Transcript วิตามินบี 2 หรือ

ผู้จัดทำ
นำงสำวหะนีฟะฮ์ หวังโสะ
นำงสำวโสรญำ แย้ มน้ อย
มหำวิทยำลัยสงขลำนครินทร์
วิทยำเขตปัตตำนี
1
VITAMIN
B2
2
RIBOFLAVIN STRUCTURE
3
วิตามินบี 2 เป็ นวิตามินในกลุม่ วิตามินบีรวม ที่ร่างกายต้ องการชนิด
หนึง่ สามารถละลายได้ ในน ้า รู้จกั กันในชื่อ Riboflavin นอกจากนัน้
อาจรู้จกั ในชื่อ วิตามินจี กรดแลคโตฟลาวิน
วิตามินบี 2 หรือ Riboflavin มีสีเหลืองส้ ม เมื่อเป็ น
สารละลายจะเป็ นสีเหลืองอมเขียว และที่สาคัญคือ มีคณ
ุ สมบัติเรื องแสง
ได้ ยิ่งเวลามืดจะเห็นเป็ นสีเหลืองๆ เมื่อถูกกรด อากาศ หรื อความร้ อน จะ
ไม่คอ่ ยสลายตัว แต่จะสลายตัวได้ เร็วถ้ าอยูใ่ นด่าง หรื อแสงสว่าง
วิตามินบี 2 พบมากในอาหารจาพวก เครื่ องในสัตว์ ไข่ นม เป็ นต้ น
4
วิตามินบี 2 หรื อ Riboflavin ทาหน้ าที่เป็ น coenzyme
ของ enzyme หลายชนิด โดยอยูใ่ นรูปของ FMN (flavin mono nucleotide) และ FAD (flavin adenine dinucleotide)
FMN จะเกี่ยวข้ องกับ metabolism ของกรดไขมัน และ วิตามินบี 6
FAD เกี่ยวข้ องกับการสร้ างพลังงาน และสังเคราะห์ Niacin จาก
กรดอะมิโน Tryptophan ช่วยในการเผาผลาญคาร์ โบไฮเดรต
ไขมัน โปรตีน ทาให้ ร่างกาย เจริญเติบโตและพัฒนาอย่างเหมาะสม
5
เมื่อร่างกายขาดวิตามิน บี 2 จะมีอาการแสดงทางตา ริมฝี ปากและ
ผิวหนัง เริ่มแรกนันริ
้ มฝี ปากจะอักเสบ แห้ งและแตก มุมปากจะซีด แตก
เรี ยกลักษณะดังกล่าวว่าปากนกกระจอก [Angular stomatitis]
และเมื่อเป็ นมากขึ ้นจะมีอาการทางผิวหนัง ใบหน้ ามีสะเก็ดมันๆ ต่อมาจะ
มีอาการอักเสบของตา ตาสู้แสงไม่ได้ คันตาและแสบลูกตา
6
ปริมำณทีแ่ นะนำ
ทารก ต้ องการประมาณ 0.4 - 0.6 มิลลิกรัม/วัน
หญิงให้ นมบุตร มากกว่า 0.5 มิลลิกรัม/วัน
เด็ก 0.8 - 1.2 มิลลิกรัม/วัน
ผู้ใหญ่ 1.2 - 1.7 มิลลิกรัม/วัน
หญิงตังครรภ์
้
มากกว่า 3 มิลลิกรัม/วัน
ทังนี
้ ้ขึ ้นอยูก่ บั สภาพร่างกาย และการขับออกของร่างกาย แต่ถ้ามี
การสร้ างการเจริญเติบโต ความต้ องการวิตามินบี 2 จะเพิ่มขึ ้นตาม
7
การย่อยและการดูดซึม
วิตามินบี 2 จะอยุใ่ นอาหารในรูป FMN และ FAD เมื่อเข้ าสู่
ร่างกายจะถูกเปลี่ยนให้ อยูใ่ นรูป Riboflavin อิสระ โดยมีเอนไซม์
Pyrophosphatase และ Phosohatase มาย่อยหมุ่
Phosphate ให้ หลุดออกไป จากนันก็
้ จะจับกับโปรตีน albumin
ในกระแสเลือดเพื่อขนส่งไปยังอวัยวะเป้าหมาย จากนันก็
้ จะมีการเติม
หมู่ Phosphate เพื่อจะเปลี่ยนให้ อยุใ่ นฟอร์ มที่แอคทีฟ คือ FMN
และ FAD จากนันก็
้ จะไปจับกับเอนไซม์จาเพาะเพื่อให้ ได้ เอนไซม์ที่
สมบูรณ์
1
8
Riboflavin + phosphate = FMN
FMN + Adenyl mononucleotide = FAD
9
procedure
Sample ~2-10 g
0.1 N HCl 50 ml
ย่อยใน autoclave 120 ๐c
30 min จากนันท
้ าให้ เย็น
11
Enzyme
Takadiastase
solution 5 ml
อบที่อุณหภูมิ 38 ๐c
ทั้งคืน
จากนั้นทาให้เย็น
12
ล้ างตัวอย่างด้ วยน ้ากลัน่ ปรับปริ มาตรเป็ น 200 ml
กรองตัวอย่างด้ วยกระดาษกรองเบอร์ 2
เก็บไว้ ในตู้เย็น
13
ปิ เปต สารตัวอย่าง 10 ml ลงใน test tube columns B2
A
น ้ากลัน่ 1 ml
B
Glacial acetic acid 1 ml
3% KMnO4 0.5 ml
3% H2O2 0.5 ml
Working std.
vit. B2 1 ml
14
SPECTROFLUOROMETER
15
หลักการทางานของเครื่ อง
SPECTROFLUOROMETER
16
ปิ เปต 2.6 (ชุด A) ml = วัดค่า A
(ชุด A) เติม 5% Na2S2O4 ใน 2% NaHCO3
0.5 ml = วัดค่า C
ปิ เปต 2.6 ml (ชุดB) = วัดค่า B
“ Wavelength Excitation 440 nm Emission 565 nm ”
17
วิธีกำรคำนวณปริมำณวิตำมินบีสอง
A-C
B-A
*
1
Wt.sample
18
อ้ ำงอิง
นัยนา บุญทวียวุ ฒ
ั น์.2546.ชีวเคมีทางโภชนาการ.กรุงเทพ:ภาควิชาโภชนวิทยา
มหาวิทยาลัยมหิดล
สิริพันธุ์ จุลกรั งคะ.2550.โภชนศาสตร์ เบือ้ งต้ น.กรุ งเทพ:ภาควิชาคหกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
http://www.il.mahidol.ac.th
http://www.nutritionalthailand.com
http://www.tistr-foodprocess.net
19