557011 การบริหารโครงการซอฟต์แ

Download Report

Transcript 557011 การบริหารโครงการซอฟต์แ

การกาหนดโครงสร ้างและขนาดของระบบข ้อมูล
1.
DATA คือองค์ประกอบของ องค์กรสมัยใหม่ (DATA ARCHITECTURE)
??
2.
การกาหนดโครงสร ้างและขนาดระบบข ้อมูลมาจาก
•
ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบจากกระบวนการของ กระบวนงาน
ื่ มโยงห่วงโซค
่ ณ
(Business Process: BP) ทีม
่ ก
ี ารประสานเชอ
ุ ค่าเพิม
่
(I-P-O Value Chain) ทัง้ จาก Demand & Supply ขององค์กร
สมัยใหม่
โครงสร ้างDATA
Architecture
(DA)
Real Sector:
GOAL,BP,
Data
Virtual Sector:
Application
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
ICT Sector & Standard &
Security
1
การกาหนดโครงสร ้างและขนาดของระบบข ้อมูล ต่อ
3. ประเภทข ้อมูล
•
Structured
•
Unstructured
•
Semi Structured
•
Cohesion of DATA TYPES: Multi Medias
•
Covariance Relationship of DATA
 Hierarchical, Relational / Table,
Network
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
2
การกาหนดโครงสร ้างและขนาดของระบบข ้อมูล ต่อ
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
3
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
4
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
5
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
6
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
7
คาว่า ระบบข ้อมูล
ต ้องมี VALUE CHAIN
Of
SYSTEM APPROACH
&
ENTITY APPROACH
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
8
ตัวประมวลผลสารสนเทศ (Information Processors) ทางานด้ วยหลักตรรก VS. สร้ างห่ วงโซ่ คุณค่ า Value Chain & RBMS ได้ อย่ างไร
ENTITY: สัจธรรม สภาวะธรรมชาติส่ งิ แวดล้ อม ของโลกยุคสารสนเทศ (ระดับสากล World Class)
การบริหารจัดการและการติดตาม ประเมินผลแผนพัฒนาฐานข้ อมูล ตาม Function-Base, Policy-Base, Strategic-Base
ขอบข่ ายกรอบกระบวนงาน ICT การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ Enterprise Architecture / RBMS Boundary
การจัดทา ร่ างแผนงาน ICT / ฐานข้ อมูล / FEED FORWARD
ทบทวน การบรรลุ
คุณภาพ ICT
1. วิสยั ทัศน์
2. พันธกิจ
3.ยุทธศาสตร์ /
วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
4. แผนงาน / โครงการ
กระบวนงาน
จัดการปั จจัย
โครง สร้ าง
พื ้นฐาน
CBIS, TBIS
(RBMS)
(INPUT)
กระบวนการ
การบริหารจัดการ
ICT ที่ดี
(PROCESS)
ผลิต
ผลผลิต
คุณภาพ
เป้าหมายแผนงาน /
โครงการ ICT
1. ผลกระทบ ต่อ นโยบาย
ภายนอก และภายในองค์กรเพื่อ
รับส่ง Value Chain
2.ผลลัพธ์ ต่อเป้าหมายของแต่
ละกระบวนงาน เพื่อประสาน
เชื่อมโยง Value Chain
(OUTPUT)
(Outcome + Impacts)
การทบทวนกากับดูแล ส่ งเสริม สนับสนุน และผลักดัน การบริหารจัดการคุณภาพด้ าน ITC ผ่ าน
กระบวนการ MIS FEED BACK Concept / Data Base
MIS:
Valu
e
Pichai Takkabutr EAU 2005
CHA
IN
Visi
on
IN
P
U
Pro
ces
s
Out
put
Outc
ome
Fee
d
Bac
Feed
Forwar
d
Boun
dary
9
หลักแนวคิด การเข้ าถึงองค์ ความรู้ของมนุษย์ เข้ าถึง MIS / KB
Information World
/ Knowledge Society
Information Processor
(Value Chain8)
Intellectual
Property: IP
Information Processor
(Value Chain7)
Information Processor
(Value Chain6)
Information Processor
(Value Chain5)
Wisdom
K KK
Knowledge
Information Processor
(Value Chain4)
Information Processor
(Value Chain3)
Information
Information Processor
(Value Chain1)
DATA
Information Processor
(Value Chain6)
สัจธรรม อริยะสัจสี่
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
สภาวะสิ่ง
แวด
ล้ อม
ธรรมชาติ
ENTITY
FACT
Entity
10
การกาหนดโครงสร ้างและขนาดของระบบข ้อมูล ต่อ
1. Systems VS. Value Chain
• Environment
• Relationship (Covariance and Value Chain)
• Boundary (Cohesion)
 IMPACTS / Feed Back (FB) :- Vision, Objective +  Outcome :- Corporate Social Responsibility (CSR)
 Output
 Process:- Good Governance
 Input (IQ , EQ) VS. เสพย์ และ รับรู้เรียนรู้
 Feed Forward (FF)
2. INPUT/SUPPLY->Process->OUPUT/DEMAND
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
11
การกาหนดโครงสร ้างและขนาดของระบบข ้อมูล ต่อ
3. ยุคสารสนเทศ(SW) มาจาก ยุค
e-LOGICAL OF ATOMIC
AGE (HW Developed)??
