โครงการอบรมการตลาดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ SocialNetworkMarketing
Download
Report
Transcript โครงการอบรมการตลาดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ SocialNetworkMarketing
LOGO
การตลาดบนเครือข่ายสังคม
ออนไลน์
ดร.สุภาพ กัญญาคา
โครงการสัมมนาคอมพิวเตอร ์
วันเสาร ์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๖ ณ.ห ้อง 13209
อาคาร 13
มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
ประวัติวท
ิ ยากร
ดร.สุภาพ กัญญาคา
การศึกษา
ปร ัชญาดุษฎีบณ
ั ฑิต (สารสนเทศศึกษา)
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (เทคโนโลยีสารสนเทศ)
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร ์
ครุศาสตรบัณฑิต (คอมพิวเตอร ์ศึกษา) สถาบันราชภัฏ
สวนสุนน
ั ทา
่ ยวข้
่
การทางานทีเกี
อง
พ.ศ. ๒๕๓๖ – ๒๕๓๗ พนักงานการตลาด บ.เซ็นทร ัลดีพาร ์ท
เม้นต ์สโตร ์ จากัด
พ.ศ. ๒๕๓๗ – ๒๕๓๙ พนักงานการตลาด บ.เฮาส ์โฮลด ์ซิส
้
เนื อหาสาระ
1
การตลาดออนไลน์
2 เครือข่ายสังคมออนไลน์
3
กรณี ศก
ึ ษาการตลาดบนเครือข่าย
สังคมออนไลน์
หลักการตลาดออนไลน์
o ความสาคัญของการตลาด
o แนวคิดด้านการตลาด
o หลักเศรษฐศาสตร ์สารสนเทศ
o พฤติกรรมของผู บ
้ ริโภคในธุรกิจ
อิเล็กทรอนิ กส ์
่ คณ
o การสร ้างเว็บไซต ์ทีมี
ุ ภาพ
o ส่วนผสมทางการตลาดออนไลน์
การตลาดออนไลน์
่ เล็กทรอนิ กส ์
การดาเนิ นกิจกรรมทางการตลาดโดยใช ้สืออิ
่ อ
เป็ นเครืองมื
เป็ นการตลาดแนวใหม่ทช่
ี่ วยองค ์กรให ้สามารถปร ับตัวเข ้ากับ
เทคโนโลยี
การซือ้ ขายสินค ้า และพฤติกรรมของผูบ้ ริโภคที่
่
เปลียนแปลงไปได
้เป็ นอย่างดี
ความสาค ัญของการตลาด
oช่วยตอบสนองความต้องการ
oเป็ นแนวทางการดาเนิ นงาน
oทาให้บรรลุว ัตถุประสงค ์ของ
องค ์กร
oช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ
แนวความคิดของหลักการ
ตลาด
แนวคิดด้านการผลิต (Production
Concept)
่ า แก่ มุ่งเน้ นไปทีการ
่
เป็ นแนวคิดทีเก่
เพิ่ มประสิ ท ธิ ภ าพการผลิ ต และกา ร
กระจายสินค้าให้แพร่หลาย เหมาะสมกบ
ั
สถานการณ์ 2 ประเภทคือ
่
1.
เมือความต้
อ งการของลู ก ค้า
(Demand) มากกว่า จานวนผลิตภัณฑ ์
่
ทีเสนอขาย
(Supply)
่ ตน
2. เมือมี
้ ทุนของสินค้าสู ง จึงปร ับปรุง
่
่
การผลิตเพือเพิ
มผลผลิ
ตและลดต้นทุน
แนวคิดด้านผลิตภัณฑ ์
(Product Concept)
เน้ น การด าเนิ นกิ จ กรรมต่ า งๆ
่
เพือปร
ับปรุ งสินค้าให้มค
ี ุณภาพ
ดี อ ยู ่ ต ล อ ด เ ว ล า แ ล ะ เ ชื่ อ ว่ า
ผู บ
้ ริโ ภคจะเต็มใจจ่ า ยในราคาที่
สู ง
แนวคิดด้านการขาย (Selling
Concept)
เน้ น ความพยายามขายและการ
่
ส่ ง เสริม การขาย เพือกระตุ
น
้ ให้เ กิด
้ เ นื่ อ ง จ า ก เ ป็ น สิ น ค้ า ที่ มี
ก า ร ซื อ
ปริมาณมากในตลาด หรือเป็ นสินค้า
ที่ ไ ม่ ค่ อ ย มี ค น คิ ด จ ะ ซื ้ อ เ ช่ น
กรมธรรม ์ประกันชีวต
ิ
แนวคิดด้านการตลาด
(Marketing Concept)
เน้ น การผลิ ต สิ น ค้า ตามความ
ต้อ งการของผู บ
้ ริโ ภคแทนที่จะ
พยายามเปลี่ยนความต้อ งการ
้ น ค้า ที่
ของผู ้บ ริโ ภคให้ไ ปซือสิ
้
องค ์กรได้ผลิตขึน
การเปรียบเทียบความ
แตกต่าง
่ น – มุ่งเน้น –
จุดเริมต้
วิธก
ี าร
–
เป้ าหมาย
– ผลิตภัณฑ ์ – การส่งเสริมการขาย – กาไรจากปริมาณการขา
แนวคิดด้านการขาย
หมาย – ความต้องการ – การประสานงาน – กาไรจากความพอใ
แนวคิดด้านการตลาด
่
แนวคิดด้านการตลาดเพือ
สังคม
เน้นการพิจารณาความต้องการและ
ผลประโยชน์ของตลาดเป้ าหมายให้
เกิ ด ความพอใจ และท าให้ค วาม
เป็ นอยู ่ของผู บ
้ ริโภค และสังคมดีขน
ึ้
ลักษณะของสินค้าตามหลัก
เศรษฐศาสตร ์
่ บต้องได้ (Economics of
่
จั
สิงของที
Thing)
่ บต้องไม่ได้ (Economics
ข่าวสารทีจั
ofในบางคร
Information)
้ั าวสาร กับสิงของอาจ
่
งข่
ไปในแนวทางเดีย วกัน หรือ อาจจะไป
ในทิศทางตรงกันข้าม นั่นคือ การผลิต
ข่าวสารไม่มต
ี น
้ ทุน และช่วยให้ตด
ั สินใจ
ดี ข ึ ้น แต่ ก ารผลิ ต สิ่ งของท าให้เ กิ ด
ความสัมพันธ ์ของการนาเสนอ
ข่าวสาร
