บทนำภาครัฐใน+ศก(new) 1-2554

Download Report

Transcript บทนำภาครัฐใน+ศก(new) 1-2554

บทนำ
บทบำทรัฐในระบบเศรษฐกิจ
อ. สกนธ์ วรัญญูวัฒนำ
1
บทบำทรัฐในระบบเศรษฐกิจ
เศรษฐศำสตร์สำธำรณะคืออะไร
 มุมมองบทบำทรัฐในระบบเศรษฐกิจที่
แตกต่ำงกัน
ึ ษำเศรษฐศำสตร์สำธำรณะ
 วิธก
ี ำรศก
 กำรดำเนินนโยบำยทีเ่ หมำะสมของรัฐบำล

2
เกริน
่ นำ: เศรษฐศำสตร์สำธำรณะ
คืออะไร

ี ของ
รัฐมีบทบำทควำมสำคัญต่อกำรดำรงชพ
ประชำชนทุกๆ คนในสงั คม
◦ นับตัง้ แต่เกิดจนตำย กำรให ้บริกำรสำธำรณะต่ำงๆ
◦ กำรจัดเก็บภำษี หรือรำยได ้ โดยมีเป้ ำหมำยแตกต่ำงกัน

บทบำทรัฐบำลในระบบเศรษฐกิจ
ิ ธิภำพกำรทำหน ้ำทีข
◦ เสริมสร ้ำงประสท
่ องกลไกตลำด
(Efficiency)
◦ สร ้ำงควำมเท่ำเทียมในกำรกระจำยทรัพยำกร (Equity)

ระบบเศรษฐกิจแบบผสม (Mixed Economy)
้ อ
◦ กำรใชเครื
่ งมือกำกับเศรษฐกิจประกอบทัง้ กำรใช ้ รำคำ
vs. กำรสงั่ กำร
◦ กำรสงั่ กำรอำจใชอ้ ำนำจรัฐโดยตรงจำกกฎหมำย
3
มุมมองเกีย
่ วกับบทบำทของ
รัฐบำล
Mercantilism
 Laissez Faire (Adam Smith)
 Socialism (Karl Marx, Sismondi, Robert
Own etc.)
 Keynesian (John Maynard Keynes)
 Public Choices

4
มุมมองเกีย
่ วกับบทบำทของ
รัฐบำล

“The role of government is to create an environment in
which the entrepreneur is willing to take risk and be able to
get a return on the risk taken.”
◦ George W. Bush

“… the right public policies can foster an environment
that makes strong growth and job creation easier.”
◦ From Kerry and Edwards “Our Plan For America”
5
6
แนวทางการศึกษา
เศรษฐศาสตร ์สาธารณะ
7
ึ ษำเศรษฐศำสตร์
แนวทำงกำรศก
สำธำรณะ
เรียนรู ้บทบำทภำครัฐในระบบเศรษฐกิจ
 เรียนรู ้ผลทีเ่ กิดจำกกำรทำหน ้ำทีข
่ องรัฐ
 สำมำรถประเมินผลทีไ
่ ด ้รับ
ิ ใจ
 เรียนทีจ
่ ะเข ้ำใจกระบวนกำรกำรตัดสน