WORLD (Real Sector) ON THE WEB ????
ได้อย่างไร
http://www.word-on-the-web.co.uk/
http://www.antonine-education.co.uk/author.htm
http://www.antonine-education.co.uk/
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
12
การกาหนดโครงสร ้างและขนาดของระบบข ้อมูล ต่อ
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
13
การกาหนดโครงสร ้างและขนาดของระบบข ้อมูล ต่อ
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
14
การกาหนดโครงสร ้างและขนาดของระบบข ้อมูล ต่อ
File Organization/
Architecture
•DW/DB/DM/FILE
Information
Management
•Data Entry/Storage
•Data Control/Security
•Data Retrieval/Search
การบริหารจ ัดการ
ทร ัพยากร
สารสนเทศของ
องค์กรด้วบพจนา
นุกรม
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
•Record/Entity
•Field/Attribute/Data Element
•Byte
•Bits (EBCDIC, ASCII) Binary
•On, Off
•Electricity
•HW Computer Worked
การสร ้างระบบข ้อมูล
องค์กรต ้องมีระบบ
มาตรฐาน
Interoperability
่
Framework เชน
e-GIF
ใช ้ ICT Infrastructure
HW/SW:Computer/
Network
Internal Memory External Memory
Data Structure Data Organization
•queue
• stack
•linked list
•Heap
•ISAM
•DAM
•SAM
•Dictionary
•tree
15
Differences between
the Operational System VS. the Data Warehouse
1.
•
•
•
•
•
Data in Operational System
High volume, detailed
High update frequency
Record oriented, optimized for performance
Current data only
Internal data of one application
2.
Data in a Data Warehouse
•
•
•
•
•
Medium volume, summarized
Low update frequency (daily, weekly)
optimized for queries, accessible for analysis
Past and present data
Used for several application (OLAP, DSS,...)
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
16
DATA ARCHITECTURE
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
17
DATA WAREHOUSE in ORGGANIZATION
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
18
Physical Structure of Data Warehouses
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
19
Component of DW
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
20
Data Extraction & Integration
•Getting heterogenous data into the Warehouse:
Data from different DBMSs (Data base management system),
external information providers, various standard applications,...
Tasks:
•Extraction (accessing different databases)
•Cleaning (resolving inconsistencies)
•Transformation (different formats, languages)
•Replication (importing a whole DB)
•Analyzing (detecting invalid values)
•Checking for data quality (correctness, completeness)
•Update metadata, if necessary
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
21
Data Aggregation & Customization
Getting (multidimensional) data out of the Warehouse as the
input for:
•Reporting (summarized by: who, when, where, what)
•Query tools
•Online analytical processing (OLAP)
•Geographic information systems (GIS)
•Decision support systems (DSS)
•Executive information systems (EIS)
•Data Mining
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
22
Implementation of a Data Warehouse
Several providers (IBM, Oracle, ...) offer Data Warehouse Systems.
But:
•Warehouses are not sold as of-the-shelf products
•Available products often only support part of the functionality of a
warehouse (middleware for information transport, database)
•Implementation of a valuable warehouse is a major project with
major risk factors
•Data Warehouses need constant maintenance to stay usable
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
23
Summary: Data Warehouse
A data warehouse is
•a central repository for
•all or significant parts of the data that an enterprise's various
business systems collect.
It enables the management to
•access the available data in an efficient way,
•learn about trends make informed decisions.
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
24
Summary
•Information technology constantly changes the relationship
between customers and a company.
•Convenience and better service for customers are key factors
for success.
•Intelligent gathering, integration and usage of information
about the customer is vital in order to survive competition.
•Data Warehouses and Data Mining provide the components
for mass customization.
