Introduction to Energy Audits - กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์

Download Report

Transcript Introduction to Energy Audits - กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์

Ref EM-TB1-G7
1.1 ความดัน
1.1.1 หน่ วยของความดัน
1.1.2 กฏของปาสคาล
1.1.3 ความดันบรรยากาศ
1.1.4 สู ญญากาศ
1.1.5 ความดันสมบูรณ์ และความดันเกจ
1.2 ความร้ อนและอุณหภูมิ
1.2.1 ความร้ อน
1.2.2 การถ่ ายเทความร้ อน
1.2.3 หน่ วยของความร้ อน
1.2.4 ความร้ อนสั มผัส และความร้ อนแฝง
1.2.5 การอิม่ ตัว ความร้ อนยิง่ ยวดและการเย็นเยือก
1.2.6 อุณหภูมิ
1.2.7 หน่ วยของอุณหภูมิ
1.2.8 อุณหภูมสิ มบูรณ์
1.2.9 งาน พลังงาน และกาลังงาน
1.2.10 การเปลีย่ นสถานะของนา้
1.3 วัฏจักรการทาความเย็น
1.3.1 การทาความเย็น และการปรับอากาศ
1.3.2 ภาระความร้ อน
1.3.3 สารทาความเย็น
1.3.4 วัฏจักรการทาความเย็น
1.1 ความดัน (PRESSURE)
ความดัน คือ แรงต่ อหน่ วยพืน้ ที่ P = F / A
1.1.1 หน่ วยของความดัน
ระบบเมตริก
ระบบอังกฤษ
ระบบ SI
: kgf / cm2
: lbf / in2
: ปาสคาล , Pa (1N / m2)
1.1.3 ความดันบรรยากาศ
บรรยากาศหรืออากาศทีห่ ่ อหุ้มโลกอยู่ มีนา้ หนักและก่ อให้เกิดแรง
ดันกระทาต่ อผิวโลก แรงดันดังกล่าวเรียกว่ า ความดันบรรยากาศ
ความดันบรรยากาศ = 1.033 kgf / cm2
=
=
=
=
=
=
=
1 atm
760 mm Hg
101.3 Pa
14.70 lbf / in
29.92 in. Hg
34 ft w.
1 bar
1.1.4 สู ญญากาศ
ความดันที่ตา่ กว่ าความดันบรรยากาศ
สู ญญากาศบางส่ วน หมายถึง ความดันทีต่ า่ กว่ าความดันบรรยากาศ
แต่ ไม่ เป็ นสู ญญากาศทั้งหมด
สู ญญากาศทั้งหมด หมายถึง ความดันซึ่งไม่ สามารถลดต่ อไปได้ อกี







1.1.5 ความดันสมบูรณ์ และความดันเกจ
ความดันเกจ
คือ ความดันที่อ่านได้จากเกจวัดความดัน ซึ่งเกจจะวัดเพียงความ
แตกต่างของความดันของของเหลว และความดันบรรยากาศ
kgf / cm2 g , psig
ความดันสมบูรณ์ คือ ความดันทั้งหมดหรือความดันจริง เป็ นการนาความดันเกจ
รวมกับความดันบรรยากาศ kgf / cm2 abs., psia
1.2 ความร้ อนและอุณหภูมิ
1.2.1 ความร้ อน
ความร้ อน คือ รู ปหนึ่งของพลังงาน เกิดจากการ
เคลือ่ นไหว หรือการสั่ นสะเทือนของโมเลกุล
1.2.2 การถ่ ายเทความร้ อน
ความร้อน จะถ่ายเทจากเทหวัตถุหนึง่ ไปยังเทหวัตถุ ด้วยวิธีดงั ต่ อไปนี้
ก. การนาความร้อน – การไหลของความร้อนจากวัตถุหนึง่ ไปยังวัตถุอื่น
ด้วยการสัมผัสกันโดยตรง
ข. การพาความร้อน – การเคลือ่ นที่ของความร้อนจากที่หนึง่ ไปยังอีกที่
หนึง่ โดยการพาของของไหลหรืออากาศ
ค. การแผ่รงั สี
– การถ่ายเทความร้อนในรูปของการเคลือ่ นไหวของ
คลืน่
การแผ่รงั สี
การพาความร้อน
การนาความร้อน
1.2.3 หน่ วยของความร้ อน
ระบบเมตริก
ระบบอังกฤษ
ระบบ SI
1 แคลลอรี =
1 แคลลอรี =
1 BTU =
: แคลอรี่ (Calory)
: บีทยี ู
(BTU)
: จูล
(Joule)
4.186 จูล
3.968 x 103 BTU
1.055 x 103 จูล
1.2.4 ความร้ อนสั มผัส และความร้ อนแฝง
ความร้อนสัมผัส คือ ความร้อนทีท่ าให้อุณหภูมิของสสารเปลีย่ น
แปลง
ความร้อนแฝง คือ ความร้อนทีท่ าให้สสารเปลีย่ นแปลงสถานะ
โดยไม่มีการเปลีย่ นแปลงอุณหภูมิ
1.2.5 การอิม่ ตัว ความร้ อนยิง่ ยวด และการเย็นเยือก
ของเหลวอิม่ ตัว คือ ของเหลวทีไ่ ด้ รับความร้ อนจนถึงอุณหภูมอิ มิ่ ตัวซึ่งเมื่อ
ให้ ความร้ อนต่ อไปของเหลวจะเริ่มเปลีย่ นสถานะ
ไออิม่ ตัว
คือ ไอทีเ่ กิดจากของเหลวทีก่ าลังกลายเป็ นไอ ภายใต้ อุณหภูมิ
และความดันเดียวกันกับของของเหลว
ไอร้ อนยิง่ ยวด คือ อุณหภูมขิ องไอทีส่ ู งกว่ าอุณหภูมไิ ออิม่ ตัว
การเย็นเยือก คือ ของเหลวทีม่ อี ุณหภูมติ า่ กว่ าอุณหภูมหิ ลอมเหลว
1.2.6 อุณหภูมิ
อุณหภูมิ คือ ตัววัดระดับความร้อนของสสาร
1.2.7 หน่ วยของอุณหภูมิ
ระบบเมตริก
ระบบอังกฤษ
ระบบ SI
เซนติเกรด
ฟาเรนไฮด์
เซนติเกรด
0C
0F
0C
สมการทีใ่ ช้ แปลงหน่ วย C = F - 32
9
5
1.2.8 อุณหภูมสิ มบูรณ์
อุณหภูมิทโี่ มเลกุลของสสารหยุดการเคลือ่ นไหวหรือสั่ นสะเทือน
ระบบเมตริกและระบบ SI เป็ นเคลวิน 0K = 273 0C
ระบบอังกฤษ
เป็ นแรนคิน 0R = 460 0F
1.2.9 งานพลังงาน และกาลังงาน
งาน
คือ แรงที่ทาให้สสารเคลือ่ นที่ x ระยะทางที่เคลือ่ นที่
พลังงาน คือ ความสามารถที่จะทางานมี 3 แบบ คือ พลังงานกลพลัง
