Transcript Document

มาตรฐานโรงพยาบาล
และบริการสุขภาพ
ฉบับ พ.ศ. 2549
1
ตอนที่ I
การวัด วิเคราะห์ และจัดการความรู้
การวางแผน
กลยุทธ์
การมุ่งเน้ น
ทรัพยากรบุคคล
การนา
ผลลัพธ์
การมุ่งเน้ นผูป้ ่ วย
และสิทธิผปู้ ่ วย
การจัดการ
กระบวนการ
ตอนที่ IV
ด้านการดูแลผู้ป่วย
ด้านการมุ่งเน้ นผู้รบั ผลงาน
ด้านการเงิน
ด้านทรัพยากรบุคคล
ด้านประสิทธิผลขององค์กร
ด้านการนาและสังคม
ด้านสร้างเสริมสุขภาพ
ระบบงานสาคัญของ รพ. ตอนที่ II
มาตรฐานโรงพยาบาล
และบริการสุขภาพ
ฉบับ พ.ศ. 2549
ความเสี่ยง ความปลอดภัย คุณภาพ
การกากับดูแลวิชาชีพ
โครงสร้างกายภาพและสิ่งแวดล้อม
การป้ องกันการติดเชื้อ
ระบบเวชระเบียน
ระบบจัดการด้านยา
ระบบการตรวจทดสอบฯ
งานบริการโลหิต
การทางานกับชุมชน
กระบวนการดูแลผู้ป่วย
ตอนที่ III
กระบวนการดูแลผูป้ ่ วย
การเข้าถึงและเข้ารับบริการ
การประเมินผู้ป่วย
การวางแผน
การดูแลผู้ป่วย
การให้ข้อมูลและเสริมพลัง
การดูแลต่อเนื่ อง
2
I - 1. การนา
I - 1.1 การนาองค์กร
โดยผูน้ าระดับสูง
I - 1.2 การกากับดูแล
และความรับผิดชอบต่อสังคม
ผูน้ าระดับสูงชี้นาองค์กร สื่อสารและ
สร้างสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมผลการ
ดาเนินงานที่ดี ให้ความมันใจในคุ
่
ณภาพ
และความปลอดภัยในการดูแล
ผูร้ บั บริการ.
ก.วิส ัยทัศน์แ ละค่านิ ย ม
1
กาหนดพันธกิ จ วิสยั ทัศน์ ค่านิ ยม
ถ่ ายทอด,ปฏิบตั ิให้เห็นความมุ่งมั ่น
แสดงภาวะผู้นา/รับผิ ดชอบ
2
ความสาเร็จขององค์ ก ร
คุ ณภาพและความปลอดภัย
จัดสรรและบริหารทรัพยากร
สร้างสิ่ ง แวดล้ อมและบรรยากาศ
3
ข.การสื่ อสารและจุดเน้ นขององค์กร
การปรับปรุงผลงาน, การบรรลุ วตั ถุ ประสงค์
การสร้างนวตกรรม, ความคล่ อ งตัว, การเรีย นรู้
สัมพันธภาพ,ความร่วมมือ , การประสานบริก าร
กฎมายและจริยธรรม
2 จุดเน้ น
การดาเนินงาน
การปรับปรุงผลงาน
การทบทวน
ประเมิ นผลงาน
1 การสื่ อสาร
ให้อานาจตัดสิ นใจ
จูงใจ ยกย่ อ งชมเชย
องค์กรแสดงถึงระบบการกากับดูแลกิจการที่ดี
ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ สร้างความ
มั ่นใจว่ามีการดาเนินงานอย่างมีจริยธรรม
และมีส่วนสนับสนุนต่อสุขภาพของชุมชน.
ก.การกากับดูแ ลกิ จการ
1 ระบบกา กับดูแลกิ จการ
ผู้บริหาร การเงิน โปร่งใส การตรวจสอบ ผลประโยชน์
ประเมิ นผลงาน
ผู้นา ระบบการนา 2
การปฏิ บตั ิ
ผลงานที่ ดี
คุณภาพ
ความปลอดภัย
ปรับปรุ งประสิ ท ธิ ภ าพ
ผู้นา ระบบการนา
ค.การเกื้อหนุนชุ มชนและสุ ขภาพของชุ มชน
กา หนดชุมชน/ประเด็นสนับสนุ น
สนั บสนุน
สร้ า งความเข้มแข็ง
ดูแลสุขภาพ
ของชุมชน
ข.กฎหมายแและจริ ยธรรม
ความเสี่ยง
ผลกระทบด้ า นลบ
ความห่ วงกังวล
กระบวนการ
ตัวชีว้ ดั
เป้ าหมาย
กฎหมายข้อ บังคับ
1
ติ ด ตามกา กับ
2
ส่งเสริ มจริ ยธรรม
ดา เนิ นการ
เมื่ อ ละเมิ ด
องค์กรที่ มีคณ
ุ ค่า
ต่อสัง คม
3
I - 2. การวางแผนกลยุทธ์
I – 2.1 การกาหนดกลยุทธ์
I - 2.2 การนากลยุทธ์ไปปฏิบตั ิ
องค์กรกาหนดกลยุทธ์ / วัตถุประสงค์
เชิงกลยุทธ์ เพื่อชี้นาและสร้างความเข้มแข็ง
ให้กบั การดาเนินงานขององค์กรโดยรวม
และสอดคล้องกับความท้าทายที่องค์กร
เผชิญอยู่.
องค์กรถ่ายทอดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
ไปสู่การปฏิบตั ิ และติดตามความก้าวหน้ า
เพื่อให้มนใจว่
ั ่ าบรรลุเป้ าประสงค์.
ก. กระบวนการจัดทากลยุทธ์
1
การวางแผนกลยุทธ์
ผู้มสี ่ วนร่วม: ผู้นาร่วมกับบุค ลากร
ขัน้ ตอนและกรองเวลา
การค้นหา potential blind spot
ข. วัตถุประสงค์เชิ งกลยุทธ์
1
2
2
ปญั หาและความต้ อ งการด้านสุ ขภาพ
จุดแข็ง จุด่ อ น โอกาสสิ่งคุ ก คามขององค์ ก ร
ปจั จัย สาคัญอื่ นๆ
-ความปลอดภัย /ความผิดพลั ง้
-ความร่วมมือ การแข่ งขัน
-การเปลี่ ย นแปลงเทคโนโลยี
-การเปลี่ ย นแปลงระบบบริก าร เศรษฐกิจ
-ความเสี่ย งด้านการเงิน สั งคมจริย ธธรรม
ความสามารถในการนาแผนกลยุทธ์ไ ปปฏิบตั ิ
วัต ถุประสงค์เชิ งกลยุท ธ์และกรอบเวลา
สอดคล้อ งกับความท้ า ทายขององค์ก ร
ความท้าทายขององค์ ก ร
สถานะสุ ข ภาพ/ความต้อ งการสุ ข ภาพ
มีส่ วนต่ อ ผลลั พธ์สุ ข ภาพทีด่ ีข้นึ
การวิ เคราะห์ขอ้ มูล
3
วัต ถุประสงค์เชิ งกลยุท ธ์
ชีน้ าและสร้ า งความเข้มแข็ง
ให้ อ งค์ก รโดยรวม
แผนทรัพยากรบุค คล
2
ปฏิ บัติตามแผน
แผนปฏิ บัติก าร
1
บรรลุเป้ าประสงค์
ทรัพยากร
วัต ถุประสงค์เกี่ ยวกับ การสร้า งเสริ มสุขภาพ
ผลลั พธ์สุ ข ภาพทีด่ ีข้นึ ของ
ผู้ป่วย ครอบครัว ชุ มชน บุค ลากร
สิ่งแวดล้ อ มทีเ่ อื้ อ ต่ อ การมีสุ ข ภาพดี
ก. ถ่ายทอดเพื่ อนาไปปฏิ บตั ิ
ตัวชีว้ ดั สาคัญ
ติ ด ตามความก้ า วหน้ า
ทัง้ องค์ก รมุ่งไปในทิ ศ
ทางเดี ยวกัน
3
ครอบคลุ มประเด็นสาคัญ
และผู้มสี ่ วนได้เสี ย ทังหมด
้
1
คาดการณ์ผ ลการ
ดา เนิ นงาน
ข. คาดการณ์ แ ละเปรีย บเทียบ
เปรี ยบเที ยบ
ตอบสนอง
ความแตกต่ า ง
4
I - 3. การมุ่งเน้ นผูป้ ่ วยและสิทธิผป้ ู ่ วย
I - 3.1 ความรู้เกี่ยวกับผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงาน
องค์กรรับรู้ความต้องการและความคาดหวังของผูป้ ่ วย /
ผูร้ บั ผลงาน เพื่อให้มนใจว่
ั ่ าบริการที่จดั ให้สอดคล้องกับ
ความต้องการดังกล่าว
I - 3.2 ความสัมพันธ์และความพึงพอใจของผูร้ บั ผลงาน
องค์กรสร้างความสัมพันธ์กบั ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงาน เพื่อ
สร้างความเชื่อมัน่ ศรัทธา ความพึงพอใจ และความ
ร่วมมือ มีการประเมินและนาข้อมูลความพึงพอใจของ
ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงานมาใช้ปรับปรุงการดาเนินงาน.
ก.ความรู้เ กี่ ยวกับผู้ป่วย//ผู้รบั ผลงาน
จาแนกส่ วน (Segment)
1
กาหนดส่ วนที่ม่งุ เน้ น
วางแผนจัด
บริ การ
รับฟั ง/เรีย นรู้
2
ความต้อ งการ ความคาดหวัง
ด้วยวิธกี ารทีเ่ หมาะสมกับแต่ ล ะกลุ่ ม
3
ปรับปรุง วิธี การรับฟั ง/เรีย นรู้
บริ การ
สอดคล้ องกับ
ความต้องการ
ปรับปรุง กระบวน
การทางาน
ทันความต้อ งการของผู้เกี่ย วข้อ ง
และทิศ ทางการเปลี่ ย นแปลงของบริก ารสุ ข ภาพ
ั ผู้ป่วย / ผู้รบั ผลงาน
1 สร้างความสัมพันธ์ ก บ
ก.สร้างความสัมพันธ์
2 ช่ อ งทางการติ ดต่อ
ข้อมูล บริการ คาร้องเรียน
ที่สอดคล้องกับ ความต้องการ
จัดการกับ
คาร้องเรี ยน
ปรับปรุ งวิ ธีสร้ า งความสัมพันธ์
4 และช่อ งทางการติ ด ต่ อ
วิธกี ารเหมาะสมกับ แต่ละกลุ่ม
3
รวบรวม
วิเ คราะห์
ข.ประเมิ นความพึ ง พอใจ
1 ประเมิ นความพึ ง พอใจ
ข้อ มูลที่ เป็ น
ประโยชน์
2 ติ ดตามผลทันที
ปรับปรุ งบริ ก าร
การดาเนิ นงาน
สนองความต้องการ
ความเชื่อมั ่นศรัทธา
ความพึ งพอใจ
ความร่ว มมือ
3 ปรับปรุง วิธี การประเมิ นความพึ ง พอใจ
ก.คาประกาศสิ ทธิ ผ้ปู ่ วย
I - 3.2 สิทธิผปู้ ่ วย
องค์กรตระหนักและให้การคุ้มครองสิทธิผป้ ู ่ วย.
I - 6.1 การจัด การกระบวนการ
ผู้ป่วย,ผู้รบั ผลงาน,,ตลาดบริก ารสุ ข ภาพ
สิท ธิพ้นื ฐานตามรัฐธรรมนู ญ
ไม่เลือกปฏิบ ั ติ
ได้ร ับ ข้อมูลเพียงพอ ชัดเจน
ได้ร ับ การช่วยเหลือทัน ทีเมือ่ เสีย่ ง
ทราบชือ่ ผูใ้ ห้ บ ริการ
ขอความเห็น ที่สอง
ปกปิ ดข้อมูล
การเข้า ร่ วมวิจยั
ข้อมูลในเวชระเบียน
การใช้สทิ ธิแทน
ข.กระบวนการคุ้มครอง
1 องค์กร
2
ผูป้ ฏิ บ ัตงิ านตระหนั ก
ทราบบทบาท
ระบบพร้อมตอบสนอง
ผู้รบั บริ การ
ได้ร ับ ข้อมูลสิท ธิ
และหน้ า ที่
ลักษณะการคุ้มครอง
3
4
5
6
ทุ กกิจกรรมการดูแล
การถูกทาร้า ยร่ า งกาย จิตใจ สัง คม
ความเป็ น ส่วนตัว ศักดิ ์ศรี,ค่า นิ ยม
ั หาและความุร นแรง
เท่ า เทียมตามป ญ
ค.ผู้ป่ วยที่ มี ค วามต้ อ งการเฉพาะ
1 ผู้ป่วยระยะสุดท้าย
สิท ธิ ศักดิ ์ศรี
ข้อบั ง คับ กฎหมาย
ความเชือ่ วัฒนธรรม
การมีส่วนร่ วม
2 ผู้ที่ช่ วยเหลื อตนเองไม่ได้
เด็ก ผูพ้ กิ าร ผูส้ งู อายุ
3 ผู้ที่ต้องแยก ผูกยึ ด
ผู้ป่วยได้รบั การคุ้มครอง
สิ ทธิ แ ละศักดิ ศรี
5
I - 4. การวัด วิเคราะห์ และจัดการความรู้
I - 4.1 การวัด วิเคราะห์ และ
ทบทวนผลงานขององค์กร
I - 4.2 การจัดการสารสนเทศ
และการจัดการความรู้
องค์กรจัดให้มีการวัดและวิเคราะห์ผลงานที่
สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน, มีการ
ทบทวนประเมินผล และปรับปรุงผลงานใน
ทุกระดับและทุกส่วนขององค์กร.
องค์กรสร้างความมันใจว่
่ าข้อมูลและ
สารสนเทศที่จาเป็ นสาหรับบุคลากร/ผูป้ ่ วย
/ผูร้ บั ผลงาน มีคณ
ุ ภาพและพร้อมใช้งาน.
มีการจัดการความรู้เพื่อปรับปรุง
ประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กร.
ข.การวิเ คราะห์/
ทบทวนประเมิ นผลงาน
ก.การวัดผลงาน
ข้อมูล/สารสนเทศ /ตัว ชี้ ว ัดผลงาน
ด้า นบริการ,ผูร้ ับ ผลงาน,,การเงิน , ปฏิบ ั ตกิ าร
เพื่อใช้ในระดับ ปฏิบ ั ตกิ ารและระดับ กลยุท ธ์
1
2
เลือก/ รวบรวม/
align
เชือ่ มโยง
เลือกข้อมูล
เชิงเปรียบเที ยบ
ปรับปรุงระบบวัดผลงาน
สอดคล้ อ งกับสถานการณ์
ไวต่ อ การเปลี่ ย นแปลง
ประเมิ นผล
ความสาเร็จ/ผลงานโดยรวม
ความก้าวหน้าตามแผน
การตอบสนองการเปลี่ ย นแปลง
1
ออกแบบ
บุ คลากร/ผูบ้ ริห าร/
ผูป้ ่ วย/ผูร้ ับ ผลงาน/
องค์กรภายนอก
จัดลาดับความสาคัญ
สือ่ สาร /ถ่ายทอด
เพือ่ การปรับปรุง
เพือ่ สร้างนวตกรรม
ทั ่วทัง้ องค์ ก ร
พัฒนา/ปรับปรุงผลงาน
จัดการความรู้
จัดการ
2
Hardware & Software
3
พร้อมใช้ ในภาวะฉุกเฉิ น
4
ปรับปรุง กลไกและระบบ
เชือ่ ถือได้ ป้ องกัน ข้อมูลรัว่ ไหล ใช้ง านง่ า ย
2
3
ความต้องการ
วิ เคราะห์ขอ้ มูล
1
ข.การจัดการความรู้
ก.ความพร้อมใช้ ง าน
ถูกต้อง น่ าเชื่ อถือ
1 ทันการณ์ ปลอดภัย
เข้ าถึง
ทัน ความต้องการ
ทิศทางบริการสุขภาพ
การเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยี
รวบรวม/ถ่า ยทอดความรู้ ของบุ คลากร
ถ่า ยทอด/แลกเปลีย่ นความรู้
แลกเปลีย่ นวิธกี ารปฏิ บ ัตทิ ่ีด-ี > ปฏิบ ั ติ
นาหลักฐานทางวิท ยาศาสตร์ มาใช้
1
ใช้ ประโยชน์
ค.คุณภาพ ข้ อมูล/ความรู้
2 รัก ษาความลับ
ข้ อมูลพร้องใช้
การดูแลผูป้ ่ วย
การบริห ารจัดการ
การตรวจสอบทางคลินิ ก
การพัฒนาคุณ ภาพ
การศึกษา และการวิจยั
6
I - 5. การมุ่งเน้ นผูท้ รัพยากรบุคคล
I - 5.1 ระบบงาน
ระบบงานขององค์กร, การกาหนดหน้ าที่รบั ผิดชอบ,
ระบบประเมินและพัฒนาผลงานของบุคลากร, การ
บริหารค่าตอบแทน, และวิธีปฏิบตั ิ ที่เกี่ยวข้องกับ
บุคลากร เกื้อหนุนให้บคุ ลากรและองค์กรมีผลงานที่ดี มี
การเรียนรู้ และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง.
I - 5.2 การเรียนรู้และการสร้างแรงจูงใจสาหรับบุคลากร
ระบบการศึกษา ฝึ กอบรม และแรงจูงใจขององค์กร ทา
ให้บคุ ลากรมีความรู้ ทักษะ และความสามารถที่จะ
ส่งเสริมให้องค์กรบรรลุวตั ถุประสงค์และมีผลงานที่ดี.
I - 5.3 ความผาสุกและความพึงพอใจของบุคลากร
องค์กรจัดให้มีสภาพแวดล้อมในการทางานและ
บรรยากาศที่สนับสนุนให้บคุ ลากรมีสขุ ภาพดี มีความ
ผาสุก มีความพึงพอใจ และมีแรงจูงใจในการทางาน
วางรูปแบบ
และจัดการ
ระบบงาน
หน้ า ที่ร ับ ผิดชอบ ส่ง เสริม
1 ทักษะ
ค.การจ้างงาน
ความก้าวหน้ า
สื่อสาร/แลกเปลี่ยน
ความร่ วมมือ
ความคิดริเริ่ ม
การให้อานาจตัดสิน ใจ
นวัตกรรม
วัฒนธรรมองค์กร
3
ความรู้/ทักษะ
การศึกษา
กาหนดคุณ สมบัติ ทักษะ
ความรู้
ผลงานดี
เรีย นรู้
ปรับตัว
ก.การวางรูปแบบ
ความหลากหลาย
และจัดการระบบงาน
ข้อคิดเห็น
กาหนดหน้ าทีร่ บั ผิ ดชอบ
มอบหมายหน้าที่
วัฒนธรรม
3 กาหนดเนื้ อหา
การประเมินและสือ่ สารผลการประเมิน
การบริห ารค่า ตอบแทน
การยกย่องชมเชย /รางวัล/แรงจูง ใจ
สร้างผูน้ า
ข.แรงจูง ใจ
ความก้าวหน้ า
ความรู้
ทักษะ
ความสามารถ
4 จัดการศึกษาอบรม
5 ส่ ง เสริ มการใช้
1
ก.สภาพแวดล้ อมในการทางาน
้
ที่ ทางานเอื้ อ ต่ อ สุ ข ภาพ/ ป องกัน ภัย,
การยศาสตร์
1 ความปลอดภัย
ตัววัด,ปรับ ปรุ ง
เตรีย มพร้อ มต่ อ
2 ภัย พิ บตั /ิ ภาวะฉุกเฉิ น
สุข ภาพดี ผาสุ ก
พึ ง พอใจ
มีแ รงจูง ใจ
ค.สุข ภาพบุคลากร
สภาพแวดล้ อมดี
บรรยากาศดี
ข.การดูแ ล//ความพึ ง พอใจ
ให้ ก ารดูแ ล บริการ,สิท ธิป ระโยชน์ ,,นโยบาย
3
ประเมิ น
ช่ วยเหลื อ
การเรีย นรู้
ความก้าวหน้า
1
ความก้า วหน้ า,อานาจตัดสิน ใจ,,ข้อม
1 วิเคราะห์ปัจจัย มูลข่า วสาร,การอสือ่ สาร,,ปริมาณง
งาน,ค่า ตอบแทน,,โอกาส ฯลฯ
2
2
บรรลุวตั ถุประสงค์องค์กร
สร้างผลงานที่ ดี
การศึกษาอบรม
จูง ใจ
พัฒนาตนเอง
ใช้ศ ัก ยภาพเต็มที่
ความรู้/ทักษะใหม่ๆ
6 ประเมิ นผล
3
ความก้าวหน้าในสายงาน
บุ คลากรใหม่
ความหลากหลาย ก.การศึกษา ฝึ กอบรม
จริยธรรม
พัฒ นา
คุณ ภาพ
ความปลอดภัย
การสร้า งเสริมสุขภาพ
การพัฒนาผูน้ า
OJT ห้องเรียน
ระยะไกล คอมพิวเตอร์
ข้อมูลจากบุ คลากร
ข้อมูลจากหัวหน้ า งาน
ความรู้/บทเรียนขององค์กร
การสร้า งเสริมสุขภาพ
ผลงานของบุ คคล
ผลงานขององค์กร
ว่ าจ้ าง
ประเมิน
ปรับปรุง
4
ระบบประเมิ นและพัฒ นาผลงานบุคลากร
ความต้องการ
2 ขององค์กร
2
ธารงรักษา
คุณสมบัติ
2 ความคิดอ่า น
ข.ระบบประเมิ น ฯ
1
ตรวจสอบ
สรรหา /ประเมิน
สภาพแวดล้อม
4 ปรับปรุง บรรยากาศ
1 ดูแ ลสุ ข ภาพตนเองเรียนรู้ ตัดสิน ใจ ปฏิ บ ัติ
2 เป็ นแบบอย่ างพฤติ ก รรม มีข้อตกลงร่ วมกัน
3 ป้ องกันความเสี่ ย งจากการทางาน
TB, HBV, HIV, Sharp Inj, Lab Chemicals,
Anesthetic Gas, Chemotherapeutic Agent
แรกเข้า ทางาน 4
ข้ อ มู ล สุ ข ภาพ
ติดตามเป็ น ระยะ 5
6 ภูมิคุ้มกันโรค
7 ดูแ ลเมื่อ เจ็บป่ วย/สัมผัส เชื้ อ
7
I - 6. การจัดการกระบวนการ
I - 6.1 กระบวนการบริการสุขภาพ /
กระบวนการที่สร้างคุณค่า
I - 6.2 กระบวนการสนับสนุน
และการวางแผนดาเนินงาน
กระบวนการบริการสุขภาพสาคัญได้รบั
การออกแบบ ควบคุม ติดตามกากับ และ
ปรับปรุง เพื่อให้ตอบสนองความต้องการ
และสร้างคุณค่าให้แก่ผป้ ู ่ วย ผูร้ บั ผลงาน
และองค์กร อย่างมีประสิทธิผล
กระบวนการสนับสนุนสาคัญได้รบั การออกแบบ
ควบคุม ติดตามกากับ และปรับปรุง เพื่อให้ตอบสนอง
ความต้องการและสร้างคุณค่าให้แก่ผ้ปู ่ วย ผู้รบั ผลงาน
และองค์กร อย่างมีประสิทธิผล. มีหลักประกันว่าจะมี
ทรัพยากรทางการเงินเพียงพอและมึความต่อเนื่ องใน
การดาเนินการ.
การออกแบบ
กาหนดกระบวนการสาคัญ 1
ผูป้ ระกอบวิชาชีพ
ผ้ป่ วย, ผูร้ ับ ผลงานอื่น ๆ
ผูส้ ง่ มอบ, คูพ่ นั ธมิตร
ความคาดหวัง /ข้ อกาหนด
ของกระบวนการ
2
ความปลอดภัย , กฎหมาย
ข้อมูลวิชาการ , มาตรฐานวิชาชีพ
ผลลัพธ์ท่ีดขี น้ึ , ประสิท ธิภ าพ
ประสิท ธิผล
ก.กระบวนการบริ การสุขภาพ
ผลงานที่ ดีขึ้ น
ผลลัพ ธ์ สุ ขภาพดีขึ้ น
ตอบสนองการเปลี่ ย นแปลง
ก.กระบวนการสนับสนุน
1
กาหนดกระบวนการสาคัญ
2
ความคาดหวัง /ข้ อกาหนด
ออกแบบกระบวนการ
3
บริ หารความคาดหวัง
4 และการมีส่ วนร่วม
5
การปฏิ บตั ิ ควบคุม ปรับปรุง
ความราบรื่นและความต่อเนื่ อง
ของกระบวนการบริ การสุขภาพ
ออกแบบกระบวนการ
นาไปปฏิ บตั ิ /ควบคุมกากับ
ลดการตรวจสอบ
ป้ องกันความผิ ดพลาด
ใช้ KPI ติ ดตามประเมิ น
ปรับปรุง กระบวนการ
แลกเปลี่ ยนเรี ยนรู้
3
นาไปปฏิ บตั ิ /ควบคุมกากับ
6
4
7
ใช้ KPI ติ ดตามประเมิ น
ลดการตรวจสอบ
ป้ องกันความผิ ดพลาด 5
ความต่อเนื่ อง
ปรับปรุง กระบวนการ
แลกเปลี่ ยนเรี ยนรู้
ข.การวางแผน
ดาเนิ นการ
ทรัพ ยากร
1 ด้า นการเงิ น
6
2 ในภาวะฉุกเฉิ น
8
II - 1. การบริหารความเสี่ยง ความปลอดภัย และคุณภาพ
II - 1.2 ระบบบริหารความเสี่ยง
ความปลอดภัย และคุณภาพ
II - 1.1 ภาพรวมของการพัฒนาคุณภาพ
มีการพัฒนาคุณภาพที่ประสานสอดคล้อง
กันในทุกระดับ
ก.การสนับสนุนจากผู้นา
ข.การเชื่อมโยง
และประสานงาน
ค.การทางานเป็ นทีม
ก.การสนับสนุนจากผู้นา
ง.การประเมิ นตนเอง
ข.การเชื่อมโยง
และประสานงาน
2 ความหมายคุณภาพ
3 เชื่อมโยงกับแผนกลยุทธ์
4 บูรณาการ RM/QA/PS/QI
โครงสร้างคุณภาพ
5
ง.การประเมิ นตนเอง
ก.การสนับสนุนจากผู้นา
ส่ง เสริ ม
วัฒนธรรมคุณภาพ
หลั
หลักกคิคิดดสสาคั
าคัญญ
(Core
(CoreValues
Values&
&Concepts)
Concepts)
Study/Learning
ตัวชี้วัด
2
หลักประกันคุณภาพ
และความปลอดภัย
มาตรฐาน
Do
เปเป้ าหมาย/
้ าหมาย/
วัวัตตถถุประสงค์
ุประสงค์
Act/Improve
Plan/Design
ประเด็ น สาคัญ
ความเสี่ ยงสาคัญ
ความต้องการสาคัญ
บริบท
1
นโยบาย/ประเด็นสาคัญ/
ความคาดหวัง
3
แผนกลยุทธ์
3
สนับสนุน/
ติ ดตามกากับ
1
ตัวเปรียบเที ยบ
3
กลไกประเมิ นตนเอง
การแลกเปลีย่ นเรีย นรู้
การอภิปรายกลุ่ม
การเขีย นบันทึกความก้าวหน้า
และแบบประเมินตนเอง
การใช้ตวั ตามรอยทางคลินกิ
การเยี่ย มสารวจ/ตรวจสอบภายใน
การนาเสนอเพื่อรับฟงั ข้อวิพากษ์
การทบทวนหลังกิจกรรม
การติดตามตัวชีว้ ดั
RM/QA/PS/CQI
โครงสร้างคุณภาพ
1
กาหนดความหมาย
ข.การเชื่อมโยง
และประสานงาน
ค.การทางานเป็ นที ม
1
2
3
4
นโยบาย
2
3
หลักประกันคุณภาพ
4
วัฒนธรรมคุณภาพ
สนับสนุน ติ ดตาม
1 การสื่อสารและแก้ปัญ หา
ง.การประเมินตนเอง
2
ที มในงานปกติ ประจา
1 เทคนิ คการประเมิ นผล
3
ที มพัฒนาคุณภาพ
การเปรียบเที ยบ
2
3 กลไกการประเมิ นตนเอง
4 ที มกากับดูแลภาพรวม
ก.ระบบบริ หารความเสี่ยงและความปลอดภัย
1
ประสาน
โปรแกรมความเสี่ ยง
ระบบสารสนเทศ
เทคนิ คการประเมิ นผล
2
2
4
1
ค.การทางานเป็ นทีม
1 ทิ ศทาง/ประเด็นสาคัญ
4
มีระบบบริหารความเสี่ยง ความปลอดภัย และ
คุณภาพ ของโรงพยาบาลที่มีประสิทธิผลและ
ประสานสอดคล้องกัน รวมทัง้ การพัฒนา
คุณภาพการดูแลผูป้ ่ วยในลักษณะบูรณาการ
2
ค้ นหาและจัดลาดับ
ความสาคัญของ
ความเสี่ ยง
ปรับปรุง
6
ประเมิ น
ประสิ ทธิ ผล
3
กาหนดมาตรการป้ อง 4
ระบบรายงานอุบ ตั ิ การณ์
กัน,สื่ อสาร,,สร้า งค
รายงาน วิเ คราะห์ ใช้ประโยชน์
ความตระหนัก
1
ทบทวนการดูแลผูป้ ่ วย
ข.คุณภาพการดูแลผู้ป่วย
แก้ปั ญหา
5
วิ เคราะห์ สาเหตุ
พัฒนาคุณภาพการดูแล
สาหรับกลุม่ เป้ าหมาย
2 กาหนดกลุ่ม/วัตถุ ประสงค์
3 กาหนด KPI
4 ใช้วธิ ีก ารทีห่ ลากหลาย
สื่อสารแก้ปัญ หา
ที มในงานปกติ ประจา
ที มพัฒนาคุณ ภาพ
ที มกากับดูแลภาพรวม
9
II - 2. การกากับดูแลวิชาชีพ
II – 2.2 การแพทย์
II - 2.1 การพยาบาล
มีระบบบริหารการพยาบาลรับผิดชอบต่อ
การจัดบริการพยาบาลที่มีคณ
ุ ภาพสูง เพื่อ
บรรลุพนั ธกิจขององค์กร
1
ผูน้ าที มการพยาบาล
4
2
บุคลากร
ความรูค้ วามสามารถ
ปริมาณ
ประสานความร่วมมือระดับองค์กร
การใช้ย า,การควบคุมการติดเชื้อ
การสร้างเสริมสุข ภาพ
คุณ ภาพและความปลอดภัย
2 สิ ทธิ ผปู้ ่ วย
3
มาตรฐาน/
ข้อมูลวิชาการ
4
สภาวะสุขภาพ
ของผูป้ ่ วย
จริ ยธรรมวิชาชีพ
1 กระบวนการ
พยาบาล
5
5
Risk/Safety/Quality
Management
ก.การบบริหารการพยาบาล
ข.ปฏิ บตั ิการพยาบาล
3 โครงสร้างและกลไก
กากับดูแลมาตรฐาน/จริยธรรม
นิเ ทศ/กากับดูแล
ส่งเสริมการพัฒนาคุณ ภาพ
ส่งเสริมการใช้กระบวนการพยาบาล
ส่งเสริมการตัดสินใจทางคลินกิ
ดูแลผู้อยู่ระหว่างฝึ กอบรม
จัดการความรูแ้ ละวิจยั
มีการจัดตัง้ องค์กรแพทย์ รับผิดชอบต่อการ
ส่งเสริมและกากับดูแลมาตรฐานและ
จริยธรรมของผูป้ ระกอบวิชาชีพแพทย์ เพื่อ
บรรลุพนั ธกิจขององค์กร
บันทึ ก
ผลลัพธ์ของ
ปฏิ บตั ิ การพยาบาล
ความปลอดภัย
บรรเทาทุกข์ทรมาน
ข้อมูลและการเรีย นรู้
การดูแลตนเอง
การเสริมพลัง
ความพึงพอใจ
ปรับปรุง
6
ประเมิ น
10
ตอนที่ III กระบวนการดูแลผูป้ ่ วย
III - 2
การประเมินผู้ป่วย
3.1 วางแผนดูแลผู้ป่วย
3.2 วางแผนจาหน่ าย
III - 1
การเข้าถึงและเข้ารับบริการ
III - 5
การให้ข้อมูลและเสริมพลัง
III - 3
การวางแผน
4.1 การดูแลทัวไป
่
III - 6
การดูแลต่อเนื่ อง
III - 4
การดูแลผู้ป่วย
4.2 การดูแลที่มีความเสี่ยงสูง
4.3 การดูแลเฉพาะ
11
II - 3. การวางแผน
II - 3.1 การวางแผนการดูแลผูป้ ่ วย
II - 3.2 การวางแผนจาหน่ าย
ทีมผูใ้ ห้บริการจัดทาแผนการดูแลผูป้ ่ วยที่
มีการประสานกันอย่างดีและมีเป้ าหมายที่
ชัดเจน สอดคล้องกับปัญหา/ความ
ต้องการด้านสุขภาพของผูป้ ่ วย
มีการวางแผนจาหน่ ายผูป้ ่ วยเพื่อให้ผป้ ู ่ วย
สามารถดูแลตนเอง และได้รบั การดูแลอย่าง
เหมาะสมกับสภาพปัญหาและความต้องการ
หลังจากจาหน่ ายจากโรงพยาบาล
1
แผนสาหรับผู้ปวย
แต่ละราย
5
1
เชือ่ มโยงและประสาน
การประเมิ น
ตอบสนองความต้องการ
2 อย่างเป็ นองค์รวม
6
สื่อสาร/ /
ประสานงาน
ปฏิ บตั ิ
3 ใช้หลักฐานวิชาการ ห
ได้รบั ข้อมูล
4
ผู้ป่วย/ค/ครอบครัว
มีสว่ นร่วม
กาหนดแนวทาง
ข้อบ่งชี้
โรคกลุม่ เป้ าหมาย
เป้ าหมาย/ว/วิธีการ
2
ประเมิ น
ความจาเป็ น
แพทย์ พยาบาล
วิชาชีพทีเ่ กี่ยวข้อง
ผู้ปว่ ยและครอบครัว
วางแผนจาหน่ าย
3
ผู้ป่วย/ครอบครัว
มีศกั ยภาพและ
มั ่นใจในการ
ดูแลตนเอง
เชือ่ มโยงกับแผนการดูแล
ใช้หลัก การเสริมพลัง
ปฏิ บตั ิ ตามแผน น
5
เฝ้ าระวัง ิิ
4
ประเมิ นปัญหา/ความ
ต้องการและประเมิ นซา้
7
ทบทวน ปรับแผน
ปรับปรุง
6
ประเมิ นผล
12
III - 4. การดูแลผูป้ ่ วย
III - 4.1 การดูแลทัวไป
่
ทีมผูใ้ ห้บริการสร้างความมั ่นใจว่าจะให้การดูแลผูป้ ่ วย
อย่างทันท่วงที ปลอดภัย เหมาะสม และเป็ นไปตาม
มาตรฐานวิชาชีพ
III - 4.2 การดูแลผูป้ ่ วยและการให้บริการที่มีความเสี่ยงสูง
ทีมผูใ้ ห้บริการสร้างความมั ่นใจว่าจะให้การดูแลผูป้ ่ วย
และให้บริการที่มีความเสี่ยงสูงอย่างทันท่วงที ปลอดภัย
เหมาะสม ตามมาตรฐานวิชาชีพ
1
2
มอบความรับผิ ดชอบให้
ผู้มคี ณ
ุ สมบัติเหมาะสม
3
หลักปฏิ บตั ิ
ซึ่งเป็ นที่ยอมรับ
4
สิ่ งแวดล้อมที่เอื้อ
ต่อการดูแลที่มคี ณ
ุ ภาพ
ดาเนิ นการเพื่อ
ความปลอดภัย
อุบตั ิเหตุ
การบาดเจ็บ
การติด เชือ้
จัดการกับภาวะแทรกซ้อน
วิ กฤติ ฉุกเฉิ น
5
ดูแลแบบองค์รวม
6
สือ่ สาร/ประสาน ภายในทีม
เพื่อการดูแลที่ตอ่ เนื่อง
ผู้ป่วยได้รบั การดู
แลอย่างทันท่วงที
ปลอดภัย เหมาะสม
ตามมาตรฐานวิ ชา
ชีพ
ติ ดตามกากับ
ประเมินผล
บ่งชี้ผ้ปู ่ วย
และบริ การ
ที่ เสี่ ยงสูง
1
จัด ทา
แนวทาง
การดูแล
3
ทาหัตถการเสี่ ยง
ในสถานที่ เครื่องมือ
ผู้ช่วย ที่ พร้ อม
แก้ไ ข
เฝ้ าระวังการ
เปลี่ยนแปลง
2 ปฏิ บตั ิ
ปรับแผน
การดูแล
4
5
ผู้ป่วยที่มคี วาม
เสี่ยงสูง
ได้รบั การดูแล
อย่างปลอดภัย
Rapid Response Team
for Unstable Patient
ปรับปรุง
6
ติ ดตาม/วิ เคราะห์
ภาวะแทรกซ้อน/
เหตุการณ์ ไ ม่พึงประสงค์
III - 4.3 การดูแลเฉพาะ
ทีมผูใ้ ห้บริการ
13
ตอนที่ IV ผลการดาเนินงานขององค์กร
องค์กรแสดงให้เห็นผลการดาเนินงานและการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีในประเด็นสาคัญ ได้แก่ ผลลัพธ์ด้านการดูแล
ผู้ป่วย ความพึงพอใจของผู้ป่วยและผู้รบั ผลงานอื่นๆ ผลลัพธ์ด้านการเงิน ผลลัพธ์ด้านบุคลากรและระบบงาน ผลลัพธ์
ด้านประสิทธิผลองค์กร ผลลัพธ์ด้านการนาและความรับผิดชอบต่อสังคม ผลลัพธ์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
IV - 1
ผลด้านการดูแลผู้ป่วย
IV - 4
ผลด้านทรัพยากรบุคคล
IV - 6
ผลด้านการนาองค์กรและ
ความรับผิดชอบต่อสังคม
IV - 2
ผลด้านการมุ่งเน้ น
ผู้ป่วย/ผู้รบั ผลงาน
IV - 3
ผลด้านการเงิน
IV - 5
ผลด้านประสิทธิผล
ขององค์กร
IV - 7
ผลด้านการ
สร้างเสริมสุขภาพ
14
I – 1.1 การนาองค์กรโดยผูน้ าระดับสูง
Overall Req. ผูน้ าระดับสูงชี้นาองค์กร สื่อสารและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมผลการดาเนินงาน
ที่ดี ให้ความมันใจในคุ
่
ณภาพและความปลอดภัยในการดูแลผูร้ บั บริการ.
Multiple Req.
ก. วิสยั ทัศน์ และค่านิยม
1
กาหนดพันธกิจ วิสยั ทัศน์ ค่านิยม
ถ่ายทอด, ปฏิบตั ใิ ห้เห็นความมุง่ มัน่
แสดงภาวะผูน้ า/รับผิดชอบ
2
ความสาเร็จขององค์กร
คุณภาพและความปลอดภัย
จัดสรรและบริหารทรัพยากร
สร้างสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศ
3
ข. การสื่อสารและจุดเน้ นขององค์กร
การปรับปรุงผลงาน, การบรรลุวตั ถุประสงค์
การสร้างนวตกรรม, ความคล่องตัว, การเรียนรู้
สัมพันธภาพ, ความร่วมมือ, การประสานบริการ
กฎมายและจริยธรรม
2 จุดเน้ น
การดาเนินงาน
การปรับปรุงผลงาน
วัตถุประสงค์ การทบทวน
เชิงกลยุทธ์ ประเมินผลงาน
1 การสื่อสาร
ให้อานาจตัดสินใจ
จูงใจ ยกย่องชมเชย
การปฏิบตั ิ
ผลงานที่ดี
คุณภาพ
ความปลอดภัย
15
I – 1.2 การกากับด ูแลและความรับผิดชอบต่อสังคม
Overall Req. องค์กรแสดงถึงระบบการกากับดูแลกิจการที่ดี ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ
สร้างความมั ่นใจว่ามีการดาเนินงานอย่างมีจริยธรรม และมีส่วนสนับสนุนต่อ
Multiple Req. สุขภาพของชุมชน.
