตรฐำนทำงนำ้ เข้ ำ-ออกสระ
18. แบบมำตรฐำนกำรเรียงหินและปลูกหญ้ ำ
19. แบบมำตรฐำนสะพำนรถข้ ำม
20. แบบมำตรฐำนป้ำยโครงกำร
21. แบบมำตรฐำนถนน
22. แบบมำตรฐำนป้ำยจรำจร
กำรศึกษำด้ ำนอุตุนิยมวิทยำ
1. กำรศึกษำสภำพภูมอิ ำกำศ
ควรสรุ ปกำรศึกษำของตัวแปรภูมิอำกำศ ณ ตำแหน่ งทีต่ ้งั โครงกำร เช่ น
ช่ วงพิสัยของ
ค่ำเฉลีย่ รำยเดือน
ค่ำเฉลีย่ รำยเดือน
สู งสุ ด
ค่ำเฉลีย่ รำย
เดือน
ตำ่ สุ ด
ตัวแปรภูมิอำกำศ
หน่ วย
ค่ำเฉลีย่ รำย
ปี
อุณหภูมิ
องศำเซลเซียส
-
(ธ.ค.) – (เม.ย.)
(เม.ย.)
(ม.ค.)
ควำมชื้นสัมพัทธ์
เปอร์ เซ็นต์
-
(มี.ค.) – (ก.ย.)
(ก.ย. – ต.ค.)
(มี.ค.)
ควำมเร็วลม
น๊ อต
-
(พ.ย.) – (เม.ย.)
(มี.ค.)
-
ควำมครึ้มของเมฆ
0-10 อ๊อกต้ ำ
-
(ก.พ.) – (ส.ค.)
-
-
ปริมำณกำรระเหย
จำกถำด
มิลลิเมตร
-
(พ.ย.) – (เม.ย.)
-
-
ปริมำณนำ้ ฝน
มิลลิเมตร
-
(ธ.ค.) – (ก.ย.)
-
-
กำรศึกษำด้ ำนอุตุนิยมวิทยำ (ต่ อ)
2. กำรศึกษำปริมำณฝน
จำกข้ อมูลสถำนีวดั นำ้ ฝนควรรวบรวมจำนวน 5-10 สถำนี นำมำใช้ เช่ น
ลำดับ
ที่
ที่ต้งั
สถำนี
ละติจูด
ลองติจูด
ช่ วงปี สถิติ
ข้ อมูล
จำนวนปี
ของ
สถิติ
ข้ อมูล
ปริมำณนำ้ ฝนรำยปี เฉลีย่
(มม.)
เฉลีย่
สู งสุ ด
ตำ่ สุ ด
1
อำเภอ......
(18013)
17-28-58
17-28-58 1952 – 2003
47
1,205.5 1,693.4
870.1
2
อำเภอ.......
(18042)
17-28-58
17-28-58 1952 – 2003
52
1,111.5 1,926.7
710.2
3
อำเภอ.......
(18073)
17-28-58
17-28-58 1974 – 2003
30
1,270.4 1,652.1
682.9
4
................
(18120)
17-28-58
17-28-58 1956 - 2003
48
1,099.2 1,836.9
666.6
1,171.7 1,777.3
732.5
เฉลีย่
กำรศึกษำด้ ำนอุตุนิยมวิทยำ (ต่ อ)
2. กำรศึกษำปริมำณฝน
เช่ น ปริมำณฝนสู งสุ ด 1 วันถึง 7 วัน ทีค่ ำบควำมถี่ต่ำงๆ บริเวณที่ต้งั โครงกำร
สถานี
ชื่อสถานี
(18073)
ช่ วงเวลา
ปริมาณฝนสูงสุดที่คาบความถี่การเกิดต่ างๆ (มม.)
