พิธีมงคลสมรส

Download Report

Transcript พิธีมงคลสมรส

พิธีมงคลสมรส
พิธีมงคลสมรส ในภาษาไทยใช้ พดู กันเป็ นสามัญ เรี ยกว่า พิธีแต่งงาน
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ ให้ ความหมายว่า
“แต่งงาน คือทาพิธีเพื่อให้ ชายหญิงอยูก่ ินเป็ นผัวเมียกันตามประเพณี” คาใช้
เรี ยกการแต่งงานสาหรับใช้ ในราชการที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ าเจ้ าอยูห่ วั
ทรงประกอบพิธี มีพระราชกฤษฎีกาไว้ ๓ อย่าง คือ เจ้ าฟ้า เรี ยกว่า อภิเษก
สมรส พระองค์เจ้ าหรื อหม่อมเจ้ า เรี ยกว่า เสกสมรส ข้ าราชการผู้มีบรรดาศักดิ์
และคนทัว่ ไป เรี ยกว่า สมรส มงคลสมรส และมีคาในภาษาถิ่นของไทยที่ใช้
เนื่องในงานแต่งงานแตกต่างกันออกไปตามภูมิภาค เช่น ภาคพายัพ เรี ยกว่า กิน
แขก ภาคอีสาน เรี ยกว่า กินดอง ภาคใต้ เรี ยกว่า กินงาน หรื อ กินเหนียว และ
ภาคกลางบางท้ องถิ่น เรี ยกว่า กินสามถ้ วย เป็ นต้ น ตามคตินิยมของท้ องถิ่น
นัน้ ๆ
พิธีมงคลสมรส
การแต่งงานมี ๒ ประเภท คือ
๑. วิวาหมงคล คือ การกระทาพิธีมงคลสมรสที่บ้านฝ่ ายหญิง วิธีนี ้ดูเหมือน
ชาวไทยนิยมกันมากที่สดุ เมื่อแต่งงานกันแล้ วฝ่ ายชายจะต้ องไปอยูบ่ ้ านของฝ่ ายหญิง
๒. อาวาหมงคล คือ การกระทาพิธีมงคลสมรสที่บ้านฝ่ ายชาย เมื่อแต่งงาน
เสร็ จเรี ยบร้ อยแล้ วฝ่ ายหญิงจะต้ องอยูก่ บั ฝ่ ายชาย อยูใ่ นความดูแลของ พ่อ
ผัว
แม่ผวั วิธีนี ้เป็ นกฎที่คนจีนยึดถือปฏิบตั ิกนั อย่างเคร่งครัดทีเดียว ในหมู่คน
จีน
หากมีการฝ่ าฝื นโดยเมื่อแต่งงานกันเรี ยบร้ อยแล้ ว ลูกชายของตนกลับไป อยูบ่ ้ านของ
ฝ่ ายหญิง การกระทาเช่นนี ้ถือว่าเป็ นความผิดอย่างมหันต์ทีเดียว (ปั จจุบนั วิธีปฏิบตั ิ
ดังกล่าวทัง้ ๒ วิธี เริ่ มเปลี่ยนแปลงไป เมื่อแต่งงานกันเสร็ จเรี ยบร้ อยแล้ ว มักจะ
ปลีกตัวแยกครอบครัวไปอยูก่ นั ตามลาพังมากขึ ้น)
ตามประเพณีนิยมที่คนไทยยึดถือปฏิบตั ิเกี่ยวกับพิธีแต่งงานมาตังแต่
้ โบราณ
กาหนดสาระสาคัญของการดาเนินงานมี ๔ ขันตอน
้
ดังนี ้
พิธีมงคลสมรส
๑. การทาบทาม เป็ นการเริ่ มต้ นของการสูข่ อ โดยฝ่ ายชายจัดผู้ใหญ่ที่ได้ รับการยกย่องนับ
ถือ จะเป็ นชายหรื อหญิงก็ได้ เป็ น “เถ้ าแก่” ไปพูดจาทาบทามกับผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง เพื่อทราบความเห็น
ของฝ่ ายหญิงว่าจะเต็มใจยินยอมยกให้ หรื อไม่ เมื่อฝ่ ายหญิงไม่ขดั ข้ องแล้ ว ก็จะมีข้อตกลงเกี่ยวกับ
สินสอดทองหมัน้ เรื อนหอ หรื อมีเงื่อนไขอย่างไร ตลอดจนกาหนดวัน เวลา ที่ผ้ ใู หญ่ฝ่ายชายจะมาสู่
ขอต่อไป ถ้ าฝ่ ายหญิงไม่ตกลงก็จะได้ นาเรื่ องกลับมาแจ้ งให้ ฝ่ายชายทราบ ถือว่าเป็ นเรื่ องดีด้วยกันทัง้
สองฝ่ าย ผู้ที่ได้ รับหน้ าที่ไปทาบทามฝ่ ายหญิงดังกล่าว เรี ยกว่า “เถ้ าแก่ทาบทาม”
เหตุที่ต้องมีเถ้ าแก่ทาบทาม เพราะชายหญิงสมัยก่อนเติบโตเป็ นหนุม่ สาวแล้ ว ไม่คอ่ ยมี
โอกาสได้ สงั คมพบปะกันบ่อยนัก นอกจากงานเทศกาล งานประเพณีและงานพิธีตา่ ง ๆ ซึง่ มีขึ ้นเป็ นครัง้
คราว ดังนัน้ การเสาะหาคูค่ รองจึงเป็ นเรื่ องของผู้ใหญ่ ผู้ปกครองที่จะจัดการให้ โดยพิจารณาความ
เหมาะสมเป็ นหลัก เช่น กิริยามารยาท ฐานะ อาชีพ เป็ นต้ น เมื่อเห็นว่าเหมาะสมก็จดั เถ้ าแก่ทาบทาม
ไปดาเนินการในขั ้นแรก
๒. การสู่ขอ เป็ นเรื่ องที่ฝ่ายชายจัดทาภายหลังจากได้ รับทราบจากเถ้ าแก่ทาบทามแล้ วว่า
ฝ่ ายหญิงไม่ขดั ข้ องและฝ่ ายชายก็ตกลงจะปฏิบตั ิตามข้ อเรี ยกร้ องของฝ่ ายหญิง การสู่ขอนันจะมอบให้
้
เป็ นหน้ าที่ของเถ้ าแก่ หรื อผู้ปกครองฝ่ ายชายจะไปเอง หรื อจะไปทังเถ้
้ าแก่และผู้ปกครองก็ได้ เพื่อ
ยืนยันว่ายอมรับข้ อเรี ยกร้ องตลอดจนทาความสนิทสนมกันให้ มากยิ่งขึ ้น พร้ อมกันนัน้ จะได้
ปรึกษาหารื อเรื่ องพิธีหมั ้น พิธีแต่งงาน หรื อหาฤกษ์ ยามกันต่อไป
พิธีมงคลสมรส
๓. การหมัน้ คือ การมอบสิ่งของให้ ฝ่ายหญิง เพื่อแสดงความมัน่ หมายว่า
จะแต่งงานด้ วย สิ่งของที่จะมอบนัน้ เรี ยกว่า ทองหมัน้ หรื อของหมัน้ เดิมทีเดียว ทอง
หมันหรื
้ อของหมันนั
้ นเป็
้ นทองคาจริ ง ๆ จะหนักเท่าไรเป็ นไปตามข้ อเรี ยกร้ องและได้ ตก
ลงกันแล้ ว จึงเรี ยกว่า ทองหมัน้ เป็ นคูก่ นั กับเงินที่เรี ยกว่า สินสอด ต่อมาทองหมัน้
