Transcript C2=702351

บทที่ 2 ประเภทของสินเชื่อ
 สินเชื่อภาครัฐบาล (public
 สินเชื่อภาคเอกชน ( private
credit)
 ภายในประเทศ
credit)
 สินเชือ่ เพือ่ การบริโภค
(Consumer credit)
 สินเชือ่ เพือ่ ธุรกิจ (Business
credit)
 สินเชือ่ เพือ่ การเกษตร
(Agriculture credit)
 ออกตั ๋วเงินคลัง (Treasury
bills) (ระยะสัน้ 3-6 เดือน)
 ออกพันธบัตรรัฐบาล
(government bond)
 ภายนอกประเทศ
 กูย้ มื เงินจากต่างประเทศ เช่น IMF,
ADB
 ออกพันธบัตรในต่างประเทศ
แหล่งที่มาของสินเชื่อภาคเอกชน
 ธนาคารพาณิชย์
 สานักงานวิเทศธนกิจ (Bangkok
International Banking
Facilities: BIBFs)
 การรับฝากและให้กยู้ มื เงินตรา
ต่างประเทศ, ให้บริการสนับสนุนการ
นาเข้าและส่งออก
 บริษทั เงินทุน
 จัดหาเงินทุนด้วยการออกตั ๋วสัญญาใช้
เงิน(ระยะสัน้ และปานกลาง)ให้กเู้ งิน
จากประชาชนทีต่ อ้ งการลงทุน เพือ่
นาไปให้กยู้ มื แก่ธุรกิจ หรือประชาชน
 บริษทั เครดิตฟองซิเอร์
 ธุรกิจให้กเู้ งินเพือ่ ซือ้ ทีด่ น
ิ หรือสร้าง
บ้านแบบผ่อนส่ง
 การระดมทุนใช้ทุนของตัวเองและ
ระดมทุนจากประชาชนในระยะยาว ไม่
ต่ากว่า 3 ปี
 สถาบันการเงินของรัฐทีม่ วี ตั ถุประสงค์
เฉพาะ
 ธกส ธอส ธ.ออมสิน ธ. SME
EXIM bank ธ.อิสลาม บสย.
สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ออมทรัพย์
แหล่งที่มาของสินเชื่อภาคเอกชน
 โรงรับจานา (Pawnshops)
 โรงจานา
 สถานธนานุ เคราะห์
 สถานธนานุ บาล
 แหล่งสินเชือ่ อื่น
 สินเชือ่ แบบเปิ ดบัญชี ระหว่างธุรกิจด้วยกันเอง
 สินเชือ่ แบบผ่อนส่ง เช่นร้านค้าให้ลกู ค้าผ่อนชาระเป็ นงวดๆ ส่วนใหญ่เป็ นสินค้า
อุปโภคบริโภคทีค่ งทน ถ้าผิดสัญญา ก็มอี านาจยึดได้
 บัตรเครดิต
สินเชื่อเพื่อธุรกิจ
 สินเชือ่ การพาณิชย์ (commercial credit)
 การขายบัญชีลกู หนี้ (Factoring)
 สินเชือ่ เพือ่ การลงทุน (Investment credit)
 สินเชือ่ อสังหาริมทรัพย์ (Real estate credit)
 สินเชือ่ เพือ่ การนาเข้าและส่งออก (Import export credit)
 Factoring
 ลูกหนี้ ถือเป็ นสินทรัพย์ของกิจการอันจะ
สินเชื่อทีพ่ อ่ ค้าขอไปใช้ในการดาเนินธุรกิจ
นามาซึง่ เงินสดในอนาคต
ผลิตหรือซือ้ มาขายไป
 หากกิจการอยากได้เงินสดเร็วขึน้ ก็สามารถ
 เช่นซือ้ วัตถุดบ
ิ มาผลิตสินค้า
นาบัญชีลกู หนี้การค้า ไปขายลด ให้กบั
บริษทั รับซือ้ บัญชีลกู หนี้ (Factor)
 ซือ้ สินค้า มาจัดจาหน่าย
 มีทงั ้ แบบไล่เบีย้ ได้ และไล่เบีย้ ไม่ได้
 ระยะสัน้ ถึงปานกลาง (ไม่เกิน 5 ปี )
 ต้องมีเอกสารหลักฐานสมบูรณ์จงึ จะขายได้
 สินเชื่อเพื่อการลงทุน
เช่น
 ใบรับของ สัญญาซือ้ ขาย ใบวางบิล เป็ นต้น
 เป็ นสินเชื่อระยะยาว (> 5 ปี )
 ลงทุนใน FA eg ทีด่ นิ อาคาร โรงงาน  เป็ นวิธกี ารทีม่ คี า่ ใช้จา่ ยสูง เนื่องจาก
บ.Factor ต้องรับความเสีย่ งสูง เช่น
เครือ่ งจักร
บัญชีลกู หนี้ 10 ล้านบาท อาจขายได้ 6 ล้าน
 มูลค่าสูง และมักระบุให้มห
ี ลักประกัน
(แล้วแต่ระยะเวลา และความเสีย่ งของการ
เก็บหนี้)
 ส่วนใหญ่ผกู้ ตู้ อ้ งจัดทาแผนธุรกิจ เพือ่
 สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์
แสดงถึงความสามารถในการชาระหนี้
 Ex. กิจการได้โอนกรรมสิทธ์ ิ ในบัญชีลกู หนี้ 10000 บาทให้บ.Factor โดยบ.
