พลายงามซึ่งเป็ นลูกของขุนแผนกับนางวัน ทอง เมื่อชนะความขุนช้าง ก็ได้กลับมาอยูบ่ า้ นกับญาติ อย่างสุ ขสบาย ขาดก็แต่มารดาตน พลายงามคิด ว่าแม่วนั ทองไม่ควรอยูเ่ คียงคู่กบั ขุนช้าง หรื อคงเป็ นเคราะห์กรรม ของแม่วนั ทองถึงต้องมาอับอายแบบนี้ พ่อก็เป็ นถึงขุน นาง แต่แม่กลับไปอยูก่ บั.

Download Report

Transcript พลายงามซึ่งเป็ นลูกของขุนแผนกับนางวัน ทอง เมื่อชนะความขุนช้าง ก็ได้กลับมาอยูบ่ า้ นกับญาติ อย่างสุ ขสบาย ขาดก็แต่มารดาตน พลายงามคิด ว่าแม่วนั ทองไม่ควรอยูเ่ คียงคู่กบั ขุนช้าง หรื อคงเป็ นเคราะห์กรรม ของแม่วนั ทองถึงต้องมาอับอายแบบนี้ พ่อก็เป็ นถึงขุน นาง แต่แม่กลับไปอยูก่ บั.

พลายงามซึ่งเป็ นลูกของขุนแผนกับนางวัน
ทอง เมื่อชนะความขุนช้าง ก็ได้กลับมาอยูบ่ า้ นกับญาติ
อย่างสุ ขสบาย ขาดก็แต่มารดาตน พลายงามคิด ว่าแม่วนั
ทองไม่ควรอยูเ่ คียงคู่กบั ขุนช้าง หรื อคงเป็ นเคราะห์กรรม
ของแม่วนั ทองถึงต้องมาอับอายแบบนี้ พ่อก็เป็ นถึงขุน
นาง แต่แม่กลับไปอยูก่ บั คนจัญไร รู ปร่ างน่าเกลียด ใจคอโหดเหี้ยม ไม่รู้วา่ แม่วนั ทองไป
รักไอขุนช้างได้อย่างไร วันก่อนดาน้ าพิสูจน์ ขุนช้างแพ้ สมเด็จพระพันวษาจึงรับสัง่ ให้
ประหารชีวติ ขุนช้าง เมื่อมันแพ้ ก็คิดจะฆ่าพลายงาม และที่ทาให้พลายงามยิง่ แค้น เมื่อแม่
วันทองขอให้พลายงามไปทูลขอชีวติ ขุนช้างไว้ พลายงามอยากจะให้มนั ตายไป แต่ดวง
มันยังดี พลายงามจะไปรับแม่วนั ทองกลับมาอยูก่ บั พ่อขุนแผน ให้หลุดพ้นจากคนชัว่ สัก
ที เมื่อยิง่ คิดก็ยงิ่ ทาให้พลายงามโกรธ พอท้องฟ้ าเริ่ มมืด ไม่มีเสี ยงคน พลายงามได้เซ่น
อาหารให้พรายกิน เสกขมิ้น เอาว่านยาทาตามตัว ลงยันต์ และเอาสิ่ งมงคลใส่ หวั เสร็ จก็
บริ กรรมคาถา ลงจากเรื อน และรี บไปที่บา้ นของขุนช้าง
เมื่อขุนช้างมาถึงเห็นคนนอนหลับกันหมด
ประตูปิดสนิท มีกองไฟสว่างอยูห่ น้าบ้าน พลายงามรี บมา
ที่หน้าประตู ร่ ายมนต์สะกดพวกพรายของขุนช้าง มันจึง
ต่างพากันวิง่ หนี ผูค้ นในบ้านต่างก็ง่วงหลับด้วยมนต์ของ
พลายงาม นอนทับกันไปมา พลายงามจึงใช้ให้พรายไป
ถอดกลอนประตู และก้าวเข้าไปถึงเรื อนของขุนช้าง พลายงามจุดเทียนร่ ายมนต์สะกด
โปรยข้าวสารเสกใส่ ทาให้ภูตพรายหนีกนั อลหม่าน จึงสะเดาะบานหน้าต่าง เข้าไปข้างใน
ห้อง ต้องสะเดาะกลอนประตูถึง 3 ชั้น เมื่อเข้าไปถึงในห้องมีท้ งั กระจกฉาก และม่านมู่ลี่ที่
กั้นอยู่ เมื่อพลายงามเดินมาถึง พลายงามจึงเปิ ดมุง้ และเห็นขุนช้างนอนกอดแม่วนั ทองอยู่
จึงเจ็บใจจนอยากจะชักดาบมาฆ่ามัน คิดจะถีบขุนช้างก็กลัวจะถูกแม่วนั ทอง พลายงามจึง
นัง่ ลงและยกมือไหว้ สะอื้นในอกถึงกับน้ าตาคลอ “แม่ วนั ทองของลูก ไม่ น่าจะจากพ่อ