เปลี่ยนเป็ นอย่างอื่น เช่น สร้ อยคอ แหวน เป็ นต้ น ในทางกฎหมายเรี ยกว่า ของหมัน้
และให้ คาอธิบายว่า เป็ นทรัพย์สินที่ฝ่ายชายมอบให้ ฝ่ายหญิงเพื่อเป็ นหลักฐานการ
หมัน้ และเป็ นประกันว่าชายจะแต่งงานกับหญิงนัน้
ปั จจุบนั การหมันส่
้ วนใหญ่นิยมใช้ แหวนเป็ นของหมัน้ พิธีหมัน้ ก็มีเพียงชาย
สวมแหวนหมันให้
้ แก่หญิงต่อหน้ าเถ้ าแก่และญาติผ้ ใู หญ่ของทังสองฝ่
้
ายที่มาเป็ นสักขี
พยาน พร้ อมทังมี
้ การเลี ้ยงกันเล็กน้ อยก็เป็ นเสร็ จพิธีหมัน้ ต่อจากนี ้เป็ นเรื่ องของการ
เตรี ยมพิธีแต่งงานอันเป็ นพิธีสาคัญต่อไป
ในกรณีที่คหู่ มันหมายชายหญิ
้
ง และผู้ใหญ่ทงสองฝ่
ั้
ายคุ้นเคยไว้ เนื ้อเชื่อใจ
กันดีอยูแ่ ล้ ว จะตัดหรื อลดขันตอนต่
้
าง ๆ ดังกล่าวข้ างต้ นตามที่เห็นสมควรก็ได้
ปั จจุบนั นิยมจัดพิธีมงคลสมรสโดยจัดพิธีหมันและพิ
้
ธีแต่งงานให้ เสร็ จในวันเดียวกัน
พิธีมงคลสมรส
๔. การแต่ งงาน พิธีแต่งงานในอดีตจัดกันเป็ น ๒ วัน วันแรก เรี ยกว่า วันสุกดิบ วันที่ ๒ เรี ยกว่า วัน
แต่งงาน ในปั จจุบนั การจัดพิธีแต่งงานได้ เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจและสังคมซึง่ แตกต่างกันไปแล้ วแต่
กรณี แต่นิยมจัดงานให้ เสร็จในวันเดียว ซึง่ บางรายก็พยายามคงรูปแบบพิธีแต่งงานแบบดังเดิ
้ มไว้ อย่างครบถ้ วน บาง
รายลดขันตอนต่
้
าง ๆ ลงไปจัดเฉพาะพิธีที่เห็นว่าจาเป็ นเท่านัน้
(ดูรายละเอียดขันตอนพิ
้
ธีหมันและพิ
้
ธีแต่งงาน)
การกาหนดวัน เดือน และฤกษ์ ยามแต่ งงาน
เรื่ องนี ้เป็ นหน้ าที่ของโหรหรื อท่านผู้ร้ ู เป็ นผู้กาหนดให้ ผู้ที่จะไปติดต่อกับโหรหรื อท่านผู้ร้ ู ส่วนใหญ่เป็ นเรื่ อง
ของฝ่ ายหญิง แต่จะให้ ฝ่ายชายไปก็ได้ สดุ แต่จะตกลงกัน
เกี่ยวกับวัน วันอันเป็ นสิริมงคลที่นิยมกัน ได้ แก่ วันจันทร์ กับ วันศุกร์ โดยเฉพาะวันศุกร์ นนนิ
ั ้ ยมกัน
มาก เพราะเสียงของคาว่า “ศุกร์ ” ตรงกับเสียงคาว่า “สุข” หรื อ “สุขสบาย” วันดังกล่าวกาหนดไว้ เป็ นวันสิริ
มงคลโดยส่วนรวม แต่เมื่อประสงค์วนั สิริมงคลเป็ นการเฉพาะควรนาวัน เดือน ปี ของคูบ่ ่าวสาวไปให้ โหรหรื อท่านผู้ร้ ู
คานวณกาหนดฤกษ์ ยามจะเหมาะสมที่สดุ
เกี่ยวกับเดือน นิยมแต่งงานในเดือนคู่ โดยถือเคล็ดคาว่า “คู”่ เพราะชีวิตของผู้แต่งงานเป็ นชีวิตคู่
แต่เดือนคูท่ ี่ไม่นิยมแต่งคือ เดือน ๘ และเดือน ๑๒ เปลี่ยนไปใช้ เดือน ๙ ซึง่ เป็ นเดือนคี่แทน และถ้ าเป็ นเดือน ๙
ข้ างขึ ้น จะนิยมกันมาก เพราะเสียงของคาว่า “๙ ขึ ้น” คล้ ายกับคาว่า “ก้ าวขึ ้น”
เกี่ยวกับปี โดยปกติไม่มีปีใดห้ ามการแต่งงาน นอกจากครอบครัวที่มีบตุ รสาวหลายคน ไม่นิยมให้
แต่งงานในปี เดียวกัน คงเป็ นเพราะจะสิ ้นเปลืองหรื ออาจไม่สะดวกในการจัดงานก็เป็ นได้
ข้ อพิจารณา ในเรื่ องนี ้จะปฏิบตั ิตามความนิยมดังกล่าวหรื อจะใช้ เหตุผลโดยยึดหลักความสะดวกตาม
คาสอนของพระพุทธศาสนาก็ได้ ตามอัธยาศัย
รายละเอียดขั้นตอนพิธีหมั้นและพิธีแต่ งงาน
พิธีหมัน้
การเตรี ยมการ
๑. กาหนดวันที่จะหมัน้
๒. ขันหมากหมัน้ มีจานวน ๒ ขัน คือ ขันหมาก และขันหมัน้
ขันหมาก บรรจุหมาก ๘ คู่ (ฝานก้ นหมากทุกผล ทาด้ วยปูนแดงหรื อชาด
แดง) พลู ๘ เรี ยง เรี ยงละ ๘ ใบ (ก้ านทาด้ วยปูนแดงหรื อชาดแดง) ใบพลูวางรอบ
ขัน หันปลายพลูขึ ้นปากขัน หมากวางไว้ ตรงกลาง (บางตาราบอกว่าหมากพลูใช้
เท่าไรก็ได้ แต่ขอให้ เป็ นคู่ ๆ) แล้ วใช้ ผ้าแพรคลุมขัน
ขันหมัน้ บรรจุดอกรัก ๗ ดอก ดอกบานไม่ร้ ูโรย ๗ ดอก ดอกดาวเรื อง ๗
ดอก ยอดใบเงิน ใบทอง ใบนาก อย่างละ ๓ ยอด ข้ าวเปลือก ๑ ถุง ถัว่ เขียว ๑ ถุง
งาดา ๑ ถุง ข้ าวตอก ๑ ถุง (ถุงเล็ก ๆ พองาม) และแหวน ทองหมัน้ วางบนของ
เหล่านัน้ แล้ วใช้ ผ้าแพรคลุมขัน
รายละเอียดขั้นตอนพิธีหมั้นและพิธีแต่ งงาน
ถือขันหมาก
การปฏิบัติ
- ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย (เถ้ าแก่) เดินออกหน้ า (เวลานาขบวนไปหมั ้น) ถัดไปเป็ นเจ้ าบ่าว ญาติผ้ ใู หญ่เจ้ าบ่าว และผู้ที่
(ฝ่ ายเจ้ าสาว) จัดคนเชิญขันหมากและรับขันหมากไปวางไว้ ที่กาหนด
(คนเชิญขันหมากมักใช้ เด็กหญิงอายุ
ประมาณ ๗ - ๘ ขวบ)
- ผู้ใหญ่ทั ้งสองฝ่ ายนัง่ ล้ อมขันหมาก
- ผู้ใหญ่ฝ่ายชายกล่าวคาขอหมั ้นว่า (ตัวอย่าง) “ผม/ดิฉนั ได้ ทราบว่าคุณ…..ซึง่ เป็ นบุตรของ…..ได้ สมัครรักใคร่