การเสนอข่าวสารประกอบด้วย
- การเข้าถึงข้อมู ล
(Reach)
- สาระของข้อมู ล
(Richness)
หากต้อ งการน าเสนอข่ า วสารที่มี
“ ส า ร ะ ม า ก ” จ ะ มี ข้ อ จ า กั ดใ น ก า ร
“เข้าถึง” โดยผู ร้ ับสารน้อยลง
ความสัมพันธ ์ของการนาเสนอ
ข่าวสาร
บริษ ัท ประกาศร บ
ั สมัค รงานใน
หนังสือพิมพ ์ แต่เ นื่ องจากค่าโฆษณา
ในหนังสือพิมพ ์ค่อนข้างแพง ทาให้ลง
ข้ อ มู ลไ ด้ น้ อ ย ( ส า ร ะ น้ อ ย ) แ ต่
่
่
หนังสือพิมพ ์นั้นเป็ นหนังสือทีคนทั
วไป
หรือ เกื อ บทุ ก คนต้อ งการอ่ า น (การ
เข้าถึงมาก)
พฤติกรรมของผู บ
้ ริโภคออนไลน์
้ วไป
่
คุณลักษณะของผู ้ซือทั
คุณลักษณะของสินค ้าและบริการ สภาพแวดล ้อม
- อายุ
- ทัศนคติ
- ชนิ ดของสินค ้า
- วัฒนธรรม
- เพศ
- ความเชือ่
- คุณภาพ
- เศรษฐกิจ
- การศึกษา - งานอดิเรก - จุดเด่น/ข ้อแตกต่าง
- สภาพสังคม
- จริยธรรม - ประสบการณ์ - การกาหนดราคา
- การเมือง
่ ยงของผลิตภัณฑ ์ - กฎหมาย และ
- คติพจน์
- ฯลฯ - ชือเสี
จริยธรรม
้
กระบวนการตด
ั สินใจซือของ
ผู บ
้ ้ ริโภค
เป้ าหมายในการซือ้
ขันตอนใน
การซือ้
้ าของผู
้
การซือซ
บ
้ ริโภค
้ เป็
่ นองค ์กร
คุณลักษณะของผู ้ซือที
ระบบ E-Commerce
่ ยงของหน่ วยงาน
่ บสนุ น
ระบบทีสนั
คุณลักษณะของเว็บไซต ์
- ชือเสี
บริการลูกค ้า
- นโยบาย และวิธป
ี ฏิบต
ั งิ าน
- ทางเลือกชาระเงิน
- ความทันสมัย
- ทัศนคติหรือค่านิ ยม
- ค่าชดเชยหรือค่าตอบแทนบริการอีเมลล ์
- ทางเลือกจัดส่งสินค ้า
- ความสมบูรณ์
นตอนของกระบวนการ ระบบสนับสนุ นการ
ต ัดสินใจ
ตัดสินใจ
ของผู บ
้ ริโภค (CDSS)
การตระหนักถึงความต้องการ
- ระบบตัวแทนจาหน่ าย
- ระบบแจ ้งข่าวสารไปยัง
้ โภค
การแสวงหาข้อมู ผู
ลบริ
- แคทตาล็อกเสมือน
(Virtual Catalog)
่
ประเมินข้อมู ลแต่ละ - ส่วนเชือมโยงไปยั
งเว็บไซต ์
ทางเลือก
ภายนอก
- ส่วนปฏิสม
ั พันธ ์หรือโต ้ตอบ
กับผู ้ใช ้
่ อ FAQs
- เครื
รตัดสินใจซือ้ การชาระเงิ
น องมื
- ตัวอย่างสินค ้า หรือทดลอง
และการจัดส่ง
ใช ้งาน
- แบบจาลองการประเมิน
การประเมินผลสินค้าและ
พฤติกรรมของผู ้บริโภค
้
บริการหลังการซือ
่ ้
่
เครืองมื
อบนอินเตอร ์เน็ ต
่ วยสนับสนุ นกิจกรรม
ทีช่
้
แต่ละขันตอน
- การโฆษณาเว็บผ่านแบน
เนอร ์ (Banner) URL และ
ห ้องข่าวสารต่าง ๆ
- Web Directory
- Search Engine
- การอภิปรายผ่านห ้องข่าว
่ อเปรียบเทียบสินค ้า
- เครืองมื
และบริการ
่ ๆ
- แบบจาลองทางธุรกิจอืน
้
ขันตอนของกระบวนการตั
ดสินใจ
1. การตระหนักถึงความต้องการ (Need
Recognition)
้ นค
เป็ นการวิเคราะห ์ว่า ลู กค้าต้องการซือสิ
หรือบริการชนิ ดใด
่ ธรี ะบุความต้องการด ังกล่าว ทาได้โดยจัดท
ซึงวิ
แบบสอบถาม
การสัมภาษณ์ หรือใช้เทคนิ คเก็บข้อมู ลวิธอ
ี น
ื่
้ งจัดหาสินค้า
จากนันจึ
่ วย
และบริการมาเสนอขาย โดยใช้เทคนิ คทีช่
้
ขันตอนของกระบวนการตั
ดสินใจ
Need Recognition
้
ขันตอนของกระบวนการตั
ดสินใจ
2. การแสวงหาข้อมู ล (Information
Search)
่ กค้าร ับรู ้สินค้าและบริการของ
เมือลู
องค ์กรและ
้ กค้าจะ
้
้
ลู
นตอนนี
เกิดความสนใจมากขึนในขั
่
เริมแสวงหาข้
อมู ล
่
ผ่านเครืองมื
อต่าง ๆ เช่น การใช้เสิร ์ชเอน
้ (Search Engine)
จิน
่
ค้นหาข้อมู ลผ่านทางอินเตอร ์เน็ ตเพือหาว่
า
้
ขันตอนของกระบวนการตั
ดสินใจ
Search engine
้
ขันตอนของกระบวนการตั
ดสินใจ
3. ก า ร ป ร ะ เ มิ น ข้ อ มู ล แ ต่ ล ะ ท า ง เ ลื อ ก
(Evaluation of Alternative)
ในกรณี ที่พบว่ า มีแ หล่ ง จ าหน่ ายสิน ค้า
ม า ก ก ว่ า
1
แ ห่ ง
ลู ก ค้ า จ า เ ป็ น ต้ อ ง วิ เ ค ร า ะ ห ์เ พื่ อ ป ร ะ เ มิ น
่
ทางเลือ กในการเลือ กสิน ค้า โดยใช้เ ครืองมื
อ
่
เปรีย บเทีย บสิน ค้า และบริก าร หรือ เครืองมื
อ
ตอบค าถามที่พบบ่ อ ยคร ง้ั (FAQs) เกี่ยวกับ
่
สินค้า และบริการขององค ์กร เพือสร
า้ งความ
้
ขันตอนของกระบวนการตั
ดสินใจ
3. ก า ร ป ร ะ เ มิ น ข้ อ มู ล แ ต่ ล ะ ท า ง เ ลื อ ก
(Evaluation of Alternative)
3.1
คุณ สมบัต ผ
ิ ลิต ภัณ ฑ ์ (product
attributes)
3.2
การให้น้ าหนักความสาคัญสาหร ับ