ขุนแผนมาเลย เพราะเวรกรรมขุนช้ างมันจึงฉุดแม่ วนั ทองมา” พลายงามได้แม่ และได้ขอ
ขมาไล่พราย พร้อมทั้งเป่ ามนต์ให้แม่วนั ทองตื่นขึ้นมา
เมื่อแม่วนั ทองรู้สึกตัว ตื่นขึ้นมา สายตามองไปเห็นพลายงามแต่คิดว่าเป็ นโจร จึงเข้ากอด
ขุนช้างด้วยความกลัว พลายงามปลอบ บอกนางวันทองว่า ลูกพลายงามเอง แม่อย่าตกใจ
เมื่อนางวันทองรู้วา่ เป็ นพลายงามจึงไม่คิดกลัว พลายงามเข้ามากอดแม่ต่างพากันร้องไห้
นางวันทองจึงได้ถามพลายงามว่า “ลูกเข้ ามาได้ อย่ างไร ขุนแผนใช้ ให้ มา หรือว่ าพลายงามมาเอง”
และนางวันทองก็ได้ต่อว่า พลายงามว่า “ทาอะไรไม่ เคยกลัวภัย ถ้ าขุนช้ างตื่นขึน้ มาจะไม่ ดี พลาย
งามมีเรื่องอะไรก็รีบบอกแม่ มา แล้ วรีบกลับบ้ านไป อย่ าทาตัวกล้ าหาญ อย่ างขุนแผนมันไม่ ด”ี
พลายงามเมื่อได้ฟังดังนั้น ก็รับสารภาพพร้อมทั้งก้มลงกราบ ยอมรับว่าตนทาผิด และ
กลัวความผิดเหมือนกัน แต่กห็ กั ใจมาเพราะรักแม่วนั ทอง จึงบอกแม่วนั ทองว่า “อยากให้ แม่ ไปอยู่
ด้ วย พีน่ ้ องฝั่งพ่อก็อยู่ครบ มีท้งั บ่ าวไพร่ เงินทอง ขาดก็แต่ แม่ คนเดียวอย่ าอยู่กบั ขุนช้ างเลย
หน้ าตามันน่ าเกลียด เหมือนแมลงวันเน่ ามาบินตอมดอกไม้ ที่สวยงาม แม่ เลีย้ งลูกมาถึง 7 ขวบ
เพราะเคราะห์ กรรมของแม่ ถึงต้ องจากกัน แม่ วนั ทองคิดถึงลูกบ้ างไหม หรือว่ าแม่ ไม่ คดิ ถึงลูกเลย
ถ้ าแม่ ยงั เอ็นดูลูกอยู่ แม่ รีบไปกับอยู่กบั ลูก เหมือนครั้งที่แม่ เคยเลีย้ งดูลูกมา” พลายงามอ้อนวอนแม่
เมื่อนางวันทองได้ยนิ ที่พลายงามกล่าวก็รู้สึกไม่ดี จึงบอกพลายงามว่า “แม่ กเ็ สี ยใจ
ใช่ ว่ามีเงินทอง บ่ าวไพร่ ช้ างม้ า แล้ วจะมีความสุ ข ทุกวันนีแ้ ม่ ไม่ ได้ มีความสุ ขเลย ทุกข์ ใจที่
ต้ องมาทนกรรมอยู่อย่ างนี้ ตอนที่พ่อขุนแผนเข้ าคุกตอนที่แม่ ยงั ท้ องแก่ ขุนช้ างก็ไปฉุดแม่ มา
ถึงพ่อขุนแผนจะเล่ าให้ พลายงามฟัง แต่ ลูกก็ไม่ รู้ ว่าแม่ ทุกข์ ใจยังไง แม่ อยู่กบั ขุนช้ างมาหลายปี
เมื่อขุนแผนกลับมาจากชียงใหม่ กไ็ ม่ พูดจาสั กคา แม่ เป็ นคนกลาง ก็วางบทคืนให้ กบั บิดา พลาย
งามเป็ นถึงหัวหมื่นมหาดเล็ก เจ้ าจงฟังแม่ พลายงามรีบกลับไปหาพ่อขุนแผน ฟ้ องหากราบทูล
พระองค์ โปรดประทานให้ จะเป็ นสิ่ งที่ดกี ว่ า แต่ ถ้าจะมาลักพาแม่ ไป แม่ ไม่ ได้ เต็มใจที่จะไป”
เมื่อพลายงามได้ฟังแล้วรู้วา่ แม่คงไม่ไปแน่ จึงพูดบ่ายเบี่ยงว่า “แม่ รักขุนช้ าง
มากกว่ าพ่อขุนแผน ลูกจะมารับแม่ กลับไป แม่ กไ็ ม่ ยอมกลับ เหมือนว่ าแม่ ไปได้ รักลูกแล้ ว มา
รับแม่ กไ็ ม่ ไป ลูกเป็ นลูกผู้ชาย ไม่ อยากอายเพือ่ นจะรับแม่ กลับไปให้ ได้ ถ้ าแม่ ไม่ ไป ถึงจะ
บาปกรรมยังไงก็ช่างมัน ลูกจะตัดเอาศีรษะของแม่ ไป ทิง้ ตัวของแม่ ไว้ ที่นี่ แม่ อย่ าคิดช้ า จวน