คิดค่าธรรมเนี ยม 2% ของยอดลูกหนี้ เท่ากับ 200 บาท ดังนัน้ factor จะตัง้
ยอดรับซื้อบัญชีลกู หนี้ ไว้ ที่ 9800 บาท โดยตามเอกสารตกลงกันว่าลูกหนี้ จะ
ครบกาหนดชาระหนี้ ภายใน 1 เดือน โดยคิดส่วนลด ร้อยละ 1 ต่อเดือน ดังนัน้
ถูกคิดส่วนลด(ดอกเบีย้ จ่าย) 98 บาทโดยหักไว้ล่วงหน้ า ดังนัน้ สรุปจากการขาย
บัญชีลกู หนี้ 10000 บาท กิจการจะได้รบั เงินสุทธิเท่ากับ 9702 บาท และเสีย
ค่าใช้จ่ายรวม 298 บาท ซึ่งก็คือต้นทุนจากการที่กิจการได้รบั เงินเร็วขึน้ 1 เดือน
 หากคิดเป็ น Effective rate เท่ากับมีต้นทุนเท่าใดต่อปี
สินเชื่อเพื่ออสังหาริมทรั พย์ (Real estate credit)
 สินเชื่อเพือ่ การซือ้ ทีอ่ ยูอ่ าศัย
(Residential Mortgage
Credit)
 สินเชือ่ เพือ่ โครงการพัฒนา
อสังหาริมทรัพย์ (Commercial
Real Estate Credit)
 การให้กรู้ ายย่อยแก่ประชาชน ระยะเวลา
 เช่นกูท
้ าหมูบ่ า้ นจัดสรร
มากกว่า 10 ปีขน้ึ ไป
 ส่วนใหญ่ผกู้ จู้ ะต้องใช้ทด่ี นิ หรืออาคารนัน้ เป็ น
หลักประกันการกู้ ต้องวางเงินดาวน์ (20%)
ex. สมศักดิ ์ซือ้ บ้าน 1 ล้าน ผ่อน 20 ปี
 ต้องผ่านการจดจานอง ผูก้ ม
ู้ สี ทิ ธิ ์ในการเข้าอยู่
อาศัย หรือใช้ประโยชน์จากหลักประกัน
 ชือ่ เจ้าของหลักประกันยังเป็ นของสถาบัน
การเงินผูใ้ ห้กู้ และจะโอนไปเป็ นชือ่ ของผูก้ ู้ เมือ่
ชาระหนี้ครบถ้วน
คอนโดมิเนียม
 รูปแบบของจ่ายเงินกู้ มักจะขึน้ กับ
สัดส่วนของการก่อสร้างทีแ่ ล้วเสร็จ
 ส่วนใหญ่ใช้ตวั ทีด่ นิ เป็ นหลักประกัน
การกู้
 ทางบริษท
ั ผูก้ จู้ ะทยอยชาระหนี้ โดยอิง
กับกระแสเงินสดทีไ่ ด้จากการขาย
บริ การสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
 1. เงินเบิกเกินบัญชี (Over





Draft: O/D)
ใช้เป็ นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ
สังจ่
่ ายจากบัญชีกระแสรายวันของลูกค้า
สะดวกจะสังจ่
่ ายและชาระคืนเมือ่ ใดก็ได้
คิดดอกเบีย้ เป็ นรายวันจากวันทีส่ งจ่
ั ่ าย
ถึงวันทีช่ าระเงิน
ต้องมีหลักประกัน อัตราดอกเบีย้ สูง
 2. เงินกู้ (Loan)
 ระยะสัน้ ไม่เกิน 1 ปี (Call loan)ระยะ
ยาวเกิน 1 ปี (Fixed Loan)
 อาจชาระคืนครัง้ เดียว หรือผ่อนเป็ นงวดๆ