้ ง้ positive and normative approach
กำรเรียนรู ้ใชทั
8
ดุลยภำพเศรษฐกิจและสวัสดิกำร
สงั คม
P
รูปที่ 1.1 ดุลย
ภำพตลำด
a
S
c
P1
E
P*
P2
d
D
b
Q*
Q*
Q
9
ดุลยภำพเศรษฐกิจและ
รูปที่ 1.1
ดุลย
ั
สวัสดิกำรส
ง
คม
ภำพตลำด
PM
The surplus
Providing
thefrom
first the
unitnext
S
givesisathe
unit
great
difference
deal of
surplus tothe
between
“society.”
demand and
supply curves.
Social
The
area
efficiency
between
is the
maximized
supply at
Q*, and
and
demand
is thecurves
sum offrom
the zero to
consumer
Q*
represents
and the
producer
surplus.
surplus.
P*
This area represents the
social surplus from
producing the first unit.
D
0
1
Q*
QM
10
PM
S
สำมเหลีย
่ มนีแ
้ สดง
lost surplus ต่อสงั คม
หรือทีเ่ รียกว่ำ
social surplus จำก Q’ คือ
พืน
้ ที“deadweight
น
่ lี้ arger consumerloss.”
and
P*
smaller producer surplus.
กำรคุมรำคำทำให ้
ปริมำณลดเหลือ Q´,
และมี Excess
Demand
P2
Q´
Q*
D
QM
11
First Fundamental Theorem of
Welfare
Economics
่ ปสงค ์มวลรวมเท่ากับ
 ภายใต ้ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ เมืออุ
่ ด จากรูปคทีาถามคื
่ 1.1 อปัจ
อุปทานมวลรวม สวัสดิการสังคมจะสูงทีสุ
คือทีจุ่ ด E
ให ้เกิดการไม่ไ
่
 ตาแหน่ งใดๆ ทีนอกเหนื
อจากจุดการบริโภคที่ Q* ขึ
จะท
้ า ้ ซึงได
่ ้แก
นได
้ ้านอุปสงค ์และอุปทานต่ากว่า E
ให ้สวัสดิการสังคมทังด
ล ้มเหลวของต
้
 นอกจากนี การไม่
อยู่ในดุลยภาพทาให ้เกิดปัญหา
้ ้วย อันเป็ นผลจาก ความล้ม
deadweight loss กับสังคมขึนด
่
่ การจัดสรรทร ัพยากรใหม่เกิดขึน้
ตลาดทีป
การทีมี
่ สิดนค้าสา
 การดาเนิ นนโยบายของร ัฐบาลจึงต ้องพิจารณาผลทีเกิ
การผู กข
กับการสูญเสียของ consumer surplus และ
่
supplier surplus ว่าเป็ นอย่างไร โดยการกระจายผลที
externa
้
เกิดขึนระหว่
างบุคคลในสังคม ตัวอย่างการมีการควบคุข้มอมู ลข่า
ราคา (price Control) ที่ P2 เกิด deadweight loss
สมบู รณ
่
เท่ากับ P2 dEP* ซึงเกิดจากการควบคุมราคาทาให ้เกิด
disequi
่
การปริมาณทีสามารถน
าไปใช ้บริโภคได ้
12
เงือ
่ นไขกำรได ้ First Fundamental Welfare Condition
สม้
สม้
i1
0
i2
j3
i3
Utilities ของ นำย ก.
ทุเรียน
j1
0
j2
Utilities ของ นำย ข.
ทุเรียน
เป็ นเงือ
่ นไขทีเ่ กิดจำกำกรแลกเปลีย
่ นในระบบเศรษฐกิจท
ทีผ
่ ู ้บริโภคมีควำมพอใจของตนเอง และนำมำแลกปลีย
่ นก
ิ ธิภำพสูงสุด (Pareto Optim
welfare ทีด
่ ข
ี น
ึ้ หรือ ประสท
13
เงือ
่ นไขกำรได ้ First Fundamental Welfare Condition
้ o
สม:
สม้
i1
0
i2
j3
i3
Utilities ของ นำย ก.
ทุเรียน: d0
j1
j2
Utilities ของ นำย ข.
ทุเรียน
ภำยใต ้เงือ
่ นไขดังกล่ำวผู ้บริโภคแต่ละคนมีควำมพอใจตำม
หรือ indifference curve ของตนเอง โดยเสน้ indifference
มี slope คือ MRS = Pd /Po ของแต่คน
14
ทุเรียน
สม้
Utilities ของ นำย ข.
0
C
B
A
สม้
0
Utilities ของ นำย ก.
ทุเรียน
15
Utilities ของ นำย ข.
0ข
ทุเรียน
สม้
C
D
B
A
สม้
0ก
Utilities ของ นำย ก.
ทุเรียน
16
Utilities ของ นำย ข.
ทุเรียน
0ข
สม้
D
0ก
C
สม้
Utilities ของ นำย ก.ทุเรียน
เสน้ Oก และ Oข แสดงทีเ่ รียกว่ำ Contract Curve คือเส
ิ ธิภำพสูงสุดจำกกำรแลกเปลีย
ถึงประสท
่ นของบุคคลทัง้ สอ
กำรแลกเปลีย
่ นจะได ้เงือ
่ นไขคือ
MRS ของนำย ก. = MRS ของนำย ข.ตำมแนว เสน้ O
และยังเท่ำกับ Pd /Po หรือ เท่ำกับ MCd = MC o เพรำะก
17
ดังกล่ำวอยูใ่ นตลำดแข่งขันสมบูรณ์
สม้
รูปที่ W.1. เงือ
่ นไข First Fundamental Welfare กับกำ
g
r
n
โดยที่ MRT = MCd /MC
0
s
MRT
m
0
h
ทุเรียน
18
เงือ
่ นไข First Fundamental Welfare
Condition
ิ ธิภำพ
ดังนัน
้ เงือ
่ นไข ทีด
่ ท
ี ส
ี่ ด
ุ หรือมีประสท
มำกทีภ
่ ำยใต ้ first fundamental condition
ทัง้ ด ้ำนกำรผลิตและกำรบริโภคของระบบ
้
เศรษฐกิจทีม
่ ก
ี ำรใชกลไกตลำดที
ส
่ มบูรณ์
คือ
 MRS นำย ก. = MRS นำย ข. = MRT จำก
ั สว่ นของ MC สน
ิ ค ้ำทีม
กำรผลิต หรือสด
่ ี
กำรแลกเปลีย
่ น
ึ่ ทัง้ หมดนีค
 ซง
้ อ
ื เงืน
่ ไขของ Pareto
Optimality
 จำกตัวอย่ำงจะเห็นกำรแลกเปลีย
่ นต่อตำม
เสน้ Contract Curve ทีแ
่ สดง ระดับ

