การวิจัยคืออะไร การวิจยั เป็ นรูปแบบหนึ่งของการแสวงหา ความรู้ ความจริง ทีถ่ ูกต้ อง เชื่อถือได้ ตรวจสอบได้ เกีย่ วกับปรากฏการณ์ ต่างๆ ใน สั งคมด้ วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Kerlinger : 1988)

Download Report

Transcript การวิจัยคืออะไร การวิจยั เป็ นรูปแบบหนึ่งของการแสวงหา ความรู้ ความจริง ทีถ่ ูกต้ อง เชื่อถือได้ ตรวจสอบได้ เกีย่ วกับปรากฏการณ์ ต่างๆ ใน สั งคมด้ วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Kerlinger : 1988)

การวิจัยคืออะไร
การวิจยั เป็ นรูปแบบหนึ่งของการแสวงหา
ความรู้ ความจริง ทีถ่ ูกต้ อง เชื่อถือได้
ตรวจสอบได้ เกีย่ วกับปรากฏการณ์ ต่างๆ ใน
สั งคมด้ วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
(Kerlinger : 1988)
เชิงปฏิบัติการ คืออะไร
การปฏิบัติงานในกิจกรรมการ
พัฒนาทีค่ วบคู่ไปกับการวิจัย
การมีส่วนร่ วม คืออะไร
การเข้ าร่ วมอย่ างแข็งขันของ
กล่ มุ บุคคลในขั้นตอนต่ างๆ ของ
การดาเนินกิจกรรมอย่ างหนึ่ง
การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่ วม คือ
การแสวงหาความรู้ ความจริงทีถ่ ูกต้ อง เชื่อถือ
ได้ ตรวจสอบได้ โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
ซึ่งมีกล่ มุ บุคคลเข้ ามาร่ วมกันเรียนรู้ เพือ่ รู้ จกั
ตัวเอง ชุมชน สิ่ งแวดล้ อม ให้ เห็นปัญหาของ
ตัวเอง และเห็นทางแก้ หรือทางออกจากปัญหา
โดยลงมือปฏิบัติจริง ได้ ผลจริง แก้ ปัญหาได้
การวิจยั เชิงปฏิบตั ิการแบบมีส่วนร่ วม (PAR) คือ การ
วิจยั ค้นว้า และหาความรู้ตามหลักการของการวิจยั
เชิงวิทยาศาสตร์แบบเดิมๆ ต่างกันเพียงแต่วา่ PAR
นั้นมีวตั ถุประสงค์มุ่งไปที่การแก้ปัญหาในการพัฒนา
และเป็ นการวิจยั ที่ดาเนินไปด้วยการมีส่วนร่ วมของ
ชุมชน ผูร้ ่ วมงาน รวมทั้งในกระบวนการวิจยั และใน
การมีหุน้ ส่ วนใช้ประโยชน์ของการวิจยั
กมล สุ ดประเสริ ฐ (2540 : 8)
ทาไมต้ องเป็ น PAR
การวิจยั แบบเดิม (Tradition Research) เป็ นการวิจยั ทีใ่ ช้ ผ้ ูวจิ ยั
เป็ นศูนย์ กลาง (Researcher Center) องค์ ความรู้ (Body of
knowledge) อยู่ทนี่ ักวิจยั ทีเ่ ป็ นคนนอกชุมชน วิจยั เพือ่ รู้ ปัญหา
ของคนอืน่ ผลการวิจยั จึงไม่ ได้ นาไปใช้ แก้ ปัญหา
ส่ วนการวิจยั เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่ วม เป็ นการวิจยั โดยคนใน