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
25
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
26
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
27
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
28
ADTs typically seen in textbooks and implemented in
programming languages (or their libraries) include:
String
List
Stack
Queue
Priority queue
Complex number
Associative array
Multimap
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
29
ความหมายของโครงสร้างข้อมูล
คาว่า “โครงสร ้างข ้อมูล (Data Structures) เกิดจากคาสองคาคือ “โครงสร ้าง”
ั พันธ์ระหว่างสมาชก
ิ ในกลุม
และ “ข ้อมูล” ซงึ่ คาว่า“โครงสร ้าง” เป็ นความสม
่ ดังนัน
้ โครงสร ้าง
ั พันธ์ระหว่างข ้อมูลทีอ
ข ้อมูล จึงหมายถึงความสม
่ ยูใ่ นโครงสร ้างนัน
้ ๆ สงิ่ พืน
้ ฐานในการ
ึ ษาถึงความสม
ั พันธ์ของ
ประมวลผลข ้อมูลด ้วยคอมพิวเตอร์ก็คอ
ื ข ้อมูล (Data) ดังนัน
้ การศก
ข ้อมูล จึงมีความสาคัญอย่างมากในศาสตร์คอมพิวเตอร์ (Computer Science)
การแทนทีข
่ อ
้ มูลในหน่วยความจา
เป็ นทีท
่ ราบกันแล ้วว่าในขณะประมวลผลด ้วยคอมพิวเตอร์ข ้อมูลถูกเก็บใน
หน่วยความจาหลัก (Memory) ซงึ่ เป็ นสว่ นประกอบสว่ นหนึง่ ของคอมพิวเตอร์ ดังนัน
้ เมือ
่ เรา
้
ต ้องใชโครงสร
้างข ้อมูลและ หน่วยความจาหลัก จึงต ้องมีการแทนทีข
่ ้อมูลในหน่วยความจา
หลักด ้วย ซงึ่ ในภาษาโปรแกรมมิง่ ทีม
่ ใี ชกั้ นอยู่ มีการแทนทีข
่ ้อมูลในหน่วยความจาหลักอยู่ 2
วิธ ี คือ
1. สแตติก (Static Storage Allocated) หรือการจองทีแ
่ น่นอน โครงสร ้างข ้อมูลในภาษา
ี ของวิธก
โปรแกรมมิง่ คือ อาร์เรย์ (Array) ซงึ่ ข ้อเสย
ี ารนีค
้ อ
ื ต ้องกาหนดขนาดของอาร์เรย์กอ
่ น
การคอมไพล์ (Comply)
2. ไดนามิก (Dynamic Storage Allocated) การแทนทีข
่ ้อมูลลักษณะนีม
้ ใี นภาษาโปรแกรม
มิง่ บางภาษาเท่านัน
้ ข ้อดีของการแทนทีข
่ ้อมูลแบบนีค
้ อ
ื ไม่ต ้องกาหนดขนาดของข ้อมูลก่อน
้ อ
การคอมไพล์ สามารถเรียกใชเนื
้ ทีห
่ น่วยความจาได ้ในขณะทางาน (Run Program) ซงึ่ เป็ น
้ อ
การประหยัดเนือ
้ ทีห
่ น่วยความจาเนือ
่ งจากไม่ต ้องจองไว ้มากจนเหลือคือได ้ใชเนื
้ ทีเ่ ท่าที่
ต ้องการใช ้
้ อ
ประเภทของข ้อมูลในการขอใชเนื
้ ทีห
่ น่วยความจาอย่างไดนามิกนีค
้ อ
ื พอยน์เตอร์ (Pointer)
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
30
ในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ โครงสร้างข้อมูลเป็ นวิธก
ี ารจัดเก็บข ้อมูลในคอมพิวเตอร์เพือ
่ ให ้
้
ิ ธิภาพ บ่อยครัง้ ทีก
สามารถใชงานได
้อย่างมีประสท
่ ารเลือกโครงสร ้างข ้อมูลทีเ่ หมาะสมจะทาให ้
ิ ธิภาพไปพร ้อมกันได ้ การเลือกโครงสร ้างข ้อมูลนัน