ฝนตก (วัน)
2
5
10
20
25
50
100
500
1,000
1
86.9
106.7
121.7
136.6
141.5
156.5
171.4
206.2
221.2
2
112.5
138.8
158.8
178.7
185.1
205.1
225.0
271.3
291.3
3
131.0
160.9
183.6
206.2
213.5
236.1
258.7
311.3
333.9
4
144.7
175.3
198.4
221.5
229.0
252.1
275.2
328.8
351.9
5
154.8
186.1
209.8
233.5
241.1
264.7
288.4
343.4
367.1
6
167.6
201.6
227.2
252.9
261.1
286.8
312.5
372.0
397.7
7
178.6
214.6
241.8
269.0
277.7
304.9
332.1
395.2
422.4
กำรศึกษำด้ ำนอุทกวิทยำ
2. กำรศึกษำปริมำณนำ้ ท่ ำ
รวบรวมข้ อมูลปริมำณนำ้ ท่ ำจำกสถำนีวดั นำ้ ท่ ำที่อยู่ในลุ่มนำ้
วิเครำะห์ ควำมสั มพันธ์ ถดถอยระหว่ ำงปริมำณนำ้ ท่ ำรำยปี เฉลีย่ และ
พืน้ ที่รับนำ้ ของสถำนีวดั นำ้ ท่ ำต่ ำงๆ ซึ่งจะได้ ควำมสั มพันธ์ ดงั นี้
Qm
=
aAb
ตัวอย่ำง R2
เมือ่
Qm
A
=
=
=
0.968 (ควรมำกกว่ ำ 0.900)
ปริมำณนำ้ ท่ ำรำยปี เฉลีย่ , ล้ ำนลูกบำศก์ เมตร
พืน้ ที่รับนำ้ ฝน, ตำรำงกิโลเมตร
กำรศึกษำด้ ำนอุทกวิทยำ
2. กำรศึกษำปริมำณนำ้ ท่ ำ (ต่ อ)
ทำกำรต่ อขยำยและเติมข้ อมูลปริมำณนำ้ ท่ ำรำยเดือนให้ ครบสมบูรณ์
จนถึงปัจจุบัน โดยใช้ แบบจำลองคณิตศำสตร์ HEC-4
Monthly Streamflow Simulation
ทำกำรคำนวณปริมำณนำ้ ท่ ำรำยเดือนที่ผ่ำนจุดที่ต้งั หัวงำน
กำรศึกษำด้ ำนอุทกวิทยำ (ต่ อ)
กำรศึกษำปริมำณนำ้ นองสู งสุ ด
เพือ่ นำไปใช้ คำนวณออกแบบทำงชลศำสตร์ ของอำคำรต่ ำงๆ ของโครงกำร
กำรวิเครำะห์ โดยวิธี Rational Flood Frequency
QF
เมือ่
QF
A
c และ d
=
=
=
=
cAd
ปริมำณนำ้ นองสู งสุ ดรำยปี เฉลีย่ , ลบ.ม/วินำที
พืน้ ทีร่ ับนำ้ ฝน, ตำรำงกิโลเมตร
สั มประสิ ทธิ์ถดถอย
กำรศึกษำด้ ำนอุทกวิทยำ (ต่ อ)
กำรศึกษำปริมำณนำ้ นองสู งสุ ด (ต่ อ)
กำรวิเครำะห์ กรำฟนำ้ นองจำกฝนโดยใช้ เทคนิคกรำฟหนึ่งหน่ วยนำ้ ท่ ำ
•
•
•
•
กำรวิเครำะห์ พำยุฝน
กำรวิเครำะห์ กรำฟหนึ่งหน่ วยนำ้ ท่ ำของโครงกำร
กำรวิเครำะห์ ปริมำณไหลพืน้ ฐำน (Base Flow)
กำรสร้ ำงกรำฟนำ้ นองสู งสุ ดทีค่ ำบควำมถี่กำรเกิดต่ ำงๆ จำกผลกำรวิเครำะห์
กรำฟหนึ่งหน่ วยนำ้ ท่ ำ และปริมำณกำรไหลพืน้ ฐำน
กำรศึกษำด้ ำนอุทกวิทยำ (ต่ อ)
กำรศึกษำปริมำณตะกอน
เพือ่ หำปริมำณตะกอนรำยปี เฉลีย่ และคำนวณอัตรำกำรกัดเซำะหน้ ำดินของตะกอนบนลุ่มนำ้
QS
เมือ่
QS
A
aAb
=
=
=
(R2 = ………)
ปริมำณตะกอนแขวนลอยรำยปี เฉลีย่ , ตัน/ปี
พืน้ ที่รับนำ้ ฝน, ตำรำงกิโลเมตร
กำรศึกษำด้ ำนอุทกวิทยำ (ต่ อ)
กำรศึกษำปริมำณตะกอน
คำนวณหำปริมำณตะกอนแขวนลอยรำยปี เฉลีย่ บริเวณหัวงำนโครงกำรได้
จำกสมกำรข้ ำงต้ น และสำมำรถประเมินปริมำณตะกอนท้ องนำ้ รวมถึงอัตรำกำรกัดเซำะ
หน้ ำดินได้ เช่ น
ลุ่มนำ้ ย่ อย
ที่โครงกำร
ตั้งอยู่
ปริมำณตะกอน
พืน้ ที่รับนำ้
แขวนลอยรำย
(ตร.กม.)