งานไฟฟ้ าและพลังงานความร้อน
กาลังงาน คือ อัตราการทางานต่อหน่วยเวลา
รู ปแบบการใช้หน่วย
งาน
พลังงาน
- กล
- ไฟฟ้ า
- ความร้ อน
กาลังงาน
เมตริก
kgf – m
SI
Joule(J)
อังกฤษ
ft – lb
kgf – m
kW – hr
kcal
kgf – m / s
Joule(J)
ft – lb
HP – hr
BTU
ft – lb / s
ft–lb/min HP
W = Joule / s
kW = kJ / s
1.2.10 การเปลีย่ นสถานะของนา้
1.3 วัฎจักรการทาความเย็น
1.3.1 การทาความเย็น และการปรับอากาศ
การทาความเย็น คือ การลดและรักษาอุณหภูมิของห้องหรือวัตถุให้
มีค่าตา่ กว่าอุณหภูมิสภาพแวดล้อม
การปรับอากาศ คือ การควบคุม ความชื้ น อุณหภูมิ ความสะอาด
ความเร็วลม และการกระจายลมในห้อง
ความร้อน
ความร้อน ความชื้ น ฝุ่ นละออง
กระจายลม
การทาความเย็น
การปรับอากาศ
1.3.2 ภาระความร้ อน
อัตราความร้อนทีต่ อ้ งนาออกจากบริเวณทีท่ าความเย็น แบ่งเป็ น
- ภาระความร้อนจากภายนอก เช่น แสงอาทิตย์ การรัว่ ของ อากาศ
เข้าอาคาร ลม แสงสะท้อน เป็ นต้น
- ภาระความร้อนภายใน เช่น คน อุปกรณ์ไฟฟ้ า ไฟแสงสว่าง
การระบายอากาศออก เป็ นต้น
1.3.3 สารทาความเย็น
สารทาความเย็น คือ ตัวพาความร้อนทีจ่ ะดึงความร้อนออกจาก
ห้องไปสู่ขา้ งนอก
คุณสมบัติของสารทาความเย็น
ก. ราคาถูก
ข. ไม่มีพษิ ไม่ระเบิด ไม่ติดไฟ ไม่กดั กร่อน
ค. เสถียร
ง. ความร้ อนแฝงในการกลายเป็ นไอสู ง
จ. ง่ ายต่ อการควบแน่ น และกลายเป็ นไอ
ฉ. ง่ ายต่ อการตรวจหารอยรั่ว
ช. ไม่ ทาลายสิ่ งแวดล้อม กาจัดง่ าย
ตัวอย่ างสารทาความเย็น เช่ น อากาศ แอมโมเนีย คาร์ บอนไดออกไซด์
สาร CFC,HCFC และ HFC เป็ นต้ น
ตัวกลางการทาความเย็นอื่น ๆ
ก. น้ าเย็น
ข. น้ าเกลือ
ค. น้ าแข็ง
1.3.4 วัฎจักรการทาความเย็น
วัฎจักรการทาความเย็นอย่ างง่ าย มีพนื้ ฐาน 4 ขั้นตอน
1. การอัด
2. การควบแน่ น
3. การขยาย
4. การกลายเป็ นไอ 2 การควบแน่น
CONDENSER
การขยาย
3
EXPANSION
VALVE
การอัด
1
EVAPORATOR
4
การกลายเป็ นไอ
COMPRESSOR
อุปกรณ์ การอัด COMPRESSOR
1. CENTRIFUGAL
2. RECIPROCATING
3. SCREW
4. SCROLL
5. ROTARY
6. VANE
อุปกรณ์ การควบแน่ น CONDENSING
1. ระบายความร้ อนด้ วยอากาศ
2. ระบายความร้ อนด้ วยนา้
ชนิดของอุปกรณ์ การขยาย (EXPANSION)
1. DIRECT EXPANSION
- CAPILLARY TUBES
- THERMOSTATIC
- EXPANSION VALVE
2. FLOODED TYPE
3. DRY EXPANSION TYPE
อุปกรณ์การกลายเป็ นไอ
1. FAN COIL UNIT
2. AIR HANDLING UNIT
2.1 แผนภูมิมอลเลียร์
2.1.1 CFC - 11
2.1.2 CFC - 12
2.1.3 HCFC - 22
2.1.4 HCFC - 123
2.1.5 HFC - 134a
2.2 แผนภูมไิ ซโครเมตริก
2.2.1 คาศัพท์ พนื้ ฐาน
2.2.2 วิธีการอ่ านแผนภูมไิ ซโครเมตริก
2.2.3 กระบวนการปรับอากาศบนแผนภูมโิ ซโครเมตริก
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
อัตราส่ วนประสิ ทธิภาพพลังงานของเครื่องปรับอากาศ
(Energy Efficiency Ratio) : EER = (Btu/hr)/ Watt
Btu/hr = ความสามารถในการทาความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
Watt = กาลังไฟฟ้าที่ใช้
2
LOW
PRESSURE
3
EXPANSION
VALVE
CONDENSER
1
COMPRESSOR
4
EVAPORATOR
แผนภูมิวฎั จักรการทาความเย็น
HIGH
PRESSURE
LIQUID
VAPOR
MOLLIER DIAGRAM OR P-h CHART
MOLLIER DIAGRAM OR P-h CHART OF R-11
MOLLIER DIAGRAM OR P-h CHART OF R-12
MOLLIER DIAGRAM OR P-h CHART OF R-22
MOLLIER DIAGRAM OR P-h CHART OF R-123
MOLLIER DIAGRAM OR P-h CHART OF R-134a
2.2 แผนภูมิไซโครเมตริก
2.2.1 คาศัพท์ พนื้ ฐาน
ก. อากาศชื้น (lbw)
: อากาศทีม่ ไี อนา้ รวมอยู่ด้วย
ข. อากาศแห้ ง (lba)
: อากาศทีไ่ ม่ มไี อนา้ รวมอยู่ด้วย
ค. อุณหภูมกิ ระเปาะแห้ ง (0F)
ง. อุณหภูมกิ ระเปาะเปี ยก (0F)
จ. อุณหภูมจิ ุดนา้ ค้ าง (0F) : อุณหภูมทิ ไี่ อนา้ ในอากาศเริ่มควบแน่ น
ฉ. ความชื้นสั มพัทธ์
: อัตราส่ วนของนา้ หนักจาเพาะของอากาศชื้นกับนา้ หนัก
จาเพาะของอากาศอิม่ ตัวเป็ นเปอร์ เซ็นต์ ความชื้น
ช. ความชื้นจาเพาะ (lbw/ lba) : นา้ หนักของไอนา้ ทีม่ อี ยู่ในอากาศแห้ ง 1 ปอนด์
ซ. ปริมาตรจาเพาะ (ft3/lb) : ปริมาตรของอากาศชื้นต่ ออากาศแห้ ง 1 ปอนด์ ใน
อากาศชื้นนั้น
ฌ. นา้ หนักจาเพาะ (lb/ft3)
: มวลต่ อปริมาตร
ญ. เอ็นทาลปี้ (BTU/lb)
: พลังงานความร้ อนทั้งหมดทีม่ อี ยู่อากาศแห้ ง 1 ปอนด์
DEWPOINT