 เงินกูส้ าหรับโครงการขนาดใหญ่ อาจ
ร่วมกันให้กโู้ ดยหลายธนาคาร
(Syndicate Loan)
บริ การสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
 3. รับซือ้ ลดตั ๋วเงิน (Bills
Discount)
 ตั ๋วเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์ได้แก่
 ตั ๋วแลกเงิน (Bill of
Exchange: B/E)
 ตั ๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory
Note: P/N)
 เช็ค (Cheque / check)
 ธนาคารได้ “ส่วนลด”
 ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน
 ผูข้ ายลด ต้องสัญญาว่าจะจ่ายคืน ถ้า
ธนาคารเรียกเก็บเงินตามตั ๋วไม่ได้
ตั๋วแลกเงิน มีลกั ษณะสาคัญดังนี ้
 มาตรา 908: ตั ๋วแลกเงิน คือหนังสือตราสาร ซึ่งบุคคลคนหนึ่ งเรียกว่าผูส้ งจ่
ั ่ ายสัง่
บุคคลอีกคนหนึ่ ง เรียกว่าผูจ้ ่ายให้ใช้เงินจานวนหนึ่ งแก่บคุ คลคนหนึ่ ง หรือให้ใช้
ตามคาสังของบุ
่
คคลคนหนึ่ ง ซึ่งเรียกว่าผูร้ บั เงิน
 ผูส้ งจ่
ั ่ าย (Drawer) อยูใ่ นฐานะเป็ นเจ้าหนี้ของผูจ้ า่ ย (ผูข้ าย)
 ผูจ้ า่ ย (Drawee) อยูใ่ นฐานะเป็ นลูกหนี้ของผูส้ งจ่
ั ่ าย (ผูซ้ อ้ื )
 ผูร้ บั เงิน (Payee) อยูใ่ นฐานะเป็ นเจ้าหนี้ของผูส้ งจ่
ั ่ าย (เจ้าหนี้ของผูข้ าย)
 ใครเป็ นผูอ้ อกตั ๋วแลกเงิน ?
 คาตอบ... ผูข้ ายออกให้ผซู้ อ้ื รับรอง
ตั๋วสัญญาใช้ เงิน มีลกั ษณะสาคัญดังนี ้
 มาตรา 982 ตั ๋วสัญญาใช้เงิน คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ ง เรียกว่าผูอ้ อก
ตั ๋ว ให้คามันสั
่ ญญาว่าจะใช้เงินจานวนหนึ่ งให้แก่บคุ คลอีกคนหนึ่ ง หรือใช้ให้
ตามคาสังของบุ
่
คคลอีกคนหนึ่ งเรียกว่าผูร้ บั เงิน
 ผูอ้ อกตั ๋ว (Maker) อยูใ่ นฐานะเป็ นลูกหนี้ผรู้ บั เงิน (ผูซ้ อ้ื )
 ผูร้ บั เงิน (Payee) อยูใ่ นฐานะเป็ นเจ้าหนี้ผอู้ อกตั ๋ว (ผูข้ าย)
 ตั ๋วสัญญาใช้เงินจึงไม่มผี จู้ า่ ยเนื่องจากผูอ้ อกตั ๋วนัน้ เองเป็นผูจ้ า่ ย
เช็ค มีลกั ษณะสาคัญดังนี ้
 มาตรา 987 เช็ค คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ งเรียกว่าผูส้ งจ่
ั ่ ายสังธนาคาร
่
ให้ใช้เงินจานวนหนึ่ งเมื่อทวงถามให้แก่บคุ คลอีกคนหนึ่ งหรือให้ใช้ตามคาสัง่