ปี เฉลีย่ (ตัน)
4,424
235,232
ปริมำณตะกอน
ปริมำณตะกอน ปริมำณตะกอน
อัตรำกำร
ท้ องนำ้ รำยปี
รวมรำยปี เฉลีย่ เฉลีย่ /พืน้ ที่ (ตัน/ กัดเซำะหน้ ำดิน
เฉลีย่
(ตัน)
ตร.กม.)
(มม./ปี )
(ตัน)
70,570
305,802
53.17
0.053
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น
1. ฝำยนำ้ ล้นแบบสั นมน
กำรเลือกทีต่ ้งั
อยู่ในตำแหน่ งทีส่ ำมำรถผันนำ้ ส่ งเข้ ำคลองส่ งนำ้ ทีข่ ุดออกจำกแหล่ งนำ้
ด้ ำนหน้ ำฝำยไปยังพืน้ ทีเ่ พำะปลูกซึ่งอยู่ทำงด้ ำนท้ ำย
ควรมีตลิง่ ของลำนำ้ ทำงด้ ำนเหนือฝำยขึน้ ไปสู งมำกพอ
ควรสร้ ำงในบริเวณทีล่ ำนำ้ มีแนวตรง เพือ่ ป้ องกันกำรกัดเซำะตลิง่
ถ้ ำฝำยขนำดใหญ่ นิยมก่อสร้ ำงฝำยในบริเวณที่ลำนำ้ มีแนวโค้ ง
(ช่ องลัด, coffer dam)
มีฐำนรำกดี ไม่ มกี ำรทรุ ดตัว
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้ น
มีระดับสู งกว่ ำระดับสู งสุ ดของพืน้ ทีเ่ พำะปลูก
หรือพืน้ ที่รับประโยชน์
ระดับสั นฝำย
ควำมยำวสั นฝำย
เมือ่
L
L’
Ho
N
Kp
Ka
=
=
=
=
=
=
L = L’ – 2 (N Kp + Ka) Ho
Effective Length ของสั นฝำย, ม.
Net Length ของสั นฝำย, ม.
Total Head เหนือสั นฝำย, ม.
จำนวนตอม่ อ
Pier Contraction Coefficent
Abutment Contraction Coefficent
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
กำรคำนวณปริมำณนำ้ ผ่ ำนฝำย
Q
เมือ่
Q
C
He
L
=
=
=
=
=
CLHe3/2
ปริมำณนำ้ ไหลผ่ ำนอำคำรระบำยนำ้ ล้ น, ม3/วินำที
สั มประสิ ทธิ์กำรไหล
ควำมสู งหัวนำ้ รวมเหนือสั นอำคำร, ม.
Effective Length ของสั นฝำย, ม.
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
รูปร่ ำงสั นฝำย
 x 
y

  K 
HO
 H0 
โดย
y
x
Ho
K และ n
ho
=
=
=
=
=
n
ระยะ co-ordinate ตำมแกน y, ม.
ระยะ co-ordinate ตำมแกน x, ม.
Total Design Head, ม.
เป็ นค่ ำสั มประสิ ทธิ์สัมพันธ์ กบั ค่ ำ ha/Ho
ระดับนำ้ เหนือสั นฝำย, ม.
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
กำรออกแบบโค้ งสั นฝำย เมือ่
P ≥ 0.5 Ho
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
กำรออกแบบพืน้ ฝำย
1) กำรคำนวณระยะทำงเดินของนำ้ ลอดใต้ ฐำน (Bligh’s Method)
L
เมือ่
L
C
H
=
=
=
=
CH
ระยะทำงเดินของนำ้ ลอดใต้ ฐำน (ม.)
Bligh’s Coefficient
Difference Head (ม.)
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
2) กำรคำนวณระยะทำงเดินของนำ้ ลอดใต้ ฐำน
(Lane’s Method)
L
L
เมือ่
L
Lv
Lh
Cw
H
=
=
=
=
=
=
=
Lv + 1/3 Lh
Cw H
ระยะทำงเดินของนำ้ ลอดใต้ ฐำน (ม.)
ระยะทำงเดินของนำ้ ลอดใต้ ฐำนในแนวดิ่ง (ม.)
ระยะทำงเดินของนำ้ ลอดใต้ ฐำนในแนวรำบ (ม.)
Lane’s Weighted Creep Ratio
Difference Head
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
3) กำรคำนวณควำมหนำของพืน้ ฝำย
TA
hf
เมือ่
TA

h
hf
=
=
=
=

=
4 h  h f
3  1
h
(  ) S
s
ควำมหนำของพืน้ ฝำย (ม.)
