ผู้ทมี่ อี ทิ ธิพลต่ อ การทางานของผู้อนื่ เพือ่ บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ทตี่ ไงั ้ว้ ผู้ทจี่ ูงใจโน้ มน้ าวให้ คนอืน่ ทางาน ให้ สาเร็จตามต้ องการ ผู้ท้ี่ ด้ รับการแต่ งตัไงตามระบบ.

Download Report

Transcript ผู้ทมี่ อี ทิ ธิพลต่ อ การทางานของผู้อนื่ เพือ่ บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ทตี่ ไงั ้ว้ ผู้ทจี่ ูงใจโน้ มน้ าวให้ คนอืน่ ทางาน ให้ สาเร็จตามต้ องการ ผู้ท้ี่ ด้ รับการแต่ งตัไงตามระบบ.

ผู้ทมี่ อี ทิ ธิพลต่ อ การทางานของผู้อนื่
เพือ่ บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ทตี่ ไงั ้ว้
ผู้ทจี่ ูงใจโน้ มน้ าวให้ คนอืน่ ทางาน
ให้ สาเร็จตามต้ องการ
ผู้ท้ี่ ด้ รับการแต่ งตัไงตามระบบ
ศักยภาพในการส่ งพลังขับเคลื่อนไปยังกลุ่มคน
และระบบองค์กร ให้ไปในทิศทางที่ตอ้ งการได้
ด้านกายภาพ ( Physical ) ความสูง นา้ หน ัก รูปร่าง
ด้านบุคลิกภาพ ( Personal ) เปิ ดเผย เข้มงวด
ด้านท ักษะและความสามารถ ( skill & abilities )
ั
ั
ด้านสงคม
(Social factors ) สถานภาพทางสงคมและ
เศรษฐกิจ
ทรงพลัง
ความรู ้ทางเทคนิค
ื่ มั่น
ความเชอ
การจูงใจ
ความคิดสร ้างสรรค์
การปรับตัว
สติปัญญา
คุณธรรม
( Shelly Kirkpatrick & Edwin Locke )
Peter Drucker
ระบุแก่นแท้ของภาวะผูน
้ า 3 ประการ
การกาหนดและสถาปนาความสานึกในภารกิจหลัก
“เป็ นแตรเดีย
่ วทีม
่ เี สยี งแจ่มใส”
่ าภยศ
การยอมรับภาวะผู ้นาว่าเป็ นความรับผิดชอบไม่ใชล
“เผือกร ้อนหยุดทีน
่ ี่”
การสง่ เสริมและรักษาความไว ้วางใจจากบุคคลอืน
่ ๆ
“ความมีน้ ายา อยูบ
่ นฐานความสมา่ เสมอ”
L = LOVE
E = EDUCATION & EXPERIENCE
A = ADAPTABILITY
D = DECISION MAKING
E = ENTHUSIASM
R = RESPONSIBILITY
S = SACRIFICE & SINCERE
H = HARMONIZE
I = INTELLECTUAL CAPACITY
P = PERSAUSIVENESS
พฤติกรรมมุง
่ งาน ( Task-Oriented Behavior)
ั ันธ์
พฤติกรรมมุง
่ ความสมพ
( Relationship-Oriented Behavior)
่ นร่วม
พฤติกรรมมุง
่ ความมีสว
( Participation-Oriented Behavior)
ั ันธภาพ
สร้างสมพ
ให้-ร ับและแสวงหาข้อมูล
ิ ใจ
ต ัดสน
ผูน
้ าทางความคิด
ความต้องการของ มนุ ษย์
ความสมหวังในชีวติ
เกียรติยศชื่อเสียง
การเป็ นพวก เป็ นเหล่า
ความปลอดภัย มัน่ คง
สิง่ จาเป็ นแก่การดารงชีวติ
• มนุ ษย์ทกุ คนมีศกั ดิ์ศรี(Concept of human dignity)
• มนุ ษย์มีความแตกต่างกัน เรียกว่า ปัจเจกบุคคล
(Concept of individualization)
• มนุ ษย์มีความสามารถ(Concept of Protentiality)
• มนุ ษย์เปลีย่ นแปลงได้
• มนุ ษย์ทกุ คนมีโอกาสเท่าเทียมกัน
(Concept of equilibrium in opportunity )
•มนุ ษย์ทกุ คนมีหน้าที่ต่อสังคม(Social functioning)
•มนุ ษย์ทกุ คนต้องการความรัก ความเข้าใจ
•มนุ ษย์ทกุ คนมีแนวโน้มที่จะปกป้ องตนเองหรือเข้าข้าง
ตนเอง(Defense mechanism)
•มนุ ษย์ทกุ คนสามารถควบคุมตัวเองได้