คุ ณ ส ม บั ติ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ ์
่
ทีแตกต่
างกัน และการจัดลาดบ
ั สาหร ับ
คุณสมบัตผ
ิ ลิตภัณฑ ์
่ อของตราสินค้าซึงขึ
่ นอยู
้
3.3 ความน่ าเชือถื
่
กับประสบการณ์
้
ขันตอนของกระบวนการตั
ดสินใจ
4. การตัดสินใจซือ้ การชาระเงิน และการจัดส่ง
(Purchase , Payment and Delivery)
้
่ กค ้าตัดสินใจซือสิ
้ นค ้า และบริการ
เป็ นขันตอนที
ลู
้
้
แล ้ว ในขันตอนนี
่ เกียวข
่
้
จะมีกจิ กรรมอืนที
้องกับการซือขาย
ได ้แก่ การ
่
ชาระเงิน และการจัดส่งสินค ้า ซึงองค
์กรจะต ้อง
่ ออานวยความสะดวกไว ้ด ้วย เช่น
จัดเตรียมเครืองมื
บริการธนาคารเสมือน (Virtual Banking) หรือระบบ
ตรวจสอบสถานการณ์จด
ั ส่งสินค ้า เป็ นต ้น
้
ขันตอนของกระบวนการตั
ดสินใจ
5. การประเมินผลสินค้าและบริการหลังการ
ซือ้
(Post purchase
Service and Evaluation)
่
้
้
เมือกระบวนการซื
อเสร็
จสินลง
องค ์กร
้
สามารถสังเกตพฤติกรรมหลังการซือของ
่
ลู กค้า ซึงจะแสดงออกมาได้
หลายลักษณะ
เช่น หากลู กค้าได้ร ับความพอใจก็จะเกิดการ
้ า้ ซือในจ
้
่ มขึ
่ น
้ หรือเข้ามา
ซือซ
านวนทีเพิ
่
้ แต่ถา้
เยียมชมเว็
บไซต ์ของบริษท
ั บ่อยขึน
ลู กค้าไม่ได้ร ับความพอใจ อาจแสดงความ
ประเภทของผู บ
้ ริโภคออนไลน์
สามารถจาแนกผูบ้ ริโภคออนไลน์ตามแรงกระตุน
้
และพฤติกรรมในการใช ้จ่ายได ้ 8 ประเภท ดังนี ้
่ องการประหยัดเวลา เป็ นผูบ้ ริโภค
1. ผู บ
้ ริโภคทีต้
่
้
่ อสิ
้ นคา้ โดยไม่
ทียอมเสี
ยเงินแพงขึนกว่
าเดิมเพือซื
ต ้องเสียเวลาเดิมทางไปยังร ้านค ้าหรือออกนอกเคหะ
สถาน
2. ผู ้บ ริโ ภคที่ ต้อ งการหลี ก เลี่ ยงปั ญหา เป็ น
ผู ้บ ริ โ ภ ค ที่ ไ ม่ ช อ บ ก า ร ซื อ้ สิ น ค ้า ต า ม ร า้ น ค ้า
่ ญหาการจราจร ผูค้ น
เนื่ องจากต ้องการหลีกเลียงปั
่ ก จึงยอมซือสิ
้ นคา้
คับคั่ง และเสน
้ ทางไกลจากทีพั
และบริการผ่านทางอินเตอร ์เน็ ตแทน
ประเภทของผู บ
้ ริโภคออนไลน์
่ ค วามคิด ทัน สมัย เป็ นผู บ
3. ผู บ
้ ริโ ภคทีมี
้ ริโ ภคที่
้ น ค า้ ตามกระแสของเทคโนโลยีส มัยใหม่
ชอบซือสิ
่ ว นใหญ่ จ ะเป็ น
เพื่อความโก ห
้ รู หรือ ทัน สมัย ซึงส่
กลุม
่ วัยรุน
่
้
4. ผู บ
้ ริโ ภคที่ชอบท่ อ งเว็ บไซต แ์ ต่ ไ ม่ ช อบซือ
่
ผ่านอินเตอร ์เน็ ต
เป็ นผูบ้ ริโภคทีชอบ
่ อกดูสน
่
ท่องอินเตอร ์เน็ ตเพือเลื
ิ คา้ และบริการทีตน
ต ้องการเพียงอย่างเดียว แต่จะไม่ซอสิ
ื ้ นค ้าดว้ ยวิธน
ี ี้
เนื่ องจากยัง ขาดความมั่นใจในระบบร ก
ั ษาความ
ปลอดภัยบนเครือข่ายอินเตอร ์เน็ ต ดังนั้น จึงเลือก
ประเภทของผู บ
้ ริโภคออนไลน์
่
้ น ค้า เมือเห็
่
5. ผู บ
้ ริโ ภคทีจะซื
อสิ
น ของจริง ก่อ น
้ น ค า้ เพราะ
เท่ า นั้ น เป็ นผู บ
้ ริโ ภคที่ ชอบซือสิ
สามารถมองเห็นสินค ้าและบริการของจริงก่อน และ
ยัง สะดวกที่ จะเจรจาต่ อ รองสิ น ค า้ ได ต
้ ามความ
้ น คา้ ผ่ า น
้ งไม่ ช อบซือสิ
ต อ้ งการ ผู บ
้ ริโ ภคกลุ่ม นี จึ
ทางอินเตอร ์เน็ ต แต่ยงั ชอบท่องเว็บไซต ์เช่นเดียวกับ
ผูบ้ ริโภคในประเภทที่ 4
6. ผู บ
้ ริโ ภคที่ชอบแสวงหาสิ่งแปลกใหม่ เป็ น
่
่
ผูบ้ ริโภคทีชอบเสาะหาสิ
นค ้า เพือเปรี
ยบเทียบราคา
ประเภทของผู บ
้ ริโภคออนไลน์
่ ยมชือตราสิ
่
7. ผู บ
้ ริโภคทีนิ
นค้า เป็ นผูบ้ ริโภคที่
้ น ค า้ เหล่ า นี ้
ชื่นชอบสิ น ค า้ ที่ มี ช ื่อเสี ย ง ซือสิ
่ นของตนเอง ผูบ้ ริโภคจึง
ส่วนมากจะมีเว็บไซต ์ทีเป็
่
สามารถติดตามข่าวสารและความเคลือนไหวต่
างๆ
่
่
ของสินค ้าและบริการทีตนเองชื
นชอบอย่
างใกล ้ชิด
ผ่านทางเว็บไซต ์
8. ผู บ
้ ริโ ภคที่ต้อ งการยกระด บ
ั คุ ณ ภาพชีว ิต
เ
ป็
น
ผู ้
บ
ริ
โ
ภ
ค
่ ้อินเตอร ์เน็ ตในการดาเนิ นชีวต
ทีใช
ิ ประจาวัน ไม่
้ น ค า้ การช าระเงิ น การ
ว่ า จะเป็ นการซือสิ
การกาหนดกลุ่มเป้ าหมาย
่
การก
าหนดราคา
เทคนิ
ค
ที
ใช้
สิ
น
ค้
า
กลุ
ม
่
เป้
าหมาย
ทางการตลาด
ผลิตง่ าย
Mass Marketing
Direct Marketing
ผลิตสินค้า
หลากหลา
ยชนิ ด
Micromarketing
One-to-One
Marketing
ลู กค้า
้
ทังหมด
ราคา
เดียว
่