ก. การกากับดูแลกิจการ
1 ระบบกากับดูแลกิจการ
ผูบ้ ริหาร การเงิน โปร่งใส การตรวจสอบ ผลประโยชน์
ประเมินผลงาน
ปรับปรุงประสิทธิภาพ
ผูน้ า ระบบการนา
ผูน้ า ระบบการนา
2
ค. การสนับสนุนชุมชนและสุขภาพของชุมชน
กาหนดชุมชน/ประเด็นสนับสนุน
สนับสนุน
สร้างความเข้มแข็ง
ดูแลสุขภาพ
ของชุมชน
ข. กฎหมายและจริยธรรม
ความเสี่ยง
ผลกระทบด้านลบ
ความห่วงกังวล
กระบวนการ
ตัวชี้วดั
เป้ าหมาย
กฎหมายข้อบังคับ
1
ติดตามกากับ
2
ส่งเสริมจริยธรรม
ดาเนินการ
เมื่อละเมิด
องค์กรที่มีคณ
ุ ค่า
ต่อสังคม
16
I – 2.1 การกาหนดกลย ุทธ์
Overall Req. องค์กรกาหนดกลยุทธ์ / วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ เพื่อชี้นาและสร้าง
ความเข้มแข็งให้กบั การดาเนินงานขององค์กรโดยรวม และสอดคล้อง
Multiple Req. กับความท้าทายที่องค์กรเผชิญอยู่
ก. กระบวนการจัดทากลยุทธ์
1
การวางแผนกลยุทธ์
ผูม้ สี ว่ นร่วม: ผูน้ าร่วมกับบุคลากร
ขัน้ ตอนและกรองเวลา
การค้นหา potential blind spot
ข. วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
1
วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และกรอบเวลา
2
สอดคล้องกับความท้าทายขององค์กร
ความท้าทายขององค์กร
สถานะสุขภาพ/ความต้องการสุขภาพ
มีสว่ นต่อผลลัพธ์สขุ ภาพทีด่ ขี น้ึ
2 การวิเคราะห์ข้อมูล
ปญั หาและความต้องการด้านสุขภาพ
จุดแข็ง จุดอ่ น โอกาส สิง่ คุกคามขององค์กร
ปจั จัยสาคัญอื่นๆ
- ความปลอดภัย/ความผิดพลัง้
- ความร่วมมือ การแข่งขัน
- การเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยี
- การเปลีย่ นแปลงระบบบริการ เศรษฐกิจ
- ความเสีย่ งด้านการเงิน สังคม จริยธรรม
ความสามารถในการนาแผนกลยุทธ์ไปปฏิบตั ิ
3
วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ
ผลลัพธ์สขุ ภาพทีด่ ขี น้ึ ของ
ผูป้ ว่ ย ครอบครัว ชุมชน บุคลากร
สิง่ แวดล้อมทีเ่ อือ้ ต่อการมีสขุ ภาพดี
ชี้นาและสร้างความเข้มแข็ง
ให้องค์กรโดยรวม
17
I – 2.2 การนากลย ุทธ์ไปปฏิบตั ิ
Overall Req. องค์กรถ่ายทอดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบตั ิ และติดตาม
Multiple Req.
ความก้าวหน้ าเพื่อให้มนใจว่
ั ่ าบรรลุเป้ าประสงค์.
วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
ก. ถ่ายทอดเพื่อนาไปปฏิบตั ิ
แผนทรัพยากรบุคคล
2
ปฏิบตั ิ ตามแผน
แผนปฏิบตั ิ การ
1
บรรลุเป้ าประสงค์
ทรัพยากร
ตัวชี้วดั สาคัญ
ติดตามความก้าวหน้ า
ทัง้ องค์กรมุ่งไปใน
ทิศทางเดียวกัน
3
ครอบคลุมประเด็นสาคัญ
และผูม้ สี ว่ นได้เสียทัง้ หมด
1
คาดการณ์ ผลการ
ดาเนินงาน
ข. คาดการณ์และเปรียบเทียบ
เปรียบเทียบ
ตอบสนอง
ความแตกต่าง
18
I – 3.1 ความรูเ้ กี่ยวกับผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงาน
Overall Req. องค์กรรับรู้ความต้องการและความคาดหวังของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงาน เพื่อให้
มั ่นใจว่าบริการที่จดั ให้สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว
Multiple Req. ก. ความรู้เกี่ยวกับผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงาน
จาแนกส่วน (Segment)
1
กาหนดส่วนที่ม่งุ เน้ น
I - 6.1 การจัดการกระบวนการ
รับฟัง/เรียนรู้
วางแผน
จัดบริการ
ผูป้ ว่ ย, ผูร้ บั ผลงาน, ตลาดบริการสุขภาพ
2
ความต้องการ ความคาดหวัง
ด้วยวิธกี ารทีเ่ หมาะสมกับแต่ละกลุม่
3
ปรับปรุงวิธีการรับฟัง/เรียนรู้
ปรับปรุงกระบวน
การทางาน
บริการ
สอดคล้องกับ
ความต้องการ
ทันความต้องการของผูเ้ กีย่ วข้อง
และทิศทางการเปลีย่ นแปลงของบริการสุขภาพ
19
I – 3.2 ความสัมพันธ์และความพึงพอใจบองผูร้ บั ผลงาน
Overall Req. องค์กรสร้างความสัมพันธ์กบั ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงาน เพื่อสร้างความเชื่อมัน่
ศรัทธา ความพึงพอใจ และความร่วมมือ มีการประเมินและนาข้อมูลความ
Multiple Req. พึงพอใจของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงานมาใช้ปรับปรุงการดาเนินงาน.
ก. สร้างความสัมพันธ์
ั ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงาน
1 สร้างความสัมพันธ์กบ
2 ช่องทางการติดต่อ
ข้อมูล บริการ คาร้องเรียน
ทีส่ อดคล้องกับความต้องการ
ปรับปรุงวิธีสร้างความสัมพันธ์
4 และช่องทางการติดต่อ
จัดการกับ
คาร้องเรียน
ข. ประเมินความพึงพอใจ
1 ประเมินความพึงพอใจ
3
รวบรวม
วิเคราะห์
วิธกี ารเหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม
2 ติดตามผลทันที
ข้อมูลที่เป็ น
ประโยชน์
ปรับปรุงบริการ
การดาเนินงาน
สนองความต้องการ
ความเชื่อมันศรั
่ ทธา
ความพึงพอใจ
ความร่วมมือ
3 ปรับปรุงวิธีการประเมินความพึงพอใจ
20
I – 3.3 สิทธิผป้ ู ่ วย
Overall Req. องค์กรตระหนักและให้การคุ้มครองสิทธิผปู้ ่ วย.
Multiple Req.
ก. คาประกาศสิทธิผปู้ ่ วย
สิทธิพน้ื ฐานตามรัฐธรรมนูญ
ไม่เลือกปฏิบตั ิ
ได้รบั ข้อมูลเพียงพอ ชัดเจน
ได้รบั การช่วยเหลือทันทีเมื่อเสีย่ ง
ทราบชื่อผูใ้ ห้บริการ
ขอความเห็นทีส่ อง
ปกปิดข้อมูล
การเข้าร่วมวิจยั
ข้อมูลในเวชระเบียน
การใช้สทิ ธิแทน
ข. กระบวนการคุ้มครอง
1 องค์กร
2
ผูป้ ฏิบตั งิ านตระหนัก
ทราบบทบาท
ระบบพร้อมตอบสนอง
ผูร้ บั บริการ
ได้รบั ข้อมูลสิทธิ
และหน้าที่
ลักษณะการคุ้มครอง
3
4
5
6
ทุกกิจกรรมการดูแล
การถูกทาร้ายร่างกาย จิตใจ สังคม
ความเป็ นส่วนตัว ศักดิ ์ศรี, ค่านิยม
เท่าเทียมตามปญั หาและความุรนแรง
ค. ผูป้ ่ วยที่มีความต้องการเฉพาะ
้ ่ วยระยะสุดท้าย
1 ผูป
สิทธิ ศักดิศรี
์
ข้อบังคับ กฎหมาย
ความเชื่อ วัฒนธรรม
การมีสว่ นร่วม
้ ี่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
2 ผูท
เด็ก ผูพ้ กิ าร ผูส้ งู อายุ
้ ี่ต้องแยก ผูกยึด
3 ผูท
ผูป้ ่ วยได้รบั การคุ้มครอง
สิทธิและศักดิศรี
21
I – 4.1 การวัด วิเคราะห์ และทบทวนผลงานขององค์กร
Overall Req. องค์กรจัดให้มีการวัดและวิเคราะห์ผลงานที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน, มี
Multiple Req.
การทบทวนประเมินผล และปรับปรุงผลงานในทุกระดับและทุกส่วนขององค์กร.
ข. การวิเคราะห์/
ทบทวนประเมินผลงาน
ก. การวัดผลงาน
ข้อมูล/สารสนเทศ/ตัวชี้วดั ผลงาน
ด้านบริการ, ผูร้ บั ผลงาน, การเงิน, ปฏิบตั กิ าร
เพือ่ ใช้ในระดับปฏิบตั กิ ารและระดับกลยุทธ์
1
2
เลือก/ รวบรวม/
align
เชื่อมโยง
เลือกข้อมูล
เชิงเปรียบเทียบ
วิเคราะห์ข้อมูล
1
จัดลาดับความสาคัญ
2
3
ปรับปรุงระบบวัดผลงาน
สอดคล้องกับสถานการณ์
ไวต่อการเปลีย่ นแปลง
ประเมินผล
ความสาเร็จ/ผลงานโดยรวม
ความก้าวหน้าตามแผน
การตอบสนองการเปลีย่ นแปลง
สื่อสาร/ถ่ายทอด
เพือ่ การปรับปรุง
เพือ่ สร้างนวตกรรม
ทัวทั
่ ง้ องค์กร
พัฒนา/ปรับปรุงผลงาน
22
I – 4.2 การจัดการสารสนเทศและการจัดการความร ้ ู
องค์กรสร้างความมันใจว่
่ าข้อมูลและสารสนเทศที่จาเป็ นสาหรับบุคลากร/ผูป้ ่ วย
Overall Req. /ผูร้ บั ผลงาน มีคณ
ุ ภาพและพร้อมใช้งาน. มีการจัดการความรู้เพื่อปรับปรุง
ประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กร.
Multiple Req.
ข. การจัดการความรู้
ก. ความพร้อมใช้งาน
ความต้องการ
1
ออกแบบ
บุคลากร/ผูบ้ ริหาร/
ผูป้ ว่ ย/ผูร้ บั ผลงาน/
องค์กรภายนอก
จัดการความรู้
จัดการ
2
Hardware & Software
3
พร้อมใช้ในภาวะฉุกเฉิน
เชื่อถือได้ ป้องกันข้อมูลรัวไหล
่
ใช้งานง่าย
ถูกต้อง น่ าเชื่อถือ
1 ทันการณ์ ปลอดภัย
เข้าถึง
4
ปรับปรุงกลไกและระบบ
ทันความต้องการ
ทิศทางบริการสุขภาพ
การเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยี
รวบรวม/ถ่ายทอดความรูข้ องบุคลากร
ถ่ายทอด/แลกเปลีย่ นความรู้
แลกเปลีย่ นวิธกี ารปฏิบตั ทิ ด่ี ี -> ปฏิบตั ิ
นาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาใช้
1
ใช้ประโยชน์
ค. คุณภาพ ข้อมูล/ความรู้
2 รักษาความลับ
ข้อมูลพร้องใช้
การดูแลผูป้ ว่ ย
การบริหารจัดการ
การตรวจสอบทางคลินิก
การพัฒนาคุณภาพ
การศึกษา และการวิจยั
23
I – 5.1 ระบบงาน
Overall Req.
ระบบงานขององค์กร , การกาหนดหน้ าที่รบั ผิดชอบ , ระบบประเมินและพัฒนาผลงาน
ของบุคลากร, การบริหารค่าตอบแทน, และวิธีปฏิบตั ิ ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร เกื้อหนุนให้
บุคลากรและองค์กรมีผลงานที่ดี มีการเรียนรู้ และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง.
Multiple Req.
วางรูปแบบ
และจัดการ
ระบบงาน
หน้าทีร่ บั ผิดชอบ ส่งเสริม
1 ทักษะ
ก. การวางรูปแบบ
และจัดการระบบงาน
ความร่วมมือ
ความคิดริเริม่
การให้อานาจตัดสินใจ
นวัตกรรม
วัฒนธรรมองค์กร
สื่อสาร/แลกเปลี่ยน
3
ความหลากหลาย
ข้อคิดเห็น
วัฒนธรรม
2 ความคิดอ่าน
ระบบประเมินและพัฒนาผลงานบุคลากร
ข. ระบบประเมิน ฯ
การประเมินและสื่อสารผลการประเมิน
การบริหารค่าตอบแทน
การยกย่องชมเชย/รางวัล/แรงจูงใจ
ความรู/้ ทักษะ
ผลงานดี
เรียนรู้
ปรับตัว
ค. การจ้างงาน
ความก้าวหน้ า
กาหนดคุณสมบัติ
การศึกษา
ทักษะ
ความรู้
กาหนดหน้ าที่รบั ผิดชอบ
มอบหมายหน้ าที่
สรรหา
ประเมิน
ปรับปรุง
ว่าจ้าง
4
สร้างผู้นา
1
ตรวจสอบ
/ประเมิน
คุณสมบัติ
2
ธารงรักษา
3
ความก้าวหน้ าในสายงาน
24
I – 5.2 การเรียนรูแ้ ละการสร้างแรงจูงใจสาหรับบ ุคลากร
Overall Req. ระบบการศึกษา ฝึ กอบรม และแรงจูงใจขององค์กร ทาให้บคุ ลากรมีความรู้ ทักษะ
และความสามารถที่จะส่งเสริมให้องค์กรบรรลุวตั ถุประสงค์และมีผลงานที่ดี.
Multiple Req.
ความต้องการ
2 ขององค์กร
3 กาหนดเนื้ อหา
บุคลากรใหม่
ความหลากหลาย ก. การศึกษา ฝึ กอบรม
จริยธรรม
พัฒนา
คุณภาพ
ความปลอดภัย
การสร้างเสริมสุขภาพ
การพัฒนาผูน้ า
OJT ห้องเรียน
ระยะไกล คอมพิวเตอร์
4 จัดการศึกษาอบรม
ข้อมูลจากบุคลากร
ข้อมูลจากหัวหน้างาน
ความรู/้ บทเรียนขององค์กร
การสร้างเสริมสุขภาพ
ผลงานของบุคคล
ผลงานขององค์กร
ความรู้
ทักษะ
ความสามารถ
5 ส่งเสริมการใช้
ความรู้/ทักษะใหม่ๆ
6 ประเมินผล
การศึกษาอบรม
ข. แรงจูงใจ
ความก้าวหน้ า
จูงใจ
พัฒนาตนเอง
ใช้ศกั ยภาพเต็มที่
ช่วยเหลือ
บรรลุวตั ถุประสงค์องค์กร
สร้างผลงานที่ดี
การเรียนรู้
ความก้าวหน้า
1
25
I – 5.3 ความผาส ุกและความพึงพอใจของบ ุคลากร
Overall Req. องค์กรจัดให้มีสภาพแวดล้อมในการทางานและบรรยากาศที่สนับสนุนให้
บุคลากรมีสขุ ภาพดี มีความผาสุก มีความพึงพอใจ และมีแรงจูงใจในการทางาน
Multiple Req.
ก. สภาพแวดล้อมในการทางาน
้
ที่ทางานเอื้อต่อสุขภาพ/ ปองกันภัย,
การยศาสตร์
1 ความปลอดภัย
ตัววัด, ปรับปรุง
เตรียมพร้อมต่อ
2 ภัยพิ บตั ิ /ภาวะฉุกเฉิ น
สุขภาพดี ผาสุก
พึงพอใจ
มีแรงจูงใจ
ค. สุขภาพบุคลากร
สภาพแวดล้อมดี
บรรยากาศดี
1 ดูแลสุขภาพตนเอง เรียนรู้ ตัดสินใจ ปฏิบตั ิ
2 เป็ นแบบอย่างพฤติ กรรม มีขอ้ ตกลงร่วมกัน
ข. การดูแล/ความพึงพอใจ
ความก้าวหน้า, อานาจตัดสินใจ,
1 วิ เคราะห์ปัจจัย ข้อมูลข่าวสาร, การสื่อสาร, ปริมาณ
งาน, ค่าตอบแทน, โอกาส ฯลฯ
2
3
ให้การดูแล บริการ, สิทธิประโยชน์, นโยบาย
ประเมิ น
สภาพแวดล้อม
4 ปรับปรุง บรรยากาศ
3 ป้ องกันความเสี่ยงจากการทางาน
TB, HBV, HIV, Sharp Inj, Lab Chemicals,
Anesthetic Gas, Chemotherapeutic Agent
แรกเข้าทางาน
4
ข้อมูลสุขภาพ
ติดตามเป็ นระยะ 5
6 ภูมิค้มุ กันโรค
7 ดูแลเมื่อเจ็บป่ วย/สัมผัสเชื้อ
26
I – 6.1 กระบวนการบริการส ุขภาพ
Overall Req. กระบวนการบริการสุขภาพสาคัญได้รบั การออกแบบ ควบคุม ติดตามกากับ และ
ปรับปรุง เพื่อให้ตอบสนองความต้องการและสร้างคุณค่าให้แก่ผป้ ู ่ วย ผูร้ บั ผลงาน
และองค์กร อย่างมีประสิทธิผล.
Multiple Req.
ก. กระบวนการบริการสุขภาพ
การออกแบบ
กาหนดกระบวนการสาคัญ 1
ผูป้ ระกอบวิชาชีพ
ผ้ปว่ ย, ผูร้ บั ผลงานอื่นๆ
ผูส้ ง่ มอบ, คูพ่ นั ธมิตร
ความคาดหวัง/ข้อกาหนด
ของกระบวนการ
2
ความปลอดภัย, กฎหมาย
ข้อมูลวิชาการ, มาตรฐานวิชาชีพ
ผลลัพธ์ทด่ี ขี น้ึ , ประสิทธิภาพ
ประสิทธิผล
ผลงานที่ดีขึน้
ผลลัพธ์สขุ ภาพดีขึน้
ตอบสนองการเปลี่ยนแปลง
ออกแบบกระบวนการ
3
บริหารความคาดหวัง
4 และการมีส่วนร่วม
นาไปปฏิบตั ิ /ควบคุมกากับ
ลดการตรวจสอบ
ป้ องกันความผิดพลาด
ใช้ KPI ติดตามประเมิน
ปรับปรุงกระบวนการ
5
การปฏิบตั ิ ควบคุม ปรับปรุง
แลกเปลี่ยนเรียนรู้
6
7
27
I – 6.2 กระบวนการสนับสน ุนและการวางแผนดาเนินงาน
กระบวนการสนับสนุนสาคัญได้รบั การออกแบบ ควบคุม ติดตามกากับ และ
Overall Req. ปรับปรุง เพื่อให้ตอบสนองความต้องการและสร้างคุณค่าให้แก่ผปู้ ่ วย ผูร้ บั ผลงาน
และองค์กร อย่างมีประสิทธิผล. มีหลักประกันว่าจะมีทรัพยากรทางการเงิน
Multiple Req. เพียงพอและมึความต่อเนื่ องในการดาเนินการ.
ก. กระบวนการสนับสนุน
1
กาหนดกระบวนการสาคัญ
2
ความคาดหวัง/ข้อกาหนด
ความราบรื่นและความต่อเนื่ อง
ของกระบวนการบริการสุขภาพ
ออกแบบกระบวนการ
3
นาไปปฏิบตั ิ /ควบคุมกากับ
4
ใช้ KPI ติดตามประเมิน
ลดการตรวจสอบ
ป้ องกันความผิดพลาด 5
ปรับปรุงกระบวนการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้
6
ข. การวางแผน
ดาเนินการ
ทรัพยากร
1 ด้านการเงิน
ความต่อเนื่ อง
2 ในภาวะฉุกเฉิน
28
II – 1.1 ภาพรวมของการพัฒนาค ุณภาพ (Quality Improvement Overview)
Overall Req. มีการพัฒนาคุณภาพที่ประสานสอดคล้องกันในทุกระดับ
Multiple Req.
ก. การสนับสนุนจากผูน้ า
ข. การเชื่อมโยง
และประสานงาน
ค. การทางานเป็ นทีม
ง. การประเมินตนเอง
29
II – 1.1 ภาพรวมของการพัฒนาค ุณภาพ (Quality Improvement Overview)
Overall Req. มีการพัฒนาคุณภาพที่ประสานสอดคล้องกันในทุกระดับ
Multiple Req.
ก. การสนับสนุนจากผูน้ า
ข. การเชื่อมโยง
และประสานงาน
4 บูรณาการ RM/QA/PS/QI
โครงสร้างคุณภาพ
5
นโยบาย
2
3
หลักประกันคุณภาพ
4
วัฒนธรรมคุณภาพ
สนับสนุน ติ ดตาม
ค. การทางานเป็ นทีม
1 การสื่อสารและแก้ปัญหา
1 ทิ ศทาง/ประเด็นสาคัญ
2 ความหมายคุณภาพ
3 เชื่อมโยงกับแผนกลยุทธ์
1
ง. การประเมินตนเอง
2
ทีมในงานปกติ ประจา
1 เทคนิ คการประเมิ นผล
3
ทีมพัฒนาคุณภาพ
การเปรียบเทียบ
2
3 กลไกการประเมิ นตนเอง
4 ทีมกากับดูแลภาพรวม
30
II – 1.1 ภาพรวมของการพัฒนาค ุณภาพ (Quality Improvement Overview)
Overall Req. มีการพัฒนาคุณภาพที่ประสานสอดคล้องกันในทุกระดับ
ง. การประเมินตนเอง
ก. การสนับสนุนจากผู้นา
4
2
ส่งเสริ ม
วัฒนธรรมคุณภาพ
หลักประกันคุณภาพ
และความปลอดภัย
หลั
หลักกคิคิดดสสาคั
าคัญญ
(Core
(CoreValues
Values&
&Concepts)
Concepts)
ตัวชี้วดั
Study/Learning
มาตรฐาน
เปเป้ ้าหมาย/
าหมาย/
วัวัตตถถุประสงค์
ุประสงค์
Do
บริบท
ประเด็ นสาคัญ
ความเสีย่ งสาคัญ
ความต้องการสาคัญ
Act/Improve
Plan/Design
1
นโยบาย/ประเด็นสาคัญ/
ความคาดหวัง
3
แผนกลยุทธ์
3
สนับสนุน/
ติ ดตามกากับ
1
2
3
เทคนิ คการประเมิ นผล
ตัวเปรียบเทียบ
กลไกประเมิ นตนเอง
การแลกเปลีย่ นเรียนรู้
การอภิปรายกลุม่
การเขียนบันทึกความก้าวหน้า
และแบบประเมินตนเอง
การใช้ตวั ตามรอยทางคลินิก
การเยีย่ มสารวจ/ตรวจสอบภายใน
การนาเสนอเพือ่ รับฟงั ข้อวิพากษ์
การทบทวนหลังกิจกรรม
การติดตามตัวชีว้ ดั
RM/QA/PS/CQI
2
4
โครงสร้างคุณภาพ
1
กาหนดความหมาย
ข. การเชื่อมโยง
และประสานงาน
ค. การทางานเป็ นทีม
1
2
3
4
สื่อสารแก้ปัญหา
ทีมในงานปกติประจา
ทีมพัฒนาคุณภาพ
ทีมกากับดูแลภาพรวม
31
II – 1.2 ระบบบริหารความเสี่ยง ความปลอดภัย และค ุณภาพ
(Risk, Safety, and Quality Management System)
Overall Req. มีระบบบริหารความเสี่ยง ความปลอดภัย และคุณภาพ ของโรงพยาบาลที่มี
Multiple Req.
ประสิทธิผลและประสานสอดคล้องกัน รวมทัง้ การพัฒนาคุณภาพการดูแล
ผูป้ ่ วยในลักษณะบูรณาการ.
ก. ระบบบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย
1
ประสาน
โปรแกรมความเสี่ยง
ระบบสารสนเทศ
2
ค้นหาและจัดลาดับ
ความสาคัญของ
ความเสี่ยง
6
ปรับปรุง
3
กาหนดมาตรการ
ป้ องกัน, สื่อสาร,
สร้างความตระหนัก
4
ประเมิน
ประสิทธิผล
5
ระบบรายงานอุบตั ิ การณ์
วิเคราะห์สาเหตุ
ทบทวนการดูแลผูป้ ่ วย
พัฒนาคุณภาพการดูแล
สาหรับกลุ่มเป้ าหมาย
รายงาน วิเคราะห์ ใช้ประโยชน์
1
แก้ปัญหา
ข. คุณภาพการดูแลผูป้ ่ วย
2 กาหนดกลุม่ /วัตถุประสงค์
3 กาหนด KPI
4 ใช้วธิ กี ารทีห่ ลากหลาย
32
II – 2.1 การกากับด ูแลวิชาชีพ ด้านการพยาบาล (Prof. Governance: Nursing)
Overall Req. มีระบบบริหารการพยาบาลรับผิดชอบต่อการจัดบริการพยาบาลที่มีคณ
ุ ภาพสูง
เพื่อบรรลุพนั ธกิจขององค์กร
1
ผูน้ าทีมการพยาบาล
2
บุคลากร
ความรูค้ วามสามารถ
ปริมาณ
4
ประสานความร่วมมือระดับองค์กร
การใช้ยา, การควบคุมการติดเชือ้
การสร้างเสริมสุขภาพ
คุณภาพและความปลอดภัย
ข. ปฏิบตั ิ การพยาบาล
3 โครงสร้างและกลไก
กากับดูแลมาตรฐาน/จริยธรรม
นิเทศ/กากับดูแล
ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพ
ส่งเสริมการใช้กระบวนการพยาบาล
ส่งเสริมการตัดสินใจทางคลินิก
ดูแลผูอ้ ยูร่ ะหว่างฝึกอบรม
จัดการความรูแ้ ละวิจยั
5
Risk/Safety/Quality
Management
ก. การบริหารการพยาบาล
สิ ทธิ ผป้ ู ่ วย
มาตรฐาน/
2 จริ ยธรรมวิ ชาชีพ
3 ข้อมูลวิ ชาการ
4
1 กระบวนการ
พยาบาล
สภาวะสุขภาพ
ของผูป้ ่ วย
5
ปรับปรุง
บันทึก
ผลลัพธ์ของ
ปฏิ บตั ิ การพยาบาล
ความปลอดภัย
บรรเทาทุกข์ทรมาน
ข้อมูลและการเรียนรู้
การดูแลตนเอง
การเสริมพลัง
ความพึงพอใจ
6
ประเมิ น
33
II – 2.1 การกากับด ูแลวิชาชีพ ด้านการแพทย์ (Prof. Governance: Medical Staff)
Overall Req. มีการจัดตัง้ องค์กรแพทย์ รับผิดชอบต่อการส่งเสริมและกากับดูแลมาตรฐาน
และจริยธรรมของผูป้ ระกอบวิชาชีพแพทย์ เพื่อบรรลุพนั ธกิจขององค์กร
1
ผูน้ าทีมการพยาบาล
2
บุคลากร
ความรูค้ วามสามารถ
ปริมาณ
4
ประสานความร่วมมือระดับองค์กร
การใช้ยา, การควบคุมการติดเชือ้
การสร้างเสริมสุขภาพ
คุณภาพและความปลอดภัย
ข. ปฏิบตั ิ การพยาบาล
3 โครงสร้างและกลไก
กากับดูแลมาตรฐาน/จริยธรรม
นิเทศ/กากับดูแล
ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพ
ส่งเสริมการใช้กระบวนการพยาบาล
ส่งเสริมการตัดสินใจทางคลินิก
ดูแลผูอ้ ยูร่ ะหว่างฝึกอบรม
จัดการความรูแ้ ละวิจยั
5
Risk/Safety/Quality
Management
ก. การบริหารการพยาบาล
สิ ทธิ ผป้ ู ่ วย
มาตรฐาน/
2 จริ ยธรรมวิ ชาชีพ
3 ข้อมูลวิ ชาการ
4
1 กระบวนการ
พยาบาล
สภาวะสุขภาพ
ของผูป้ ่ วย
5
ปรับปรุง
บันทึก
ผลลัพธ์ของ
ปฏิ บตั ิ การพยาบาล
ความปลอดภัย
บรรเทาทุกข์ทรมาน
ข้อมูลและการเรียนรู้
การดูแลตนเอง
การเสริมพลัง
ความพึงพอใจ
6
ประเมิ น
34
II – 2.1 การกากับด ูแลวิชาชีพ ด้านการแพทย์ (Prof. Governance: Medical Staff)
Overall Req. มีการจัดตัง้ องค์กรแพทย์ รับผิดชอบต่อการส่งเสริมและกากับดูแลมาตรฐาน
และจริยธรรมของผูป้ ระกอบวิชาชีพแพทย์ เพื่อบรรลุพนั ธกิจขององค์กร
4ประสานความร่วมมือระดับองค์กร
คณะกรรมการ
ที่เกี่ยวข้อง
การใช้ยา, การควบคุมการติดเชือ้
การสร้างเสริมสุขภาพ
คุณภาพและความปลอดภัย
ข้อตกลง
/แนวทาง
ผูบ้ ริ หาร
2
6
ปฏิ บตั ิ หน้ าที่
องค์กรแพทย์
ปรึกษา
เสนอแนะ
วางแผน
บริการทางการแพทย์
และสาธารณสุข
ที่มีคณ
ุ ภาพสูง
1
แพทย์
3
ตรวจสอบคุณสมบัติ
กาหนดสิทธิการรักษา
การศึกษาต่อเนื่อง
กากับดูแล
5
35
III – 1. การเข้าถึงและเข้ารับบริการ (Access & Entry)
Overall Req. ทีมผูใ้ ห้บริการสร้างความมั ่นใจว่าผูร้ บั บริการสามารถเข้าถึงบริการที่จาเป็ นได้
Multiple Req.
ง่าย, กระบวนการรับผูป้ ่ วยเหมาะกับปัญหาสุขภาพ/ความต้องการของผูป้ ่ วย
ทันเวลา ภายใต้ระบบและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมและมีประสิทธิผล
ลดอุปสรรค
ต่อการเข้าถึง
กายภาพ, ภาษา, วัฒนธรรม
ตอบสนองรวดเร็ว
ดูแลฉุกเฉิน
เร่งด่วน
2
ประเมินผู้ป่วย
เบือ้ งต้น
1
การให้ข้อมูล
และการเสริมพลัง
ส่งต่อ
ช่วยเหลือเบือ้ งต้น
อธิบายเหตุผล, หาทีส่ ่งต่อ
3
ประเมินความ
สามารถขององค์กร
4
รับไว้ในหน่ วยบริการ
วิกฤติ/พิเศษ
เกณฑ์เข้าหน่วยบริการวิกฤติ
ให้ข้อมูล
รับไว้ในหน่ วยบริการ
ทัวไป
่
5
ได้รบั การยินยอม
ผู้ป่วยเข้ารับบริการ
ทันเวลา เหมาะสม
มีประสิทธิผล
สภาพความเจ็บปว่ ย
การดูแลทีจ่ ะได้รบั
ผลลัพธ์และค่าใช้จา่ ย
36
III – 2. การประเมินผูป้ ่ วย (Patient Assessment)
Overall Req. ผูป้ ่ วยทุกรายได้รบั การประเมินความต้องการและปัญหาสุขภาพอย่างถูกต้อง
Multiple Req.
ครบถ้วน และเหมาะสม.
ความร่วมมือและการ
ประสานในทีมงาน
ก. การประเมินผู้ป่วย
3
ผู้ป่วย
อายุ, ปญั หาสุขภาพ,
ความเร่งด่วน, การศึกษา,
บริการทีจ่ ะให้
2 ประเมินแรกรับ
ประวัต,ิ ตรวจร่างกาย,
การรับรูค้ วามต้องการ,
ปจั จัยด้านจิตใจ สังคม
เศรษฐกิจ
วิเคราะห์
เชื่อมโยง
ข. การตรวจประกอบ
การวินิจฉัย
แนวปฏิบตั ิ ทางคลินิก
สิ่งแวดล้อมปลอดภัย
1
การส่งตรวจ/ส่งต่อ
ทรัพยากร
2
ความน่ าเชื่อถือ
เทคโนโลยี, บุคลากร,
เครื่องมือ, อุปกรณ์,
3
การสื่อสาร
ประเมินซา้
ดูแลตามแผน
5
ปัญหา/ความต้องการ
1 เร่งด่วน/สาคัญ
การวินิจฉัยโรค
ค. การวินิจฉัยโรค
วางแผน
บันทึก
4
อธิบายผล
6
ทบทวน
หาสาเหตุของ
ความผิดปกติ
4
37
III – 3.1 การวางแผนการด ูแลผูป้ ่ วย (Planning of Care)
Overall Req. ทีมผูใ้ ห้บริการจัดทาแผนการดูแลผูป้ ่ วยที่มีการประสานกันอย่างดีและมี
เป้ าหมายที่ชดั เจน สอดคล้องกับปัญหา/ความต้องการด้านสุขภาพของผู้ป่วย.
Multiple Req.
1
แผนสาหรับผูป้ วย
แต่ละราย
5
เป้ าหมาย/วิธีการ
เชือ่ มโยงและประสาน
การประเมิน
ตอบสนองความต้องการ
2 อย่างเป็ นองค์รวม
3
ใช้หลักฐานวิชาการ
4
ผูป้ ่ วย/ครอบครัว
มีส่วนร่วม
ได้รบั ข้อมูล
6
สื่อสาร/
ประสานงาน
ปฏิบตั ิ
เฝ้ าระวัง
7
ทบทวน ปรับแผน
38
III – 3.2 การวางแผนจาหน่าย (Discharge Planning)
Overall Req. มีการวางแผนจาหน่ ายผูป้ ่ วยเพื่อให้ผปู้ ่ วยสามารถดูแลตนเอง และได้รบั การดูแล
Multiple Req.
อย่างเหมาะสมกับสภาพปัญหาและความต้องการ หลังจากจาหน่ ายจาก
โรงพยาบาล
กาหนดแนวทาง
ข้อบ่งชี้
โรคกลุ่มเป้ าหมาย
1
2
ประเมิน
ความจาเป็ น
แพทย์ พยาบาล
วิชาชีพทีเ่ กีย่ วข้อง
ผูป้ ว่ ยและครอบครัว
วางแผนจาหน่ าย
3
ผูป้ ่ วย/ครอบครัว
มีศกั ยภาพและ
มันใจในการ
่
ดูแลตนเอง
เชือ่ มโยงกับแผนการดูแล
ใช้หลักการเสริมพลัง
ปฏิบตั ิ ตามแผน
5
4
ประเมินปัญหา/ความ
ต้องการและประเมินซา้
ปรับปรุง
6
ประเมินผล
39
III - 4.1 การด ูแลทัว่ ไป (General Care Delivery)
Overall Req. ทีมผูใ้ ห้บริการสร้างความมั ่นใจว่าจะให้การดูแลผูป้ ่ วยอย่างทันท่วงที ปลอดภัย
เหมาะสม และเป็ นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ
Multiple Req.
1
2
3
บตั เิ หตุ
ดาเนินการเพื่อ อุการบาดเจ็
บ
ความปลอดภัย การติดเชือ้
หลักปฏิบตั ิ
ซึ่งเป็ นที่ยอมรับ
4
จัดการกับภาวะแทรกซ้อน
วิกฤติ ฉุกเฉิน
สิ่งแวดล้อมที่เอื้อ
ต่อการดูแลที่มีคณ
ุ ภาพ
5
ดูแลแบบองค์รวม
6
สื่อสาร/ประสาน ภายในทีม
เพื่อการดูแลที่ต่อเนื่ อง
มอบความรับผิดชอบให้
ผูม้ ีคณ
ุ สมบัติเหมาะสม
ผูป้ ่ วยได้รบั การ
ดูแลอย่างทันท่วงที
ปลอดภัย เหมาะสม
ตามมาตรฐาน
วิชาชีพ
ติดตามกากับ
ประเมินผล
40
III - 4.2 การด ูแลผูป้ ่ วยและการให้บริการที่มีความเสี่ยงสูง
(Care of High-Risk Patients and Provision of High-Risk Services)
Overall Req. ทีมผูใ้ ห้บริการสร้างความมั ่นใจว่าจะให้การดูแลผูป้ ่ วยและให้บริการที่มีความ
เสี่ยงสูงอย่างทันท่วงที ปลอดภัย เหมาะสม เป็ นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ
Multiple Req.
บ่งชี้ผ้ปู ่ วย
และบริการ
ที่เสี่ยงสูง
1
จัดทา
แนวทาง
การดูแล
2 ปฏิบตั ิ
3
ทาหัตถการเสี่ยง
ในสถานที่ เครื่องมือ
ผู้ช่วย ที่พร้อม
แก้ไข
เฝ้ าระวังการ
เปลี่ยนแปลง
ปรับแผน
การดูแล
4
5
ผูป้ ่ วยที่มีความ
เสี่ยงสูง
ได้รบั การดูแล
อย่างปลอดภัย
Rapid Response Team
for Unstable Patient
ปรับปรุง
6
ติดตาม/วิเคราะห์
ภาวะแทรกซ้อน/
เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์
41
III - 5. การให้ขอ้ มูลและเสริมพลังแก่ผป้ ู ่ วย/ครอบครัว
(Information and Empowerment for Patients / Families)
Overall Req. ทีมผูใ้ ห้บริการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะสุขภาพแก่ผปู้ ่ วยและครอบครัว จัด
Multiple Req.
กิจกรรมตามแผนเพื่อเสริมพลังผูป้ ่ วยและครอบครัวให้สามารถดูแลสุขภาพของ
ตนเองได้ และเชื่อมโยงการสร้างเสริมสุขภาพเข้าในทุกขัน้ ตอนของการดูแล
1
ประเมิน
ปญั หา
ความต้องการ
ให้ข้อมูล 2
ช่วยเหลือ
การเรียนรู้
วางแผน
การเรียนรู้
3
อารมณ์ จิตใจ
ศักยภาพ
ความพร้อม
ผูป้ ่ วย/ครอบครัว
สามารถดูแล
สุขภาพ
ของตนเองได้
ให้ความช่วยเหลือ
ด้านอารมณ์ จิตใจ
ให้คาปรึกษา
4 วางแผนดูแล
5
ประเมิน
การรับรู้
เสริมทักษะ
ปรับปรุง
ติดตามปัญหา
อุปสรรค
6
ประเมิน
42
III - 6. การด ูแลต่อเนื่อง (Continuity of Care)
Overall Req. ทีมผูใ้ ห้บริการสร้างความร่วมมือและประสานงานเพื่อให้มีการติดตาม
Multiple Req.
และดูแลผูป้ ่ วยต่อเนื่ องที่ให้ผลดี
PLAN & DO
ระบบนัดหมาย
1
2
3
สื่อสารข้อมูล
ระบบช่วยเหลือ /
ให้คาปรึกษา
ผูป้ ่ วยได้รบั
การดูแลต่อเนื่ อง
และตอบสนอง
ความต้องการ
สร้างความร่วมมือ
ติดตาม
การดูแลผูป้ ่ วย
บูรณาการกิจกรรม
สร้างเสริมสุขภาพ
CHECK
ACT
ปรับปรุง
วางแผน
4 ทบทวนเวชระเบียน
5
ติดตามผล
43
I - 1.1 ก. วิสยั ทัศน์และค่ำนิ ยม
1
2
3
(1) ผูน้ ำระดับสูงกำหนดพันธกิจ วิสยั ทัศน์ ค่ำนิ ยม. ผูน้ ำระดับสูงถ่ำยทอดพันธกิจ วิสยั ทัศน์ ค่ำนิ ยม
ผ่ำนระบบกำรนำ ไปยังบุคลำกรทุกคนและคู่พนั ธมิตรสำคัญ เพือ่ นำไปปฏิบตั .ิ กำรปฏิบตั ิตนของ
ผูน้ ำระดับสูงสะท้อนให้เห็นควำมมุ่งมัน่ ต่อค่ำนิ ยมขององค์กร.
(2) ผูน้ ำระดับสูงแสดงภำวะผูน้ ำและรับผิดชอบต่อกำรบรรลุควำมสำเร็จขององค์กร, คุณภำพและควำม
ปลอดภัยในกำรดูแลผูป้ ่ วย, จัดสรรและบริหำรทรัพยำกรอย่ำงมีประสิทธิภำพ.
(3) ผูน้ ำระดับสูงสร้ำงสิง่ แวดล้อมและบรรยำกำศที่เอื้อต่อกำรปรับปรุงผลงำน , กำรบรรลุวตั ถุประสงค์
ขององค์กร, กำรสร้ำงนวตกรรม, ควำมคล่องตัวขององค์กร, กำรเรียนรูข้ ององค์กรและบุคลำกร,
สัมพันธภำพในกำรทำงำนที่ดี, ควำมร่วมมือและกำรประสำนบริกำร, กำรปฏิบตั ิอย่ำงถูกต้องตำม
กฎหมำยและจริยธรรม.
44
I - 1.1 ก. วิสยั ทัศน์และค่ำนิ ยม
HA2006
(1) ผูน้ ำระดับสูงกำหนดพันธกิจ วิสยั ทัศน์ ค่ำนิ ยม. ผูน้ ำระดับสูงถ่ำยทอดพันธกิจ วิสยั ทัศน์ ค่ำนิ ยม
ผ่ำนระบบกำรนำ ไปยังบุคลำกรทุกคนและคู่พนั ธมิตรสำคัญ เพือ่ นำไปปฏิบตั .ิ กำรปฏิบตั ิตนของ
ผูน้ ำระดับสูงสะท้อนให้เห็นควำมมุ่งมัน่ ต่อค่ำนิ ยมขององค์กร.
(1) Senior leaders set organizational mission, vision and values. Senior leaders
deploy mission, vision and values through the leadership system to all staff
and key partners. Senior leaders’ personal actions reflect a commitment to the
organization’s values.
MBNQA 2006
(1) ผูน้ ำระดับสูงดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรกำหนดวิสยั ทัศน์และค่ำนิ ยมขององค์กร? ผูน้ ำระดับสูง
ดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรถ่ำยทอดวิสยั ทัศน์และค่ำนิ ยมขององค์กร ผ่ำนระบบกำรนำไปยังบุคลำกร
ทุกคน ผูส้ ง่ มอบและคู่พนั ธมิตรสำคัญ และผูร้ บั ผลงำนอืน่ ๆ (ตำมควำมเหมำะสม) เพือ่ นำไป
ปฏิบตั ?ิ กำรปฏิบตั ิตนของผูน้ ำระดับสูงสะท้อนให้เห็นควำมมุ่งมัน่ ต่อค่ำนิ ยมขององค์กรอย่ำงไร?