Specific gravity of apron’s material
ผลต่ ำงระดับนำ้ ระหว่ ำงหน้ ำฝำยและหลังฝำย
Loss head at arbitrary point (ม.)
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
กำรออกแบบ Cut-off wall และ Obstruction wall
เพือ่ ควบคุมกำรไหลของน้ำลอดใต้ ฐำนและเป็ นกำรป้ องกันกำรเกิด Piping
รวมทั้งเพือ่ ควำมปลอดภัยของตัวอำคำรจำเป็ นต้ องออกแบบ Obstruction Wall เพือ่
ป้ องกันกำรกัดเซำะด้ ำนท้ ำยอำคำร โดยจะออกแบบ Obstruction Wall เป็ น Cut-off Wall ด้ วย
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
2. ฝำยนำ้ ล้นแบบไหลตกตรง
โดยทั่วไปแล้วจะใช้ หลักกำรเดียวกับเกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้นแบบสั นมน
กรณีนำ้ ท้ ำยฝำยอยู่ต่ำกว่ ำสั นฝำย
Q
เมือ่
Q
L
h
hv
=
=
=
=
=
1.84L[(h+hv)3/2 - hv3/2]
ปริมำณนำ้ ที่สำมำรถระบำยได้ , ลบ.ม./วินำที
ควำมยำวของสั นฝำย, ม.
ควำมสู งของนำ้ เหนือสั นฝำย, ม.
หัวควำมเร็ว (velocity head), ม.
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
กรณีนำ้ ท้ ำยฝำยอยู่สูงกว่ ำสั นฝำย
Q
เมือ่
Q
L
Δh
d
=
=
=
=
=
1.84L(Δh)1/2(h+0.381d)
ปริมำณนำ้ ที่สำมำรถระบำยได้ , ลบ.ม./วินำที
ควำมยำวของสั นฝำย, ม.
ควำมแตกต่ ำงของระดับนำ้ เหนือฝำยและท้ ำยฝำย, ม.
ควำมสู งของนำ้ ด้ ำนท้ ำยนำ้ ทีอ่ ยู่เหนือสั นฝำย, ม.
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
ฝำยนำ้ ล้นแบบไหลตกตรง (ต่ อ)
กรณีนำ้ ท้ ำยฝำยอยู่ต่ำกว่ ำสั นฝำย
(รู ปซ้ ำย)
และกรณีนำ้ ท้ ำยฝำยอยู่สูงกว่ ำสั นฝำย
(รู ปขวำ)
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
3. ฝำยนำ้ ล้นแบบสั นกว้ ำงบนดิน
โดยทั่วไปแล้วจะใช้ หลักกำรเดียวกับเกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้นแบบสั นมน
ปริมำณนำ้ ที่สำมำรถระบำยได้
Q
เมือ่
Q
L
h
hv
=
=
=
=
=
1.705L(h+hv)3/2
ปริมำณนำ้ ที่สำมำรถระบำยได้ , ลบ.ม./วินำที
ควำมยำวของสั นฝำย, ม.
ควำมลึกนำ้ เหนือสั นฝำย, ม.
หัวควำมเร็ว (velocity head), ม.
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
กำรคำนวณค่ ำ Froude Number
V1
F1 
gd1
เมือ่
F1
V1
g
d1
d2
=
=
=
=
=


d2 1
2

1  8F1  1
d1 2
Froude Number
ควำมเร็วของนำ้ ก่ อนเกิด Hydraulic Jump, ม./วินำที
แรงโน้ มถ่ วงของโลก, ม./วินำที 2
ควำมลึกของนำ้ ก่ อนเกิด Hydraulic Jump, ม.
ควำมลึกของนำ้ หลังเกิด Hydraulic Jump, ม.
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
กำรป้ องกันกำรกัดเซำะ
หินทิง้
หินเรียง
หินเรียงยำแนว
GABION & MATTRESS
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
กำรคำนวณปริมำณนำ้ ผ่ ำนลำนำ้
Q
เมือ่
Q
A
R
P
S
N
=
=
=
=
=
=
=
1
.A.R 2/3 .S1/2
n
อัตรำกำรไหลของนำ้ ในคลอง, ม.3/วินำที
พืน้ ที่หน้ ำตัดกำรไหล, ม.2
รัศมีชลศำสตร์ = A/P, ม.
ควำมยำวของเส้ นขอบเปี ยก, ม.