ของบุคคลอีกคนหนึ่ งอันเรียกว่าผูร้ บั เงิน
 ผูส้ งจ่
ั ่ าย (Drawer) (ผูซ้ อ้ื ) นาเงินมาฝากไว้กบั ธนาคารประเภทกระแสรายวัน หรือ
ขอสินเชือ่ ประเภท OD เพือ่ ทีจ่ ะใช้เช็คสังจ่
่ ายเงินให้แก่ผรู้ บั เงินหรือผูถ้ อื
 ธนาคารผูจ้ า่ ยเงิน (Banker) มีหน้าทีจ่ า่ ยเงินให้ตามทีร่ ะบุในเช็ค ซึง่ ลูกค้าธนาคาร
เป็ นผูส้ งจ่
ั ่ าย
 ผูร้ บั เงิน (Payee) หรือผูถ้ อื (Bearer) อยูใ่ นฐานะเป็ นเจ้าหนี้ (ผูข้ าย) ของผูส้ งั ่
จ่ายตามมูลหนี้เดิม
บริ การสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
 4. หนังสือคา้ ประกัน (Letter of Guarantee / Bank
Guarantee)
 ออกโดยธนาคารเป็ นการประกันว่าลูกค้าจะปฏิบตั ติ ามสัญญา เช่น การยืน
่
ประกวดราคา ประมูลงาน เงินประกันผลงาน
 เช่น การไปขอเครดิตร้านค้า ร้านค้ามักจะขอให้ออก B/G ให้ผขู้ ายมีความ
มันใจ
่ หากผูซ้ อ้ื ไม่สามารถชาระหนี้ได้ ธนาคารจะเป็ นผูช้ าระแทน แต่กจิ การ
จะต้องเสียค่าธรรมเนียม ในการขอเปิด B/G
EX. หนังสือคา้ ประกันกสิกรไทย
 เป็ นบริการออกหนังสือคา้ ประกันให้แก่
ลูกค้า เพื่อเป็ นหลักประกันการปฏิบตั ิ ตาม  กิจการของผูข้ อเครดิต ควรมีกาไร
สัญญา หรือภาระผูกพันต่างๆที่ลกู ค้ามีต่อ ก่อนหักภาษี (ไม่รวมรายการพิเศษ) 2
ผูร้ บั หนังสือคา้ ประกัน
ใน 3 ปี ล่าสุดเป็ นบวก
 ลูกค้าสามารถนาหนังสือคา้ ประกันของ
ธนาคารไปวางเป็ นหลักประกันแทน
หลักทรัพย์อื่นๆ เช่น เงินสด โฉนด หรือ  ค่าธรรมเนี ยมหนังสือคา้ ประกัน ร้อย
ละ 2.00 - 2.50 ต่อปี ระยะเวลาอย่าง
พันธบัตร เป็ นต้น
น้ อย 3 เดือน ขัน้ ตา่ ฉบับละ 500 บาท
 หากลูกค้าผิดสัญญา ผูร้ บั หนังสือคา้
ประกันสามารถเรียกร้องให้ธนาคารชาระ
หนี้ แทน ซึ่งธนาคารในฐานะผูค้ า้ ประกัน
จะต้องชดใช้หนี้ แทนลูกค้าทันทีที่ผรู้ บั
หนังสือคา้ ประกันเรียกร้อง และติดตาม
เรียกเงินคืนจากลูกค้าในภายหลัง
5. การรับรองและการอาวัลตัว๋ เงิน
(Acceptance Bills/Avalled)
 ธนาคารรับรองว่าจะจ่ายเงินตามตั ๋วหากผูส้ งจ่
ั ่ ายไม่สามารถ
ชาระได้
 เกิดขึน้ ในกรณีทผ่ี ขู้ ายไม่มนใจว่
ั ่ าผูซ้ อ้ื ทีอ่ อกตั ๋วเงินให้จะ
สามารถชาระคืนเงินได้ตามทีร่ ะบุไว้ จึงเรียกร้องให้ผซู้ อ้ื นาตั ๋ว