สือโฆษณา
เช่น โทรทัศน์
วิทยุ
หนังสือพิมพ ์
แบ่งตลาด
ออกเป็ น
หลายกลุ่ม
ราคา
เดียว
ในอีเมล ์หรือ
โทรศ ัพท ์
การผลิตมี ตลาดขนาด ราคาแปร
ความ
เล็กหรือ
ผัน
ซ ับซ ้อน
เฉพาะกลุ่ม
พิจารณาจาก
ข้อมู ลของ
ลู กค้าแต่ละ
กลุ่ม
การผลิตมี ส่วนบุคคล
ราคา
พิจารณาจาก
่ ข้อเมูข้
ความ งตลาด และกลยุ
เฉพาะ
ลของ
การแบ่
ทธ ์ทีใช้
าถึงกล
ซ ับซ ้อนสู ง
ลู กค้าแต่ ลู กค้าแต่ละราย
การกาหนดกลุ่มเป้ าหมาย
ทางการตลาด
1. การตลาดรวม (Mass Marketing)
เป็ นการตลาดที่ไม่ แ บ่ ง กลุ่ ม ลู ก ค า้ เหมาะ
ส า ห ร ั บ สิ น ค ้ า ที่ มี
้
่ ย่งุ ยาก องค ์กรจึงสามารถผลิต
ขันตอนการผลิ
ตทีไม่
่ แบบและราคาเดียวกันจานวนมาก ๆ เพือ
่
สินคา้ ทีมี
เสนอขายให ก
้ บ
ั ลู ก ค า้ ทุ ก กลุ่ ม ส่ ว นการโฆษณา
่ สามารถเข
่
สินคา้ จะทาผ่านสือที
า้ ถึงลูกคา้ ปริมาณ
้ั ย ว เช่น โทรทัศ น์ วิ ท ยุ และ
มาก ๆ ในคร งเดี
หนังสือพิมพ ์ เป็ นต ้น
การกาหนดกลุ่มเป้ าหมาย
ทางการตลาด
2. การตลาดทางตรง (Direct Marketing)
เนื่ องจากลู ก ค า้ แต่ ล ะรายก็ มี ค วามต อ้ งการที่
ต่า งกัน การตลาดวิธ ีนี ้จึง แบ่ ง ลู ก ค า้ ออกเป็ นหลาย
กลุ่ม โดยองค ์กรจะผลิตสินคา้ และบริการหลายแบบ
เพื่อเสนอขายให ก
้ บ
ั ลูก ค า้ แต่ล ะกลุ่ม และจะใช ้ราคา
เพีย งราคาเดีย วส าหร บ
ั สิน ค า้ แต่ ล ะแบบ ส่ ว นการ
โฆษณาสินค ้าจะทาผ่านอีเมล ์หรือโทรศัพท ์
การกาหนดกลุ่มเป้ าหมาย
ทางการตลาด
3. การตลาดเฉพาะ (Micromarketing
or
Niche Marketing)
มีลก
ั ษณะคลา้ ยกับการตลาดทางตรง แต่วธ
ิ น
ี ี้
่ ้องค ์กรเลือก
จะแบ่งกลุ่มลูกค ้าอย่างละเอียดกว่า เพือให
่
ผลิต สิน ค า้ ทีตนเองมี
ค วามชานาญ หรือ ทราบความ
ต อ้ งการของลู ก ค า้ เป็ นอย่ า งดี แล ว้ น ามาเสนอขาย
ใหก้ บ
ั ลูกคา้ โดยเฉพาะ สาหรบั ราคาขายจะแปรผันไป
ตามความซ บ
ั ซ ้อนในการผลิต และกลไกตลาด ส่ ว น
การโฆษณาสินค ้าจะพิจารณาจากขอ้ มูลของลูกค า้ ว่า
การก าหนดกลุ่ ม เป้ าหมาย
ทางการตลาด
4. การตลาดส่วนบุคคล (Personalized or Oneto-One Marketing)
เป็ นการตลาดที่ แบ่ ง กลุ่ ม ลู ก ค า้ อย่ า งสมบู ร ณ์
กล่าวคือ สามารถตอบสนองความต ้องการของลูกค ้าเป็ น
รายบุคคล ทาใหล้ ูกค ้ารู ้สึกเป็ นอิสระ ปราศจากการถูก
้
ควบคุม ของผู ข
้ าย การตลาดวิธ ีนี เหมาะกั
บ สิน คา้ ที่มี
ลักษณะสาคัญ 3 ประการ คือ
(1) การผลิตมีความซ ับซ ้อน
่
(2) ราคาสามารถปร บั เปลียนไปตามลู
กค า้ แต่ล ะ
ราย และ
(3) รสนิ ยม หรือความชอบส่วนบุคคลมีอท
ิ ธิพลต่อ
การสร า้ งความสัม พัน ธ ์อ น
ั ดี
กับลู กค้า
การสร ้างความสัมพันธ ์อ ันดีก ับลู กค้า
1 . ก า ร ส ร ้ า ง ค ว า ม เ ป็ น ส่ ว น ตั ว
(Personalization)
โดยจับ คู่ข อ้ มู ล สิน ค า้ บริก าร และโฆษณาให ้
ตรงกับ ความต อ้ งการของลูก ค า้ แต่ล ะรายมากที่สุด
่
่
ซึงการที
จะทราบความต
อ้ งการดังกล่าวไดน้ ้ัน จะตอ้ ง
อาศัยขอ้ มูลส่วนตัวของลูกคา้ (User Profile) ใน
การวิเคราะห ์ เช่น รสนิ ยม ความชอบ งานอดิเรก
หรือพฤติกรรมในการใช ้งานบนเว็บ เป็ นต ้น เทคนิ คที่
ใช ้จัดเก็บข ้อมูลข ้างต ้น
การสร ้างความสัมพันธ ์อ ันดีก ับลู กค้า
1 . ก า ร ส ร ้ า ง ค ว า ม เ ป็ น ส่ ว น ตั ว
(Personalization)
- สอบถามข้อ มู ล จากลู กค้า โดยตรง เช่น
ใช ว้ ิธ ีท าแบบสอบถาม หรือ สัม ภาษณ์สิ่งที่องค ก์ ร
ต ้องการทราบจากลูกค ้า
- สัง เกตพฤติก รรมของลู ก ค้า ในขณะที่
ออนไลน์ เช่น การเรียกดู Text File ใน Cookies
่ น ทึก พฤติก รรมของลูก ค า้ ในระหว่ า งที่มีก ารใช ้
ซึงบั
งานเว็บไซต ์ไว ้
่ อคร
้
้ั อ น
- พิจ ารณาจากรายการสังซื
งก่
่
่
เช่น เว็บไซต ์ Amazon.com ทีแนะน
ารายชือหนั
งสือ
การสร ้างความสัมพันธ ์อ ันดีก ับลู กค้า
2. ก า ร ต ล า ดโ ด ยไ ด้ ร ั บ ก า ร ยิ น ย อ ม
(Permission Marketing)
เป็ นกลยุทธ ์ในการขอความยินยอม หรือการ
่ งขอ้ มู ล หรือโฆษณา
อนุ ญาตจากลูกคา้ ก่อ นทีจะส่
่ ใหล้ ูกคา้ รู ้สึกถูกขัดจังหวะ
้ ้ เพือไม่
สินคา้ ไปให ้ ทังนี