ควำมลำดของผิวนำ้ ในคลอง
สั มประสิ ทธิ์ควำมขรุ ขระของ Manning
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
5. กำรออกแบบบำนประตูระบำยทรำยแบบบำนโค้ ง
ปริมำณนำ้ ที่สำมำรถระบำยได้
กรณีกำรไหลอย่ำงอิสระ (free flow) สำมำรถหำได้ จำกสมกำรดังนี้
Q  C1C2G0 B 2gh
กรณีนำ้ ด้ ำนท้ ำยนำ้ สู งกว่ ำสั นฝำย (submerged flow) สำมำรถหำได้ จำสมกำรดังนี้
Q  CS LhS 2gh
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
6. กำรออกแบบบำนประตูระบำยทรำยแบบบำนตรง
ปริมำณนำ้ ที่สำมำรถระบำยได้
Q  CG0 B 2gH '
เมือ่
Q
C
G0
B
g
H’
=
=
=
=
=
=
ปริมำณนำ้ ที่สำมำรถระบำย (ลบ.ฟุต/วินำที)
สั มประสิ ทธิ์กำรไหล
ควำมสู งของกำรเปิ ดบำนระบำย (ฟุต)
ควำมกว้ ำงของช่ องเปิ ดของบำนระบำย (ฟุต)
ค่ ำควำมโน้ มถ่ วงของโลก = 32.2 (ฟุต2/วินำที)
ควำมสู งของนำ้ ด้ ำนเหนือบำนระบำย (ฟุต)
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
7. กำรออกแบบเครื่องกว้ ำน
•
•
•
•
ชนิดของเครื่องกว้ ำน ได้ แก่ โดยแรงคน และโดยกำลังไฟฟ้ำ
กำรจัดชุ ดเครื่องกว้ ำน แบบติดตั้งอยู่กบั ที่ หรือแบบเคลือ่ นที่
ควำมเร็วของเครื่องกว้ ำน ไม่ เกิน 3 ฟุต/วินำที
ขนำดของเครื่องกว้ ำน
• นำ้ หนักของบำนประตู
• นำ้ หนักของส่ วนประกอบต่ ำง ๆ ของบำน และเครื่องหิว้
• แรงเสี ยดทำนต่ ำง ๆ
• แรงดันนำ้ ที่ต้ำนทำนกำรยกบำน
เกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้น (ต่ อ)
8. กำรออกแบบอำคำรระบำยนำ้ ข้ ำมถนน
ใช้ หลักกำรเดียวกับเกณฑ์ กำรออกแบบฝำยนำ้ ล้นแบบสั นกว้ ำงบนดิน
เนื่องจำกเป็ นกำรประยุกต์ รูปแบบจำกฝำยแบบสั นกว้ ำงบนดิน
เกณฑ์ กำรออกแบบอำคำรบังคับนำ้
1. องค์ ประกอบของอำคำร
ทำงชักนำ้ เข้ ำ (approach channel)
อำคำรรับนำ้ (intake structure)
ท่ อระบำยนำ้ (conduit)
ในกรณีเป็ นท่ อส่ งนำ้ จะมีอำคำรบังคับนำ้ (control structure) ทีป่ ลำยท่ อส่ งนำ้
อำคำรลดพลังงำนท้ ำยนำ้ (terminal structure)
เกณฑ์ กำรออกแบบอำคำรบังคับนำ้ (ต่ อ)
2. กำรออกแบบอำคำรบังคับนำ้ และองค์ ประกอบ
กำหนดตำแหน่ งกำรวำงท่ อ
1)
2)
3)
4)
5)
พิจำรณำรู ปแบบและรำยละเอียดของสภำพภูมปิ ระเทศของเส้ นทำงทีจ่ ะวำงแนวท่ อ
ตำแหน่ งของอำคำรจ่ ำยนำ้ หรืออำคำรด้ ำนท้ ำยนำ้ มีควำมเหมำะสม
ควำมแข็งแรงทนทำนและควำมประหยัด
มีควำมสะดวกและก่ อสร้ ำงง่ ำย เกิดผลกระทบน้ อยทีส่ ุ ด
บำรุ งรักษำง่ ำย มีค่ำใช้ จ่ำยในกำรบำรุ งรักษำต่ำ
เกณฑ์ กำรออกแบบอำคำรบังคับนำ้ (ต่ อ)
กำรเลือกขนำดท่ อและชนิดของท่ อ
ควำมหนำของท่ อและกำรเลือกระดับชั้นของท่ อ
