Physics3 s32203 light

Download Report

Transcript Physics3 s32203 light

Physics3 s32203 light
บทที่ 11
แสงและทัศน
อุปกรณ ์
light1
Physics3 s32203 light
light1
การเคลือ
่ นทีแ
่ ละอัตราเร็วของแสง
- แสงมีสมบัตเิ ป็ นไดทั
่ และอนุ ภาค
้ ง้ คลืน
- แสงเป็ นคลืน
่ แมเหล็
กไฟฟ้า เช่นเดียวกับคลืน
่
่
ไมโครเวฟ อัลตราไวโอเลต
- แสงเดินทางเป็ นเส้นตรง เป็ นคลืน
่ ตามขวาง
- แสงเดินทางในสุญญากาศดวยอั
ตราเร็ว
้
299,792,458 เมตร/วินาที
(อนุ โลมให้ใช้คา่ 𝟑. 𝟎 × 𝟏𝟎𝟖 𝒎/𝒔)
- อัตราเร็วแสงในสุญญากาศมีคามากที
ส
่ ุด
่
- แสงมีความยาวคลืน
่ ในช่วง 400-700 นาโนเมตร
- แสงมีความถีใ่ นช่วง
𝟒. 𝟑 × 𝟏𝟎𝟏𝟒 − 𝟕. 𝟓 ×
𝟏𝟎𝟏𝟒 𝑯𝒛
- ปี แสงใช้เป็ นหน่วยวัดระยะทาง
Physics3 s32203 light
light1
การสะทอนของแสง
้
การสะทอนของแสงเกิ
ดเมือ
่ แสงตกกระทบผิวมัน
้
ซึง่ เป็ นไปตามกฎการสะทอน
้
1. รังสี ตกกระทบ เส้นปกติ รังสี สะทอน
อยูใน
้
่
ระนาบเดียวกัน
2. มุมตกกระทบ(i)เทากั
่ บมุมสะทอน(r)เสมอ
้
Physics3 s32203 light
ภาพในกระจกเงาราบ
light1
Physics3 s32203 light
light1
ภาพในกระจกเงาราบ
- เป็ นภาพเสมือนหัวตัง้ (ใช้ฉากรับไมได
่ )้ กลับ
ซ้ายเป็ นขวา หลังกระจก
- ระยะภาพ(s’)เทากั
่ บระยะวัตถุ(s)
- ขนาดภาพ(y’)เทากั
่ บขนาดวัตถุ(y)
𝟏
- ใช้กระจกสูง
ของความสูง สามารถ
𝟐
มองเห็ นความสูงของเราทัง้ ตัว
Physics3 s32203 light
ภาพในกระจกเงาราบ 2 บานวางทามุมตอกั
่ น
𝟑𝟔𝟎
จานวนภาพ 𝒏 =
−𝟏
𝜽
เมือ
่ n = จานวนภาพ
𝜽 = มุมทีก
่ ระจกวางทามุมตอกั
่ น
light1
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
1 กระจกเงาราบ 2 บานวางทามุมตอ
่
่
กัน 60 องศา จะเกิดภาพในกระจกเทาใด
่
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
2 ต้องการให้เกิดภาพในกระจกเงาราบ
่
11 ภาพ กระจกเงา 2 บานต้องวางทามุมตอกั
่ น
เทาใด
่
Physics3 s32203 light
light1
ภาพทีเ่ กิดจากกระจกโคง้
กระจงโค้งทรงกลม มี 2 ลักษณะ คือ
1. กระจกเวา้ ดานหน
า้ ส่วนหลังกระจกจะ
้
้ ากระจกจะเป็ นดานเว
้
เป็ นดานนู
นและเคลือบสารทึบแสงเอาไว้
้
2. กระจกนูน ดานหน
น ส่วนดานหลั
ง
้
้ ากระจกจะเป็ นดานนู
้
้
กระจกจะเป็ นดานเว
าและเคลื