45
HA2006
I - 1.1 ก. วิสยั ทัศน์และค่ำนิ ยม
(2) ผูน้ ำระดับสูงแสดงภำวะผูน้ ำและรับผิดชอบต่อกำรบรรลุควำมสำเร็จขององค์กร, คุณภำพและควำม
ปลอดภัยในกำรดูแลผูป้ ่ วย, จัดสรรและบริหำรทรัพยำกรอย่ำงมีประสิทธิภำพ.
(2) Senior leaders provide leadership and are responsible for the organization’s
achievements, quality and safety of patient care, efficient allocation and
management of resources.
46
I - 1.1 ก. วิสยั ทัศน์และค่ำนิ ยม
HA2006
(3) ผูน้ ำระดับสูงสร้ำงสิง่ แวดล้อมและบรรยำกำศที่เอื้อต่อกำรปรับปรุงผลงำน , กำรบรรลุวตั ถุประสงค์
ขององค์กร, กำรสร้ำงนวตกรรม, ควำมคล่องตัวขององค์กร, กำรเรียนรูข้ ององค์กรและบุคลำกร,
สัมพันธภำพในกำรทำงำนที่ดี, ควำมร่วมมือและกำรประสำนบริกำร, กำรปฏิบตั ิอย่ำงถูกต้องตำม
กฎหมำยและจริยธรรม.
(3) Senior leaders create an environment for performance improvement,
accomplishment of organization objectives, innovation, organizational agility,
organizational and staff learning, effective working relationships, cooperation
and integration of services, legal compliance and good ethical practice.
MBNQA 2006
(2) ผูน้ ำระดับสูงดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรสร้ำงสิง่ แวดล้อมที่สง่ เสริมและให้มีพฤติกรรมที่ปฏิบตั ิตำม
กฎหมำยและมีจริยธรรม? (3) ผูน้ ำระดับสูงดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรสร้ำงองค์กรให้เป็ นองค์กรที่มี
ควำมยัง่ ยืน? ผูน้ ำระดับสูงดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรสร้ำงสิง่ แวดล้อมที่เอื้อต่อกำรปรับปรุงผลงำน,
กำรบรรลุวตั ถุประสงค์เชิงกลยุทธ์, กำรสร้ำงนวัตกรรม, และควำมคล่องตัว/ควำมยืดหยุ่นของ
องค์กร? ผูน้ ำระดับสูงดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรสร้ำงสิง่ แวดล้อมเพือ่ ให้เกิดกำรเรียนรูข้ ององค์กร
และบุคลำกร? ผูน้ ำระดับสูงแต่ละคนมีสว่ นร่วมอย่ำงไรในกำรวำงแผนสืบทอดตำแหน่ ง และกำร
พัฒนำผูน้ ำในอนำคตขององค์กร?
47
I - 1.1 ข. กำรสือ่ สำรและจุดเน้นขององค์กร
1
2
(1) ผูน้ ำระดับสูงสือ่ สำรกับบุคลำกร, ให้อำนำจกำรตัดสินใจ , และจูงใจบุคลำกรทุกคนทัว่ ทัง้ องค์กร.
ผูน้ ำระดับสูงกระตุน้ ให้เกิดกำรสือ่ สำรสองทำงที่ตรงไปตรงมำทัว่ ทัง้ องค์กร. ผูน้ ำระดับสูงมีบทบำท
เชิงรุกในกำรให้รำงวัลและกำรยกย่องชมเชย เพือ่ เสริมสร้ำงกำรมุ่งเน้นผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงำน, คุณภำพ
และควำมปลอดภัยในกำรดูแลผูร้ บั บริกำร, และกำรมีผลงำนที่ดี.
(2) ผูน้ ำระดับสูงกำหนดจุดเน้นของกำรปรับปรุงผลงำน และจุดเน้นของกำรดำเนิ นงำนเพือ่ กำรบรรลุ
วัตถุประสงค์/วิสยั ทัศน์ขององค์กร รวมทัง้ ระดับควำมคำดหวังในจุดเน้นดังกล่ำว. ระดับควำม
คำดหวังขององค์กรมีสมดุลระหว่ำงคุณค่ำที่ให้แก่ผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงำน และผูม้ ีสว่ นได้เสียอืน่ ๆ.
48
I - 1.1 ข. กำรสือ่ สำรและจุดเน้นขององค์กร
HA2006
(1) ผูน้ ำระดับสูงสือ่ สำรกับบุคลำกร, ให้อำนำจกำรตัดสินใจ, และจูงใจบุคลำกรทุกคนทัว่ ทัง้ องค์กร.
ผูน้ ำระดับสูงกระตุน้ ให้เกิดกำรสือ่ สำรสองทำงที่ตรงไปตรงมำทัว่ ทัง้ องค์กร. ผูน้ ำระดับสูงมีบทบำท
เชิงรุกในกำรให้รำงวัลและกำรยกย่องชมเชย เพือ่ เสริมสร้ำงกำรมุ่งเน้นผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงำน, คุณภำพ
และควำมปลอดภัยในกำรดูแลผูร้ บั บริกำร, และกำรมีผลงำนที่ดี.
(1) Senior leaders communicate with, empower, and motivate all staff throughout
the organization. Senior leaders encourage frank, two-way communication
throughout the organization. Senior leaders take an active role in staff reward
and recognition to reinforce a focus on patients/other customers, quality and
safety in patient care, and good performance.
MBNQA 2006
(1) ผูน้ ำระดับสูงดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรสือ่ สำร ให้อำนำจกำรตัดสินใจ และจูงใจบุคลำกรทุกคนทัว่ ทัง้
องค์กร? ผูน้ ำระดับสูงดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรกระตุน้ ให้เกิดกำรสือ่ สำรสองทำงที่ตรงไปตรงมำทัว่
ทัง้ องค์กร? ผูน้ ำระดับสูงมีบทบำทเชิงรุกอย่ำงไรในกำรให้รำงวัลและกำรยกย่องชมเชย เพือ่
เสริมสร้ำงกำรมีผลกำรดำเนิ นกำรที่ดี กำรมุ่งเน้นองค์กร กำรมุ่งเน้นผูป้ ่ วยและผูร้ บั ผลงำนอืน่ ๆ?
49
I - 1.1 ข. กำรสือ่ สำรและจุดเน้นขององค์กร
HA2006
(2) ผูน้ ำระดับสูงกำหนดจุดเน้นของกำรปรับปรุงผลงำน และจุดเน้นของกำรดำเนิ นงำนเพือ่ กำรบรรลุ
วัตถุประสงค์/วิสยั ทัศน์ขององค์กร รวมทัง้ ระดับควำมคำดหวังในจุดเน้นดังกล่ำว. ระดับควำม
คำดหวังขององค์กรมีสมดุลระหว่ำงคุณค่ำที่ให้แก่ผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงำน และผูม้ ีสว่ นได้เสียอืน่ ๆ.
(2) Senior leaders create a focus on action to improve performance, accomplish
the organization’s objectives, and attain the vision; including performance
expectation in those areas. The organizational performance expectations
include a balanced value for patients/other customers, and other stakeholders.
MBNQA 2006
(2) ผูน้ ำระดับสูงดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรกำหนดจุดเน้นของกำรทำงำนเพือ่ กำรบรรลุวตั ถุประสงค์ของ
องค์กร, กำรปรับปรุงผลกำรดำเนิ นกำร, และกำรบรรลุวสิ ยั ทัศน์ขององค์กร? ในกำรกำหนดควำม
คำดหวังผลกำรดำเนิ นกำรขององค์กร ผูน้ ำระดับสูงคำนึ งถึงจุดเน้นในกำรสร้ำงคุณค่ำและทำให้เกิด
ควำมสมดุลระหว่ำงคุณค่ำที่ให้แก่ผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนอืน่ ๆ และผูม้ ีสว่ นได้เสียอืน่ ๆ อย่ำงไร?
50
I - 1.2 ก. กำรกำกับดูแลกิจกำร
1
2
ACHS
JCAHO JCI
(1) องค์กรแสดงถึงระบบกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดี ในด้ำนควำมรับผิดชอบต่อกำรกระทำของผูบ้ ริหำร,
ควำมรับผิดชอบด้ำนกำรเงิน, ควำมโปร่งใสในกำรดำเนิ นงำน, กำรตรวจสอบที่เป็ นอิสระทัง้ ภำยใน
และภำยนอก, และกำรพิทกั ษ์ผลประโยชน์ของผูม้ ีสว่ นได้เสีย.
(2) องค์กรประเมินผลงำนของผูน้ ำทุกระดับ . ผูน้ ำระดับสูงใช้ผลกำรทบทวนเหล่ำนี้ ไปปรับปรุง
ประสิทธิผลของผูน้ ำแต่ละคน และประสิทธิผลของระบบกำรนำ
51
I - 1.2 ก. กำรกำกับดูแลกิจกำร
HA2006
(1) องค์กรแสดงถึงระบบกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดี ในด้ำนควำมรับผิดชอบต่อกำรกระทำของผูบ้ ริหำร,
ควำมรับผิดชอบด้ำนกำรเงิน, ควำมโปร่งใสในกำรดำเนิ นงำน, กำรตรวจสอบที่เป็ นอิสระทัง้ ภำยใน
และภำยนอก, และกำรพิทกั ษ์ผลประโยชน์ของผูม้ ีสว่ นได้เสีย.
(1) The organization addresses the following key factors in the governance
system: management accountability, fiscal accountability, transparency in
operation, independence in internal and external audits, and protection of
stakeholder interests.
MBNQA 2006
(1) องค์กรดำเนิ นกำรอย่ำงไรเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญต่อไปนี้ ในระบบกำรกำกับดูแลกิจกำร?
• ควำมรับผิดรับชอบต่อกำรกระทำของผูบ้ ริหำร
• ควำมรับผิดชอบด้ำนกำรเงิน
• ควำมโปร่งใสในกำรดำเนิ นงำนและกำรเลือกสมำชิกคณะกรรมกำรผูก้ ำกับดูแลกิจกำร รวมทัง้
นโยบำยกำรเปิ ดเผยข้อมูลของคณะกรรมกำรผูก้ ำกับดูแลกิจกำร (ตำมควำมเหมำะสม)
• ควำมเป็ นอิสระของกำรตรวจสอบภำยในและภำยนอก
• กำรพิทกั ษ์ผลประโยชน์ของผูม้ ีสว่ นได้เสียและผูถ้ อื หุน้ (ตำมควำมเหมำะสม)
52
I - 1.2 ก. กำรกำกับดูแลกิจกำร
HA2006
(2) องค์กรประเมินผลงำนของผูน้ ำทุกระดับ. ผูน้ ำระดับสูงใช้ผลกำรทบทวนเหล่ำนี้ ไปปรับปรุง
ประสิทธิผลของผูน้ ำแต่ละคน และประสิทธิผลของระบบกำรนำ
(2) The organization evaluates the performance of leaders at all levels. Senior
leaders use these performance review to improve both their personal
leadership effectiveness and that of leadership system
MBNQA 2006
(2) องค์กรดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรประเมินผลกำรดำเนิ นกำรของผูน้ ำระดับสูง, ทัง้ ผูน้ ำด้ำนบริหำร
และผูน้ ำด้ำนบริกำรสุขภำพ? องค์กรดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรประเมินผลกำรดำเนิ นกำรของ
สมำชิกในคณะกรรมกำรผูก้ ำกับดูแลกิจกำร (ตำมควำมเหมำะสม)? ผูน้ ำระดับสูงและ
คณะกรรมกำรผูก้ ำกับดูแลกิจกำรใช้กำรทบทวนผลกำรดำเนิ นกำรเหล่ำนี้ อย่ำงไรเพือ่ ปรับปรุง
ประสิทธิผลของผูน้ ำแต่ละคน ของคณะกรรมกำรผูก้ ำกับดูแลกิจกำร และของระบบกำรนำ (ตำม
ควำมเหมำะสม)?
53
I - 1.2. ข. กำรปฏิบตั ติ ำมกฎหมำยและกำรดำเนิ นงำนอย่ำงมีจริยธรรม
1
2
(1) องค์กรระบุและคำดกำรณ์ถงึ ควำมเสี่ยง/ผลกระทบด้ำนลบต่อสังคม และควำมกังวลของสำธำรณชน
เนื่ องมำจำกบริกำร/กำรดำเนิ นงำนขององค์กร. มีกำรกำหนดกระบวนกำร ตัวชี้วดั และเป้ ำหมำย
สำคัญ เพือ่ ให้มีกำรปฏิบตั ติ ำมข้อบังคับและกฎหมำย รวมทัง้ ลดควำมเสีย่ งหรือผลกระทบด้ำนลบ
เหล่ำนั้น.
(2) องค์กรส่งเสริมและสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะมีกำรดำเนิ นงำนอย่ำงมีจริยธรรมในทุกกรณี มีกำรติดตำม
กำกับ และดำเนิ นกำรเมื่อมีกำรละเมิดหลักจริยธรรม.
54
I - 1.2. ข. กำรปฏิบตั ติ ำมกฎหมำยและกำรดำเนิ นงำนอย่ำงมีจริยธรรม
HA2006
(1) องค์กรระบุและคำดกำรณ์ถงึ ควำมเสี่ยง / ผลกระทบด้ำนลบต่อสังคม และควำมกังวลของ
สำธำรณชน เนื่ องมำจำกบริกำร/กำรดำเนิ นงำนขององค์กร. มีกำรกำหนดกระบวนกำร ตัวชี้วดั
และเป้ ำหมำยสำคัญ เพือ่ ให้มีกำรปฏิบตั ติ ำมข้อบังคับและกฎหมำย รวมทัง้ ลดควำมเสีย่ งหรือ
ผลกระทบด้ำนลบเหล่ำนั้น.
(1) The organization addresses and anticipates risks / adverse impacts on society,
public concerns with its health care services and operations. Key processes,
measures, and goals for complying with legal requirement and reducing those
risks or negative impacts are addressed.
MBNQA 2006
(1) องค์กรดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรระบุและคำดกำรณ์ถงึ ผลกระทบด้ำนลบต่อสังคม เนื่ องมำจำกบริกำรสุขภำพ
และกำรดำเนิ นงำนขององค์กร? องค์กรดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรคำดกำรณ์ควำมกังวลของสำธำรณชน
เกี่ยวกับบริกำรและกำรดำเนิ นงำนในปัจจุบนั และอนำคต? องค์กรดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรเตรียมตัวเพือ่
รองรับควำมกังวลเหล่ำนี้ ในเชิงรุก รวมทัง้ กำรใช้กระบวนกำรเพือ่ อนุ รกั ษ์ทรัพยำกร? องค์ใช้อะไรเป็ น
กระบวนกำร ตัวชี้วดั และเป้ ำหมำยสำคัญเพือ่ บรรลุและปฏิบตั ิตำมข้อกำหนดในกฎหมำยและข้อบังคับ (ตำม
ควำมเหมำะสม)? องค์กรใช้อะไรเป็ นกระบวนกำร ตัวชี้วดั และเป้ ำหมำยสำคัญเพือ่ จัดกำรกับควำมเสีย่ ง
เนื่ องมำจำกบริกำรสุขภำพและกำรดำเนิ นกำรอืน่ ๆ ขององค์กร?
55
I - 1.2. ข. กำรปฏิบตั ติ ำมกฎหมำยและกำรดำเนิ นงำนอย่ำงมีจริยธรรม
HA2006
(2) องค์กรส่งเสริมและสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะมีกำรดำเนิ นงำนอย่ำงมีจริยธรรมในทุกกรณี มีกำรติดตำม
กำกับ และดำเนิ นกำรเมื่อมีกำรละเมิดหลักจริยธรรม.
(2) The organization promotes and ensures ethical behavior in all interactions,
monitors and responds to breaches of ethical behavior.
MBNQA 2005
(2) องค์กรดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรส่งเสริมและสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะมีกำรดำเนิ นงำนอย่ำงมีจริยธรรม
ในทุกกรณี ? องค์กรใช้กระบวนกำร ตัวชี้วดั สำคัญอะไรเพือ่ enable และติดตำมกับกำร
ดำเนิ นงำนอย่ำงมีจริยธรรมในโครงสร้ำงกำรกำกับดูแลกิจกำร, ในกำรดำเนิ นงำนทัว่ ทัง้ องค์กร และ
ในกำรมีปฏิสมั พันธ์กบั ผูป้ ่ วยและผูร้ บั ผลงำนอืน่ ๆ? องค์กำรติดตำมกำกับและตอบสนองเมื่อมีกำร
ละเมิดหลักจริยธรรมอย่ำงไร?
HA 1996/2000
ACHS 1999
JCHO 2005
JCI 2000
56
I - 1.2. ค. กำรสนับสนุ นชุมชนและสุขภำพของชุมชน
HA2006
(1) องค์กรกำหนดชุมชนสำคัญและสิง่ ที่จะให้กำรสนับสนุ นแก่ชมุ ชน. องค์กรสนับสนุ นและสร้ำงควำม
เข้มแข็งให้แก่ชมุ ชน. องค์กรสนับสนุ นสุขภำพของชุมชน, ประสำนงำนและสร้ำงควำมร่วมมือกับ
องค์กรอืน่ ๆ เพือ่ จัดให้มีบริกำรที่ประสำนกันและใช้ทรัพยำกรร่วมกัน.
(1) The organization identifies its key communities and determines areas of
emphasis for support. The organization supports and strengthens communities.
The organization supports the community health, forms linkages and
partnerships with other organization to develop coordinated services and share
resources.
MBNQA 2005
องค์กรดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรสนับสนุ นและสร้ำงควำมเข้มแข็งให้แก่ชมุ ชนสำคัญขององค์กร?
องค์กรดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกำรกำหนดชุมชนสำคัญ และประเด็นที่เป็ นจุดเน้นสำหรับกำรเข้ำร่วม
และให้กำรสนับสนุ น? ชุมชนสำคัญขององค์กรได้แก่อะไรบ้ำง? ผูน้ ำระดับสูงและบุคลำกรใน
องค์กรมีสว่ นต่อกำรพัฒนำชุมชนและสร้ำงสุขภำพให้แก่ชมุ ชนอย่ำงไร?
57
I - 2.1 ก. กระบวนกำรจัดทำกลยุทธ์
1
2
(1) ผูน้ ำระดับสูง โดยควำมร่วมมือกับบุคลำกร ดำเนิ นกำรวำงแผนกลยุทธ์ตำมขัน้ ตอนและใช้กรอบเวลำ
ที่เหมำะสม. มีกระบวนกำรที่ช่วยให้องค์กรทรำบถึงจุดอ่อนหรือจุดด้อยสำคัญที่อำจถูกมองข้ำม.
(2) ในกระบวนกำรวำงแผนกลยุทธ์ มีกำรวิเครำะห์ปญั หำและควำมต้องกำรด้ำนสุขภำพของผูร้ บั บริกำร
/ ชุมชนที่รบั ผิดชอบ, วิเครำะห์จุดแข็ง จุด่อน โอกำส สิง่ คุกคำมขององค์กร รวมทัง้ ปัจจัยสำคัญอืน่ ๆ
และควำมสำมำรถในกำรนำแผนกลยุทธ์ไปปฏิบตั ิ .
58
I - 2.1 ก. กระบวนกำรจัดทำกลยุทธ์
HA2006
(1) ผูน้ ำระดับสูง โดยควำมร่วมมือกับบุคลำกร ดำเนิ นกำรวำงแผนกลยุทธ์ตำมขัน้ ตอนและใช้กรอบเวลำ
ที่เหมำะสม. มีกระบวนกำรที่ช่วยให้องค์กรทรำบถึงจุดอ่อนหรือจุดด้อยสำคัญที่อำจถูกมองข้ำม.
(1) Senior leaders, with participation of staff, conduct a strategic planning process
with appropriate key process steps and planning time horizon. The potential
blind spots are identified during the planning process.
MBNQA 2005
(1) องค์กรดำเนิ นกำรวำงแผนกลยุทธ์อย่ำงไร? มีขน้ั ตอนในกระบวนกำรสำคัญอะไรบ้ำง? ใครเป็ นผูม้ ี
ส่วนสำคัญในกำรจัดทำ? มีกระบวนกำรที่ใช้ช่วยให้องค์กรทรำบถึงจุดอ่อนหรือจุดด้อยสำคัญที่อำจ
ถูกมองข้ำมอย่ำงไร? ช่วงเวลำในกำรวำงแผนระยะสัน้ และระยะยำวคืออะไร? มีกำรกำหนด
ช่วงเวลำเหล่ำนี้ อย่ำงไร? กระบวนกำรวำงแผนเชิงกลยุทธ์ระยุช่วงเวลำเหล่ำนี้ อย่ำงไร?
59
I - 2.1 ก. กระบวนกำรจัดทำกลยุทธ์
HA2006
(2) ในกระบวนกำรวำงแผนกลยุทธ์ มีกำรวิเครำะห์ปญั หำและควำมต้องกำรด้ำนสุขภำพของผูร้ บั บริกำร
/ ชุมชนที่รบั ผิดชอบ, วิเครำะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกำส สิง่ คุกคำมขององค์กร รวมทัง้ ปัจจัยสำคัญ
อืน่ ๆ และควำมสำมำรถในกำรนำแผนกลยุทธ์ไปปฏิบตั ิ
(2) Health problems and health care needs of the clients / communities; the
organization’s strengths, weaknesses, opportunities, threats, and other key
factors, and the ability to execute the strategic plan are analyzed in the
strategic planning process.
MBNQA 2005
(2) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำกำรวำงแผนกลยุทธ์ได้พจิ ำรณำปัจจัยสำคัญข้ำงล่ำงนี้ อย่ำงไร? องค์กร
เก็บรวบรวมและวิเครำะห์ขอ้ มูลและสำรสนเทศที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยเหล่ำนี้ ในกระบวนกำรวำงแผน
กลยุทธ์อย่ำงไร?
• จุดแข็ง จุดอ่อน โอกำส สิง่ คุกคำมขององค์กร
• ข้อบ่งชี้แต่เนิ่ นๆ ของกำรเปลี่ยนแปลงสำคัญในเรื่องเทคโนโลยี ตลำดบริกำรสุขภำพ กำร
แข่งขันหรือควำมร่วมมือ กำรควบคุม
• ควำมยัง่ ยืนขององค์กรในระยะยำว และควำมต่อเนื่ องในกำรทำงำนขององค์กรในภำวะฉุกเฉิ น
• ควำมสำมำรถในกำรนำแผนกลยุทธ์ไปปฏิบตั ิ
60
I - 2.1 ข. วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
1
2
3
(1) มีกำรจัดทำวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ท่ีสำคัญ และกรอบเวลำที่จะบรรลุวตั ถุประสงค์เหล่ำนั้น.
(2) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ตอบสนองต่อควำมท้ำทำยที่สำคัญขององค์กร สถำนะสุขภำพและควำม
ต้องกำรด้ำนสุขภำพของชุมชนหรือกลุม่ ประชำกรที่ให้บริกำร และมีสว่ นต่อผลลัพธ์สขุ ภำพที่ดีข้ นึ .
(3) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับกำรสร้ำงเสริมสุขภำพมุ่งที่ผลลัพธ์สขุ ภำพที่ดีข้ นึ ของผูป้ ่ วย
ครอบครัว ชุมชน บุคลำกร และสิง่ แวดล้อมที่เอื้อต่อกำรมีสขุ ภำพดี.
61
I - 2.1 ข. วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
HA2006
(1) มีกำรจัดทำวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ท่ีสำคัญ และกรอบเวลำที่จะบรรลุวตั ถุประสงค์เหล่ำนั้น.
(1) Key strategic objectives are developed as well as a timetable for accomplishing
them.
MBNQA 2005
(1) อะไรคือวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ท่ีสำคัญและกำหนดเวลำที่จะบรรลุ? อะไรคือเป้ ำประสงค์ท่สี ำคัญ
ที่สดุ ของวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เหล่ำนี้ ?
62
I - 2.1 ข. วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
HA2006
(2) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ตอบสนองต่อควำมท้ำทำยที่สำคัญขององค์กร สถำนะสุขภำพและควำม
ต้องกำรด้ำนสุขภำพของชุมชนหรือกลุม่ ประชำกรที่ให้บริกำร และมีสว่ นต่อผลลัพธ์สขุ ภำพที่ดีข้ นึ .
(2) The strategic objectives address key organizational challenges, respond to the
community’s (or its served population’s) health situation and needs, and
contribute to improvement of the health outcomes.
MBNQA 2005
(2) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ขององค์กรระบุควำมท้ำทำยที่ระบุไว้ในข้อ P.2 ของ Organizational
Profile อย่ำงไร? องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจอย่ำงไรว่ำวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์มีควำมสมดุลระหว่ำง
ควำมท้ำทำยและโอกำสทัง้ ในระยะสัน้ และระยะยำว? องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจอย่ำงไรว่ำ
วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์มีควำมสมดุลระหว่ำงควำมต้องกำรของผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนสำคัญอืน่ ๆ และผู ้
มีสว่ นได้เสียสำคัญ?
63
HA2006
I - 2.1 ข. วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
(3) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับกำรสร้ำงเสริมสุขภำพมุ่งที่ผลลัพธ์สขุ ภำพที่ดีข้ นึ ของผูป้ ่ วย
ครอบครัว ชุมชน บุคลำกร และสิง่ แวดล้อมที่เอื้อต่อกำรมีสขุ ภำพดี.
(3) A strategic objective related to health promotion aims at improving health
outcome of patients, families, communities, staff, and at environment that is
conducive to health
64
I - 2.2 ก. กำรจัดทำแผนปฏิบตั ิกำร และกำรถ่ำยทอดเพื่อนำไปปฏิบตั ิ
1
2
3
(1) มีกำรจัดทำแผนปฏิบตั กิ ำรและถ่ำยทอดเผนไปสูก่ ำรปฏิบตั เิ พือ่ บรรลุวตั ถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ท่ี
สำคัญ. ผูน้ ำระดับสูงจัดสรรทรัพยำกรอย่ำงเพียงพอเพือ่ ให้มนั ่ ใจว่ำจะสำมำรถดำเนิ นกำรตำมแผน
ได้สำเร็จ. บุคลำกรตระหนักในบทบำทและกำรมีสว่ นต่อกำรบรรลุวตั ถุประสงค์เชิงกลยุทธ์.
(2) องค์กรนำวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และแผนปฏิบตั ิกำรมำจัดทำแผนด้ำนทรัพยำกรบุคคล .
(3) มีกำรจัดทำตัวชี้วดั สำคัญเพือ่ ติดตำมควำมก้ำวหน้ำในกำรปฏิบตั ติ ำมแผน. ระบบกำรวัดผล
ครอบคลุมประเด็นสำคัญ / ผูม้ ีสว่ นได้เสียทัง้ หมด และเอื้อให้ทง้ั องค์กรมุ่งไปในทิศทำงเดียวกัน.
65
I - 2.2 ก. กำรจัดทำแผนปฏิบตั ิกำร และกำรถ่ำยทอดเพื่อนำไปปฏิบตั ิ
HA2006
(1) มีกำรจัดทำแผนปฏิบตั กิ ำรและถ่ำยทอดเผนไปสูก่ ำรปฏิบตั เิ พือ่ บรรลุวตั ถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ท่ี
สำคัญ. ผูน้ ำระดับสูงจัดสรรทรัพยำกรอย่ำงเพียงพอเพือ่ ให้มนั ่ ใจว่ำจะสำมำรถดำเนิ นกำรตำมแผน
ได้สำเร็จ. บุคลำกรตระหนักในบทบำทและกำรมีสว่ นต่อกำรบรรลุวตั ถุประสงค์เชิงกลยุทธ์.
(1) Action plans are developed and deployed to achieve the key strategic
objectives. Senior leaders allocate adequate resources to ensure
accomplishment of its action plans. Staff are aware of the role they play and
the contribution they make in achieving the strategic objectives.
MBNQA 2005
(1) องค์กรจัดทำแผนปฏิบตั กิ ำรและถ่ำยทอดแผนไปสูก่ ำรปฏิบตั อิ ย่ำงไรเพื่อบรรลุวตั ถุประสงค์เชิงกลยุทธ์?
องค์กรจัดสรรทรัพยำกรอย่ำงไรเพื่อให้มนั ่ ใจว่ำจะสำมำรถดำเนิ นกำรตำมแผนได้สำเร็จ? องค์กรสร้ำง
ควำมมัน่ ใจอย่ำงไรว่ำกำรเปลี่ยนแปลงสำคัญซึ่งเป็ นผลของกำรดำเนิ นกำรตำมแผนจะมีควำมยัง่ ยืน?
(2) องค์กรดำเนิ นกำรอย่ำงไรในกรณี ท่ตี อ้ งมีกำรปรับเปลี่ยนแผนและต้องนำแผนใหม่ไปสู่กำรปฏิบตั อิ ย่ำง
รวดเร็ว?
(3) อะไรคือแผนปฏิบตั กิ ำรระยะสัน้ และระยะยำวที่สำคัญ? อะไรคือกำรเปลี่ยนแปลงสำคัญ (ถ้ำมี) ใน
บริกำรและแผนงำนสุขภำพ, ผูร้ บั ผลงำน และตลำด (รวมทัง้ กลุ่มผูป้ ่ วย) และองค์กรจะดำเนิ นกำร
อย่ำงไร?
66
I - 2.2 ก. กำรจัดทำแผนปฏิบตั ิกำร และกำรถ่ำยทอดเพื่อนำไปปฏิบตั ิ
HA2006
(2) องค์กรนำวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และแผนปฏิบตั ิกำรมำจัดทำแผนด้ำนทรัพยำกรบุคคล .
(2) The organization determines key human resource plans that derive from its
strategic objectives and action plans.
MBNQA 2005
(4) อะไรคือแผนด้ำนทรัพยำกรบุคคลที่สำคัญซึ่งเป็ นผลมำจำกวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และแผนปฏิบตั ิ
กำรในระยะสัน้ และระยะยำว?
67
I - 2.2 ก. กำรจัดทำแผนปฏิบตั ิกำร และกำรถ่ำยทอดเพื่อนำไปปฏิบตั ิ
HA2006
(3) มีกำรจัดทำตัวชี้วดั สำคัญเพือ่ ติดตำมควำมก้ำวหน้ำในกำรปฏิบตั ติ ำมแผน. ระบบกำรวัดผล
ครอบคลุมประเด็นสำคัญ / ผูม้ ีสว่ นได้เสียทัง้ หมด และเอื้อให้ทง้ั องค์กรมุ่งไปในทิศทำงเดียวกัน.
(3) Key performance indicators for tracking progress on the action plans are
developed. The measurement system reinforces organizational alignment and
covers all key areas and stakeholders.
MBNQA 2005
(5) อะไรคือตัวชี้วดั ผลกำรดำเนิ นงำนสำคัญเพือ่ ติดตำมควำมก้ำวหน้ำในกำรปฏิบตั ติ ำมแผนปฏิบตั ิ
กำร? องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจอย่ำงไรว่ำระบบวัดผลในภำพรวมเอื้อให้ทง้ั องค์กรมุ่งไปในทิศทำง
เดียวกัน? องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจอย่ำงไรว่ำระบบวัดผลครอบคลุมประเด็นสำคัญและผูม้ ีสว่ นได้
เสียทัง้ หมด?
68
I - 2.2 ข. กำรคำดกำรณ์และเปรียบเทียบผลกำรดำเนิ นงำน
(1) องค์กรคำดกำรณ์ผลกำรดำเนิ นงำนสำหรับตัวชี้วดั สำคัญในข้อ 2.2ก(3) ตำมกรอบเวลำของกำร
วำงแผน โดยพิจำรณำจำกเป้ ำประสงค์, ผลงำนที่ผ่ำนมำ และข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ ที่เหมำะสม.
องค์กรตอบสนองต่อควำมแตกต่ำงของผลงำนเมื่อเทียบกับองค์กรที่ดำเนิ นงำนหรือมีกจิ กรรมใน
ลักษณะใกล้เคียงกัน ทัง้ ควำมแตกต่ำงในปัจจุบนั และควำมแตกต่ำงที่ได้จำกกำรคำดกำรณ์.
69
I - 2.2 ข. กำรคำดกำรณ์และเปรียบเทียบผลกำรดำเนิ นงำน
HA2006
(1) องค์กรคำดกำรณ์ผลกำรดำเนิ นงำนสำหรับตัวชี้วดั สำคัญในข้อ 2.2ก(3) ตำมกรอบเวลำของกำร
วำงแผน โดยพิจำรณำจำกเป้ ำประสงค์, ผลงำนที่ผ่ำนมำ และข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ ที่เหมำะสม.
องค์กรตอบสนองต่อควำมแตกต่ำงของผลงำนเมื่อเทียบกับองค์กรที่ดำเนิ นงำนหรือมีกจิ กรรมใน
ลักษณะใกล้เคียงกัน ทัง้ ควำมแตกต่ำงในปัจจุบนั และควำมแตกต่ำงที่ได้จำกกำรคำดกำรณ์.
(1) For the key performance indicator identified in 2.2a(3), the organization
determines its performance projections for the planning time horizons. The
organization determines its projected performance compare with its goals, past
performance, and appropriate comparative data. The organization address
current and projected gaps in performance against comparable organization.
MBNQA 2005
อะไรคือกำรคำดกำรณ์สำหรับตัวชี้วดั ผลกำรดำเนิ นงำนสำคัญ (KPI) ที่ระบุไว้ใน 2.2a(5) ในช่วงเวลำ
ของกำรวำงแผนระยะสัน้ และระยะยำว? กำรคำดกำรณ์ผลกำรดำเนิ นงำนขององค์กรเทียบกับกำร
คำดกำรณ์ของคู่แข่งหรือองค์กรที่มีลกั ษณะใกล้เคียงกันเป็ นอย่ำงไร? เมื่อเปรียบเทียบกับ key
benchmarks, เป้ ำประสงค์ และผลกำรดำเนิ นงำนที่ผ่ำนมำ (ตำมควำมเหมำะสม) แล้วเป็ นอย่ำงไร?
องค์กรจะดำเนิ นกำรอย่ำงไรถ้ำมีควำมแตกต่ำงของผลกำรดำเนิ นงำนในปัจจุบนั หรือที่ได้จำกกำร
คำดกำรณ์เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งหรือองค์กรที่มีลกั ษณะใกล้เคียงกัน?
70
I - 3.1 ควำมรูเ้ กี่ยวกับผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
1
2
3
(1) องค์กรระบุกำรจำแนกส่วน ของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน กลุม่ ผูร้ บั ผลงำน และตลำดบริกำรสุขภำพ.
องค์กรกำหนดว่ำจะมุ่งเน้นบริกำรสุขภำพสำหรับส่วนใดของผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงำน กลุม่ ผูร้ บั ผลงำน
และตลำดบริกำรสุขภำพ.
(2) องค์กรรับฟังและเรียนรู ้ ควำมต้องกำรและควำมคำดหวัง ของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน ด้วยวิธกี ำรรับ
ฟังที่เหมำะสมกับแต่ละกลุม่ . มีกำรนำควำมรูน้ ้ ี ไปใช้ในกำรวำงแผนจัดบริกำรและปรับปรุง
กระบวนกำรทำงำน.
(3) องค์กรปรับปรุงวิธกี ำรรับฟังและเรียนรูใ้ ห้ทนั ควำมต้องกำรของผูเ้ กี่ยวข้องและทิศทำงกำร
เปลี่ยนแปลงของบริกำรสุขภำพ.
71
I - 3.1 ควำมรูเ้ กี่ยวกับผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
HA2006
(1) องค์กรระบุกำรจำแนกส่วน ของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน กลุม่ ผูร้ บั ผลงำน และตลำดบริกำรสุขภำพ.
องค์กรกำหนดว่ำจะมุ่งเน้นบริกำรสุขภำพสำหรับส่วนใดของผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงำน กลุม่ ผูร้ บั ผลงำน
และตลำดบริกำรสุขภำพ.
(1) The organization identifies patients/customers, customer groups, and health
care market segments. The organization determines which patients/customers,
customer groups, and market segments to pursue for health care services.
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวิธีกำรอย่ำงไรในกำรจำแนกส่วน (segment) ของผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนอืน่ กลุ่มผูร้ บั ผลงำน และ
ส่วนตลำดบริกำรสุขภำพ? องค์กรมีวิธีกำรอย่ำงไรในกำรกำหนดผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนอืน่ กลุ่มผูร้ บั
ผลงำน และส่วนตลำดบริกำรสุขภำพ เพื่อให้มำใช้บริกำรสุขภำพ ทัง้ ในปัจจุบนั และอนำคต? องค์กรมี
วิธีกำรอย่ำงไรในกำรกำหนดส่วนที่จะมุ่งเน้นโดยนำผูร้ บั ผลงำนของคู่แข่ง ผูร้ บั ผลงำนและตลำดใน
อนำคตเข้ำมำพิจำรณำประกอบ?
72
I - 3.1 ควำมรูเ้ กี่ยวกับผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
HA2006
(2) องค์กรรับฟังและเรียนรู ้ ควำมต้องกำรและควำมคำดหวัง ของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน ด้วยวิธกี ำรรับ
ฟังที่เหมำะสมกับแต่ละกลุม่ . มีกำรนำควำมรูน้ ้ ี ไปใช้ในกำรวำงแผนจัดบริกำรและปรับปรุง
กระบวนกำรทำงำน.
(2) The organization listens and learns key patient / other customer requirements
and expectations. The determination methods vary for different patients /
customer groups. This information is used for purposes of health service
planning and process improvements.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวิธีกำรอย่ำงไรในกำรรับฟัง เรียนรู ้ ควำมต้องกำรและควำมคำดหวังที่เปลี่ยนแปลงไป (รวมทัง้ รูปแบบบริกำร
สุขภำพ) ของผูป้ ่ วยสำคัญและผูร้ บั ผลงำนสำคัญอืน่ ๆ ตลอดจนควำมสำคัญของข้อมูลดังกล่ำวต่อกำรตัดสินใจใช้
บริกำร? วิธีกำรรับฟังมีควำมแตกต่ำงสำหรับผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนอืน่ และกลุม่ ผูร้ บั ผลงำนต่ำงๆ อย่ำงไร? องค์กรมี
วิธีกำรอย่ำงไรในกำรใช้ขอ้ มูลข่ำวสำรและข้อมูลป้ อนกลับ (จำกผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนอืน่ ทัง้ ในปัจจุบนั และอนำคต) รวมทัง้
ข้อมูลข่ำวสำรด้ำนกำรตลำด ควำมภักดีและข้อมูลกำรกลับมำรับบริกำร กำรวิเครำะห์กำรได้หรือเสียลูกค้ำ ข้อมูลคำ
ร้องเรียน (ของผูป้ ่ วยและผูร้ บั ผลงำนอืน่ ) เพื่อกำรวำงแผน กำรตลำด กำรปรับปรุงกระบวนกำร และกำรพัฒนำธุรกิจ
สำหรับบริกำรสุขภำพ? องค์กรมีวิธีกำรอย่ำงไรในกำรใช้ขอ้ มูลข่ำวสำรและข้อมูลป้ อนกลับนี้ เพื่อให้เกิดกำรมุ่งเน้น
ผูป้ ่ วยและผูร้ บั ผลงำนมำกขึ้น และเพื่อตอบสนองควำมต้องกำรของผูป้ ่ วยและผูร้ บั ผลงำนได้ดีข้ ึน?
73
I - 3.1 ควำมรูเ้ กี่ยวกับผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
HA2006
(3) องค์กรปรับปรุงวิธกี ำรรับฟังและเรียนรูใ้ ห้ทนั ควำมต้องกำรของผูเ้ กี่ยวข้องและทิศทำงกำร
เปลี่ยนแปลงของบริกำรสุขภำพ.
(3) The organization keeps its listening and learning methods current with health
care service needs and directions.
MBNQA 2005
(3) องค์กรปรับปรุงวิธกี ำรรับฟังและเรียนรูใ้ ห้ทนั ควำมต้องกำรและทิศทำงของบริกำรสุขภำพ รวมทัง้
กำรเปลี่ยนแปลงในตลำดบริกำรสุขภำพ (healthcare marketplace) อย่ำงไร?
74
I - 3.2 ก. กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์กบั ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
1
2
3
4
(1) องค์กรสร้ำงควำมสัมพันธ์กบั ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน เพือ่ ตอบสนองควำมต้องกำร, สร้ำงควำมเชื่อมัน่
ศรัทธำ, ควำมพึงพอใจ และเพือ่ ให้ได้รบั ควำมร่วมมือ.
(2) มีช่องทำงสำหรับให้ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน ค้นหำข้อมูลข่ำวสำร ขอรับบริกำร และเสนอข้อร้องเรียน.
องค์กรจัดทำข้อกำหนดที่พงึ ปฏิบตั ิสำหรับช่องทำงกำรติดต่อแต่ละรูปแบบ และสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำ
ข้อกำหนดดังกล่ำวได้รบั กำรนำไปปฏิบตั โิ ดยบุคลำกรทุกคนและในทุกขัน้ ตอนที่เกี่ยวข้อง.
(3) องค์กรจัดกำรกับคำร้องเรียนของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำนเพือ่ ให้มีกำรแก้ไขอย่ำงได้ผลและทันท่วงที. มี
กำรรวบรวมและวิเครำะห์คำร้องเรียนเพือ่ ใช้ในกำรปรับปรุงทัว่ ทัง้ องค์กร.