สว่ างจะได้ รีบไป”
เมื่อนางวันทองเห็นพลายงาม ถือดาบยืนแก่วงไปมา
ก็ตกใจกลัวลูกจะฆ่า จึงปลอบพลายงามไปว่า “อย่ าใช้ อารมณ์
จงคิดให้ เห็นถึงข้ อสาคัญ แม่ กก็ ลัวว่ าจะเกิดเรื่องว่ ามาลักพาตัว
ไป แม่ คดิ ถึงข้ างหน้ าจึงได้ ห้ามลูก แต่ ถ้าลูกเห็นว่ ามันเป็ น
ความสุ ข แม่ กจ็ ะไปกับลูก” นางวันทองเสี ยใจจนน้ าตาไหล
พลายงามจึงได้พานางวันทองไป พอเช้าก็มาถึงเรื อนของพลาย
งาม
ขุนช้างยังนอนกรนอยู่ และได้ฝันว่าเป็ นขี้เรื อนทั้งตัว หาหมอมา ปรอทได้กิน
ปอด ตับไต ทั้งไส้นอ้ ยไส้ใหญ่ ฟันก็หกั หมดทั้งปาก ขุนช้างจึงตกใจตื่น ตัวสัน่ ร้องให้นาง
วันทองช่วย กลัวว่าปรอทจะตอดตาย ขุนช้างมองหานางวันทอง ก็ไม่พบ เห็นม่านขาดจึง
ประหลาดใจ ขุนช้างเรี ยกนางวันทองก็ไม่มีเสี ยงขานรับ ทั้งข้าวของมากมายก็หายไป
ประตูกเ็ ปิ ดไว้ไม่ได้ใส่ กลอน ขุนช้างจึงเรี ยกหาบ่าวไพร่ ท้ งั หลายให้มาหา บ่าวผูห้ ญิงวิง่ มา
เห็นขุนช้างยืนแก้ผา้ อยู่ จึงนัง่ บังประตูไว้ ไม่กล้าเข้าไปในห้อง ขุนช้างเห็นไม่มีใครเข้าไป
จึงโมโหลุกเดินออกไป ยายจันจึงยกมือไหว้ถามว่า “ขุนช้ างจะไปไหน ไม่ น่ ุงผ้ าก่ อน
หรอ”
ขุนช้างมองดูกต็ กใจ ยืนเอามือปิ ดไว้ และโวยวาย
ว่าใครเอาผ้าของตนไป แล้วสัง่ ให้ยายจันให้เอาผ้ามาให้
พร้อมถามบ่าวไพร่ วา่ “นางวันทองไปไหน ให้ ไปดูหน่ อย
เมื่อเจอแล้ วก็บอกให้ มาหาด้ วย”
บ่าวไพร่ เมื่อได้ฟังที่ขนุ ช้างบอก ต่างพากันหานางวันทอง
ทั้งนอกห้องในห้อง ก็ไม่พบ จึงมาบอกขุนช้างว่าไม่พบ
นางวันทอง
เมื่อขุนช้างได้ฟังบ่าวไพร่ บอก ก็นึกแค้นใจ “ สองสามครั้งแล้ วที่นางวันทองคิด
หนี ครั้งก่ อนก็หนีไปกับขุนแผน แล้ วคราวนีห้ นีตามใครไป ยังจะคิดหลบหนีไปได้ เอาเถิด
หนีไปไหนก็ไป แต่ ถ้าเอาคืนกลับมาไม่ ได้ ไม่ ใช่ กู” ขุนช้างพูดด้วยความโมโห
พลายงามเมื่อนึกถึงคาที่นางวันทองพูด ก็กลัว ถ้าขุนช้างมันรู้วา่ ลักพาแม่วนั ทองมา คง
ไปกราบทูลสมเด็จพระพันวษา แม่วนั ทองก็คงต้องได้รับโทษ พลายงามจึงเรี ยกหมื่นวิเศษ
มา เพราะเห็นว่าเป็ นคนอัธยาศัยดี จึงให้หมื่นวิเศษไปที่บา้ นขุนช้าง ให้ไปไกล่เกลี่ยอย่าให้
ขุนช้างมันโกรธ ให้บอกว่า “พลายงามเป็ นไข้ มาหลายวัน กลัวว่ าจะไม่ ได้ เห็นหน้ าแม่ ขอ
แม่ มาอยู่ที่นี่ก่อน ถ้ าพอหายไข้ แล้ วจะส่ งแม่ วนั ทองกลับไป”
หมื่นวิเศษจึงรี บไปที่บา้ นขุนช้าง แอบมองดูเห็นผูค้ นขวักไขว่ท้ งั เรื อนของขุนช้าง
และได้เห็นขุนช้างนัง่ อยูข่ า้ งหน้าต่าง จึงเดินเข้าไปอย่าไม่เป็ นทางการ แล้วลงคลานเข้าไป
ที่ประตู
หมื่นวิเศษเป็ นคนว่องไว จึงรี บยกมือขึ้นไหว้ ไม่วงิ่ หนี บอกว่า “เป็ นคนดี ไม่ ใช่ คน
พาล ข้ าพเจ้ าเป็ นบ่ าวของหมื่นไวย เป็ นบ่ าวรับใช้ ในบ้ าน ท่ านใช้ ให้ กระผมมากราบกราน ว่ าเป็ น