19
นำย ข.
Uข
E
H
SW1
G
U ก นำย ก.
20
Second Fundamental Theorem of
Welfare Economics
่
 สังคมยอมร ับการเปลียนแปลงประสิทธิภาพ
หากมี
่
การ
การกระจายทร ัพยากรทีเหมาะสมและมี
่
่
แลกเปลียนที
เสรี
 (Society can attain any efficient outcome
by a suitable redistribution of resources
and free trade)
 ดังนั้นจากการพิจารณารูปที่ 1.1 ต ้องดูด ้วยว่าการ
กระจายการบริโภคระหว่างประชาชนเป็ นอย่างไร
 เป็ นผลให ้ในความเป็ นจริงต ้องเผชิญปัญหาการ
เลือกระหว่าง Equity-Efficiency Tradeoff เสมอ
่ จารณาได ้จาก Social Welfare Function
ซึงพิ
่
ทีรวม
welfare ของทุกๆ คนเข ้าไว ้ด ้วยกัน
21
ิ ค ้ำสำธำรณะ
สน
ิ ค ้ำเอกชน
สน
Utilities ของ นำย ข.
0
C
B
A
ิ ค ้ำเอกช
สน
0
Utilities ของ นำย ก.
ิ ค ้ำสำธำรณะ
สน
22
นำย ข.
Uข
E
H
SW1
G
U ก นำย ก.
23
เงือ
่ นไข เศรษฐศำสตร์สวัสดิกำรภำยใต ้
Second Fundamental Condition

Pareto Optimality ทีจ
่ ะยอมรับกำรชอชเย
ี จำกควำมมีประสท
ิ ธิภำพสูงสุด
สวัสดิกำรทีส
่ ย
ู เสย
ด ้วยควำมทีม
่ ส
ี วัวสดิกำรจำกควำมเท่ำเทียมมำก
ขึน
้ โดยมีผลลัพธ์ คือ
MRSi ของทุกๆ คน จะไม่จำเป็ นทีต
่ ้องเท่ำกัน
โดย i = ผู ้บริโภคทัง้ หมด ในทีน
่ ค
ี้ อ
ื
และ ∑ MRSij = MRT
24
เส้นความเป็ นไปได้ในการผลิตสินค้าของระบบเศรษฐกิจ
Private Goods
Y
C
B
A
D
E
X1
X
Public Goods
25
เงือ
่ นไข เศรษฐศำสตร์สวัสดิกำรภำยใต ้
Second Fundamental Condition
ี กำรได ้ Pareto Optimality เพือ
อำจสูญเสย
่ มุง่ ให ้
เกิดควำมเป็ นธรรมมำกขึน
้ ทำให ้ เงือ
่ นไขกำร
จัดสรรทรัพยำกรเปลีย
่ นเป็ น

MRSi ของแต่ละคน ไม่เท่ำกัน โดย i =
ผู ้บริโภคทัง้ หมด ในทีน
่ ค
ี้ อ
ื นำย ก. และ นำย ข.
 MRSก + MRSข = MRT

