เครื่องมือการจัดการความรู้

Download Report

Transcript เครื่องมือการจัดการความรู้

เครือ
่ งมือการจัดการ
ความรู ้
Knowledge Management Tools
ผศ.ดร. วิภาดา เวทย ์ประสิทธิ ์
ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร ์ คณะวิทยาศาสตร ์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร ์
Email : [email protected]
่ นสู
้ ก
บันไดสีขั
่ ารเรียนรู ้
(Learning)4
เรียนรู ้
เลียนแบบ พัฒนาต่อ
3
เลียนรู ้
ร ับมา ทาเลียนแบบ
2
ร ับรู ้
แต่อาจไม่ได้นาไปใช้
1
ไม่รู ้
ไม่รู ้ ไม่ช ี ้ vs. ไม่รู ้ แล้วชี ้
2
่
เครืองมือของการจัดการความรู ้
 ชุมชนแนวปฏิบตั ิ
(Communities of
Practice – CoP)
 ฐานความรู ้ความสาเร็จ
(Best
Practices
Databases)
 ฐานความรู ้บทเรียน
(Lessons Learned
Databases)
3
่
เครืองมือของการจัดการความรู ้
(
ต่
อ
)
่
 การเล่าเรือง (Story Telling)
 ทบทวนหลังการปฏิบตั ิ
(After Action Reviews –
AAR)
่ กษาหรือพีเลี
่ ยง
้
 การใช ้ทีปรึ
(Monitoring Programs)
 การเสวนา (Dialogue)
่
่
 เพือนช่
วยเพือน
(Peer Assist)
4
เครือ
่ งมือจัดการความรู ้
(Knowledge
Management Tools)
ื การ
จากหนั งสอ
จัดการความรู ้
่ ารปั ญญาปฏิบต
สูก
ั ิ
โดย อ.บดินทร์ วิจารณ์
Mapping โดย ภก.ประชาสรรณ์ แสนภักดี
Download ได ้จาก www.prachasan.com
5
ชุมชนนักปฏิบต
ั ิ CoP
แนว
ปฏิบต
ั ิ
Domain
ชุม
ชุมชนแห่งการปฏิ
ั ิ เปรียบเหมือน
ชนบต
้
เก ้าอีสามขา
6
ชุมชนนักปฏิบต
ั ิ CoP
่
เป นกลุ มคนทีมารวมตั
วกันอย
างไม เป นทางการ
่
่
มีวต
ั ถุประสงค เพือแลกเปลี
ยนเรี
ยนรู
สร างองค ความรู ใหม ๆ
่
มาจากคนทีอยู
ในกลุ มงาน
เดียวกัน
่
่
่ งร
หรือมีความสนใจในเรืองใดเรื
องหนึ
วมกัน
7
ชุมชนนักปฏิบต
ั ิ CoP
มีความแตกต างจากการจัดตัง้ ทีมงาน
เนือ
่ งจากเป นการร วมกัน.......อย างสมัครใจ
........
ควรมีการบันทึกสงิ่ ทีเ่ รียนรู ระหว างกัน
ให แรงจูงใจหรือรางวัล....