จะพิจำรณำจำกควำมดันภำยใน และกำรโก่งตัวของท่ อ
หำขนำดท่ อทีค่ วำมเหมำะสมทีส่ ุ ด ต้ องคำนวณหำรำคำทั้งหมดของ
โครงกำร ซึ่งเป็ นผลรวมของค่ ำลงทุน ซึ่งประกอบไปด้ วยค่ ำท่ อ ปั๊ม
อุปกรณ์ ประกอบ และค่ ำดำเนินกำรต่ ำงๆ เช่ น ค่ ำไฟฟ้ำ
เกณฑ์ กำรออกแบบอำคำรบังคับนำ้ (ต่ อ)
หลักกำรเลือกวัสดุของท่ อนำ้ รับแรงดัน
จะพิจำรณำถึงควำมเหมำะสมในงำนแต่ ละประเภท ลักษณะกำรวำงท่ อ
ควำมประหยัด ควำมมีอำยุกำรใช้ งำนนำนปี
ประกอบด้ วย
ท่ อเหล็ก
ท่ อพีวซี ี
ท่ อซีเมนต์ ใยหินหรือท่ อ AC
ท่ อพีอี
ท่ อเสริมใยแก้ว
เกณฑ์ กำรออกแบบอำคำรบังคับนำ้ (ต่ อ)
3. กำรออกแบบอำคำรบังคับนำ้ เข้ ำคลอง
อำคำรปำกคลอง (head regulator): จะใช้ เป็ นอำคำรควบคุม
ปริมำณนำ้ ไหลเข้ ำปำกคลองส่ งนำ้ ตำมปริมำณที่ต้องกำร
ท่ อลอด (culvert): โดยทัว่ ไปท่ อลอดจะเป็ นท่ อตรง และนำ้ จะไหล
ภำยใต้ ควำมดันน้ อยมำก หรือไม่ มีควำมดันเลย หรือไหลแบบ free flow
ท่ อลอดระบำยนำ้ (drain culvert): ท่ อลอดระบำยนำ้
จะออกแบบเพือ่ ระบำยนำ้ ส่ วนเกินในพืน้ ทีเ่ พำะปลูก
หรือนำ้ หลำกจำกภำยนอกโครงกำร
เกณฑ์ กำรออกแบบท่ อลอดถนน
โดยทัว่ ไปจะออกแบบเพือ่ ส่ งนำ้ ในระบบคลองส่ งนำ้ ลอดถนนไปทำงด้ ำนท้ ำยนำ้
เมือ่ มีถนนตัดผ่ ำน
ด้ ำนโครงสร้ ำงของอำคำร ใช้ มำตรฐำนเดียวกันกับอำคำรคอนกรีตเสริมเหล็กและ
ถ้ ำในกรณีที่ถนนทีเ่ ป็ นทำงหลวงแผ่ นดิน จะต้ องมีดนิ ถมทับหลังท่ อไม่ น้อยกว่ ำ 0.90 ม.
ถ้ ำเป็ นถนนอืน่ ๆ จะต้ องมีดนิ ถมทับหลังท่ อไม่ น้อยกว่ ำ 0.60 ม
เกณฑ์ กำรออกแบบกำแพงกันดิน
สิ่ งที่ต้องพิจำรณำ
1) แรงดันด้ ำนข้ ำงทีก่ ระทำต่ อกำแพงกันดิน
2) เสถียรภำพของอำคำร
-กรณีเพิง่ ก่อสร้ ำงเสร็จ
-กรณีใช้ งำนปกติ
-กรณีกำรลดระดับนำ้ อย่ำงรวดเร็ว
3) ควำมปลอดภัยอันเนื่องมำจำกกำรพลิกคว่ำ
4) ควำมปลอดภัยอันเนื่องมำจำกกำรเลือ่ นตัว
5) ควำมปลอดภัยอันเนื่องมำจำกแรงแบกทำนของชั้นดิน
เกณฑ์ กำรออกแบบท่ อเหลีย่ มคอนกรีตเสริมเหล็ก
กำรวิเครำะห์ หำแรงทีก่ ระทำกับอำคำร ตลอดจนกำรวิเครำะห์ moment, thrusts และ shears
ทีเ่ กิดขึน้ ในส่ วนต่ ำงๆ ของอำคำร ทฤษฎีและตำรำงต่ ำงๆ ของ Portland Cement
Association (PCA) และจะนำไปออกแบบเหล็กเสริมภำยในองค์ อำคำร
เกณฑ์ กำรขุดลอกคลอง หนองนำ้ สระนำ้
และส่ วนประกอบอืน่ ๆ
หลักเกณฑ์ ด้ำนวิศวกรรม ประกอบด้ วย
• พยำยำมให้ ขุดลอกร่ องนำ้ ตรงบริเวณกลำงทำงนำ้ ให้ มำกทีส่ ุ ด
• ถ้ ำบริเวณทีข่ ุดลอกมีอำคำรกีดขวำง จะต้ องปฏิบัตติ ำมกฎหมำยหรือระเบียบของ
หน่ วยงำนเจ้ ำของอำคำร
• ขนำดของร่ องนำ้ ทีจ่ ะทำกำรขุดลอก ให้ คำนึงถึงขนำดและปริมำณเครื่องจักร