เงินไปให้ธนาคารรับรอง
 ตั ๋วแลกเงิน ตั ๋วสัญญาใช้เงิน เช็ค
สินเชื่อเพื่อการนาเข้ าและส่งออก
 สินเชื่อเพือ่ การนาเข้า
 Letter of credit (L/C)
 ผูข้ อเปิด LC ทาได้2 วิธี
 เป็ นเสมือนคารับรองว่า ผูข
้ ายสินค้าจะได้รบั
 ขอกู้ TR กับธนาคาร
ชาระหนี้แน่นอน จากธนาคารตัวแทนของผูซ้ อ้ื
(เสียดอกเบีย้ +ค่าธรรมเนียม)
สินค้าผ่านไปทางธนาคารของผูข้ ายสินค้า
 ไม่ขอกูแ้ ต่ฝากเงินเข้าบัญชี
 มี 2 ประเภท ได้แก่
ธนาคารเพือ่ ทาการจ่ายเงินแทนผู้
ซือ้
(เสียแต่คา่ ธรรมเนียม)
 เพิกถอนได้ Revocable L/C
ผูซ้ อ้ื หรือธนาคารผูซ้ อ้ื สามารถแจ้งยกเลิกได้
 เพิกถอนไม่ได้ Irrevocable L/C
ผูซ้ อ้ื หรือธนาคารไม่สามารถยกเลิกการจ่ายเงินได้
วงจร LC ในการสั่งสินค้ านาเข้ า
Importer
ธนาคารผูอ้ อก LC
Exporter
ธนาคารผูแ้ จ้งเครดิต
เงือ่ นไขการจ่ายเงิน 1. จ่ายทันทีเมือ่ ส่งของ 2. จ่ายเมือ่ ของมาถึง (มีระยะเวลาเครดิต)
สินเชื่อเพื่อการนาเข้ าโดยใช้ Trust Receipt
 ผูซ้ อ้ื ทีเ่ ปิ ดLC กับธนาคาร สามารถขอทา TR ได้ คือ การขอนา
สินค้าออกไปผลิตและจัดจาหน่ายก่อน จากนัน้ จึงนาเงินไปชาระหนี้
ให้ธนาคารระยะเวลา 30-120 วัน
 กรรมสิทธิ ์ในตัวสินค้าเป็ นของธนาคาร ลูกค้าครอบครองสินค้าเพือ่
จาหน่ายเท่านัน้
สินเชื่อเพื่อการส่งออก
 Packing Credit (P/C)  การรับซื้อตั ๋วเงินที่เกิดจากการ
ส่งออก
 สินเชื่อระยะสัน้ ให้แก่ผส
้ ู ่งออก
เพื่อจัดหาสินค้าส่งออกให้กบั ผู้
 เมื่อผูข
้ ายส่งสินค้าตาม
ซื้อในต่างประเทศ
เงื่อนไขของ L/C แล้ว ผูข้ าย
จะได้รบั ตั ๋วแลกเงินที่จะต้อง
 จะต้องมี L/C ที่ลก
ู ค้าจาก
ต่างประเทศเปิดมาให้
 หรือมีใบสังซื
่ ้อสินค้าจาก
ต่างประเทศ
รอการเรียกเก็บ ถ้าผูข้ าย
ต้องการเงินทันที ก็สามารถนา
ตั ๋วแลกเงินไปขายลดให้
ธนาคารได้
สรุปกรณีศกึ ษา สินเชื่อธุรกิจ
 นาย เคน ต้องการจัดตัง้ บริษทั




Import-export ผลติเครือ่ ง
หนังเพื่อการส่งออก จะเกี่ยวข้องกับ
สินเชื่ออะไรบ้าง
เงินลงทุนซื้อที่ดิน ก่อสร้างโรงงาน
ซื้อเครื่องจักร (เงินลงทุนระยะยาว
ควรจัดหามาจาก .....
เงินกู้ระยะยาว + ส่วนของเจ้าของ)
จัดหาวัตถุดิบ ควรใช้ =>….