เราสามารถเลือกใชอั้ ลกอริทม
ึ ทีม
่ ป
ี ระสท
้ โดย
สว่ นใหญ่แล ้วจะเริม
่ ต ้นจากการเลือกโครงสร ้างข ้อมูลนามธรรม โครงสร ้างข ้อมูลทีอ
่ อกแบบเป็ น
้ พยากรทีน
อย่างดีจะสามารถรองรับการประมวลผลทีห
่ นั กหน่วงโดยใชทรั
่ ้อยทีส
่ ด
ุ เท่าทีจ
่ ะเป็ นไป
ได ้ ทัง้ ในแง่ของเวลาและหน่วยความจา
โครงสร ้างข ้อมูลแต่ละแบบจะเหมาะสมกับงานทีแ
่ ตกต่างกัน และโครงสร ้างข ้อมูลบางแบบก็
่ ต ้นไม ้แบบบีจะเหมาะสาหรับระบบงานฐานข ้อมูล
ออกแบบมาสาหรับบางงานโดยเฉพาะ อย่างเชน
ในกระบวนการออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การเลือกโครงสร ้างข ้อมูลเป็ นสงิ่ สาคัญอันดับแรก
ทีต
่ ้องคานึงถึง ซงึ่ จากการพัฒนาระบบงานใหญ่ๆได ้แสดงให ้เห็นว่า ความยากในการพัฒนาและ
ิ ธิภาพของระบบจะขึน
้ างมาก หลังจากตัดสน
ิ ใจเลือก
ประสท
้ อยูก
่ บ
ั โครงสร ้างข ้อมูลทีเ่ ลือกใชอย่
้ ้วก็มักจะทราบถึงอัลกอริทม
้ ้ทันที แต่ในบางครัง้ ก็อาจจะ
โครงสร ้างข ้อมูลทีจ
่ ะใชแล
ึ ทีต
่ ้องใชได
้
กลับกัน คือ การประมวลผลทีส
่ าคัญๆของโปรแกรมได ้มีการใชอั้ ลกอริทม
ึ ทีต
่ ้องใชโครงสร
้าง
ิ ธิภาพ ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่วา่ จะเลือก
ข ้อมูลบางแบบโดยเฉพาะ จึงจะทางานได ้เต็มประสท
โครงสร ้างข ้อมูลด ้วยวิธก
ี ารใด โครงสร ้างข ้อมูลทีเ่ หมาะสมก็เป็ นสงิ่ ทีส
่ าคัญมากอยูด
่ ี
แนวความคิดในเรือ
่ งโครงสร ้างข ้อมูลนีส
้ ง่ ผล กับการพัฒนาวิธก
ี ารมาตรฐานต่างๆในการออกแบบ
และเขียนโปรแกรม หลายภาษาโปรแกรมนั น
้ ได ้พัฒนารวมเอาโครงสร ้างข ้อมูลนีไ้ ว ้เป็ นสว่ นหนึง่
้ ้า
ของระบบโปรแกรม เพือ
่ ประโยชน์ในการใชซ
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
31
้ ฐาน
โครงสร้างข้อมูลพืน
้ application หลายอย่าง การมีความรู ้และ
Array, Linked List, Stack และ Queue เป็ นอัลกอริทม
ึ เบือ
้ งต ้นทีส
่ ด
ุ ทีใ่ ชใน
เข ้าใจในโครงสร ้างข ้อมูลเหล่านีจ
้ งึ มี ความสาคัญเป็ นอย่างยิง่
Array
Array หรือ Table เป็ นข ้อมูลชุด ประกอบด ้วยข ้อมูลหลาย ๆ ตัวทีเ่ ป็ นชนิดเดียวกัน ซงึ่ ข ้อมูลแต่ละตัวสามารถอ ้างถึงได ้
ื่ ของ Array นัน
โดยผ่านทางเลขดรรชนียข
์ องข ้อมูลนัน
้ ๆ การ นิยาม Array ขึน
้ มาตัวหนึง่ เราจะต ้องนิยามชอ
้ ตามด ้วย
จานวนของข ้อมูล ใน Array นัน
้ และ ชนิดของ Array นั น
้ ซงึ่ การนิยาม Array ขึน
้ มานีจ
้ ะแตกต่างกันไป ในแต่ละภาษา
Linked List
ื่ มต่อไปยัง Node ถัดไป
Linked List เป็ นข ้อมูลทีเ่ รียงกันเป็ นชุด โดยข ้อมูลแต่ละตัวเรียกว่า Node ซงึ่ แต่ละ Node เชอ
ข ้อมูลตัวแรกใน Linked List จะถูกชโี้ ดยตัวแปรชนิด Pointer ซงึ่ มักจะเรียกว่า Head Pointer สว่ นข ้อมูลตัวสุดท ้ายใน
Links List มีสว่ นของข ้อมูล ทีช
