Transcript พระพรจากพระบิดา - พระพรด้านความสุข

พลังของคำพูด
สุภาษิต 18:20-21 (Proverbs 18:20-21)
20 ท้ องจะอิ่มก็จากผลแห่งปากของเขา เขาหนาใจเพราะผลอัน
เกิดจากริ มฝี ปากของตน
21 ความตายความเป็ น อยู่ท่ อี านาจของลิน้ และบรรดาผู้ที่รัก
มันก็จะกินผลของมัน
พลังของคำพูด
ยากอบ 1:19 (James 1:19) จงให้ ทกุ คนไวในการฟั ง ช้ าในการพูด
ช้ าในการโกรธ
พระเจ้าให้ปาก 1
ปาก
แตให
่ ้เรามี 2 หู
ให้เราไวในการฟังแต่
พลังของคำพูด-ถ้อยคำเล็กๆ มีฤทธิ์อำนำจ
มัทธิว 13:31-32 (Matthew 13:31-32)
31 พระองค์ยงั ตรัสคาอุปมาอีกข้ อหนึง่ ให้ เขาฟั งว่า “แผ่นดิน
สวรรค์เปรี ยบเหมือนเมล็ดพืชเมล็ดหนึง่ ซึง่ คนหนึง่ เอาไปเพาะลง
ในไร่ของตน เมล็ดนันเล็
้ กกว่าเมล็ดทังปวง
้
32 แต่เมื่องอกขึ ้นแล้ วก็ใหญ่กว่าผักอื่น และจาเริ ญเป็ นต้ นไม้ จน
นกในอากาศมาทารังอาศัยอยูต่ ามกิ่งก้ านของต้ นนันได้
้ ”
พลังของคำพูด-ถ้อยคำเล็กๆ มีฤทธิ์อำนำจ
พระเยซ ูเป็นตัวอย่ำงของผูม้ ีถอ้ ยคำที่ทรงพลัง
ยอห์น 5:19 (John 5:19) พระเยซูตรัสกับเขา
ว่า “เราบอกความจริ งแก่ท่านทังหลายว่
้
า
พระบุตรจะกระทาสิง่ ใดตามใจไม่ได้ นอกจาก
ที่ได้ เห็นพระบิดาทรงกระทา เพราะสิง่ ใดที่
พระบิดาทรงกระทา สิง่ นันพระบุ
้
ตรจึงทรง
กระทาด้ วย
พระเยซ ูเป็นตัวอย่ำงของผูม้ ีถอ้ ยคำที่ทรงพลัง
มัทธิว 12:36-37 (Matthew 12:36-37)
36 ฝ่ ายเราบอกเจ้ าทังหลายว่
้
า คาที่ไม่เป็ น
สาระทุกคาซึง่ มนุษย์พดู นัน้ มนุษย์จะต้ องรับ
ผิดในถ้ อยคาเหล่านัน้ ในวันพิพากษา
37 เหตุวา่ ที่เจ้ าจะพ้ นโทษได้ หรื อจะต้ องถูก
ปรับโทษนัน้ ก็เพราะวาจาของเจ้ า
ถ้ าเราอยากมี
ถ้ อยคาที่ทรงพลัง
เหมือนพระเยซู
เริ่ มต้ นจากการ
ระวังคาพูด
เรำเชื่อสิ่งใด เรำก็พดู ตำมควำมเชื่อของเรำ
มัทธิว 15:18 (Matthew 15:18) แต่สงิ่ ที่ออกจากปากก็ออกมาจาก
ใจ สิง่ นันแหละท
้
าให้ มนุษย์เป็ นมลทิน
ถ้ าพระเจ้ าตรัสกับเรา (ตามพระคัมภีร์) เราควรให้ คานันเป็
้ นสมอที่
ยึดชีวิตเราไว้ ให้ มนั่
2โคริ นธิ์ 1:20 (II Corinthians 1:20) บรรดาพระสัญญาของพระ
เจ้ าก็จริ งโดยพระเยซู เพราะเหตุนี ้เราจึงพูดว่าอาเมน โดย
พระองค์เป็ นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้ า
ภำษำของเจ้ำสำวของพระคริสต์ควรจะเป็นเช่นไร ?
โคโลสี 3:16 (Colossians 3:16)(TSV) จงให้ พระวจนะของพระ
คริ สต์อยูใ่ นพวกท่านอย่างบริ บรู ณ์ จงสัง่ สอนและเตือนสติกนั ด้ วย
ปั ญญาทังสิ
้ ้น จงร้ องเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงฝ่ ายจิต
วิญญาณด้ วยการขอบพระคุณพระเจ้ าในใจของท่าน
ภำษำของเจ้ำสำวของพระคริสต์ควรจะเป็นเช่นไร ?