(Interrupt) ในระหว่า งทีร่ บั ชมขอ้ มู ล เช่น มีป๊ อบ
้
้ า
อัพโฆษณาปรากฏขึนมา
เป็ นต ้น การตลาดวิธน
ี ีท
ได ห
้ ลายลัก ษณะ เช่น การให ล้ ูก ค า้ เลือ กบริก าร/
่
ข่าวสารทีสนใจจะร
บั ผ่านทางอีเมล ์ การจูงใจโดยให ้
การสร ้างความสัมพันธ ์อ ันดีก ับลู กค้า
3. การใช้บ ริก าร ผ่ า นทางผู แ
้ ทนโฆษณา
(Affiliate Marketing)
เพื่อให ล้ ู ก ค า้ ค น
้ หาหรือ เข า้ ถึง เว็ บไซต ข
์ อง
้
องค ์กรไดส้ ะดวกขึนองค
์กรควรใช ้บริการ Affiliate
โดยฝากลิงค ์ของเว็บไซต ์ไว ้กับพันธมิตรทางการค ้า
และจ่ายค่านายหน้าเป็ นผลตอบแทนกับบริษท
ั ตาม
้ั ่ มี ก ารท าธุ ร กรรมจริง (Pay-forจ านวนคร งที
Performance)
การสร ้างความสัมพันธ ์อ ันดีก ับลู กค้า
4. การให้ลู ก ค้า มีส่ ว นร่ว มในการผลิต และ
ปร บ
ั แต่ง สิน ค้า (Customization
and
Customer Co-Production)
เป็ นกลยุ ท ธ ท
์ ี่ ลู ก ค า้ สามารถแสดงความ
คิด เห็ น ออกแบบ หรือ สร ้างสรรค น
์ วัต กรรมใหม่
ร่วมกับองค ์กรได ้ โดยใช ้วิธเี สนอขายสินค ้าแบบ “สัง่
่ กค ้าสามารถปร ับแต่ง (Customization)
ผลิต” ทีลู
สิน ค า้ ให เ้ ป็ นสไตล ข
์ องตนแตกต่า งจากผู ใ้ ช อ้ ื่น ๆ
่ ล้ ูกคา้ สามารถ
ยกตัว อย่า ง เช่น บริษท
ั Nike ทีให
ปร บ
ั แต่ ง แบบของรองเท า้ ไม่ ว่ า จะเป็ นรู ป ทรง สี
การสร ้างความสัมพันธ ์อ ันดีก ับลู กค้า
5 . ก า ร จั ด ก า ร ข้ อ มู ล ( Transactive
Content)
เ ป็ น ก ล ยุ ท ธ ท
์ ี่ ใ ช ว้ ิ ธี น า เ ส น อ ข ้อ มู ล
่ ลก
แบบเดิม ซึงมี
ั ษณะตายตัวร่วมกับวิธน
ี าเสนอ
ข ้อมูลแบบพลวัตน์ (Dynamic Information)
่
างานโตต้ อบกับผูใ้ ช ้ได ้ ยกตัวอย่าง
ทีสามารถท
เช่น การคน้ หาสินคา้ และใหแ้ สดงผลลัพธ โ์ ดย
เรีย งล าดับ ตามเงื่อนไขด า้ นราคา ความนิ ย ม
หรือความทันสมัย เป็ นต ้น
การสร ้างความสัมพันธ ์อ ันดีก ับลู กค้า
6 . ก า ร บ ริ ก า ร ลู ก ค้ า ( Customer
่ วยใหอ้ งค ์กรสามารถ
Service) เป็ นกลยุทธ ์ทีช่
แก ้ไขปั ญหาของลูกคา้ ไดท้ น
ั ท่วงที โดย กระทา
่ อ ดังนี ้
ผ่านเครืองมื
- Frequently Asked Question
่
(FAQs) หรือ บริก ารตอบค าถามทีพบบ่
อ ยคร ง้ั
่
ซึงระบบ
FAQs ควรทางานร่วมกับเสิร ์ชเอนจิน้
่ ล้ ูกค ้าสามารถค ้นหาคาตอบได ้รวดเร็วขึน้
เพือให
รวมถึงจัดเตรีย มบริการอีเ มล ์ไว ้ สาหร บั กรณี ที่
่
ลูกคา้ ไม่ พบคาถามทีตนต
อ้ งการ ก็ ส ามารถส่ง
อีเมล ์มาสอบถามปัญหากับองค ์กรได ้เช่นกัน
การสร ้างความสัมพันธ ์อ ันดีก ับลู กค้า
6. ก า ร บ ริ ก า ร ลู ก ค้ า ( Customer
Service)
- ระบบสนทนาแบบ Real
Time
สาหรบั ลูกคา้ สอบถามปัญหาการใช ้งานได ท
้ น
ั ที
่ ง แม้ว่ า วิ ธ ีนี ้จะช่ว ยให ้
ตลอด 24 ช ่วโมง
ั
ซึงถึ
องค ์กรมีต ้นทุนต่ากว่าการใช ้ระบบสอบถามผ่าน
ทางโทรศัพ ท ์ แต่ เ นื่ องจากเป็ นการพู ด คุย ด ว้ ย
การพิ ม พ ข
์ อ
้ ความโต ต
้ อบกัน จึ ง ท าให ก
้ าร
ซ ักถามปัญหาบางคาถาม ทาได ้ไม่สะดวกนัก
- ระบบตอบสนองการท างานแบบ
อต
ั โนมัต ิ เพื่อลดระยะเวลาในการท าธุร กรรม
้
LOGO
เครือข่ายสังคมออนไลน์
Social Network
44
้
เนื อหาสาระ
ยุคของเว็บ
ความหมายของ Social Network
ประเภทของ Social Network
ลักษณะการใช้งาน Social Network
ปั ญหาและแนวทางแก้ปัญหาใน
Social Network
ประโยชน์ของ Social Network
ข้อดีและข้อเสียของ Social Network
ยุคของ Web
46
ยุคของ Web
Web 1.0 (World Wide Web)
• การเผยแพร่ข ้อมูลผ่านเว็บไซต ์ของ
่ Web
หน่ วยงาน/ผูม้ ค
ี วามรู ้เรือง
Technology ในยุคแรก ๆ ของ
WWW
่ ลก
่
• เป็ นเว็บทีมี
ั ษณะของการสือสารทาง
เดียว คือ เจ ้าของเว็บไซต ์เป็ นผูผ
้ ลิต
้
เนื อหาและให
้ข ้อมูลข่าวสาร
• ต ้องมีเว็บมาสเตอร ์ เป็ นผูด้ แู ลเอา
้
้ บไซต ์
เนื อหาขึ
นเว็
่ ท้ ตั
้
• ถึงแม้วา่ จะมี เว็บบอร ์ด ซึงผู
ี่ งกระทู
้
่
เป็ นผูใ้ ช ้ทัวไป
ก็ยงั ไม่นับว่าเป็ น
Web2.0 เพราะว่าไม่มก
ี ารจัดเก็บ
อย่างเป็ นระบบ มีทอยู
ี่ ่แน่ นอนเฉพาะ
ยุคของ Web
Web 2.0 (WWW, Social Network Web
่ นทีรู่ ้จักในวงกว ้าง หลังจาก