(4) องค์กรปรับปรุงวิธกี ำรสร้ำงควำมสัมพันธ์และช่องทำงกำรติดต่อกับผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน ให้ทนั กับ
ควำมต้องกำรของผูเ้ กี่ยวข้องและทิศทำงกำรเปลี่ยนแปลงของบริกำรสุขภำพ.
75
I - 3.2 ก. กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์กบั ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
HA2006
(1) องค์กรสร้ำงควำมสัมพันธ์กบั ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน เพือ่ ตอบสนองควำมต้องกำร, สร้ำงควำมเชื่อมัน่
ศรัทธำ, ควำมพึงพอใจ และเพือ่ ให้ได้รบั ควำมร่วมมือ.
(1) The organization builds relationships with patients / customers to meet their
expectations, build trust, satisfaction and gain cooperation.
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ ีกำรอย่ำงไรในกำรสร้ำงควำมสัมพันธ์เพื่อให้ได้ผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ เพื่อตอบสนองและทำให้
เกินควำมคำดหวัง เพื่อเพิ่มควำมภักดีและกำรกลับมำใช้บริกำรซ้ำ และเพื่อให้ลูกค้ำกล่ำวถึงในทำงที่ดี?
76
I - 3.2 ก. กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์กบั ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
HA2006
(2) มีช่องทำงสำหรับให้ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน ค้นหำข้อมูลข่ำวสำร ขอรับบริกำร และเสนอข้อร้องเรียน.
องค์กรจัดทำข้อกำหนดที่พงึ ปฏิบตั ิสำหรับช่องทำงกำรติดต่อแต่ละรูปแบบและสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำ
ข้อกำหนดดังกล่ำวได้รบั กำรนำไปปฏิบตั โิ ดยบุคลำกรทุกคนและในทุกขัน้ ตอนที่เกี่ยวข้อง.
(2) The key access mechanisms enable patients / customers to seek information,
obtain service, and make complaints. The organization determines key contact
requirement for each mode of patient / customer access and ensures that all
these contact requirements are deployed to all people and processes involved
on the customer response chain.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้กลไกกำรติดต่อสำคัญ (key access mechanism) สำมำรถ
ทำให้ผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ ค้นหำข้อมูลข่ำวสำร ขอรับบริกำร และเสนอข้อร้องเรียน? กลไกสำคัญ
เหล่ำนี้ มีอะไรบ้ำง? องค์กรจัดทำข้อกำหนดที่พงึ ปฏิบตั ิสำหรับช่องทำงกำรติดต่อแต่ละรูปแบบ
อย่ำงไร? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้มนั ่ ใจว่ำข้อกำหนดดังกล่ำวได้รบั กำรนำไปปฏิบตั ิโดย
บุคลำกรทุกคนและในทุกขัน้ ตอนที่เกี่ยวข้องกับกำรตอบสนองลูกค้ำ?
77
I - 3.2 ก. กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์กบั ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
HA2006
(3) องค์กรจัดกำรกับคำร้องเรียนของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำนเพือ่ ให้มีกำรแก้ไขอย่ำงได้ผลและทันท่วงที. มี
กำรรวบรวมและวิเครำะห์คำร้องเรียนเพือ่ ใช้ในกำรปรับปรุงทัว่ ทัง้ องค์กร.
(3) The organization manages patient / customer complaints, ensuring that
complaints are resolved effectively and promptly. Complaints are aggregated
and analyzed for use in improvement throughout the organization.
MBNQA 2005
(3) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรจัดกำรกับคำร้องเรียนข้องผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ? องค์กรมีวธิ กี ำร
อย่ำงไรที่ทำให้มนั ่ ใจว่ำคำร้องเรียนได้รบั กำรแก้ไขอย่ำงได้ผลและทันท่วงที? องค์กรมีวธิ กี ำร
อย่ำงไรในกำรลดควำมไม่พงึ พอใจของผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ เพือ่ ให้ลูกค้ำยังคงมำใช้บริกำร?
องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรรวบรวมและวิเครำะห์คำร้องเรียนเพือ่ ใช้ในกำรปรับปรุงทัว่ ทัง้ องค์กร
และโดยคู่พนั ธมิตร?
78
I - 3.2 ก. กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์กบั ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
HA2006
(4) องค์กรปรับปรุงวิธกี ำรสร้ำงควำมสัมพันธ์และช่องทำงกำรติดต่อกับผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน ให้ทนั กับ
ควำมต้องกำรของผูเ้ กี่ยวข้องและทิศทำงกำรเปลี่ยนแปลงของบริกำรสุขภำพ.
(4) The organization keeps its approaches to building relationships and providing
patient and other customer access current with health care service needs and
directions.
MBNQA 2005
(4) องค์กรปรับปรุงวิธกี ำรสร้ำงควำมสัมพันธ์และช่องทำงกำรติดต่อกับผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ อย่ำงไร
เพือ่ ให้ทนั กับควำมต้องกำรและทิศทำงของบริกำรสุขภำพอยู่เสมอ?
79
I - 3.2 ข. กำรประเมินควำมพึงพอใจ ของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
1
2
3
(1) มีกำรประเมินควำมพึงพอใจของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน และใช้ขอ้ มูลเพือ่ ปรับปรุงกำรดำเนิ นงำน.
วิธกี ำรวัดผลเหมำะสมกับกลุม่ ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำนแต่ละกลุม่ และได้ขอ้ มูลที่เป็ นประโยชน์ในกำร
นำไปปรับปรุง.
(2) มีกำรติดตำมผลหลังกำรเข้ำรับบริกำรจำกผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำนทันที เพือ่ ให้ได้รบั ข้อมูลป้ อนกลับ
เกี่ยวกับคุณภำพบริกำรที่เป็ นประโยชน์ในกำรนำไปปรับปรุง .
(3) องค์กรปรับปรุงวิธกี ำรประเมินควำมพึงพอใจให้ทนั กับควำมต้องกำรของผูเ้ กี่ยวข้องและทิศทำงกำร
เปลี่ยนแปลงของบริกำรสุขภำพ
80
I - 3.2 ข. กำรประเมินควำมพึงพอใจ ของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
HA2006
(1) มีกำรประเมินควำมพึงพอใจของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน และใช้ขอ้ มูลเพือ่ ปรับปรุงกำรดำเนิ นงำน.
วิธกี ำรวัดผลเหมำะสมกับกลุม่ ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำนแต่ละกลุม่ และได้ขอ้ มูลที่เป็ นประโยชน์ในกำร
นำไปปรับปรุง.
(1) Patient / customer satisfaction are determined and this information is used for
improvement. The measurement method is appropriate for each
patient/customer group, and is able to capture actionable information.
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรประเมินควำมพึงพอใจและไม่พงึ พอใจของผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ?
วิธกี ำรประเมินเหล่ำนี้ มีควำมแตกต่ำงกันอย่ำงไรในแต่ละกลุม่ ผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ? องค์กรมี
วิธกี ำรอย่ำงไรที่ทำให้มนั ่ ใจว่ำกำรวัดที่ใช้สำมำรถได้ขอ้ มูลที่เป็ นประโยชน์ในกำรปรับปรุงให้
เหนื อกว่ำควำมคำดหวังของผูป้ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ, ทำให้กลับมำใช้บริกำรขององค์กร และได้รบั กำร
กล่ำวถึงในทำงที่ดี? องค์กรใช้ขอ้ มูลเกี่ยวกับควำมพึงพอใจและไม่พงึ พอใจเพือ่ ให้เกิดกำรปรับปรุง
อย่ำงไร?
81
I - 3.2 ข. กำรประเมินควำมพึงพอใจ ของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
HA2006
(2) มีกำรติดตำมผลหลังกำรเข้ำรับบริกำรจำกผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำนทันที เพือ่ ให้ได้รบั ข้อมูลป้ อนกลับ
เกี่ยวกับคุณภำพบริกำรที่เป็ นประโยชน์ในกำรนำไปปรับปรุง .
(2) Patients / customers are followed up on care and service quality to receive
prompt and actionable feedback.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรติดตำมผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ เกี่ยวกับคุณภำพบริกำรเพือ่ ให้ได้รบั
ข้อมูลป้ อนกลับอย่ำงทันท่วงทีและเป็ นประโยชน์ในกำรนำไปปรับปรุง?
82
I - 3.2 ข. กำรประเมินควำมพึงพอใจ ของผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงำน
HA2006
(3) องค์กรปรับปรุงวิธกี ำรประเมินควำมพึงพอใจให้ทนั กับควำมต้องกำรของผูเ้ กี่ยวข้องและทิศทำงกำร
เปลี่ยนแปลงของบริกำรสุขภำพ
(3) The organization keeps its approaches to determining satisfaction current with
health care service needs and directions.
MBNQA 2005
(4) องค์กรปรับปรุงวิธกี ำรประเมินควำมพึงพอใจอย่ำงไร ให้ทนั กับควำมต้องกำรและทิศทำงของบริกำร
สุขภำพอยู่เสมอ?
83
HA2006
I - 3.3 ก. คำประกำศสิทธิผูป้ ่ วย
(1) ผูป้ ่ วยได้รบั กำรคุม้ ครองตำมคำประกำศสิทธิผูป้ ่ วยขององค์กรวิชำชีพและกระทรวงสำธำรณสุข
(1) The patients’ rights according to the Patient Charter issued by the professional
organizations and the Ministry of Health are protected.
1. สิทธิพน้ื ฐานทีจ่ ะได้รบั บริการด้านสุขภาพตามทีบ่ ญ
ั ญัตไิ ว้ในรัฐธรรมนูญ,
2. สิทธิทจ่ี ะได้รบั บริการโดยไม่มกี ารเลือกปฏิบตั ,ิ
3. สิทธิทจ่ี ะรับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอและเข้าใจชัดเจนเพือ่ ให้สามารถตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยนิ ยอม
ให้ผปู้ ระกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบตั ติ ่อตน,
4. สิทธิทจ่ี ะได้รบั การช่วยเหลือโดยทันทีเมือ่ อยูใ่ นภาวะเสีย่ งอันตรายถึงชีวติ ,
5. สิทธิทจ่ี ะทราบชือ่ สกุล และประเภท ของผูป้ ระกอบวิชาชีพด้านสุขภาพทีใ่ ห้บริการแก่ตน,
6. สิทธิทจ่ี ะขอความเห็นจากผูป้ ระกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอืน่ ทีม่ ไิ ด้เป็ นผูใ้ ห้บริการแก่ตน และสิทธิในการขอ
เปลีย่ นตัวผูใ้ ห้บริการหรือสถานบริการ,
7. สิทธิทจ่ี ะได้รบั การปกปิดข้อมูลเกีย่ วกับตนเองโดยเคร่งครัด,
8. สิทธิทจ่ี ะได้รบั ทราบข้อมูลอย่างครบถ้วนในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวจากการเป็ นผู้ถูกทดลองในการ
ทาวิจยั ,
9. สิทธิทจ่ี ะได้รบั ทราบข้อมูลเกีย่ วกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนทีป่ รากฎในเวชระเบียนเมื่อร้องขอ,
10. บิดา มารดา หรือผูแ้ ทนโดยชอบธรรม อาจใช้สทิ ธิแทนผูป้ ว่ ยทีเ่ ป็ นเด็กอายุยงั ไม่เกินสิบแปดปีบริบรู ณ์ ผู้
บกพร่องทางกายหรือจิต ซึง่ ไม่สามารถใช้สทิ ธิดว้ ยตนเองได้
84
I - 3.3 ข. กระบวนกำรคุม้ ครองสิทธิผูป้ ่ วย
1
2
3
4
5
6
(1) องค์กรสร้ำงหลักประกันว่ำผูป้ ฏิบตั ิงำนมีควำมตระหนักและทรำบบทบำทของตนในกำรคุม้ ครองสิทธิ
ผูป้ ่ วย และมีระบบพร้อมที่จะตอบสนองเมื่อผูป้ ่ วยขอใช้สทิ ธิ.
(2) ผูป้ ่ วยได้รบั ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิและหน้ำที่ในลักษณะที่เข้ำใจได้งำ่ ย.
(3) มีกำรคำนึ งถึงสิทธิผูป้ ่ วยในทุกกิจกรรมของกำรดูแลผูป้ ่ วย.
(4) ผูป้ ่ วยได้รบั กำรปกป้ องจำกกำรถูกทำร้ำยด้ำนร่ำงกำย จิตใจ และสังคม.
(5) ผูป้ ่ วยได้รบั กำรดูแลด้วยควำมเคำรพควำมเป็ นส่วนตัว ศักดิ์ศรีของควำมเป็ นมนุ ษย์ ค่ำนิ ยมและ
ควำมเชื่อส่วนบุคคล.
(6) องค์กรสร้ำงหลักประกันว่ำผูป้ ่ วยที่มีปญั หำและควำมรุนแรงเหมือนกันจะได้รบั กำรดูแลในลักษณะ
เดียวกัน.
85
HA2006
I - 3.3 ข. กระบวนกำรคุม้ ครองสิทธิผูป้ ่ วย
(1) องค์กรสร้ำงหลักประกันว่ำผูป้ ฏิบตั ิงำนมีควำมตระหนักและทรำบบทบำทของตนในกำรคุม้ ครองสิทธิ
ผูป้ ่ วย และมีระบบพร้อมที่จะตอบสนองเมื่อผูป้ ่ วยขอใช้สทิ ธิ.
(1) The organization ensures that staff members are aware of their role in
protecting patients’ rights. The care system provides prompt response to the
request of patients’ right.
86
HA2006
I - 3.3 ข. กระบวนกำรคุม้ ครองสิทธิผูป้ ่ วย
(2) ผูป้ ่ วยได้รบั ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิและหน้ำที่ในลักษณะที่เข้ำใจได้งำ่ ย.
(2) Patients are informed about their rights and responsibilities in a manner they
can understand.
87
HA2006
I - 3.3 ข. กระบวนกำรคุม้ ครองสิทธิผูป้ ่ วย
(3) มีกำรคำนึ งถึงสิทธิผูป้ ่ วยในทุกกิจกรรมของกำรดูแลผูป้ ่ วย.
(3) All patient care related activities support and protect patients’ rights.
88
HA2006
I - 3.3 ข. กระบวนกำรคุม้ ครองสิทธิผูป้ ่ วย
(4) ผูป้ ่ วยได้รบั กำรปกป้ องจำกกำรถูกทำร้ำยด้ำนร่ำงกำย จิตใจ และสังคม.
(4 Patients are protected from physical, psychological, and social assault.
89
HA2006
I - 3.3 ข. กระบวนกำรคุม้ ครองสิทธิผูป้ ่ วย
(5) ผูป้ ่ วยได้รบั กำรดูแลด้วยควำมเคำรพควำมเป็ นส่วนตัว ศักดิ์ศรีของควำมเป็ นมนุ ษย์ ค่ำนิ ยมและ
ควำมเชื่อส่วนบุคคล.
(5) The patients’ privacy, human dignity, personal values and belief are respected.
90
HA2006
I - 3.3 ข. กระบวนกำรคุม้ ครองสิทธิผูป้ ่ วย
(6) องค์กรสร้ำงหลักประกันว่ำผูป้ ่ วยที่มีปญั หำและควำมรุนแรงเหมือนกันจะได้รบั กำรดูแลในลักษณะ
เดียวกัน.
(6) The organization ensures that patients with similar problems and severity will
receive similar care.
91
I - 3.3 ค. กำรดูแลผูป้ ่ วยที่มีควำมต้องกำรเฉพำะ
1
2
3
(1) ผูป้ ่ วยระยะสุดท้ำยได้รบั กำรดูแลด้วยควำมเคำรพในสิทธิและศักดิ์ศรีของควำมเป็ นมนุ ษย์ . กำร
ตัดสินใจเกี่ยวกับกำรให้ กำรคงไว้ หรือกำรยุตกิ ำรรักษำเพือ่ ยืดชีวติ เป็ นไปอย่ำงสอดคล้องกับ
ข้อบังคับหรือกฎหมำย ควำมเชื่อและวัฒนธรรม ด้วยกำรมีสว่ นร่วมของผูป้ ่ วยและครอบครัว.
(2) ผูร้ บั บริกำรที่เป็ นเด็ก ผูพ้ กิ ำร ผูส้ ูงอำยุ ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ได้รบั กำรคุม้ ครองสิทธิอย่ำง
เหมำะสม.
(3) มีกำรปฏิบตั ิต่อผูป้ ่ วยที่จำเป็ นต้องแยก หรือผูกยึด อย่ำงเหมำะสม.
92
HA2006
I - 3.3 ค. กำรดูแลผูป้ ่ วยที่มีควำมต้องกำรเฉพำะ
(1) ผูป้ ่ วยระยะสุดท้ำยได้รบั กำรดูแลด้วยควำมเคำรพในสิทธิและศักดิ์ศรีของควำมเป็ นมนุ ษย์ . กำร
ตัดสินใจเกี่ยวกับกำรให้ กำรคงไว้ หรือกำรยุตกิ ำรรักษำเพือ่ ยืดชีวติ เป็ นไปอย่ำงสอดคล้องกับ
ข้อบังคับหรือกฎหมำย ควำมเชื่อและวัฒนธรรม ด้วยกำรมีสว่ นร่วมของผูป้ ่ วยและครอบครัว.
(1) The terminally ill patients receive care with respect to patient’s right and
human dignity. The decisions about providing, foregoing, or withdrawing lifesustaining treatment meet legal requirements, belief and culture, and are
shared with patients and families.
93
HA2006
I - 3.3 ค. กำรดูแลผูป้ ่ วยที่มีควำมต้องกำรเฉพำะ
(2) ผูร้ บั บริกำรที่เป็ นเด็ก ผูพ้ กิ ำร ผูส้ ูงอำยุ ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ได้รบั กำรคุม้ ครองสิทธิอย่ำง
เหมำะสม.
(2) Vulnerable children, disabled individuals, the elderly, receive appropriate
protection.
94
HA2006
I - 3.3 ค. กำรดูแลผูป้ ่ วยที่มีควำมต้องกำรเฉพำะ
(3) มีกำรปฏิบตั ิต่อผูป้ ่ วยที่จำเป็ นต้องแยก หรือผูกยึด อย่ำงเหมำะสม.
(3) The patient who need seclusion or restraints is treated properly.
95
I - 4.1 ก. กำรวัดผลงำน
1
2
3
(1) องค์กรเลือก รวบรวม และเชื่อมโยงข้อมูล/สำรสนเทศ/ตัวชี้วดั สำคัญที่สอดคล้องไปในทิศทำง
เดียวกัน เพือ่ ใช้ตดิ ตำมผลกำรปฏิบตั งิ ำนประจำวัน, ติดตำมผลงำนโดยรวมขององค์กร, ติดตำม
ควำมก้ำวหน้ำตำมแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบตั ิกำร, สนับสนุ นกำรตัดสินใจและกำรสร้ำงนวตกรรม
ขององค์กร.
(2) องค์กรเลือกข้อมูลและสำรสนเทศเชิงเปรียบเทียบ ที่สำคัญ และทำให้มนั ่ ใจว่ำมีกำรนำไปใช้
สนับสนุ นกำรตัดสินใจอย่ำงมีประสิทธิผล.
(3) องค์กรปรับปรุงระบบกำรวัดผลงำนให้ทนั กับควำมต้องกำรของผูเ้ กี่ยวข้องและทิศทำงของบริกำร
สุขภำพ, ไวต่อกำรเปลี่ยนแปลงภำยในหรือภำยนอกที่อำจเกิดขึ้นอย่ำงรวดเร็วหรือไม่คำดคิด.
96
I - 4.1 ก. กำรวัดผลงำน
HA2006
(1) องค์กรเลือก รวบรวม และเชื่อมโยงข้อมูล/สำรสนเทศ/ตัวชี้วดั สำคัญที่สอดคล้องไปในทิศทำง
เดียวกัน เพือ่ ใช้ตดิ ตำมผลกำรปฏิบตั งิ ำนประจำวัน, ติดตำมผลงำนโดยรวมขององค์กร, ติดตำม
ควำมก้ำวหน้ำตำมแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบตั ิกำร, สนับสนุ นกำรตัดสินใจและกำรสร้ำงนวตกรรม
ขององค์กร.
(1) The organization selects, collects, aligns and integrates data / information / KPI
for tracking daily operations, tracking overall organizational performance,
tracking progress relative to strategic and action plans, and supporting
organizational decision-making and innovation.
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรเลือก รวบรวม ทำให้สอดคล้องไปในแนวทำงเดียวกัน และบูรณำกำร
ข้อมูลและสำรสนเทศเพือ่ ใช้ติดตำมผลกำรปฏิบตั งิ ำนประจำวัน, ติดตำมผลงำนโดยรวมขององค์กร
, รวมทัง้ ควำมก้ำวหน้ำเทียบกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และแผนปฏิบตั ิกำร? ตัววัดผลกำร
ดำเนิ นกำรที่สำคัญขององค์กรมีอะไรบ้ำง? องค์กรใช้ขอ้ มูลและสำรสนเทศเหล่ำนี้ เพือ่ สนับสนุ น
กำรตัดสินใจในระดับองค์กรและสร้ำงนวตกรรมในฐำนะผูใ้ ห้บริกำรสุขภำพอย่ำงไร?
97
I - 4.1 ก. กำรวัดผลงำน
HA2006
(2) องค์กรเลือกข้อมูลและสำรสนเทศเชิงเปรียบเทียบที่สำคัญ และทำให้มนั ่ ใจว่ำมีกำรนำไปใช้สนับสนุ น
กำรตัดสินใจอย่ำงมีประสิทธิผล.
(2) The organization selects and ensures the effective use of key comparative data
and information to support decision-making.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรเลือกข้อมูลและสำรสนเทศเชิงเปรียบเทียบที่สำคัญ และทำให้มนั ่ ใจว่ำ
มีกำรนำไปใช้สนับสนุ นกำรติดสินใจอย่ำงมีประสิทธิผล ทัง้ ในระดับปฏิบตั กิ ำรและระดับกลยุทธ์
รวมทัง้ กำรนำไปใช้สนับสนุ นกำรสร้ำงนวตกรรม?
98
I - 4.1 ก. กำรวัดผลงำน
HA2006
(3) องค์กรปรับปรุงระบบกำรวัดผลงำนให้ทนั กับควำมต้องกำรของผูเ้ กี่ยวข้องและทิศทำงของบริกำร
สุขภำพ, ไวต่อกำรเปลี่ยนแปลงภำยในหรือภำยนอกที่อำจเกิดขึ้นอย่ำงรวดเร็วหรือไม่คำดคิด.
(3) The organization keeps its performance measurement system current with
health care service needs and directions. The organization ensures that its
performance measurement system is sensitive to rapid or unexpected
organizational or external changes.
MBNQA 2005
(3) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้ระบบกำรวัดผลกำรดำเนิ นกำรทันกับควำมต้องกำรและทิศทำง
ของบริกำรสุขภำพอยู่เสมอ? องค์กรทำให้มนั ่ ใจได้อย่ำงไรว่ำระบบกำรวัดผลกำรดำเนิ นกำรไวต่อ
กำรเปลี่ยนแปลงภำยในองค์กรหรือภำยนอกที่อำจเกิดขึ้นอย่ำงรวดเร็วหรือไม่คำดคิด?
99
I - 4.1 ข. กำรวิเครำะห์และทบทวนประเมินผลงำน
1
2
(1) ผูน้ ำระดับสูงทบทวนประเมินผลงำนและควำมสำมำรถขององค์กร. มีกำรวิเครำะห์ เพือ่ สนับสนุ น
กำรทบทวนประเมินผลและสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำได้ขอ้ สรุปที่น่ำเชื่อถือ. องค์กรใช้กำรทบทวนนี้ เพือ่
ประเมินควำมสำเร็จ, ควำมก้ำวหน้ำตำมแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบตั ิกำร, และควำมสำมำรถในกำร
ตอบสนองกำรเปลี่ยนแปลงขององค์กรและสิง่ แวดล้อมภำยนอก.
(2) องค์กรนำสิง่ ที่ได้จำกกำรทบทวนประเมินผลงำนขององค์กรมำจัดลำดับควำมสำคัญเพือ่ กำรปรับปรุง
และหำโอกำสสร้ำงนวตกรรม, พร้อมทัง้ ถ่ำยทอดสูก่ ำรปฏิบตั ทิ วั ่ ทัง้ องค์กร.
100
I - 4.1 ข. กำรวิเครำะห์และทบทวนประเมินผลงำน
HA2006
(1) ผูน้ ำระดับสูงทบทวนประเมินผลงำนและควำมสำมำรถขององค์กร. มีกำรวิเครำะห์เพือ่ สนับสนุ นกำร
ทบทวนประเมินผลและสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำได้ขอ้ สรุปที่น่ำเชื่อถือ. องค์กรใช้กำรทบทวนนี้ เพือ่
ประเมินควำมสำเร็จ, ควำมก้ำวหน้ำตำมแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบตั ิกำร, และควำมสำมำรถในกำร
ตอบสนองกำรเปลี่ยนแปลงขององค์กรและสิง่ แวดล้อมภำยนอก.
(1) Senior leaders review organizational performance and capabilities. The
organization performs analyses to support these reviews and to ensure that
conclusions are valid. The organization uses these reviews to assess
organizational success, progress relative to strategic and action plans, ability to
respond to organization and external environment change.
MBNQA 2005
(1) องค์กรทบทวนประเมินผลกำรดำเนิ นกำรและควำมสำมำรถขององค์กรอย่ำงไร? ผูน้ ำระดับสูงมีสว่ นร่วมใน
กำรทบทวนเหล่ำนี้ อย่ำงไร? องค์กรทำกำรวิเครำะห์ในเรื่องอะไรบ้ำงเพือ่ นำมำใช้สนับสนุ นกำรทบทวน และ
เพือ่ ให้มนั ่ ใจว่ำข้อสรุปนั้นมีเหตุมีผลน่ ำเชื่อถือ? องค์กรใช้ผลกำรทบทวนนี้ อย่ำงไรในกำรประเมิน
ควำมสำเร็จขององค์กร, ผลกำรดำเนิ นกำรในเชิงแข่งขัน, และควำมก้ำวหน้ำเทียบกับวัตถุประสงค์เชิงกล
ยุทธ์และแผนปฏิบตั ิกำร? องค์กรใช้ผลกำรทบทวนนี้ อย่ำงไรในกำรประเมินควำมสำมำรถขององค์กรใน
กำรตอบสนองอย่ำงรวดเร็วต่อควำมต้องกำรและควำมท้ำทำยที่เปลี่ยนแปลงไปในสภำพแวดล้อมที่
ดำเนิ นกำรอยู่?
101
I - 4.1 ข. กำรวิเครำะห์และทบทวนประเมินผลงำน
HA2006
(2) องค์กรนำสิง่ ที่ได้จำกกำรทบทวนประเมินผลงำนขององค์กรมำจัดลำดับควำมสำคัญเพือ่ กำรปรับปรุง
และหำโอกำสสร้ำงนวตกรรม, พร้อมทัง้ ถ่ำยทอดสูก่ ำรปฏิบตั ทิ วั ่ ทัง้ องค์กร.
(2) The organization translates organizational performance review findings into
priorities for improvement and into opportunities for innovation, of which are
deployed throughout the organization.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรแปลงผลกำรทบทวนผลกำรดำเนิ นกำร มำจัดลำดับควำมสำคัญเพือ่
กำรปรับปรุง (ทัง้ อย่ำงต่อเนื่ องและอย่ำงก้ำวกระโดด) และหำโอกำสในกำรสร้ำงนวตกรรม?
องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรถ่ำยทอดประเด็นสำคัญและโอกำสเหล่ำนี้ ไปสูก่ ำรปฏิบตั ิในกลุม่ งำน
และระดับปฏิบตั กิ ำรทัว่ ทัง้ องค์กร เพือ่ ให้บคุ คลเหล่ำนั้นตัดสินใจได้อย่ำงมีประสิทธิผล? องค์กรมี
วิธกี ำรอย่ำงไรในกำรถ่ำยทอดประเด็นสำคัญดังกล่ำวไปสูก่ ำรปฏิบตั ิในกลุม่ ผูส้ ง่ มอบและคู่พนั ธมิตร
เพือ่ ให้มนั ่ ใจว่ำมีควำมสอดคล้องไปในทิศทำงเดียวกันกับองค์กร?
102
I - 4.2 ก. ควำมพร้อมใช้งำนของข้อมูลและสำรสนเทศ
1
2
3
4
(1) ข้อมูลและสำรสนเทศที่จำเป็ นสำหรับบุคลำกร/ผูบ้ ริหำร/ผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงำน/องค์กรภำยนอก มีควำม
พร้อมใช้งำน เอื้อต่อกำรดูแลผูป้ ่ วย กำรบริหำรจัดกำร กำรตรวจสอบทำงคลินิก กำรพัฒนำคุณภำพ
กำรศึกษำ และกำรวิจยั . แผนงำนและกำรจัดกำรสำรสนเทศ มีควำมเหมำะสมกับขนำดและควำม
ซับซ้อนขององค์กร.
(2) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำฮำร์ดแวร์และซอฟท์แวร์มีควำมเชื่อถือได้ ป้ องกันไม่ให้ขอ้ มูลรัว่ ไหล และ
ใช้งำนง่ำย
(3) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำข้อมูลและสำรสนเทศ รวมทัง้ ระบบฮำร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ มีควำมพร้อม
ใช้งำนอย่ำงต่อเนื่ องในภำวะฉุกเฉิ น.
(4) องค์กรปรับปรุงกลไกกำรจัดให้มีขอ้ มูลและสำรสนเทศ รวมทัง้ ระบบฮำร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ท่พี ร้อม
ใช้ ให้ทนั กับควำมต้องกำรของผูเ้ กี่ยวข้อง ทิศทำงของบริกำรสุขภำพ และกำรเปลี่ยนแปลง
เทคโนโลยี.
103
I - 4.2 ก. ควำมพร้อมใช้งำนของข้อมูลและสำรสนเทศ
HA2006
(1) ข้อมูลและสำรสนเทศที่จำเป็ นสำหรับบุคลำกร/ผูบ้ ริหำร/ผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงำน/องค์กรภำยนอก มีควำม
พร้อมใช้งำน เอื้อต่อกำรดูแลผูป้ ่ วย กำรบริหำรจัดกำร กำรตรวจสอบทำงคลินิก กำรพัฒนำคุณภำพ
กำรศึกษำ และกำรวิจยั . แผนงำนและกำรจัดกำรสำรสนเทศ มีควำมเหมำะสมกับขนำดและควำม
ซับซ้อนขององค์กร.
(1) Needed data and information are available to staff, management,
patients/customers, and external agencies to facilitate patient care, organization
management, clinical audit and performance improvement, education and
research. Information plan and management are appropriate to the
organization’s size and complexity.
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้ขอ้ มูลและสำรสนเทศที่จำเป็ นมีควำมพร้อมใช้งำน? องค์กรทำ
ให้บคุ ลำกร ผูส้ ง่ มอบ คู่พนั ธมิตร ผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ สำมำรถเข้ำถึงข้อมูลและสำรสนเทศ
ดังกล่ำวได้อย่ำงไร?
104
I - 4.2 ก. ควำมพร้อมใช้งำนของข้อมูลและสำรสนเทศ
HA2006
(2) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำฮำร์ดแวร์และซอฟท์แวร์มีควำมเชื่อถือได้ ป้ องกันไม่ให้ขอ้ มูลรัว่ ไหล และ
ใช้งำนง่ำย
(2) The organization ensures that hardware and software are reliable, secure, and
user friendly.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้มนั ่ ใจว่ำฮำร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ มีควำมเชื่อถือได้ ป้ องกันไม่ให้
ข้อมูลรัว่ ไหล และใช้งำนง่ำย?
105
I - 4.2 ก. ควำมพร้อมใช้งำนของข้อมูลและสำรสนเทศ
HA2006
(3) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำข้อมูลและสำรสนเทศ รวมทัง้ ระบบฮำร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ มีควำมพร้อม
ใช้งำนอย่ำงต่อเนื่ องในภำวะฉุกเฉิ น.
(3) The organization ensures the continued availability of data and information,
including the availability of hardware and software systems, in the event of an
emergency.
MBNQA 2005
(3) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้มนั ่ ใจว่ำข้อมูลและสำรสนเทศ รวมทัง้ ระบบฮำร์ดแวร์และ
ซอฟท์แวร์ มีควำมพร้อมใช้งำนอย่ำงต่อเนื่ องในภำวะฉุกเฉิ น?
106
I - 4.2 ก. ควำมพร้อมใช้งำนของข้อมูลและสำรสนเทศ
HA2006
(4) องค์กรปรับปรุงกลไกกำรจัดให้มีขอ้ มูลและสำรสนเทศ รวมทัง้ ระบบฮำร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ท่พี ร้อม
ใช้ ให้ทนั กับควำมต้องกำรของผูเ้ กี่ยวข้อง ทิศทำงของบริกำรสุขภำพ และกำรเปลี่ยนแปลง
เทคโนโลยี.
(4) The organization keeps its data and information availability mechanisms,
including its software and hardware systems, current with health care service
needs and directions and with technological changes.
MBNQA 2005
(4) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้กลไกกำรจัดให้มีขอ้ มูลและสำรสนเทศ รวมทัง้ ระบบฮำร์ดแวร์
และซอฟท์แวร์ ทันกับควำมต้องกำรและทิศทำงของบริกำรสุขภำพ และทันกับกำรเปลี่ยนแปลงของ
เทคโนโลยี ในสภำพแวดล้อมที่องค์กรดำเนิ นกำรอยู่?
107
I - 4.2 ข. กำรจัดกำรควำมรูข้ ององค์กร
HA2006
(1) มีกำรจัดกำรควำมรูข้ ององค์กรเพือ่ ให้เกิดสิง่ ต่อไปนี้ : กำรรวบรวมและถ่ำยทอดควำมรูข้ องบุคลำกร,
กำรถ่ำยทอดและแลกเปลี่ยนควำมรูท้ ่เี ป็ นประโยชน์จำกผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงำน และองค์กรภำยนอก,
กำรแลกเปลี่ยนวิธกี ำรปฏิบตั ิท่ดี ี/เป็ นเลิศ และนำไปสูก่ ำรปฏิบตั ิ, และกำรนำหลักฐำนทำง
วิทยำศำสตร์เกี่ยวกับประสิทธิผลของวิธีกำรดูแลรักษำมำประยุกต์ใช้
(1) Organizational knowledge is managed to accomplish: the collection and
transfer of staff knowledge, the transfer and sharing of relevant knowledge
with patients/customers and external agencies, the sharing and implementation
of good/best practices, and the adoption of scientific evidences on
effectiveness of healthcare intervention.
MBNQA 2005
องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรจัดกำรควำมรูข้ ององค์กร เพือ่ ให้เกิดสิง่ ต่อไปนี้ :
- กำรรวบรวมและถ่ำยทอดควำมรูข้ องบุคลำกร
- กำรถ่ำยทอดควำมรูท้ ่จี ำเป็ นสำหรับองค์กร ระหว่ำงองค์กรกับผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ ผูส้ ง่ มอบ และคู่
พันธมิตร
- กำรค้นหำและระบุ กำรแบ่งปัน และกำรนำวิธกี ำรปฏิบตั ิท่เี ป็ นเลิศไปสูก่ ำรปฏิบตั ิอย่ำงรวดเร็ว
108
I - 4.2 ค. คุณภำพของข้อมูล สำรสนเทศ และควำมรู ้
1
2
(1) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำข้อมูล สำรสนเทศ และควำมรูข้ ององค์กร มีควำมถูกต้อง น่ ำเชื่อถือ ทัน
กำรณ์ ปลอดภัย
(2) องค์สร้ำงควำมมัน่ ใจในกำรรักษำควำมลับของข้อมูลและสำรสนเทศ.
109
I - 4.2 ค. คุณภำพของข้อมูล สำรสนเทศ และควำมรู ้
HA2006
(1) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำข้อมูล สำรสนเทศ และควำมรูข้ ององค์กร มีควำมถูกต้อง น่ ำเชื่อถือ ทัน
กำรณ์ ปลอดภัย
(1) The organization ensures the following properties of its data, information, and
organizational knowledge: accuracy, reliability, timeliness, security
MBNQA 2005
องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้มนั ่ ใจว่ำข้อมูล สำรสนเทศ และองค์ควำมรูข้ ององค์กรมี:
- ควำมแม่นยำ (accuracy)
- ควำมถูกต้องและเชื่อถือได้ (integrity & reliability)
- ควำมทันเหตุกำรณ์ (timeliness)
- กำรรักษำควำมปลอดภัยและควำมลัย (security & confidentiality)
110
I - 4.2 ค. คุณภำพของข้อมูล สำรสนเทศ และควำมรู ้
HA2006
(2) องค์สร้ำงควำมมัน่ ใจในกำรรักษำควำมลับของข้อมูลและสำรสนเทศ.
(2) The organizational ensures confidentiality of data and information.
MBNQA 2005
(
111
I - 5.1 ก. กำรวำงรูปแบบและจัดกำรระบบงำน
1
2
3
(1) องค์กรวำงรูปแบบและจัดกำร ระบบงำน / หน้ำที่รบั ผิดชอบ / ทักษะ เพือ่ ส่งเสริมควำมร่วมมือ
ควำมคิดริเริ่ม กำรให้อำนำจตัดสินใจ กำรสร้ำงนวตกรรม และวัฒนธรรมองค์กร.
(2) มีกำรนำข้อคิดเห็น วัฒนธรรม และควำมคิดอ่ำนที่หลำกหลำยของบุคลำกรและชุมชนที่ทำงำนด้วย
มำใช้ประโยชน์ในระบบงำน
(3) มีกำรสือ่ สำร กำรแลกเปลี่ยนควำมรู ้ / ทักษะ ระหว่ำงผูป้ ระกอบวิชำชีพต่ำงสำขำ ระหว่ำงผูท้ ่อี ยู่ต่ำง
แผนก ต่ำงหน่ วยงำน ต่ำงภำระงำน และต่ำงสถำนที่อย่ำงมีประสิทธิผล.
112
I - 5.1 ก. กำรวำงรูปแบบและจัดกำรระบบงำน
HA2006
(1) องค์กรวำงรูปแบบและจัดกำร ระบบงำน / หน้ำที่รบั ผิดชอบ / ทักษะ เพือ่ ส่งเสริมควำมร่วมมือ
ควำมคิดริเริ่ม กำรให้อำนำจตัดสินใจ กำรสร้ำงนวตกรรม และวัฒนธรรมองค์กร.
(1) The organization organizes and manages work and jobs, including skills, to
promote cooperation, initiative, empowerment, innovation, and its
organizational culture
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรวำงรูปแบบและจัดกำร ระบบงำน หน้ำที่รบั ผิดชอบ รวมทัง้ ทักษะ เพือ่
ส่งเสริมควำมร่วมมือ ควำมคิดริเริ่ม กำรให้อำนำจตัดสินใจ กำรสร้ำงนวตกรรม และวัฒนธรรม
องค์กร? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรวำงรูปแบบและจัดกำร ระบบงำน หน้ำที่รบั ผิดชอบ รวมทัง้
ทักษะ ให้มีควำมคล่องตัวเพือ่ ให้ทนั กับควำมต้องกำรบริกำรสุขภำพอยู่เสมอ และเพือ่ บรรลุ
แผนปฏิบตั ิกำรขององค์กร?
113
I - 5.1 ก. กำรวำงรูปแบบและจัดกำรระบบงำน
HA2006
(2) มีกำรนำข้อคิดเห็น วัฒนธรรม และควำมคิดอ่ำนที่หลำกหลำยของบุคลำกรและชุมชนที่ทำงำนด้วย
มำใช้ประโยชน์ในระบบงำน
(2) The work systems capitalize on the diverse ideas, culture, and thinking of staff
and the communities interacted.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรนำข้อคิดเห็น วัฒนธรรม และควำมคิดอ่ำนที่หลำกหลำยของบุคลำกร
และชุมชนที่องค์กรทำงำนด้วย มำใช้ประโยชน์ในระบบงำน?
114
I - 5.1 ก. กำรวำงรูปแบบและจัดกำรระบบงำน
HA2006
(3) มีกำรสือ่ สำร กำรแลกเปลี่ยนควำมรู ้ / ทักษะ ระหว่ำงผูป้ ระกอบวิชำชีพต่ำงสำขำ ระหว่ำงผูท้ ่อี ยู่ต่ำง
แผนก ต่ำงหน่ วยงำน ต่ำงภำระงำน และต่ำงสถำนที่อย่ำงมีประสิทธิผล.
(3) There are effective communication and knowledge/skill sharing across health
care professions, departments and work units, jobs and location.
MBNQA 2005
(3) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้กำรสือ่ สำร กำรแบ่งปันทักษะระหว่ำงผูป้ ระกอบวิชำชีพต่ำงสำขำ
ระหว่ำงผูท้ ่อี ยู่ต่ำงแผนก ต่ำงหน่ วยงำน และต่ำงสถำนที่ เป็ นไปอย่ำงมีประสิทธิผล?
115
I - 5.1 ข. ระบบประเมินและพัฒนำผลงำนของบุคลำกร
HA2006
(1) ระบบประเมินและพัฒนำผลงำนบุคลำกร กำรสือ่ สำรผลกำรประเมิน กำรบริหำรค่ำตอบแทน กำรยก
ย่องชมเชย กำรให้รำงวัล/แรงจูงใจ ส่งเสริมให้บคุ คลำกรสร้ำงผลงำนที่ดีและมุ่งเน้นผูป้ ่ วย/ผูร้ บั
ผลงำน.