H
TIVE
RELA
MOISTURE CONTENT
ITY
UMID
DRY BULB TEMPERATURE
เมือ่ ทราบสภาวะของอากาศ 2 ค่ า ก็จะสามารถทราบสภาวะอากาศทั้งหมดได้
SENSIBLE HEAT FACTOR
GRAMS OF MOISTURE PER KILOGRAM OF DRY AIR
EN
TH
AL
PY
DE
VIA
ALIGNMENT
CIRCLE
LB
BU
ME
LU
VO
R
P
EM
T
N
ET
W
O
INT
O
P
EW
D
LB
-BU
T
WE
IO
AT
R
TU
SA
DRY BULB
EN
TH
A
TIO
N
LP
Y
A
T
SA
TU
R
A
TI
O
N
2.2.2 วิธีการอ่ านแผนภูมิไซโครเมตริก
TI
O
N
2.2.3 กระบวนการปรับอากาศบนแผนภูมิไซโครเมตริก
LB
BU
DEWPOINT
R
I VE H
ELAT
ITY
UMID
DRY BULB TEMPERATURE
SENSIBLE HEAT FACTOR
GRAMS OF MOISTURE PER KILOGRAM OF DRY AIR
R
ET
W
TO
OIN
P
EW
BD
L
U
T-B
E
W
MP
TE
N
TIO
RA
U
T
SA
DRY BULB
EN
TH
A
LP
Y
A
T
SA
TU
R
A
การเพิม่ ความชื้ น
N
TI
O
LB
BU
DEWPOINT
ITY
UMID
H
E
V
TI
RELA
DRY BULB TEMPERATURE
SENSIBLE HEAT FACTOR
GRAMS OF MOISTURE PER KILOGRAM OF DRY AIR
R
P
EM
T
N
ET
W
T-B
WE
O
INT
O
P
EW
D
B
UL
TIO
RA
U
T
SA
DRY BULB
EN
TH
A
LP
Y
A
T
SA
TU
R
A
การลดความชื้ น
LB
BU
DEWPOINT
Y
MIDIT
E HU
V
I
T
A
REL
DRY BULB TEMPERATURE
SENSIBLE HEAT FACTOR
GRAMS OF MOISTURE PER KILOGRAM OF DRY AIR
ET
W
OR
INT
O
P
EW
D
LB
-BU
T
WE
P
EM
T
ION
AT
R
TU
SA
DRY BULB
EN
TH
A
LP
Y
AT
SA
TU
RA
TI
O
N
การทาความเย็น
N
TI
O
LB
BU
DEWPOINT
Y
MIDIT
U
H
E
TIV
RELA
DRY BULB TEMPERATURE
SENSIBLE HEAT FACTOR
GRAMS OF MOISTURE PER KILOGRAM OF DRY AIR
R
ET
W
O
INT
O
P
EW
D
LB
-BU
T
WE
MP
TE
N
IO
AT
R
TU
SA
DRY BULB
EN
TH
A
LP
Y
A
T
SA
TU
R
A
การให้ความร้อน
LB
BU
DEWPOINT
R
I VE H
ELAT
ITY
UMID
DRY BULB TEMPERATURE
SENSIBLE HEAT FACTOR
GRAMS OF MOISTURE PER KILOGRAM OF DRY AIR
RS
P
EM
T
N
ET
W
B
UL
B
T
WE
O
INT
O
WP
DE
TIO
RA
U
AT
DRY BULB
EN
TH
A
LP
Y
A
T
SA
TU
R
A
TI
O
N
การเพิม่ ความชื้ นและให้ความร้อน
N
TI
O
LB
BU
DEWPOINT
H
TIVE
RELA
ITY
UMID
DRY BULB TEMPERATURE
SENSIBLE HEAT FACTOR
GRAMS OF MOISTURE PER KILOGRAM OF DRY AIR
R
P
EM
T
N
ET
W
TO
N
I
PO
EW
D
B
UL
B
T
WE
TIO
RA
U
T
SA
DRY BULB
EN
TH
A
LP
Y
A
T
SA
TU
R
A
การลดความชื้ นและให้ความร้อน
LB
BU
DEWPOINT
R
I VE H
ELAT
ITY
UMID
DRY BULB TEMPERATURE
SENSIBLE HEAT FACTOR
GRAMS OF MOISTURE PER KILOGRAM OF DRY AIR
R
ET
W
T-B
WE
TO
OIN
P
W
DE
B
UL
MP
TE
N
TIO
RA
U
T
SA
DRY BULB
EN
TH
A
LP
Y
A
T
SA
TU
R
A
TI
O
N
การเพิม่ ความชื้ นและการทาความเย็น
LB
BU
DEWPOINT
H
TIVE
RELA
ITY
UMID
DRY BULB TEMPERATURE
SENSIBLE HEAT FACTOR
GRAMS OF MOISTURE PER KILOGRAM OF DRY AIR
R
ET
W
O
INT
O
WP
DE
B
L
-BU
T
WE
MP
TE
N
IO
AT
R
TU
SA
DRY BULB
EN
TH
A
LP
Y
A
T
SA
TU
R
A
TI
O
N
การลดความชื้ นและการทาความเย็น
สรุป
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
เพิม่ ความชื้น
ลดความชื้น
ทาความเย็น
การให้ ความร้ อน
เพิม่ ความชื้นและให้ ความร้ อน
ลดความชื้นและให้ ความร้ อน
เพิม่ ความชื้นและทาความเย็น
ลดความชื้นและทาความเย็น
ตัวอย่าง การอ่านแผนภูมิไซโครเมตริก
1. จงหาค่าความดันของไอน้ าอิ่มตัว (Ps ) และอัตราส่วนความชื้ นอิ่มตัว (W)
TI
O
N
ที่อุณหภูมิ 27 oC จากแผนภูมิไซโครเมตริก
AT
SA
TU
RA
100%
50%
ITY
UMID
IVE H
T
A
L
RE
A27 C
o
DRY BULB TEMPERATURE
Water-vapor pressure,kPa
B
UL
-B
T
WE
MP
TE
N
TIO
RA
U
AT
RS
O
INT
PO
W
DE
DRY BULB
EN
TH
AL
PY
W = 0.0227
การอ่านจากรูปทีจ่ ุด A
จากจุด A ลากเส้ นตรงดิง่ ขึน้ ไปจนตัดกับเส้ นอิม่ ตัว (saturation line)
จากจุดทีต่ ดั กันนี้ ลากเส้ นตรงไปทางด้ านขวาจนตัดกับแกนของอัตราส่ วน
ความชื้นอิม่ ตัว (W)
อัตราส่ วนความชื้นอิม่ ตัว (W) = 0.0227 kg/kg dry air
จากตาราง Table A-1
Ps = 3.569 kPa
หรือ = 26.7 mm Hg
27๐C
ตัวอย่ าง การอ่ านแผนภูมไิ ซโครเมตริก
2. จงหาค่ าอุณหภูมกิ ระเปาะเปี ยก (WB) ความดันไอนา้ อิม่ ตัว (Ps) อัตราส่ วนความชื้น (W) ปริมาตร
100%
TO
MP
TE
N
TIO
RA
55%
A
W = 0.0123
Y
IDIT
HUM
E
V
ATI
REL
t3 = 17.2o C
t2 = 20.4o C
DRY BULB TEMPERATURE
t1 = 27o C
v = 0.866 m3/kg dry air