• เริมเป็
งานประชุม
่ ดขึนใน
้
โอไรล ์ลีย ์มีเดีย เว็บ 2.0 ทีจั
ปี 2547
่ ่เหนื อ
• เป็ นแพลตฟอร ์มหนึ่ ง ทีอยู
การใช ้งานของซอฟต ์แวร ์ โดยไม่
ยึดติดกับตัวซอฟต ์แวร ์เหมือนระบบ
่ านมา โดยมีข ้อมูล
คอมพิวเตอร ์ทีผ่
่ ดจากผูใ้ ช ้หลายคน
ทีเกิ
• มีการพัฒนารูปแบบ/วิธก
ี ารโต ้ตอบ
ระหว่าง
ผูใ้ ห ้บริการ และผูใ้ ช ้งานโดยสะดวก
• มีลก
ั ษณะส่งเสริมให ้เกิดการแบ่งปัน
ยุคของ Web
Web 3.0 (Semantic Web)
• เว็บเชิงความหมาย (Semantic
Web) คือส่วนขยายของเว็บ
่ าให ้การใช ้ข ้อมูลบน
ปัจจุบน
ั เพือท
เว็บสามารถนามาใช ้ใหม่
้ อเครืองจั
่ กร
(Reuse)ได ้ และเอือต่
ในการสืบค ้น (Query) อย่างเป็ น
อัตโนมัติ
• ข ้อมูลในเว็บปัจจุบน
ั ขาด
้ วนของ
โครงสร ้างและเป็ นเพียงชินส่
่ ษย ์สามารถ
ข ้อความ (Text) ซึงมนุ
่ กรไม่
เข ้าใจความหมาย แต่เครืองจั
สามารถเข ้าใจความหมายหรือ
ตีความได ้
่
ความหมาย
่ ษย ์
Social Network หมายถึงการทีมนุ
่
สามารถเชือมโยงถึ
ง กัน ท าความรู จ
้ ก
ั กัน
่
สือสารถึ
งกันได้ ผ่านทางระบบอินเทอร ์เน็ ต
ซึ่ง ห า ก เ ป็ น เ ว็ บไ ซ ต ท
์ ี่ เ รี ย ก ว่ า เ ป็ น เ ว็ บ
่ อมโยง
่
(Social Network) ก็คอ
ื เว็บไซต ์ทีเชื
้
ผู ค
้ นไว้ดว้ ยกันนั่นเอง โดยเว็บไซต ์เหล่านี จะ
่ ผูค
้ นเข้ามารู ้จักกัน มีการให้พนที
มีพนที
ื ้ ให้
ื้ ่
่
บริก ารเครืองมื
อ ต่ า งๆ เพื่ออ านวยความ
สะดวกในการสร า้ งเครือ ข่ า ย สร า้ งเนื ้อหา
ตามความสนใจของผู ใ้ ช้ ปั จจุบน
ั มีเว็บไซต ์
้ านวน
ประเภท (Social
Network)
เกิ
ด
ขึ
นจ
50
รูปแบบ Social Network
51
ประเภทของ Social
Network
1. ประเภทแหล่งข้อมู ลหรือความรู ้
(data/knowledge)
2. ประเภทเกมส ์ออนไลน์ (online
games)
3. ประเภทสร ้างเครือข่ายทางสังคม
(community)
4. ประเภทฝากภาพ (photo
management)
่
52
ตัวอย่างของ Social
Network
Hi5
Twitter
My Space
Face Book
Orkut
Bebo
Tagged
53
ลักษณะการใช้งาน Social Network
Identify Network เผยแพร่ต ัวตน
ใช้สาหร ับนาเสนอตัวตน และเผยแพร่
่
เรืองราวของตนเองทางอิ
นเตอร ์เน็ ทสามารถ
้ ปของต ัวเอง สร ้างกลุ่มเพือน
่
สร ้างอ ัลบัมรู
้ Blognone, gotoKnow,
• และสร
Blogs เช่้างเครื
น Blogger
อข่า(google),
ยขึนมาได้
Typepad, WordPress,
• Internet forums เช่น vBulletin, phpBB
• Micro-blogging เช่น Twitter, Plurk, Pownce, Jaiku
• Social networking เช่น Facebook, LinkedIn, MySpace, Ork
Skyrock, Netlog, Hi5, Friendster, Multiply
เผยแพร่ผลงาน
(Creative Network)
่ งปั นการใช้งานรู ป
• Photo sharing เว็บทีแบ่
เช่น Flickr, Zooomr, Photobucket, SmugMug
• Video sharing แบ่งปั นวิดโี อ เช่น YouTube, Vimeo,
Revver
• Art sharing แบ่งปั นภาพศิลปะ deviantART
• Livecasting การถ่ายทอดสด : Ustream.tv, Justin.tv,
Skype
่ การแชร ์เพลงจากสถาน
• Audio and Music Sharing เว็บทีมี
ความสนใจตรงกัน (Interested
Network)
• del.icio.us เป็ น Online Bookmarking หรือ Social
่
Bookmarking โดยเป็ นการ Bookmark เว็บทีเราสนใจไว
้
่
บนอินเทอร ์เน็ ตสามารถแบ่งปั นใหค้ นอืนดูได
แ้ ละยังสามารถ
บอกความนิ ยมของเว็ บไซด ์ต่างๆได ้ โดยการดูจากจานวน
่ บไซต ์นั้นถูก Bookmark เอาไวจ้ ากสมาชิกคน
ตัวเลขทีเว็
่
อืนๆ
• Digg นั้นคล ้ายกับ del.icio.us แต่จะมีใหล้ งคะแนนแต่
่
ละเว็บไซด ์ และมีการ Comment ในแต่ละเรือง
้
• Zickr
ถูก พัฒนาขึนมาโดยคนไทย
เป็ นเว็ บลักษณะ
เดียวกับ Digg แต่เป็ นภาษาไทย
ท า ง า น ร่ ว ม กั น ( Collaboration
Network)
• WikiPedia เเป็ นสารานุ กรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่
รวบรวมความรู ้ ข่าวสาร และเหตุการณ์ตา่ งๆ ไว ้มากมาย
• ปัจจุบน
ั เราสามารถใช ้ Google Maps สร ้างแผนที่
่ ้คนอืนได
่
ของตัวเอง หรือจะแบ่งปันแผนทีให
้ใช ้ด ้วย จึงทา
่ าคัญ หรือสถานทีต่
่ างๆ ถูกปั กหมุดเอาไว ้
ใหม้ ีสถานทีส
พร ้อมกับ ข อ้ มู ล ของสถานที่นั้ นๆ ไว แ้ สดงผลจากการ