(1) The staff performance management system, including feedback to staff,
compensation, recognition, and related reward/incentive practices supports
high-performance work and patient/customer focus.
MBNQA 2005
ระบบกำรจัดกำรผลกำรปฏิบตั ิงำนของบุคลำกร (staff performance management system) ใน
องค์กร รวมทัง้ กำรให้ขอ้ มูลป้ อนกลับแก่บคุ ลำกร สนับสนุ นกำรทำงำนที่ให้ผลกำรดำเนิ นกำรที่ดี
(high-performance work) และส่งผลต่อกำรบรรลุแผนปฏิบตั ิกำรขององค์กร อย่ำงไร?
ระบบกำรจัดกำรผลกำรปฏิบตั ิงำนของบุคลำกรในองค์กรสนับสนุ นกำรมุ่งเน้นผูป้ ่ วย ลูกค้ำอืน่ ๆ
และบริกำรสุขภำพอย่ำงไร? กำรบริหำรค่ำตอบแทน กำรยกย่องชมเชย กำรให้รำงวัลและสิง่ จูงใจ
เสริมสร้ำงกำรทำงำนที่ให้ผลกำรดำเนิ นกำรที่ดี และมุ่งเน้นผูป้ ่ วย ลุกค้ำอืน่ ๆ และบริกำรสุขภำพ
อย่ำงไร?
116
I - 5.1 ค. กำรจ้ำงงำนและควำมก้ำวหน้ำในสำยงำน
1
2
3
4
(1) องค์กรกำหนดระดับกำรศึกษำ ทักษะ ควำมรู ้ และควำมต้องกำรอืน่ ๆ สำหรับบุคลำกรทุกตำแหน่ ง.
มีกำรกำหนดหน้ำที่รบั ผิดชอบของแต่ละตำแหน่ ง และมอบหมำยหน้ำที่รบั ผิดชอบตำมควำมรู ้
ควำมสำมำรถของ บุคลำกรและข้อกำหนดในกฎหมำย .
(2) มีกระบวนกำรที่มีประสิทธิผลในกำรสรรหำ ว่ำจ้ำง และธำรงรักษำบุคลำกร. มีกำรรวบรวม
ตรวจสอบ และประเมินคุณสมบัติของบุคลำกรในด้ำนใบประกอบวิชำชีพ กำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม
และประสบกำรณ์ .
(3) องค์กรมีแผนสร้ำงผูน้ ำและผูบ้ ริหำรเพือ่ สืบทอดกำรดำเนิ นงำนอย่ำงได้ผล รวมทัง้ กำรจัดกำรเรื่อง
ควำมก้ำวหน้ำในสำยงำนของบุคลำกรทุกคนทัว่ ทัง้ องค์กร.
(4) มีกำรประเมินและปรับปรุงกระบวนกำรเกี่ยวกับทรัพยำกรบุคคลอย่ำงสมำ่ เสมอเพือ่ บรรลุผลที่
ต้องกำร.
117
I - 5.1 ค. กำรจ้ำงงำนและควำมก้ำวหน้ำในสำยงำน
HA2006
(1) องค์กรกำหนดระดับกำรศึกษำ ทักษะ ควำมรู ้ และควำมต้องกำรอืน่ ๆ สำหรับบุคลำกรทุกตำแหน่ ง.
มีกำรกำหนดหน้ำที่รบั ผิดชอบของแต่ละตำแหน่ ง และมอบหมำยหน้ำที่รบั ผิดชอบตำมควำมรู ้
ควำมสำมำรถของ บุคลำกรและข้อกำหนดในกฎหมำย .
(1) The organization defines the desired education, skills, knowledge, and other
requirements of all staff members. Job responsibilities are identified and work
assignments are based on staff members’ credentials and any regulatory
requirements.
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรกำหนดคุณลักษณะและทักษะที่จำเป็ นของบุคลำกรที่องค์กรต้องกำร?
118
I - 5.1 ค. กำรจ้ำงงำนและควำมก้ำวหน้ำในสำยงำน
HA2006
(2) มีกระบวนกำรที่มีประสิทธิผลในกำรสรรหำ ว่ำจ้ำง และธำรงรักษำบุคลำกร. มีกำรรวบรวม
ตรวจสอบ และประเมินคุณสมบัติของบุคลำกรในด้ำนใบประกอบวิชำชีพ กำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม
และประสบกำรณ์ .
(2) New staff are effectively recruited, appointed and retained. There is an
effective process to gather, verify, and evaluate professional staff members’
credentials: license, education, training, and experience.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรสรรหำ ว่ำจ้ำง และรักษำบุคลำกรใหม่ไว้? องค์กรทำให้มนั ่ ใจได้
อย่ำงไรว่ำบุคลำกรขององค์กรเป็ นตัวแทนที่สะท้อนข้อคิดเห็น วัฒธรรม และควำมคิดอ่ำนของ
ชุมชนบุคลำกรที่องค์กรจ้ำง?
119
I - 5.1 ค. กำรจ้ำงงำนและควำมก้ำวหน้ำในสำยงำน
HA2006
(3) องค์กรมีแผนสร้ำงผูน้ ำและผูบ้ ริหำรเพือ่ สืบทอดกำรดำเนิ นงำนอย่ำงได้ผล รวมทัง้ กำรจัดกำรเรื่อง
ควำมก้ำวหน้ำในสำยงำนของบุคลำกรทุกคนทัว่ ทัง้ องค์กร.
(3) The organization accomplishes effective succession planning for leadership
and management positions, manages effective career progression for all staff
throughout the organization.
MBNQA 2005
(3) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้กำรวำงแผนกำรสืบทอดตำแหน่ งผูน้ ำและผูบ้ ริหำรเป็ นไปอย่ำงมี
ประสิทธิผล? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรจัดกำรให้บคุ ลำกรทัง้ องค์กรมีควำมก้ำวหน้ำในสำยงำน
อย่ำงมีประสิทธิผล?
120
HA2006
I - 5.1 ค. กำรจ้ำงงำนและควำมก้ำวหน้ำในสำยงำน
(4) มีกำรประเมินและปรับปรุงกระบวนกำรเกี่ยวกับทรัพยำกรบุคคลอย่ำงสมำ่ เสมอเพือ่ บรรลุผลที่
ต้องกำร.
(4) Human resource processes are regularly evaluated and improved to achieve the
desired results.
121
I - 5.2 ก. กำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม และกำรพัฒนำบุคลำกร
1
2
3
4
5
6
(1) กำรให้กำรศึกษำและกำรฝึ กอบรมบุคลำกรช่วยให้องค์กรบรรลุควำมสำเร็จตำมพันธกิจและ
แผนปฏิบตั ิกำร, ตอบสนองวัตถุประสงค์ขององค์กรและควำมต้องกำรของบุคลำกรอย่ำงสมดุล.
(2) กำรศึกษำ ฝึ กอบรม และพัฒนำบุคลำกรครอบคลุมควำมต้องกำรสำคัญขององค์กรในด้ำนกำร
ปฐมนิ เทศ ควำมหลำกหลำยของบุคลำกร จริยธรรม คุณภำพ ควำมปลอดภัย กำรสร้ำงเสริมสุขภำพ
กำรพัฒนำผูบ้ ริหำรและภำวะผูน้ ำ.
(3) มีกำรกำหนดเนื้ อหำกำรฝึ กอบรมที่จำเป็ น โดยใช้ขอ้ มูลจำกบุคลำกรและหัวหน้ำงำน. นำกำรเรียนรู ้
และสินทรัพย์ควำมรู ้ ขององค์กรมำใช้ในกำรศึกษำและฝึ กอบรม.
(4) องค์กรให้กำรศึกษำและฝึ กอบรม ที่มีประสิทธิผลทัง้ ในรูปแบบที่เป็ นทำงกำรและไม่เป็ นทำงกำร
โดยนำข้อคิดเห็นจำกบุคลำกรและหัวหน้ำงำนมำพิจำรณำ.
(5) องค์กรส่งเสริมให้มีกำรใช้ควำมรูแ้ ละทักษะใหม่ๆ ในกำรปฏิบตั ิงำน และเก็บรักษำ/(บันทึก) ควำมรู ้
นี้ เพือ่ ให้องค์กรใช้ในระยะยำว.
(6) องค์กรประเมินผลกำรศึกษำและฝึ กอบรมโดยพิจำรณำจำกผลกำรปฏิบตั ิงำนของแต่ละบุคคล และ
ผลงำนขององค์กรโดยรวม.
122
I - 5.2 ก. กำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม และกำรพัฒนำบุคลำกร
HA2006
(1) กำรให้กำรศึกษำและกำรฝึ กอบรมบุคลำกรช่วยให้องค์กรบรรลุควำมสำเร็จตำมพันธกิจและ
แผนปฏิบตั ิกำร, ตอบสนองวัตถุประสงค์ขององค์กรและควำมต้องกำรของบุคลำกรอย่ำงสมดุล.
(1) The staff education and training contribute to the achievement of the mission
and action plans, balance the organizational objectives with staff needs.
MBNQA 2005
(1) กำรศึกษำและฝึ กอบรมขององค์กรส่งผลให้แผนปฏิบตั ิกำรบรรลุผลอย่ำงไร? องค์กรมีวธิ กี ำร
อย่ำงไรเพือ่ ให้กำรศึกษำ ฝึ กอบรม และพัฒนำบุคลำกร ตอบสนองต่อควำมต้องกำรสำคัญของ
องค์กรในด้ำนกำรวัดผลกำรดำเนิ นกำร กำรปรับปรุงผลกำรดำเนิ นกำร และกำรเปลี่ยนแปลงทำง
เทคโนโลยี? แนวทำงกำรให้กำรศึกษำและฝึ กอบรมทำให้เกิดสมดุลระหว่ำงวัตถุประสงค์ของ
องค์กร (ทัง้ ระยะสัน้ และระยะยำว) กับควำมต้องกำรของบุคลำกรในกำรพัฒนำ กำรเรียนรูต้ ่อเนื่ อง
และควำมก้ำวหน้ำในสำยงำน อย่ำงไร?
123
I - 5.2 ก. กำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม และกำรพัฒนำบุคลำกร
HA2006
(2) กำรศึกษำ ฝึ กอบรม และพัฒนำบุคลำกรครอบคลุมควำมต้องกำรสำคัญขององค์กรในด้ำนกำร
ปฐมนิ เทศ ควำมหลำกหลำยของบุคลำกร จริยธรรม คุณภำพ ควำมปลอดภัย กำรสร้ำงเสริมสุขภำพ
กำรพัฒนำผูบ้ ริหำรและภำวะผูน้ ำ.
(2) The staff education, training, and development address key organizational
needs associated with new staff orientation, diversity, ethical health care and
business practices, quality and safety, health promotion, management and
leadership development.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้กำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม และกำรพัฒนำบุคลำกร ตอบสนองต่อ
ควำมต้องกำรสำคัญขององค์กรเกี่ยวกับกำรปฐมนิ เทศบุคลำกร, ควำมหลำกหลำย, กำรปฏิบตั ิงำน
อย่ำงมีจริยธรรม, กำรพัฒนำผูบ้ ริหำรและผูน้ ำ? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้กำรศึกษำ กำร
ฝึ กอบรม และกำรพัฒนำบุคลำกร ตอบสนองต่อควำมต้องกำรสำคัญขององค์กรเกี่ยวกับบุคลำกร
สถำนที่ทำงำน และควำมปลอดภัยด้ำนสิง่ แวดล้อม?
124
I - 5.2 ก. กำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม และกำรพัฒนำบุคลำกร
HA2006
(3) มีกำรกำหนดเนื้ อหำกำรฝึ กอบรมที่จำเป็ น โดยใช้ขอ้ มูลจำกบุคลำกรและหัวหน้ำงำน. นำกำรเรียนรู ้
และสินทรัพย์ควำมรู ้ ขององค์กรมำใช้ในกำรศึกษำและฝึ กอบรม.
(3) Education and training needs are identified using input from staff and their
supervisors and managers. Organizational learning and knowledge assets are
incorporated into the education and training.
MBNQA 2005
(3) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรเสำะหำและนำข้อมูลจำกบุคลำกร หัวหน้ำงำน และผูจ้ ดั กำร มำรใช้ใน
กำรกำหนดเนื้ อหำควำมต้องกำรด้ำนกำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม และกำรพัฒนำ? องค์กรมีวธิ กี ำร
อย่ำงไรในกำรนำกำรเรียนรูแ้ ละสินทรัพย์ควำมรูข้ ององค์กรมำช่วยในกำรให้กำรศึกษำและกำร
ฝึ กอบรม?
125
I - 5.2 ก. กำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม และกำรพัฒนำบุคลำกร
HA2006
(4) องค์กรจัดกำรศึกษำและฝึ กอบรมที่มีประสิทธิผลทัง้ ในรูปแบบที่เป็ นทำงกำรและไม่เป็ นทำงกำร โดย
นำข้อคิดเห็นจำกบุคลำกรและหัวหน้ำงำนมำพิจำรณำ.
(4) Education and training are effectively delivered using formal and informal
approaches, using input from staff and their supervisors.
MBNQA 2005
(4) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรจัดกำรศึกษำและฝึ กอบรม? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรเสำะหำ
และนำข้อมูลจำกบุคลำกร หัวหน้ำงำน ผูจ้ ดั กำร มำใช้ในกำรกำหนดแนวทำงให้กำรศึกษำและ
ฝึ กอบรม? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรใช้แนวทำงกำรศึกษำและฝึ กอบรม (ทัง้ ที่เป็ นทำงกำรและ
ไม่เป็ นทำงกำร) รวมทัง้ กำรสอนงำนและกำรให้คำแนะนำอย่ำงใกล้ชิด และแนวทำงอืน่ ๆ ตำมควำม
เหมำะสม?
126
I - 5.2 ก. กำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม และกำรพัฒนำบุคลำกร
HA2006
(5) องค์กรส่งเสริมให้มีกำรใช้ควำมรูแ้ ละทักษะใหม่ๆ ในกำรปฏิบตั ิงำน และจัดเก็บควำมรูน้ ้ ี เพือ่ องค์กร
ได้ใช้ในระยะยำว.
(5) The use of new knowledge and skills on the job is reinforced and retain this
knowledge for long-term organizational use..
MBNQA 2005
(5) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรส่งเสริมให้มีกำรใช้ควำมรูแ้ ละทักษะใหม่ๆ ในกำรปฏิบตั ิงำน และ
จัดเก็บควำมรูน้ ้ ี ไว้เพือ่ องค์กรได้ใช้ในระยะยำว? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรถ่ำยทอดควำมรูจ้ ำก
บุคลำกรที่ลำออกหรือเกษียณอำยุมำเก็บไว้เป็ นขององค์กร?
127
I - 5.2 ก. กำรศึกษำ กำรฝึ กอบรม และกำรพัฒนำบุคลำกร
HA2006
(6) องค์กรประเมินผลกำรศึกษำและฝึ กอบรมโดยพิจำรณำจำกผลกำรปฏิบตั ิงำนของแต่ละบุคคล และ
ผลงำนขององค์กรโดยรวม.
(6) The effectiveness of education and training is evaluated, taking into account
individual and organizational performance.
MBNQA 2005
(6) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรประเมินผลกำรศึกษำและฝึ กอบรม โดยพิจำรณำจำกผลกำร
ดำเนิ นกำรของบุคลำกรและขององค์กรโดยรวม?
128
I - 5.2 ข. แรงจูงใจและควำมก้ำวหน้ำในหน้ำที่กำรงำน
HA2006
(1) องค์กรจูงใจให้บคุ ลำกรพัฒนำตนเองและใช้ศกั ยภำพของตนเองอย่ำงเต็มที่. ผูบ้ ริหำรและหัวหน้ำ
งำนมีสว่ นช่วยเหลือให้บคุ ลำกรบรรลุวตั ถุประสงค์กำรพัฒนำและเรียนรูท้ ่ีเกี่ยวกับงำน.
(1) The organization motivates staff to develop and utilize their full potential. The
organization helps staff attain job-related development and learning objectives
with assistance from managers and supervisors.
MBNQA 2005
องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรจูงใจให้บคุ ลำกรพัฒนำตนเองและใช้ศกั ยภำพองตนเองอย่ำงเต็มที่?
องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรใช้กลไก (ที่เป็ นทำงกำรและไม่เป็ นทำงกำร) เพือ่ ช่วยให้บคุ ลำกรบรรลุ
วัตถุประสงค์กำรพัฒนำและเรียนรูใ้ นเรื่องที่เกี่ยวกับงำนที่รบั ผิดชอบและควำมก้ำวหน้ำในสำยงำน?
ผูจ้ ดั กำรและหัวหน้ำงำนมีสว่ นช่วยให้บคุ ลำกรบรรลุวตั ถุประสงค์กำรพัฒนำและเรียนรูด้ งั กล่ำว
อย่ำงไร?
129
I - 5.3 ก. สภำพแวดล้อมในกำรทำงำน
1
2
(1) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำสถำนที่ทำงำนเอื้อต่อสุขภำพ ปลอดภัย มีกำรป้ องกันภัย และกำรจัด
สถำนที่/วิธที ำงำนตำมหลักกำรยศำสตร์, มีกำรกำหนดตัววัดผลงำนและปรับปรุงสิง่ เหล่ำนี้ ในเชิงรุก
โดยกำรมีสว่ นร่วมของบุคลำกร.
(2) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำสถำนที่ทำงำนมีกำรเตรียมพร้อมต่อภัยพิบตั ิหรือภำวะฉุกเฉิ น.
130
I - 5.3 ก. สภำพแวดล้อมในกำรทำงำน
HA2006
(1) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำสถำนที่ทำงำนเอื้อต่อสุขภำพ ปลอดภัย มีกำรป้ องกันภัย และกำรจัด
สถำนที่/วิธที ำงำนตำมหลักกำรยศำสตร์, มีกำรกำหนดตัววัดผลงำนและปรับปรุงสิง่ เหล่ำนี้ ในเชิงรุก
โดยกำรมีสว่ นร่วมของบุคลำกร.
(1) The organization ensures workplace health, safety, security, and ergonomics;
determines performance measures, and improves these workplace factors in a
proactive manner with participation of staff.
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้มนั ่ ใจว่ำสถำนที่ทำงำนมีสขุ อนำมัย (เอื้อต่อสุขภำพ) ปลอดภัย มี
กำรป้ องกันภัย กำรจัดสถำนที่/วิธที ำงำนตำมหลักกำรยศำสตร์ (ergonomics) และมีกำรปรับปรุง
สิง่ เหล่ำนี้ ในเชิงรุก? บุคลำกรมีสว่ นร่วมในกำรปรับปรุงดังกล่ำวอย่ำงไร? ตัววัดผลกำรดำเนิ นกำร
หรือเป้ ำหมำยกำรปรับปรุงในประเด็นที่สำคัญดังกล่ำวมีอะไรบ้ำง? หำกกลุม่ บุคลำกรและหน่ วยงำน
มีสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนแตกต่ำงกัน จะส่งผลต่อควำมแตกต่ำงในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ
สถำนที่ทำงำน ตัววัดผลกำรดำเนิ นงำน หรือเป้ ำหมำยกำรปรับปรุงอย่ำงไร?
131
I - 5.3 ก. สภำพแวดล้อมในกำรทำงำน
HA2006
(2) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำสถำนที่ทำงำนมีกำรเตรียมพร้อมต่อภัยพิบตั ิหรือภำวะฉุกเฉิ น.
(2) The organization ensures workplace preparedness for disasters or emergencies.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้มนั ่ ใจว่ำสถำนที่ทำงำนมีกำรเตรียมพร้อมต่อภัยพิบตั ิหรือภำวะ
ฉุกเฉิ น?
132
I - 5.3 ข. กำรดูแลและสร้ำงควำมพึงพอใจแก่บคุ ลำกร
1
2
3
4
(1) องค์กรวิเครำะห์ปจั จัยสำคัญ ที่มีผลต่อควำมผำสุก ควำมพึงพอใจ และแรงจูงใจของบุคลำกร.
(2) องค์กรให้กำรดูแลสนับสนุ นบุคลำกรในด้ำนกำรจัดบริกำร สิทธิประโยชน์ และนโยบำย .
(3) องค์กรประเมินควำมผำสุก ควำมพึงพอใจ และแรงจูงใจของบุคลำกร ด้วยวิธกี ำรที่เป็ นทำงกำรและ
ไม่เป็ นทำงกำร.
(4) องค์กรนำผลกำรประเมินมำกำหนดลำดับควำมสำคัญในกำรปรับปรุงสภำพแวดล้อมในกำรทำงำน
และบรรยำกำศกำรทำงำนของบุคลำกร.
133
I - 5.3 ข. กำรดูแลและสร้ำงควำมพึงพอใจแก่บคุ ลำกร
HA2006
(1) องค์กรวิเครำะห์ปจั จัยสำคัญที่มีผลต่อควำมผำสุก ควำมพึงพอใจ และแรงจูงใจของบุคลำกร.
(1) The organization determines the key factors that affect staff well-being,
satisfaction, and motivation.
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรกำหนดปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อควำมผำสุก ควำมพึงพอใจ และแรงจูงใจ
ของบุคลำกร? องค์กรจำแนกปัจจัยเหล่ำนี้ ให้เหมำะสมกับควำมหลำกหลำยของบุคลำกร และ กลุม่
/ ประเภทต่ำงๆ ของบุคลำกรอย่ำงไร?
134
I - 5.3 ข. กำรดูแลและสร้ำงควำมพึงพอใจแก่บคุ ลำกร
HA2006
(2) องค์กรให้กำรดูแลสนับสนุ นบุคลำกรในด้ำนกำรจัดบริกำร สิทธิประโยชน์ และนโยบำย .
(2) The organization supports its staff via services, benefits, and policies.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรดูแลสนับสนุ นบุคลำกรในด้ำนกำรจัดบริกำร สิทธิประโยชน์ และ
นโยบำย? องค์กรปรับกำรดูแลสนับสนุ นเหล่ำนี้ ให้เข้ำกับควำมต้องกำรของบุคลำกรที่หลำกหลำย
รวมทัง้ ควำมแตกต่ำงตำมกลุม่ / ประเภทต่ำงๆ ของบุคลำกรอย่ำงไร?
135
I - 5.3 ข. กำรดูแลและสร้ำงควำมพึงพอใจแก่บคุ ลำกร
HA2006
(3) องค์กรประเมินควำมผำสุก ควำมพึงพอใจ และแรงจูงใจของบุคลำกร ด้วยวิธกี ำรที่เป็ นทำงกำรและ
ไม่เป็ นทำงกำร.
(3) The organization assesses staff well-being, satisfaction, and motivation using
formal and informal methods.
MBNQA 2005
(3) องค์กรประเมินควำมผำสุก ควำมพึงพอใจ และแรงจูงใจของบุคลำกร โดยใช้วธิ กี ำรประเมิน (ทัง้ ที่
เป็ นทำงกำรและไม่เป็ นทำงกำร) และตัวชี้วดั อะไร? วิธกี ำรและตัวชี้วดั เหล่ำนี้ มีควำมแตกต่ำงกัน
ตำมควำมหลำกหลำยของบุคลำกร และตำมกลุม่ / ประเภทต่ำงๆ ของบุคลำกรอย่ำงไร? องค์กรใช้
ตัวชี้วดั อืน่ ๆ เช่น กำรคงอยู่ของบุคลำกร กำรขำดงำน กำรร้องทุกข์ ควำมปลอดภัย และผลิตภำพ
เพือ่ ประเมินและปรับปรุงควำมผำสุก ควำมพึงพอใจ และแรงจูงใจของบุคลำรกรอย่ำงไร?
136
I - 5.3 ข. กำรดูแลและสร้ำงควำมพึงพอใจแก่บคุ ลำกร
HA2006
(4) องค์กรนำผลกำรประเมินมำกำหนดลำดับควำมสำคัญในกำรปรับปรุงสภำพแวดล้อมในกำรทำงำน
และบรรยำกำศกำรทำงำนของบุคลำกร.
(4) The assessment findings are use to identify priorities for improving the work
environment and staff support climate.
MBNQA 2005
(4) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรนำผลกำรประเมินมำเชื่อมโยงกับผลลัพธ์กำรดำเนิ นกำรขององค์กร
สำคัญ เพือ่ กำหนดลำดับควำมสำคัญในกำรปรับปรุงสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนและบรรยำกำศที่
เอื้อต่อกำรทำงำนและควำมผำสุกของบุคลำกร?
137
I - 5.3 ค. สุขภำพบุคลำกร
1
2
3
4
5
6
7
(1) บุคลำกรมีสว่ นร่วม เรียนรู ้ ตัดสินใจ และปฏิบตั ใิ นกำรดูแลสุขภำพกำย ใจ สังคม ของตน.
(2) บุคลำกรมีขอ้ ตกลงร่วมกันในกำรเป็ นแบบอย่ำงพฤติกรรมสุขภำพที่ดี และแบบอย่ำงวัฒนธรรมองค์กรใน
กำรสร้ำงเสริมสุขภำพ.
(3) องค์กรประเมินและจัดกำรควำมเสี่ยงต่อสุขภำพที่สำคัญอย่ำงเป็ นระบบและต่อเนื่ อง โดยเฉพำะกำรติด
เชื้อวัณโรค, ไวรัสตับอักเสบบี, HIV จำกผูป้ ่ วย; เข็มฉี ดยำหรือของมีคมบำด, สำรเคมีในห้องปฏิบตั กิ ำร
, ก๊ำซดมสลบ และยำเคมีบำบัด.
(4) บุคลำกรทุกคนได้รบั กำรประเมินสุขภำพแรกเข้ำทำงำน และมีขอ้ มูลสุขภำพพื้นฐำน ได้แก่ กำรตรวจ
สุขภำพทัว่ ไป ประวัตกิ ำรได้รบั ภูมิคมุ ้ กัน ประวัตกิ ำรเจ็บป่ วย และอุบตั เิ หตุ รวมทัง้ พฤติกรรมสุขภำพ
ส่วนบุคคล โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งกำรตรวจสุขภำพตำมควำมเสี่ยงของหน่ วยงำนที่จะเข้ำทำงำน.
(5) บุคลำกรได้รบั กำรตรวจสุขภำพเป็ นระยะเพื่อประเมินกำรเจ็บป่ วยเนื่ องมำจำกกำรทำงำน รวมทัง้ กำรติด
เชื้อ ซึ่งอำจจะมีผลต่อกำรดูแลผูป้ ่ วยและบุคลำกรอืน่ ๆ ตำมลักษณะงำนที่รบั ผิดชอบ.
(6) บุคลำกรได้รบั ภูมิคมุ ้ กันโรคติดต่ออย่ำงเหมำะสม
(7) บุคลำกรที่เจ็บป่ วยหรือบำดเจ็บจำกกำรทำงำนได้รบั กำรประเมินและดูแลอย่ำงเหมำะสม องค์กรจัดทำ
นโยบำยและวิธีปฏิบตั สิ ำหรับทัง้ กำรประเมินโอกำสแพร่กระจำยเชื้อ ข้อบ่งชี้ในกำรจำกัดกำรปฏิบตั ิ
หน้ำที่ และกำรดูแลบุคลำกรที่สมั ผัสเชื้อซึ่งครอบคลุมถึงกำรให้ภมู ิคมุ ้ กันและกำรจำกัดกำรปฏิบตั งิ ำน.
138
HA2006
I - 5.3 ค. สุขภำพบุคลำกร
(1) บุคลำกรมีสว่ นร่วม เรียนรู ้ ตัดสินใจ และปฏิบตั ิในกำรดูแลสุขภำพกำย ใจ สังคม ของตน.
(1) The staff involve, learn, decide and take action on enhancing their health, both
physical, mental, and social health.
139
HA2006
I - 5.3 ค. สุขภำพบุคลำกร
(2) บุคลำกรมีขอ้ ตกลงร่วมกันในกำรเป็ นแบบอย่ำงพฤติกรรมสุขภำพที่ดี และแบบอย่ำงวัฒนธรรม
องค์กรในกำรสร้ำงเสริมสุขภำพ.
(2) The staff come to the agreement on modeling behavior of individual staff and
organization culture for health promotion.
140
HA2006
I - 5.3 ค. สุขภำพบุคลำกร
(3) องค์กรประเมินและจัดกำรควำมเสีย่ งต่อสุขภำพที่สำคัญอย่ำงเป็ นระบบและต่อเนื่ อง โดยเฉพำะกำร
ติดเชื้อวัณโรค, ไวรัสตับอักเสบบี, HIV จำกผูป้ ่ วย; เข็มฉี ดยำหรือของมีคมบำด, สำรเคมีใน
ห้องปฏิบตั ิกำร, ก๊ำซดมสลบ และยำเคมีบำบัด.
(3) The organization assesses and manages, systematically and continuously,
major occupational risks for healthcare personnel, especially TB, HBV, HIV
transmission from patient; needle stick injuries, laboratory chemicals,
anesthetic gases and chemotherapeutic agents.
141
HA2006
I - 5.3 ค. สุขภำพบุคลำกร
(4) บุคลำกรทุกคนได้รบั กำรประเมินสุขภำพแรกเข้ำทำงำน และมีขอ้ มูลสุขภำพพื้นฐำน ได้แก่ กำร
ตรวจสุขภำพทัว่ ไป ประวัติกำรได้รบั ภูมิคมุ ้ กัน ประวัติกำรเจ็บป่ วย และอุบตั ิเหตุ รวมทัง้ พฤติกรรม
สุขภำพส่วนบุคคล โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งกำรตรวจสุขภำพตำมควำมเสีย่ งของหน่ วยงำนที่จะเข้ำ
ทำงำน.
(4) All staff have a pre-employment health examination which includes at least the
following information, baseline health examination, general health assessment,
immunization status, illness, accident, and health behavior. In particular, the
staffs should have job specific health assessment.
142
HA2006
I - 5.3 ค. สุขภำพบุคลำกร
(5) บุคลำกรได้รบั กำรตรวจสุขภำพเป็ นระยะเพือ่ ประเมินกำรเจ็บป่ วยเนื่ องมำจำกกำรทำงำน รวมทัง้ กำร
ติดเชื้อ ซึ่งอำจจะมีผลต่อกำรดูแลผูป้ ่ วยและบุคลำกรอืน่ ๆ ตำมลักษณะงำนที่รบั ผิดชอบ.
(5) Appropriate staff have periodic medical evaluations to assess for work-related
illness and infectious diseases that may have an impact on patient care and
other staff.
143
HA2006
I - 5.3 ค. สุขภำพบุคลำกร
(6) บุคลำกรได้รบั ภูมิคมุ ้ กันโรคติดต่ออย่ำงเหมำะสม.
(6) Staff are offered appropriate immunizations for communicable diseases.
144
HA2006
I - 5.3 ค. สุขภำพบุคลำกร
(7) บุคลำกรที่เจ็บป่ วยหรือบำดเจ็บจำกกำรทำงำนได้รบั กำรประเมินและดูแลอย่ำงเหมำะสม องค์กร
จัดทำนโยบำยและวิธปี ฏิบตั สิ ำหรับทัง้ กำรประเมินโอกำสแพร่กระจำยเชื้อ ข้อบ่งชี้ในกำรจำกัดกำร
ปฏิบตั ิหน้ำที่ และกำรดูแลบุคลำกรที่สมั ผัสเชื้อซึ่งครอบคลุมถึงกำรให้ภมู ิคมุ ้ กันและกำรจำกัดกำร
ปฏิบตั ิงำน.
(7) Ill or injured staff receive appropriate evaluation and care. Policies and
procedures are developed for assessment of disease communicability,
indications for work restrictions, and management of employees who have
been exposed to infectious diseases, including post exposure prophylaxis and
work restrictions.
145
I - 6.1 ก. กระบวนกำรบริกำรสุขภำพ / กระบวนกำรที่สร้ำงคุณค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
(1) องค์กรกำหนดกระบวนกำรบริกำรสุขภำพที่สำคัญ . มีกำรพิจำรณำว่ำกระบวนกำรเหล่ำนี้ สร้ำงหรือเพิ่มคุณค่ำ
ให้แก่ผลลัพธ์สขุ ภำพและผลงำนที่คำดหวังขององค์กรอย่ำงไร.
(2) องค์กรจัดทำข้อกำหนด (คุณลักษณะที่คำดหวัง) ที่สำคัญ ของกระบวนกำรข้ำงต้น โดยใช้ขอ้ มูลจำกผูป้ ระกอบ
วิชำชีพ ผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนภำยในและภำยนอก ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตรร่วมด้วย.
(3) องค์กรออกแบบกระบวนกำรเพื่อตอบสนองข้อกำหนดสำคัญข้ำงต้น โดยคำนึ งถึงควำมปลอดภัยของผูป้ ่ วย
ข้อกำหนดทำงกฎหมำย หลักฐำนทำงวิชำกำร มำตรฐำนวิชำชีพ ผลลัพธ์ท่ดี ีข้ นึ ผลิตภำพ ประสิทธิภำพ และ
ประสิทธิผล. องค์กรนำกระบวนกำรเหล่ำนี้ ไปปฏิบตั แิ ละสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะเป็ นไปตำมข้อกำหนดของ
กระบวนกำรตำมที่ออกแบบไว้.
(4) มีกำรพิจำรณำควำมคำดหวังของผูป้ ่ วย. มีกำรอธิบำยกระบวนกำรบริกำรสุขภำพและผลลัพธ์ท่นี ่ ำจะเกิดขึ้นเพื่อให้
ผูป้ ่ วยมีควำมคำดหวังที่เหมำะสม (มีควำมเป็ นไปได้) . ผูป้ ่ วยมีสว่ นร่วมในกำรตัดสินใจและนำควำมสมัครใจของ
ผูป้ ่ วยมำพิจำรณำในกำรให้บริกำร.
(5) องค์กรใช้กำรประเมินและตัวชี้วดั ผลงำนสำคัญเพื่อควบคุมและปรับปรุงกระบวนกำรบริกำรสุขภำพ. มีกำรใช้
ตัวชี้วดั ในกระบวนกำรปฏิบตั งิ ำน ร่วมกับข้อมูลจำกผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนอืน่ ๆ ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตร (ตำมควำม
เหมำะสม) ในกำรจัดกำรกับกระบวนกำรเหล่ำนี้ เพื่อให้มนั ่ ใจว่ำเป็ นไปตำมข้อกำหนดสำคัญ.
(6) องค์กรพยำยำมที่จะลดค่ำใช้จำ่ ยในกำรตรวจสอบ และพยำยำมป้ องกันควำมผิดพลำดและกำรต้องทำงำนซ้ำ.
(7) องค์กรปรับปรุงกระบวนกำรบริกำรสุขภำพเพื่อให้ได้ผลงำนที่ดีข้ นึ ผลลัพธ์สขุ ภำพที่ดีข้ นึ และเพื่อตอบสนองต่อ
ควำมต้องกำรและทิศทำงด้ำนสุขภำพที่เปลี่ยนแปลงไป. มีกำรแลกเปลี่ยนเรียนรูผ้ ลกำรปรับปรุงระหว่ำง
หน่ วยงำนและกระบวนกำรต่ำงๆ.
146
I - 6.1 ก. กระบวนกำรบริกำรสุขภำพ / กระบวนกำรที่สร้ำงคุณค่ำ
HA2006
(1) องค์กรกำหนดกระบวนกำรบริกำรสุขภำพที่สำคัญ มีกำรพิจำรณำว่ำกระบวนกำรเหล่ำนี้ สร้ำงหรือ
เพิม่ คุณค่ำให้แก่ผลลัพธ์สขุ ภำพและผลงำนที่คำดหวังขององค์กรอย่ำงไร.
(1) The organization determines key health care processes. The value and
contribution of these processes to expected health outcome and organization
performance are determined
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรกำหนดกระบวนกำรบริกำรสุขภำพ (กำรดูแลทำงคลินิกและบริกำร
ทัว่ ไป) ที่สำคัญ? อะไรคือกระบวนกำรบริกำรสุขภำพที่สำคัญขององค์กร? กระบวนกำรเหล่ำนี้ มี
ส่วนต่อบผลลัพธ์ของบริกำรสุขภำพที่ดีข้ นึ อย่ำงไร?
147
I - 6.1 ก. กระบวนกำรบริกำรสุขภำพ / กระบวนกำรที่สร้ำงคุณค่ำ
HA2006
(2) องค์กรจัดทำทำข้อกำหนด (คุณลักษณะที่คำดหวัง) ที่สำคัญ ของกระบวนกำรข้ำงต้น โดยใช้ขอ้ มูล
จำกผูป้ ระกอบวิชำชีพ ผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนภำยในและภำยนอก ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตรร่วมด้วย
(2) The organization determines key requirements of these processes,
incorporating input from professionals, patients, customers, suppliers, and
partners.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรจัดทำข้อกำหนด (คุณลักษณะที่คำดหวัง) ที่สำคัญของกระบวนกำร
บริกำรสุขภำพ โดยใช้ขอ้ มูลจำกผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตร (ตำมควำม
เหมำะสม)? ข้อกำหนดที่สำคัญของกระบวนกำรดังกล่ำวมีอะไรบ้ำง?
148
I - 6.1 ก. กระบวนกำรบริกำรสุขภำพ / กระบวนกำรที่สร้ำงคุณค่ำ
HA2006
(3) องค์กรออกแบบกระบวนกำรเพือ่ ตอบสนองข้อกำหนดสำคัญข้ำงต้น โดยคำนึ งถึงควำมปลอดภัยของ
ผูป้ ่ วย ข้อกำหนดทำงกฎหมำย หลักฐำนทำงวิชำกำร มำตรฐำนวิชำชีพ ผลลัพธ์ท่ดี ีข้ ึน ผลิตภำพ
ประสิทธิภำพ และประสิทธิผล. องค์กรนำกระบวนกำรเหล่ำนี้ ไปปฏิบตั แิ ละสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะ
เป็ นไปตำมข้อกำหนดของกระบวนกำรตำมที่ออกแบบไว้.
(3) The organization designs these processes to meet all the key requirements.
The organization incorporates patient safety and regulatory requirements,
scientific evidence and professional standards, improved outcome,
productivity, efficiency and effectiveness factors into the design of these
processes. These processes are implemented to ensure they meet design
requirements.
MBNQA 2005
(3) องค์กรมีวิธีกำรอย่ำงไรในกำรออกแบบกระบวนกำรเหล่ำนี้ เพื่อตอบสนองข้อกำหนดที่สำคัญทัง้ หมด รวมทัง้ ควำม
ปลอดภัยของผูป้ ่ วย ข้อกำหนดทำงกฎหมำย กำรรับรองคุณภำพ และข้อกำหนดของผูจ้ ำ่ ยเงิน? องค์กรมีวิธีกำรอย่ำงไร
ในกำรนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ควำมรูข้ ององค์กร และควำมคล่องตัวที่จำเป็ นในอนำคต มำใช้ประกอบในกำรออกแบบ
กระบวนกำรเหล่ำนี้ ? องค์กรีวิธีกำรอย่ำงไรในกำรนำเรื่องผลลัพธ์ของบริกำรสุขภำพ รอบเวลำ ผลิตภำพ กำรควบคุม
ต้นทุน และปัจจัยด้ำนประสิทธิภำพและประสิทธิผลอืน่ ๆ มำใช้ประกอบในกำรออกแบบกระบวนกำรเหล่ำนี้ ? องค์กรมี
วิธีกำรอย่ำงไรในกำรนำกระบวนกำรเหล่ำนี้ ไปปฏิบตั เิ พื่อให้มนั ่ ใจว่ำเป็ นไปตำมข้อกำหนดตำมที่ออกแบบไว้?
149
I - 6.1 ก. กระบวนกำรบริกำรสุขภำพ / กระบวนกำรที่สร้ำงคุณค่ำ
HA2006
(4) มีกำรพิจำรณำควำมคำดหวังของผูป้ ่ วย. มีกำรอธิบำยกระบวนกำรบริกำรสุขภำพและผลลัพธ์ท่นี ่ ำจะ
เกิดขึ้นเพือ่ ให้ผูป้ ่ วยมีควำมคำดหวังที่เหมำะสม (สอดคล้องกับควำมเป็ นจริง) . ผูป้ ่ วยมีสว่ นร่วมใน
กำรตัดสินใจและนำควำมสมัครใจของผูป้ ่ วยมำพิจำรณำในกำรให้บริกำร.
(4) Patients’ expectations are considered. Health care service delivery processes
and likely outcomes are explained to set realistic patient expectations. Patient
decision-making and patient preferences are factored into the delivery of
health care services.
MBNQA 2005
(4) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำร address และพิจำรณำควำมคำดหวังของผูป้ ่ วย? องค์กรมีวธิ กี ำร
อย่ำงไรในกำรอธิบำยกระบวนกำรดูแลผูป้ ่ วยและผลลัพธ์ท่นี ่ ำจะเกิดขึ้นเพือ่ ให้ผูป้ ่ วยมีควำม
คำดหวังที่สอดคล้องกับควำมเป็ นจริง? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรเปิ ดโอกำสให้ผูป้ ่ วยมีสว่ นร่วม
ในกำรตัดสินใจและนำควำมสมัครใจของผูป้ ่ วยมำพิจำรณำในกำรให้บริกำรสุขภำพ?
150
I - 6.1 ก. กระบวนกำรบริกำรสุขภำพ / กระบวนกำรที่สร้ำงคุณค่ำ
HA2006
(5) องค์กรใช้กำรประเมินและตัวชี้วดั ผลงำนสำคัญเพือ่ ควบคุมและปรับปรุงกระบวนกำรบริกำรสุขภำพ.
