The Skeletal System
Download
Report
Transcript The Skeletal System
THE SKELETAL SYSTEM
BENJAWAN NUNTHACHAI
ขอบเขตเนื้อหา
ประเภทของกระดูก
และการทาหน้าที่
(Types of
bone&Function)
ส่วนประกอบภายใน
กระดูก
(Composition of
bone)
โครงสร้างของกระดูก
(Structureof bones)
ชื่อกระดูกในส่วนต่างๆ
ของร่างกาย
(Descriptive Terms)
ระบบโครงกระดูก
(Skeletal System)
ข้อต่อและเอ็น
(Joints & Ligaments)
Skeletal Function
Shape & Form of our bodies
Supporting
Protecting
Body movement
Producing blood
Storing minerals
206 Bones
Important
Function
(TYPES OF BONE & FUNCTION)
Long bones: มีความ
ยาวมากกว่าความกว้าง
ได้แก่ กระดูกแขน - ขา
(arms & legs)
Short bones :มีความ
ยาวและความกว้าง
พอๆกัน ได้แก่ กระดูก
ข้อมือ (wrists or carpal
bone) กระดูกข้อเท้า
(ankles or tarsal bone)
Flat bone:รูปร่างแบน เนื้อ
กระดูกแน่น(compact bone)
แผ่นกระดูกบาง โค้ง
- ซี่โครง(ribs)
-สะบัก(scapula)
-กะโหลกศีรษะ(skull )
-กระดูกหน้าอก(sternum)
Irregular bone:รูปร่างแปลก
-กระดูกสันหลัง(vertebrae)
-กระดูกสะโพก(hipbones)
-กระดูกขากรรไกร
(maxillary bone)
PART OF A LONG BONE
Epiphysis
Spongy bone
(cancellous bone)
Diaphysis
Periosteum
Articular
cartilage
Compact bone
medullar
cavity
red marrow
yellow marrow
Spongy bone
(cancellous bone)
Compact bone : medullar cavity
red marrow
yellow marrow
โครงสร้างของกระดูก(STRUCTURE OF BONES)
Long bones of the body
Diaphysis : medullary
cavity(contains yellow
bone marrow)
Epiphysis :spongy
bone tissue (contains
red bone marrow)
Metaphysis:
epiphyseal (growth)
plate or hyaline
cartilage
Outer surface of the
bone
Periosteum :nerve
lymphatic vessels
capillaries
nutrient artery
Long bones of the body : Outer surface of the
bone
ส่วนประกอบภายในกระดูก (COMPOSITION OF BONE)
Inorganic
matter:67%
Calcium :
ฟอสเฟต คาร์บอเนต
ฟลูโอไรด์ แมกนีเซียม
ฟอสเฟต เกลือโซเดียม
ทาให้กระดูกแข็ง ทึบ
แน่นติดเป็นเนือ
้ เดียวกัน
และประกอบกันขึน
้ เป็น
รูปร่าง
Organic
matter:
33%bone cell
เส้นเลือด
สารที่มล
ี ก
ั ษณะคล้ายวุน
้
(gelatinoussubstance)
ทาให้กระดูกเหนียว
ยืดหยุ่น และป้องกันการ
หักของกระดูก
BONE DEVELOPMENT & GROWTH
การเพิ่มความยาวของกระดูกในส่วนที่
กระดูก Diaphysis มาบรรจบกับEpiphysis
โดยมีช่วงเวลาของอายุเป็นตัวกาหนดใน
การเจริญเติบโตของกระดูก
การเจริญเติบโตโดยการเพิม
่ ความหนาและ
ความกว้างของกระดูกทีเ่ กิดขึน
้ ภายใต้
Periosteum
Osteoclasts: cells that help eat away old bone
DEVISION OF THE SKELETON
The Axial
Skeleton
(กระดูกแกน80 ชิ้น)
The Skull
The Sternum
The Ribs
Support &
Protect the
organs of
head neck trunk
The Vertebral
column
DIVISION OF THE SKELETON
Appendicular
Skeleton
(กระดูก รยางค์มี 126 ชิ้น)
เป็นส่วนประกอบ
ของแขน-ขา
The Upper Extremities
The Lower Extremities
The Shoulder Girdle
The pelvic Girdle
(sacrum & coccyx )
Anatomy of Skull
Irregular bone
Tibia &Fibula
การเคลือ
่ นไหวของกระดูกข้อต่อ
1.ข้อต่อเคลือ
่ นไหว
ไม่ได้เลย เป็นข้อต่อที่
มีเยื่อมายึดเกาะ
ระหว่างกระดูก และ
เคลื่อนไหวไม่ได้ เช่น
รอยต่อกระดูกกะโหลก
ศีรษะ
2. ข้อต่อเคลือ
่ นไหว
ได้บ้างเล็กน้อย เป็น
ข้อต่อทีเ่ คลือ
่ นไหว
ได้บ้างแต่ไม่มาก
นัก เช่น ข้อต่อที่
กระดูกสันหลัง
3. ข้ อต่ อที่เคลื่อนไหวได้ มาก
เป็ นข้อต่อที่มีช่องว่างหรือมีโพรง (ATICULAR
CAVITY) ระหว่าง กระดูกที่มาต่อกัน มีถุงหุม้ ปลาย
แคปซูล (CAPSULE) ล้อมรอบด้วยผนังที่เรียกว่า
เยือ่ บุขอ้ ต่อ
(SYNOVIAL MEMBRANE) ซึง่ จะผลิตนา้ หล่อ
ลืน่ หรือนา้ มันไขข้อ (SYNOVIAL FLUID)
ลักษณะการเคลือ่ นไหวของข้อต่อต่างๆ
1. การงอ (FLEXION) เป็ นการเคลือ่ นไหวแบบงอพับ เช่น
การงอข้อศอก งอเข่า
2. การเหยียด (EXTENSION) เป็ นการเคลือ่ นไหวตรง
ข้ามกับ FLEXION คือการเหยียดข้อต่อ
3. การกาง (ABDUCTION) เป็ นการเคลือ่ นไหวแบบกาง
แขน กางขา ออกจากแนวกลางของลาตัว
4. การหุบ (ADDUCTION) เป็ นการเคลือ่ นไหวแบบหุบ
แขน หุบขา เข้าหาแนวกลางของลาตัว
5. การแกว่ง (ROTATION) เป็ นการเคลือ่ นไหว
แบบแกว่งคล้ายกับลูกตุม้ นาฬิกา เช่น การแกว่งแขน
6. การหมุน (CIRCUMDUCTION) เป็ นการ
เคลือ่ นไหวแบบหมุนโดยรอบแบบกรวยฝาชี เช่น
HINGE JOINT
Gliding Joint
SADDLE JOINT
PIVOT JOINT
CONDYLOID
JOINT
Q&A