ค ้นหา
• Product Reviews : www.epinions.com ,
MouthShut.com, Yelp.com
โลกเสมือน (Gaming/Virtual
Reality)
• Virtual worlds : Second Life, The Sims Online
• Online gaming : World of Warcraft, EverQuest, Age
Conan,
Spore (2008 video game)
• Game sharing : Miniclip
Peer to Peer (P2P)
่
P2P เป็ นการเชือมต่
อกันระหว่าง Client
่ ใ้ ช ้, เครืองลู
่ กข่าย) กับ Client โดยตรง
(เครืองผู
้
โปรแกรม Skype จึงได ้นาหลักการนี มาใช
้เป็ น
โปรแกรมสนทนาผ่ า นอิ น เตอร เ์ น็ ต และก็ มี
้
BitTorrent เกิดขึนมาเป็
นเทคโนโลยีทท
ี่ าให ้เกิด
การแบ่ ง ปั นไฟล ต์ ่า งๆ ได อ้ ย่ า งกว า้ งขวาง และ
่
รวดเร็ว แต่ ท ว่ า มัน ก็ ก่อให เ้ กิด ปั ญ หาเรืองการ
ละเมิดลิขสิทธิ ์
่
ปั ญหาทีมาจาก
Social
Network
ปั ญหาจากการเจาะข้อมู ลส่วนตัวขอ
ผู ใ้ ช้บริการ
่
ปั ญหาไวร ัสทีมากั
บ Social Networ
61
่
ปั ญหาไวร ัสทีมาก
ับ
Social Network
่ งมาจาก Facebook เพือแจ้
่
ไวร ัส อีเมล ์ทีส่
งให้
่
สผ่าน
เปลียนรหั
62
่
ปั ญหาไวร ัสทีมาก
ับ
Social Network
่
ไวร ัสทีมาในรู
ปแบบคลิป ต่างๆ
่
ไวร ัสทีมาในรู
ปแบบ
Application
่
่ น Link
ไวร ัสทีมาในรู
ปแบบทีเป็
URL
63
แนวทางการแก้ไขปั ญหาไวร ัสใน
ปั จจุบน
ั
64
วีธใี นการตรวจหาไวร ัส มี 3 แบบ ด ังนี ้
วิธท
ี ี่ 1 การสแกน
การใช้โปรแกรมในการตรวจหาไวร ัส โดยการดึง
โปรแกรมบางส่วนของ
่ งมานัน
้
ตัวไวร ัสมาเก็บไว้เป็ นฐานข้อมู ล ส่วนทีดึ
เรียกว่า ไวร ัสซิกเนเจอร ์
(Virus Signature)
่
ข้อดี สามารถตรวจสอบหาไวร ัสทีมาใหม่
ได้ทน
ั ที
่ บไวร ัสซิกเนเจอร ์จะต้อง
จุดอ่อน ฐานข้อมู ลทีเก็
ทันสมัยอยู ่เสมอ และ
่ ดด้วย ดังนันการ
้
ครอบคลุมไวร ัสทุกตัว และมากทีสุ
้
ตรวจหาไวร ัสแบบนี จะ
้
่
การตรวจสอบไวร ัสโดย
วิธก
ี ารสแกน
66
่
วิธท
ี ี่ 2. การตรวจการเปลียนแปลง
การหาค่าพิเศษ เรียกว่า เช็คซ ัม (Checksum) เกิด
จากการนาเอาชุดคาสัง่
่ ่ในโปรแกรมมาคานวณหรืออาจใช้
และข้อมู ลทีอยู
่ ของไฟล ์ ได้แก่ แอตริบวิ ส ์ วันและเวลา
ข้อมู ลอืนๆ
เข้ามารวมในการคานวณด้วย
ข้อดี สามารถตรวจจับไวร ัสใหม่ๆ ได้ และยังมี
ความสามารถในการตรวจจับ
ไวร ัสประเภทโพลีเมอร ์ฟิ กไวร ัสได้อก
ี ด้วย
่
จุดอ่อน จะตรวจจับไวร ัสได้กต
็ อ
่ เมือไวร
ัสได้เข้าไปติด
่
อยู ่ในเครืองแล้
ว
้
เท่านัน
วิธท
ี ี่ 3. การเฝ้าดู
โปรแกรมตรวจจับไวร ัสสามารเฝ้าดู การทางานของ
่
เครืองได้
ตลอดเวลา เรียกว่า เรซิเดนท ์หรือ
้ั
ดีไวซ ์ไดร ์ฟเวอร ์ โดยเทคนิ คของการเฝ้าดู นน
่
อาจใช้วธ
ิ ก
ี ารสแกนหรือตรวจการเปลียนแปลงหรื
อ
สองแบบรวมกน
ั ก็ได้
่ การเรียกโปรแกรมใดขึนมาโปรแกรมนั
้
้
ข้อดี เมือมี
นจะ
ถูกตรวจสอบก่อน
้ั
ทุกครงโดยอ
ัตโนมัต ิ
่ ยไปสาหร ับการตรวจหาไวร ัสก่อน
ข้อเสีย จะมีเวลาทีเสี
ทุกครง้ั และ
เนื่ องจากเป็ นโปรแกรมแบบเรซิเตนท ์หรือ
ดีไวซ ์ไดร ์ฟเวอร ์ จึงจาเป็ นจะต้อง
่
ใช้หน่ วยความจาส่วนหนึ่งของเครืองตลอดเวลา
ประโยชน์ของ Social Network
• ด ้านการเผยแพร่ข ้อมูลส่วนบุคคล
่ อสาหร ับเครือข่ายสังคมออนไลน์
เครืองมื
เช่น Weblog, Wiki, Multimedia Shared
ประเภทต่าง ๆ สามารถทาให ้ผูใ้ ช ้อินเทอร ์เน็ ต
่
สามารถเผยแพร่ข ้อมูล เรืองราว
สารสนเทศ
ต่าง ๆ ของส่วนบุคคลได ้สะดวก โดยไม่มี
ค่าใช ้จ่าย ตัวอย่างเช่น
ประโยชน์ของ Social Network
• ด ้านการเรียนการสอน
เว็บไซต ์ประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์ สามารถ
่ อหรือเป็ นแหล่งเรียนรู ้ ประกอบการ
ใช ้เป็ นเครืองมื
จัดการเรียนการสอนได ้ เช่น
่
• www.multiply.com สร ้างบล็อกสาหร ับเผยแพร่ความรู ้ แลกเปลียนเรี
ยนรู ้
และทางานร่วมกันเป็ นกลุม
่
และรวบรวมแฟ้ มสะสมผลงาน
• www.wikipedia.org แหล่งเรียนรู ้สารานุ กรมออนไลน์
• webblog รวบรวมความรู ้เฉพาะทาง เป็ นแหล่งเรียนรู ้จากประสบการณ์ของ
่
ผูเ้ ชียวชาญ
เช่น http://linux.blog.in.th , http://linux.sothorn.org
่
ความรู ้เกียวกั
บลินุกซ ์