26
วัตถุประสงค์โดยทั่วไปของกำร
ดำเนินนโยบำยกำรคลัง

เพือ
่ ให ้เกิดผลต่อกำรทำงำนของระบบ
เศรษฐกิจ
ิ ค ้ำสำธำรณะ (Public
1. สน
◦ ปรับเปลีย
่ นอุปสงค์มวลรวมและอุ
ปทำน
Goods)
มวลรวม
2. กำรผูกขำด (Monopoly)
3. ผลภำยนอก
◦ แก ้ปั ญหำควำมล ้มเหลวของตลำด
(Externalities)
4. ตลำดไม่สมบูรณ์
(Imperfect market)
5. ข ้อมูลไม่ง
มบูรณ์ ส
ั สคมที
 เพือ
่ ทำให ้เกิดสวัสดิกำรของส
่ งู
(Imperfect market)
ทีส
่ ด
ุ
6. กำรไม่มด
ี ล
ุ ยภำพ
(Disequilibrium)
(เป้ ำหมำยสูงสุดของกำรด
ำเนินกำรทำง
27
เป็ นควำมคิ
ดตัง้ แต่สมัย Adam
วัตถุประสงค์ของกำรดำเนิ
นนโยบำยกำร
ิ ค ้ำและ
Smith ทีส
่ งั คมต ้องกำรสน
คลัง (แนวคิดเดิม)
่ สน
ิ ค ้ำ
บริกำรบำงชนิดเชน
้
อ
่ สงั คม โดยอำจใช
 กำรจัดสรรทรัพยำกรสำธำรณะเพื
(Allocation
of
ทัง้ มำตรกำรทำงรำยได ้หรือ
Resources)
รำยจ่ำย
มีควำมหมำยทีแ
่ ตกต่ำงกัน
ิ ค ้ำสำธำรณะ (Public
สน
goods)
ระหว่ำงประเทศพั
ฒนำและกำลัง
พัฒนำ โดยในประเทศพั
ฒนำ
 กำรทำให ้มีเสถียรภำพทำงเศรษฐกิ
จ
แล ้วจะทำให ้ได ้ใกล ้ full
ในระดับมหภำค
employment แต่ประเทศกำลัง
นำกำหนดได ้ลำบำกกว่ำด ้วย
(MacroeconomicพัฒStabilization)
เหตุผลอะไร
กำรจ ้ำงงำนเต็มที่
ควำมหมำยทีแ
่ ตกต่ำงกันระหว่ำง
ประเทศพัฒนำและกำลังพัฒนำ
กำรมีเสถียรภำพของรำคำ
ในประเทศพัฒนำแล ้วกำร
้ทำไห ้มีกำรบริโภค
ี ล
บัญชด
ุ กำรชำระเงินทีกระจำยรำยได
่มำกขึมดุ
ส
ล
น
้ และกำรจ ้ำงงำนมำกขึน
้
ประเทศกำลังพัฒนำมุง่ เพือ
่
 กำรกระจำยรำยได ้ใหม่ แต่
(Income
สร ้ำงควำมเท่Public
ำเทียมและโอกำส
Musgrave,
Finance, 1
Redistribution)
28
อะไรคือบทบำททีเ่ หมำะสม
ของรัฐบำล
◦ทางด้านรายจ่าย: รัฐบำลควร
ิ ค ้ำหรือให ้บริกำร
ผลิตสน
สำธำรณะประเภทใดบ ้ำง
◦ทางด้านรายร ับ: รัฐบำลจะหำ
รำยรับได ้อย่ำงไร
29
4 คาถามสาคัญของเศรษฐศาสตร ์
การคลัง
 When
should the government
intervene in the economy?
รัฐบำลควรจะเข ้ำมำแทรกแซงระบบ
เศรษฐกิจเมือ
่ ไร
 How might the government intervene?
รัฐบำลจะแทรกแซงระบบเศรษฐกิจได ้
อย่ำงไร
 What is the effect of those
interventions on economic outcomes?
อะไรคือผลของกำรแทรกแซงของรัฐบำล
 Why do governments choose to