ไข้ มาหลายวัน รักษาเห็นจะไม่ หาย จึงใช้ ให้ ตัวข้ ามาบอก พอพบนางวันทอง จึงร้ องปลุก ในไม่
ช้ านางวันทองจึงลงมา และรีบไปตอนในกลางคืน ไปเป็ นพยาบาลคอยดูแลหมื่นไวยพอหายไข้
ขุนช้ างอย่ ากลัวว่ านางจะไปที่อนื่ จะให้ คามั่นสั ญญา เมื่อพอหายไข้ จะคืนนางวันทองกลับมา”
เมื่อขุนช้างได้ฟัง ก็โมโหมาก พร้อมพูดประชดบอกว่า “เราไม่ ได้ ว่าไร การเจ็บไข้
เป็ นกันได้ ตลอด ถ้ าขัดสนสิ่ งใดก็มาเอาที่นี่ไม่ ต้องเกรงใจ” พูดจบแล้วก็ปิดหน้าต่าง แล้งลง
นอนถอนหายใจ คิดว่า เพราะว่าตัวเองแพ้ความหมื่นไวยถึงได้กล้าทาแบบนี้ ถึงสองสามครั้ง
แล้วที่ทาแบบนี้ ครั้งตอนที่ขนุ แผนกลับจากเชียงใหม่ ชนะศึกกลับมา ก็ทาตัวดังราชสี ห์ มีลูก
เป็ นหมื่นไวย เห็นว่าตนติดโทษทัณฑ์ มันจึงข่มเหงกันไม่เกรงใจ จะพึ่งพาใครก็ไม่ได้ เพราะ
ลูกน้องมันก็ช่วยกันปิ ดหมด ยิง่ คิดก็ยงิ่ ทาให้ขนุ ช้างโมโห จึงหยิบกระดานชนวนมา ร่ างฟ้ อง
ด้วยถ้อยคาถี่ถว้ น เขียนลงกระดาษพับไว้ แล้วลุกขึ้นไปอาบน้ า ขุนช้างจึงรี บไปวังในหาสมเด็จ
พระพันวษา แต่เสร็ จประพาสบัวยังไม่กลับ จึงได้นงั่ คอยที่ใต้ตาหนัก
เมื่อสมเด็จพระพันวษา ได้เสร็ จกลับมาถึงก็เกือบ
ค่า พอเรื อพระที่นงั่ ประทับที่ ขุนช้างรี บลงไปที่ตีนท่า ลอย
คอชูหนังสื อจะให้สมเด็จพระพันวษาให้ได้ และได้โผล่
หน้ามาที่แคมเรื อ มหาดเล็กจึงได้พลัดตกน้ าไป ร้องบอกไป
ว่าเสื อตัวใหญ่วา่ ยน้ ามา ขุนช้างจึงดึงมือยึดเรื อไว้ บอกไปว่า
“เป็ นขุนช้ างเอง จะขอถวายฎีกาให้ ได้ เพราะไม่ สามารถทน
ได้ แล้ ว”
สมเด็จพระพันวษาได้โมโหขุนช้างว่า “มันไม่ ใช่ คน บนบกบนฝั่งใช่ ทางที่เข้ ามา
หรือว่ าขุนช้ างมันบ้ าไปแล้ ว” สมเด็จพระพันวษาจึงบอกให้คนรับฟ้ องมันไว้ และ ตีสัก
สามสิ บที แล้วค่อยปล่อยมันไป มหาดเล็กจึงรับฟ้ องไว้ของขุนช้างไว้ แล้วได้ลงอาญาตามที่
สมเด็จพระพันวษาได้สงั่ สมเด็จพระพันวษาจึงได้ต้ งั กฤษฎีกาว่า “ถ้ าใครประมาท ปล่ อยให้
คนเข้ ามาในวัง จะระวางโทษ ถึงประหารชีวติ ” เมื่อรับสัง่ เสร็ จได้ลงจากพระที่นงั่ แล้วเข้าวัง
ใน
ขุนแผนเป็ นผูท้ ี่เก่งกาจ ผูค้ นรู้จกั กันทัว่ อยูบ่ า้ นอย่างสุ ขสบาย มีนางลาวทองและนาง
แก้วกิริยาเป็ นเมียอยูค่ อยปรนนิบตั ิอยูข่ า้ งกายไม่เคยห่าง ทาให้ขนุ แผนมีความสุ ขตลอดเวลา
ตกดึกเมื่อนางลาวทองและแก้วกิริยาหลับ ขุนแผนผวาตื่น คิดถึงนางวันทองที่ห่างเหิน
กันมานาน ถึงสอง ครั้งที่นางวันทองได้จากขุนแผนไป “กูนี่กช็ ั่ว มัวรักแต่ นางลาวทองและ
แก้ วกิริยา ทิง้ ให้ นางวันทองต้ องเสี ยใจ ตอนกลับมาจากเชียงใหม่ ควรจะพูดให้ หายคล่ องใจ
ไป ขุนช้ างมันคงจะเถียงไม่ ได้ แต่ กลับเฉย”