กับ…….….ซึง่ เป็ นบุตรสาวของ………และทั ้งสองมีความประสงค์จะครองเรื อนร่วมชีวิตกันตามประเพณีอนั ดีงาม ดังนั ้นวันนี ้
ถือว่าเป็ นวันมงคล ฤกษ์ ดี ยามดี จึงมาสูข่ อและหมั ้นคุณ……ให้ กบั คุณ…....ขอได้ โปรดพิจารณาเพื่อทั ้งสองจะได้ สมรัก สม
ปรารถนา เป็ นทองแผ่นเดียวกัน”
- ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงกล่าวตอบว่า (ตัวอย่าง) “ผม/ดิฉนั รู้สกึ ยินดีเป็ นอย่างยิ่งที่ท่านได้ ให้ เกียรติมาสูข่ อตาม
ประเพณี จึงขอต้ อนรับด้ วยความเต็มใจและปี ติอย่างสูง ก็ขอให้ วนั มงคลนี ้จงเป็ นนิมติ หมายอันดีสาหรับความรักของทั ้งสอง
ตลอดไป”
- ผู้ใหญ่ฝ่ายชายมอบขันหมากแก่ผ้ ใู หญ่ฝ่ายหญิง
- ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเปิ ดขันหมากและตรวจดู พร้ อมกับกล่าวคาที่เป็ นสิริมงคล เช่น “ทุกอย่างล้วนแล้วแต่สวยสด
งดงาม ทองสุกใสหลายหลาก เงิ นมากมายก่ายกอง คงจะอานวยความสุขสดชืน่ ตลอดชัว่ นิ รนั ดร์ ทีเดียว ฯลฯ”
- ผู้ใหญ่ทั ้งสองฝ่ ายร่วมกันโปรยสิง่ ของมงคล (ถัว่ งา ข้ าวตอก ดอกไม้ ) ลงบนของหมั ้น พร้ อมกับกล่าวคาที่เป็ น
สิริมงคล เช่นว่า “เงิ นทองเหล่านีค้ งจะงอกเงยยิ่ งขึ้นเหมือนถัว่ งาทีห่ ว่านไว้ในไร่สวนทีเดียว” (ถัว่ งาหลังจากเสร็จพิธีแล้ ว
นาไปโรยไว้ ในสวนหรื อที่เหมาะสม)
- ฝ่ ายหญิงนาเจ้ าสาวออกมาและน้ อมไหว้ ผ้ ใู หญ่ฝ่ายชายจนครบทุกคน แล้ วนัง่ ในที่กาหนด
เวลาฤกษ์
- ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงมอบแหวนหมันให้
้ เจ้ าบ่าวเพื่อสวมนิ ้วเจ้ าสาวต่อไป
- เจ้ าบ่าวเจ้ าสาวไปกราบผู้ใหญ่ทงสองฝ่
ั้
าย (กราบ ๑ ครัง้ ไม่แบมือ)
- ฝ่ ายหญิงแจกของชาร่วย เลี ้ยงอาหารผู้ร่วมพิธี (ถ้ ามี)
- เสร็จพิธี
ขบวนขันหมาก
การสรวมแหวนหมัน้
พิธีแต่ งงาน
การเตรียมการ
๑. กาหนดวันที่จะแต่งงาน
๒. ขันหมากแต่ง ประกอบด้ วย ขันหมากเอก และขันหมากรอง (บางแห่งเรี ยกขันหมากโท)
ขันหมากเอก จัดเป็ น ๓ ขัน ขันหมากพลู ๑ ขัน ขันเงินทุน ๑ ขัน และขันเงินสินสอด ๑ ขัน
ขันหมากพลู ๑ ขัน บรรจุหมาก ๘ คู่ (ฝานก้ นหมากทุกผลทาด้ วยปูนแดง หรื อชาดแดง) พลู ๘ เรี ยง
เรี ยงละ ๘ ใบ (ก้ านทาด้ วยปูนแดง หรื อชาดแดง) ยอดใบเงิน ใบทอง ใบนาก อย่างละ ๓ ยอด ข้ าวเปลือก ๑ ถุง ถัว่
เขียว ๑ ถุง งาดา ๑ ถุง ข้ าวตอก ๑ ถุง (ถุงเล็ก ๆ พองาม)
ขันเงินทุน บางทีเรี ยกเงินกองทุนที่ทงสองฝ่
ั้
ายตกลงกันว่าจะให้ ฝ่ายละเท่าไรเพื่อมอบให้ คบู่ ่าวสาวเป็ นทุนในการ
ประกอบอาชีพ เฉพาะฝ่ ายชายมักจะให้ มากกว่าที่ตกลงกันไว้ เพื่อเอาเคล็ดตรงที่ว่าเงินงอก (ขันนี ้ปรับเปลี่ยนเป็ น
ขันใส่ของหมันได้
้ ในกรณีที่จดั พิธีหมันและพิ
้
ธีแต่งงานในวันเดียวกัน) โดยใช้ ใบเงิน ใบทอง ใบนาก รองก้ นขัน และ
ประดับด้ วยดอกรัก ดอกบานไม่ร้ ูโรย ดอกดาวเรื อง หรื อดอกไม้ อื่น ๆ
ขันเงินสินสอด เป็ นเงินที่ฝ่ายชายจะมอบให้ บิดามารดาหรื อผู้ปกครองฝ่ ายหญิงเป็ นค่าเลี ้ยงดูหรื อค่า
น ้านม เงินส่วนนี ้บิดามารดาหรื อผู้ปกครองฝ่ ายหญิง จะเก็บไว้ เป็ นของตนหรื อจะมอบให้ คบู่ ่าวสาวก็ได้ โดยยใช้ ใบเงิน
ใบทอง ใบนาก รองก้ นขันและประดับด้ วยดอกรัก ดอกบานไม่ร้ ูโรย ดอกดาวเรื อง หรื อดอกไม้ อื่น ๆ
ขันหมากรอง (ขันหมากโท) คือ จัดขนม (ส่วนมากเป็ นขนมแห้ ง) ส้ ม กล้ วย มะพร้ าว และผลไม้ ต่าง ๆ
ใส่พานหรื อถาด ประมาณ ๘ ที่ ๒๐ ที่ ๔๐ ที่ หรื อตามที่ตกลงกันไว้ แล้ วปั กธงกระดาษสีแดงเล็ก ๆ ตรงกลางถาดทุก ๆ
ที่
การปฏิบัติ
ผู้ใหญ่ฝ่ายชายนาขบวนขันหมาก ติดตามด้ วยเจ้ าบ่าว ญาติผ้ ใู หญ่
เจ้ าบ่าว คนถือต้ นกล้ วย ๒ ต้ น ๒ คน คนถือต้ นอ้ อย ๒ ต้ น ๒ คน คนถือพาน
สิง่ ของมงคล (ข้ าวตอกดอกไม้ ตา่ ง ๆ) ๑ คน คนถือพานดอกไม้ รับไหว้ ๑ คน คน
ถือพานผ้ าไหว้ ผี (ผ้ าขาว ๖ ศอก) ๑ คน คนถือขันหมากเอก ๓ คน คนถือ
ขวดเหล้ า ๒ คน คนถือถาดมะพร้ าวอ่อน ๒ ผล ๑ คน คนถือถาดกล้ วยน ้าว้ า ๒
หวี ๑ คน คนถือถาดใส่หมู คนถือถาดใส่หมี่ คนถือถาดใส่ขนม และอื่น ๆ จานวน
มากน้ อยตามความประสงค์
ตัวอย่ าง
ผังขบวนขันหมาก
๑
๒
๔
๓
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
๑๑
๑๑ ๑๑
๑๒ ๑๒
๑๒ ๑๒
๑๒ ๑๒
๑ เถ้ าแก่
๒ เจ้ าบ่ าว