อบสารทึบแสงเอาไว้
้
้
Physics3 s32203 light
light1
ส่วนประกอบของกระจกโค้ง
รัศมีความโค้ง (R) คือระยะจากจุดศูนยกลางความ
์
โค้งถึงจุดยอด
ความยาวโฟกัส(f) คือ ระยะจากจุดโฟกัสถึงจุดยอด
โดย
𝒇=
𝑹
Physics3 s32203 light
light1
การหาตาแหน่งภาพทีเ่ กิดจากกระจกโค้ง
1. วิธก
ี ารวาดรูป
1. เขียนรังสี ตกกระทบขนานกับแกนมุขสาคัญรังสี
สะท้อนผานจุ
ดโฟกัส
่
2. เขียนรังสี ตกกระทบผานผ
านจุ
ดโฟกัสรังสี
่
่
สะท้อนขนานแกนมุขสาคัญ
Physics3 s32203 light
ภาพทีเ่ กิดจากกระจกโคง้
light1
Physics3 s32203 light
light1
ภาพทีเ่ กิดจากกระจกโคง้
กระจกเวา้
- เกิดไดทั
้ ง้ ภาพจริงและภาพเสมือน
- ภาพเสมือน(โตกวาวั
่ วางวัตถุไว้
่ ตถุ)เกิดเมือ
ใกลกว
ส
้ าความยาวโฟกั
่
กระจกนูน
- เกิดภาพเสมือนหัวตัง้ ขนาดเล็กกวาวั
่ ตถุ
เทานั
่ ้น
Physics3 s32203 light
light1
การหาตาแหน่งภาพทีเ่ กิดจากกระจกโค้ง
1. วิธก
ี ารคานวณ
ตาแหน่งภาพ
1 1 1 2
f= ความยาว
= + ′=
โฟกัส
𝑓 𝑠 𝑠
𝑅
s=
ระยะวั
ต
ถุ
𝑠′
𝑦′
𝑓
𝑠 ′ −𝑓
s’ = ระยะภาพ
กาลังขยายM = 𝑠 = 𝑦 = 𝑠−𝑓 = 𝑓
R = รัศมีความ
โค้ง
+f, +R = กระจกเว้ า
+s’ = ภาพจริง
-f, -R= กระจกนูน
-s’ = ภาพเสมือน M=
กาลัภาพจริ
งขยาย
+s = วัตถุหน้ ากระจก
+M = ภาพจริง +y’=
ง
y=
ขนาดวั
-s = วัตถุหลังกระจก
-M = ภาพเสมือน -y’
= ภาพเสมื
อน ตถุ
y’ = ขนาด
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
1 จงหาตาแหน่งและชนิดของภาพจาก
่
กระจกเวาที
่ ค
ี วามยาวโฟกัส 10 เซนติเมตร
้ ม
เมือ
่ วางวัตถุไวหน
้ ้ ากระจกทีร่ ะยะ
ก. 20 เซนติเมตร
ข. 5 เซนติเมตร
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
2 จงหาตาแหน่งและชนิดของภาพจาก
่
กระจกนูนทีม
่ รี ศ
ั มีความโคง20
เซนติเมตร เมือ
่
้
วางวัตถุไวหน
้ ้ ากระจกทีร่ ะยะ
ก. 20 เซนติเมตร
ข. 5 เซนติเมตร
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
3 ต้องการให้เกิดภาพเสมือนขนาดโตเป็ น
่
2 เทาของวั
ตถุ จะต้องใช้กระจกชนิดใด และมี
่
ความยาวโฟกัสเทาใด
เมือ
่ วางวัตถุไวหน
่
้ ้ ากระจก
ทีร่ ะยะ 5 เซนติเมตร
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
4 ทันตแพทยถื
่ รี ศ
ั มีความ
่
์ อกระจกโค้งทีม