ิ ทีใ่ ห ความร วมมือและ
สําหรับสมาชก
แลกเปลีย
่ นเรียนรู
เพือ
่ เป นตัวอย างแก คนอืน
่ ๆต อไป
ควรส งเสริมให CoP มีการเติบโตและ
ขยายตัว
8
สร ้างชุมชนนัก
ปฏิ
บ
ต
ั
ิ
Expert 5%
Training Professional
40%
Expert in Community
of Practice 100%
9
CoP พัฒนาสู่ LO
CoP3
CoP4
CoP2
CoP5
CoP6
CoP1
CoP7
CoP8
Create
CoP10
CoP9
CoP11
Learn
Share
CoP1
Use
Capture
10
ระดับการเข าร วมใน ชุมชนนัก
แสดงระดับการเข าร วมในชุมชนนักปฏิบ
11
้ ป
การใชที
่ รึกษาหรือพีเ่ ลีย
้ ง
(Mentoring System)
–เป นวิธก
ี ารถ ายทอดความรู แบบตัวต
อตัว
–เป นวิธก
ี ารหนึ่ งในการสอนงานและให คา
แนะนาอย างใกล ชิด
–นอกจากจะให คาปรึกษาในด านการงาน
่ กษาในเวลามีป ญหา
แล ว ยังเป นทีปรึ
หรือสับสน
12
การทบทวนหลังการปฎิบต
ั ิ
(After Action Review - AAR)
่
เป นกิจกรรมทีใช
ทบทวนหรือประเมินผลของ
้ั
กิจกรรมชุมชนนักปฏิบต
ั ิ (CoP) ในแต ละครงว
้
ามีจด
ุ ดีจด
ุ ด อย รวมทังโอกาสและอุ
ปสรรค
่
อย างไรในการทา CoP เพือเป
นข อมูลในการ
้ั
ปร ับปรุงการทา CoP ในครงต
อไปให ดีขน
ึ ้ รวม
้
ทังเป
นการเป ดโอกาสให สมาชิกในกลุ มได
่
เสนอแนะข อคิดเห็13นต างๆเพือการปร
ับปรุง
AAR (After Action Review)
คาถามในการทา AAR
่ บรรลุ
่
1. สิงที
เป าหมายคืออะไร
่ เกิ
่ นความคาดหวังคืออะไร
2. สิงที
่ ต
่ ากว่
่
3. สิงที
าความคาดหวังคืออะไร
4. คิดจะกลับไปทาอะไรต อ
14
การเสวนา
(Dialogue)
15
ฐานความรู ้บทเรียน
(Lesson Learned)
• ฐานความรู
(Knowledge Bases)
่
– เป นการเก็บข อมูลความรู ต างๆ ทีองค
กรมี ไว ในระบบฐานข อมูล
– สามารถเข าถึงข อมูลได ตลอดเวลาผ าน
่ ได
ระบบอินเทอร เน็ ต อินทราเน็ ต หรือระบบอืนๆ
อย างสะดวกรวดเร็วและถูกต อง
้
– ควรคานึ งถึงความพร อมของโครงสร างพืนฐาน
16
่
เพือสนั
บสนุ นระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศด วย
วิธป
ี ฎิบต
ั ท
ิ เี่ ป็ นเลิศ
BP
(Best Practice - BP)
• การจัดเก็บความรู และวิธป
ี ฏิบต
ั ท
ิ เป
ี่
นเลิศในรูปของเอกสาร
– เป นการจัดเก็บข อมูลขององค กรใน
รูปแบบง ายๆ
่
– เพือความสะดวกในการค
นหาและนาไปใช
17
แหล่งผู ้รู ้ในองค์กร
(Center of Excellence
- CoE)
18
แนวปฏิบต
ั ิ :TKC กลุม
่ โรคเบาหวาน
่
ผูเ้ ชียวชาญ
19
แนวปฏิบต
ั ิ :TKC กลุม
่ โรคเบาหวาน
่
ผูเ้ ชียวชาญ
20
การเล่าเรือ
่ ง
(Story Telling)
• สร างความสมดุลระหว าง
ความน าสนใจในการบรรยาย
่
้
่
เรืองและเนื
อหาที
ต
องการสือ่
21
่
เป็ นตัวเชือมต่
อความรู ้ ความเข ้าใจใน