มีกำรใช้ตวั ชี้วดั ในกระบวนกำรปฏิบตั งิ ำน ร่วมกับข้อมูลจำกผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนอืน่ ๆ ผูส้ ง่ มอบ และคู่
พันธมิตร (ตำมควำมเหมำะสม) ในกำรจัดกำรกับกระบวนกำรเหล่ำนี้ เพือ่ ให้มนั ่ ใจว่ำเป็ นไปตำม
ข้อกำหนดสำคัญ.
(5) The organization uses key performance assessment and indicators for the
control and improvement of the health care processes. The day-to-day
operation of key health care processes ensure meeting key process
requirements; using in-process measures, patient and other customers, supplier,
and partner input in managing these process, as appropriate.
MBNQA 2005
(5) องค์กรใช้กำรประเมินผลกำรดำเนิ นงำนและตัวชี้วดั สำคัญอะไร เพือ่ ควบคุมและปรับปรุงประบวน
กำรบริกำรสุขภำพ? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้มนั ่ ใจว่ำกำรปฏิบตั ิงำนประจำวันใน
กระบวนกำรบริกำรสุขภำพจะเป็ นไปตำมข้อกำหนดสำคัญของกระบวนกำรนั้น? องค์กรมีวธิ กี ำร
อย่ำงไรในกำรใช้ตวั ชี้วดั ในกระบวนกำรปฏิบตั งิ ำนเพือ่ จัดกำรกับกระบวนกำรเหล่ำนี้ ? องค์กรมี
วิธกี ำรอย่ำงไรในกำรนำข้อมูลจำกผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตร มำใช้ในกำรจัดกำร
กระบวนกำรบริกำรสุขภำพ (ตำมควำมเหมำะสม)?
151
I - 6.1 ก. กระบวนกำรบริกำรสุขภำพ / กระบวนกำรที่สร้ำงคุณค่ำ
HA2006
(6) องค์กรพยำยำมที่จะลดค่ำใช้จำ่ ยในกำรตรวจสอบ และพยำยำมป้ องกันควำมผิดพลำดและกำรต้อง
ทำงำนซ้ำ.
(6) The organization minimizes overall costs associated with inspections and
audits. Errors and rework are prevented.
MBNQA 2005
(6) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรลดต้นทุนโดยรวมเกี่ยวกับกำรตรวจสอบ กำรทดสอบ และกำรตรวจ
ประเมินกระบวนกำรหรือผลกำรดำเนิ นกำร ตำมควำมเหมำะสม? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำร
ป้ องกันควำมผิดพลำดและกำรต้องทำงำนซ้ำ?
152
I - 6.1 ก. กระบวนกำรบริกำรสุขภำพ / กระบวนกำรที่สร้ำงคุณค่ำ
HA2006
(7) องค์กรปรับปรุงกระบวนกำรบริกำรสุขภำพเพือ่ ให้ได้ผลงำนที่ดีข้ นึ ผลลัพธ์สขุ ภำพที่ดีข้ นึ และเพือ่
ตอบสนองต่อควำมต้องกำรและทิศทำงด้ำนสุขภำพที่เปลี่ยนแปลงไป. มีกำรแลกเปลี่ยนเรียนรูผ้ ล
กำรปรับปรุงระหว่ำงหน่ วยงำนและกระบวนกำรต่ำงๆ.
(7) The organization improves its health care processes to achieve better
performance, to improve health outcomes, and to keep the processes current
with health needs and directions. Improvements are shared with other
organizational units and processes.
MBNQA 2005
(7) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรปรับปรุงกระบวนกำรบริกำรสุขภำพเพือ่ ให้ได้ผลกำรดำเนิ นกำรที่ดีข้ นึ
เพือ่ ลดควำมแปรปรวนของกระบวนกำร เพือ่ ให้ได้ผลลัพธ์ของบริกำรสุขภำพที่ดีข้ นึ และเพือ่
ตอบสนองให้ทนั กับควำมต้องกำรและทิศทำงบริกำรสุขภำพที่เปลี่ยนแปลงไป? องค์กรมีวธิ กี ำร
อย่ำงไรในกำรแบ่งปันบทเรียนและผลกำรปรับปรุงระหว่ำงหน่ วยงำนและกระบวนกำรต่ำงๆ เพือ่
ขับเคลื่อนกำรเรียนรูแ้ ละนวตกรรมขององค์กร?
153
I - 6.2 ก. กระบวนกำรสนับสนุ น
1
2
3
4
5
6
(1) องค์กรกำหนดกระบวนกำรสนับสนุ นที่สำคัญ.
(2) องค์กรจัดทำข้อกำหนด (คุณลักษณะที่คำดหวัง) ที่สำคัญของกระบวนสนับสนุ น โดยใช้ขอ้ มูลจำก
ผูร้ บั ผลงำนภำยในและภำยนอก ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตร ตำมควำมเหมำะสม.
(3) องค์กรออกแบบกระบวนกำรเหล่ำนี้ เพือ่ ตอบสนองข้อกำหนดสำคัญข้ำงต้น โดยคำนึ งถึงเทคโนโลยี
ใหม่, ควำมรูข้ ององค์กร, ควำมยืดหยุ่น, รอบเวลำ, ผลิตภำพ, กำรควบคุมต้นทุน, ประสิทธิภำพและ
ประสิทธิผล. องค์กรนำกระบวนกำรเหล่ำนี้ ไปปฏิบตั แิ ละสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะเป็ นไปตำม
ข้อกำหนดของกระบวนกำรตำมที่ออกแบบไว้.
(4) องค์กรใช้ตวั ชี้วดั ผลงำนสำคัญเพือ่ ควบคุมและปรับปรุงกระบวนกำรสนับสนุ น. มีกำรใช้ตวั ชี้วดั ใน
กระบวนกำรปฏิบตั ิงำน ร่วมกับข้อมูลจำกผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนอืน่ ๆ ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตร (ตำม
ควำมเหมำะสม) ในกำรจัดกำรกับกระบวนกำรเหล่ำนี้ เพือ่ ให้มนั ่ ใจว่ำเป็ นไปตำมข้อกำหนดสำคัญ.
(5) องค์กรพยำยำมลดค่ำใช้จำ่ ยในกำรตรวจสอบ พยำยำมลดควำมผิดพลำดและกำรต้องทำงำนซ้ำ.
(6) องค์กรปรับปรุงกระบวนกำรสนับสนุ นสำคัญเพือ่ ให้ได้ผลงำนที่ดีข้ นึ เพือ่ ลดควำมแปรปรวนของ
กระบวนกำร และเพือ่ ตอบสนองต่อควำมต้องกำรและทิศทำงสุขภำพที่เปลี่ยนแปลงไป. มีกำร
แลกเปลี่ยนเรียนรูผ้ ลกำรปรับปรุงระหว่ำงหน่ วยงำนและกระบวนกำรต่ำงๆ..
154
I - 6.2 ก. กระบวนกำรสนับสนุ น
HA2006
(1) องค์กรกำหนดกระบวนกำรสนับสนุ นที่สำคัญ.
(1) The organization determines its key support processes.
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรกำหนดกระบวนกำรทำงธุรกิ จและกระบวนกำรสนับสนุ นที่สำคัญ?
อะไรคือกระบวนกำรสำคัญสำหรับกำรสนับสนุ นกระบวนกำรบริกำรสุขภำพ?
155
I - 6.2 ก. กระบวนกำรสนับสนุ น
HA2006
(2) องค์กรจัดทำข้อกำหนด (คุณลักษณะที่คำดหวัง) ที่สำคัญของกระบวนสนับสนุ น โดยใช้ขอ้ มูลจำก
ผูร้ บั ผลงำนภำยในและภำยนอก ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตร ตำมควำมเหมำะสม.
(2) The organization determines key support processes requirements,
incorporating input from internal and external customers, suppliers and
partners, as appropriate.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรจัดทำข้อกำหนดที่สำคัญของกระบวนกำรสนับสนุ น โดยใช้ขอ้ มูลจำก
ลูกค้ำภำยในและภำยนอก ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตร ตำมควำมเหมำะสม? อะไรคือข้อกำหนด
สำคัญสำหรับกระบวนกำรเหล่ำนี้ ?
156
I - 6.2 ก. กระบวนกำรสนับสนุ น
HA2006
(3) องค์กรออกแบบกระบวนกำรเหล่ำนี้ เพือ่ ตอบสนองข้อกำหนดสำคัญข้ำงต้น โดยคำนึ งถึงเทคโนโลยี
ใหม่, ควำมรูข้ ององค์กร, ควำมยืดหยุ่น, รอบเวลำ, ผลิตภำพ, กำรควบคุมต้นทุน, ประสิทธิภำพและ
ประสิทธิผล. องค์กรนำกระบวนกำรเหล่ำนี้ ไปปฏิบตั แิ ละสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะเป็ นไปตำม
ข้อกำหนดของกระบวนกำรตำมที่ออกแบบไว้.
(3) The organization designs these processes to meet all the key requirements;
incorporating new technology, organizational knowledge, agility, cycle time,
productivity, cost control, and other efficiency and effectiveness factors. The
organization implements these processes to ensure they meet design
requirements.
MBNQA 2005
(3) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรออกแบบกระบวนกำรเหล่ำนี้ เพือ่ ตอบสนองข้อกำหนดที่สำคัญทัง้ หมด?
องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ควำมรูข้ ององค์กร และควำมยืดหยุ่นที่อำจจำเป็ น
ในอนำคต มำใช้ประกอบในกำรออกแบบกระบวนกำรเหล่ำนี้ ? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรนำ
เรื่องของรอบเวลำ ผลิตภำพ กำรควบคุมต้นทุน และปัจจัยด้ำนประสิทธิภำพและประสิทธิผลอืน่ ๆ
มำใช้ประกอบในกำรออกแบบกระบวนกำรเหล่ำนี้ ? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรนำประบวนกำร
เหล่ำนี้ ไปปฏิบตั แิ ละทำให้มนั ่ ใจว่ำจะเป็ นไปตำมข้อกำหนดของกระบวนกำรที่ออกแบบไว้?
157
I - 6.2 ก. กระบวนกำรสนับสนุ น
HA2006
(4) องค์กรใช้ตวั ชี้วดั ผลงำนสำคัญเพือ่ ควบคุมและปรับปรุงกระบวนกำรสนับสนุ น. มีกำรใช้ตวั ชี้วดั ใน
กระบวนกำรปฏิบตั ิงำน ร่วมกับข้อมูลจำกผูป้ ่ วย ผูร้ บั ผลงำนอืน่ ๆ ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตร (ตำม
ควำมเหมำะสม) ในกำรจัดกำรกับกระบวนกำรเหล่ำนี้ เพือ่ ให้มนั ่ ใจว่ำเป็ นไปตำมข้อกำหนดสำคัญ.
(4) The organization uses key performance indicators for the control and
improvement of the support processes. The day-to-day operation of key
support processes ensure meeting key performance requirements; using inprocess measures, patient and other customers, supplier, and partner input in
managing these process, as appropriate.
MBNQA 2005
(4) องค์กรใช้ตวั ชี้วดั ผลกำรดำเนิ นกำรสำคัญอะไรบ้ำง เพือ่ ควบคุมและปรับปรุงกระบวนกำรสนับสนุ น?
องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้มนั ่ ใจว่ำกำรปฏิบตั ิงำนประจำวันในกระบวนกำรสนับสนุ นสำคัญ
จะเป็ นไปตำมข้อกำหนดสำคัญของกระบวนกำรนั้น? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรใช้ตวั ชี้วดั ใน
กระบวนกำรปฏิบตั งิ ำนเพือ่ จัดกำรกับกระบวนกำรเหล่ำนี้ ? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรนำข้อมูล
จำกผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ผูส้ ง่ มอบ และคู่พนั ธมิตร มำใช้ในกำรจัดกำรกระบวนกำรเหล่ำนี้ (ตำม
ควำมเหมำะสม)?
158
I - 6.2 ก. กระบวนกำรสนับสนุ น
HA2006
(5) องค์กรพยำยำมลดค่ำใช้จำ่ ยในกำรตรวจสอบ พยำยำมลดควำมผิดพลำดและกำรต้องทำงำนซ้ำ.
(5) The organization minimizes overall costs associated with inspections and
audits. The organization prevents errors and rework.
MBNQA 2005
(5) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรลดต้นทุนโดยรวมเกี่ยวกับกำรตรวจสอบ กำรทดสอบ และกำรตรวจ
ประเมินกระบวนกำรหรือผลกำรดำเนิ นกำร ตำมควำมเหมำะสม? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำร
ป้ องกันควำมผิดพลำดและกำรต้องทำงำนซ้ำ?
159
I - 6.2 ก. กระบวนกำรสนับสนุ น
HA2006
(6) องค์กรปรับปรุงกระบวนกำรสนับสนุ นสำคัญเพือ่ ให้ได้ผลงำนที่ดีข้ นึ เพือ่ ลดควำมแปรปรวนของ
กระบวนกำร และเพือ่ ตอบสนองต่อควำมต้องกำรและทิศทำงสุขภำพที่เปลี่ยนแปลงไป. มีกำร
แลกเปลี่ยนเรียนรูผ้ ลกำรปรับปรุงระหว่ำงหน่ วยงำนและกระบวนกำรต่ำงๆ.
(6) The organization improves its key support processes to achieve better
performance, to reduce variability, and to keep them current with health care
service needs and directions. The improvements and lessons learned are
shared with other organizational units and processes.
MBNQA 2005
(6) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรปรับปรุงกระบวนกำรทำงธุรกิจและกระบวนกำรสนับสนุ นเพือ่ ให้ได้ผล
กำรดำเนิ นกำรที่ดีข้ นึ เพือ่ ลดควำมแปรปรวนของกระบวนกำร และเพือ่ ตอบสนองให้ทนั กับควำม
ต้องกำรและทิศทำงบริกำรสุขภำพที่เปลี่ยนแปลงไป? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรแบ่งปัน
บทเรียนและผลกำรปรับปรุงระหว่ำงหน่ วยงำนและกระบวนกำรต่ำงๆ เพือ่ ขับเคลื่อนกำรเรียนรู ้
และนวตกรรมขององค์กร?
160
I - 6.2 ข. กำรวำงแผนดำเนิ นงำน
(1) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำมีทรัพยำกรด้ำนกำรเงินเพียงพอต่อกำรสนับสนุ นกำรดำเนิ นงำน. องค์กร
ประเมินควำมเสีย่ งด้ำนกำรเงินที่เกี่ยวข้องกับกำรดำเนิ นงำนในปัจจุบนั และกำรลงทุนใหม่ๆ ที่มี
มูลค่ำสูง.
2 (2) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะดำเนิ นกำรได้อย่ำงต่อเนื่ องในภำวะฉุกเฉิ น.
1
161
I - 6.2 ข. กำรวำงแผนดำเนิ นงำน
HA2006
(1) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำมีทรัพยำกรด้ำนกำรเงินเพียงพอต่อกำรสนับสนุ นกำรดำเนิ นงำน. องค์กร
ประเมินควำมเสีย่ งด้ำนกำรเงินที่เกี่ยวข้องกับกำรดำเนิ นงำนในปัจจุบนั และกำรลงทุนใหม่ๆ ที่มี
มูลค่ำสูง.
(1) The organization ensures adequate financial resources are available to support
its operations. The organization assesses the financial risks associated with
your current operations and major new investments.
MBNQA 2005
(1) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำมีทรัพยำกรด้ำนกำรเงินเพียงพอต่อกำรสนับสนุ น
กำรดำเนิ นงำน? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรกำหนดทรัพยำกรที่จำเป็ นเพือ่ ให้เพียงพอต่อภำระ
ผูกพันทำงกำรเงินที่มีอยูในปัจจุบนั ? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้มนั ่ ใจว่ำทรัพยำกร
ดังกล่ำวมีเพียงพอเพือ่ สนับสนุ นกำรลงทุนในธุรกิจสำคัญใหม่ๆ? องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำร
ประเมินควำมเสีย่ งทำงกำรเงินเกี่ยวกับกำรดำเนิ นธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบนั และกำรลงทุนในธุรกิจ
สำคัญใหม่ๆ?
162
I - 6.2 ข. กำรวำงแผนดำเนิ นงำน
HA2006
(2) องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะดำเนิ นกำรได้อย่ำงต่อเนื่ องในภำวะฉุกเฉิ น.
(2) The organization ensures continuity of operations in the event of an
emergency.
MBNQA 2005
(2) องค์กรมีวธิ กี ำรอย่ำงไรในกำรทำให้มนั ่ ใจว่ำจะดำเนิ นกำรได้อย่ำงต่อเนื่ องในภำวะฉุกเฉิ น?
163
II-1.1 ก. ภำพรวมของกำรพัฒนำคุณภำพ : กำรสนับสนุ นจำกผูน้ ำ
มีกำรพัฒนำคุณภำพที่ประสำนสอดคล้องกันในทุกระดับ
ก. กำรสนับสนุ นจำกผูน้ ำ
(1) ผูน้ ำระดับสูงกำหนดนโยบำย เป้ ำประสงค์ และลำดับควำมสำคัญในเรื่องคุณภำพและควำมปลอดภัย
(2) ผูน้ ำระดับสูงสร้ำงหลักประกันว่ำบริกำรที่จดั ให้ผูป้ ่ วยมีควำมปลอดภัยและมีคุณภำพ
(3) ผูน้ ำทุกระดับให้กำรสนับสนุ น และติดตำมกำกับควำมพยำยำมในกำรพัฒนำคุณภำพและควำม
ปลอดภัย
(4) ผูน้ ำระดับสูงส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมของกำรมุ่งเน้นผูร้ บั ผลงำน กำรพัฒนำอย่ำงต่อเนื่ อง และกำร
เรียนรู ้
164
II-1.1 a. Quality Improvement Overview : Leadership Support
There is a concerted and coordinated effort for quality program at all levels
a. Leadership Support
(1) Senior leaders set policies, goals, and priorities for quality and safety.
(2) Senior leaders ensure the safety and quality of care provided
(3) Leadership at all levels support and monitor the safety and quality improvement efforts
(4) Senior leaders encourage culture of customer responsiveness, continuous improvement,
and learning.
165
II-1.1 ข. ภำพรวมของกำรพัฒนำคุณภำพ : กำรเชื่อมโยงและประสำนงำน
มีกำรพัฒนำคุณภำพที่ประสำนสอดคล้องกันในทุกระดับ
ก. กำรสนับสนุ นจำกผูน้ ำ
ข. กำรเชื่อมโยงและประสำนงำน
(1) มีกำรกำหนดควำมหมำยของคำว่ำ “ควำมเสีย่ ง” และ “คุณภำพ” ที่จะใช้ในกำรทำงำนของ
โรงพยำบำล
(2) โปรแกรมกำรบริหำรควำมเสีย่ ง ควำมปลอดภัย และคุณภำพ เป็ นส่วนหนึ่ งของแผนกลยุทธ์ขององค์กร
(3) มีกำรบูรณำกำรและประสำนโปรแกรมกำรบริหำรควำมเสี่ยง กำรประกันคุณภำพ ควำมปลอดภัยของ
ผูป้ ่ วย และกำรพัฒนำคุณภำพอย่ำงต่อเนื่ อง ในทุกขัน้ ตอนของกำรวำงแผน ดำเนิ นกำร และประเมินผล
(4) มีโครงสร้ำงคุณภำพที่มีประสิทธิผลและเหมำะสมกับองค์กรเพือ่ ประสำนและช่วยเหลือสนับสนุ นกำร
พัฒนำคุณภำพ
166
II-1.1 b. Quality Improvement Overview : Integration and Coordination
There is a concerted and coordinated effort for quality program at all levels
a. Leadership Support
b. Integration and Coordination
(1) The operating definitions for “risk” and “quality” of the hospital are determined.
(2) The risk, safety, and quality management program is a part of and aligns with the
organization’s strategic plan
(3) The risk management program, quality assurance program, patient safety program, and
continuous quality improvement program are integrated and coordinated at all steps of
planning, implementation and evaluation.
(4) An effective quality structure appropriate to the organization has been established up to
facilitate and coordinate the program.
167
II-1.1 ค. ภำพรวมของกำรพัฒนำคุณภำพ : กำรทำงำนเป็ นทีม
มีกำรพัฒนำคุณภำพที่ประสำนสอดคล้องกันในทุกระดับ
ก. กำรสนับสนุ นจำกผูน้ ำ
ข. กำรเชื่อมโยงและประสำนงำน
ค. กำรทำงำนเป็ นทีม
(1) มีกำรสือ่ สำรและกำรแก้ปญั หำที่ได้ผล ทัง้ ภำยในหน่ วยงำน/วิชำชีพ ระหว่ำงหน่ วยงำน/วิชำชีพ ระหว่ำง
ผูป้ ฏิบตั ิงำนกับผูบ้ ริหำร และระหว่ำงผูใ้ ห้บริกำรกับผูร้ บั บริกำร
(2) บุคลำกรร่วมมือกันให้บริกำรและดูแลผูป้ ่ วยที่มีคณ
ุ ภำพสูง โดยตระหนักในควำมรับผิดชอบของวิชำชีพ
ต่อควำมปลอดภัยของผูป้ ่ วย (ทีมในงำนปกติประจำ)
(3) องค์กรส่งเสริมให้มีทมี พัฒนำคุณภำพที่หลำกหลำย ทัง้ ทีมที่รวมตัวกันเองและทีมที่ได้รบั มอบหมำย ทีม
ภำยในหน่ วยงำนและทีมคร่อมสำยงำน/สหสำขำวิชำชีพ ทีมทำงด้ำนคลินิกและด้ำนอืน่ ๆ (ทีมพัฒนำ
คุณภำพ)
(4) องค์กรจัดให้มีทมี คร่อมสำยงำนหรือทีมสหสำขำวิชำชีพทำหน้ำที่ดูแลภำพรวมของกำรพัฒนำ กำหนด
ทิศทำง ให้กำรสนับสนุ น ติดตำมกำกับกำรพัฒนำคุณภำพและควำมปลอดภัยในด้ำนต่ำงๆ เช่น ทีมนำ
ทำงคลินิก ทีมที่รบั ผิดชอบระบบงำนสำคัญขององค์กร (ทีมกำกับดูแลภำพรวม)
168
II-1.1 c. Quality Improvement Overview : Team Work
There is a concerted and coordinated effort for quality program at all levels
a. Leadership Support
b. Integration and Coordination
c. Team Work
(1) There are effective communication and problem solving within work units, between
work units, between professions, between staff and management, and between staff and
patient/customer.
(2) The staffs collaboratively provide high quality care and service with safety conscious
and professional responsibility (team work in daily operation).
(3) Varieties of quality improvement teams are encouraged: both self-directed team and
commissioned team, both single unit team and cross-functional or multidisciplinary
team, both clinical and non-clinical team (quality improvement team).
(4) There are cross-functional or multidisciplinary oversight mechanisms to give direction,
support and monitor quality and safety initiatives, e.g. clinical lead team, system
specific team (team with oversight function).
169
II-1.1 ง. ภำพรวมของกำรพัฒนำคุณภำพ : กำรประเมินตนเอง
มีกำรพัฒนำคุณภำพที่ประสำนสอดคล้องกันในทุกระดับ
ก. กำรสนับสนุ นจำกผูน้ ำ
ข. กำรเชื่อมโยงและประสำนงำน
ค. กำรทำงำนเป็ นทีม
ง. กำรประเมินตนเอง
(1) มีกำรใช้เทคนิ คกำรประเมินผลในรูปแบบต่ำงๆ อย่ำงเหมำะสมเพือ่ ค้นหำโอกำสพัฒนำ ตัง้ แต่ใช้วธิ กี ำร
เชิงคุณภำพ ไปถึง กำรประเมินที่เป็ นระบบโดยใช้วธิ กี ำรเชิงปริมำณ หรือกำรวิจยั
(2) มีกำรประเมินผลโดยเปรียบเทียบกับควำมต้องกำรของผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงำน มำตรฐำนโรงพยำบำลและ
มำตรฐำนอืน่ ๆ เป้ ำหมำยและวัตถุประสงค์ขององค์กร/หน่ วยงำน ตัวเทียบในระดับชำติหรือระดับสำกล
ตำมควำมเหมำะสม
(3) กลไกกำรประเมินตนเอง ได้แก่ กำรแลกเปลี่ยนเรียนรู ้ กำรอภิปรำยกลุม่ กำรเขียนบันทึกควำมก้ำวหน้ำ
และแบบประเมินตนเอง กำรใช้ตวั ตำมรอยทำงคลินิก กำรเยี่ยมสำรวจหรือตรวจสอบภำยใน กำรนำเสนอ
เพือ่ รับฟังข้อวิพำกษ์ กำรทบทวนหลังกิจกรรม กำรติดตำมตัวชี้วดั
170
II-1.1 d. Quality Improvement Overview : Self-Assessment
There is a concerted and coordinated effort for quality program at all levels
a. Leadership Support
b. Integration and Coordination
c. Team Work
d. Self-Assessment
(1) A spectrum of evaluation techniques is used appropriately to identify opportunity for
improvement, i.e. from a qualitative method to a systematic quantitative method or
using research methodology.
(2) The comparison may be with the patient/customer requirement, the hospital standards
and other standard requirement, the goals and objective of the organization and work
units, the national or international benchmarks as appropriate.
(3) The mechanism of self-assessment may be share and learn, group discussion, writing a
port-folio or self-assessment form, clinical tracer, internal survey or internal audit,
presentation for peer assist, after action review, indicator monitoring
171
II - 1.2 ก. ระบบบริหำรควำมเสีย่ ง และควำมปลอดภัย
มีระบบบริหำรควำมเสีย่ ง ควำมปลอดภัย และคุณภำพ ของโรงพยำบำลที่มีประสิทธิผลและ
ประสำนสอดคล้องกัน รวมทัง้ กำรพัฒนำคุณภำพกำรดูแลผูป้ ่ วยในลักษณะบูรณำกำร
ก. ระบบบริหำรควำมเสีย่ งและควำมปลอดภัย
(1) มีกำรประสำนงำนและประสำนควำมร่วมมือที่ดีระหว่ำงโปรแกรมบริหำรควำมเสีย่ งต่ำงๆ รวมทัง้ กำรบูรณำ
กำรระบบสำรสนเทศเพือ่ กำรบริหำรควำมเสีย่ ง
(2) มีกำรค้นหำควำมเสีย่ งทำงด้ำนคลินิกและควำมเสีย่ งทัว่ ไป ในทุกหน่ วยงำนและในทุกระดับ จัดลำดับ
ควำมสำคัญ เพือ่ กำหนดเป้ ำหมำยควำมปลอดภัยและมำตรกำรป้ องกัน
(3) มีกำรกำหนดกลยุทธ์และมำตรกำรป้ องกันอย่ำงเหมำะสม สือ่ สำรและสร้ำงควำมตระหนักอย่ำงทัว่ ถึง
เพือ่ ให้เกิดกำรปฏิบตั ทิ ่ไี ด้ผล
(4) มีระบบรำยงำนอุบตั ิกำรณ์และเหตุกำรณ์เกือบพลำดที่เหมำะสม มีกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลและนำข้อมูลไปใช้
เพือ่ กำรประเมินผล ปรับปรุง เรียนรู ้ และวำงแผน
(5) มีกำรวิเครำะห์สำเหตุท่แี ท้จริง (root cause) เพือ่ ค้นหำปัจจัยเชิงระบบ ที่อยู่เบื้องหลัง และนำไปสูก่ ำร
แก้ปญั หำที่เหมำะสม.
(6) มีกำรประเมินประสิทธิผลของโปรแกรมบริหำรควำมเสี่ยงและควำมปลอดภัยอย่ำงสมำ่ เสมอ และนำไปสู่
กำรปรับปรุงให้ดีย่งิ ขึ้น
172
II-1.2 a. Risk and Safety Management System
There is an effective and coordinated hospital risk, safety, and quality
management system, including integrated approach for patient care
quality improvement.
a. Risk and Safety Management System
(1) There is an effective coordination and collaboration between various risk management
programs, including integration of risk management information system.
(2) Clinical and non-clinical risks are identified and prioritized at all work units and at all
levels to determine safety goals and prevention strategies.
(3) Prevention strategies and measures are carefully designed, thoroughly communicated
and made awareness for effective implementation
(4) An effective and appropriate incidence reporting system, including near miss event, is
established. Data is analyzed and used for evaluation, improvement, learning and
planning
(5) Root cause analysis is used to identify the underlying system factors contributed to the
adverse events and appropriate solutions are implemented accordingly.
(6) The effectiveness of the hospital risk and safety management program is evaluated
regularly and used for improvement.)
173
II - 1.2 ข. คุณภำพกำรดูแลผูป้ ่ วย
มีระบบบริหำรควำมเสีย่ ง ควำมปลอดภัย และคุณภำพ ของโรงพยำบำลที่มีประสิทธิผลและ
ประสำนสอดคล้องกัน รวมทัง้ กำรพัฒนำคุณภำพกำรดูแลผูป้ ่ วยในลักษณะบูรณำกำร
ก. ระบบบริหำรควำมเสีย่ งและควำมปลอดภัย
ข. คุณภำพกำรดูแลผูป้ ่ วย
(1) มีกำรทบทวนกำรให้บริกำรและกำรดูแลผูป้ ่ วย อย่ำงสมำ่ เสมอ เพือ่ ประเมินคุณภำพและค้นหำโอกำส
พัฒนำ
(2) ทีมดูแลผูป้ ่ วยกำหนดกลุม่ ประชำกรทำงคลินิก เป็ นเป้ ำหมำยที่จะพัฒนำ กำหนดเป้ ำหมำยและ
วัตถุประสงค์ในกำรดูแลและพัฒนำคุณภำพ.
(3) ทีมดูแลผูป้ ่ วยกำหนดตัวชี้วดั ที่เหมำะสมในกำรติดตำมกำกับผลกำรดูแลผูป้ ่ วยกลุม่ เป้ ำหมำย.
(4) ทีมดูแลผูป้ ่ วยใช้กจิ กรรมและวิธีกำรที่หลำกหลำยร่วมกันในกำรปรับปรุงกำรดูแลผูป้ ่ วย เช่น ควำมร่วมมือ
ของทีมสหสำขำวิชำชีพ วิถอี งค์รวม กำรใช้ขอ้ มูลวิชำกำร กำรวิเครำะห์ root cause นวัตกรรม กำร
เปรียบเทียบกับผูท้ ่ที ำได้ดีท่สี ดุ . กำรปรับปรุงกำรดูแลผูป้ ่ วยควรครอบคลุมทัง้ ในด้ำนกำรป้ องกัน สร้ำง
เสริม รักษำ ฟื้ นฟู.
174
II-1.2 b. Patient Care Quality
There is an effective and coordinated hospital risk, safety, and quality
management system, including integrated approach for patient care
quality improvement.
a. Risk and Safety Management System
b. Patient Care Quality
(1) Patient care and service are regularly reviewed to evaluate the quality of care and
identify opportunity for improvement.
(2) The healthcare teams identify clinical populations as targets for improvement, as well
as goals and objectives of patient care and improvement
(3) The healthcare teams use appropriate indicators to monitor performance of patient care
for the identified population.
(4) The teams use a concerted action and varieties of methods to improve patient care, e.g.
multidisciplinary approach, holistic approach, evidence-base approach, root cause
analysis, innovation and benchmarking. The improvement includes prevention,
promotion, curative and rehabilition dimension.
175
II – 2.1 ก. กำรบริหำรกำรพยำบำล
มีระบบบริหำรกำรพยำบำลรับผิดชอบต่อกำรจัดบริกำรพยำบำลที่มีคณ
ุ ภำพสูง เพือ่ บรรลุพนั ธกิจขององค์กร
ก. กำรบริหำรกำรพยำบำล
(1) ผูน้ ำทีมกำรพยำบำลทุกระดับเป็ นพยำบำลวิชำชีพที่มีควำมรู ้ ควำมสำมำรถ และประสบกำรณ์เพียงพอ ทัง้ ในด้ำน
ปฏิบตั ิกำรพยำบำล และด้ำนบริหำรกำรพยำบำล.
(2) ระบบบริหำรกำรพยำบำลสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะมีบคุ ลำกรทำงกำรพยำบำลที่มีควำมรูค้ วำมสำมำรถ และปริมำณ
เพียงพอ สำหรับบริกำรที่องค์กรจัดให้มี.
(3) ระบบบริหำรกำรพยำบำลมีโครงสร้ำงและกลไกที่ทำหน้ำที่สำคัญต่อไปนี้ อย่ำงได้ผล : กำรกำกับดูแลมำตรฐำนและ
จริยธรรมของผูป้ ระกอบวิชำชีพ, กำรนิ เทศ/กำกับดูแล และส่งเสริมกำรพัฒนำคุณภำพและควำมปลอดภัยในกำร
ดูแลผูป้ ่ วย, กำรส่งเสริมกำรใช้กระบวนกำรพยำบำล, กำรส่งเสริมกำรตัดสินใจทำงคลินิกและกำรใช้เทคโนโลยีท่ี
เหมำะสม, กำรควบคุมดูแลกำรปฏิบตั ิงำนของบุคลำกรทำงกำรพยำบำลที่อยู่ระหว่ำงกำรฝึ กอบรม, กำรจัดกำร
ควำมรูแ้ ละกำรวิจยั เพือ่ ส่งเสริมกำรพัฒนำวิชำชีพ.
(4) ระบบบริหำรกำรพยำบำลประสำนควำมร่วมมือกับคณะกรรมกำรระดับองค์กรที่เกี่ยวกับกำรใช้ยำ กำรควบคุมกำร
ติดเชื้อ กำรสร้ำงเสริมสุขภำพ คุณภำพและควำมปลอดภัย.
(5) กำรบริหำรควำมเสีย่ ง กำรบริหำรควำมปลอดภัย และกำรบริหำรคุณภำพของปฏิบตั ิกำรพยำบำลสอดคล้องและ
สนับสนุ นเป้ ำหมำย/วัตถุประสงค์ขององค์กร และมำตรฐำนจริยธรรมวิชำชีพ.
(6) มีกำรประเมินกำรบรรลุเป้ ำหมำยของปฏิบตั ิกำรพยำบำลในองค์ประกอบด้ำนควำมปลอดภัยของผูป้ ่ วย กำรบรรเทำ
จำกควำมทุกข์ทรมำน กำรได้รบั ข้อมูลและกำรเรียนรูข้ องผูร้ บั บริกำร ควำมสำมำรถในกำรดูแลตนเอง กำรเสริม
พลัง ควำมพึงพอใจ และนำผลกำรประเมินไปใช้ปรับปรุงปฏิบตั ิกำรพยำบำล.
176
II-2.1 a. Nursing Administration
There is an organized nursing administration, responsible for high quality
nursing service and accountability to fulfill the mission of the organization.
a. Nursing Administration
(1) Nursing leadership at all level is responsible by qualified registered nurses with
experience on both nursing practice and nursing administration.
(2) The nursing administration ensures adequate and competent nursing staff for the service
provided.
(3) The nursing administration effectively carries out these key functions: -oversight of
professional standards and ethics -supervision, monitoring, and encouraging
improvement in quality and safety for patient care -encouraging the use of nursing
process -support appropriate clinical decision making and use of technology supervision of nursing staff in training
-knowledge management and research for
professional development
(4) The nursing administration work collaboratively with the organization committee on
medication use, infection control, health promotion, quality and safety
(5) The risk, safety, and quality management in nursing care aligns with and supports the
organization goals and objectives, professional standards and ethics.
(6) The goals of patient safety, relief from suffering, being informed and learning, self-care,
empowerment and satisfaction are used for evaluation and improvement of nursing care.
177
II – 2.1 ข. ปฏิบตั กิ ำรพยำบำล
มีระบบบริหำรกำรพยำบำลรับผิดชอบต่อกำรจัดบริกำรพยำบำลที่มีคณ
ุ ภำพสูง เพื่อบรรลุพนั ธ
กิจขององค์กร
ก. กำรบริหำรกำรพยำบำล
ข. ปฏิบตั กิ ำรพยำบำล
(1) พยำบำลใช้กระบวนกำรพยำบำลในกำรดูแลบุคคล ครอบครัว และชุมชน เพือ่ ให้บริกำรที่มีคณ
ุ ภำพสูง
เบ็ดเสร็จผสมผสำน และเป็ นองค์รวม โดยมีกำรประสำนควำมร่วมมือกับวิชำชีพอืน่
(2) พยำบำลให้กำรพยำบำลด้วยควำมเคำรพในสิทธิผูป้ ่ วยและจริยธรรมวิชำชีพ
(3) พยำบำลให้กำรพยำบำลบนพื้นฐำนของศำสตร์ทำงกำรพยำบำลและศำสตร์ท่เี กี่ยวข้องที่ทนั สมัย มีกำร
ติดตำมประเมินผลอย่ำงเป็ นระบบ และมีกำรปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่ อง
(4) พยำบำลให้กำรดูแลที่สอดคล้องกับภำวะสุขภำพ วิถชี ีวติ และบริบททำงสังคม ของผูร้ บั บริกำรอย่ำง
ต่อเนื่ อง, โดยมีกำรวำงแผนกำรดูแลต่อเนื่ องตัง้ แต่แรกรับจนหลังจำหน่ ำยร่วมกับทีมสุขภำพ และ
ผูร้ บั บริกำร/ครอบครัว, เพือ่ พัฒนำศักยภำพของผูร้ บั บริกำรในกำรดูแลตนเอง ควบคุมปัจจัยเสีย่ ง และ
สำมำรถใช้แหล่งประโยชน์ในกำรดูแลตนเองอย่ำงเหมำะสม
(5) บันทึกทำงกำรพยำบำลแสดงถึงกำรพยำบำลผูร้ บั บริกำรแบบองค์รวม ต่อเนื่ อง และเป็ นประโยชน์ในกำร
สือ่ สำร กำรดูแลต่อเนื่ อง กำรประเมินคุณภำพกำรพยำบำล และกำรวิจยั
178
II-2.1 a. Nursing Practice
There is an organized nursing administration, responsible for high quality
nursing service and accountability to fulfill the mission of the organization.
a. Nursing Administration
b. Nursing Practice
(1) The nursing staffs, in collaboration with other professionals, use nursing processes to
provide high quality, comprehensive and holistic nursing care to individuals, families,
and communities.
(2) The nursing staffs provide nursing care with respect to the patient’s right and
professional ethics.
(3) The nursing staffs provide nursing care on the basis of updated nursing standards and
relevant scientific evidence, with systematic monitoring, evaluation and continuous
improvement.
(4) The nursing staffs provide a continuum of care according to the patient’s need, lifestyle
and social context; plan for continuum of care with healthcare team and clients/families;
from entry to after discharge, to enable patients and families for self-care and control of
risk factors, and use resources for appropriate self-care.
(5) The nursing record reflects the holistic and continuum of nursing care and is useful for
communication, continuum of care, evaluation of nursing care quality, and research.
179
II - 2.2 แพทย์
มีกำรจัดตัง้ องค์กรแพทย์ รับผิดชอบต่อกำรส่งเสริมและกำกับดูแลมำตรฐำนและจริยธรรมของผูป้ ระกอบวิชำชี พแพทย์ เพื่อบรรลุ
พันธกิจขององค์กร
(1) มีกำรจัดตัง้ องค์กรแพทย์ในระดับโรงพยำบำลเพื่อสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะให้บริกำรทำงกำรแพทย์ท่มี ีคุณภำพสูงและด้วยควำม
รับผิดชอบแห่งวิชำชีพ.
(2) องค์กรแพทย์ให้คำปรึกษำ ข้อเสนอแนะและร่วมวำงแผนกับผูบ้ ริหำรเกี่ยวกับกำรจัดบริกำรทำงกำรแพทย์และสำธำรณสุขที่มี
คุณภำพสูง.
(3) องค์กรแพทย์สร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำกำรให้บริกำรทำงกำรแพทย์อยูบ่ นพื้นฐำนของกำรใช้หลักฐำนทำงวิทยำศำสตร์และมำตรฐำน
วิชำชีพ มีกำรติดตำมกำกับและกำรพัฒนำคุณภำพอย่ำงต่อเนื่ อง เคำรพในสิทธิผูป้ ่ วยและเป็ นไปตำมจริยธรรมวิชำชีพ.
(4) มีโครงสร้ำงและกลไกเพื่อส่งเสริมกำรติดต่อสื่อสำรและกำรแก้ปญั หำภำยในวิชำชีพแพทย์ ระหว่ำงแพทย์กบั ผูป้ ฏิบตั ิงำนหรือ
หน่ วยงำนอืน่ และระหว่ำงแพทย์กบั ผูร้ บั บริกำร.
(5) องค์กรแพทย์ทำหน้ำที่สำคัญต่อไปนี้ อย่ำงได้ผล: กำรตรวจสอบและประเมินคุณสมบัติของแพทย์, กำรกำหนดสิทธิกำรดูแล
รักษำผูป้ ่ วยของแพทย์แต่ละคน เพื่อเป็ นหลักประกันว่ำแพทย์ปฏิบตั ิงำนที่ตนเองมีควำมชำนำญ, กำรศึกษำต่อเนื่ องของ
แพทย์ และกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู,้ กำรกำกับดูแลมำตรฐำนและจริยธรรมของผูป้ ระกอบวิชำชีพ, กำรกำกับดูแลกำรทบทวน
และพัฒนำคุณภำพกำรดูแลผูป้ ่ วย, กำรกำกับดูแลคุณภำพเวชระเบียน, กำรส่งเสริมกำรตัดสินใจทำงคลินิกและกำรใช้
เทคโนโลยีท่ีเหมำะสม, กำรกำหนดหรือรับรองนโยบำยที่เกี่ยวกับกำรดูแลผูป้ ่ วย, กำรควบคุมดูแลกำรปฏิบตั ิงำนของแพทย์ท่ี
อยูร่ ะหว่ำงกำรฝึ กอบรม และแพทย์เวรที่ไม่ใช่แพทย์ประจำ.