• ควบคุมกำรฟุ้ งกระจำยของตะกอนทีเ่ กิดขึน้ ในขณะขุดลอก
เกณฑ์ กำรขุดลอกคลอง หนองนำ้ สระนำ้
และส่ วนประกอบอืน่ ๆ (ต่ อ)
หลักเกณฑ์ ด้ำนระเบียบกระทรวงมหำดไทย
ว่ ำด้ วยกำรอนุญำตให้ ดูดทรำย พ.ศ. 2523 หมวด 4 ข้ อ 10
ด้ ำนวิชำกำร เช่ น ควำมเสี ยหำยแก่สภำพตลิง่
สภำพธรรมชำติของทำงนำ้
ด้ ำนกำรปกครอง เช่ น ควำมเดือดร้ อนของรำษฎร
เกณฑ์ กำรขุดลอกคลอง หนองนำ้ สระนำ้
และส่ วนประกอบอืน่ ๆ (ต่ อ)
1. กำรขุดลอกหนองนำ้
ขนำดเล็ก : ควรขุดลอกดินในบริเวณทีเ่ ป็ นแอ่งลึกของก้นหนองนำ้ และบึง
ขนำดใหญ่ : ขุดในพืน้ ทีใ่ กล้กบั ขอบหนองนำ้ และบึงด้ ำนหนึ่งด้ ำนใด และควรเป็ น
บริเวณทีม่ ีผวิ ดินถูกนำ้ ในหนองนำ้ และบึงท่วมอยู่เป็ นปกติทุกปี
เกณฑ์ กำรขุดลอกคลอง หนองนำ้ สระนำ้
และส่ วนประกอบอืน่ ๆ (ต่ อ)
2. กำรขุดสระนำ้
1)
2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
ขนำดพืน้ ที่รับนำ้ ฝน มีขนำดไม่ เกิน 2 กม.2
ควำมสู งของคันสระไม่ ควรเกิน 3.00 เมตร
โดยทั่วไปไม่ มีระบบส่ งนำ้ เพือ่ กำรชลประทำน เพรำะมีนำ้ เก็บกักน้ อย
กรณีมีกำรสร้ ำงพืน้ ที่รับนำ้ ไม่ ควรมีควำมลำดเกิน 1:100
กำรพิจำรณำวัสดุกรองและวัสดุป้องกันกำรกัดเซำะ
กำรคำนวณควำมจุของสระนำ้ ใช้ สูตรซิมสั น (Simpson’s rule)
สถำนทีก่ ่ อสร้ ำงสระนำ้ ควรเป็ นทีส่ ำธำรณะและจะต้ องอยู่ใกล้ หมู่บ้ำน
อำคำรทำงนำ้ เข้ ำ อำคำรทำงนำ้ ออกของสระนำ้ พิจำรณำจำกอัตรำกำรไหลของ
นำ้ นองสู งสุ ด
เกณฑ์ กำรขุดลอกคลอง หนองนำ้ สระนำ้
และส่ วนประกอบอืน่ ๆ (ต่ อ)
3. กำรออกแบบอำคำรประกอบสระและทำงนำ้ เข้ ำ-ออกสระ
• ควำมจุเก็บกักนำ้ ไม่ เกิน 250,000 ลูกบำศก์ เมตร
• จะก่ อสร้ ำงให้ ตรงจุดทีน่ ำ้ ไหลเข้ ำสระได้ สะดวกและไม่ กดั เซำะ
• อัตรำกำรไหลของท่ อหนึ่งแถว เมือ่ ระดับนำ้ สู งสุ ดทีป่ ำกท่ อ เท่ ำกับระดับหลังท่ อ
• หำกระดับปำกท่ อเท่ ำกับระดับพืน้ ดินธรรมชำติ ให้ ขุดบ่ อดักตะกอนทีป่ ำกท่ อขนำดปำก
• บ่ อกว้ ำง 4.00 เมตร ยำว 6.00 เมตร ลึก 0.50 เมตร หรือที่ขนำดใหญ่ กว่ ำ
• หำกต้ องกำรวำงท่ อมำกกว่ ำหนึ่งแถว ท่ อแต่ ละแถวต้ องวำงห่ ำงกันไม่ น้อยกว่ ำ 0.50 เมตร
• ก่อสร้ ำงบันไดลงสระตำมแบบด้ ำนละหนึ่งแห่ ง
• สระซึ่งมีปริมำณนำ้ ไหลเข้ ำมำก ให้ ก่อสร้ ำงทำงนำ้ ออก สำหรับควบคุมระดับนำ้ ในสระ
ไม่ ให้ สูงจนท่ วมหลังคัน
• ขนำดท่ อที่อำคำรทำงนำ้ เข้ ำ ใช้ ขนำดดังตำรำง
3. กำรออกแบบอำคำรประกอบสระและทำงนำ้ เข้ ำ-ออกสระ (ต่ อ)
ควำมจุของสระนำ้ ทีร่ ะดับเก็บกัก (ม3)
ขนำดท่ อเล็กทีส่ ุ ด (ม.)