๓ ญาติผ้ใู หญ่ เจ้ าบ่ าว
๕ และ ๗ คนถือต้ นอ้ อย
๔ และ ๖ คนถือต้ นกล้วย
๘ คนถือพานสิ่งของมงคล
๙ คนถือพานดอกไม้ รับไหว้
๑๐ คนถือพานผ้ าไหว้ ผี
๑๑ คนถือขันหมากเอก
๑๒ คนถือขันหมากรอง
(จานวนมากน้ อยตามความประสงค์ )
- ฝ่ ายเจ้ าสาวจัดคนถือพานหมากไปคอยรับที่ประตูบ้าน (มักนิยมใช้ เด็กหญิง)
- เมื่อขบวนขันหมากมาถึง ก่อนเข้ าบ้ าน เด็กหญิงที่ถือพานหมากมาต้ อนรั บจะพูดว่า
“ไปยังไงมายังไงค่ะ มากันมากมายจริ ง ๆ”
- ผู้นาขบวนขันหมากจะพูดตอบว่า “วันนีม้ าดีนะ ไม่ได้มาร้าย มาเพือ่ จะนาแก้ว
แหวนเงิ นทองและนาคนดีมีสิริมงคลมาให้ เพือ่ เป็ นทองแผ่นเดียวกัน ขอผ่านหน่อยนะจ๊ ะ”
(พร้ อมกับวางซองเงินไว้ บนพานหมากของเด็กด้ วย)
- ฝ่ ายเด็กหญิงก็จะพูดว่า “ถ้าอย่างนัน้ ขอเชิ ญค่ะ ด้วยความยิ นดีค่ะ”
- ญาติฝ่ายเจ้ าสาวที่จดั ไว้ เพื่อรับขบวนขันหมาก นาขันหมากไปวางไว้ ในที่กาหนด
ต่อหน้ าญาติทงสองฝ่
ั้
าย
- นาพานสิง่ ของมงคลไปวางไว้ รวมกับขันหมากเอก ของนอกนันวางไว้
้
ในที่เหมาะสม
วางเป็ นแถวคูก่ นั ส่วนต้ นกล้ วยต้ นอ้ อยรับไปวางพิงไว้ ที่ประตูบ้านทัง้ ๒ ข้ าง
- ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้ าสาวร่วมกันเปิ ดขันหมาก นับสินสอดและโปรยสิง่ ของมงคลบนสินสอด
- นาเจ้ าสาวออกมานัง่ ข้ างซ้ ายเจ้ าบ่าว น้ อมไหว้ ผ้ ใู หญ่ฝ่ายเจ้ าบ่าว ถ้ ามีการสวม
แหวนหมันก็
้ ทาตอนนี ้และปฏิบตั ิเหมือนที่กล่าวไว้ ในตอนหมัน้
- เจ้ าบ่าวเจ้ าสาวไปกราบผู้ใหญ่ทงสองฝ่
ั้
าย (กราบ ๑ ครัง้ ไม่แบมือ)
- เสร็ จพิธี
พิธีสงฆ์ เนื่องในพิธีมงคลสมรส
การเตรี ยมการ
กำรปฏิบต
ั ิ
- เครือ
่ งพิธส
ี งฆ ์ (เหมือนทีท
่ ำบุญทัว่ ไป)
- ดำยมงคลแฝดและแป
อน
ำยสำยสิ
ญจนวงรอบด
วย)
้
้ งเจิม (ใส่พำนตัง้ ไวข
้ ำงหม
้
้ ้ำมนตและเอำด
้
้
์
์
- หมอนกรำบ ๒ ใบ (หน้ำโต๊ะหมูบู
่ ชำ)
- เมือ
่ ถึงเวลำสมควรแลว
้ เจ้ำบำวและเจ
่
้ำสำวนั่งหน้ำโต๊ะหมูบู
่ ชำ (หญิงซ้ำย ชำยขวำ)
- รับเทียนชนวนจำกพิธก
ี ร จับดวยกั
น จุดเทียนจำกซ้ำยไปขวำ (ของผูจุ
้
้ ด) แลวจุ
้ ดธูป เสร็จ
แลวส
ี ร
้ ่ งเทียนชนวนคืนพิธก
- พนมมือเสมออก กลำวค
ำบูชำและอธิษฐำนดังนี.้ - “ขำพเจ
่
้
้ำขอน้อมบูชำสั กกำระคุณพระศรี
รัตนตรัยดวยเครื
อ
่ งสั กกำระนี้ ขำพเจ
่ สั ตยต
น
่ คง ดำรงชีวต
ิ ดวยควำมถู
กตองดี
งำม
้
้
้ำทัง้ สองจะซือ
่ นอยำงมั
่
้
้
์ อกั
ทุกประกำร ดวยสั
จวำจำนี้
ขออำนุ ภำพคุณพระศรีรต
ั นตรัยพรอมทั
ง้ อำนำจคุณงำมควำมดีทง้ั หลำยที่
้
้
ขำพเจ
ำทั
ง
้
สองได
บ
ำเพ็
ญ
มำ
ได
โปรดดลบั
น
ดำลให
ข
ำพเจ
ำทั
ง
้
สอง
ประสบแต
ควำมสุ
ขควำมเจริญ
้
้
้
้
้ ้
้
่
ควำมกำวหน
ิ ยิง่ ๆ ขึน
้ ไป เทอญ”
้
้ ำในชีวต
- กรำบลงทีห
่ มอนพรอมกั
น ๓ ครัง้ แลวหั
้
้ นไปกรำบพระสงฆ ์ ๓ ครัง้ เสร็จแลวนั
้ ่งพับเพียบ
พนมมือรับศี ล ฟังพระสงฆเจริ
ำจะถึ
งเวลำจุดเทียนน้ำมนต ์
่
่
์ ญพระพุทธมนตต
์ อไปจนกว
- คุกเขำ่ รับเทียนชนวนจำกพิธก
ี ร จับดวยกั
น จุดเทียนน้ำมนตที
่ มอน
้
้ ้ำมนต ์ แลวส
้ ่ งเทียน
์ ห
ชนวนคืนพิธก
ี ร
- ยกหมอน
น ประเคนพระรูปแรก (ยกพอพนพื
้ วำงลงบนผำที
่ ระทำนถื
อรองรับ)
้ ้ำมนตด
้
้ น
้ พ
่
์ วยกั
แลวนั
งเวลำตักบำตร (พระสวด “พำหุง”)
้ ่งพับเพียบพนมมือฟังพระสงฆเจริ
่ จนกวำจะถึ
่
์ ญพระพุทธมนตต
์ อ
- ลุกไปตักบำตร (จับทัพพีดวยกั
น หยิบของใส่บำตรดวยกั
น)
้
้
- กลับมำทีพ
่ ระสงฆเพื
่ ประเคนภัตตำหำรเมือ
่ พระสงฆเจริ
์ อ
์ ญพระพุทธมนตจบ
์ (ยกภัตตำหำร
ประเคนดวยกั
นทุกอยำง)
เสร็จแลวกรำบพระสงฆ
อนรั
บแขก ญำติมต
ิ ร
้
่
้
้ กไปพักผอนต
่
้
์ ๓ ครัง้ แลวลุ
ตำมอัธยำศั ยจนกวำพระสงฆ
จะฉั
น
ภั
ต
ตำหำรเสร็
จ
่
์
- กลับมำทีพ
่ ระสงฆเพื
่ ประเคนไทยธรรม ยกประเคนดวยกั
นจนครบทุกรูป
้
์ อ
- กลับมำนั่งพับเพียบทีเ่ ดิม ถือทีก
่ รวดน้ำดวยกั
น เตรียมกรวดน้ำ เริม
่ รินน้ำเมือ
่ พระเริม
่
้
“ยถำ….” โดยตัง้ ใจอุทศ
ิ กุศลดังนี้ “ขำพเจ
ิ ส่วนกุศลทีไ่ ดบ
นในวันนี้ ให้แกท
ม
่ ี
้
้ำขออุทศ
้ ำเพ็ญรวมกั
่
่ ำนที
่
พระคุณ มีมำรดำ บิดำ ครูอำจำรย ์ เป็ นตน
้ ขอทุกคนทีไ่ ดรั
้ บส่วนบุญของขำพเจ
้
้ำ จงเป็ นสุขโดยทัว่
กันเถิด” และรินน้ำให้หมดเมือ
่ พระรูปแรกวำจบลง
แลวพนมมื
อรับพรตอไปจนกว
ำพระสงฆ
จะอนุ
โมทนำจบ
