Transcript คลิก
Computer graphic
กราฟิ ก = ?
คอมพิวเตอร์ = ?
ความหมาย คอมพิวเตอร์ / กราฟิ ก
มาจาก กราฟิ ก คือ ภาพหรือสิ่งที่เราเห็นเป็ นเส้น สี เสียง
รูปแบบการสื่อสารรูปแบบหนึ่ ง ที่ใช้ศิลปะมาเกี่ยวข้อง เพื่อให้
การสื่อสาร ระหว่างผูส้ ่ื อสาร กับ ผูร้ บั สาร เข้าใจตรงกัน
กับ คอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์ท่ีใช้ในการประมวลผลและ
แสดงผลข้อมูล
คอมพิวเตอร์ + กราฟิ ก = ?
ความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิ ก
การสร้างและการจัดการกับภาพกราฟิ ก เช่น ข้อมูลในรูปของ
เส้นกราฟ แผนภาพ แผนภูมิ โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการ
ทาให้อยู่ในรูปแบบที่ชดั เจนและเข้าใจง่ายมากขึ้ น
ประวัติของคอมพิวเตอร์กราฟิ ก
ปี 1940
คอมพิวเตอร์แสดง
ภาพกราฟิ กโดยใช้
เครื่องพิมพ์ โดยรูปภาพที่
ได้เกิดจากการนาตัวอักษร
มาประกอบกันเป็ นรูปภาพ
การวิจยั พัฒนาคอมพิวเตอร์กราฟิ ก
• ปี 1949
สถาบันเอ็มไอที
(Massachusette Institute
Technology) ได้พฒ
ั นาระบบ
คอมพิวเตอร์เวิรล์ วินด์
(Whirlwind)
รวมเทคโนโลยีเรดาร์และคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน
ประวัติของคอมพิวเตอร์กราฟิ ก
• ปี 1950
มีการพัฒนาโดยใช้
คอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดภาพ
CRT (Cathode Ray Tube)
เป็ นส่วนแสดงผลแทน
เครื่องพิมพ์เนื่ องจากทาให้การ
ติดต่อระหว่างผูใ้ ช้กบั
คอมพิวเตอร์มีความรวดเร็ว
ยิ่งขึ้น
ประวัติของคอมพิวเตอร์กราฟิ ก
ปี 1950
ระบบ SAGE ของ
กองทัพอากาศของ
สหรัฐอเมริกาสามารถแปลง
สัญญาณจากเรดาร์ให้เป็ นภาพ
บนจอคอมพิวเตอร์ได้ระบบนี้
เป็ นระบบกราฟิ กเครื่องแรกที่
ใช้ปากกาแสง (Light Pen)
ประวัติของคอมพิวเตอร์กราฟิ ก
ปี 1950-1960
มีการทาวิจยั เรื่องเกี่ยวกับ
ระบบคอมพิวเตอร์กราฟิ ก
เป็ นจานวนมากและต่อมา
ได้กลายเป็ นต้นแบบของ
ระบบกราฟิ กสมัยใหม่
ประวัติของคอมพิวเตอร์กราฟิ ก
• ปี 1968
บริษทั Tektronix ได้ผลิต
จอภาพแบบเก็บภาพไว้ได้
จนกว่าต้องการจะลบ
(Storage Tube CRT) ซึ่ง
ระบบนี้ ไม่ตอ้ งการ
หน่ วยความจาและระบบการ
วาดซา้ จึงทาให้มีราคาถูก
ประวัติของคอมพิวเตอร์กราฟิ ก
• ปี 1970
เป็ นช่วงที่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
เริ่มมีราคาลดลงมากทาให้
ฮาร์ดแวร์ของระบบคอมพิวเตอร์
กราฟิ กมีราคาถูกลงตามไปด้วย
ทาให้คอมพิวเตอร์กราฟิ กเริ่ม
แพร่หลายมากขึ้ น
ระบบกราฟิ กแบบอินเทอร์แอคทีฟ
• ประกอบไปด้วยส่วนสาคัญ 4 ส่วนคือ
คอมพิวเตอร์
จอภาพสาหรับการแสดงภาพ
อุปกรณ์ขอ้ มูล
ข้อมูลจากผูใ้ ช้และอุปกรณ์สาหรับพิมพ์
ภาพ
จอภาพสาหรับการแสดงภาพ
• เป็ นชนิ ดเดียวกับจอภาพ CRT ประกอบไป
ด้วยส่วนสาคัญคือ ปื นอิเลกตรอน
(Electron Gun) ซึ่งเมื่อร้อนจะปล่อย
ประจุลบออกมา ประจุลบจะวิ่งไปหาประจุบวก
ซึ่งอยู่ท่ีจอภาพที่ฉาบดวยสารฟอสเฟอร์
ระหว่างที่ประจุลบวิ่งไปนัน้ จะต้องผ่านระบบ
ปรับโฟกัส และระบบเบี่ยงเบนประจุ ซึ่งเป็ นตัว
บังคับให้ประจุลบวิ่งกระทบจอในตาแหน่งที่
ต้องการได้
จอภาพแบบแรสเตอร์สแกน
• ใช้กบั เครื่อง
ไมโครคอมพิวเตอร์
โดยทัว่ ไป โดยแบ่ง
หน้าจอออกเป็ นจุดเล็ก
ๆ จานวนมาก ซึ่งเป็ น
ส่วนประกอบของภาพที่
เรียกว่าพิกเซล (Pixel:
Picture Elements)
จอภาพแบบไม่ตอ้ งการการรีเฟรช
(Direct-view Storage Tube (DVST)
• เป็ นจอภาพ CRT ที่ไม่ตอ้ งการการ
รีเฟรชเนื่ องจากจอภาพมีคุณสมบัติ
พิเศษสามารถทาให้จุดสว่างบน
จอภาพคงอยู่ได้นานถึงประมาณ 1
ชัว่ โมงไม่จางหายไปแบบจอ CRT
ทัว่ ไป
จอภาพแบบผลึกเหลว
(Liquid-crystal Display (LCD)
เป็ นจอภาพที่มีลกั ษณะพิเศษแตกต่างจาก
จอภาพแบบ CRT คือ เป็ นจอภาพที่ไม่ตอ้ งการมี
หลอดภาพแบบจอภาพ CRT ทาให้จอภาพแบบนี้
มีความหนาลดลง
อุปกรณ์รบั ข้อมูล
แป้นพิมพ์ (Keyboard)
เมาส์ (Mouse)
จอยสติกส์ (Joystick)
ปากกาแสง (Light pen)
ดิจิไตเซอร์ (Digitizer)
อุปกรณ์การแสดงผล
จอภาพ (Display)
เครื่องพิมพ์ (Printer)
เครื่องวาด (Plotter)
อุปกรณ์การแสดงผล