(6) องค์กรแพทย์ประสำนควำมร่วมมือกับคณะกรรมกำรระดับองค์กรที่เกี่ยวกับกำรใช้ยำ กำรควบคุมกำรติดเชื้อ กำรสร้ำงเสริม
สุขภำพ คุณภำพและควำมปลอดภัย.
(7) มีขอ้ ตกลงและแนวทำงปฏิบตั ิในกำรทำงำนของแพทย์ท่ีทกุ คนยึดถือและนำไปปฏิบตั ิ ครอบคลุมเรื่องของกำรประกอบวิชำชีพ
เวชกรรม , ประเด็นทำงจริยธรรม/กฎหมำย/สังคม, คุณภำพและควำมปลอดภัย, กำรพัฒนำควำมรูค้ วำมสำมำรถ, บันทึกและ
กำรจัดทำเอกสำร.
180
II - 2.2 Medical Staff
There is an organized medical staff organization, responsible for supporting and
oversight of standard and ethical practice of medical professional to fulfill the
mission of the organization.
(1) The medical staffs are organized at the hospital level to ensure high quality professional
practices and accountability.
(2) The medical staff organization gives advice, suggestion, and collaboratively plans with
the management on the provision of high quality medical and public health services.
(3) The medical staff organization ensures the provision of medical services based on
scientific evidence and professional standards, with continuous monitoring and
improvement of quality, and respect to the patient’s rights and professional ethics.
(4) Structure and mechanism to support communication and problem solving within the
medical professional, between physicians and other professionals or other units,
between physician and clients is established.
(5) The medical staff organization effectively carries out these key functions: credentialing,
granting of clinical privileges, continuing medical education and knowledge sharing,
oversight of professional standards and ethics, oversight of patient care quality review
and improvement, ensure medical record quality, support appropriate clinical decision
making and use of technology, patient care policy development or endorsement,
supervision of physician in training and part-time on call physician.
(6) The medical staff organization work collaboratively with the organization committee
on medication use, infection control, health promotion, quality and safety.
(7) Agreements and guidelines for physician are established and followed, including
medical practices, ethical/legal/social issues, quality and safety, competency
development, documentation.
181
II- 4.1 ก. ระบบงำนป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อ : กำรออกแบบระบบงำน
ระบบกำรป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อ เพื่อลดควำมเสีย่ งของกำรติดเชื้อในผูป้ ่ วยและ
บุคลำกร มีกำรประสำนในลักษณะที่เหมำะสมกับองค์กรที่มีกำรประสำนงำนระหว่ำง
ผูเ้ กี่ยวข้อง
ก. กำรออกแบบระบบงำน
(1) มีกำรกำหนดเป้ ำประสงค์ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์ และมำตรกำรในกำรป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อที่
เหมำะสมกับขนำดขององค์กร บริกำรที่จดั และผูป้ ่ วยที่ให้บริกำร
(2) มีกำรกำหนดกำรติดเชื้อที่มีควำมสำคัญทำงระบำดวิทยำ รวมทัง้ ตำแหน่ งที่มีกำรติดเชื้อ และอุปกรณ์ท่ี
เกี่ยวข้อง เพือ่ เป็ นจุดเน้นของกำรป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อในโรงพยำบำล
(3) ระบบกำรป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้ออยู่บนพื้นฐำนของควำมรูท้ ำงวิทยำศำสตร์ท่ที นั สมัย กำรปฏิบตั ิซ่ึง
เป็ นที่ยอมรับ เป็ นไปตำมข้อกำหนดในกฎหมำย และจัดทำแนวทำงปฏิบตั ิไว้เป็ นลำยลักษณ์อกั ษร
(4) ระบบป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อครอบคลุมทุกพื้นที่ท่ใี ห้บริกำรแก่ผูป้ ่ วย บุคลำกร และผูม้ ำเยือน
(5) กระบวนกำรควบคุมกำรติดเชื้อเชื่อมประสำนเป็ นส่วนหนึ่ งของระบบงำนพัฒนำคุณภำพและควำม
ปลอดภัยขององค์กรโดยรวม
(6) มีกำรประสำนกระบวนกำรป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อ ซึ่งได้รบั กำรนำไปปฏิบตั ิโดยบุคลำกรทุกคนทัว่
ทัง้ องค์กรอย่ำงสมำ่ เสมอ และอำจรวมถึงบ้ำนของผูป้ ่ วย
182
II - 4.1 a. Infection Prevention and Control Program: Program Design
The organization designs and implements a coordinated program to reduce
the risks of nosocomial infections in patients and staffs that is appropriate
to the organization.
a. Program Design
(1) The goals, objectives, strategies and measures of the infection control program
appropriate to the organization’s size, service and patients are established.
(2) Epidemiologically important infections, infectious site and associated devices that will
provide the focus of the nosocomial infection prevention and control are identified.
(3) The infection control program is based on current scientific knowledge, accepted
practice, meets legal requirements and is documented in policies and procedures.
(4) All areas of the organization that serve patients, staff and visitor are included in the
infection control program.
(5) The infection control process is integrated with the organization’s overall program for
quality improvement and safety.
(6) The processes for preventing and controlling infections are coordinated and
consistently carried out by all staff across the organization and the patients’ homes, if
applicable.
183
II- 4.1 ข. ระบบงำนป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อ : กำรจัดกำรทรัพยำกร
ระบบกำรป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อ เพือ่ ลดควำมเสีย่ งของกำรติดเชื้อในผูป้ ่ วยและบุคลำกร มี
กำรประสำนในลักษณะที่เหมำะสมกับองค์กรที่มีกำรประสำนงำนระหว่ำงผูเ้ กี่ยวข้อง
ก. กำรออกแบบระบบงำน
ข. กำรจัดกำรและทรัพยำกร
(1) มีบคุ คลหรือคณะกรรมกำรได้รบั มอบให้ทำหน้ำที่กำกับดูแลระบบงำน กำหนดนโยบำยและมำตรกำร กำร
วำงแผน ประสำนงำน และติดตำมประเมินผลกำรดำเนิ นงำนรวมทัง้ กำรปฏิบตั ติ ำมนโยบำย
(2) มีพยำบำลควบคุมกำรติดเชื้อ (ICN ) ในจำนวนที่เหมำะสมกับจำนวนเตียงของโรงพยำบำล ทำหน้ำที่
รับผิดชอบกำรดำเนิ นงำนระบบป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อ ผูท้ ำหน้ำที่น้ ี มีคณ
ุ สมบัติท่เี หมำะสมผ่ำน
กำรศึกษำ ฝึ กอบรม ประสบกำรณ์ และมีกำรกำหนดบทบำทที่ชดั เจน โดยมีอำนำจที่จะใช้มำตรกำร
ควบคุมกำรติดเชื้อหรือดำเนิ นกำรศึกษำเมื่อรับรูว้ ่ำจะมีอนั ตรำยเกิดขึ้นกับผูป้ ่ วยหรือบุคลำกรของ
โรงพยำบำล
(3) มีทรัพยำกรที่เพียงพอสำหรับกำรป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อ
(4) ระบบสำรสนเทศขององค์กรสนับสนุ นระบบป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อ
(5) บุคลำกรได้รบั อบรมควำมรูอ้ ย่ำงต่อเนื่ องเกี่ยวกับควำมเสีย่ งของกำรติดเชื้อ นโยบำยขององค์กร และ
บทบำทของบุคลำกรในกำรป้ องกันกำรติดเชื้อ
(6) มีกำรให้ขอ้ มูลและเสริมพลังแก่ครอบครัว/ชุมชน ถึงวิธกี ำรลดควำมเสีย่ งในกำรติดเชื้อและป้ องกันกำร
แพร่กระจำยเชื้อในครัวเรือน/ชุมชน
184
II - 4.1 b. Infection Prevention and Control Program : Management & Resources
The organization designs and implements a coordinated program to reduce
the risks of nosocomial infections in patients and staffs that is appropriate
to the organization.
a. Program Design
b. Management and Resources
(1) A designated individual or committee, as appropriate to the organization, is responsible
for oversight of the program, policy and recommendation development, planning,
coordination, monitoring and evaluation.
(2) One or more individuals (ICN), as appropriate to the number of hospital beds, is/are
responsible for implementing the infection prevention and control program. This
individual(s) is qualified in infection control practices through education, training, or
experience, and has a clear role definition. The ICN(s) have written authority to
institute infection control measures or studies when there is a perceived danger to the
patients or hospital staffs.
(3) There are adequate resources to prevent and control infections.
(4) The organization information systems support the infection control program.
(5) Staff members are educated on an ongoing basis about the risks of infection, the
organization policies, and their role in preventing infections.
(6) Activities that educate and empower the family/community how to reduce the risk of
infection and prevent infections from spreading in the household/community are
established.
185
II- 4.2 กำรป้ องกันกำรติดเชื้อ
องค์กรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำมีกระบวนกำรและทรัพยำกรที่เหมำะสมสำหรับกำรป้ องกันกำรติดเชื้อใน
โรงพยำบำล และจัดกำรกับสถำนกำรณ์ท่มี ีกำรระบำดของกำรติดเชื้อในโรงพยำบำล.
ก. กำรป้ องกันกำรติดเชื้อ
(1) มีกำรระบุควำมเสีย่ งจำกกำรติดเชื้อในหัตถกำรและกระบวนกำรต่ำงๆ และมีกำรดำเนิ นกำรตำมกลยุทธ์เพือ่ ลด
ควำมเสีย่ งจำกกำรติดเชื้อดังต่อไปนี้ : กำรใช้ standard precautions และ isolation precautions, กำร
ทำควำมสะอำด กำรทำลำยเชื้อ และกำรทำให้ปรำศจำกเชื้อ, กำรจัดกำรกับสิง่ ที่ปนเปื้ อนเชื้อโรค, กำรส่งเสริมกำร
ล้ำงมือและสุขอนำมัยของบุคคล.
(2) มีกำรควบคุมสิง่ แวดล้อมเพือ่ ลดควำมเสีย่ งในกำรแพร่กระจำยและกำรปนเปื้ อนในสิง่ แวดล้อม, กำรจัดโครงสร้ำง
กำรระบำยอำกำศ และบำรุงรักษำอำคำรสถำนที่เพือ่ ป้ องกันกำรแพร่กระจำยสิง่ ปนเปื้ อนและเชื้อโรค, กำรจัดให้มี
สถำนที่และสิง่ อำนวยควำมสะดวกในกำรล้ำงมือ กำรทำควำมสะอำด และกำรแยกบริเวณใช้งำนที่สะอำดจำก
บริเวณปนเปื้ อน.
(3) มีกำรระบุพ้ นื ที่ทำงำนที่ตอ้ งใส่ใจในกำรป้ องกันและควบคุมกำรติดเชื้อ และดำเนิ นกำรเพือ่ ลดควำมเสี่ยงต่อกำรติด
เชื้อ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในพื้นที่ต่อไปนี้ : ห้องผ่ำตัด, ห้องคลอด, หอผูป้ ่ วยวิกฤติ, หน่ วยซักฟอก, หน่ วยจ่ำยกลำง,
โรงครัว, หน่ วยกำยภำพบำบัด, ห้องเก็บศพ
(4) มีกำรดำเนิ นกำรเพือ่ ลดควำมเสีย่ งของกำรติดเชื้อที่สำคัญขององค์กร เช่น กำรติดเชื้อแผลผ่ำตัด กำรติดเชื้อระบบ
ทำงเดินหำยใจ กำรติดเชื้อระบบทำงเดินปัสสำวะ กำรติดเชื้อจำกกำรให้สำรน้ ำและกำรติดเชื้อในกระแสเลือด
(5) มีนโยบำยและวิธีปฏิบตั ิในกำรดูแลผูป้ ่ วยที่ติดเชื้อซึ่งติดต่อได้ทำงโลหิตและผูป้ ่ วยที่มีภมู ิตำ้ นทำนตำ่ กำรจัดกำรกับ
กำรติดเชื้อที่ด้ อื ยำและกำรติดเชื้อที่อบุ ตั ิข้ ึนใหม่
186
II - 4.2 Infection Prevention
The organization ensures appropriate processes and resources to prevent
nosocomial infection and manage nosocomial outbreak. situations.
(1) Procedures and processes associated with the risk of infection are identified and
strategies implemented to reduce infection risk: standard precautions and isolation
precautions; cleaning, disinfecting, and sterilization; handling, storing, and disposing of
infectious material; promoting hand washing and personal hygiene.
(2) The organization establishes an environment control to minimize the risk of infection
transmission and contamination of the environment:. building structure, ventilation, and
maintenance to prevent the spread of contaminants and infection; physical setting and
facilities for hand washing, cleaning, and separation of clean and dirty utility area.
(3) Working areas with unique infection control concerns are identified and strategies
implemented to reduce infection risk, especially in these area: operating room, labour
room, ICU/critical care unit, laundry, CSSD, kitchen, physical therapy, postmortem
area.
(4) Programs are implemented to minimize risk of certain important infection of the
organization, e.g. surgical site infection, respiratory tract infection, urinary tract
infection, IV infection and bloodstream infection.
(5) There are policies and procedures for dealing with blood-borne infected patients, low
immune patients, resistant bacteria, and emerging infection.
187
II - 8 งำนบริกำรโลหิต (Blood Bank Service)
องค์กรนำมำตรฐำนธนำคำรเลือดและงำนบริกำรโลหิต ที่จดั ทำโดยศูนย์บริกำรโลหิตแห่งชำติ
สภำกำชำดไทย มำเป็ นแนวทำงในกำรปฏิบตั ิ
The organization complies with the Standard of Blood Banking and Blood
Transfusion issued by the National Blood Service, Thai Red Cross Society.
188
II-9.1 Health Promotion for the Community
The healthcare team, in collaboration with the community, provides health
promotion program to meet the need of the communities it serves.
(1) The healthcare team defines communities it serves, assesses the needs and capabilities
of the communities it serves, and identifies key target groups.
(2) The healthcare team, in collaboration with the community, plans and designs its health
promotion services to meet the need and problem of the communities.
(3) The healthcare team, in collaboration with other providers and organizations, carries
out health promotion program for the communities.
(4) The healthcare team evaluates and improves health promotion program for the
communities.
189
II- 9.1 กำรจัดบริกำรสร้ำงเสริมสุขภำพสำหรับชุมชน
ทีมผูใ้ ห้บริกำรโดยควำมร่วมมือกับชุมชนจัดให้มีบริกำรสร้ำงเสริมสุขภำพที่สนองตอบต่อ
ควำมต้องกำรของชุมชนที่รบั ผิดชอบ
(1) ทีมผูใ้ ห้บริกำรกำหนดชุมชน ที่รบั ผิดชอบ ประเมินควำมต้องกำร ศักยภำพของชุมชน และกำหนด
กลุม่ เป้ ำหมำยสำคัญในชุมชน
(2) ทีมผูใ้ ห้บริกำรวำงแผนและออกแบบบริกำรสร้ำงเสริมสุขภำพร่วมกับชุมชนเพือ่ ตอบสนองควำมต้องกำร
และปัญหำของชุมชน
(3) ทีมผูใ้ ห้บริกำรจัดบริกำรสร้ำงเสริมสุขภำพสำหรับชุมชน โดยร่วมมือกับองค์กรและผูใ้ ห้บริกำรอืน่ ๆ
(4) ทีมผูใ้ ห้บริกำรติดตำมประเมินผลและปรับปรุงบริกำรสร้ำงเสริมสุขภำพในชุมชน.
190
II-9.1 Health Promotion for the Community
The healthcare team, in collaboration with the community, provides health
promotion program to meet the need of the communities it serves.
(1) The healthcare team defines communities it serves, assesses the needs and capabilities
of the communities it serves, and identifies key target groups.
(2) The healthcare team, in collaboration with the community, plans and designs its health
promotion services to meet the need and problem of the communities.
(3) The healthcare team, in collaboration with other providers and organizations, carries
out health promotion program for the communities.
(4) The healthcare team evaluates and improves health promotion program for the
communities.
191
II- 9.2 กำรเสริมพลังชุมชน
ทีมผูใ้ ห้บริกำรทำงำนร่วมกับชุมชนเพื่อสนับสนุ นกำรพัฒนำควำมสำมำรถของชุมชนในกำร
ปรับปรุงสุขภำพและควำมเป็ นอยู่ท่ดี ีของชุมชน
(1) องค์กรส่งเสริมกำรมีสว่ นร่วม กำรสร้ำงเครือข่ำย และกำรเป็ นหุน้ ส่วน ที่เข้มแข็งของชุมชน
(2) องค์กรมีสว่ นร่วมในกำรชี้แนะและสนับสนุ นนโยบำยสำธำรณะเพือ่ สุขภำพด้วยกำรสร้ำงควำมสัมพันธ์
ร่วมมือกับผูเ้ กี่ยวข้อง และแลกเปลี่ยนสำรสนเทศอย่ำงต่อเนื่ อง
(3) องค์กร ร่วมมือกับชุมชน ส่งเสริมควำมสำมำรถ ของกลุม่ ต่ำงๆ ในชุมชนเพือ่ ดำเนิ นกำรแก้ปญั หำที่ชมุ ชน
ให้ควำมสำคัญ
(4) องค์กร ร่วมมือกับชุมชน ส่งเสริมพฤติกรรมและทักษะสุขภำพส่วนบุคคล (รวมถึงควำมรู ้ เจตคติ ควำม
เชื่อ ค่ำนิ ยม) ซึ่งมีควำมสำคัญต่อสุขภำพของแต่ละคน
(5) องค์กร ร่วมมือกับชุมชน ส่งเสริมให้มีสง่ิ แวดล้อมทำงกำยภำพในชุมชนที่เอื้อต่อกำรมีสขุ ภำพดี
(6) องค์กร ร่วมมือกับชุมชน ส่งเสริมให้มีบริกำรช่วยเหลือทำงสังคม และสร้ำงสิง่ แวดล้อมทำงสังคมที่เอื้อต่อ
กำรมีสขุ ภำพดี
192
II-9.2 Community Empowerment
The healthcare team works with the community to support the development
of the community’s capacities to improve its own health and well-being.
(1) The organization promotes participation, mobilizes the network, and strengthens
partnership with the community.
(2) The organization takes part in advocating healthy public policy through binding
engagement of key persons and information exchange.
(3) The organization, in collaboration with the communities, promotes the ability of
population groups to find solutions for key problems identified by the communities.
(4) The organization, in collaboration with the communities, promotes individual healthrelated behavior and life skills (including knowledge, attitude, beliefs, values) that are
significant for one’s own health.
(5) The organization, in collaboration with the communities, promotes physical
environment conducive for health in the community.
(6) The organization, in collaboration with the communities, promotes social support
services and social climate conducive for health.
193
III-1. กำรเข้ำถึงและเข้ำรับบริกำร
ทีมผูใ้ ห้บริกำรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำผูร้ บั บริกำรสำมำรถเข้ำถึงบริกำรที่จำเป็ นได้งำ่ ย,
กระบวนกำรรับผูป้ ่ วยเหมำะกับปัญหำสุขภำพ/ควำมต้องกำรของผูป้ ่ วย ทันเวลำ ภำยใต้
ระบบและสิง่ แวดล้อมที่เหมำะสมและมีประสิทธิผล.
(1) ทีมผูใ้ ห้บริกำรพยำยำมลดอุปสรรคต่อกำรเข้ำถึงบริกำร ในด้ำนกำยภำพ ภำษำ วัฒนธรรม และอุปสรรค
อืน่ ๆ. ทีมผูใ้ ห้บริกำรตอบสนองต่อผูร้ บั บริกำรอย่ำงรวดเร็ว.
(2) ผูป้ ่ วยที่จำเป็ นต้องได้รบั กำรดูแลฉุกเฉิ นหรือเร่งด่วนได้รบั กำรประเมินและดูแลรักษำเป็ นอันดับแรก.
(3) มีกำรประเมินควำมสำมำรถในกำรรับผูป้ ่ วยไว้ดูแลตำมเกณฑ์ท่กี ำหนดไว้. ถ้ำไม่สำมำรถให้บริกำรแก่
ผูป้ ่ วยได้ ทีมผูใ้ ห้บริกำรจะให้ควำมช่วยเหลือเบื้องต้นอย่ำงเหมำะสม อธิบำยเหตุผลที่ไม่สำมำรถรับไว้
และช่วยเหลือผูป้ ่ วยในกำรหำสถำนบริกำรสุขภำพ.
(4) กำรรับย้ำยหรือรับเข้ำหน่ วยบริกำรวิกฤตหรือหน่ วยบริกำรพิเศษเป็ นไปตำมเกณฑ์ท่ีกำหนดไว้.
(5) ในกำรรับผูป้ ่ วยไว้ดูแล, มีกำรให้ขอ้ มูลที่เหมำะสมเกี่ยวกับสภำพกำรเจ็บป่ วย กำรดูแลที่จะได้รบั ผลลัพธ์
และค่ำใช้จำ่ ยที่คำดว่ำจะเกิดขึ้น แก่ผูป้ ่ วย/ครอบครัว อย่ำงชัดเจนและเข้ำใจง่ำย. มีกระบวนกำรขอ
ควำมยินยอมจำกผูป้ ่ วย/ครอบครัวก่อนที่จะให้บริกำรหรือกระทำหัตถกำรสำคัญ และสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำ
ผูป้ ่ วย/ครอบครัว ได้รบั ข้อมูลที่จำเป็ นอย่ำงเพียงพอด้วยควำมเข้ำใจ มีเวลำที่จะพิจำรณำก่อนตัดสินใจ
และมีกำรบันทึกที่เหมำะสม.
194
III-1. Access and Entry
The healthcare team ensures access to essential services with minimal barrier;
ensures that an entry process is timely, meets patient problems/needs and is
supported by suitable and effective systems and environment.
(1) The healthcare team seeks to reduce physical, language, cultural, and other barriers to
access of services. The healthcare team responds promptly to those who ask for
services.
(2) Patients with emergency or immediate needs are given priority for assessment and
treatment.
(3) Capability to offer services or accept patient is determined, using the established
criteria. If the healthcare team cannot provide services to the patient, it provides
appropriate initial care, explains the reasons why, help patients find other more
appropriate services.
(4) Transfer to of entry to units providing intensive or specialized services is determined by
established criteria.
(5) At admission, patients/families are given clear, understandable and appropriate
information about their conditions, the proposed care, the expected results of that care,
any expected cost. Informed consent is obtained before starting any service or
intervention, ensuring that patients/families receive and understand necessary
information, and proper records are made.
195
III - 2. ก. กำรประเมินผูป้ ่ วย
ผูป้ ่ วยทุกรำยได้รบั กำรประเมินควำมต้องกำรและปัญหำสุขภำพอย่ำงถูกต้อง ครบถ้วน และ
เหมำะสม.
ก. กำรประเมินผูป้ ่ วย
(1) มีกำรประเมินผูป้ ่ วยครอบคลุมรอบด้ำนและประสำนงำนกันเพือ่ ลดควำมซ้ำซ้อน, ผูป้ ระกอบวิชำชีพที่
รับผิดชอบดูแลผูป้ ่ วยร่วมมือกันวิเครำะห์และเชื่อมโยงผลกำรประเมิน. มีกำรระบุปญั หำและควำม
ต้องกำรที่เร่งด่วนและสำคัญ.
(2) กำรประเมินแรกรับของผูป้ ่ วยแต่ละรำยประกอบด้วย ประวัติสขุ ภำพ กำรตรวจร่ำงกำย ควำมต้องกำร/
ควำมคำดหวังของผูป้ ่ วย กำรประเมินปัจจัยด้ำนจิตใจ สังคม เศรษฐกิจ
(3) วิธกี ำรประเมินที่เหมำะสมกับผูป้ ่ วยแต่ละรำย ภำยใต้สง่ิ แวดล้อมที่ปลอดภัยและทรัพยำกรที่เพียงพอ .
มีกำรใช้แนวทำงปฏิบตั ทิ ำงคลินิกที่เหมำะสมกับผูป้ ่ วยและทรัพยำกรเพือ่ ชี้นำกำรประเมินผูป้ ่ วย ถ้ำมี
แนวทำงดังกล่ำว. ผลกำรประเมินผูป้ ่ วยที่ทำจำกสถำนพยำบำลอืน่ ได้รบั กำรสอบทวนเมื่อรับผูป้ ่ วย.
(4) ผูป้ ่ วยได้รบั กำรประเมินภำยในเวลำที่กำหนดโดยองค์กร. มีกำรบันทึกผลกำรประเมินในเวชระเบียน
ผูป้ ่ วยและพร้อมที่จะให้ผูเ้ กี่ยวข้องในกำรดูแลได้ใช้ประโยชน์จำกกำรประเมินนั้น.
(5) ผูป้ ่ วยทุกรำยได้รบั กำรประเมินซ้ำตำมช่วงเวลำที่เหมำะสม เพือ่ ประเมินกำรตอบสนองต่อกำรดูแลรักษำ.
(6) ทีมผูใ้ ห้บริกำรอธิบำยผลกำรประเมินให้แก่ผูป้ ่ วยและครอบครัวด้วยภำษำที่ชดั เจนและเข้ำใจง่ำย.
196
III - 2. a. Patients Assessment
All patients have their healthcare needs and problems identified through an
established assessment process accurately in a comprehensive and appropriate
manner.
a. Patients Assessment
(1) A comprehensive patient assessment is coordinated to reduce unnecessary repetition.
Professionals responsible for patient care collaborate to analyze and integrate patient
assessments. The most urgent or important care needs are identified
(2) Each patient’s initial assessment includes: health history and physical examination,
patient’s perception of his/her needs, an evaluation of psychological, social , and
economic factors.
(3) The assessment method is appropriate with each patient, under a safe environment and
adequate resources. When available, clinical practice guidelines that are appropriate to
the patients and resources are used to guide patient assessment. The findings of
assessments performed outside the organization are verified at admission.
(4) Patients are assessed within the time frame established by the organization.
Assessment findings are documented in the patient’s record and readily available to
those responsible for the patient’s care.
(5) All patients are reassessed at appropriate intervals to determine their response to
treatment.
(6) The healthcare team share the assessment results with patients and families in a clear
and easy-to-understand way.
197
III - 2. ข. กำรตรวจเพื่อประกอบกำรวินิจฉัย
ผูป้ ่ วยทุกรำยได้รบั กำรประเมินควำมต้องกำรและปัญหำสุขภำพอย่ำงครบถ้วน ถูกต้อง และ
เหมำะสม.
ก. กำรประเมินผูป้ ่ วย
ข. กำรตรวจเพื่อประกอบกำรวินิจฉัย
(1) ผูป้ ่ วยได้รบั กำรตรวจเพือ่ ประกอบกำรวินิจฉัยที่จำเป็ นครบถ้วน หรือได้รบั กำรส่งต่อไปตรวจที่อน่ื ได้ใน
เวลำที่เหมำะสม.
(2) มีกำรประเมินควำมน่ ำเชื่อถือของผลกำรตรวจเพือ่ ประกอบกำรวินิจฉัย โดยพิจำรณำควำมสอดคล้องกับ
สภำวะของผูป้ ่ วย.
(3) มีระบบสือ่ สำรและบันทึกผลกำรตรวจที่มีประสิทธิผล ทำให้แพทย์ได้รบั ผลกำรตรวจในเวลำที่เหมำะสม
สำมำรถสืบค้นผลกำรตรวจได้งำ่ ย ไม่สูญหำย และมีกำรรักษำควำมลับอย่ำงเหมำะสม.
(4) มีกำรอธิบำยหรือค้นหำสำเหตุของควำมผิดปกติของผลกำรตรวจ และมีกำรอธิบำยผลกำรตรวจเพือ่
ประกอบกำรวินิจฉัย (investigate ให้แก่ผูป้ ่ วย.
198
III - 2. b. Diagnostic Testing
All patients have their healthcare needs and problems identified through an
established assessment process accurately in a comprehensive and appropriate
manner.
a. Patients Assessment
b. Diagnostic Testing
(1) Essential diagnostic testing is provided or referred to other facilities in a timely manner.
(2) The reliability of diagnostic testing results is evaluated considering consistency with
patient’s condition.
(3) The diagnostic testing results are effectively communicated and documented; ensuring
that physicians get results in a timely manner, results are easily retrieved, without loss,
and with proper confidential precaution.
(4) There is an attempt to explain or further investigate if the investigation results are
abnormal. The investigation results are explained to the patients.
199
III - 2. ค. กำรวินิจฉัยโรค
ผูป้ ่ วยทุกรำยได้รบั กำรประเมินควำมต้องกำรและปัญหำสุขภำพอย่ำงครบถ้วน ถูกต้อง และ
เหมำะสม.
ก. กำรประเมินผูป้ ่ วย
ข. กำรตรวจเพื่อประกอบกำรวินิจฉัย
ค. กำรวินิจฉัยโรค
(1) ผูป้ ่ วยได้รบั กำรวินิจฉัยโรค โดยมีขอ้ มูลเพียงพอเพือ่ อธิบำยเหตุผลของกำรวินิจฉัยโรค. มีกำรลงบันทึก
กำรวินิจฉัยโรคภำยในเวลำที่กำหนดไว้ และบันทึกกำรเปลี่ยนแปลงกำรเมื่อมีขอ้ มูลเพิม่ เติม. มีกำร
ทบทวนควำมเหมำะสมของกำรวินิจฉัยโรค และควำมสอดคล้องของกำรวินิจฉัยโรคของแต่ละวิชำชีพใน
ทีมผูใ้ ห้บริกำรอย่ำงสมำ่ เสมอ .
200
III - 2. c. Diagnosis
All patients have their healthcare needs and problems identified through an
established assessment process accurately in a comprehensive and appropriate
manner.
a. Patients Assessment
b. Diagnostic Testing
c. Diagnosis
(1) The patients receive correct diagnosis with enough documented evidence to support the
diagnosis. The diagnosis is recorded in the determined period, and is updated when
there is more information. The appropriateness of diagnosis and consistency of
diagnosis by each profession in the healthcare team is reviewed regularly.
201
III - 3.1 กำรวำงแผนกำรดูแลผูป้ ่ วย
ทีมผูใ้ ห้บริกำรจัดทำแผนกำรดูแลผูป้ ่ วยที่มีกำรประสำนกันอย่ำงดีและมีเป้ ำหมำยที่ชดั เจน
สอดคล้องกับปัญหำ/ควำมต้องกำรด้ำนสุขภำพของผูป้ ่ วย.
(1) มีกำรจัดทำแผนกำรดูแลสำหรับผูป้ ่ วยแต่ละรำย อย่ำงเชื่อมโยงและประสำนกันระหว่ำงวิชำชีพ แผนก
และหน่ วยบริกำรต่ำงๆ.
(2) แผนกำรดูแลผูป้ ่ วยตอบสนองต่อปัญหำ/ควำมต้องกำรของผูป้ ่ วยที่ได้จำกกำรประเมินอย่ำงเป็ นองค์รวม.
(3) มีกำรนำหลักฐำนวิชำกำรหรือแนวทำงปฏิบตั ิท่เี หมำะสมมำใช้เป็ นแนวทำงในกำรวำงแผนกำรดูแลผูป้ ่ วย.
(4) ผูป้ ่ วย/ครอบครัวมีโอกำสตัดสินใจเลือกวิธกี ำรรักษำหลังจำกได้รบั ข้อมูลที่เพียงพอ และร่วมในกำรวำง
แผนกำรดูแล.
(5) แผนกำรดูแลผูป้ ่ วยสะท้อนให้เห็นเป้ ำหมำยที่ตอ้ งกำรบรรลุและบริกำรที่จะให้เพือ่ บรรลุเป้ ำหมำย.
(6) มีกำรสือ่ สำร/ประสำนงำนระหว่ำงสมำชิกของทีมผูใ้ ห้บริกำรเพือ่ ให้มีกำรนำแผนกำรดูแลผูป้ ่ วยไปสูก่ ำร
ปฏิบตั ิท่ไี ด้ผลในเวลำที่เหมำะสม โดยสมำชิกของทีมผูใ้ ห้บริกำรมีควำมเข้ำใจบทบำทของผูเ้ กี่ยวข้อง
อืน่ ๆ.
(7) มีกำรทบทวนและปรับแผนกำรดูแลผูป้ ่ วยเมื่อมีขอ้ บ่งชี้จำกสภำวะหรืออำกำรของผูป้ ่ วยที่เปลี่ยนไป.
202
III - 3.1 Planning of Care
The healthcare team ensures a coordinated patient care plan with goals
developed in response to health problems/needs of the patient.
(1) Patient care plan for each patient is developed to ensure the integration and
coordination among professionals, departments, and services.
(2) The patient care plan is based on patient’s needs identified in the assessment
process in a holistic way.
(3) Appropriate evidence or guidelines are used to guide the patient care plan.
(4) Patients and families have opportunity to make informed decision on choice of
treatment and participate in the planning of care
(5) The patient care plan includes the goals to be achieved and service to be provided.
(6) The care plan is effectively communicated and co-ordinated to all team members
in a timely basis, and the team members understand the role of each other.
(7) The patient’s plan of care is revised when indicated by a change in the patient’s
condition.
203
III - 3.2 กำรวำงแผนจำหน่ ำย
มีกำรวำงแผนจำหน่ ำยผูป้ ่ วยเพื่อให้ผูป้ ่ วยสำมำรถดูแลตนเอง และได้รบั กำรดูแลอย่ำง
เหมำะสมกับสภำพปัญหำและควำมต้องกำร หลังจำกจำหน่ ำยจำกโรงพยำบำล
(1) มีกำรกำหนดแนวทำง ข้อบ่งชี้ และโรคที่เป็ นกลุม่ เป้ ำหมำยสำคัญสำหรับกำรวำงแผนจำหน่ ำย.
(2) มีกำรพิจำรณำควำมจำเป็ นในกำรวำงแผนจำหน่ ำยสำหรับผูป้ ่ วยแต่ละรำย ตัง้ แต่เริ่มแรกที่เป็ นไปได้.
(3) แพทย์ พยำบำล และวิชำชีพที่เกี่ยวข้อง รวมทัง้ ผูป้ ่ วยและครอบครัว มีสว่ นร่วมในกำรวำงแผนจำหน่ ำย.
(4) มีกำรประเมินและระบุปญั หำ/ควำมต้องกำรของผูป้ ่ วยที่จะเกิดขึ้นหลังจำหน่ ำย และประเมินซ้ำเป็ น
ระยะในช่วงที่ผูป้ ่ วยได้รบั กำรดูแลอยู่ในโรงพยำบำล.
(5) มีกำรปฏิบตั ติ ำมแผนจำหน่ ำยในลักษณะที่เชื่อมโยงกับแผนกำรดูแลระหว่ำงอยู่ในโรงพยำบำล ตำม
หลักกำรเสริมพลัง เพือ่ ให้ผูป้ ่ วยและครอบครัวมีศกั ยภำพและควำมมัน่ ใจในกำรจัดกำรดูแลสุขภำพของ
ตนเอง.
(6) มีกำรประเมินผลและปรับปรุงกระบวนกำรวำงแผนจำหน่ ำย โดยใช้ขอ้ มูลจำกกำรติดตำมผูป้ ่ วยและ
ข้อมูลสะท้อนกลับจำกหน่ วยงำนที่เกี่ยวข้อง.
204
III - 3.2 Discharge Planning
Discharge planning process enables self care of patients and ensures that
patient’s ongoing needs are met.
(1) Guidelines, indication, and key target conditions for discharge planning are
determined
(2) The need for discharge planning for individual patient is determined early in the
care process.
(3) Physicians, nurses, other relevant professionals, including patients and their
families, are involved in discharge planning.
(4) Patient’s needs after discharge are assessed and updated throughout the hospital
stays
(5) Discharge plan is implemented in an integrated manner with patient care plan,
using empowerment concept to ensure that patients and families have capability
and confidence in management of self-care.
(6) The discharge planning process is evaluated and improved using information from
patients’ follow up and feed back from other relevant health service providers.
205
III - 4.1 กำรดูแลทัว่ ไป
ทีมผูใ้ ห้บริกำรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะให้กำรดูแลอย่ำงทันท่วงที ปลอดภัย เหมำะสม ตำม
มำตรฐำนวิชำชีพ
(1) มีกำรดูแลผูป้ ่ วยอย่ำงเหมำะสม ปลอดภัย ทันเวลำ โดยมอบหมำยควำมรับผิดชอบในกำรดูแลผูป้ ่ วย
ให้แก่ผูม้ ีท่มี ีคณ
ุ สมบัติเหมำะสม กำรดูแลในทุกจุดบริกำรเป็ นไปตำมหลักปฏิบตั ิซ่ึงเป็ นที่ยอมรับใน
ปัจจุบนั
(2) มีสง่ิ แวดล้อมที่เอื้อต่อกำรดูแลที่มีคณ
ุ ภำพ โดยคำนึ งถึงศักดิ์ศรีและควำมเป็ นส่วนตัวของผูป้ ่ วย ควำม
สะดวกสบำยและควำมสะอำด กำรป้ องกันอันตรำย/ควำมเครียด/เสียง/สิ่งรบกวนต่ำงๆ.
(3) ทีมผูใ้ ห้บริกำรดำเนิ นกำรทุกวิถที ำงเพือ่ ให้ผูป้ ่ วยปลอดภัยจำกอุบตั เิ หตุ กำรบำดเจ็บ หรือกำรติดเชื้อ.
(4) ทีมผูใ้ ห้บริกำรจัดกำรกับภำวะแทรกซ้อน ภำวะวิกฤติ หรือภำวะฉุกเฉิ น อย่ำงเหมำะสมและปลอดภัย.
(5) ทีมผูใ้ ห้บริกำรตอบสนองต่อควำมต้องกำรหรือปัญหำของผูป้ ่ วยในลักษณะองค์รวม โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง
ปัญหำทำงด้ำนอำรมณ์และจิตสังคม.
(6) มีกำรสือ่ สำรแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสำนกำรดูแลผูป้ ่ วยภำยในทีม เพือ่ ควำมต่อเนื่ องในกำรดูแล
206
III - 4.1 General Care Delivery
The healthcare team ensures that care is delivered in a timely, safe, and
appropriate manner according to professional standards.
(1) Care is delivered in a timely, safe, and appropriate manner with appropriate
delineation of clinical responsibility. The care meets current accepted practice
throughout the organization.
(2) Care environment is conducive to the provision of quality care, considering
patient dignity and privacy, pleasant and clean surroundings, prevention of
hazards/ stress/noise/other disturbance.
(3) The care team takes all reasonable steps to keep patients safe from accidents,
injuries, or infection.
(4) The care team has a process for safely and appropriately dealing with
complications, a crisis, or an emergency.
(5) The care team response to the patient’s need in a holistic way, especially
emotional and psychosocial problems
(6) The care team exchanges information and coordinates to ensure continuity of
care..
207
III - 4.2 กำรดูแลผูป้ ่ วยและกำรให้บริกำรที่มีควำมเสี่ยงสูง
ทีมผูใ้ ห้บริกำรสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำจะให้กำรดูแลผูป้ ่ วยและให้บริกำรที่มีควำมเสี่ยงสูงอย่ำง
ทันท่วงที ปลอดภัย เหมำะสม ตำมมำตรฐำนวิชำชีพ.
(1) ทีมผูใ้ ห้บริกำรวิเครำะห์ผูป้ ่ วย และบริกำร ที่มีควำมเสีย่ งสูง และร่วมกันจัดทำแนวทำงกำรดูแลผูป้ ่ วยใน
สถำนกำรณ์ท่มี ีควำมเสีย่ งสูงดังกล่ำว.
(2) บุคลำกรนำแนวทำงกำรดูแลผูป้ ่ วยในสถำนกำรณ์ท่มี ีควำมเสีย่ งสูงมำสูก่ ำรปฏิบตั ิดว้ ยควำมเข้ำใจ.
(3) กำรทำหัตถกำรที่มีควำมเสีย่ ง จะต้องทำในสถำนที่ท่เี หมำะสม มีควำมพร้อมทัง้ ด้ำนเครื่องมือและผูช้ ่วยที่
จำเป็ น.
(4) มีกำรเฝ้ ำระวังกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงเหมำะสมกับควำมรุนแรงของกำรเจ็บป่ วย และดำเนิ นกำรแก้ไขหรือ
ปรับเปลี่ยนแผนกำรรักษำได้ทนั ท่วงที.
(5) เมื่อมีผูป้ ่ วยซึ่งมีอำกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงรวดเร็วเข้ำใกล้ภำวะวิกฤติ, มีทมี ผูเ้ ชี่ยวชำญด้ำนกำรดูแลผูป้ ่ วย
วิกฤติมำช่วยทีมผูใ้ ห้บริกำรอย่ำงทันท่วงทีในกำรประเมินผูป้ ่ วย กำรช่วย stabilize ผูป้ ่ วย กำรสือ่ สำร
กำรให้ควำมรู ้ และกำรย้ำยผูป้ ่ วยถ้ำจำเป็ น.
(6) ทีมผูใ้ ห้บริกำรติดตำมและวิเครำะห์แนวโน้มของภำวะแทรกซ้อนหรือเหตุกำรณ์ไม่พงึ ประสงค์ในผูป้ ่ วย
เหล่ำนี้ เพือ่ นำมำปรับปรุงกระบวนกำรดูแลผูป้ ่ วย.