่
้
่
่
์
พิธีหลั่งนา้ พระพุทธมนต์ และประสาทพร
การเตรี ยมการ
- โต๊ะหมูบู
อ
่ งสั กกำระ
่ ชำ ๑ ชุด พรอมเครื
้
- โต๊ะน้ำสั งข ์ พรอมทั
ง้ อุปกรณหลั
้
์ ง่ น้ำ ๑ ชุด
- พวงมำลัย ๒ ชำย ๒ พวง
- ดำยมงคลแฝด
๑ ชุด
้
- แป้งกระแจะสำหรับเจิม ๑ ที่
- น้ำพระพุทธมนต ์ ๑ ขัน พรอมขั
นเล็กสำหรับตักน้ำใส่สั งข ์ ๑ ที่
้
กำรปฏิบต
ั ิ
เมือ
่ ถึงกำหนดเวลำ
- เจ้ำบำวและเจ
่
้ำสำวไปนั่งคุกเขำที
่ โ่ ต๊ะหมูบู
่ ชำ (หญิงซ้ำย ชำยขวำ)
- รับเทียนชนวนจำกพิธก
ี ร จุดธูปเทียนเช่นเดียวกับตอนพิธส
ี งฆ ์
- พนมมืออธิษฐำนจิต หรือกลำวค
ำบูชำอธิษฐำนตำมพิธก
ี รเพือ
่ ควำมสุขควำมเจริญ
่
- กรำบลงทีห
่ มอนพรอม
ๆ กัน ๓ ครัง้
้
- ไปนั่งทีต
่ ง่ ั รอรับน้ำสั งข ์ (หญิงซ้ำย ชำยขวำ)
- พนมมือยืน
่ พำดโต๊ะวำงแขนขำงหน
่ ไมให
ำ้
้
้ ำ น้อมปลำยมือลงเล็กน้อย (เพือ
่ ้น้ำสั งขไหลเข
์
หำตัว) และให้มืออยูเหนื
อพำนดอกไมรองรั
บน้ำสั งข ์
่
้
- น้อมศี รษะเล็กน้อยให้กับทุกคนทีไ่ ปหลัง่ น้ำสั งขและประสำทพร
์
- ยืน
่ มือซ้อนกันรับดำยมงคลจำกประธำนที
ถ
่ อดมงคลให้แลวลุ
้ ยืนพรอมกั
น (เมือ
่
้
้ กขึน
้
ประธำนจับมือบอกลุกขึน
้ ) เจ้ำสำวเก็บดำยมงคลไว
ในที
เ่ หมำะสม
้
้
- ไปกรำบพระทีโ่ ต๊ะหมูบู
่ ชำ ๓ ครัง้
เสร็จพิธี
หมำยเหตุ ดำยมงคลถื
อวำเป็
ิ งคล ให้เก็บไวถำวรในที
ส
่ งู เช่น บนหิง้ พระ เป็ น
้
่ นของสูง เป็ นสิ รม
้
ตน
ใช้ในกำรทีเ่ ป็ นมงคลเทำนั
้ หำกจะนำไปใช้ในกำรตอไปก็
่
่ ้น
พิธีหลั่งนา้ พระพุทธมนต์
หน้ าที่ประธานในพิธีหลั่งนา้ พระพุทธมนต์ และประสาทพร
การปฏิบัติ
หลังจากเจ้ าบ่าวและเจ้ าสาวบูชาพระและนัง่ ที่โต๊ ะน ้าสังข์เรี ยบร้ อย
- ประธานในพิธีไปที่โต๊ ะน ้าสังข์ น้ อมศีรษะไหว้ พระที่โต๊ ะหมู่บชู า ๑ ครัง้
- รับพวงมาลัยจากพิธีกรและกล่าวว่า “ขออานุภาพแห่งความรักทัง้ ทีเ่ ป็ นบุพเพสันนิ วาสและ
ปั จจุบนั
เกื ้อหนุน ได้โปรดค้าจุนความรักของคุณทัง้ ๒ ให้สดชื ่น ยัง่ ยื นตลอดไป” แล้ วสวมให้ เจ้ าบ่าว
และเจ้ าสาว (ให้ ชายของพวงมาลัยทังสองข้
้
างพาดอยู่บนโต๊ ะวางแขน)
- รับด้ ายมงคลจากพิธีกร พนมมือกล่าวว่า “พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็ นมงคลในโลก ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระศรี
รัตนตรัย ขอความสุขสวัสดี มงคลจงบังเกิ ดแก่คณ
ุ ทัง้ สองตลอดกาลทุกเมื ่อเทอญ” แล้ วใช้ มือแต่ละข้ างกางคลี่บ่วงด้ ายมงคลแต่ละบ่วงออก
สวมศีรษะของเจ้ าบ่าวและเจ้ าสาวพร้ อม ๆ กัน (มือซ้ ายสวมเจ้ าบ่าว มือขวาสวมเจ้ าสาว) โดยให้ ปมด้ ายอยู่ด้านหลังศีรษะ (ถ้ าไม่เรี ยบร้ อย
ให้ จดั อีกครัง้ หนึง่ )
- รับแป้งเจิมจากพิธีกร (หรื อพิธีกรถือไว้ ให้ ) ใช้ นิ ้วชี ้จุ่มแป้ง จุดที่กลางหน้ าผากเจ้ าบ่าวและเจ้ าสาวเป็ น ๓ จุด วนเป็ น
ทักษิณาวรรต คือวนขวา เริ่มจุด ๑ ซ้ ายมือ ภาวนาว่า พุทโธ จุด ๒ ขึ ้นบน ภาวนาว่า ธัมโม จุด ๓ ขวามือ ภาวนาว่า สังโฆ หรื อจะภาวนาว่า “อะ
อุ มะ” หรื อ “อิ สฺวา สุ” ก็ได้ (ความหมายเหมือนกัน)
๑ ๒
๓
- รับน ้าสังข์จากพิธีกร รินลงที่มือเจ้ าบ่าวและเจ้ าสาวที่พนมอยู่พร้ อมกับกล่าวว่า “ขอให้ ทงสองจงครองรั
ั้
กกันด้ วยความซื่อสัตย์
สมัครสมานเป็ นอันเดียวกัน ดุจน ้าที่รินลงมารวมกันอยู่นี ้”
- เวลาถอดด้ ายมงคล ไปที่โต๊ ะน ้าสังข์ น้ อมศีรษะไหว้ พระ ๑ ครัง้ แล้ วหันมาทางเจ้ าบ่าวและเจ้ าสาวกล่าวว่า “ขอสรรพมิ่ งมงคล
ความสุขสวัสดี ทงั้ หลาย จงมี แก่คณ
ุ ทัง้ สองตลอดกาลทุกเมื ่อเทอญ” แล้ วใช้ มือทังสองปลดด้
้
ายมงคล (มือซ้ ายปลดเจ้ าบ่าว มือขวาปลด
เจ้ าสาว) พร้ อม ๆ กัน แล้ วรวมด้ ายมงคลใส่ไว้ ในมือเจ้ าบ่าวและเจ้ าสาวที่ยื่นออกมารับ แล้ วจับมือเจ้ าบ่าวและเจ้ าสาวเชิญยืนขึ ้น (ให้ เจ้ าบ่าว
และเจ้ าสาวไปกราบพระ)
เสร็จพิธี
พิธีไหว้ วญ
ิ ญาณบรรพบุรุษ (ไหว้ ผ)ี
การเตรี ยมการ
- เก็บของกินที่มากับขันหมากอย่างละเล็กละน้ อย ใส่ในถาดหรื อจาน ๒ ใบ
- ริ นเหล้ าใส่แก้ ว ๒ ใบ จาก ๒ ขวด และน ้าดื่ม ๒ แก้ ว
- เทียน ๒ เล่ม และธูป ๒ ดอก สาหรับเจ้ าบ่าวและเจ้ าสาว
การปฏิบัติ
หลังจากเสร็จพิธีมอบขันหมากแล้ ว
- ปูผ้าขาวบนโต๊ ะหรื อที่พื ้นภายในบ้ านมุมใดมุมหนึ่งที่เห็นว่าเหมาะสม