• http://www.slideshare.net สไลด ์ประกอบการสอน
• http://youtube.com แหล่งรวบรวมวิดโี อความรู ้สาหร ับการเรียนการสอน
• http://www.flickr.com แหล่งรวบรวมภาพสาหร ับการเรียนการ
ประโยชน์ของ Social Network
• การศึกษาค ้นคว ้า การวิจยั การจัดการความรู ้
่
เป็ นแหล่งแลกเปลียนเรี
ยนรู ้ของนักวิจยั นักวิชาการ รวมท
่ อ
เป็ นเครืองมื
ในการรวบรวมและเผยแพร่องค ์ความรู ้ ผลงานวิจยั ในองค ์กร
เช่น
• www.wikipedia.org, http://th.wikipedia.org
สารานุ กรมออนไลน์ขนาด
ใหญ่ แหล่งข ้อมูลทางวิชาการและแหล่งเรียนรู ้
• www.gotoknow.org แหล่งรวบรวมความรู ้ เป็ นชุมชน
นักวิชาการและ
นักวิจยั ขนาดใหญ่
• www.panyathai.or.th
แหล่งรวบรวมองค ์ความรู ้/คลัง
71
ประโยชน์ของ Social Network
่
• ด ้านการเพิมประสิ
ทธิภาพการทางาน
่ องทางสมาชิกในองค ์กรให ้
สังคมเครือข่ายออนไลน์ เพิมช่
่
่ น้ เกิดกา
สามารถติดต่อสือสารและเผยแพร่
ข ้อมูลได ้สะดวกยิงขึ
่
แลกเปลียนความคิ
ดเห็น ความรู ้ และประสบการณ์ในการ
่
ทธิภาพในการทางานได ้
ปฏิบต
ั งิ าน ทาให ้สามารถเพิมประสิ
ตัวอย่างเช่น
่
• www.twitter.com ใช ้ในการแลกเปลียนเรี
ยนรู ้ในองค ์ก
่
• www.youtube.com ใช ้เป็ นสือในการเรี
ยนรู ้และฝึ กทักษ
การทางาน
่ ม จากผ
• Weblog ใช ้เป็ นแหล่งศึกษาค ้นคว ้าความรู ้เพิมเติ
มีประสบการณ์
่
่ 72 ยนเรืองราวไว
่
หรือผูเ้ ชียวชาญ
ซึงเขี
้ในบล็อกเฉพาะด ้าน
ประโยชน์ของ Social Network
• ด ้านการดาเนิ นธุรกิจหรือกิจกรรมขององค ์กร
เว็บไซต ์ประเภทสังคมเครือข่ายออนไลน์ ถูกใช ้เป็ น
่ อในการดาเนิ นธุรกิจ เช่น การโฆษณา
เครืองมื
ประชาสัมพันธ ์ การสร ้างช่องทางการตลาดและการซือ้
้
ขายสินค ้า รวมทังการด
าเนิ นงานด ้านลูกค ้าสัมพันธ ์
่ อของสังคมเครือข่าย
ขององค ์กร ผ่านเครืองมื
ออนไลน์
ตัวอย่างเช่น การสร ้างบล็อก คูม
่ อ
ื การใช ้งานแบบ
่
วิก ิ การใช ้ Twitter เป็ นช่องทางในการติดต่อสือสาร
ในองค ์กร เป็ นต ้น
่ อ Web 2.0 ของ Intel
ตัวอย่างการใช ้เครืองมื
• http://blogs.intel.com/
• http://twitter.com/intel
ประโยชน์ของ Social Network
• ด ้านความบันเทิงและเกมส ์ออนไลน์
่
แหล่งเผยแพร่และแลกเปลียนข
้อมูลด ้านความบันเทิง เช่น วิดโี อ เพล
74
ข้อดีของ Social Network
่
่ สนใจร่
่
สามารถแลกเปลียนข้
อมู ลความรู ้ในสิงที
วมกน
ั
ได้
เป็ นคลังข้อมู ลความรู ้ขนาดย่อมเพราะเราสามารถ
่
เสนอและแสดงความคิดเห็น แลกเปลียนความรู
้ หรือ
้ าถามในเรืองต่
่
่
่
ตังค
างๆ เพือให้
บุคคลอืน
่
ทีสนใจหรื
อมีคาตอบได้ชว
่ ยกน
ั ตอบ
่
่
ประหยัดค่าใช้จา
่ ยในการติดต่อสือสารก
บ
ั คนอืน
สะดวกและรวดเร็ว
่
เป็ นสือในการน
าเสนอผลงานของตัวเอง เช่น งาน
เขียน รู ปภาพ
่
วีดโิ อต่างๆ เพือให้
ผูอ
้ นได้
ื่
เข้ามาร ับชมและแสดงความ
คิดเห็น
ข้อเสียของ Social Network
เว็บไซต ์ให้บริการบางแห่งอาจจะเปิ ดเผยข้อมู ล
ส่วนตัวมากเกินไป หากผู ใ้ ช้บริการไม่ระมัดระวงั
ในการกรอกข้อมู ล อาจถูกผู ไ้ ม่หวงั ดีนามาใช้
ในทางเสียหาย หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้
Social Network เป็ นสังคมออนไลน์ทกว้
ี ่ าง
หากผู ใ้ ช้รู ้เท่าไม่ถงึ การณ์หรือขาด
วิจารณญาณ อาจโดนหลอกลวงผ่าน
่ ดประสงค ์
อินเทอร ์เน็ ต หรือการนัดเจอกน
ั เพือจุ
่ นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ ์
ร ้าย ตามทีเป็
ข้อเสียของ Social
Network
เป็ นช่องทางในการถู กละเมิดลิขสิทธิ ์ ขโมยผลงาน หรือถูก
่
แอบอ้าง เพราะ Social Network Service เป็ นสือในการ
่
เผยแพร่ผลงาน รู ปภาพต่างๆ ของเราให้บุคคลอืนได้
ดูและ
แสดงความคิดเห็น
่ องกรอกเพือสมั
่
ข้อมู ลทีต้
ครสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต ์ใน
รู ปแบบ Social Network ยากแก่การตรวจสอบว่าจริง
้
่
่ าหนดอายุ
หรือไม่ ดังนันอาจเกิ
ดปั ญหาเกียวก
บ
ั เว็บไซต ์ทีก
่ มต
การสมัครสมาชิก หรือการถู กหลอกโดยบุคคลทีไม่
ี วั ตน
ได้
กรณี ศก
ึ ษาการตลาดบนเครือข่าย
สังคมออนไลน์
LOGO