Water-vapor pressure,kPa
UL
T-B
WE
OIN
WP
E
BD
U
AT
RS
DRY BULB
TH
A
LP
Y
EN
h = 58.5 kJ/kg dry air
A
T
SA
TU
R
A
TI
O
N
จาเพาะ จุดนา้ ค้ าง(DP) เอ็นธาลปี (h) ทีภ่ าวะอุณหภูมกิ ระเปาะแห้ ง 27 oC และความชื้นสั มพัทธ์ 55 %
จากจุด 27 oC กระเปาะแห้ ง ลากเส้ นตรงดิง่ ขึน้ ไปจนตัดกับเส้ น 55 % ความชื้นสั มพัทธ์ ที่ A
จากจุด A ลากเส้ นไปตัดแกนค่ าต่ าง ๆ และอ่ านค่ าทีไ่ ด้ ดงั นี้
- ลากเส้ นอุณหภูมกิ ระเปาะเปี ยกทีผ่ ่ านจุด A อุณหภูมกิ ระเปาะเปี ยก (WB) = 20.4 oC
- จากตาราง Table A-1 Ps = 3.569 kPa relative humidity is 100%
ที่ 55%
Ps = 0.55 x 3.569
= 1.963 kPa หรื อ14.73 mm Hg
- ลากเส้ นตรงไปทางขวาของจุด A อัตราส่ วนความชื้น (W)
= 0.0123 kg/kg dry air
- ลากเส้ นปริมาตรจาเพาะทีผ่ ่ านจุด A ปริมาตรจาเพาะ (v)
= 0.866 m /kg dry air
- ลากเส้ นตรงตามแนวระดับไปทางซ้ ายของจุด A จุดนา้ ค้ าง (DB)
= 17.2 oC
- เอ็นธาลปี (h)
= 58.5 kJ/kg dry air
3
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
2.3.1 ความร้ อน
2.3.2 ไฟฟ้า
2.3.3 กาลังงานกล
2.3.4 การทาความเย็น
2.3.5 COEFFICIENT OF PERFORMANCE
2.3.6 ENERGY EFFICIENCY RATIO
2.3.7 ประสิ ทธิภาพของหอผึง่ นา้
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
พ. กฎของพัดลม
- ปริมาณลมแปรผันตามรอบของพัดลม และเส้ นผ่ านศูนย์ กลาง
CFM2 = RPM2 = D2
CFM1 RPM1
D1
D คือเส้ นผ่ านศูนย์ กลางของเพลา; นิว้
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
2.3.1 ความร้ อน
ก. ความดัน
Pressure
=
Force / Area = F / A
ความดัน
=
แรง/พืน้ ที่ , lb / in2
ข. ความดันสมบูรณ์
Absolute pressure
= Gage pressure + Atmospheric pressure
ความดันสมบูรณ์
= ความดันเกจ + ความดันบรรยากาศ
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ค. งาน
งาน
= แรง
X
ระยะทาง
(ฟุต – ปอนด์ )
ง. กาลังงาน
กาลังงาน
= งาน / หน่วยเวลา (ฟุต – ปอนด์ / วินาที)
1 แรงม้า
= 3.3 x 104
(ฟุต – ปอนด์ / นาที)
= 5.5 x 102
(ฟุต – ปอนด์ / วินาที)
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
จ. ความร้ อนสั มผัส
ความร้ อนสั มผัส
QS
m
Cp
t2 , t1
=
=
;
;
;
มวล X ความร้ อนจาเพาะของสสาร X
ผลแตกต่ างของอุณหภูมิ
m x Cp x ( t2 – t1)
BTU
มวล;ปอนด์
ความร้ อนจาเพาะของสสาร; BTU/lb/0F
อุณหภูมขิ องวัตถุ ; 0F
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ฉ. ความร้ อนแฝง
ความร้ อนแฝง
Ql
m
L
=
=
;
;
มวล x ความร้ อนแฝงในการกลายเป็ นไอ
mxL
BTU
มวล; ปอนด์
ความร้ อนแฝงในการกลายเป็ นไอ; BTU/lb
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ช. ความเย็น 1 ตัน
ความเย็น 1 ตัน = 2,000 ปอนด์ x 144 BTU/ปอนด์
12,000 BTU/Hr x 24 ชั่วโมง
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ซ. กฎของก๊าซ
PV
=
mRT
P
;
ความดัน ; psi
V
;
ปริมาตร ; ft3
R
;
ค่ าคงทีข่ องก๊าซ
m
;
มวลของก๊าซ ; lb
T
;
อุณหภูมขิ องก๊ าซ ; 0R
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ฌ. สั มประสิ ทธิ์การถ่ ายเทความร้ อน
C = k/L ; BTU/hr – ft2 0F
k ; สั มประสิ ทธิ์จาเพาะของสสาร ; BTU / hr – ft2 0F / ft
L ; ความหนาของวัตถุ ; ft
ญ. สั มประสิ ทธิ์การต้ านทานความร้ อน
ค่ าความต้ านทานความร้ อนของวัสดุใด ๆ คือ ส่ วนกลับของค่ าการนาความร้ อน
R
=
1/C [(ตารางเมตร – องศาเซลเซียสต่ อวัตต์ )]
C
;
ค่ าการนาความร้ อน (วัตต์ ต่อตารางเมตร – องศาเซลเซียส)
R
;
ค่ าความต้ านทานความร้ อน (ตารางเมตร – องศาเซลเซียสต่ อวัตต์ )
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ฎ. ความร้ อนจากการถ่ ายเทความร้ อน (Q)
ความร้ อนจากการถ่ ายเทความร้ อน = U x A x ( t2 – t1)
U
; สั มประสิ ทธิ์การถ่ ายเทความร้ อนรวม
BTU/hr- ft2-0F
A
; พืน้ ที่หน้ าตัด, ft2
t2 , t1
; อุณหภูมทิ ผี่ วิ ของวัตถุ , oF
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ฏ. Overall Thermal Transfer Value (OTTV)
OTTV = (QT)wall + (QT)window + (QR) Window
Awall + Awindow
ฐ. Roof Thermal Transfer Value (RTTV)
RTTV = (Rt)wall + (Rt)glass + (Rt) glass