- วางถาดหรื อจานของกินทีเ่ ก็บจากขันหมาก พร้ อมทังแก้
้ วเหล้ า ๒ แก้ ว และน ้าดื่ม ๒
แก้ ว บนผ้ าขาวที่ปบู นโต๊ ะหรื อที่พื ้น
- จุดธูป เทียน ให้ เจ้ าบ่าวและเจ้ าสาวปั กไว้ ณ ที่ปักหรื อบนถาดหรื อจานของไหว้
- กล่าวบูชาวิญญาณของบรรพบุรุษว่า “วันนี ้นาย…..และนางสาว….ได้ เข้ าพิธีมงคล
สมรสตามประเพณี จึงขอนอบน้ อมแด่ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่ลว่ งลับไป เพื่อเป็ นการบอก
กล่าวขออนุญาตและขอให้ ดวงวิญญาณและพระคุณของท่านได้ โปรดอวยพรให้ ลกู หลานมีความสุข
ความเจริ ญในชีวิตสมรสยิ่ง ๆ ขึ ้นไปเทอญ” (กราบ ๑ ครัง้ ไม่แบมือ)
เสร็จพิธี
การไหว้ และการรับไหว้
กระทาหลังจากเสร็จพิธีมอบขันหมากแล้ ว เฉพาะที่เกี่ยวกับญาติผ้ ใู หญ่ หรื อผู้เคารพนับ
ถือใกล้ ชิดเท่านัน้
การไหว้ คูบ่ า่ วสาวจะนาพานธูปเทียนแพกรวยดอกไม้ สด หรื อพานดอกไม้ ธปู เทียน และ
ผ้ าไหว้ หรื อของที่ระลึกไปกราบแสดงความเคารพญาติผ้ ใู หญ่หรื อผู้ทเี่ คารพนับถือ
การรับไหว้ ผู้ใหญ่จะกล่าวคาอวยพร (บางแห่งมีด้ายขาวผูกข้ อมือคูบ่ า่ วสาวด้ วย) และ
มอบของรับไหว้ เช่น เงิน ทอง หรื อทรัพย์สินอื่น ๆ ฯลฯ
พิธีปูท่ นี อนเรี ยงหมอน
ก่อนจะทาพิธีสง่ ตัวเจ้ าสาว ต้ องมีพิธีปทู ี่นอนเรี ยงหมอน โดยนิยมเชิญคูส่ ามีภรรยาผู้เป็ น
ที่เคารพนับถือที่อยู่กินด้ วยกันมาด้ วยความรักสามัคคี มีความผาสุกราบรื่ น ให้ เป็ นผู้ปทู ี่นอน วิธีปใู ห้
จับชายผ้ าพร้ อมกันและปูพร้ อมกัน หยิบสิ่งของอันเป็ นมงคล เช่น ฟั กเขียว ๑ ลูก หม้ อใหม่ใส่น ้า
สะอาด ๑ หม้ อ หินบดยา ๑ อัน ถัว่ เขียว ๑ ถุง งาดา ๑ ถุง เป็ นต้ น วางไว้ ข้างที่นอน แล้ วทังคู
้ จ่ ะลง
นอนพอเป็ นพิธีเอาฤกษ์ ก่อน เรี ยกว่า ฤกษ์ เรี ยงหมอน สามีนอนบนที่นอนเจ้ าบ่าว ภรรยานอนบนที่
นอนเจ้ าสาว สนทนาด้ วยคาอันเป็ นมงคล เช่น ฝ่ ายสามีอาจพูดว่า “แหม ! ที่นอนนี ้สบายดีจริ ง ใคร
ได้ นอนก็ต้องอยู่เป็ นสุข” ฝ่ ายภรรยาอาจต่อท้ ายว่า “เราคงมีความเจริ ญยิ่ง ๆ ขึ ้นไป”
ต่อจากนัน้ คูส่ ามีภรรยาทาเป็ นนอนหลับพอเป็ นพิธี แล้ วตื่นขึ ้น
สนทนา เป็ นเชิงทานายฝั นกัน เช่น ภรรยาอาจพูดว่า “เมื่อกี ้นี ้ฝั นว่ามีเทพ
เจ้ ามาคุ้มครองรักษาและนาเงินทองมาให้ ” สามีก็แก้ ฝันว่า “เป็ นฝั นดี จะ
ทาให้ เราทังสองมั
้
ง่ มีศรี สขุ ตลอดไป” เป็ นต้ น แล้ วทังคู
้ ล่ กุ จากที่นอน โปรย
ข้ าวตอกดอกไม้ และประพรมน ้าพระพุทธมนต์ที่นอนและห้ องนอน พร้ อมกับ
กล่าวคาอวยพรให้ แก่คบู่ า่ วสาวว่า “ขอให้ คบู่ า่ วสาวผู้ใช้ ที่นอนอันเป็ นมงคล
นี ้ได้ อยูก่ ินกันอย่างมีความสุขราบรื่ นตลอดไป” เสร็ จพิธีปทู ี่นอนเรี ยงหมอน
เพียงนี ้
พิธีส่งตัวเจ้ าสาว
เมื่อทาพิธีปทู ี่นอนเรี ยงหมอนเสร็ จแล้ ว เจ้ าบ่าวพร้ อมบิดามารดา
หรื อผู้ปกครองเข้ าไปรอเจ้ าสาวอยูใ่ นห้ อง ถึงเวลาฤกษ์ เถ้ าแก่ฝ่ายเจ้ าสาว
หรื อบิดามารดาหรื อผู้ปกครองที่เข้ าใจในพิธีดี จะนาเจ้ าสาวเข้ ามาส่งให้
เจ้ าบ่าว ผู้ใหญ่ทงสองฝ่
ั้
ายจะกล่าวให้ โอวาทและให้ พรแก่บตุ รหลานของตน
เจ้ าสาวจะกราบฝากตัวกับเจ้ าบ่าว ผู้ใหญ่ทงหมดจะออกจากห้
ั้
องหอ ปล่อย
ให้ เจ้ าบ่าวกับเจ้ าสาวอยูก่ นั ตามลาพัง พิธีแต่งงานก็สิ ้นสุดลงเพียงเท่านี ้
เบ็ดเตล็ด
การจัดเตียบ
เตียบ ไดแก
มีฝำครอบ เป็ นส่วนหนึ่งของ
้ ่ ตะลุมปำกผำย
่
ขันหมำกเอก กำรจัดเตียบจะจัด ๑ คู่ ๒ คู่ ๓ คู่ ๔ คู่ หรือ
มำกกวำ่ ๔ คูก็
๑ คู่
่ ได้ ตำมปกติแลวจั
้ ดเป็ น ๔ คู่ ใส่หอหมก
่
ขนมจีน ๑ คู่ หมูตม
่ ด
ั
้ ๑ คู่ และขนมตม
้ ๑ คู่ บรรดำเตียบทีจ
ของใส่เหลำนั
่ ้น หอด
่ วยผ
้
้ำลำยทองและใช้ไหมทองผูกแบบเดียวกับ
ขันหมำกเอก ยกไปพรอมกั
บขันหมำกเอก จุดประสงคเพื
่ เสริม
้
์ อ
ขันหมำกเอกให้มีควำมสวยงำมมำกยิง่ ขึน
้ และถือเป็ นเคล็ดแสดงถึง
ควำมสมบูรณพู
พยสิ์ นเงินทอง (ปัจจุบน
ั กำรจัด
้
์ นสุข มัง่ คัง่ ดวยทรั
เตียบมีน้อยลง)
วิธผ
ี ำนประตู
เงิน นำก ทอง
่
เมือ
่ ขบวนขันหมำกถึงบำนเจ
้
้ำสำว ผู้ใหญฝ
่ ่ ำยหญิงซึง่ รอ
ตอนรั
บอยู่ โดยจัดเด็กหญิงอำยุประมำณ
๗-๘ ขวบ ถือพำน
้
หมำกพลูรอตอนรั
บอยูด
ั เป็ นจำนวนคู)่ และกลำวต
อนรั
บ
้
่ วย
้ (หมำกพลูจด
่
้
วำ่ “วันนี้ฤกษงำมยำมดี
พวกทำนมำดี
หรือมำรำย
ใครขอทรำบ”
่
้
่
์
