ตัวต้านทาน

Download Report

Transcript ตัวต้านทาน

Electronic1
อิเล็กทรอนิ กส ์ 1
Electronic 1
Electronic1
้
ไฟฟ้ าเบืองต ้น
Introduction Electricity
Electronic1
ชนิ ดของไฟฟ้ า
- ไฟฟ้ าสถิต (Static Electricity)
้
เกิดขึนโดยธรรมชาติ
ไม่สามารถนามาใช ้ประโยชน์ได ้โดยตรง
ตัวอย่างเช่น ฟ้ าแลบ ฟ้ าผ่า การเสียดถีของวัตถุ เป็ นต ้น
- ไฟฟ้ ากระแส (Current Electricity)
่ ้างขึนมาโดยมนุ
้
่ แล ้วส่ง
เป็ นไฟฟ้ าทีสร
ษย ์ โดยผลิตแรงเคลือน
กระแส ไปตามสายลวดตัวนา
Electronic1
ไฟฟ้ ากระแส
1. ไฟฟ้ ากระแสสลับ (Alternating Current : AC)
่
้
มีการเปลียนทิ
ศทางการไหลหรือขัวทางไฟฟ้
า สลับบวก-ลบ อยู่
ตลอดเวลา
2. ไฟฟ้ ากระแสตรง (Direct Current : DC)
้
่ นอน
มีทศ
ิ ทางการไหลหรือขัวทางไฟฟ้
าทีแน่
Electronic1
สัญลักษณ์
Electronic1
ฟิ วส ์และเซอร ์กิตเบรกเกอร ์
่
เป็ นอุปกรณ์ตด
ั ต่อไฟฟ้ า เพือความปลอดภั
ย ในกรณี ทวงจรไฟฟ้
ี่
ามี
ความผิดปกติ เช่น กระแสเกิน วงจรชอร ์ต ความแตกต่างของฟิ วส ์และ
่
เซอร ์กิตเบรกเกอร ์คือ ฟิ วส ์จะขาดไปเลยเมือกระแสเกิ
น แต่ถ ้าเป็ นเซอร ์
่
กิตเบรกเกอร ์เพียงทาการรีเซตเพือกลั
บสูส
่ ภาพปกติ
Electronic1
สัญลักษณ์
Electronic1
สวิทช ์
เป็ นอุปกรณ์ตด
ั ต่อวงจร หรือเปิ ด-ปิ ดวงจรไฟฟ้ า โดยจะมีหน้าสัมผัส
(contact) เป็ นตัวตัดวงจร แบ่งออกได ้เป็ น 2 ประเภทคือ
1. แบบปกติเปิ ด : NO (Normal Opened)
2. แบบปกติปิด : NC (Normal Closed)
Electronic1
การต่อวงจรไฟฟ้ า
1. การต่ออนุ กรม (Series)
2. การต่อขนาน (Parallel)
3. การต่อผสม (Series-Parallel)
Electronic1
หน่ วยต่างๆ ในวงจรไฟฟ้ า
่
1. แรงเคลือนไฟฟ้
า มีหน่ วยเป็ นโวลท ์ (Volt)ย่อด ้วย V.
1000 ไมโครโวลท ์ (µV)
=
1 มิลลิโวลท ์ (mV)
1000 มิลลิโวลท ์ (mV)
1000 โวลท ์ (V) =
=
1 โวลท ์ (V)
1 กิโลโวลท ์ (kV)
2. กระแสไฟฟ้ า มีหน่ วยเป็ นแอมแปร ์ (Ampare) เรียกย่อๆว่าแอมป์ ย่อ
ด ้วย A.
1000 ไมโครแอมป์ (µA)
=
1 มิลลิแอมป์ (mA)
1000 มิลลิแอมป์ (mA)
1000 แอมป์ (A)
=
=
1 แอมป์ (A)
1 กิโลแอมป์ (kA)
3. กาลังไฟฟ้ า มีหน่ วยเป็ นวัตต ์ (Watt) ย่อด ้วย W
1000 ไมโครวัตต ์ (µW)
1000 มิลลิวต
ั ต ์ (mA)
1000 วัตต ์ (A)
=
=
=
1 มิลลิวต
ั ต ์ (mW)
1 วัตต ์ (A)
1 กิโลวัตต ์ (kA)
Electronic1
ตัวต ้านทาน
Resistors
Electronic1
• ต ัวต้านทาน หรือ รีซส
ิ เตอร ์ (resistor)
่ าหน้าที่
ตัวต ้านทาน รีซสิ เตอร ์ หรือตัว อาร ์ (R) เป็ นอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิ กส ์ทีท