โค้ง 4 เซนติเมตร ห่างจากฟันทีต
่ องการอุ
ดเป็ น
้
ระยะ
1 เซนติเมตร ทันตแพทยจะเห็
นฟันใน
์
กระจกขยายเป็ นกีเ่ ทา่
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
5 วัตถุสูง 6
เซนติเมตร วางหน้า
่
กระจกนูนทีม
่ ค
ี วามยาวโฟกัส 20 เซนติเมตร
เป็ นระยะ 30 เซนติเมตร ตาแหน่ง และความสูง
ของภาพเป็ นเทาใด
่
Physics3 s32203 light
light1
กระจกเงาราบ ใช้ในการส่องตัวเอง กระจก
รถยนต ์ ใช้ในเครือ
่ งฉายภาพขามศี
รษะ
้
กระจกนูน ใช้ติดกระจกรถยนต ์ ช่วยการมองเห็ น
วัตถุใกลกว
่ มองเห็ นรถ
้ า่ ติดตามแยกเมือ
กระจกเวา้ ใช้รวมแสงในกลองจุ
ลทรรศน์ ทันต
้
แพทยใช
์ ้ส่องฟันไดภาพขยาย
้
Physics3 s32203 light
light1
การหักเหของแสง
ดรรชนีหก
ั เห(n) คืออัตราเร็วของแสงในสุญญากาศเทียบ
กับอัตราเร็วแสงในตัวกลาง
𝒏=
𝒄
𝒗
เมือ
่ n = ดรรชนีหก
ั เห
c = อัตราเร็วของแสง 𝟑. 𝟎 × 𝟏𝟎𝟖 𝒎/𝒔
v = อัตราเร็วแสงในตัวกลาง (m/s)
** อัตราเร็วแสงในสุญญากาศมีคามากที
ส
่ ุด (n มีคา่
่
มากกวา่ 1 เสมอ) 𝟏 𝒏𝟐 หมายถึงดรรชนีหก
ั เหตัวกลาง
ที่ 2 เทียบกับ ดรรชนีหก
ั เหตัวกลางที1
่
𝟏 𝒏𝟐
=
𝒏𝟐
(แสงเดินทางจากตัวกลางที่
𝒏
1 ไปยัง
Physics3 s32203 light
light1
𝟖
ตัวอยาง
1
ถ
าแสงมี
อ
ต
ั
ราเร็
ว
ในแก
ว
𝟐.
𝟎
×
𝟏𝟎
่
้
้
เมตร/วินาที จงหาดรรชนีหก
ั เหของแกวนี
้ ้
Physics3 s32203 light
ตัวอยาง
2 ให้น้าแข็งมีดรรชนีหก
ั เห
่
ของแสงในน้าแข็งนี้มค
ี าเท
่ าใด
่
light1
𝟒
อัตราเร็ว
𝟑
Physics3 s32203 light
light1
การหักเหของแสง
แสงเกิดการหักเหเมือ
่ แสงเดินทางผานรอยต
อ
่
่
วกลาง
ระหวางตั
่
จากรูป จะพบวาอั
มุ
่ ตราส่วนของคาไซน
่
์ มตกกระทบก
𝒔𝒊𝒏𝜽𝟏
= คาคงตั
ว
่
𝒔𝒊𝒏𝜽𝟐
Physics3 s32203 light
light1
กฎของสเนลล ์
อัตราส่วนระหวางไซน
มุ
ม
่
์ มตกกระทบกับไซนของมุ
์
วเสมอ
หักเหมีคาคงตั
่
จากรูป จะพบวาอั
มุ
่ ตราส่วนของคาไซน
่
์ มตกกระทบก
𝒏𝟐 𝒔𝒊𝒏𝜽𝟏 𝒗𝟏 𝝀𝟏
=
=
=
𝟏 𝒏𝟐 =
𝒏𝟏 𝒔𝒊𝒏𝜽𝟐 𝒗𝟐 𝝀𝟐
Physics3 s32203 light
light1
𝒏𝟐 𝒔𝒊𝒏𝜽𝟏 𝒗𝟏 𝝀𝟏
=
=
=
𝟏 𝒏𝟐 =
𝒏𝟏 𝒔𝒊𝒏𝜽𝟐 𝒗𝟐 𝝀𝟐
เมือ
่
𝒏𝟏 =ดรรชนีหก
ั เหของตัวกลางที่ 1
𝒏𝟐 =ดรรชนีหก
ั เหของตัวกลางที่ 2
𝜽𝟏 = มุมตกกระทบ
𝜽𝟐 = มุมหักเห
𝒗𝟏 =อัตราเร็วแสงในตัวกลางที่ 1