Rwall + Rglass
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ฑ. ความร้ อนจากการแผ่ รังสี ของกระจก
Qr
A
SC
SF
=
;
;
;
A x SC x SF
พืน้ ที่หน้ าตัด , ft2
Shading Coefficient สั มประสิ ทธิ์การบังแดด
ค่ าตัวประกอบรังสี แสงอาทิตย์ , BTU / ft2
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ฒ. สั มประสิ ทธิ์การถ่ ายเทความร้ อนรวม
U
U
R
R
L
K
= 1 + 1 + 1 + ………. + 1
R1 R2 R3
Rn
; สั มประสิ ทธิ์การถ่ ายเทความร้ อนรวม; BTU/hr- ft2 - 0F
; สั มประสิ ทธิ์การต้ านทานความร้ อน; 0F - ft2 - hr/BTU
; L/K
; ความหนาของวัตถุ , ft
; สั มประสิ ทธิ์จาเพาะของสสาร , BTU/hr-ft0F/ft
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ณ. การพาความร้อน
Qv = hc x A ( ts – ta)
hc
; สั มประสิ ทธิ์การพาความร้ อน ; BTU/hr - ft2 0F
A
; พืน้ ทีผ่ วิ ของวัสดุ , ft2
ts
; อุณหภูมผิ วิ ของวัสดุ , 0F
ta
; อุณหภูมขิ องอากาศ , 0F
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ด. การแผ่ รังสี
Qr
e
A
ts
ta
=
;
;
;
;
eA ( ts4 – ta4 )
Watt
ค่ าคงทีข่ องการแผ่ รังสี , 5.67 x 10-8 W/m2 0K4
พืน้ ที่ผวิ , ตร.เมตร
อุณหภูมสิ มบูรณ์ ทผี่ วิ วัสดุ , 0Kelvin
อุณหภูมโิ ดยรอบ , 0Kelvin
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
2.3.2 ไฟฟ้ า
ต. Power = Volt x Amp x PF Watt ( Single phase )
Volt ; แรงเคลือ่ นไฟฟ้า; โวลท์
Amp ; กระแสไฟฟ้า; แอมแปร์
PF
; Power Factor ( = 1 กรณี Single phase )
ถ. Power (3 เฟส)
Power = 3 x Volt x Amp x PF
Watt (Three phase)
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
2.3.3 กาลังงานกล
ท. ความเร็วของของไหล
v
=
v
H


L
D
;
;
;
;
;
;
H  D2
32L
ความเร็วเฉลีย่ ของ ของไหล m/s
head lors ทีเ่ กิดขึน้ m.
3
นา้ หนักจาเพาะของ ของไหล N/m
ความหนืดของของไหล m.
ความยาวของท่ อ m.
เส้ นผ่ านศูนย์ กลางภายในท่ อ m.
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ธ. อัตราการไหล
Q
=
Q
;
A
;
V
;
AV
อัตราการไหล; ลบ. ฟุตต่ อนาที
พืน้ ที่หน้ าตัด; ตร. ฟุต
ความเร็วของของไหล; ฟุตต่ อนาที
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
น. ปริมาณ Air change ต่ อชั่วโมง
Air change ต่ อชั่วโมง
= CFM X 60
Volume
CFM คือ ปริมาณลมเป็ นลูกบาศก์ ฟุตต่ อนาที
Volume คือ ปริมาตรของอากาศเป็ น ลบ.ฟุต
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
บ. สายพาน
ความยาวของสายพาน
L = 2C + 1.57 ( D+d ) + ( D-d )2
4C
L ; ระยะของ belt pitch; นิว้
C ; ระยะจุดศูนย์ กลางของเพลาขับและเพลาตาม; นิว้
D ; เส้ นผ่ านศูนย์ กลางของ Pulley เพลาขับ; นิว้
d ; เส้ นผ่ านศูนย์ กลางของ Pulley เพลาตาม; นิว้
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ป. การขับของ Pulley
RPM m x Dm
RPM m
Dm
RPMf
Df
=
;
;
;
;
RPMf x Df
ความเร็วของมอเตอร์ , รอบต่ อนาที
เส้ นผ่ านศูนย์ กลางของมอเตอร์ ; นิว้
ความเร็วของพัดลม, รอบต่ อนาที
เส้ นผ่ านศูนย์ กลางของพัดลม; นิว้
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ผ. กาลังงานกลของพัดลม
แรงม้ าพัดลม
= 0.0001574 x CFM x SP
แรงม้ า
Eff
SP
; ความเสี ยดทาน เป็ นนิว้ ของนา้
Eff
; ประสิ ทธิภาพของพัดลม
หรือ แรงม้ าพัดลม
= 3.030 x 10-5 x CFM x SP
แรงม้ า
Eff
CFM
; ปริมาณลม ( cubic ft./min. )
SP
; ความเสี ยดทาน ( lbs/ft2 )
( 1 ft – lbs / min
= 3.030 x 10-5 แรงม้ า)
( in.of water (at 4 oC) = 5.204 lbs/ft2 )
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ฝ. ความเร็วทีป่ ลายพัดลม Tip Speed (TS)
TS =  x D x RPM
12
D
; เส้ นผ่ านศูนย์ กลางของใบพัดลมเป็ นนิว้
TS ; ความเร็วทีป่ ลายพัดลม (ฟุต/นาที)
RPM ; ความเร็วทีป่ ลายพัดลม (รอบ/นาที)
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
- แรงเสี ยดทานของพัดลมแปรผันเป็ นกาลังสองตามรอบ ปริมาณลม
และเส้ นผ่ านศูนย์ กลาง
SP2 = RPM2 2 = CFM2 2 = D2 2
SP1
RPM1
CFM1
D1
- กาลังงานกลของพัดลมแปรผันเป็ นกาลังสามของรอบ ปริมาณ
ลมและเส้ นผ่ านศูนย์ กลาง
BHP2 =
RPM2 3 =
CFM2 3 =
D2
BHP1
RPM1
CFM1
D1
3