•มนุ ษย์มีบคุ ลิกภาพเฉพาะตัว
•มนุ ษย์มีปญั หา-สังคม (Psycho social problem) คือ
ต้องการการยอมรับ
ต้องการผูเ้ ข้าใจ ต้องการความร่วมมือฯ
ความฉลาดด้านวิชาการ
IQ (Intelligence Quotient)
ความฉลาดทางอารมณ์
( Emotional intelligence
หรือ Emotional Quotient : EQ )
20 %
80 %
Howard Gardner
กล่าวถึง
ความฉลาดของคนเรามี 7 ประเภท
ภาษา
นักเขียน/นักพูด/นักการเมือง
ตรรกะ
นักสถิติ/นักวิทยาศาสตร์/ดาราศาสตร์
มิติ
สถาปนิ ก มัณฑนาการ ศิลปะ การจัดการ
เคลือ่ นไหว กีฬา นาฎศิลป์ ช่างฝี มือ
ดนตรี
นักร้อง/นักแต่งเพลง/วาทยกร
มนุ ษยสัมพันธ์ ผูน้ าสังคม, ผูน้ าศาสนา, นักการเมือง
เข้าใจตนเอง ผูน้ าทางความคิด/ประเพณี /ศาสนา
ประเด็นที่น่าให้ความสาคัญในเรื่องของความฉลาด คือ
1. การเข้าใจตนเอง (Self awareness)
2. การเอาใจเขามาใส่ใจเรา (empathy)
3. การแก้ไขความขัดแย้ง (conflict solution)
1. รูจ้ กั ตนเองดี
2. จัดการกับอารมณ์ตนเองได้
3. มุ่งมัน่ ตามที่ตง้ั ใจไว้จนสาเร็จ
4. เห็นใจเข้าใจอารมณ์คนอืน่
5. มนุ ษยสัมพันธ์
EQ
IQ
สูง
ชอบสังคมฯ เปิ ดเผยร่าเริง,ทาให้คนอืน่ มีความสุข
และเป็ นคนรักษาสัญญา มีเสน่ หด์ ึงดูดใจ
สูง
เป็ นคนเก่ง มัน่ ใจในตัวเอง ทะเยอทะยาน
เอาตัวเองเป็ นใหญ่ มีความเป็ นส่วนตัวสูง
IQ
สูง
มีความสามารถมาก เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
แต่กงั วลง่าย คิดมาก ไม่ชอบแสดงออกเปิ ดเผย
สูง
คนเปิ ดเผยตรงไปตรงมา มองโลกในแง่ดี
รับฟังคนอืน่ มุ่งมัน่ ในจุดยืน
EQ
หลักธรรมที่เป็ นเครื่องยึดเหนี่ ยวน้ าใจของผูอ้ น่ื
ผูกไมตรี เอื้อเฟื้ อ เกื้อกูล
หรือเป็ นหลักการสงเคราะห์ซ่งึ กันและกัน
มีอยู่ 4 ประการ ได้แก่
ทาน คือ การให้ การเสียสละ
หรือการเอื้อเฟื้ อแบ่งปันของๆตน
เพือ่ ประโยชน์แก่บคุ คลอืน่ ไม่ตระหนี่ ถ่เี หนี ยว
ไม่เป็ นคนเห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว
คุณธรรมข้อนี้ จะช่วยให้ไม่เป็ นคนละโมบ
ไม่เห็นแก่ตวั เราควรคานึ งอยู่เสมอว่า
ทรัพย์สง่ิ ของที่เราหามาได้
มิใช่สง่ิ จีรงั ยัง่ ยืน เมื่อเราสิ้นชีวติ ไปแล้ว
ก็ไม่สามารถจะนาติดตัวเอาไปได้
ปิ ยวาจา คือ การพูดจาด้วยถ้อยคาที่ไพเราะอ่อนหวาน
พูดด้วยความจริงใจ ไม่พูดหยาบคายก้าวร้าว
พูดในสิง่ ที่เป็ นประโยชน์เหมาะสาหรับกาลเทศะ
การพูดเป็ นบันไดขัน้ แรกที่จะสร้างมนุ ษย์สมั พันธ์อนั ดีให้เกิดขึ้น
วิธกี ารที่จะพูดให้เป็ นปิ ยวาจานั้น จะต้องพูดโดยยึดถือหลักเกณฑ์
ดังต่อไปนี้
เว้นจากการ :
พูดเท็จ
- พูดส่อเสียด
- พูดคาหยาบ
- พูดเพ้อเจ้อ
-
อัตถจริยา คือ การสงเคราะห์ทกุ ชนิ ดหรือการประพฤติ
ในสิง่ ที่เป็ นประโยชน์แก่ผูอ้ น่ื
สมานัตตา คือ การเป็ นผูม้ ีความสมา่ เสมอ หรือมีความประพฤติ
เสมอต้นเสมอปลาย คุณธรรมข้อนี้ จะช่วยให้เรา
เป็ นคนมีจติ ใจหนักแน่ นไม่โลเล รวมทัง้ ยังเป็ นการ
สร้างความนิ ยม และไว้วางใจให้แก่ผูอ้ น่ื อีกด้วย
ทีมงาน หมายถึง......