ตอนนี้พลายงามได้ไปรับนางวันทองกลับมาแล้ว ขุนแผนจะไปหานางวันทอง คิดว่านางคง
คอยตนอยู่ ขุนแผนคิดแล้วพลางลุกขึ้นแต่งตัว ทาน้ าหอมฟุ้ ง แล้วเดินไปหานางวันทองที่เรื อน
ของพลายงาม ขุนแผนรี บตรงเข้าไปในห้องนางวันทอง เห็นนางวันทองกาลังหลับอยู่ จึงลงนัง่
ข้างๆนางวันทอง ขุนแผนจึงได้ปลุกนางวันทองว่า “อย่ านอนเลยพีม่ าหาแล้ ว”
เมื่อนางวันทองตื่นขึ้นมา เห็นว่าเป็ นขุนแผน ก็ทาเฉย คิดว่าที่มาหานี่ เพราะรักจริ งหรื อ
แกล้งทา นางวันทองนิ่งดูอยูน่ านไม่ยอมพูดจา นางวันทองทั้งรัก และทั้งแค้นขุนแผน
“น้ องจะนอนหลับอยู่ทาไม จะคิดเคืองพี่ คิดว่ าพีไ่ ม่ รัก พีไ่ ม่ เคยที่จะไม่ รักน้ อง พีผ่ ดิ จริง
อย่ านอนนิ่งอยู่เลย” ขุนแผนพูดจบพลางล้มตัวลงนอนข้างๆนางวันทอง จูบปลอบนางวันทองให้
หายเคือง
“ตื่นขึน้ มาเถอะ น้ องใจพีใ่ ช่ ไหมที่ไม่ ยอมพูดจา” ขุนแผนกล่าว “น้ องไม่ ได้ งอนอะไร ชอบ
หรือผิดพีก่ ค็ ดิ ตรึกตรองดู ตัวน้ องนี่มันมีมลทิน เหมือนเป็ นคนสองใจที่ไปอยู่เรือนอืน่ น้ องคิดที่
จะกลับมาเหมือนเดิมตลอด เพราะน้ องยังรักลูกและผัว ที่ไปอยู่กบั ขุนช้ างนั้นก็เพราะจาใจ น้ อง
เคืองพีน่ ักที่ทาเฉย เสี ยแรงที่ร่วมสุ ขร่ วมทุกข์ กนั กลางป่ า พอได้ ดกี ล็ มื ทุกสิ่ ง คงเป็ นเพราะน้ องมีที่
หมาย เป็ นเครื่องระคาย สงสารน้ องไม่ อยากให้ อายเขา”นางวันทองกล่าว
“พีผ่ ดิ จริง เหมือนลืมน้ อง แต่ ใช่ ว่าจะสบาย เงยหน้ าขึน้ มาเถอะ อย่ ามัวแค้ นอยู่
เดีย๋ วพีจ่ ะเล่ าให้ ฟัง” ขุนแผนกล่าว “เมื่อตอนติดคุก พีค่ ดิ ถึงเจ้ าทุกข์ เวลา พีก่ ลา้ กลืนถึงน้ อง
ตลอด หนาซ้าขุนช้ างมันยังมาทาแบบนี้ มันดูถูก คิดว่ าพีต่ กยาก พีค่ ดิ ถึงน้ อง จะไปเอาตัว
น้ องกลับมา ก็กลัวว่ าพากันทาผิดอีก คิดว่ าจะไปตามน้ องกลับมา แต่ พลายงามก็ไปตามน้ อง
มาก่ อน คิดจะไปทูลสมเด็จพระพันวษา ก็เกรงว่ าจะช้ าไปที่จะได้ น้องกลับมา กลัวจะเป็ น
เรื่องอีก จึงให้ พลายงามไปรับน้ องมา ถึงน้ องจะเป็ นยังไงก็ยงั รักน้ องเหมือนเดิม พีจ่ ะดูแล
น้ องเหมือนตอนที่อยู่ด้วยกันกลางป่ า พีข่ อโทษที่พที่ าผิด น้ องจะโกรธแค้ นพีไ่ ปถึงไหน พีย่ ัง
รักน้ องอยู่ อย่ าตัดพีจ่ ากน้ องให้ ตรอมใจเลย” ขุนแผนว่าพลางดึงนางวันทองมาแนบอก และ
ได้กล่าวขอว่า“ขอพีน่ ะ อย่ าโกรธพีเ่ ลย”
“ใจน้ องไม่ เคยคิดจะตัดพีเ่ ลย ถ้ าน้ องคิดจะตัดคงจะไม่ มาที่นี่ ถึงไปอยู่ที่อนื่ ก็คดิ
ว่ าพีเ่ ป็ นสามี น้ องกลัวบาปที่มีชายถึง 2 คน ตอนนั้นที่ตามพีไ่ ปกลางป่ า หน้ าดาเหมือนเอา
หม้ อไหม้ มาทา ตอนขุนช้ างมาฉุด เหมือนน้ องลงไปในทะเลลึก แต่ พอเจ้ าพลายงามไปรับ
น้ องกลับมา ก็เหมือนหน้ า