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ฟ. กาลังงานกลของเครื่องสู บนา้
HP = GPM X FN X SP.gr
3960 X Eff
FN ; ความเสี ยดทานของระบบ เป็ น ปอนด์ ต่อตารางฟุต
GPM ; อัตราการไหลเป็ นแกลลอนต่ อนาที
Sp.gr ; ความถ่ วงจาเพาะของของไหล
Eff ; ประสิ ทธิภาพของเครื่องสู บนา้
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ภ. แรงเสียดทานจากเครื่องสูบน้ าแบบหอยโข่ง
D X RPM 2
1840
D
; เส้ นผ่ านศูนย์ กลางของใบพัดสู บนา้ เป็ นนิว้
RPM ; ความเร็วรอบของเหลว (รอบ/นาที)
H
=
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ม. อัตราการไหลของนา้ ผ่ าน Valve
GPM = Cv P
Cv ; ค่ าสั มประสิ ทธิ์ของ Valve
P
; pressure drop ความดันลดเป็ น psi หรือ ฟุตของนา้
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ย. อัตราการไหลของนา้ ผ่ าน Coil
GPM2
= GPM1
GPM2
GPM1
P2
P1
คือ
คือ
คือ
คือ
P2
P1
อัตราการไหลของนา้ ผ่ าน Coil แกลอน/นาที
อัตราการไหลของนา้ ก่อนเข้ า Coil แกลอน/นาที
pressure drop ของนา้ ที่ออกจาก Coil Psi
Pressure drop ของนา้ ที่เข้ า Coil Psi
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
2.3.4 การทาความเย็น
ร. ปริมาณความร้ อนสั มผัส
Qs = 1.08 x CFM x ( t2 – t1)
Qs คือ ปริมาณความร้ อนสั มผัสเป็ น BTU/hr
t2
คือ อุณหภูมขิ องลมเย็นเข้ า 0F
t1
คือ อุณหภูมขิ องลมเย็นออก 0F
CFM คือ ปริมาณลม (Cubic ft/min)
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ล. ปริมาณความร้อนแฝง
Ql
Ql
W1, W2
=
คือ
คือ
0.68 x CFM x (W2 – W1)
ปริมาณความร้ อนแฝง เป็ น BTU/hr
อัตราส่ วนความชื้นจาเพาะของอากาศ
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ว. ปริมาณความร้ อนรวม
Qt =
Qs + Q l
BTU / hr
Qt =
4.5 x CFM x (h2 – h1)
h1, h2
CFM
QS
Ql
คือ
คือ
คือ
คือ
เอ็นธาลปี้ ของอากาศเป็ น BTU / hr
ปริมาตรลม (Cubic ft/min)
ปริมาณความร้ อนสั มผัส BTU/hr
ปริมาณความร้ อนแฝง BTU/hr
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ศ. อุณหภูมลิ มผสม
tmix
CFM1 + CFM2
tDB1, tDB2
= CFM1 x tDB1 + CFM2 x tDB2
CFM1 + CFM2
; ปริมาณลมเป็ นลูกบาศก์ ฟุตต่ อนาที
; อุณหภูมกิ ระเปาะแห้ งทีส่ ถานะ 1 และ 2
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ษ. Room Sensible heat factor
SHF =
Qs
Ql
Qs
Q s + Ql
คือ ปริมาณความร้ อนสั มผัส BTU/hr
คือ ปริมาณความร้ อนแฝง BTU/hr
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
ส. การทาความเย็น
Qt =
Qt =
GPM =
t1
=
t2
=
GPM x ( t2 – t1) x 500 BTU / hr
ปริมาณความเย็นที่ทาได้ BTU/hr
ปริมาณการไหลของลม แกลอนต่ อนาที
อุณหภูมขิ องลม ก่ อนเข้ าเครื่องปรับอากาศ
อุณหภูมลิ มเย็น หลังออกจากเครื่องปรับอากาศ
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
2.3.5 Coefficient of performance (COP)
COP = ความสามารถในการทาความเย็น, BTU / hr
กาลังไฟฟ้าที่ใช้ (kw)
1 watt =
3.1429 BTU/hr
2.3.6 Energy Efficiency Ratio
EER = ความสามารถในการทาความเย็น , BTU / hr
กาลังไฟฟ้าที่ใช้ , Watt
COP =
EER
3.414
2.3 สู ตรทีใ่ ช้ ในการวิเคราะห์ การใช้ พลังงานของระบบปรับอากาศ
2.3.7 ประสิ ทธิภาพของหอผึง่ นา้
สมดุลย์ ความร้ อนของหอผึง่ นา้
mw.Cpw. (tw.i – tw.o) = meL + ma ( ho – hi)
mw. คือ ปริมาณของนา้ ที่ออกจากหอผึง่ นา้
Cpw. คือ ความร้ อนจาเพาะของนา้
tw.i คือ อุณหภูมขิ องนา้ หล่ อเย็นเข้ าหอผึง่ นา้
tw.o คือ อุณหภูมขิ องนา้ หล่ อเย็นออกจากหอผึง่ นา้
me คือ ปริมาณของนา้ ที่ระเหย
ma คือ ปริมาณอากาศ
L
คือ ความร้ อนแฝง
3.1 ประเภทของระบบปรับอากาศขนาดใหญ่
3.2 ระบบปรับอากาศแบบ Water Cooled Water Chiller
3.3 ระบบปรับอากาศแบบ Air Cooled Water Chiller
3.4 ระบบปรับอากาศแบบชุดระบายความร้ อนด้ วยน้า Water Cooled Package
3.5 ระบบปรับอากาศแบบชุดระบายความร้ อนด้ วยอากาศ Air Cooled Package
3.6 อุปกรณ์ อนื่
ประเภทของระบบปรับอากาศขนาดใหญ่
ก. Water Cooled Water Chiller
ข. Air Cooled Water Chiller
ค. Water Cooled Package
ง. Air Cooled Package
ระบบปรับอากาศแบบ
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
ฉ.