ผู้ใหญฝ
ทำนผู
่ ่ ำยชำยก็ตอบไปวำ่ “วันนี้ฤกษงำมยำมดี
่
้ปรำรถนำดี
์
ผู้ใหญจะน
ำเอำแกวเข
จะนำเอำเขยเขำมำฝำก
จะนำเอำ
่
้ ำมำเกย
้
้
ขันหมำกเขำมำให
แลวก็
้
้ หำกไมขั
่ ดของขอให
้
้รับไวด
้ วย”
้
้ วำงซองเงิน
บนพำนหมำกพลูให้เด็กหญิง
วิธีเปิ ดขันหมาก
เมื่อขบวนขันหมากเข้ าไปในบ้ านเรี ยบร้ อยแล้ ว ให้ นาขันหมากไปวางไว้ ณ ที่ที่เจ้ าของ
บ้ านจัดเตรี ยมไว้ หลังจากผู้ใหญ่ทงสองฝ่
ั้
ายได้ เจรจาพาทีสขู่ อและมอบ-รับขันหมากกันเรี ยบร้ อย
แล้ ว ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงก็จะพูดว่า “เพื่อเป็ นสิริมงคลและเป็ นที่ทราบทัว่ กัน ขอให้ เปิ ดขันหมากดูด้วย”
ผู้ใหญ่ฝ่ายชายก็ทาการเปิ ดขันหมากทังหมด
้
เปิ ดขันที่ ๑ ขันหมากพลูก่อน โดยปูผ้าห่อขันหมากที่
พื ้น หยิบใบพลูวางเรี ยงบนผ้ าก่อนแล้ ววางหมาก ถุงข้ าวเปลือก ถุงถัว่ เขียว ถุงงาดา ถุงข้ าวตอก ลง
บนใบพลู เปิ ดขันที่ ๒ ขันเงินทุน ปูผ้าห่อขันเงินทุนที่พื ้น
หยิบใบเงิน ใบนาก ใบทอง วางเรี ยง
บนผ้ า วางเรี ยงดอกไม้ ต่าง ๆ ไว้ รอบนอก วางเงินทุนไว้ ตรงกลางแล้ วตรวจนับ (หากเป็ นขันหมันให้
้
แก้ ผ้าห่อขันหมันออกอย่
้
างเดียว) เปิ ดขันที่ ๓ ขันสินสอดปูผ้าห่อขันสินสอดที่พื ้น หยิบใบเงิน
ใบนาก ใบทอง วางเรี ยงบนผ้ า วางเรี ยงดอกไม้ ต่าง ๆ ไว้ รอบนอก วางเงินสินสอดไว้ ตรงกลาง แล้ ว
ตรวจนับ (ปั จจุบนั มีเฉพาะเปิ ดขันหมากแล้ วโปรยสิ่งของมงคลเท่านันเป็
้ นส่วนมาก ไม่ค่อยมีการ
นับเงินสินสอดเหมือนในอดีต)
เมื่อเปิ ดขันหมากตรวจนับดูเสร็จเรี ยบร้ อยแล้ วก็หอ่ มอบส่งให้ ฝ่ายหญิงไป โดยเฉพาะห่อ
เงินสินสอด ฝ่ ายหญิงรับไปแล้ วให้ แบกขึ ้นบ่าพร้ อมเปล่งเสียงด้ วยความปี ติวา่ “เงินทองมากมาย
หนักจริ ง ๆ” โดยถือเอาเคล็ดเป็ นนิมิตหมายถึงความมัง่ มีศรี สขุ ทรัพย์สินเงินทองมากมายตามคติ
โบราณ ส่วนหมากพลูก็หอ่ มอบส่งให้ ฝ่ายหญิงเช่นกัน เก็บไว้ ๓, ๗ วัน แล้ วนาไปพลีใต้ ต้นไม้ ใหญ่
ความหมายสิ่งของสิริมงคล
- ข้ าวเปลือก ถัว่ เขียว งาดา หมายถึง ความเจริ ญงอกงาม
- ข้ าวตอก หมายถึง ฐานะใหญ่โต
- ใบเงิน ใบนาก ใบทอง หมายถึง แก้ วแหวนเงินทอง
- พลูเรี ยง หมายถึง ความเป็ นญาติเรี ยงพี่เรี ยงน้ องกัน
- หมาก มีรสฝาด มีคณ
ุ สมบัติในทางประสานแผล หมายถึง เมื่อ
มีการผิดพลาดล่วงเกินกันก็ให้ อภัยกันประสานกันดีดงั เดิม
- ฟั กเขียว หมายถึง ให้ อยูเ่ ย็นเป็ นสุขเหมือนฟั ก
- หม้ อใหม่ใส่น ้า หมายถึง ให้ กลมเกลียวไม่แตกแยกเหมือนน ้า
- หินบดยา หมายถึง ให้ หนักแน่นเหมือนหิน
การกล่ าวอวยพร
พิธีเลี ้ยงฉลองมงคลสมรส ถือว่าเป็ นพิธีใหญ่ที่สาคัญพิธีหนึง่ ใน
พิธีนี ้ ขันตอนส
้
าคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การกล่าวอวยพรคู่บา่ วสาว บางงาน
ที่มีแขกผู้ใหญ่หรื อญาติมิตรมาร่วมงานมาก มักจะเชิญให้ กล่าวอวย
พรกันหลาย ๆ คน ทางปฏิบตั ิที่เหมาะสม คือควรเชิญผู้ที่เป็ นผู้ใหญ่ที่สดุ
หรื อผู้ที่เจ้ าภาพพิจารณาเห็นสมควรเป็ นผู้แทนแขกที่มาร่ วมงานทังหมด
้
กล่าวอวยพรเพียงคนเดียว หรื อบางงานเชิญผู้กล่าวอวยพร ๒ คน ก็ได้
โดยเชิญผู้ใหญ่ทางฝ่ ายเจ้ าบ่าวกล่าว ๑ คน และเชิญผู้ใหญ่ทางฝ่ าย
เจ้ าสาวกล่าว ๑ คน และตอนท้ ายหลังจากกล่าวอวยพรคูบ่ า่ วสาวแล้ ว
ควรให้ คบู่ า่ วสาวกล่าวขอบคุณผู้มาร่วมงานด้ วย
ตัวอย่ างคากล่ าวอวยพรในฐานะผู้ใหญ่ ของทัง้ สองฝ่ าย
ท่านผู้มีเกียรติ ที่เคารพ
ผมรู้สกึ เป็ นเกียรติที่ได้ รับเชิญจากเจ้ าภาพ ให้ เป็ นผู้แทนแขกผู้มีเกียรติขึ ้นมากล่าวให้ โอวาทและ
อวยพรคูบ่ า่ วสาว ในโอกาสงานมงคลสมรสระหว่างคุณ………….…………และ
คุณ………………………
เจ้ าภาพ คือคุณ……………….....ให้ โอกาสนี ้แก่ผม เนื่องจากเราได้ เคยร่วมชันเรี
้ ยนกันมาใน
ระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรี ยน………………………… และยังคงติดต่อสนิทสนมกันมาโดยตลอดจนถึงทุก
วันนี ้
ผมรู้สกึ ชื่นชมยินดีแทนเจ้ าภาพและคูบ่ า่ วสาว ที่มีแขกมาร่วมงานมงคลสมรส แสดงความยินดี
และอวยพรกันอย่างคับคัง่
แขกผู้มีเกียรติทกุ ท่าน คงมีความเห็นสอดคล้ องกับผมที่คบู่ า่ วสาวในวันนี ้ มีความเหมาะสมกัน
ทุกประการ ทังคุ
้ ณสมบัติและรูปสมบัติ
การศึกษา เจ้ าบ่าวจบ…………………….เจ้ าสาวจบ …………………..