่ ยเหลือซงึ่ ก ันและก ัน
กลุม
่ คนทีเ่ กีย
่ วข้อง ชว
เพือ
่ ให้บรรลุวตถุ
ั ประสงค์รว่ มก ัน
Clear Objectives and agreed goals
Openess and confrontation
Support and trust
Co-operation and conflict
Sound procedure
Appropriate leadership
Regular review
Individual development
Sound intergroup ralations
•กาหนดวัตถุประสงค์
•กาหนดโครงสร ้าง
•กาหนดบทบาท หน ้าที่
•กาหนดวิธก
ี ารปฏิบัต ิ
•กาหนดระเบียบ กฏเกณฑ์
•ควบคุมมาตรฐาน
่ งทางสอ
ื่ สาร
•กาหนดชอ
ั พันธ์
•สร ้างความสม
•กาจัดความขัดแย ้ง
•ประเมินและพัฒนา
• สิง่ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
• มีทง้ั ข้อดีและข้อเสีย
• หลายสาเหตุหลากวิธีจดั การ
• ความล้มเหลวเกิดจากการจัดการ
• สร้างปัญหาในองค์กร
• สูญเสียทรัพยากรในการแก้ไข
• มีผลกระทบต่อบุคคล
+ ทัศนคติ
+ ความมุ่งมัน่ ตัง้ ใจ
+ ศักยภาพ
• หลากหลายความคิด รอบด้าน ครบถ้วน
• สร้างภูมิคมุ ้ กันที่เข้มแข็ง
• เรียนรูเ้ พือ่ ขจัดความกลัว
1. Content Conflict
2. Basic Value Conflict
3. Pseudo Conflict
4. Simple Conflict
5. Ego Conflict
ขัดแย้งในเนื้ อหา เกิดจากการแปลความหมายที่แตกต่าง
ในเรื่องของวัตถุประสงค์ เหตุการณ์
• เทคนิ ค ไม่ใช่ ตุกติก
• คนร่วมงานน้อย หรือ ห้องประชุมใหญ่
เป็ นความขัดแย้งในอุดมคติหรือปรัชญา ความเชื่อ
• ประชาธิปไตย กับ เผด็จการ
• พุทธ กับ ไม่ใช่พทุ ธ
ความขัดแย้งลวงตา แท้จริงคือ win / win
• ทางาน กับ ทานข้าว
• ไปทานข้าว กับ ไปหานาย
ความขัดแย้งธรรมดาที่เกิดขึ้น ต่างความต้องการ
• ฟังเพลง / ทางาน
• ทานเลี้ยง / ท่องเที่ยว
ความขัดแย้งโดยถือตนเองเป็ นหลัก ปกป้ อง
โจมตี ผูช้ นะ ผูแ้ พ้
• ฉันเป็ นหัวหน้า
• ฉันเป็ นลูกน้อง
• ฉันสัง่
• พัฒนาทัศนคติ
• คาดการณ์ / ค้นหาความขัดแย้งที่แท้จริง
• มีขอ้ มูลความแตกต่าง
• ตรงประเด็น หลากหลายวิธี
• ค้นหาสาเหตุและการแก้ไขไม่ใช่ผูผ้ ิด
• ให้เกียรติ ให้ความสาคัญ สร้างสรรค์
ึ ว่าตนเองสาคัญ
คนเรามักรู ้สก
คนเราต ้องการพวกเดียวกัน
คนเราสนใจตนเอง เห็นแก่ตนเองก่อน
คนเราต ้องการความเจริญก ้าวหน ้า
คนเราต ้องการพูดมากกว่าฟั ง
คนเราไม่ชอบการเปลีย
่ นแปลง
ั อยากรู ้อยากเห็น
คนเรามีนส
ิ ย
คนเราอยากให ้คาแนะนามากกว่าจะรับคาแนะนา
คนเราไม่ชอบการบังคับเกินไป หรือหละหลวมเกินไป
ผู ้นากับทีมงาน
อธิปไตย
ื่ แทนการใชสรรพนามหรื
้
•ใชช้ อ
อคาหยาบคาย
•ควรมีความอดทน อดกลัน
้ สุขม
ุ และเป็ นกันเอง
ี้ จง
•มีความยุตธิ รรม ข ้อมูลให ้ครบถ ้วน ให ้โอกาสชแ
•แสดงความปรารถนาดีมเี มตตา
•วาจาสุภาพ มีเหตุผล ไม่ดถ
ู ก
ู เหยียดหยาม
•หลีกเลีย
่ งการใชอ้ านาจ เอาชนะ
•ควรรับฟั งผู ้ใต ้บังคับบัญชา
•เมือ
่ พบกันควรยกย่องข ้อดีของผู ้ใต ้บังคับบัญชา
•พยายามเข ้าใจ เอาใจเขามาใสใ่ จเรา
เป็นต้นแบบทีด
่ ี
ให้ความร ัก เอาใจใส ่
เปิ ดโอกาสให้มส
ี ว่ นร่วม
ชมเชย เสริมแรง
แนะนาอย่างสร้างสรรค์