ช.
Water Cooled Water Chiller
CH
CT
CHP
CDP
AHU
FCU
CHS
:
:
:
:
:
:
:
เครื่องทานา้ เย็น
หอผึง่ นา้
เครื่องสู บนา้ เย็น
เครื่องสู บนา้ หล่อเย็น
เครื่องส่ งลมเย็น
เครื่องจ่ ายลมเย็น
ท่ อจ่ ายนา้ เย็นและฉนวน
ระบบปรับอากาศแบบ
Water Cooled Water Chiller
ซ. CHR : ท่ อนา้ เย็นกลับและฉนวน
ฌ. CDR : ท่ อนา้ หล่ อเย็นกลับ
ญ. CDS : ท่ อนา้ หล่ อเย็นจ่ าย
ฎ. EXT : ถังนา้ ขยายตัว
ฐ. WTS : ระบบปรับสภาวะนา้
ระบบปรับอากาศแบบ
ก. CH
ข. CHP
ค. AHU
ง. FCU
จ. CHS
ฉ. CHR
ช. EXT
:
:
:
:
:
:
:
Air Cooled Water Chiller
เครื่องทานา้ เย็น
เครื่องสู บนา้ เย็น
เครื่องส่ งลมเย็น
เครื่องจ่ ายลมเย็น
ท่ อจ่ ายนา้ เย็นและฉนวน
ท่ อนา้ เย็นกลับและฉนวน
ถังนา้ ขยายตัว
ระบบปรับอากาศแบบชุดระบายความร้อนด้วยน้ า
Water Cooled Package
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
ฉ.
CT : หอผึง่ นา้
CDP : เครื่องสู บนา้ หล่อเย็น
WCP : เครื่องปรับอากาศแบบชุ ด
ระบายความร้ อนด้ วยนา้
CDS : ท่ อนา้ หล่อเย็นจ่ าย
CDR : ท่ อนา้ หล่อเย็นกลับ
WTS : ระบบปรับสภาวะนา้
ระบบปรับอากาศ
แบบ WATER COOLED PACKAGE (WCP)
ระบบปรับอากาศแบบชุดระบายความร้ อนด้ วยอากาศ
Air Cooled Package
ก.
FCU : เครื่องจ่ ายลมเย็น
ข.
AHU : เครื่องส่ งลมเย็น
ค.
CDU : Air Cooled Condensing Unit
ระบบปรับอากาศแบบ
SPLIT TYPE AIR CONITIONER
เทคนิคการใช้มาตรการวัดและเครือ่ งมือวัดบันทึกข้อมูล
เพือ่ ใช้ในการวิเคราะห์การใช้พลังงาน
4.1 ชนิดของเครื่องมือวัด เพือ่ การวิเคราะห์ การใช้ พลังงาน
4.2 การนาผลการตรวจวัดจากเครื่องมือวัดเพือ่ วิเคราะห์ การใช้ พลังงาน
ชนิดของเครื่องมือวัด เพือ่ การวิเคราะห์การใช้พลังงาน
4.1.1 ด้ านความร้ อน
ก. เครื่องวัดอุณหภูมิของของเหลว
ข. เครื่องวัดอุณหภูมิแบบใช้ รังสี
ค. เครื่องมือวัดและบันทึกอุณหภูมิและ
ความชื้นสั มพัทธ์ ของอากาศ
ง. เครื่องมือวัดอัตราการไหล
จ. เครื่องมือวัดความเร็วลม
ชนิดของเครื่องมือวัด เพือ่ การวิเคราะห์การใช้พลังงาน
4.1.1 ด้ านความร้ อน
ฉ. เครือ่ งมือวัดความดันของของไหล
ช. เครือ่ งมือวัดความดันลม
ซ. เครือ่ งมือตรวจวิเคราะห์น้ าและการนาไฟฟ้ า
ฌ. เครือ่ งมือวัดความเป็ นกรด ด่างของน้ า
ชนิดของเครื่องมือวัด เพือ่ การวิเคราะห์การใช้พลังงาน
4.1.2 ด้ านไฟฟ้า
ก. เครื่องมือวัดพลังงานไฟฟ้า
ข. เครื่องมือวัดกระแสไฟฟ้า
ค. เครื่องมือวัดแรงเคลือ่ นไฟฟ้า
ง. เครื่องมือวัดกาลังไฟฟ้า
จ. เครื่องมือวัดตัวประกอบกาลัง
ฉ. เครื่องมือวัดความเร็วรอบ
การนาผลการตรวจวัดจากเครือ่ งมือวัดเพือ่ วิเคราะห์การใช้พลังงาน
เครื่องมือวัด
เครื่องวัด
อุณหภูมิของ
ของเหลว
บริเวณที่ตรวจวัด
1. นา้ เย็นในระบบ
2. นา้ หล่อเย็นที่หอ ผึง่ นา้
3. นา้ หล่อเย็นในระบบ
4. อุณหภูมิของลมเย็นใน
ระบบ
ค่ าที่อ่านได้
OC
, OF
การนาไปใช้ ประโยชน์
1. หาความผิดปกติ
ระบบนา้ เย็น ลมเย็นและนา้
หล่อเย็น
2. ใช้ ประกอบการคานวณ
หาประสิทธิภาพการ
ทาความเย็น
การนาผลการตรวจวัดจากเครือ่ งมือวัดเพือ่ วิเคราะห์การใช้พลังงาน
เครื่ องมือวัด
เครื่องมือวัด
อุณหภูมิแบบ
ใช้ รังสี
บริเวณที่ตรวจวัด
1. ผิวฉนวนของท่ อ
และอุปกรณ์
2. ท่ อนา้ เย็น
3. ผิวของเครื่อง
ปรับอากาศ
ค่ าที่อ่านได้
การนาไปใช้ ประโยชน์
วิเคราะห์ ความสู ญเสีย
ความเย็นของระบบท่ อ
นา้ ,เครื่องปรับอากาศ
ต่ าง ๆ เนื่องจากฉนวน
2. วัดอุณหภูมิผวิ ของ
อุปกรณ์ เพือ่ คานวณ
หาการสู ญเสียความ
OC, OF,
1.