30
รัฐบำลควรจะเข ้ำมำแทรกแซง
ระบบเศรษฐกิจเมือ
่ ไร
 โดยปกติแล ้ว
ตลำดทีม
่ ก
ี ำรแข่งขัน
ิ ธิภำพ”
สมบูรณ์จะทำให ้เกิด “ประสท
ในระบบเศรษฐกิจ
 เป็ นกำรยำกทีจ
่ ะบอกว่ำกำรแทรกแซง
ของรัฐบำลเป็ นกำรกระทำทีถ
่ ก
ู ต ้อง
หรือไม่ โดยปกติมักจะพิจำรณำจำก
ิ ธิภำพ
◦ ควำมมีประสท
◦ ควำมเท่ำเทียม
31
รัฐบำลควรจะเข ้ำมำแทรกแซงระบบ
เศรษฐกิจเมือ
่ ไร
ิ ธิภำพ
ด ้ำนควำมมีประสท
 ในระบบตลำดตำมปกติ ผลลัพธ์ทม
ี่ ี
ิ ธิภำพจะเกิดขึน
้ ป
ประสท
้ ณ จุดทีเ่ สนอุ
้ ปทำนตัดกัน
สงค์และเสนอุ
ิ ค ้ำสำธำรณะ – กำร
 ในแง่ของสน
ป้ องกันประเทศ กำรทำควำมสะอำด
ถนน
32
รัฐบำลควรจะเข ้ำมำแทรกแซงระบบ
เศรษฐกิจเมือ
่ ไร
ควำมล ้มเหลวของตลำด
 ในปี 2544 มีประชำกรมำกกว่ำ 45 ล้านคน
หรือ 75 % ของประชำกรทัง้ หมดทีไ่ ม่
สำมำรถได ้รับบริกำรสำธำรณสุขทีเ่ พียงพอ
้
ในปี 2545 รัฐบำลใชงบประมำณ
32,000
ล ้ำนบำทในกำรจัดทำโครงกำรสำธำรณสุข
ให ้กับประชำชน
 กำรทีป
่ ระชำชนไม่ได ้รับบริกำรสำธำรณสุขที่
เหมำะสม จะทำให ้เกิดผลกระทบภำยนอก
ทำงด ้ำนลบขึน
้ (negative externalities)
จำกกำรเจ็บป่ วย แต่ประชำชนอำจจะไม่ได ้
คำนึงถึงผลกระทบทีจ
่ ะเกิดขึน
้ กับบุคคลอืน
่
33
รัฐบำลควรจะเข ้ำมำแทรกแซงระบบ
เศรษฐกิจเมือ
่ ไร
การกระจายรายได้ใหม่
 รัฐบำลสนใจทัง
้ ขนำดของก ้อนเค ้ก
และขนำดของเค ้กทีแ
่ ต่ละคนในสงั คม
จะได ้
ั คมมักจะให ้ค่ำสำหรับกำรทีค
 สง
่ นจน
บริโภคเพิม
่ ขึน
้ 1 บำท มำกกว่ำกำรที่
คนรวยบริโภคเพิม
่ ขึน
้ 1 บำท
 การกระจายรายได้ใหม่ เป็ นกำรโอน
ทรัพยำกรจำกคนกลุม
่ หนึง่ ในสงั คมไป
34
รัฐบำลควรจะเข ้ำมำแทรกแซงระบบ
เศรษฐกิจเมือ
่ ไร
ด ้ำนควำมเท่ำเทียม
 จำกข ้อมูลกำรกระจำยรำยได ้ในประเทศ
ไทย คน 20% รวยสุดของประเทศมีรำยได ้
มำกกว่ำ 50% ของรำยได ้ทัง้ หมดใน
ประเทศ
 กำรกระจำยรำยได ้ใหม่มักจะทำให ้เกิดกำร
ี ประสท
ิ ธิภำพ
สูญเสย
◦ กฎหมำยทีเ่ กีย
่ วกับกำรกระจำยรำยได ้ใหม่
่
สำมำรถทำให ้พฤติกรรมของคนเปลีย
่ นไป เชน
กำรเก็บภำษี จำกคนรวยมำกระจำยให ้คนจน
อำจจะทำให ้คนทัง้ สองกลุม
่ นีท
้ ำงำนน ้อยลง
35
วิธก
ี ำรนำนโยบำยกำรคลังมำใช ้
กำรจัดสรรทรัพยำกรและกำรเจริญเติบโต
ทำงเศรษฐกิจ
◦ โดยจัดกำรเกีย
่ วกับโครงสร ้ำงภำษี รำคำ