เงินกู้ระยะสัน้ หรือ OD
 หากต้องนาเข้าหนังแกะมาผลิต =>




LC
เมื่อวัตถุดิบมาถึง บ.ต้องการนา
วัตถุดิบมาผลิตเพื่อจาหน่ ายก่อน
=> TR
เมื่อได้รบั คาสังซื
่ ้อสินค้าจากลูกค้า
ต่างประเทศ => PC
เมื่อขายสินค้าได้รบั ตั ๋วแลกเงินมา
ยังไม่ครบกาหนด => ขายลดเพื่อ
ขอรับเงินทันที
หากมีลกู หนี้ การค้าเยอะ =>
Factoring
สินเชื่อเพื่อการบริ โภค (Consumer Credit)
 สินเชือ่ เพือ่ การค้าปลีก Retail
Credit)
 3. สินเชือ่ ผ่อนชาระ
(Installment Credit)
 1. สินเชือ่ โดยเปิ ดบัญชี (Open
 รถยนต์ เครือ่ งใช้ไฟฟ้า
account credit/ Charge
account credit)
 2. สินเชือ่ แบบบัญชีหมุนเวียน
(Revolving Credit)
 มีการชาระเงินดาวน์

จะมีการกาหนดวงเงิน ให้ลกู ค้าสามารถซือ้
เชือ่ และทยอยผ่อนชาระหนี้ได้
 ส่วนทีเ่ หลือผ่อนชาระเป็ นงวดๆละ
เท่าๆกัน โดยคิดดอกเบีย้ จาก
ยอดเงินต้นเต็มตลอดระยะเวลา
การผ่อน
 ยกเว้น อสังหาริมทรัพย์ ทีจ่ ะมีการ
คานวณโดยลดยอดเงินต้นทุกครัง้ ที่
จ่ายเงินงวด
ตย.การผ่อนชาระอสังหาริ มทรัพย์ (คิดดอกเบี ้ยแบบ
ลดต้ นลดดอก : Effective rate)
 นาย สมศักด์ ิ ตกลงซื้อคอนโด ราคา 1 ล้าน มีเงินดาวน์ 20 % โดยทา
สัญญากู้เงินจากธนาคาร 800,000 บาท ธนาคารคิดดอกเบีย้ 10%
ต่อปี โดยมีระยะเวลาผ่อนชาระ 20 ปี ชาระเป็ นรายปี นายสมศักด์ ิ
ต้องผ่อนชาระปี ละเท่าใด
 หากไม่อยากเสียดอกเบีย้ ให้ธนาคารเยอะต้องทาไง ?
 ข้อควรระวัง หากท่านชาระหนี้ เร็วเกินกาหนด อาจถูกคิดค่าปรับ
Penalty fee
ปี
0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เงิ นงวด/ปี
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
93,967
1,879,340
เงิ นต้น
13,967.00
15,363.70
16,900.07
18,590.08
20,449.08
22,493.99
24,743.39
27,217.73
29,939.50
32,933.46
36,226.80
39,849.48
43,834.43
48,217.87
53,039.66
58,343.63
64,177.99
70,595.79
77,655.37
85,420.90
799,960
ดอกเบีย้
80,000.00
78,603.30
77,066.93
75,376.92
73,517.92
71,473.01
69,223.61
66,749.27
64,027.50
61,033.54
57,740.20
54,117.52
50,132.57
45,749.13
40,927.34
35,623.37
29,789.01
23,371.21
16,311.63
8,546.10
1,079,380
เงิ นต้นคงเหลือ
800,000.00
786,033.00
770,669.30
753,769.23
735,179.15
714,730.07
692,236.08
667,492.68
640,274.95
610,335.45
577,401.99
541,175.19
501,325.71
457,491.28
409,273.41
356,233.75
297,890.12
233,712.14
163,116.35
85,460.98
40.08
ตย.การคานวณดอกเบี ้ยที่แท้ จริ ง กรณีคิดดอกเบี ้ยแบบ
Flat rate
 ซือ้ รถยนต์ ราคา 600,000 บาท เงิน