𝒗𝟐 = อัตราเร็วแสงในตัวกลางที่ 2
𝝀𝟏 =ความยาวคลืน
่ แสงในตัวกลางที่ 1
𝝀𝟐 = ความยาวคลืน
่ แสงในตัวกลางที่ 2
แสงเดินทางจากดรรชนีหก
ั เหน้อยไปดรรชนีหก
ั เหมาก
แสงหักเหเข้าหาเส้นปกติ
แสงเดินทางจากดรรชนีหก
ั เหมากไปดรรชนีหก
ั เหน้อย
Physics3 s32203 light
light1
มุมวิกฤต( 𝜽𝒄 )
มุมตกกระทบทีท
่ าให้มุมหักเหเป็ นมุมฉาก
𝒏𝟐
𝐬𝐢𝐧𝜽𝐜 =
𝒏𝟏
การสะทอนกลั
บหมด
้
เกิดเมือ
่ แสงตกกระทบดวยมุ
มตก
้
กระทบโตกวามุ
่ มวิกฤติ
*** แสงเดินทางจากดรรชนีหก
ั เหมากไปดรรชนีหก
ั
เหน้อย
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
1 แสงเดินทางจากอากาศไปยังน้า โดยมีมุม
่
ตกกระทบ 30 องศา จงหามุมหักเห กาหนดให้
𝟒
ดรรชนีหก
ั เหของน้าเทากั
ั เหของอากาศ
่ บ 𝟑 ดรรชนีหก
เทากั
่ บ 1
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
2 แก้วและน้ามีดรรชนีหก
ั เหเทากั
่
่ บ 1.5
และ
1.3 ตามลาดับ ถ้าแสงตกกระทบจากแกว
้
เป็ นมุม 30 องศาไปยังน้า มุมหักเหมีคาเท
่ าใด
่
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
3 มุมวิกฤตของแสงทีเ่ กิดจากแกวซึ
่
้ ง่ มี
ดรรชนีหก
ั เห 1.5 ไปยังน้าทีม
่ ด
ี รรชนีหก
ั เห 1.3
มีคาเท
่ าใด
่
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
4 ถ้าแก้วทีใ่ ช้ทาเส้นใยแกวน
่
้ าแสงมี
ดรรชนีหก
ั เห 1.5 โดยมุมตกกระทบ 60 องศา
วัตถุทห
ี่ ุ้มจะมีดรรชนีหก
ั เหไมเกิ
่ นเทาใด
่
Physics3 s32203 light
light1
การหักเหของแสงทาให้เกิดปรากฏการณ ์
มิราจ(mirage) ท้องถนนในเวลาทีอ
่ ากาศรอนจะ
้
มองเห็ นภาพเหมือนน้าทวมถนน
่
การสะทอนกลั
บหมด
้
เส้นใยนาแสง (fiber optic) ใช้ในการสื่ อสาร
การแพทย ์
Physics3 s32203 light
light1
ระยะลึกจริงและลึกปรากฏ
การมองวัตถุทอ
ี่ ยูใต
่ ยูใต
่ ผิ
้ วน้า การมองตัวอักษรทีอ
่ ้
้ กวาเดิ
กใส จะมองเห็ นวัตถุอยูตื
แทงพลาสติ
่ ม
่ น
่
Physics3 s32203 light
light1
ระยะลึกจริงและลึกปรากฏ
มองมุมตรง
ลึกปรากฏ
ดรรชนีหกั เหที่ตาอยู่
=
ลึกจริง
ดรรชนีหกั เหที่วตั ถุอยู่
มองดวยมุ
ม ′𝜽
้
𝑠
𝑛2 𝑐𝑜𝑠𝜃2
=
𝑠
𝑛1 𝑐𝑜𝑠𝜃1
𝑠 ′ 𝑛2
=
𝑠 𝑛1
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
1 ปลาตัวหนึ่งอยูในน
ั เห
้าซึง่ มีดรรชนีหก
่
่
𝟒
ลึกจากผิวน้า 4 เมตร ถ้ามองตรงจะเห็ นปลาอยู่
𝟑
ระยะรนมี
ลึกจากผิวน้าเทาใด
่ คาเท
่
่
่ าใด
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
2 ปลาตัวหนึ่งอยูลึ
่
่ กจากผิวน้า 4 เมตร
จะมองเห็ นนกซึง่ บินสูงจากผิวน้า 3 เมตร เป็ น
ระยะจากผิวน้าเทาใด
กาหนดให้น้ามีดรรชนีหก
ั เห
่
𝟒
𝟑
Physics3 s32203 light
เลนส์บาง
ทาจากวัสดุโปรงใส
แบงเป็
่
่ น 2 ชนิด
เลนส์นูน
- ตรงกลางหนากวาขอบ
่
- รวมแสงทีจ
่ ุดโฟกัส
เลนส์เวา้
- ตรงขอบหนากวาตรงกลาง
่
- กระจายแสง
light1
Physics3 s32203 light
ภาพทีเ่ กิดจากเลนส์
เลนส์นูน
เลนส์เวา้
light1
Physics3 s32203 light
light1
ภาพทีเ่ กิดจากเลนส์
เลนส์นูน
- เกิดภาพไดทั
้ ง้ ภาพจริงและเสมือน
- ภาพเสมือนจะมีขนาดใหญกว
่
่ าวั
่ ตถุ จะเกิดเมือ
วางวัตถุไวใกล
กว
ส
้
้ าความยาวโฟกั
่
- การคานวณหาตาแหน่งภาพ เหมือนกับกระจกเวา้
เลนส์เวา้
- เกิดภาพเสมือนขนาดเล็กกวาวั
่ ตถุเทานั
่ ้น
- การคานวณหาตาแหน่งภาพ เหมือนกับกระจกนูน
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
1 จงหาตาแหน่งและชนิดของภาพจากเลนส์
่
นูนความยาวโฟกัส 30 เซนติเมตร เมือ
่ วางวัตถุหน้า
เลนส์นูนเป็ นระยะ
ก. 40 เซนติเมตร
ข. 15 เซนติเมตร
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
2 จงหาตาแหน่งและชนิดของภาพจากเลนส์
่
เว้าความยาวโฟกัส 30 เซนติเมตร เมือ
่ วางวัตถุหน้า
เลนส์เว้าเป็ นระยะ
ก. 30 เซนติเมตร
ข. 15 เซนติเมตร
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
3 จงหาตาแหน่งและชนิดของภาพ
่
สุดทายที
เ่ กิดจากเลนส์นูนและเลนส์เวาที
างกั
น
้
้ ว่ างห
่
่
160 เซนติเมตร มีความยาวโฟกัส 30 เซนติเมตร
เทากั
่ วางวัตถุดานซ
่ น เมือ
้
้ายของเลนส์นูนเป็ นระยะ
40 เซนติเมตร โดยให้เลนส์เวาอยู
ทางขวาของ
้
่
เลนส์นูน
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
4 วัตถุสงู 4 เซนติเมตร วางหน้าเลนส์
่
นูนเป็ นระยะ 12 เซนติเมตร ไดภาพจริ
งหางจาก
้
่
เลนส์ 24เซนติเมตร ความสูงของภาพ และความ
ยาวโฟกัสของเลนส์เป็ นกีเ่ ซนติเมตร
Physics3 s32203 light
light1
ปรากฏการณที
่ วกับแสง
์ เ่ กีย
การกระจายแสง(dispersion)เกิดเมือ
่ แสงเดิน
ทางผานปริ
ซม
ึ แสงทีม
่ ค
ี วามยาวคลืน
่ สั้ น(ความถี่
่
สูง) จะมีดรรชนีหก
ั เหมาก จะหักเหไดมากกว
า่
้
Physics3 s32203 light
light1
การสะทอนกลั
บหมด
้
เกิดเมือ
่ แสงเดินทางผานตั
วกลางทีม
่ ด
ี รรชนีหก
ั เห
่
มากไปยังตัวกลางทีม
่ ด
ี รรชนีหก
ั เหน้อยกวา่
Physics3 s32203 light
รุ้งกินน้า(rainbow)
เกิดจากปรากฏการณกระจายแสงเมื
อ
่ แสงผาน
์
่
ละอองน้า
light1
Physics3 s32203 light
light1
รุ้งปฐมภูม ิ (primary rainbow) เกิดจากแสงเขา้
ดานบนของหยดน
อนกลั
บหมดในหยด
้า แลวสะท
้
้
้
น้า 1 ครัง้ แลวหั
้ กเหออกมา
รุ้งทุตย
ิ ภูม ิ (secondary rainbow) เกิดจากแสงเขา้
ดานล
างของหยดน
อนกลั
บหมดในหยดน้า
้า แลวสะท
้
่
้
้
2 ครัง้ แลวหั
้ กเหออกมา
Physics3 s32203 light
light1
ทัศนอุปกรณ ์ (optical instrument)
แวนขยาย
(magnifier)
่
ทาจากเลนส์นูนเพียงอันเดียว เกิดภาพเสมือน
ขนาดขยาย เมือ
่ ให้ระยะวัตถุน้อยกวาความยาว
่
โฟกัส
Physics3 s32203 light
light1
กลองจุ
ลทรรศน์ (microscope)
้
ใช้ขยายภาพจากวัตถุเล็กๆ
กาลังขยาย 𝑀 = 𝑀1 × 𝑀2 =
𝑠𝑜 ′
𝑠𝑜
×
𝑠𝑒 ′
𝑠𝑒
Physics3 s32203 light
กลองโทรทรรศน
้
์ (telescope)
ใช้ส่องดูวต
ั ถุทอ
ี่ ยูไกลๆ
่
light1
Physics3 s32203 light
กลองถ
ายรู
ป (camera)
้
่
เป็ นเครือ
่ งมือสาหรับบันทึกภาพ
light1
Physics3 s32203 light
เครือ
่ งฉายภาพนิ่ง
ใช้ในห้องบรรยาย ห้องประชุม
light1
Physics3 s32203 light
light1
ความสวาง
่
อัตราการให้พลังงานแสงของแหลงก
่ าเนิดแสง
พลังงานแสงทีป
่ ลอยออกมาในหนึ
่งหน่วยเวลา เรียกวา่
่
ฟลักซส
( luminous Flux ) หรือ "อัตราการให้
่
์ ่ องสวาง
พลังงานแสง" มีหน่วยเป็ น ลูเมน ( lumen ; lm )
ความสวาง
( illuminance )
่
ความสวางที
เ่ กิดบนพืน
้ ทีร่ องรับแสง เกิดจากฟลักซการ
่
์
ส่องสวาง
หรืออัตราการให้พลัง𝐼งานแสงตกบนพื
้ 2 2ทีร่ องรับ
𝐸1 𝑅น
่
𝐸= 2
=
แสง หาไดจาก
้
𝑅
𝐸2 𝑅1 2
F เป็ น อัตราพลังงานแสงทีต
่ กตัง้ ฉากบนพืน
้ มีหน่วย
เป็ นลูเมน (lumen : lm)
A เป็ น พืน
้ ทีร่ บ
ั แสง มีหน่วยเป็ นตารางเมตร
E เป็ น ความสวาง
มีหน่วยเป็ นลักซ ์ (lux ; lx)
่
Physics3 s32203 light
ความสวางในสถานที
ต
่ างๆ
่
่