ฐานะ
เจ้ าบ่าวเป็ นบุตร……………..……เจ้ าสาวเป็ นบุตร …………...…
รูปสมบัติ เจ้ าบ่าวก็หล่อ เจ้ าสาวก็สวย
นับว่าเป็ นปั จจัยพื ้นฐานในการครองคูก่ นั ด้ วยความราบรื่ นต่อไป
ความปรารถนาสูงสุดในการดารงชีวิตสมรส ก็คือความสุขในครอบครัว การที่จะมีความสุข
ได้ มากน้ อยเพียงใด ในฐานะที่เจ้ าบ่าวเจ้ าสาวเป็ นพุทธศาสนิกชน ควรได้ อาศัยหลักธรรมคาสัง่ สอนของ
พระพุทธเจ้ า เพื่อยึดถือเป็ นแนวปฏิบตั ิประจาใจ ๔ ประการ คือ
๑. คูสมรสต
องมี
ควำมจริงใจ ซือ
่ สั ตย ์ ซือ
่ ตรงตอกั
่
้
่ น
ทัง้ ตอหน
่
้ ำและลับหลัง
๒. รูจั
สึ้ กทัง้ ดีและไมดี
้ กยับยัง้ อำรมณ ์ ขมควำมรู
่
่ ไวได
้ ้
ไมแสดงออกให
ิ ำ
่
้ปรำกฏจนเสี ยกิรย
๓. มีควำมอดทน ไมท
ตัง้ ใจทำหน้ำทีก
่ ำรงำน
่ อถอย
้
ดวยควำมขยั
นหมัน
่ เพียร เขมแข็
ง อดทน ไมหวั
่ ไหว
้
้
่ น
เพือ
่ บรรลุจุดมุงหมำยของกำรครองเรื
อน
่
๔. รูจั
่
้ กเสี ยสละควำมสุขและผลประโยชนส
์ ่ วนตนเพือ
ครอบครัว พรอมที
จ
่ ะรับฟังควำมคิดเห็ นของกันและกัน โดย
้
อยำคิ
นฝ่ำยเสี ยเปรียบ
แตควรท
ำตนให้
่ ดวำตนเป็
่
่
เป็ นผู้แพเสมอ
เพือ
่ ประคองชีวต
ิ คูให
น
่ และ
้
่ ้อยูอย
่ ำงรำบรื
่
มัน
่ คง
ในโอกำสอันเป็ นสิ รม
ิ งคลนี้ ผมขอตัง้ จิตอธิษฐำนขอ
อำนุ ภำพคุณพระศรีรต
ั นตรัย และสิ่ งศักดิสิ์ ทธิท
์ ง้ั หลำยใน
สำกลโลก อีกทัง้ พระบำรมีของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยูหั
่ ว
และสมเด็จพระนำงเจ้ำฯ พระบรมรำชินีนำถ
ไดโปรดดลบั
นดำลประทำนพร ให้คูบ
ครองคูกั
้
่ ำวสำว
่
่ นดวย
้
ควำมสุข ควำมรำบรืน
่ มีควำมมัง่ คัง่
มัน
่ คง
มีบุตร
ตัวอยำงค
ำกลำวอวยพรในฐำนะผู
่
่
้ใหญฝ
่ ่ ำย
เจ้ำบำว
่
“ทำนผู
น
่ ผมตอง
่
้มีเกียรติทเี่ คำรพ กอนอื
่
้
ขอขอบคุณทุกทำนที
ไ่ ดกรุ
่
้ ณำมำให้เกียรติแกเจ
่ ้ำภำพ
และคูสมรสอย
ำงพร
อมเพรี
ยงกัน เป็ นควำมอบอุนและ
่
่
้
่
ประทับใจทีเ่ จ้ำภำพตองร
ำลึกไวตลอดไป
้
้
หำกจะมีบำงสิ่ งบำงอยำงขำดตกบกพร
องไปบ
ำง
่
่
้
ก็ขอกรำบอภัยไว้ ณ
ทีน
่ ี้ดวย
้
ผมมองดูเจ้ำบำวเจ
่
้ำสำวแลว
้ มีควำมรูสึ้ กวำทั
่ ง้
สองเป็ นคูบุ
่ ทจริ
นเจ้ำบำว
่ พเพสั นนิวำสทีแ
้ ง ผมไดพบเห็
้
่
มำตัง้ แตเริ
่ มีชว
ี ต
ิ อยูในโลก
จนเติบใหญ่
่ ม
่
มีคุณลักษณะพิเศษอยูหลำยอย
ำง
จึงมัน
่ ใจไดว
่
่
้ ำ่
เจ้ำสำวเลือกคูไม
่ ผิ
่ ดแน่ เคล็ดลับของกำรครองเรือนมี
อยูนิ
และควำม
่ ดเดียวคือ ควำมรัก ควำมเขำใจ
้
จริงใจตอกั
ิ คูก็
ี ตควำมสุ
ข สดชืน
่
่ น มีส่ิ งนี้แลวชี
้ วต
่ มแ
่
และยัง่ ยืนมัน
่ คงตลอดไป
ตัวอย่ างคากล่ าวอวยพรในฐานะผู้ใหญ่ ฝ่ายเจ้ าสาว
“ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ ในนามเจ้ าภาพฝ่ ายหญิง ใคร่ขอขอบพระคุณ
ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพรักทังหลาย
้
ที่กรุณาเสียสละเวลามาร่วมพิธี เพื่อเป็ น
เกียรติแก่คบู่ า่ วสาวตลอดจนญาติผ้ ใู หญ่ทงสองฝ่
ั้
าย ภาพแห่งผู้มาร่วมเป็ นสักขี
พยานในงานวันนี ้คงจะประทับใจแก่คสู่ มรสอย่างหาที่สดุ มิได้
ผู้หญิงนันถึ
้ งแม้ จะได้ รับสิทธิทกุ อย่างเท่าเทียมชาย แต่โดยประเพณีอนั ดี
งามของเราแล้ ว ผู้หญิงก็คือผู้หญิงที่ต้องธารงไว้ ซงึ่ ความอ่อนช้ อยละมุนละม่อม
สงบเสงี่ยม จึงจะน่ารักและงดงามไม่จืดจาง จึงขอฝากให้ เจ้ าสาวได้ จาไว้ ตลอด
กาล และขอฝากให้ เป็ นสมบัติอนั ล ้าค่าของเจ้ าบ่าว ตังแต่
้ วนั นี ้ มีหน้ าที่อะไรก็ให้
ร่วมกันบริหารด้ วยเหตุผลและคุณธรรมทุกอย่างจะเรี ยบร้ อยและราบรื่ นเอง
สุดท้ ายนี ้ขออานาจคุณพระศรี รัตนตรัยและอานาจคุณงามความดี
ทังหลาย
้
ได้ ดลบันดาลให้ คณ
ุ ทังสองประสบแต่
้
ความสุข ความเจริญความสาเร็จ
ในชีวิตยิ่ง ๆ ขึ ้นไป สวัสดี”
ตัวอย่ างคากล่ าวขอบคุณของคู่บ่าวสาว
“กระผมและเจ้ าสาวของกระผม ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่
ได้ กรุณาให้ ความเมตตามาร่วมเป็ นเกียรติในพิธีวนั นี ้ หากจะมีบางสิ่ง
บางอย่างบกพร่องไปบ้ าง ก็กราบขออภัย โอวาทและคาอวยพรที่ทกุ
ท่านกรุณามอบให้ กระผมและเจ้ าสาวในวันนี ้ กระผมและเจ้ าสาวของ
กระผมขอน้ อมรับด้ วยความซาบซึ ้งใจ และถือว่าเป็ นสิริมงคลยิ่งแก่ชีวิต
อย่างหาที่สดุ มิได้ ขอกราบขอบพระคุณครับ”
ฝ่ ายเจ้ าสาว อาจจะกล่าวเพียงว่า “ขอกราบขอบพระคุณทุก
ท่านค่ะ” ก็ได้ แล้ วแต่บรรยากาศและความเหมาะสม
หมายเหตุ - คากล่าวต่าง ๆ ที่วา่ มานัน้ เป็ นเพียงแนวทางหนึง่
เท่านัน้ การกล่าวให้ ไพเราะ ลึกซึ ้งคมคายอย่างไร แล้ วแต่ความคิดและ
ลีลาวาทศิลป์ของแต่ละคน
*************