ดาวน์ 20% ทีเ่ หลือผ่อนชาระดอกเบีย้
10 % เป็ นระยะเวลา 3 ปี สมมติผอ่ นปี
ละครัง้
เงินดาวน์ 120,000
เงินต้น 480,000
ดอกเบีย้ 480,000*.10*3 = 144000
เงินค่างวด = 208,000 (624,000/3)
ถามว่าอัตราดอกเบีย้ ทีแ่ ท้จริงเท่าไหร่
 การคิดเงินงวดแบบง่าย (Flat
rate) ไม่ได้มกี ารคานึงถึงว่าเงินงวด
จะไปลดเงินต้นเท่าไหร่
 ถ้าคิดตามหลักมูลค่าเงินตามเวลา
+480000
-208000
-208000
IRR = 14.4%
-208000
 สินเชื่อส่วนบุคคล (personal
Loan)
 ตอบสนองความต้องการของผูบ้ ริโภค
เพือ่ ให้สามารถได้สนิ ค้ามาใช้ แล้วผ่อน
ชาระภายหลัง
 หัวใจสาคัญ คือ การใช้จ่ายให้
เหมาะสมกับความสามารถในการ
ชาระหนี้
 บัตรเครดิต
 สินเชือ่ เงินสด
 สินเชือ่ ผ่อนชาระสินค้า (non-
bank)
 สินเชื่อเพื่อการเกษตร
 ให้กแู้ ก่เกษตรกรเพือ่ ไปลงทุน เช่น ซือ้
เมล็ดพันธ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง รถไถ และ
เครือ่ งจักร อุปกรณ์การเกษตรต่างๆ
 มีทงั ้ ระยะสัน้ ปานกลางและระยะยาว
 มีความเสีย่ งสูง เนื่องจากความไม่
แน่นอนของราคาและปริมาณผลผลิต
 ส่วนใหญ่เกษตรกรจะกูจ้ าก ธนาคาร
เพือ่ การเกษตรและสหกรณ์ สหกรณ์
การเกษตร
สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้ กากับ (ควบคุมโดยBOT ตังแต่
้ 2548)
 เป็ นสินเชือ่ ทีใ่ ห้แก่บุคคลธรรมดา โดย
ไม่ระบุวตั ถุประสงค์
 ทางการไม่ได้กาหนดรายได้ขนั ้ ต่า แต่
ผูใ้ ห้สนิ เชือ่ อาจจะกาหนดเอง แต่
โดยมากจะเน้นพิจารณาความสามารถ
ในการชาระหนี้เป็ นสาคัญ
 กาหนดวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของ
รายได้เฉลีย่ ต่อเดือน
 ดอกเบีย้ ค่าบริการ เบีย้ ปรับหรือ
ค่าธรรมเนียม รวมกันแล้วต้องไม่เกิน
ร้อยละ 28 ต่อปี โดยคานวณแบบ ลด
ต้นลดดอก (Effective rate)




ผูใ้ ห้สนิ เชือ่ ส่วนบุคคล ได้แก่
ธนาคารพาณิชย์
บริษทั เงินทุน
และบริษทั (non bank)
 ผูป
้ ระกอบธุรกิจสินเชือ่ ส่วนบุคคล
ภายใต้การกากับ – เป็ นบริษทั นิติ
บุคคลทีไ่ ด้รบั อนุญาตจาก
กระทรวงการคลัง
ให้ประกอบธุรกิจให้กยู้ มื เงินแก่บุคคล
ธรรมดาทีไ่ ม่มหี ลักประกัน เพือ่
นาไปใช้จา่ ยส่วนตัว หรือเพือ่ ผ่อนชาระ
ค่าสินค้า โดยไม่รวมการเช่าซือ้ รถยนต์
และรถจักรยานยนต์
ระยะเวลาปลอดการชาระหนี ้ (Grace period)
มีข้อดีข้อเสียอย่ างไร
 โครงการพักชาระหนี้ 3 ปี แก่ลกู หนี้
เกษตรกรทีม่ ปี ระวัตดิ ี ทีม่ มี ลู หนี้คงค้าง
ไม่เกิน 500,000 บาท
 เปิดโอกาสให้ลกู หนี้ เลือกพักเงินต้น
และลดดอกเบีย้ 3 % หรือ ไม่พกั เงิน
ต้นแต่ลดดอกเบีย้ 3%
 ไม่ใช่โครงการปลดหนี้หรือตัดเงินต้นลง
แต่เป็ นการพักชาระหนี้ชวคราว
ั่
เพือ่ ให้
ลดภาระการผ่อนหนี้ในช่วงสัน้ ๆ