ผู ้ฟังให ้เกิดความคิดใหม่ๆ
กระตุ ้นให ้ผู ้ฟังนาบทเรียนไปใช ้กับงาน
ของตนเอง
ไม่ทาให ้เกิดช่องว่างของการรู ้กับการ
ปฏิบต
ั ิ
่
เล่าเรืองในประเด็
นเดียวกันแต่สะท ้อน
ความรู ้/วิธก
ี ารคนละแบบ
เข ้าใจง่าย
เล่าจากมุมมองของคนสาคัญ
คนใดคนหนึ่ ง
มีการสอดแทรกแนวคิด
้ นาน
เกิดขึนไม่
่
เป็ นเรืองจริ
ง
้ หนึ่ งเรืองมี
่ ประเด็น
เล่าสันๆ
เดียว
จบลงด ้วยความสุข ลักษ
ณะ
ข้อดี
STORY
TELLING
ผลที่
ได้
่
ก่อให ้เกิดความรืนรมย
์
ถ่ายทอดข่าวสาร
ร ักษาวัฒนธรรม
สร ้างพันธภาพ สร ้างชุมชน
่
 เกิดการเปลียนแปลงของ
ข ้อควร
คานึ ง
22
ให ้ผูฟ
้ ังตัดสินใจเอง
เล่าเฉพาะเหตุการณ์และผลที่
เกิดขึน้
่ จะ
่
วิเคราะห ์คุณค่าของเรืองที
เพือ
่ นชว่ ยเพือ
่ น
(Peer Assist)
23
เวทีถาม-ตอบ
(Forum)
–จัดการประชุมหรือกิจกรรมอย
างเป นกิจลักษณะอย าง
สม่าเสมอ
–เช นการสัมนา และการประชุม
24
อืน
่ ๆ
(Others)
• สมุดหน าเหลือง (Yellow
Pages)
้ มข ามสายงาน
• จัดตังที
(Cross-Functional Team)
่
• การสับเปลียนงาน
(Job Rotation)
และการยืมตัวบุคลากรมาช วยงาน
(Secondment)
25
คุณอํานวย
FA
Facilitator
ความหมายคุณอานวย
อานวยความสะดวก
ลดความยุ่งยากหรืออุปสรรค
้
ทาให้ง่าย หรือ ง่ ายขึน
่ อกิจกรรมทังก่
้ อน
ดาเนิ นการทาหน้าทีหรื
่ วยให้กลุม
ระหว่าง และหลังการประชุม เพือช่
่
ได้บรรลุเป้ าหมายของตนเอง
27
บทบาทของคุณอานวย
ช่วยเหลือ
นาทางไม่ใช่ควบคุม
่ ้างสรรค ์ และ
• ช่วยให้กลุ่มได้มก
ี ารสนทนาทีสร
จะต้องช่วยให้กลุ่ม กาหนดวาระ/ประเด็น และ
บริหารกระบวนการอภิปราย
่ าให้
• ผู น
้ าทางด้านกระบวนการ เป็ นคนทีท
้ หรือสะดวก คล่องตัวขึน
้
กระบวนการง่ ายขึน
28
คุณอานวย
นากลุม
่ ไปสูก
่ ารหาคาตอบ
สร ้างวิสยั ทัศน์ และพัฒนาแผน
่
่
ซึงจะจู
งใจทุกคนให ้นาเป้ าหมายทีตกลงกั
น
ไว ้ ไปสูค
่ วามสาเร็จ
่ อนผูอ้ านวยเพลง สร ้าง
ทาหน้าทีเหมื
ความสอดประสานกลมกลืน และนา
ศักยภาพ ความสามารถของทุกคน ให ้
ทุกคนมีสว่ นสร ้างความสาเร็จ
จะต ้องเป็ นผูส้ อสารและสร
ื่
้างความเข ้าใจระหว่างหน่ วยงาน
29
คุณอานวยไม่ใช่.....
 โฆษกของกลุม่
 ครูผูบ้ รรยาย
 กรรมการผูต้ ดั สิน
 ผูส้ งั เกตการณ์
 ผูน้ าหรือเจ ้านาย
่
้
 ผูเ้ ชียวชาญในเนื
อหา
30
ออกแบบ
ให ้ทุกคนมีสว่ นนา
ความสาเร็จสูเ่ ป้ าหมาย
่
ทีตกลงร่
วมกัน
นาอย่างไม่
ครอบงา
บริหาร
การ
อานวยกลุม
่
กระบวนการ
่ นกลาง
ทีเป็
เน้นทาอย่างไร
มากกว่าทาอะไร
อานวยความสะดวก
ทาให ้ง่ายขึน้
่
สือสาร
สร ้างความ
เข ้าใจ
31
ใช ้พลังศักยภาพ
จากสมาชิกกลุม
่
Q&A