W / m2
เย็น
การนาผลการตรวจวัดจากเครือ่ งมือวัดเพือ่ วิเคราะห์การใช้พลังงาน
เครื่ องมือวัด
เครื่องมือวัด
และบันทึก
อุณหภูมิและ
ความชื้น
สัมพัทธ์ ของ
อากาศ
บริเวณที่ตรวจวัด
1. ห้ องปรับอากาศ
ทั่วไป
2. เครื่องทานา้ เย็น
3. เครื่องส่ งลมเย็น
เครื่องมือวัด
อัตราการไหล
1. ระบบท่ อนา้ เย็น
2. ระบบท่ อนา้ หล่ อ
เย็น
3. เครื่องทานา้ เย็น
4. เครื่องส่ งลมเย็น
5. หอผึง่ นา้
ค่ าที่อ่านได้
OC, OF,
% RH
GPM,m3/hr
l/s
การนาไปใช้ ประโยชน์
1. สร้ างกราฟเพือ่ ศึกษาภาระ
การปรับอากาศ
2. ประกอบการคานวณหา
ประสิทธิภาพการทา
ความเย็น
1. ใช้ ประกอบการคานวณ
หาประสิทธิภาพการทา
ความเย็น
2. ใช้ ปรับแต่ งระบบ
3. ใช้ ประกอบการสมดุลย์
พลังงาน
การนาผลการตรวจวัดจากเครือ่ งมือวัดเพือ่ วิเคราะห์การใช้พลังงาน
บริเวณที่ตรวจวัด
เครื่ องมือวัด
ค่าที่อ่านได้
การนาไปใช้ ประโยชน์
เครื่องมือวัด
ความเร็วลม
1. ระบบท่ อลม
2. หอผึง่ นา้
3. เครื่องส่ งลมเย็น
4. หน้ ากากลม
m/s , ft/min
1. ใช้ ประกอบการคานวณ
หาประสิทธิภาพการทา
ความเย็น
2. ใช้ ปรับแต่ งระบบ
3. ใช้ ประกอบการสมดุลย์
พลังงาน
เครื่องมือวัด
ความดันของ
ของไหล
1.
2.
3.
4.
psig ,
bar , ksm
1. ใช้ ประกอบการหา
อัตราการไหล
2. ใช้ แสดงผลและปรับ
แต่ งระบบ
ระบบท่ อนา้
เครื่องทานา้ เย็น
เครื่องส่ งลม
หอผึง่ นา้
การนาผลการตรวจวัดจากเครือ่ งมือวัดเพือ่ วิเคราะห์การใช้พลังงาน
เครื่ องมือวัด
บริเวณที่ตรวจวัด
เครื่องมือวัด
ความดันลม
1. ระบบท่ อลม
2. เครื่องส่ งลม
ค่ าที่อ่านได้
นิว้ ของนา้ ,
มม.ของนา้
1. ใช้ ประกอบการหา
ปริมาณลม
2. ใช้ ปรับแต่ งระบบ
ppm
เพือ่ ใช้ ประกอบการบารุ ง
ไม่ ให้ นา้ เกิดตะกรันใน
เย็น
เครื่องมือตรวจ
วิเคราะห์ นา้ และ
การนาไฟฟ้า
เครื่องมือวัด
ความเป็ นกรด
และด่ างของนา้
การนาไปใช้ ประโยชน์
นา้ หล่อเย็น
ระบบ
pH
นา้ หล่อเย็น
เพือ่ ใช้ ประกอบการ
บารุงรักษา
การนาผลการตรวจวัดจากเครือ่ งมือวัดเพือ่ วิเคราะห์การใช้พลังงาน
เครื่องมือวัด
บริเวณที่ตรวจวัด
ค่ าที่อ่านได้
เครื่องมือวัด
พลังงานไฟฟ้า
ตู้ควบคุมต่ าง ๆ
เครื่องทานา้ เย็น
เครื่องสู บนา้
หอผึง่ นา้
เครื่องส่ งลมเย็น
kW - hr
เครื่องมือวัด
กระแสไฟฟ้า
ตูค้ วบคุมต่าง ๆ
เครื่องทาน้ าเย็น
เครื่องสูบน้ า
หอผึง่ น้ า
เครื่องส่งลมเย็น
Amp
การนาไปใช้ ประโยชน์
1. วิเคราะห์ พลังงาน
2. สมดุลย์ พลังงาน
3. สร้ างกราฟเพือ่ ศึกษา
การใช้ พลังงาน
1.
2.
3.
วิเคราะห์ พลังงาน
สมเดุลย์ พลังงาน
สร้ างกราฟเพือ่ ศึกษา
การใช้ พลังงาน
4. หาความผิดปกติของ
ระบบ
การนาผลการตรวจวัดจากเครือ่ งมือวัดเพือ่ วิเคราะห์
การใช้พลังงาน
เครื่ องมือวัด
บริเวณที่ตรวจวัด
ค่ าที่อ่านได้
การนาไปใช้ ประโยชน์
เครื่องมือวัด
แรงเคลือ่ น
ไฟฟ้า
ตู้ควบคุมต่ าง ๆ
เครื่องทานา้ เย็น
เครื่องสู บนา้
หอผึง่ นา้
เครื่องส่ งลมเย็น
volt
1. วิเคราะห์ พลังงาน
2. สมดุลย์ พลังงาน
3. สร้ างกราฟเพือ่ ศึกษา
การใช้ พลังงาน
เครื่องมือวัด
กาลังไฟฟ้า
ตู้ควบคุมต่ าง ๆ
เครื่องทานา้ เย็น
เครื่องสู บนา้
หอผึง่ นา้
เครื่องส่ งลมเย็น
kW
1. วิเคราะห์ พลังงาน
2. สมดุลย์ พลังงาน
3. สร้ างกราฟเพือ่ ศึกษา
การใช้ พลังงาน
การนาผลการตรวจวัดจากเครือ่ งมือวัดเพือ่ วิเคราะห์การใช้พลังงาน
เครื่ องมือวัด
บริเวณที่ตรวจวัด
ค่ าที่อ่านได้
การนาไปใช้ ประโยชน์
เครื่องมือวัด
ตัวประกอบ
กาลัง
ตู้ควบคุมต่ าง ๆ
เครื่องทานา้ เย็น
เครื่องสู บนา้
หอผึง่ นา้
เครื่องส่ งลมเย็น
%
1. วิเคราะห์ พลังงาน
2. สมดุลย์ พลังงาน
3. สร้ างกราฟเพือ่ ศึกษา
การใช้ พลังงาน
เครื่องมือวัด
ความเร็วรอบ
มอเตอร์
พัดลม
rpm
ปรับแต่ งระบบให้
ถูกต้ อง
เมนู