ภาษาสวรรค์ อยูบ่ นพื ้นฐานของความรัก รักพระเจ้ า รักเพื่อน
บ้ านเหมือนรักตัวเอง
เป็ นถ้ อยคาแห่งความเชื่อ
เป็ นถ้ อยคาหนุนจิตชูใจ สร้ างขึ ้นไม่ใช่ทาลายลง
เป็ นถ้ อยคาที่เตือนสติกนั ด้ วยปั ญญาของพระเจ้ า
คาที่ออกจากปากของเจ้ าสาวควรเป็ นบทเพลงสดุดี
เพลงนมัสการ และร้ องเพลงบทใหม่
เรียนรูท้ ี่จะควบค ุมลิ้น เพื่อให้เป็นพลังในทำงที่สร้ำงสรร
ยากอบ 3:9-10 (James 3:9-10)
9 เราทังหลายสรรเสริ
้
ญองค์พระผู้เป็ นเจ้ าและพระบิดาด้ วยลิ ้นนัน้
และด้ วยลิ ้นนันเราก็
้
แช่งด่ามนุษย์ ผู้ซงึ่ พระเจ้ าทรงสร้ างไว้ ตาม
พระฉายาของพระองค์
10 คาสรรเสริ ญและคาแช่งด่าก็ออกมาจากปากอันเดียวกัน
ดูก่อนพี่น้องของข้ าพเจ้ า ไม่ควรให้ เป็ นเช่นนัน้
เรียนรูท้ ี่จะควบค ุมลิ้น เพื่อให้เป็นพลังในทำงที่สร้ำงสรร
โรม 14:4 (Romans 14:4) ท่านเป็ นใครเล่า จึงกล่าวโทษบ่าวของ
คนอื่น บ่าวคนนันจะได้
้
ดีหรื อจะล่มจมก็สดุ แล้ วแต่นายของเขา
และเขาก็จะได้ ดีแน่นอน เพราะว่าองค์พระผู้เป็ นเจ้ าทรงฤทธิ์อาจ
ให้ เขาได้ ดีได้
ทำยังไงที่เรำจะรักษำปำกของเรำไว้ได้
1. ขอไฟของพระเจ้ าชาระเหมือนอิสยาห์
อิสยาห์ 6:5-8 (Isaiah 6:5-8)
5 และข้ าพเจ้ าว่า “วิบตั ิแก่ข้าพเจ้ า เพราะข้ าพเจ้ าพินาศแล้ ว
เพราะข้ าพเจ้ าเป็ นคนริ มฝี ปากไม่สะอาด และข้ าพเจ้ าอยู่ในหมูช่ น
ชาติที่ริมฝี ปากไม่สะอาด เพราะนัยน์ตาของข้ าพเจ้ าได้ เห็นกษัตริ ย์
คือพระเจ้ าจอมโยธา”
6 แล้ วตนหนึง่ ในเสราฟิ มบินมาหาข้ าพเจ้ า ในมือมีถ่านเพลิง ซึง่
เขาเอาคีมคีบมาจากแท่นบูชา
7 และเขาถูกต้ องปากของข้ าพเจ้ าพูดว่า “ดูเถิด สิง่ นี ้ได้ ถกู ต้ องริ ม
ฝี ปากของเจ้ าแล้ ว กรรมชัว่ ของเจ้ าก็ถกู ยกเสีย และเจ้ าก็จะรับ
การลบมลทินบาป”
ทำยังไงที่เรำจะรักษำปำกของเรำไว้ได้
8 และข้ าพเจ้ าได้ ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็ นเจ้ าตรัสว่า “เรา
จะใช้ ผ้ ใู ดไป และผู้ใดจะไปแทนเรา” แล้ วข้ าพเจ้ าทูลว่า “ข้ า
พระองค์อยูน่ ี่ พระเจ้ าข้ า ขอทรงใช้ ข้าพระองค์ไปเถิด”
 เราต้ องสารภาพบาปที่เราเคยกระทาเพราะลิ ้นของเรา
 ขอไฟของพระเจ้ าชาระ
 แล้ วพระองค์จะใช้ ปากเราเป็ นพร
แก่ประชาชาติ
ทำยังไงที่เรำจะรักษำปำกของเรำไว้ได้
2. ให้ พระวจนะล้ างความคิดที่ไม่ ดี และเติมเต็มความคิด
จิตใจด้ วยพระวจนะของพระเจ้ า เพื่อปากเราจะล้ นด้ วยคา
สรรเสริญและคาพร
เหมือนฟองนำ้
ชุม่ น ้าดา ดูแต่ละครน ้าเน่า คาพูดการกระทาก็ออกมาเป็ นความ
ตาย
ชุม่ พระวจนะ คาพูดการกระทาก็ออกมาเป็ นชีวิต
ทำยังไงที่เรำจะรักษำปำกของเรำไว้ได้
โรม 12:2 (Romans 12:2) อย่าประพฤติตาม
อย่างคนในยุคนี ้ แต่ จงรั บการเปลี่ยนแปลง
จิตใจ แล้ วอุปนิสัยของท่ านจึงจะเปลี่ยน
ใหม่ เพื่อท่ านจะได้ ทราบนา้ พระทัยของ
พระเจ้ า จะได้ ร้ ู ว่าอะไรดี อะไรเป็ นที่ชอบ
พระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม