บทนำ ภาค1-54

Download Report

Transcript บทนำ ภาค1-54

บทนำ
บทบำทรัฐในระบบเศรษฐกิจ
อ. สกนธ์ วรัญญูวฒ
ั นำ
1
บทบำทรัฐในระบบเศรษฐกิจ
เศรษฐศำสตร์ สำธำรณะคืออะไร
 มุมมองบทบำทรัฐในระบบเศรษฐกิจที่แตกต่ำงกัน
 วิธีกำรศึกษำเศรษฐศำสตร์ สำธำรณะ
 กำรดำเนินนโยบำยที่เหมำะสมของรัฐบำล

2
เกริ่ นนำ: เศรษฐศำสตร์ สำธำรณะคืออะไร

รัฐมีบทบำทควำมสำคัญต่อกำรดำรงชีพของประชำชนทุกๆ คนในสังคม
◦ นับตังแต่
้ เกิดจนตำย กำรให้ บริ กำรสำธำรณะต่ำงๆ
◦ กำรจัดเก็บภำษีหรื อรำยได้ โดยมีเป้ำหมำยแตกต่ำงกัน

บทบำทรัฐบำลในระบบเศรษฐกิจ
◦ เสริ มสร้ ำงประสิทธิภำพกำรทำหน้ ำที่ของกลไกตลำด (Efficiency)
◦ สร้ ำงควำมเท่ำเทียมในกำรกระจำยทรัพยำกร (Equity)

ระบบเศรษฐกิจแบบผสม (Mixed Economy)
◦ กำรใช้ เครื่ องมือกำกับเศรษฐกิจประกอบทังกำรใช้
้
รำคำ vs กำรสัง่ กำร
◦ กำรสัง่ กำรอำจใช้ อำนำจรัฐโดยตรงจำกกฎหมำย ระเบียบรำชกำร หรื อกำรทำงำน
ผ่ำนรัฐวิสำหกิจต่ำงๆ ที่เป็ นกำรผลิตโดยหน่วยงำนของรัฐ
3
มุมมองเกี่ยวกับบทบำทของรัฐบำล
Mercantilism
 Laissez Faire (Adam Smith)
 Socialism (Karl Marx, Sismondi, Robert
Own etc.)
 Keynesian (John Maynard Keynes)
 Public Choice

4
มุมมองเกี่ยวกับบทบำทของรัฐบำล

“The role of government is to create an environment in
which the entrepreneur is willing to take risk and be able to
get a return on the risk taken.”
◦ George W. Bush

“… the right public policies can foster an environment
that makes strong growth and job creation easier.”
◦ From Kerry and Edwards “Our Plan For America”
5
เส้ นความเป็ นไปได้ ในการผลิตสินค้ าของระบบเศรษฐกิจ
Private Goods
Y
C
B
A
D
E
X1
X
Public Goods
6
7
แนวทางการศึกษาเศรษฐศาสตร์ สาธารณะ
8
แนวทำงกำรศึกษำเศรษฐศำสตร์ สำธำรณะ
เรี ยนรู้บทบำทภำครัฐในระบบเศรษฐกิจ
 เรี ยนรู้ ผลที่เกิดจำกกำรทำหน้ ำที่ของรัฐ
 สำมำรถประเมินผลที่ได้ รับ
 เรี ยนที่จะเข้ ำใจกระบวนกำรกำรตัดสินใจ

กำรเรี ยนรู้ใช้ ทงั ้ positive and normative approach
9
ดุลยภำพเศรษฐกิจและสวัสดิกำรสังคม
P
รูปที่ 1.1 ดุลยภำพตลำด
a
S
c
P1
E
P*
P2
d
D
b
Q*
Q*
Q
10
ดุลยภำพเศรษฐกิจและสวัสดิกำรสังคม
รูปที่ 1.1 ดุลยภำพตลำด
PM
The surplus
Providing
thefrom
first the
unitnext
S
givesisathe
unit
great
difference
deal of
surplus tothe
between
“society.”
demand and
supply curves.
Social
The
area
efficiency
between
is the
maximized
supply at
Q*, and
and
demand
is thecurves
sum offrom
the zero to
consumer
Q*
represents
and the
producer
surplus.
surplus.
P*
This area represents the
social surplus from
producing the first unit.
D
0
1
Q*
QM
11
PM
S
สำมเหลี่ยมนี ้แสดง lost surplus
ต่อสังคม หรื อที่เรี ยกว่ำ
“deadweight loss.”
social surplus จำก Q’ คือ พื ้นที่นี ้
larger consumer and
smaller producer surplus.
P*
กำรคุมรำคำทำให้ ปริ มำณลด
เหลือ Q´, และมี Excess
Demand
P2
D
Q´
Q*
QM
12
First Fundamental Theorem of Welfare Economics




ภายใต้ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ เมื่ออุปสงค์มวลรวมเท่ากับอุปทานมวลรวม
สวัสดิการสังคมจะสู งที่สุด จากรู ปที่ 1.1 คือที่จุด E
คาถามคือปัจจัยอะ
ตาแหน่งใดๆ ที่นอกเหนือจากจุดการบริ โภคที่ Q* จะทาให้สวัสดิการสั
งคม
ไม่ได้ดุลยภาพขึ้นไ
ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานต่ากว่า E
นอกจากนี้การไม่อยูใ่ นดุลยภาพทาให้เกิดปัญหา deadweight loss กับ“การล้
สังคมมเหลวของต
ขึ้นด้วย อันเป็ นผลจากการที่มีการจัดสรรทรัพยากรใหม่เกิดขึ้น
การดาเนินนโยบายของรัฐบาลจึงต้องพิจารณาผลที่เกิดกับการสู ญเสี ยของ
consumer surplus และ supplier surplus ว่าเป็ นอย่างไร โดยการกระจายผลที
่ มเหลว
ความล้
เกิดขึ้นระหว่างบุคคลในสังคม ตัวอย่างการมีการควบคุมราคา (price Control)
ประกอบทั้ง ส
ที่ P2 เกิด deadweight loss เท่ากับ P2 dEP* ซึ่งเกิดจากการควบคุมราคาทาให้
การผูกขาด e
เกิดการปริ มาณที่สามารถนาไปใช้บริ โภคได้
ข้ อมูลข่ าวสาร
disequilibriu
13
ทุเรี ยน
Utilities ของ นำย ข.
0
ส้ ม
C
B
A
ส้ ม
0
Utilities ของ นำย ก.
ทุเรี ยน
14
ส้ ม
g
r
n
0
s
m
0
h
ทุเรี ยน
15
เงื่อนไข เศรษฐศำสตร์ สวัสดิกำรภำยใต้ First
Fundamental Condition


ทำให้ ได้ Pareto Optimality โดยมีผลลัพธ์ คือ
MRSi ของทุกๆ คน เท่ำกัน โดย i = ผู้บริโภคทังหมด
้
ในที่นี ้คือ
นำย ก. และ นำย ข. จำกรูปคือที่จดุ C และ
MRSi = MRT
16
Second Fundamental Theorem of Welfare Economics
 สังคมยอมรับการเปลี่ยนแปลงประสิ ทธิภาพ หากมีการกระจาย
ทรัพยากรที่เหมาะสมและมีการแลกเปลี่ยนที่เสรี
 (Society can attain any efficient outcome by a suitable redistribution
of resources and free trade)
 ดังนั้นจากการพิจารณารู ปที่ 1.1 ต้องดูดว้ ยว่าการกระจายการบริ โภค
ระหว่างประชาชนเป็ นอย่างไร
 เป็ นผลให้ในความเป็ นจริ งต้องเผชิญปั ญหาการเลือกระหว่าง EquityEfficiency Tradeoff เสมอ ซึ่งพิจารณาได้จาก Social Welfare
Function ที่รวม welfare ของทุกๆ คนเข้าไว้ดว้ ยกัน
17
เงื่อนไข เศรษฐศำสตร์ สวัสดิกำรภำยใต้ Second
Fundamental Condition
อำจสูญเสียกำรได้ Pareto Optimality เพื่อมุง่ ให้ เกิดควำมเป็ น
ธรรมมำกขึ ้นทำให้ เงื่อนไขกำรจัดสรรทรัพยำกรเปลี่ยนเป็ น
 MRSi ของแต่ละคน ไม่เท่ำกัน โดย i = ผู้บริ โภคทังหมด
้
ในที่นี ้คือ
นำย ก. และ นำย ข.
 MRSก + MRSข = MRT

18
วัตถุประสงค์โดยทัว่ ไปของกำรดำเนินนโยบำยกำรคลัง


เพื่อให้ เกิดผลต่อกำรทำงำนของระบบเศรษฐกิจ
◦ ปรับเปลี่ยนอุปสงค์มวลรวมและอุปทำนมวลรวม
1. สินค้ ำสำธำรณะ (Public Goods)
◦ แก้ ปัญหำควำมล้ มเหลวของตลำด
2. กำรผูกขำด (Monopoly)
3. ผลภำยนอก (Externalities)
4. ตลำดไม่สมบูรณ์ (Imperfect market)
เพื่อทำให้ เกิดสวัสดิกำรของสังคมที5. ่สข้งู อทีมู่สลไม่ดุ สมบูรณ์ (Imperfect market)
6. กำรไม่มีดลุ ยภำพ (Disequilibrium)
(เป้ำหมำยสูงสุดของกำรดำเนินกำรทำงเศรษฐกิจของรัฐบำล)
19
วัตถุประสงค์ของกำรดำเนินนโยบำยกำรคลั
ดเดิมSmith
) ที่
เป็ นควำมคิดงตังแต่
้ (แนวคิ
สมัย Adam
สังคมต้ องกำรสินค้ ำและบริ กำรบำงชนิดเช่น
สินค้ ำสำธำรณะเพื่อสังคม โดยอำจใช้ ทงั ้
มำตรกำรทำงรำยได้ หรื อรำยจ่ำย
กำรจัดสรรทรัพยำกร (Allocation of Resources)
สินค้ ำสำธำรณะ (Public goods)
 กำรทำให้ มีเสถียรภำพทำงเศรษฐกิ
จในระดั่แตกต่บมหภำค
มีควำมหมำยที
ำงกันระหว่ำงประเทศ
พัฒนำและกำลังพัฒนำ โดยในประเทศพัฒนำ
(Macroeconomic Stabilization)
แล้ วจะทำให้ ได้ ใกล้ full employment แต่
ประเทศกำลังพัฒนำกำหนดได้ ลำบำกกว่ำด้ วย
กำรจ้ ำงงำนเต็มที่
เหตุผลอะไร
กำรมีเสถียรภำพของรำคำ
บัญชีดลุ กำรชำระเงินที่สมดุล ควำมหมำยที่แตกต่ำงกันระหว่ำงประเทศพัฒนำ
และกำลังพัฒนำ ในประเทศพัฒนำแล้ วกำร
 กำรกระจำยรำยได้ ใหม่ (Income Redistribution)
กระจำยรำยได้ ทำไห้ มีกำรบริโภคมำกขึ ้นและกำร
จ้ ำงงำนมำกขึ ้น
 กำรขยำยตัวเศรษฐกิจ Economic Growth
แต่ประเทศกำลัPromotion
งพัฒนำมุง่ เพื่อสร้ ำงควำมเท่ำ

เทียมและโอกำส
Musgrave, Public Finance, 1959
20
อะไรคือบทบำทที่เหมำะสมของรัฐบำล
◦ทางด้ านรายจ่ าย: รัฐบำลควรผลิตสินค้ ำหรื อ
ให้ บริกำรสำธำรณะประเภทใดบ้ ำง
◦ทางด้ านรายรับ: รัฐบำลจะหำรำยรับได้
อย่ำงไร
21
4 คาถามสาคัญของเศรษฐศาสตร์การคลัง
 When should the government intervene in the economy?
รัฐบำลควรจะเข้ ำมำแทรกแซงระบบเศรษฐกิจเมื่อไร
 How might the government intervene?
รัฐบำลจะแทรกแซงระบบเศรษฐกิจได้ อย่ำงไร
 What is the effect of those interventions on economic outcomes?
อะไรคือผลของกำรแทรกแซงของรัฐบำล
 Why do governments choose to intervene in the way that they do?
ทำไมรัฐบำลถึงเลือกที่จะแทรกแซงในรูปแบบนัน้
22
รัฐบำลควรจะเข้ ำมำแทรกแซงระบบเศรษฐกิจเมื่อไร
 โดยปกติแล้ ว ตลำดที่มีกำรแข่งขันสมบูรณ์จะทำให้ เกิด
“ประสิทธิภำพ” ในระบบเศรษฐกิจ
 เป็ นกำรยำกที่จะบอกว่ำกำรแทรกแซงของรัฐบำลเป็ นกำร
กระทำที่ถกู ต้ องหรื อไม่ โดยปกติมกั จะพิจำรณำจำก
◦ ควำมมีประสิทธิภำพ
◦ ควำมเท่ำเทียม
23
รัฐบำลควรจะเข้ ำมำแทรกแซงระบบเศรษฐกิจเมื่อไร
ด้านความมี ประสิ ทธิ ภาพ
 ในระบบตลำดตำมปกติ ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภำพจะ
เกิดขึ ้น ณ จุดที่เส้ นอุปสงค์และเส้ นอุปทำนตัดกัน
 ในแง่ของสินค้ ำสำธำรณะ – กำรป้องกันประเทศ กำรทำ
ควำมสะอำดถนน
24
รัฐบำลควรจะเข้ ำมำแทรกแซงระบบเศรษฐกิจเมื่อไร
ความล้มเหลวของตลาด
ในปี 2544 มีประชำกรมำกกว่ำ 45 ล้ านคน หรื อ 75 % ของ
ประชำกรทังหมดที
้
่ไม่สำมำรถได้ รับบริกำรสำธำรณสุขที่เพียงพอ
ในปี 2545 รัฐบำลใช้ งบประมำณ 32,000 ล้ ำนบำทในกำรจัดทำ
โครงกำรสำธำรณสุขให้ กบั ประชำชน
 กำรที่ประชำชนไม่ได้ รับบริ กำรสำธำรณสุขที่เหมำะสม จะทำให้
เกิดผลกระทบภำยนอกทำงด้ ำนลบขึ ้น (negative externalities)
จำกกำรเจ็บป่ วย แต่ประชำชนอำจจะไม่ได้ คำนึงถึงผลกระทบที่จะ
เกิดขึ ้นกับบุคคลอื่น

25
รัฐบำลควรจะเข้ ำมำแทรกแซงระบบเศรษฐกิจเมื่อไร
การกระจายรายได้ ใหม่
 รัฐบำลสนใจทังขนำดของก้
้
อนเค้ กและขนำดของเค้ กที่แต่
ละคนในสังคมจะได้
 สังคมมักจะให้ คำ่ สำหรับกำรที่คนจนบริ โภคเพิ่มขึ ้น 1
บำท มำกกว่ำกำรที่คนรวยบริ โภคเพิ่มขึ ้น 1 บำท
 การกระจายรายได้ ใหม่ เป็ นกำรโอนทรัพยำกรจำกคน
กลุม่ หนึง่ ในสังคมไปยังคนอีกกลุม่ หนึง่
26
รัฐบำลควรจะเข้ ำมำแทรกแซงระบบเศรษฐกิจเมื่อไร
ด้านความเท่าเทียม
 จำกข้ อมูลกำรกระจำยรำยได้ ในประเทศไทย คน 20% รวยสุด
ของประเทศมีรำยได้ มำกกว่ำ 50% ของรำยได้ ทงหมดใน
ั้
ประเทศ
 กำรกระจำยรำยได้ ใหม่มกั จะทำให้ เกิดกำรสูญเสีย
ประสิทธิภำพ
◦ กฎหมำยที่เกี่ยวกับกำรกระจำยรำยได้ ใหม่สำมำรถทำให้ พฤติกรรม
ของคนเปลี่ยนไป เช่น กำรเก็บภำษีจำกคนรวยมำกระจำยให้ คนจน
อำจจะทำให้ คนทังสองกลุ
้
ม่ นี ้ทำงำนน้ อยลง
27
วิธีกำรนำนโยบำยกำรคลังมำใช้
 กำรจัดสรรทรัพยำกรและกำรเจริ ญเติบโตทำงเศรษฐกิจ
◦ โดยจัดการเกี ย่ วกับโครงสร้างภาษี ราคาของบริ การสาธารณะ
วิ ธีการก่อหนี ้ สถาบันของรัฐ ปั จจัยพืน้ ฐานต่างๆ การจัดสรร
ทรัพยากรทีม่ ีประสิ ทธิ ภาพ การออม การสะสมทุน และการ
เจริ ญเติ บโตทางเศรษฐกิ จ
 ควำมมีเสถียรภำพของระบบเศรษฐกิจ (ระยะสัน-ระยะยำว)
้
◦ โดยจัดการเกี ย่ วกับอุปสงค์มวลรวม การออม ฯลฯ
 ควำมเท่ำเทียมและควำมยำกจน
◦ โดยจัดการเกี ย่ วกับโครงสร้างภาษี นโยบายรายจ่าย การสร้าง
ระบบโครงข่ายความคุม้ ครองทางสังคม (social safety net)
28
วัตถุประสงค์ทวั่ ไปในการนานโยบายการคลังมาใช้