208
III-4.2 Care of High-Risk Patients and Provision of High-Risk Services
The healthcare team ensures that care of high-risk patients and high-risk
services is delivered in a timely, safe, and appropriate manner according to
professional standards.
(1) The healthcare team identifies the high-risk patients and high-risk services, and
collaboratively developed applicable policies and procedures for caring of these
high-risk conditions.
(2) Staff has been trained and uses the policies and procedures to guide care of these
high risk conditions.
(3) The high-risk procedures must be performed in an appropriate facility, with
available essential equipment and assistance staff.
(4) The high-risk patients or patients receiving high-risk services are monitored as
appropriate to the patients’ condition, with timely response or change of care plan.
(5) When there is a sign of clinical instability outside ICU/critical care unit, a team of
clinician with critical care expertise assists the healthcare team in a timely manner
in patient assessment, stabilization, communication, education, and with transfer if
necessary.
(6) The care team monitors and analyzes trend of complication or adverse event in
these patients to improve the patient care processes.
209
III - 5. กำรให้ขอ้ มูลและเสริมพลังแก่ผูป้ ่ วย/ครอบครัว
ทีมผูใ้ ห้บริกำรให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับสภำวะสุขภำพแก่ผูป้ ่ วยและครอบครัว จัดกิจกรรมตำมแผน
เพือ่ เสริมพลังผูป้ ่ วยและครอบครัวให้สำมำรถดูแลสุขภำพของตนเองได้ และเชื่อมโยง
กำรสร้ำงเสริมสุขภำพเข้ำในทุกขัน้ ตอนของกำรดูแล.
(1) ทีมผูใ้ ห้บริกำรประเมินผูป้ ่ วยเพือ่ วำงแผนและกำหนดกิจกรรมกำรเรียนรู.้ กำรประเมินครอบคลุม
ปัญหำ/ควำมต้องกำรของผูป้ ่ วย, ศักยภำพ, ภำวะทำงด้ำนอำรมณ์ จิตใจ, ควำมพร้อมในกำรเรียนรูแ้ ละ
ดูแลตนเอง.
(2) ทีมผูใ้ ห้บริกำรให้ขอ้ มูลที่จำเป็ นและช่วยเหลือให้เกิดกำรเรียนรูส้ ำหรับกำรดูแลตนเองและกำรมี
พฤติกรรมสุขภำพที่เอื้อต่อกำรมีสขุ ภำพดีแก่ผูป้ ่ วยและครอบครัว, อย่ำงเหมำะสมกับปัญหำ เวลำ มี
ควำมชัดเจนและเป็ นที่เข้ำใจง่ำย. มีกำรประเมินกำรรับรู ้ ควำมเข้ำใจ และควำมสำมำรถในกำรนำ
ข้อมูลที่ได้รบั ไปปฏิบตั ิ.
(3) ทีมผูใ้ ห้บริกำรให้ควำมช่วยเหลือทำงด้ำนอำรมณ์จติ ใจและคำปรึกษำที่เหมำะสมแก่ผูป้ ่ วยและครอบครัว.
(4) ทีมผูใ้ ห้บริกำรและผูป้ ่ วย/ครอบครัว ร่วมกันกำหนดกลยุทธ์ท่เี หมำะสมสำหรับกำรจัดกำรดูแลสุขภำพ
ของผูป้ ่ วย, รวมทัง้ ติดตำมปัญหำอุปสรรคในกำรดูแลตนเองอย่ำงต่อเนื่ อง.
(5) ทีมผูใ้ ห้บริกำรจัดกิจกรรมเสริมทักษะที่จำเป็ นให้แก่ผูป้ ่ วย/ครอบครัว และสร้ำงควำมมัน่ ใจว่ำผูป้ ่ วย/
ครอบครัวสำมำรถปฏิบตั ิได้ดว้ ยตนเอง.
(6) ทีมผูใ้ ห้บริกำรประเมินและปรับปรุงกระบวนกำรจัดกำรเรียนรูแ้ ละกำรเสริมพลังผูป้ ่ วย/ครอบครัว.
210
III-5 Information and Empowerment for Patient & Family
The healthcare team provides patients and families with information on their
health condition and planned activities to empower them, encourages them
to carry out their responsibilities, and to facilitate integration of health
promotion in all patient pathways.
(1) The healthcare team assesses patients to plan and determine learning activities.
The assessment includes patients’ problems and needs, capability, emotional and
psychological condition, readiness for learning and self-care.
(2) The healthcare team provides essential information and facilitates learning for
self-care and good health behavior to patients and families. Such information and
learning is appropriate for patient's problem, timely, clear and understandable.
Perception, understanding, ability to implement are evaluated.
(3) The healthcare team provides appropriate emotional support and counseling to
help patients and families.
(4) The healthcare team and patients/families, collaboratively determine appropriate
self-management strategies, including continuously follow up on problems and
difficulties in self-care
(5) The healthcare team provides essential skill training for patients/families, and
ensures that patients/families are able to do by themselves.
(6) The healthcare team evaluates and improves the effectiveness of health education,
learning and empowerment program.
211
III - 6. กำรดูแลต่อเนื่ อง
ทีมผูใ้ ห้บริกำรสร้ำงควำมร่วมมือและประสำนงำนเพือ่ ให้มีกำรติดตำมและดูแลผูป้ ่ วย
ต่อเนื่ องที่ให้ผลดี
(1) มีระบบนัดหมำยผูป้ ่ วยกลับมำรับกำรรักษำต่อเนื่ องเมื่อมีขอ้ บ่งชี้. มีระบบช่วยเหลือและให้
คำปรึกษำแก่ผูป้ ่ วยที่ออกจำกโรงพยำบำลตำมควำมเหมำะสม.
(2) องค์กรสร้ำงควำมร่วมมือและประสำนงำนกับหน่ วยบริกำรสุขภำพและองค์กรอืน่ ๆ เพือ่ ให้เกิด
ควำมต่อเนื่ องในกำรติดตำมดูแลผูป้ ่ วยและบูรณำกำรกิจกรรมสร้ำงเสริมสุขภำพเข้ำใน
กระบวนกำรดูแลผูป้ ่ วย.
(3) มีกำรสือ่ สำรข้อมูลของผูป้ ่ วยให้แก่หน่ วยบริกำรที่เกี่ยวข้องในกำรดูแลต่อเนื่ อง ทัง้ ภำยในองค์กร
และกับองค์กรภำยนอก โดยคำนึ งถึงกำรรักษำควำมลับของข้อมูลผูป้ ่ วย.
(4) มีกำรทบทวนเวชระเบียนเพือ่ ประเมินควำมเพียงพอของข้อมูลสำหรับกำรดูแลต่อเนื่ อง.
(5) มีกำรติดตำมผลกำรดูแลต่อเนื่ อง เพือ่ ให้มนั ่ ใจว่ำควำมต้องกำรของผูป้ ่ วยได้รบั กำรตอบสนอง
และนำผลกำรติดตำมมำใช้ปรับปรุง/วำงแผนบริกำรในอนำคต.
212
III-6 Continuity of Care
The healthcare team collaborates and co-ordinates for effective
follow-up and continuity of care.
(1) When indicated, appointment is made for follow up care. Assistant and
consultation for the discharged patients are arranged as appropriate.
(2) The organization collaborates and co-ordinates with other relevant health
care providers, organization and other sectors to allow continuity of
follow-up care and integrate health promotion activities in patient
pathways.
(3) Patient information is effectively communicated to all relevant health care
providers in the continuum of care, both inside and outside the
organization, considering confidentiality of patient information.
(4) Medical records are reviewed to ensure the documentation facilitate
continuing care.
(5) Patient results are continuously monitored to ensure that patients’ needs
are met and the information are used for improvement and planning future
services.
213
IV - 1 ผลด้ำนกำรดูแลผูป้ ่ วย
HA2006
(1) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญด้ำนกำรดูแลผูป้ ่ วย ในกลุม่ ผูป้ ่ วย
สำคัญ.
(1) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators
of patient care in key patient population.
MBNQA 2006
7.1 ผลลัพธ์ดำ้ นกำรดูแลสุขภำพและกำรจัดบริกำร (health care and service delivery)
ให้สรุปผลกำรดำเนิ นกำรที่สำคัญด้ำนกำรดูแลสุขภำพ โดยแสดงผลลัพธ์ตำมประเภทและกลุม่ ผูป้ ่ วย
และลูกค้ำอืน่ ๆ และส่วนตลำด (ตำมควำมเหมำะสม). รวมทัง้ ให้แสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบที่
เหมำะสม. ให้นำเสนอตัววัดที่หน่ วยงำนผูค้ วบคุม ผูร้ บั รอง และผูจ้ ำ่ ยเงินกำหนดให้รำยงำน.
ให้แสดงข้อมูลและสำรสนเทศเพือ่ ตอบคำถำมต่อไปนี้ :
ก. ผลลัพธ์ดำ้ นกำรดูแลสุขภำพ
ระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัววัดหรือตัวชี้วดั ของผลลัพธ์ดำ้ นกำรดูแลสุขภำพ กำรจัดบริกำร ควำม
ปลอดภัยของผูป้ ่ วย และ functional status ของผูป้ ่ วย ที่มีควำมสำคัญต่อผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ เป็ น
อย่ำงไร? ผลลัพธ์เหล่ำนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลกำรดำเนิ นกำรของคู่แข่งและองค์กรอืน่ ๆ ที่ให้บริกำร
ดูแลสุขภำพในลักษณะใกล้เคียงกันเป็ นอย่ำงไร?
214
HA2006
IV - 2 ผลด้ำนกำรมุ่งเน้นผูป้ ่ วยและผูร้ บั ผลงำนอืน่ ๆ
(1) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับควำมพึงพอใจ, ควำมไม่พงึ พอใจ,
คุณค่ำจำกมุมมองของผูป้ ่ วยและผูร้ บั ผลงำนอืน่ ๆ, กำรคงอยู่ กำรเพิม่ ขึ้น หรือกำรสูญเสียผูร้ บั บริกำร, และ
กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์กบั ผูร้ บั ผลงำน.
(1) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators of
patient and other customer satisfaction; dissatisfaction; perceived value; retention,
gains and losses of customers, and building relationship with customers.
MBNQA 2006
7.2 ผลลัพธ์ดำ้ นกำรมุ่งเน้นผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ
ให้สรุปผลลัพธ์ท่สี ำคัญด้ำนกำรมุ่งเน้นผูป้ ่ วยและลูกค้ำอื่นๆ ขององค์กร รวมถึงควำมพึงพอใจของผูป้ ่ วย/ลูกค้ำ, และ
คุณค่ำจำกมุมมองของผูป้ ่ วย/ลูกค้ำ. โดยแสดงผลลัพธ์ตำมแผนงำน หรือประเภทบริกำร กลุม่ ลูกค้ำ และส่วนตลำด (ตำม
ควำมเหมำะสม). รวมทัง้ ให้แสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบที่เหมำะสม.
ให้แสดงข้อมูลและสำรสนเทศเพือ่ ตอบคำถำมต่อไปนี้ :
ก. ผลลัพธ์ดำ้ นกำรมุ่งเน้นผูป้ ่ วยและลูกค้ำอื่นๆ
(1) ระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัววัดหรือตัวชี้วดั สำคัญของควำมพึงพอใจและควำมไม่พงึ พอใจของผูป้ ่ วยและลูกค้ำ
อืน่ ๆ เป็ นอย่ำงไร? ผลลัพธ์เหล่ำนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลกำรดำเนิ นกำรของคู่แข่งและองค์กรอืน่ ๆ ที่ให้บริกำรดูแลสุขภำพ
ในลักษณะใกล้เคียงกันเป็ นอย่ำงไร?
(2) ระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัววัดหรือตัวชี้วดั สำคัญในด้ำนคุณค่ำจำกมุมมองของผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ, รวมถึง
ควำมภักดีของผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ และกำรรักษำไว้, กำรที่ลูกค้ำบอกกล่ำวในทำงที่ดี และแง่มมุ อืน่ ของกำรสร้ำง
ควำมสัมพันธ์กบั ลูกค้ำเป็ นอย่ำงไร (ตำมควำมเหมำะสม)?
215
IV - 3 ผลด้ำนกำรเงิน
HA2006
(1) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญของผลกำรดำเนิ นงำนด้ำนกำรเงิน.
(1) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators
of financial performance.
MBNQA 2006
7.3 ผลลัพธ์ดำ้ นกำรเงินและกำรตลำด
ให้สรุปผลกำรดำเนิ นกำรที่สำคัญด้ำนกำรเงินและตลำด โดยแสดงผลลัพธ์ตำมกลุม่ ผูป้ ่ วย หรือกลุม่ ผูร้ บั
ผลงำน หรือส่วนตลำด (ตำมควำมเหมำะสม). รวมทัง้ ให้แสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบที่เหมำะสม.
ให้แสดงข้อมูลและสำรสนเทศเพือ่ ตอบคำถำมต่อไปนี้ :
ก. ผลลัพธ์ดำ้ นกำรเงินและกำรตลำด
(1) ระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัววัดหรือตัวชี้วดั ที่สำคัญของผลกำรดำเนิ นกำรด้ำนกำรเงิน รวมถึง
ตัววัดโดยรวมด้ำนผลตอบแทนทำงกำรเงินและมูลค่ำทำงเศรษฐกิจเป็ นอย่ำงไร (ตำมควำมเหมำะสม)?
(2) ระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัววัดหรือตัวชี้วดั ที่สำคัญของผลกำรดำเนิ นกำรด้ำนตลำด, รวมถึง
ส่วนแบ่งตลำดหรือตำแหน่ งในตลำด, กำรเต้บโตทำงธุรกิจ, และกำรเจำะตลำดใหม่ๆ เป็ นอย่ำงไร (ตำม
ควำมเหมำะสม)?
216
HA2006
IV - 4 ผลด้ำนทรัพยำกรบุคคล
(1) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับผลกำรดำเนิ นงำน
(performance) และประสิทธิผลของระบบงำน.
(2) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับกำรเรียนรูแ้ ละกำรพัฒนำ
ของบุคลำกร
(3) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับควำมผำสุก ควำมพึง
พอใจและควำมไม่พงึ พอใจของบุคลำกร
(1) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators
of work system performance and effectiveness.
(2) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators
of staff learning and development.
(3) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators
of staff well-being, satisfaction, and dissatisfaction.
MBNQA 2006
217
IV - 4 ผลด้ำนทรัพยำกรบุคคล
MBNQA 2006
7.1 ผลลัพธ์ดำ้ นทรัพยำกรบุคคล
ให้สรุปผลลัพธ์ท่สี ำคัญด้ำนทรัพยำกรบุคคล, รวมถึง performance ของระบบงำนและกำรเรียนรู,้
กำรพัฒนำ และควำมพึงพอใจของบุคลำกร. โดยแสดงผลลัพธ์ตำมควำมหลำกหลำยของบุคลำกร
ประเภทและกลุม่ บุคคลำกร (ตำมควำมเหมำะสม). รวมทัง้ ให้แสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบที่เหมำะสม.
ให้แสดงข้อมูลและสำรสนเทศเพือ่ ตอบคำถำมต่อไปนี้ :
(1) ระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัววัดหรือตัวชี้วดั สำคัญด้ำน performance และประสิทธิผลของ
ระบบงำนเป็ นอย่ำงไร?
(2) ระดับปัจจุบนั และแนวโย้มของตัววัดหรือตัวชี้วดั สำคัญด้ำนกำรเรียนรูแ้ ละพัฒนำของบุคลำกรเป็ น
อย่ำงไร?
(3) ระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัววัดและตัวชี้วดั สำคัญควำมผำสุก ควำมพึงพอใจและควำมไม่พงึ
พอใจของบุคลำกรเป็ นอย่ำงไร?
218
IV - 5 ผลด้ำนประสิทธิผลขององค์กร
HA2006
(1) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับผลกำรดำเนิ นงำน
(operational performance) ของกระบวนกำรที่สำคัญ.
(1) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators
of the operational performance of key processes.
MBNQA 2006
7.5 ผลลัพธ์ดำ้ นประสิทธิผลขององค์กร
ให้สรุปผลกำรดำเนิ นกำรที่สำคัญด้ำนกำรปฏิบตั กิ ำรซึ่งส่งผลต่อกำรปรับปรุงประสิทธิผลขององค์กร. โดยแสดงผลลัพธ์ตำม
ประเภทและกลุม่ ผูป้ ่ วยและลูกค้ำอืน่ ๆ และส่วนตลำด (ตำมควำมเหมำะสม). รวมทัง้ ให้แสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบที่
เหมำะสม. ให้นำเสนอตัววัดที่หน่ วยงำนผูค้ วบคุม ผูร้ บั รอง และผูจ้ ำ่ ยเงินกำหนดให้รำยงำน.
ให้แสดงข้อมูลและสำรสนเทศเพื่อตอบคำถำมต่อไปนี้ :
ก. ผลลัพธ์ดำ้ นประสิทธิผลขององค์กร
(1) ระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัววัดหรือตัวชี้วดั สำคัญของผลกำรดำเนิ นกำรด้ำนปฏิบตั กิ ำร (operational
performance) ของกระบวนกำรดูแลผูป้ วยที่สำคัญเป็ นอย่ำงไร? รวมทัง้ ผลิตภำพ, รอบเวลำ, performance ของผูส้ ง่
มอบและคู่คำ้ , ตัววัดประสิทธิผลและประสิทธิภำพอืน่ ๆ ที่เหมำะสม.
(2) ระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัววัดหรือตัวชี้วดั สำคัญของผลกำรดำเนิ นกำรด้ำนปฏิบตั ิกำร (operational
performance) ของกระบวนกำรที่สำคัญอืน่ ๆ เป็ นอย่ำงไร? รวมทัง้ ผลิตภำพ, รอบเวลำ, performance ของผูส้ ง่ มอบ
และคู่คำ้ , ตัววัดประสิทธิผลและประสิทธิภำพอืน่ ๆ ที่เหมำะสม.
219
HA2006
IV - 6 ผลด้ำนกำรนำและควำมรับผิดชอบต่อสังคม
(1) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับกำรบรรลุผลตำมกลยุทธ์ขององค์กร.
(2) องค์กรแสดงให้เห็นผลของกำรดำเนิ นงำนอย่ำงมีจริยธรรม ควำมเชื่อมัน่ ในผูน้ ำระดับสูงและกำรกำกับดูแลกิจกำร.
(3) องค์กรแสดงให้เห็นผลของควำมรับผิดชอบทำงกำรเงิน (fiscal accountability) ทัง้ ภำยในและภำยนอก.
(4) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับกำรประเมินองค์กร กำรปฏิบตั ิตำม
กฎหมำยและกฎระเบียบ.
(5) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับกำรสนับสนุ น ควำมร่วมมือและควำม
รับผิดชอบต่อชุมชน.
(1) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators of
accomplishment of organizational strategy.
(2) The organization demonstrates the results of ethical behavior and trust in the senior
leadership and governance of the organization.
(3) The organization demonstrates the results of fiscal accountability, both internal and
external.
(4) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators of
organizational assessment, regulatory and legal compliance.
(5) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators of
organizational citizenship in support of its communities, including contributions to the
health of community.
MBNQA 2006
220
MBNQA 2006
IV - 6 ผลด้ำนกำรนำและควำมรับผิดชอบต่อสังคม
7.6 ผลลัพธ์ดำ้ นกำรนำและควำมรับผิดชอบต่อสังคม
ให้สรุปผลลัพธ์ท่สี ำคัญด้ำนธรรมำภิบำล กำรนำองค์กรโดยผูน้ ำระดับสูง และควำมรับผิดชอบต่อสังคม,
รวมถึงให้แสดงหลักฐำนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่มีจริยธรรม ควำมรับผิดชอบด้ำนกำรเงิน กำรปฏิบตั ิตำมกฎหมำย
และกำรที่องค์กรบำเพ็ญตนเป็ นพลเมืองดี. โดยแสดงผลลัพธ์ตำมหน่ วยงำนขององค์กร (ตำมควำมเหมำะสม).
รวมทัง้ ให้แสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบที่เหมำะสม.
ให้แสดงข้อมูลและสำรสนเทศเพือ่ ตอบคำถำมต่อไปนี้ :
ก. ผลลัพธ์กำรนำและควำมรับผิดชอบต่อสังคม
(1) ผลลัพธ์ของตัววัดหรือตัวชี้วดั ที่สำคัญของกำรบรรลุกลยุทธ์และแผนปฏิบต้ั ิกำรขององค์กรเป็ นอย่ำงไร?
(2) ผลลัพธ์ของตัววัดหรือตัวชี้วดั ที่สำคัญของพฤติกรรมที่มีจริยธรรม ควำมไว้วำงใจของผูม้ ีสว่ นได้สว่ นเสีย
ต่อผูน้ ำระดับสูงและธรรมำภิบำลขององค์กรเป็ นอย่ำงไร? ผลลัพธ์ของตัววัดหรือตัวชี้วดั ที่สำคัญของ
พฤติกรรมที่ฝ่ำฝื นจริยธรรมเป็ นอย่ำงไร?
(3) ระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัววัดหรือตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับควำมรับผิดชอบด้ำนกำรเงิน ทัง้ ภำยใน
และภำยนอก เป็ นอย่ำงไร (ตำมควำมเหมำะสม).
(4) ผลลัพธ์ของตัววัดหรือตัวชี้วดั สำคัญของกำรรับรององค์กร, กำรประเมิน, กำรปฏิบตั ิตำมระเบียบข้อบังคับ
และกฎหมำยเป็ นอย่ำงไร?
(5) ผลลัพธ์ของตัววัดหรือตัวชี้วดั สำคัญของกำรที่องค์กรบำเพ็ญตนเป็ นพลเมืองดีในกำรสนับสนุ นชุมชนที่
สำคัญ, รวมถึงกำรมีสว่ นต่อสุขภำพในชุมชนขององค์กรเป็ นอย่ำงไร?
221
HA2006
IV - 7 ผลด้ำนกำรสร้ำงเสริมสุขภำพ
(1) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภำพและผลลัพธ์
สุขภำพของบุคลำกร.
(2) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภำพและผลลัพธ์
สุขภำพของกลุม่ ผูร้ บั บริกำรสุขภำพที่สำคัญ.
(3) องค์กรแสดงให้เห็นระดับปัจจุบนั และแนวโน้มของตัวชี้วดั สำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภำพและผลลัพธ์
สุขภำพของประชำกรในชุมชน.
(1) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators of
health behavior and health outcome of staff.
(2) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators of
health behavior and health outcome of certain key client group.
(3) The organization demonstrates the current levels and trends in key indicators of
health behavior and health outcome of people in the communities.
222
แนวทำงกำรทบทวนกำรดูแลผูป้ ่ วย
การทบทวนเวชระเบียน
Entry
Assessment
การทบทวนข้างเตียง
Care & Risk
Communication
Continuity & D/C plan
Team work
HRD
Environment & Equipment
Holistic
Empowerment
Lifestyle
Prevention
Planning
Implementation
Evaluation
Discharge
การทบทวนอืน่ ๆ
Customer Complaint Review
Adverse Event/Risk Management System
Competency Management System
Infection Control
Drug Management System
Resource Management / Utilization Review
KPI Review
223
แนวทางการพัฒนาคุณภาพ
KPI Monitoring
ติดตามเครื่องชี้วดั สาคัญ
จุดประกายสร้างสรรค์
มาช่วยกันดูหลายๆ มุม
Creativity & Innovation
Multidisciplinary Team
เป้ าหมาย
การดูแลผูป้ ่ วย
ศึกษาจากผูเ้ ยี่ยมยุทธ์
Benchmarking
รุมดูแลแบบองค์รวม
Holistic Care
สวมความรู้วิชาการ
เจาะจุดอ่อนจากข้างเตียง/บันทึก
Bedside/Medical Record Review
ใช้อบุ ตั ิ การณ์ มาวิเคราะห์
Evidence-based Practice
Root cause Analysis from Incidence
224
กำรกำกับดูแลกิจกำร (Governance)
ACHS 2.1 Operation of the Governing Body
องค์กรได้รบั การกากับดูแลกิ จการ และได้รบั การบริ หารอย่างมีประสิ ทธิ ผล ตามค่านิ ยมและเป้ าประสงค์ที่กาหนดไว้
เพื่อสร้างความมันใจในการให้
่
บริ การที่มีคณ
ุ ภาพ
2.1.1 คณะผูก้ ากับดูแลกิ จการได้รบั การแต่งตัง้ ตามข้อกาหนดและเงื่อนไข มีการประชุมอย่างสมา่ เสมอและมีความ
ต่อเนื่ องในการกากับดูแลระหว่างสมัยประชุม
2.1.2 คณะผูก้ ากับดูแลกิ จการ กาหนดเหตุผลการมีอยู่ขององค์กร (พันธกิ จ) และสิ่ งที่ต้องการบรรลุ (เป้ าประสงค์) เพื่อใช้
ชี้นาการกระทาและพฤติ กรรมในองค์กร
(กลไกทีใ่ ช้เพือ่ บรรลุเป้าหมาย: กาหนดนโยบาย วางแผนกลยุทธ์ มอบหน้าทีใ่ ห้คณะกรรมการ/คณะทางาน จัดสรรทรัพยากร
ติดตามรายงานความก้าวหน้าในกิจกรรมหลัก สร้างความสัมพันธ์กบั ภายนอก)
2.1.3 คณะผูก้ ากับดูแลกิ จการแสคงภาวะผูน้ าและรับผิดชอบต่อความสาเร็จขององค์กร คุณภาพบริ การ และทรัพยากรที่
จาเป็ นสาหรับกลไกและกลยุทธ์ที่กาหนดไว้
2.1.4 คณะผูก้ ากับดูแลกิ จการสร้างความมั ่นใจว่าจะมีสมั พันธภาพในการทางานที่ดีภายในองค์กร รวมทัง้ กับองค์กรและ
บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง
2.1.5 มีการกาหนด TOR, สมาชิ กภาพ และระเบียบปฏิ บตั ิ สาหรับการประชุมของคณะผูก้ ากับดูแลกิ จการ และ
คณะกรรมการต่างๆ ในองค์กร มีการบันทึกและรับรองรายงานการประชุม
2.1.6 สมาชิ กใหม่ของคณะผูก้ ากับดูแลกิ จการได้รบั การปฐมนิ เทศเพื่อให้ม ั ่นใจว่ามีความเข้าใจในหน้ าที่รบั ผิดชอบ
สมาชิ กทุกคนเข้าร่วมในการศึกษาต่อเนื่ องเพื่อช่วยให้ทาหน้ าที่ได้สมบูรณ์ ยิ่งขึน้
2.1.7 คณะผูก้ ากับดูแลกิ จการประเมิ นผลการปฏิ บตั ิ งานของตนและขององค์กรอย่างสมา่ เสมอ
(ตัวอย่างเครื่องชีว้ ดั ของคณะผูก้ ากับดูแลกิจการ: ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงสร้างและกลไกทีค่ ณะผูก้ ากับดูแล
กิจการใช้ เช่น ประเมินผลการประชุมของคณะกรรมการ โครงสร้างองค์กร โครงสร้างการรายงาน คณะกรรมการทีแ่ ต่งตัง้ ขึน้
นโยบายและระเบียบปฏิบตั )ิ
225
กำรกำกับดูแลกิจกำร (Governance)
JCAHO HAS 2005: Leadership
LD.1.10 โรงพยาบาลกาหนดวิธีการกากับดูแลกิจการ
1. โรงพยาบาลกาหนดวิธกี ารกากับดูแลกิจการ
2. โรงพยาบาลกาหนด line of authority สาหรับการวางแผนทีส่ าคัญ การบริหารจัดการ และการปฏิบตั งิ าน
3. โรงพยาบาลกาหนดผูท้ ม่ี หี น้าทีใ่ นการกากับดูแลกิจการ
4. คณะผูก้ ากับดูแลกิจการเปิดโอกาสให้แพทย์ทม่ี คี ณ
ุ สมบัตเิ หมาะสมเข้าร่วมในการกากับดูแลกิจการ
5. คณะแพทย์มสี ทิ ธิทจ่ี ะส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมของคณะผูก้ ากับดูแลกิจการ
LD.1.20 มีการกาหนดความรับผิดชอบในการกากับดูแลกิจการเป็ นลายลักษณ์อกั ษร
1. คณะผูก้ ากับดูแลกิจการกาหนดหน้าทีร่ บั ผิดชอบของตนไว้เป็ นลายลักษณ์อกั ษร
2. ถ้าโรงพยาบาลเป็ นส่วนหนึ่งของโครงสร้างทีใ่ หญ่กว่า มีการกาหนดขอบเขตและระดับการมีสว่ นร่วมของผูน้ าในการ
ตัดสินใจนโยบายของโครงสร้างทีใ่ หญ่กว่า
3. คณะผูก้ ากับดูแลกิจการจัดให้มกี ารบริหารจัดการและการวางแผนขององค์กร
4. มีการกาหนดขอบเขตบริการของโรงพยาบาลเป็ นลายลักษณ์อกั ษร และได้รบั การรับรองจากคณะผูก้ ากับดูแลกิจการ
5. คณะผูก้ ากับดูแลกิจการเลือกหรือรับรองผูบ้ ริหารทีจ่ ะรับผิดชอบดาเนินการโรงพยาบาล
6. คณะผูก้ ากับดูแลกิจการจัดให้มกี ารประสานงานระหว่างผูน้ าของโรงพยาบาลเพือ่ จัดทานโยบาย ธารงรักษาคุณภาพบริการ
และความปลอดภัยของผูป้ ว่ ย และจัดให้มที รัพยากรทีจ่ าเป็ น
7. คณะผูก้ ากับดูแลกิจการประเมินผลการดาเนินงานของโรงพยาบาลประจาปี เทียบกับวิสยั ทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงค์
12. คณะผูก้ ากับดูแลกิจการวางระบบเพือ่ แก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างผูน้ าและผูใ้ ต้บงั คับบัญชา
226
กำรกำกับดูแลกิจกำร (Governance)
JCI: Governance, Leadership, & Direction
GLD.1 มีการกาหนดหน้ าที่และความรับผิดชอบในการกากับดูแลกิจการเป็ นลายลักษณ์อกั ษรในธรรมนูญ
องค์กร, นโยบายและระเบียบปฏิบตั ิ หรือเอกสารทานองเดียวกัน เพื่อชี้นาการดาเนินงาน
GLD.1.1 คณะผู้กากับดูแลกิจการ รับรองพันธกิจขององค์กร
GLD.1.2 คณะผู้กากับดูแลกิจการ รับรองนโยบายและแผนการดาเนินกิจการขององค์กร
GLD.1.3 คณะผู้กากับดูแลกิจการ รับรองงบประมาณและจัดสรรทรัพยากรที่จาเป็ นเพื่อตอบสนองพันธกิจของ
องค์กร
GLD.1.4 คณะผู้กากับดูแลกิจการ แต่งตัง้ ผู้อานวยการหรือผู้บริหารระดับสูง
GLD.1.5 คณะผู้กากับดูแลกิจการ สนับสนุนและส่งเสริมการบริหารคุณภาพและความพยายามในการพัฒนา
คุณภาพ
GLD.1.6 คณะผู้กากับดูแลกิจการ ร่วมมือกับผู้บริหารและผู้นาขององค์กร
227
จริยธรรมองค์กร (Organizational Ethics) – HA1996/2000
ETH.3 จริยธรรมองค์กร (มาตรฐานโรงพยาบาลฉบับปี กาญจนาภิเษก)
มีนโยบายและวิธิปฏิบตั ิ สาหรับกรณี ที่เสี่ยงต่อปัญหาจริยธรรม โดยไม่ขดั ต่อกฎหมาย ขนบธรรมเนี ยมและ
ประเพณี อนั ดีงามของสังคม
(1) มีจริ ยธรรมในการยุติการช่วยฟื้ นคืนชีพ และการยุติการรักษาเพื่อชะลอความตาย โดยไม่ขดั ต่อกฎหมายและความ
เชื่อของสังคม (ETH.3.1)
- มีกลไกการตัดสินใจยุตกิ ารช่วยฟื้นคืนชีพ และการตัดสินใจยุตกิ ารรักษาเพือ่ ชะลอความตาย
- มีกลไกสาหรับแก้ปญั หาความขัดแย้งในการตัดสินใจ
- กาหนดบทบาทของแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าทีท่ เ่ี กีย่ วข้อง และครอบครัวผูป้ ว่ ย ในการตัดสินใจยุตปิ ฏิบตั กิ ารช่วยฟื้นคืนชีพ/
การรักษาเพือ่ ชะลอความตาย
- การเขียนคาสังและบั
่
นทึกในเวชระเบียนของแพทย์ผรู้ บั ผิดชอบ
- การใช้พนิ ยั กรรมชีวติ (advanced directives) ในขอบเขตของกฎหมาย
(2) มีจริ ยธรรมในเรื่องค่าบริ การ
- มีจริยธรรมในการกาหนดค่าบริการ
- มีการเรียกเก็บเงินหรือแจ้งหนี้เฉพาะตามรายการทีผ่ ปู้ ว่ ยได้รบั บริการ (ETH.3.2)
(3) มีจริ ยธรรมในการประชาสัมพันธ์ (ETH.3.3)
(4) มีจริ ยธรรมในการรับ/ส่งต่อ/จาหน่ ายผูป้ ่ วย (ETH.3.3)
(5) มีจริ ยธรรมในการจัดหาอวัยวะและเนื้ อเยื่อทดแทน (ETH.3.4)
- เกณฑ์คดั เลือกผูบ้ ริจาคอวัยวะและเนื้อเยือ่
- กลไกการแจ้งให้ผบู้ ริจาค และ/หรือ ครอบครัวตัดสินใจ
- แบบฟอร์มสาหรับให้ผบู้ ริจาคหรือญาติลงนามยินยอมในการบริจาค
(6) มีกลไกช่วยเหลือเจ้าหน้ าที่ที่ประสบปัญหาด้านจริ ยธรรม (ETH.3.5)
228
จริยธรรมทำงคลินิก (Clinical Ethical Issues) – ACHS 1999
2.2 PATIENTS / CUSTOMER RIGHTS, RESPONSIBILITIES AND ETHICAL ISSUES
Ethics
2.2.2 มีกลไกที่ชดั เจนที่จะสร้างความมั ่นใจว่าประเด็นจริ ยธรรมทางคลิ นิกได้รบั การพิ จารณาและแก้ไข เป็ น
กระบวนการที่ผป้ ู ่ วย ลูกค้า ผูด้ แู ล และบุคลากรสามารถเข้าถึงได้
ประเด็นจริยธรรมทีเ่ กีย่ วข้องกับการดูแลผูป้ ว่ ยทีค่ วรได้รบั การพิจารณาได้แก่
- ความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงบริการ
- การบริจาคอวัยวะ, การยุตกิ ารใช้เครื่องช่วยชีวติ ผูป้ ว่ ย, คาสังไม่
่ ชว่ ยฟื้นคืนชีพ
- ความตระหนักในความเชื่อทางวัฒนธรรมและศาสนา ซึง่ มีผลต่อการให้การดูแล
- การเข้าร่วมการวิจยั ทางคลินิก
- การทดลองยาใหม่หรือวิธกี ารรักษาใหม่ๆ
- การจัดสรรทรัพยากรทีข่ าดแคลน
ประเด็นจริยธรรมอื่นๆ เช่น นโยบายการเรียกเก็บค่าบริการ การทาการตลาด และผลประโยชน์ทบั ซ้อน
พืน้ ฐานสาหรับป้องกันและแก้ไขปญั หาเกีย่ วข้องกับประเด็นทางจริยธรรม ได้แก่ ค่านิยมขององค์กร นโยบายและ
ระเบียบปฏิบตั เิ กีย่ วกับสิทธิและหน้าทีข่ องผูป้ ว่ ย และจรรยาบรรณของผูป้ ระกอบวิชาชีพ
เนื่องจากนโยบายและระเบียบปฏิบตั ติ ่างๆ ไม่สามารถครอบคลุมประเด็นด้านจริยธรรมได้ทงั ้ หมด จาเป็ นต้องมีกลไกที่
เป็ นทางการ (เช่น คณะกรรมการ) เพือ่ ช่วยเหลือบุคลากรในการแก้ปญั หา ซึง่ ควรจะมีความสอดคล้องกันทัง้ องค์กรและให้
ความช่วยเหลือบุคลากรอย่างเหมาะสม
ควรมีการประเมินประสิทธิผลของกลไกดังกล่าวโดยติดตามคาร้องเรียนและเสียงสะท้อนจากบุคลากร ผูป้ ว่ ย ลูกค้า
รวมทัง้ ติดตามการปฏิบตั ติ ามนโยบายและระเบียบปฏิบตั เิ กีย่ วกับจริยธรรม
229
จริยธรรมองค์กร (Organization Ethics) – JCAHO 2005
ETHICS, RIGHTS, AND RESPONSIBILITIES
Organization Ethics
RI.1.10 โรงพยาบาลติ ดตามจริ ยธรรมในการดูแลรักษา บริ การ และการดาเนิ นกิ จการทางธุรกิ จ
1. โรงพยาบาลระบุประเด็นจริยธรรมและประเด็นทีม่ โี อกาสเกิดความขัดแย้ง
2. โรงพยาบาลจัดให้มกี ระบวนการเพือ่ จัดการเมื่อเกิดปญั หาจริยธรรม และนาไปสูก่ ารปฏิบตั ิ
3. นโยบายและระเบียบปฏิบตั ขิ องโรงพยาบาลสะท้อนการมีจริยธรรมในการทาการตลาด การรับผูป้ ว่ ย การส่งต่อ การ
จาหน่าย และการเรียกเก็บค่าบริการ
4. ข้อความทีร่ ะบุในสื่อเพือ่ ใช้ในการตลาด แสดงถึงสิง่ ทีเ่ ป็ นจริงในการดูแลรักษาและบริการทีโ่ รงพยาบาลสามารถจัดให้ได้
(ด้วยตนเองหรือการมีพนั ธสัญญา)
5. ผูป้ ว่ ยได้รบั ข้อมูลเกีย่ วกับค่าใช้จา่ ยทีต่ นต้องรับผิดชอบ
6. ประสิทธิผลและความปลอดภัยในการดูแลรักษาและบริการ ไม่ขน้ึ กับความสามารถในการชาระเงินของผูป้ ว่ ย
7. ผูน้ าสร้างความมันใจว่
่ าการดูแลรักษาและบริการผูป้ ว่ ยจะไม่ได้รบั ผลกระทบ หากมีการอนุ ญาตให้บุคลากรคนใดคนหนึ่งไม่
ต้องเข้าร่วมในการดูแลรักษาและให้บริการ
RI.1.20 โรงพยาบาล address ประเด็นเรื่องผลประโยชน์ ทบั ซ้อน
RI.1.30ความเหมาะสม ( integrity) ของการตัดสิ นใจขึน้ กับความต้องการด้านการดูแลรักษาและบริ การของผูป้ ่ วย
1. โรงพยาบาลมีนโยบายและระเบียบปฏิบตั เิ กีย่ วกับความเหมาะสมของการตัดสินใจทางคลินิก
2. การตัดสินใจเพือ่ ป้องกันคุณภาพการดูแลทีด่ อ้ ยลง ขึน้ อยูก่ บั ความต้องการของผูป้ ว่ ยและสอดคล้องกับนโยบายของ
โรงพยาบาล
3. ผูเ้ กีย่ วข้อง (ผูป้ ว่ ย บุคลากร) สามารถเข้าถึงนโยบายและระเบียบปฏิบตั เิ กีย่ วกับการใช้การดูแลรักษา และแรงจูงใจด้าน
การเงิน
230
จริยธรรมองค์กร (Organization Ethics) – JCI 2000
PATIENT AND FAMILY RIGHTS
PFR.10 องค์กรให้การดูแลผู้ป่วยภายใต้บรรทัดฐานทางธุรกิจ การเงิน จริยธรรม และกฎหมาย เพื่อคุ้มครอง
ผู้ป่วยและสิทธิผ้ปู ่ วย
PFR.10.1 มีการเผยแพร่พนั ธกิ จขององค์กรให้สาธารณชนได้รบั รู้
PFR.10.2 องค์กรจัดทากรอบการดาเนิ นงานและการจัดการทางด้านจริ ยธรรม ได้แก่ การตลาด การรับผูป้ ่ วย การส่งต่อ
การจาหน่ าย รวมทัง้ แนวทางการเปิ ดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเป็ นเจ้าของและประเด็นความขัดแย้งที่อาจส่งผลให้
การดูแลผูป้ ่ วยด้อยลง
1. ผูน้ าจัดทากรอบการดาเนินงานและการจัดการทางด้านจริยธรรมขององค์กร
2. องค์กรเปิดเผยรายชื่อผูเ้ ป็ นเจ้าของกิจการ
3. องค์กรเปิดเผยข้อมูลเกีย่ วกับบริการทีจ่ ะให้แก่ผปู้ ว่ ยอย่างตรงไปตรงมา
4. องค์กรจัดทานโยบายทีช่ ดั เจนเกีย่ วกับการรับผูป้ ว่ ย การส่งต่อ และการจาหน่าย
5. องค์กรเรียกเก็บค่าบริการอย่างถูกต้อง
6. องค์กรเปิดเผยและแก้ไขความขัดแย้งเมื่อแรงจูงใจทางการเงินและการจ่ายเงิน อาจจะส่งผลให้การดูแลผูป้ ว่ ยด้อยลง
231