จะดาเป็ นน้าหมึก ด้ วยความคึกคะนองของเจ้ าพลายงาม จึงทาให้ แม่ เป็ นทุกข์ ไปอีก
พีก่ ไ็ ม่ ใช่ หนุ่มแล้ วที่จะร้ องหาความรัก พีไ่ ปทูลสมเด็จพระพันวษา เอาความผิดขุนช้ าง ถ้ า
พีย่ ังรักน้ องก็อย่ าทาแบบนี้ น้ องจะกลายเป็ นคนไม่ ดี น้ องจะแต่ งบายศรีไว้ รอ ไม่ นานเรา
คงจะได้ มาอยู่ด้วยกัน” นางวันทองกล่าว
พอตกกลางคืน นางวันทองได้ฝันว่า ตัวเองหลง
เข้าไปในป่ า มีเสื อมาทาร้าย จึงมองหมอบอยูท่ ี่ริมทาง พอ
นางวันทองดั้นป่ ามาถึง จึงโดนเสื อตะครุ บ แล้วฉุดเข้าไป
ในป่ า นางวันทองได้ตกใจตื่น ผวาร้องไห้กอดขุนแผน
และได้เล่าความฝันให้ขนุ แผนฟัง มีเสี ยงหนูเดินกุกกักอยู่
ใต้เตียง และเสี ยงของแมงมุมทุ่มข้างฝา ยิง่ ทาให้นางวันทองตกใจกลัว เหมือนว่าวิญญาณ
จะหลุดออกจากร่ าง
เมื่อขุนแผนได้ฟังเรื่ องที่นางวันทองเล่าก็ใจหาย รู้วา่ จะมีภยั อันตรายแก่นางวันทอง จึง
กอดนางวันทองหันหน้าหลบน้ าตาของตนที่ไหลออกมา จึงแกล้งทานายไปว่า “ทีฝ่ ันแบบนี้
เพราะนางวันทองวิตกไปเอง อย่ าคิดมากเลยอยู่กบั พีแ่ ล้ ว เดีย๋ วพรุ่งนีพ้ จี่ ะแก้ ความฝัน แล้ ว
ทาสิ่ งมงคลให้ นางวันทองมีความสุ ข นางอย่ าทุกข์ ใจไปเลย”
พอรุ่ งเช้า สมเด็จพระพันวษา ได้โกรธเคืองขุนช้างมาก เรื่ องเมื่อตอนกลางคืน “ใครจะ
ถ่ อยได้ เท่ ามัน น้าลึกยืนไม่ ถึงมันยังว่ ายน้ามา คราวก่ อนมันฟ้องนางวันทอง ครั้งนีม้ ันฟ้ อง
ใครอีก” สมเด็จพระพันวษาพูดพลางออกมาที่พระที่นงั่ และเห็นขุนช้างมาเข้าเฝ้ า จึงถามว่า
“ใครรับเรื่องที่มันฟ้ องไป”
พระหมื่นศรี ที่รับฟ้ องขุนช้างไว้ จึงรี บถวายฎีกาของขุนช้างให้สมเด็จพระพันวษา
เมื่อสมเด็จพระพันวษาได้อ่านเรื่ องที่ฟ้อง ทรงโกรธและได้กล่าวว่า “เรื่องนางวันทอง
อีกแล้ ว ทาเหมือนกับว่ าไม่ มีผู้หญิงให้ ชิงกัน ขุนช้ างมันรู ปร่ างน่ าเกลียด ก็ไม่ เห็นว่ านาง
วันทองมันจะรัก ใครเอาเป็ นผัวก็คงจะอาย คราวก่ อนก็ถามนางศรีประจัน ก็ดูจะคิด
หนัก นางวันทองกูกใ็ ห้ ขุนแผน แล้ วทาไมมันถึงไปอยู่กบั ขุนช้ าง จมื่นไปเอาตัวนางวัน
ทอง ขุนแผน หมื่นไวยมา”
ฝ่ ายจมื่นเมื่อได้รับคาสัง่ ก็รีบสัง่ เวรกรมในวังทันที ตารวจในจึงรี บไปเรื อนหมื่น
ไวย และบอกรับสัง่ ของสมเด็จพระพันวษา ว่าขุนช้างฟ้ องร้องถวายฎีกา ให้ท้ งั 3 ท่าน
เข้าพบ
เมื่อนางวันทอง และ พลายงาม ได้ฟังก็นึกกลัว ขุนแผนจึงได้เรี ยกนางวันทองเข้า
ไปในห้อง เพราะรู้สึกไม่ดี จึงเสกเวทมนต์ ทาสี ผ้ งึ แล้วให้นางวันทองกินหมากเวทย์
ให้ของวิเศษสารพัด ไม่วา่ จะน้ ามันพราย น้ ามันจันทน์ เสกให้กบั นางวันทอง ที่ของ
เหล่านี้เคยป้ องกันตนมาก่อน ขุนแผนได้ทาผงอิทธิเจิมที่หน้านางวันทอง ให้คนเห็นคน
รักทัว่ หน้า เสร็ จแล้วจึงพานางวันทองเข้าวัง