ต ้านการไหลของกระแส ไฟฟ้ า เนื่องจากอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิ กส ์ส่วนใหญ่จะใช ้งานได ้
่
ทีกระแสไฟฟ้
าระดับหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นเราจึงใช ้ตัวต ้านทาน กันไม่ให ้มีกระแสไหลเข ้า
ไปยังอุปกรณ์ดงั กล่าวเกินความจาเป็ น
หน่ วยค่าความต ้านทานไฟฟ้ าตามระบบเอสไอคือ โอห ์ม อุปกรณ์ทมี
ี่ ความ
ต ้านทาน ค่า 1 โอห ์ม หากมีความต่างศักย ์ 1 โวลท ์ไหลผ่าน จะให ้กระแสไฟฟ้ า 1
่ ากับการไหลของประจุไฟฟ้ า 1 คูลอมบ ์
แอมแปร ์ ซึงเท่
้
ขนาดของตัวต ้านทานจะเรียก เป็ นกาลังวัตต ์(W) และมีขนาดตังแต่
1/8W
้
่
1/4W(เรานิ ยมใช ้กัน) 1/2W 1W 2W 3W 5W ขึนไปเรื
อยๆ
โดยการเลือก ใช ้ตัว
ต ้านทานนั้นต ้องเลือกค่า เลือกขนาดกาลัง และชนิ ดของตัวต ้านทานให ้ถูกต ้อง
เพราะหากเลือกผิดจะเป็ นผลเสียต่อวงจร
Electronic1
ชนิ ดของตัวต้านทาน
1. ต ัวต้านทานแบบมีคา
่ คงที่ (Fixed Resistor)
2. ต ัวต้านทานปร ับค่าได้ (Adjustable Resistor)
่
3. ต ัวต้านทานเปลียนค่
าได้ (Variable Resistor)
Electronic1
ตัวต้านทานแบบมีคา
่ คงที่
- ตัวต ้านทานแบบคาร ์บอน
- ตัวต ้านทานแบบฟิ ล ์ม
- ตัวต ้านทานแบบขดลวดหรือเซรามิค
Electronic1
ตัวต้านทานปร ับค่าได้
- โพเทนติโอมิเตอร ์ (potentiometers)
- รีโอสแตต (rheostats)
Electronic1
่
ตัวต ้านทานเปลียนค่
าได ้
- เทอร ์มิสเตอร ์ (thermistor)
่ คา่ ความต ้านทานเปลียนแปลงตามระดั
่
เป็ นตัวต ้านทานทีมี
บ
อุณหภูมิ
- แอลดีอาร ์ (LDR : Light Dependent Resistor)
่ แสงตกกระทบมากยิง่
ตัวต ้านทานปร ับค่าตามแสงตกกระทบ ยิงมี
มีความต ้านทานต่า
Electronic1
การอ่านค่าตัวต ้านทาน
Electronic1
การต่อวงจรตัวต ้านทาน
- ตัวต ้านทานในวงจรอนุ กรม
RT = R1+ R2+…+Rn
PT = P1 = P2 = Pn
Electronic1
การต่อวงจรตัวต ้านทาน
- ตัวต ้านทานในวงจรขนาน
1/RT = 1/R1+
1/R2+…+1/Rn
PT = P1 + P2 +…+ Pn
Electronic1
วงจรตัวต ้านทานแบบผสม
Electronic1
กฎของโอห ์ม
กฎของโอห ์มกล่าวไว ้ว่า “ในวงจรไฟฟ้ าใดๆ ค่าของ
กระแสจะแปรผันโดยตรงกับแรงดัน และแปรผกผันกับ
ค่าของความต ้านทานในวงจร”
กระแสไฟฟ้ า 1 แอมป์ เป็ นผลการเปรียบเทียบ
่
อัตราส่วนระหว่างแรงเคลือน
ไฟฟ้ า 1 โวลท ์ กับความตE้านทาน 1 โอห ์ม หรือ
I

เขียนเป็ นสูตรได ้ว่า
R
Electronic1
อัตราทนกาลัง
่ ดออกมาเป็ น
ตัวต ้านทานจะต ้องมีอต
ั รากาลังซึงคิ
“วัตต ์” (WATT)
่ าอัตรากาลัง หาได ้จากสูตร
ซึงค่
P  EI
PI R
2
หรือ