ชุมชน (Community Center) ร่ วมกันเรียนรู้ เรื่องชุมชนของ
ตนเอง เห็นปัญหาของตัวเอง เห็นทางออก หรือทางแก้ ปัญหาของ
ชุมชนร่ วมกัน และทุกคนในชุมชนร่ วมกันแก้ ปัญหาและรับผลของ
การแก้ ปัญหาร่ วมกัน ซึ่งเป็ นการปรับปรุงวิธีการวิจยั ดั้งเดิมให้ มี
ประสิ ทธิภาพยิง่ ขึน้
เป้าหมายของ PAR
การเรียนรู้ ร่วมกันรวดเร็ว
รื่นรมย์ และช่ วยกันสร้ างสรรค์
ชุมชนให้ สวยงาม สดใสร่ ุงเรือง
แนวคิดพืน้ ฐานของ PAR
๑.PAR เป็ นกระบวนการทีไ่ ม่ หยุดนิ่ง
๒.เชื่อว่ าทุกคนมีศักยภาพทีจ่ ะร่ วมกัน
เรียนรู้
๓.เริ่มจากความรู้ สึกของคนทีม่ ตี ่ อปัญหา
๔.กระบวนการวิจัยต้ องทาอย่ างต่ อเนื่อง
๕.PAR เป็ นกระบวนการงานร่ วมกัน เอน
เอียงไปทางประชาธิปไตย
๖.เชื่อว่ า คนต้ องพัฒนาตนเอง แก้ ปัญหา
เอง
๗.PAR เรียนร้ ู จากประสบการณ์ ยอมรับ
ความคิดเห็น
วัตถุประสงค์ ของ PAR
๑.เพือ่ ปลูกจิตสานึกให้ คนในชุมชนตระหนักในปัญหา
หน้ าที่ และร่ วมกันแก้ปัญหาของตนเอง
๒.เพือ่ ให้ ชุมชนได้ เรียนรู้ แบบพหุภาคี (Steak Holder)
๓.เพือ่ ให้ ชุมชนร่ วมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สั งคม
การเมือง
๔.เพือ่ ส่ งเสริมกิจกรรมกลุ่ม และการทางานร่ วมกัน
แก้ปัญหาและพัฒนาอย่ างต่ อเนื่อง
PAR เป็ นการวิจยั และพัฒนาชุมชน
เป็ นเรื่องของชุมชน คนภายนอกควรไปเรียนรู้
กับชุมชน
หยุดเสี ยที…คนใจดี…ชี้นาชุมชน
วิธีการวิจัย PAR
ระยะก่อนทาวิจัย
๑. สร้ างสั มพันธภาพ
๒. ศึกษาชุมชน
๓. คัดเลือกชุมชน
๔. เข้ าส่ ู ชุมชน
๕. เตรียมคน
๒. ระยะของการทาวิจัย
๑. ศึกษาชุมชน ปัญหา
๒. วิเคราะห์ ปัญหา
๓. วิเคราะห์ ความเป็ นไปได้
เขียนโครงการแก้ ปัญหา
๓. จัดทาแผน ตัดสิ นใจร่ วมกัน
๔. ระยะนาแผนไปปฏิบัติ
๕. ระยะติดตามผลและประเมินผล
การทางาน
เขียนรายงานวิจัย
เทคนิคและเครื่องมือวิจัย PAR
๑. การสร้ างความสั มพันธ์ กบั ชุมชน
๒. Mind Map
๓. Focus Group Interview
๔. การสั งเกต
๕. การสั มภาษณ์
๖. กระบวนการ AIC
๗. เทคนิค SWOT
ฯ
เรื่องทีต่ ้ องเรียนรู้
๑. การเข้ าสู่ ชุมชน (มนุษยสั มพันธ์
ระเบียบวิธีวจิ ัย วิทยากรกระบวนการ)
๒. ความสาคัญของความหมาย
๓. EMIC ETIC
๔. RAP-port
ฯ
การเขียนรายงาน
การเขียนรายงาน ต้ องเขียน
บรรยายให้ เห็นกระบวนการ
ได้ มาซึ่งข้ อมูล พร้ อมทั้งบอก
เทคนิคการใช้