่ ไี้ ปที่ Null ซงึ่ เป็ นค่าทีบ
่ อกว่าข ้อมูลนัน
้ เป็ นข ้อมูลตัวสุดท ้าย ข ้อมูลแต่ละตัวใน Linked
List จะปรอบกอบด ้วยสว่ นของข ้อมูลและสว่ นชองตัวช ี้ (ข ้อมูลชนิด Pointer) สาหรับชไี้ ปยังข ้อมูล ตัวถัดไป (มีคา่ เป็ น
Null ในข ้อมูลตัวสุดท ้าย)
Stack
Stack เป็ นโครงสร ้างข ้อมูลทีส
่ ามารถนิยามขึน
้ โดย Array หรือ Linked List การเพิม
่ ข ้อมูลตัวใหม่เข ้าไปใน Stack
เรียกว่า Push สว่ นการลบข ้อมูลออกไปเรียกว่า Pop ข ้อมูลแต่ละตัวเพิม
่ เข ้าและเอาออกมาทางท ้ายของ Stack ลักษณะ
ื ลงในลัง ซงึ่ หนั งสอ
ื เล่มทีเ่ ก็บเข ้าไปหลังสุดจะถูกนาขึน
ของ Stack จะคล ้าย กับการเก็บหนังสอ
้ มาเป็ นเล่มแรก ขัน
้ ตอนการ
เก็บข ้อมูลแบบนีเ้ รียกว่า LIFO (Last In First Out)
Queue
Queue มีลักษณะคล ้าย Stack มีการกระทาพืน
้ ฐานกับ Stack คือ การนาข ้อมูลเข ้า เรียกว่า Enqueue และ การนาข ้อมูล
ออกมาเรียกว่า Dequeue คิวจะยอมให ้คุณ เก็บข ้อมูลเข ้าทางตอนท ้ายของ Queue และนาข ้อมูลออกมาทางตอนต ้นของ
ื้ ของ ข ้อมูลทีถ
Queue ลักษณะของ Queue คล ้ายกับการเข ้าแถวซอ
่ ก
ู นาเข ้าไปตัวแรกจะถูก เอาออกมาเป็ นตัวแรก เรา
เรียกขัน
้ ตอนแบบนีว้ า่ เป็ นแบบ FIFO (First In First Out)
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
32
อ ัลกอริทม
ึ (algorithm) หมายถึงขัน
้ ตอนวิธ ี ทีส
่ ามารถเข ้าใจได ้และมีความยาว
จากัดบอกถึง ลาดับ หรือวิธก
ี ารในการแก ้ไขปั ญหาใดปั ญหาหนึง่ อย่างเป็ นขัน
้
ั เจน ว่าทาอย่างไร เมือ
่ ไร ซงึ่
เป็ นตอนและชด
่ นาเข ้าอะไร แล ้วจะได ้ผลลัพธ์เชน
ึ ษาสานึก หรือฮวิ ริสติก (heuristic)
แตกต่างจากการแก ้ปั ญหาแบบศก
โดยทั่วไป อัลกอริทม
ึ จะประกอบด ้วย วิธก
ี ารเป็ นขัน
้ ๆ และมีสว่ นทีต
่ ้องทาแบบ
้
วนซ้า(iterate) หรือ เวียนเกิด(recursive) โดยใชตรรกะ
(logic) และ/หรือ ใน
ิ้ การทางาน
การเปรียบเทียบ (comparison) ในขัน
้ ตอนต่างๆ จนกระทั่งเสร็จสน
ในการทางานอย่างเดียวกัน เราอาจจะเลือกอัลกอริทม
ึ ทีต
่ า่ งกันเพือ
่ แก ้ปั ญหาได ้
โดยทีผ
่ ลลัพธ์ทไี่ ด ้ในขัน
้ สุดท ้ายจะออกมาเหมือนกันหรือไม่ก็ได ้ และจะมีความ
แตกต่าง ทีจ
่ านวนและชุดคาสงั่ ทีใ่ ชต่้ างกันซงึ่ สง่ ผลให ้ เวลา (time), และขนาด
ั ซอน
้
หน่วยความจา(space)ทีต
่ ้องการต่างกัน หรือเรียกได ้อีกอย่างว่ามีความซบ
(complexity) ต่างกัน
การนาอัลกอริทม
ึ ไปใช ้ ไม่จากัดเฉพาะการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่
่ การออกแบบวงจรไฟฟ้ า, การทางาน
สามารถใชกั้ บปั ญหาอืน
่ ๆ ได ้เชน
่ วิธข
เครือ
่ งจักรกล, หรือแม ้กระทั่งปั ญหาในธรรมชาติ เชน
ี องสมองมนุษย์ในการ
คิดเลข หรือวิธก
ี ารขนอาหารของแมลง
MIS: Pichai Takkabutr EAU 2005
33