เพื่อกำหนดกำรทำงำนของระบบเศรษฐกิจ;
◦ กำรปรับตัวของอุปสงค์มวลรวมและอุปทำนมวลรวม
◦ แก้ ไขควำมล้ มเหลวของตลำด ตัวอย่ำง โครงกำรประกันสุขภำพทัว่
หน้ ำ กำรลงทุนด้ ำนกำรศึกษำ

เพื่อให้ ได้ สวัสดิกำรสังคมสูงสุด
(เป็ นเป้ำประสงค์ประสงค์สำคัญที่สดุ ของกำรทำหน้ ำที่ของรัฐบำล)
รัฐบำลไม่อำจจะจำกัดในหน้ ำที่ด้ำนใดด้ ำนหนึง่ มำกเกินไป
29
ควำมมีประสิทธิผลของนโยบำยกำรคลัง
กำรเป็ นเครื่ องมือในกำรจัดกำรทำงด้ ำนอุปสงค์ (ระยะสัน)
้ ซึง่ ผลก็
ขึ ้นอยูก่ บั :
• กำรตอบสนองของภำคเอกชน (ควำมสัมพันธ์ของพฤติกรรมต่ำงๆ:
กำรบริ โภค กำรลงทุน กำรออม กำรนำเข้ ำ และกำรส่งออก)
• นโยบำยในระดับมหภำค: นโยบำยกำรเงิน กำรกำหนดอัตรำ
แลกเปลี่ยน กำรเคลื่อนไหวของทุน
• ปั จจัยภำยนอก
• ควำมคำดหวังของสังคมและควำมน่ำเชื่อถือของภำครัฐ
30
วัตถุประสงค์ของนโยบายการคลัง (แนวคิดใหม่)
 รักษำไว้ ซงึ่ ภำวกำรณ์ของกำรแข่งขันทำงเศรษฐกิจ (Maintain of
competitive economic environment)
 รักษำไว้ ซงึ่ กำรมีเสถียรภำพทำงเศรษฐกิจ (Maintain of economic
stability)
 กำรกระจำยรำยได้ ใหม่ (Income redistribution)
 กำรดูแลรักษำสิ่งแวดล้ อม (Environmental protection and
preservation)
The World Bank, The State in the Changing World:1997
31
แนวคิด 2 กระแส
 กำรปล่อยให้ กลไกตลำดทำงำน (Market Based Strategy)
รัฐบำลเป็ นผู้ให้ แนวทำง
สร้ ำงให้ เกิดสภำพแวดล้ อมที่เอื ้อให้ กลไกตลำดทำงำนได้ (Create
market environment)
 กำรควบคุมโดยตรงจำกรัฐบำล (Total government control)
กำรรวมศูนย์กำรตัดสินใจไว้ ที่สว่ นกลำง (Centralized in decision
making)
 กำรมีแผนที่ไม่ยืดหยุน่ (Rigid planning)
32
องค์ประกอบขององค์กรของรัฐระบบเศรษฐกิจ
 รัฐบำล (กลำง)
 รัฐวิสำหกิจ
 รัฐบำลท้ องถิ่น (องค์กรปกครองส่วนท้ องถิ่น)
 เงินกู้ยืม
 กองทุนในงบประมำณของรัฐบำล
 องค์กรอิสระ
33
ควำมล้ มเหลวของภำครัฐ (Systematic Failure 0f
Government)

ข้ อมูลข่ำวสำรที่ไม่สมบูรณ์ (limited Information)
◦ เช่นกำรแจกเบี ้ยผู้สงู อำยุ กำรประกันรำยได้ เกษตรกร

ควำมสำมำรถในกำรควบคุมกำรตอบสนองของกลไกตลำด (Limited
control over private market responses)
◦ ควำมร่วมมือในกำรสร้ ำงหลักระกันสุขภำพของโรงพยำบำลเอกชน

ข้ อจำกัดกำรควบคุมกลไกรัฐ (Limited control over
Bureaucracy)
◦ กำรควบคุมกำรบุกรุกที่สำธำรณะ

ข้ อจำกัดในกำรได้ รับกำรยอมรับจำกกระบวนกำรทำงกำรเมือง (Limited
Imposed by Political Process)
◦ กำรควบคุมกำรออกกฎหมำยตำมเป้ำประสงค์ของรัฐ เช่นกฎหมำยภำษีทรัพย์สิน
34