Transcript ยุคประวัติศาสตร์

ผังความคิด (Mind Mapping)
หน่ วยที่ ๘
บุคคลสาคัญและผลงานในการสร้ างสรรค์
วัฒนธรรมและประวัตศิ าสตร์ ไทย
หน่ วยที่ ๗
ภูมปิ ัญญาไทย
หน่ วยที่ ๖
แนวคิดของพัฒนาการ
ประวัตศิ าสตรไทย
หน่ วยที่ ๑
ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
หน่ วยที่ ๒
วิธีการศึกษาทางประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
หน่วยที่ ๕
ปัญหาความขัดแย้งและความร่ วมมือ
ในการรักษาสันติภาพของโลก
หน่ วยที่ ๓
ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ที่มีผล
ต่ อพัฒนาการของมนุษย์
หน่ วยที่ ๔
อารยธรรมของมนุษยชาติกบั การ
เปลีย่ นแปลงของโลก
ยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์
ความสาคัญของอดีต
ต่อการศึกษาประวัติศาสตร์
ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
หลักเกณฑ์การแบ่ง
ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
มนุษย์ยคุ ก่อน
ประวัติศาสตร์
มนุษย์ยคุ
ประวัติศาสตร์
แบ่งโดยยึดหลักฐาน
ที่เป็ นลายลักษณ์อกั ษร
สมัยหิ นเก่า
สมัยหิ นใหม่
สมัยทองสัมฤทธิ์
อารยธรรม
สมัยโบราณ
อารยธรรม
สมัยใหม่
แบ่งโดยยึดหลักฐาน
ที่ไม่เป็ นลายลักษณ์อกั ษร
อารยธรรม
สมัยกลาง
สมัยเหล็ก
สาระสาคัญ
ยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์ มีความสาคัญต่ อการศึกษาประวัตศิ าสตร์ ของมนุษย์
เป็ นการแบ่ งช่ วงเวลาในอดีตอย่ างเป็ นระบบ ยึดหลักฐานทีเ่ หลือในปัจจุบัน
วิเคราะห์ เหตุการณ์ ต่างๆอย่ างมีเหตุผลความต่ อเนื่อง เปรียบเทียบอดีตถึงปัจจุบัน
ความสาคัญของอดีตต่ อการศึกษาประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ คือ เรื่ องราวประสบการณ์ในอดีตของมนุษย์
เฮโรโดตัส (Herodotus)บิดาแห่ งวิชาประวัติศาสตร์ เป็ นผู้ให้ ความหมายHistory=การถักหรือทอ
ประวัติศาสตร์ เป็ นเรื่ องที่มนุษย์ คิด ทา และเกี่ยวข้องกับมิติของกาลเวลา การสื บสวน
ค้นคว้าเรื่ องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ของมนุษย์จึงต้องมีความเพียรพยายาม ใช้เวลา
เช่นเดียวกับการถักทอผืนผ้า
ปัจจุบัน
เปลีย่ นจากวิธีการนาเหตุการณ์ มาเรียงต่ อกันตามลาดับเวลา มาเป็ นเน้ นกระบวนการจัดระบบ
ข้ อเท็จจริงจากหลักฐานให้ สัมพันธ์ กบั มิติเวลา สถานที่ บุคคล และเหตุการณ์ ต่างๆ ในรู ปแบบทีอ่ ธิบายได้
หลักเกณฑ์ การแบ่ งยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์
1. แบ่ งโดยยึดหลักฐานที่ไม่ เป็ นลายลักษณ์ อกั ษร ยังไม่มีการจดบันทึก แต่มีวฒั นธรรม
เป็ นของตนเอง เช่น เครื่ องมือเครื่ องใช้ เครื่ องประดับ โครงกระดูก เรี ยกสมัยนี้วา่
แบ่งได้เป็ น 2 ยุค คือ ยุคหิน และ ยุคโลหะ
ยุคก่อนประวัติศาสตร์
1. ยุคหิน นาหิ นมาทาเป็ นเครื่ องมือเครื่ องใช้ แบ่งเป็ น
- ยุคหิน
500,000 – 10,000 ปี เป็ นเครื่ องมือหิ นหยาบๆ
- ยุคหินเก่ า 10,000 – 7,000 ปี เครื่ องมือประณี ตขึ้น มีกระดูกสัตว์
เปลือกหอย รู ้จกั ทาภาชนะเครื่ องปั้ นดินเผา
- ยุคหินใหม่ 7,000 – 3,000 พัฒนาขึ้นมีการขัด มีคม ทาลูกศร ใบหอกจาก
กระดูก ใช้เปลือกหอยทาใบมีด ทากระสุ นดินเผา
1.2. ยุคโลหะ รู้จกั นาโลหะทาเครื่ องมือเครื่ องใช้ 5,000 – 1,700 ปี มาแล้ว แบ่งเป็ น
1. ยุคสาริด ใช้วสั ดุผสมระหว่าง ทองแดง กับดีบุก ขวาน หอก กาไล กลองมโหระทึก
2. ยุคเหล็ก รู ้จกั ถลุงเหล็ก มาทาเครื่ องมือเครื่ องใช้ อาวุธ แข็งแกร่ ง ทนทานกว่าสาริ ด
2. แบ่ งโดยยึดหลักฐานที่เป็ นลายลักษณ์ อกั ษร
จารึ กลงบนแผ่นหิ น ดินเหนียว ผ้า กระดาษเรี ยกยุคที่เจริ ญด้านการขีดเขียนตัวอักษรว่า
ยุคประวัตศิ าสตร์
จัดลาดับพัฒนาการได้เป็ น 4 ยุคสมัย
1. สมัยโบราณ ตั้งแต่ สมัยอียปิ ต์เมโสโปเตเมีย ปาเลสไตน์ เปอร์ เชีย อินเดีย จีน กรี กและ
โรมันจนถึงการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันถูกอนารยชนรุ กราน ค.ศ. 476
2. สมัยกลาง ศึกษากลุ่มอนารยชนที่เข้าครอบครองโรมัน นิยมเรี ยกยุคนี้วา่
ยุคมืด
เป็ นยุคหยุดชะงักการเจริ ญทางศิลปะวิทยาการของสมัยโบราณ มาพัฒนาสู่ ความสว่างของ
สมัยกลาง เมื่อชาลมาญ ของออตโตมันเตร์กเข้ามาครอบครอง