เมื่อนางทองประศรรู้ข่าว จึงรี บมาที่วงั ส่ วนขุนแผน นางวันทอง และพระหมื่นไวยก็ได้
เข้าเฝ้ าสมเด็จพระพันวษา
เมื่อสมเด็จพระพันวษาเห็นขุนแผน นางวันทอง และหมื่นไวย ยกมือไหว้เข้าเฝ้ า ก็รัก
เหมือนลูกในท้อง ด้วยเวทมนต์ที่ขนุ แผนทาให้นางวันทอง จึงทาให้สมเด็จพันวษา รักใคร่
และใจอ่อน จึงถามนางวันทองไปว่า “เมื่อมึงกลับมาจากป่ า กูให้ มึงกับขุนแผน ตอนที่
ขุนแผนมันถูกจองจา แล้ วมึงไปอยู่ที่ไหน ทาไมมึงไม่ ได้ อยู่กบั ขุนแผน แต่ ไปอยู่กบั ขุนช้ างได้
มึงบอกว่ ารักขุนแผน แต่ อยู่กบั ขุนช้ าง มึงเปลีย่ นไปเปลีย่ นมา รู้ อยู่ว่ามันเป็ นเรื่องไม่ ดี”
เมื่อนางวันทองได้ฟังที่รับสัง่ ก็ยกมือขึ้นไหว้อย่างเกรงกลัว นางวันทองได้ตอบว่า
“ครั้งนั้นได้ โปรดหม่ อมฉันให้ แก่ ขุนแผน ต่ อมาขุนแผนได้ ถูกจองจา หม่ อมฉันก็ได้ ท้อง พักอยู่
ที่เรือนหน้ าวัดตะไกร ขุนช้ างก็ได้ มาบอกว่ ามีราชโองการ ประทานหม่ อมฉันให้ หม่ อมฉันไม่ ไป
ก็ยอื้ ฉุดหม่ อมฉัน เพือ่ นบ้ านก็ไม่ กล้ าช่ วย เพราะขุนช้ างอ้ างว่ าทรงรับสั่ งมา ไม่ มีใครกล้ าขัดขืน
เพราะกลัวความผิด จะไม่ ไปก็ไม่ ได้ ชีวติ อยู่ใต้ พระบาทาของพระองค์ ”
เมื่อสมเด็จพระพันวษาได้ฟังที่นางวันทองเล่า ก็โกรธเคือง ขุนช้างมาก “มึงเป็ นคน
บ้ า เย่ อหยิง่ ไม่ คดิ ว่ ากูเป็ นเจ้ าชีวติ มึงถือสิ ทธิ์ เที่ยวทาตัวเป็ นโจร อย่ างนีค้ งเลีย้ งมึงไม่ ได้ ชอบ
แต่ โดนเฆีย่ นสองหวายตลอดหลัง” สมเด็จพระพันวษาได้วา่ ขุนช้างแล้วหันกลับมาถามนางวัน
ทอง “เมื่อมันฉุดมึงไปอยู่กบั มัน ถึง 18 ปี แล้ วทาไมครั้งนีม้ ึงกลับมาได้ มึงหนีมาเองหรือว่ าใคร
ไปรับตัวมึงมา”
นางวันทองจึงได้รีบตอบสมเด็จพระพันวษาไปว่า “หมื่นไวยเป็ นคนไปรับตัว
กลับมา ไม่ ใช่ หม่ อมฉันนอกใจ และขุนแผนก็ไม่ ได้ เกีย่ ว ตอนนั้นเวลาสั กสองยาม ขุนช้ างเลย
กล่ าวหาว่ าหม่ อมฉันหลบหนี โปรดปรานีด้วย ชีวติ ของหม่ อมฉันอยู่ใต้ พระบาทา”
สมเด็จพระพันวษาได้ฟังก็ทรงโกรธ “หมื่นไวยทาอะไรไม่ เกรงกลัว บ้ านเมืองมีกฎหมาย
ทาอะไรง่ ายๆตามใจตัวเอง ถ้ าเกิดฆ่ าแกงกันขึน้ มา ไพร่ ท้งั หลายก็จะเคืองกูได้ ส่ วนนางวัน
ทองกูกใ็ ห้ กบั ขุนแผน แต่ ขุนช้ างมันก็มาฉุดโดยใช่ กูเป็ นข้ ออ้ างให้ นางวันทองมันตกใจ ต้ อง
เฆีย่ นมันให้ สลบคาที่ไม่ ต้องนับ เอามะพร้ าวห้ าวยัดปากมัน หมื่นไวยก็ต้องได้ รับโทษ
เหมือนกัน ถือว่ านางวันทองเป็ นแม่ จึงทาอะไรไม่ เกรงกลัว ทาโมโหไปรับกลับมาทาไมไม่
ไปรับตอนกลางวัน ขุนแผนมันก็คงเป็ นใจ เพราะเป็ นสามีภรรยากันมาก่ อน จะมาบอกว่ า
ขุนแผนมันไม่ เกีย่ วกูคงไม่ เชื่อ ขุนช้ างมันก็ฟ้องเป็ นนัยๆว่ า หมื่นไวยลักนางวันทองให้ พ่อ