ของบริกำรสำธำรณะ วิธก
ี ำรก่อหนี้
สถำบันของรัฐ ปั จจัยพืน
้ ฐำนต่ำงๆ กำร
ิ ธิภำพ กำร
จัดสรรทรัพยำกรทีม
่ ป
ี ระสท
ออม กำรสะสมทุน และกำรเจริญเติบโต
ทำงเศรษฐกิจ
ควำมมีเสถียรภำพของระบบเศรษฐกิจ
ั ้ -ระยะยำว)
(ระยะสน
◦ โดยจัดกำรเกีย
่ วกับอุปสงค์มวลรวม กำร

ออม ฯลฯ
36
่
วัตถุประสงค ์ทัวไปในการน
านโยบายการ
คลังมาใช ้
 เพือ
่ กำหนดกำรทำงำนของระบบ
เศรษฐกิจ;
◦ กำรปรับตัวของอุปสงค์มวลรวมและอุปทำน
มวลรวม
◦ แก ้ไขควำมล ้มเหลวของตลำด ตัวอย่ำง
โครงกำรประกันสุขภำพทั่วหน ้ำ กำรลงทุนด ้ำน
ึ ษำ
กำรศก

รัฐบำลไม่อำจจะจำกัดในหน ้ำทีด
่ ้ำนใดด ้ำนหน
เพือ
่ ให ้ได ้สวัสดิกำรสงั คมสูงสุด
37
ิ ธิผลของ
ควำมมีประสท
นโยบำยกำรคลัง
กำรเป็ นเครือ
่ งมือในกำรจัดกำรทำงด ้ำนอุปสงค์
ั ้ ) ซงึ่ ผลก็ขน
(ระยะสน
ึ้ อยูก
่ บ
ั :
ั พันธ์
•กำรตอบสนองของภำคเอกชน (ควำมสม
ของพฤติกรรมต่ำงๆ: กำรบริโภค กำรลงทุน
กำรออม กำรนำเข ้ำ และกำรสง่ ออก)
•นโยบำยในระดับมหภำค: นโยบำยกำรเงิน
กำรกำหนดอัตรำแลกเปลีย
่ น กำรเคลือ
่ นไหว
ของทุน
•ปั จจัยภำยนอก
ื่ ถือ
•ควำมคำดหวังของสงั คมและควำมน่ำเชอ
ของภำครัฐ
38
วัตถุประสงค ์ของนโยบายการคลัง
(แนวคิดใหม่)
ึ่ ภำวกำรณ์ของกำรแข่งขันทำง
 รักษำไว ้ซง
เศรษฐกิจ (Maintain of competitive
economic environment)
ึ่ กำรมีเสถียรภำพทำงเศรษฐกิจ
 รักษำไว ้ซง
(Maintain of economic stability)
 กำรกระจำยรำยได ้ใหม่ (Income
redistribution)
ิ่ แวดล ้อม (Environmental
 กำรดูแลรักษำสง
protection
and preservation)
The World Bank, The State in the Changing World:1997
39
แนวคิด 2 กระแส
 กำรปล่อยให ้กลไกตลำดทำงำน
(Market Based
Strategy)
รัฐบำลเป็ นผู ้ให ้แนวทำง
สร ้ำงให ้เกิดสภำพแวดล ้อมทีเ่ อือ
้ ให ้กลไก
ตลำดทำงำนได ้ (Create market
environment)
 กำรควบคุมโดยตรงจำกรัฐบำล
(Total
government control)
ิ ใจไว ้ทีส
กำรรวมศูนย์กำรตัดสน
่ ว่ นกลำง
(Centralized in decision making)
 กำรมีแผนทีไ่ ม่ยด
ื หยุน
่ (Rigid planning)
40
องค์ประกอบขององค์กรของรัฐ
ระบบเศรษฐกิจ
 รัฐบำล
(กลำง)
 รัฐวิสำหกิจ
 รัฐบำลท ้องถิน
่ (องค์กรปกครองสว่ น
ท ้องถิน
่ )
 เงินกู ้ยืม
 กองทุนในงบประมำณของรัฐบำล
 องค์กรอิสระ
41
ควำมล ้มเหลวของภำครัฐ (Systematic Failure
0f Government)

ข ้อมูลข่ำวสำรทีไ่ ม่สมบูรณ์ (limited Information)
่ กำรแจกเบีย
◦ เชน
้ ผู ้สูงอำยุ กำรประกันรำยได ้เกษตรกร

ควำมสำมำรถในกำรควบคุมกำรตอบสนองของ
กลไกตลำด (Limited control over private market
responses)
◦ ควำมร่วมมือในกำรสร ้ำงหลักระกันสุขภำพของ
โรงพยำบำลเอกชน

ข ้อจำกัดกำรควบคุมกลไกรัฐ (Limited control over
Bureaucracy)
◦ กำรควบคุมกำรบุกรุกทีส
่ ำธำรณะ

ข ้อจำกัดในกำรได ้รับกำรยอมรับจำกกระบวนกำร
ทำงกำรเมือง (Limited Imposed by Political
Process)
42