ไม่ เกิน 10,000
 0.60 ม. จำนวน 1 แถว
10,000 – 25,000
 0.80 ม. จำนวน 1 แถว
25,000 – 50,000
 0.80 ม. จำนวน 2 แถว
50,000 – 100,000
 0.80 ม. จำนวน 3 แถว
100,000 – 150,000
 0.80 ม. จำนวน 4 แถว
150,000 – 250,000
 0.80 ม. จำนวน 5 แถว
เกณฑ์ กำรออกแบบโครงสร้ ำง
1. แรงทีก่ ระทำต่ ออำคำร
2. เสถียรภำพควำมลำดของคันดิน
นำ้ หนักบรรทุกคงที่ (Dead load)
นำ้ หนักบรรทุกจร (Live load)
แรงลม (Wind Load)
แรงดันนำ้ (Uplift Water Pressure)
แรงลอยตัว (Buoyancy Force)
1) กรณีวกิ ฤตทีค่ วรพิจำรณำ
- กรณีเพิง่ ก่ อสร้ ำงเสร็จ
- กรณีใช้ งำนปกติ
- กรณีกำรลดระดับนำ้ อย่ ำงรวดเร็ว
2) กำรออกแบบฐำนรำกของคันดิน
3) กำรออกแบบคันดิน
4) เสถียรภำพของคันดิน
เกณฑ์ กำรออกแบบโครงสร้ ำง (ต่ อ)
3. กำรออกแบบโครงสร้ ำง
คอนกรีตเสริมเหล็ก
4. กำรออกแบบรอยต่ อของ
คอนกรีตในอำคำร
1)
2)
3)
4)
5)
6)
กำรกำหนดช่ วงห่ ำงของเหล็กเสริม
กำรป้ องกันเหล็กเสริมโดยควำมหนำของคอนกรีต
กำรกำหนดแรงยึดเหนี่ยวของคอนกรีต
แรงเฉือนและแรงดึงทแยงที่ยอม
กำรเสริมเหล็กต้ ำนทำนกำรเปลีย่ นแปลงอุณหภูมิ
กำรงอเหล็กเสริม
1)
2)
3)
4)
รอยต่ อเพือ่ กำรก่ อสร้ ำง
รอยต่ อเพือ่ กำรหดตัว
รอยต่ อเพือ่ กำรขยำยตัว
รอยพอกมุม
5. กำรออกแบบสะพำนรถข้ ำม (ต่ อ)
สิ่ งที่ต้องพิจำรณำ
นำ้ หนักที่ใช้ ในกำรออกแบบ
1) นำ้ หนักบรรทุกใช้ งำนคงที่
2) นำ้ หนักบรรทุกจร
3) แรงกระแทกของนำ้ หนักบรรทุกจร
4) แรงลม
5) แรงหนีศูนย์
6) แรงดันดิน
7) แรงลอยตัว
กำรจัดชั้นของแรง
1) H – Loading
2) HS – Loading
3) Lane Loading
4) Side Walk loading
5) curb loading
6) railing loading
7) impact load
9) longitudinal force
8) wind load
เกณฑ์ กำรออกแบบถนน
1.
2.
3.
4.
5.
6.
กำรออกแบบทำงด้ ำนเรขำคณิต
กำรออกแบบผิวจรำจร
กำรออกแบบระบบระบำยนำ้
กำรออกแบบโครงสร้ ำงทำงระบำยนำ้ ผ่ ำนถนน
ป้ำยจรำจร
ป้ำยโครงกำร