มัน หมื่นไวยมันอยากได้ แม่ มันคืน แล้ วทาไมไม่ ชวนพ่อมันมาฟ้ อง หรือคิดว่ ากูตัดสิ นให้
มึงไม่ ได้ ชอบทาให้ เรื่องบานปลาย เป็ นแบบนีก้ เ็ พราะนางวันทองเป็ นเหตุ ทาให้ แย่ งชิงกัน
วุ่นวาย นางวันทองมันก็เหมือนรากแก้ ว ถ้ าตัดโคนแล้ วใบก็เหี่ยว ใครจะอยู่กบั ใครจะให้ รู้ กนั
วันนี้ ว่ ายังไงมึงจะไปอยู่กบั ใคร รักคนใหม่ กไ็ ปอยู่กบั ขุนช้ าง ถ้ ายังรักคนเก่ าก็กลับไปหา
ขุนแผน มีผวั 2 คนมึงต้ องเลือกไว้ 1 คน” สมเด็จพระพันวษาถามนางวันทอง
เมื่อนางวันทองได้ฟังก็กลัว จะพูดก็กลัวอาญา ขุน
ช้างจึงยักคิ้วให้นางวันทอง ส่ วนหมื่นไวยก็ทาบุย้ ใบ้ไปทาง
ขุนแผนหลายครั้ง นางวันทองคิดมาก จึงนิ่งไม่ยอมพูดจาไป
สมเด็จพระพันวษาเห็นว่านางวันทองไม่พดู จึง
กล่าวไปว่า “หรือว่ ามึงไม่ รักใครแล้ ว จะบอกว่ ารักขุนช้ าง
เบื่อขุนแผนก็กลัวอาย หรือจะไปอยู่กบั หมื่นไวยกูกไ็ ม่ ว่า พูดมากูจะให้ ดงั วาจา”
นางวันทองเมื่อได้รับราชโองการก็คิดหนัก กลัวว่าการตัดสิ นใจจะผิดพลาดในภายหน้า
จะว่าตัวเองรักขุนช้าง ก็ไม่เคยรักเลยสักนิด รู้วา่ ยังรักหมื่นไวยและขุนแผนดัง่ ชีวติ แต่กลัวว่า
ถ้าพูดผิดจะทาให้สมเด็จพระพันวษาโกรธ นางวันทองเลยพูดเป็ นกลางๆว่า “ ขุนแผนก็รัก
มาก ร่ วมทุกข์ ร่วมยาก ลาบากบุกป่ าผ่ าดงมาด้ วยกัน ขุนช้ างตั้งแต่ อยู่ด้วยกันมา ก็ไม่ เคยด่ าว่ า
ให้ ไม่ สบายใจ เงินทองกองไว้ ให้ ใช้ บ่ าวไพรก็ให้ ใช้ เหมือนเป็ นของตัวเอง ส่ วนหมื่นไวยก็
เลือดในอก รักเท่ ากับขุนแผน” นางวันทองพูดพลางกลัวความผิด
เมื่อสมเด็จพระพันวษาได้ฟังที่นางวันทองพูด ก็โมโหมาก เหมือนดินประสิ วปลิวไป
ติดที่เปลวไฟ “ดูสินางวันทอง รักข้ างไหนเลือกไม่ ได้ รักกันทั้งสองฝ่ าย ยิง่ กว่ าท้ องทะเลที่
ลา้ ลึก เป็ นหญิงใจชั่ว เหมือนเพชรนิลที่เกิดในโคลนตม หน้ าตาก็ดี แต่ ใจไม่ ซื่อสั ตย์
เหมือนกับเส้ นผม ขนาดใจสั ตว์ มันยังสมาคมกันตามฤดูของมัน มึงถ่ อยยิง่ กว่ าคนท้ าย
เหมือง เอาเรื่องอะไรไม่ ได้ สักอย่ าง โลภมากด้ วยตัณหา สั กร้ อยพันก็คงไม่ สมใจมึง จะว่ า
ผู้หญิงชั่วมันยังมีผวั คนเดียว ไม่ ได้ เหมือนมึง อย่ าอยู่ให้ หนักแผ่ นดินกูเลย หมื่นไวยมึงอย่ า
นับว่ ามันเป็ นแม่ มึงเลย กูเป็ นคนที่เลีย้ งมึงให้ มึงเป็ นหัวหมื่น ใครรู้ ว่าเป็ นแม่ มึงจะอายเขา
ส่ วนขุนช้ างและ
ขุนแผน กูจะหาเมียให้ มึงอย่ าเสี ยใจไปเลย ผู้หญิงกาลกิณี ไม่ น่าชื่นชมหรอก รู ปร่ าง
หน้ าตาดีมีอกี เยอะ พวกมึงตัดใจเถอะ พระยายมราชพานางวันทองไปตัดหัวเสี ย แล้ ว
อย่ าให้ เลือดมันติดดินของกู ให้ เอาใบตองรองไว้ ให้ หมามันกิน ถ้ าเลือดมันตกดินจะ
อัปรีย์ว่ามีกาลกิณีอยู่ ฟันมันให้ หญิงและชายดู” เมื่อสมเด็จพระพันวษารับสัง่ เสร็ จก็
เสด็จกลับสู่ปราสาทชัย