light1
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
1 จงหาความสวางบนโต
่ พ
ี น
ื้ ที่ 4
่
่
๊ ะทีม
ตารางเมตร จากหลอดไฟ 40 วัตต ์ 2 หลอดที่
ให้ฟลักซส
2,700 ลูเมน
์ ่ องสวางหลอดละ
่
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
2 ห้องเรียนขนาด กว้าง 5 เมตร ยาว
่
8 เมตร สูง 3 เมตร ต้องการความสวางเฉลี
ย
่
่
500 ลักซ ์ จะต้องใช้หลอดไฟ 40 วัตต ์ 2,700 ลู
เมนกีห
่ ลอด ถ้าตัวสะทอนแสงของหลอดได
้
้
100%
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
3 หลอดไฟ 64 วัตต ์ มีความเขมการ
่
้
ส่องสวาง
36 แคนเดลา ถ้าต้องการความสวางบน
่
่
พืน
้ โต๊ะอานหนั
งสื อ 144 ลักซ ์ จะต้องแขวน
่
หลอดไฟสูงจากพืน
้ โต๊ะเทาใด
(0.5m)
่
Physics3 s32203 light
light1
การถนอมสายตา
- การมองวัตถุทม
ี่ ค
ี วามสวางมาก
เช่นดวงอาทิตย ์ แสง
่
จากการเชือ
่ มโลหะ จะต้องไมมองสิ
่ งเหลานี
่
่ ้โดยตรงเพราะ
ความเขมแสงมากจนท
าให้เกิดอันตรายรา้
้
- การมองวัตถุทม
ี่ ค
ี วามสวางน
ี วาม
่
้ อย การดูวตั ถุทมี่ ค
สวางน
เนื
่
้ อยก็จะทาให้เกิดความเสี ยหายตอสายตาได
่
้ ่องจาก
จะต้องเพงสายตาเป็
นเวลานาน เช่นการอานหนั
งสื อในทีท
่ ม
ี่ ี
่
่
แสงน้อยๆ
- การมองวัตถุผานทั
ศนอุปกรณ์ การใช้ทัศนอุปกรณ์
่
อันไดแก
ดู
ั ถุหรือ
้ ่ กลองส
้
่ องทางไกล กลองโทรทรรศน
้
์ วต
แหลงก
่ ค
ี วามสวางมาก
จะทาให้เรตินาเป็ น
่ าเนิดแสงทีม
่
อันตราย
Physics3 s32203 light
ตาและการมองเห็ นสี
คนปกติ
- มองชัดใกลสุ
้ ดทีร่ ะยะ 25 เซนติเมตร
- มองชัดไกลสุดทีร่ ะยะอนันต ์
คนสายตาสั้ น
- เกิดจากกระบอกตายาวเกินไป
- มองชัดไกลสุดทีร่ ะยะน้อยกวาระยะอนั
นต ์
่
- แก้ไขโดยใช้แวนที
่ าจากเลนส์เวา้
่ ท
คนสายตายาว
- เกิดจากกระบอกสั้ นเกินไป
- มองชัดใกลสุ
้ ดทีร่ ะยะมากกวา่ 25 เซนติเมตร
- แก้ไขโดยใช้แวนที
่ าจากเลนส์นูน
่ ท
light1
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
ชายคนหนึ่งสามารถอานหนั
งสื อไดชั
่
่
้ ด
เมือ
่ หนังสื ออยูห
น
่ างจากตาไม
่
่ ้ อยกวา่ 90
เซนติเมตร ดังนั้นเขาตองสวมแว
นที
่ ค
ี วามยาว
้
่ ม
โฟกัสเทาใด(34.6
cm)
่
Physics3 s32203 light
light1
การมองเห็ นสี
เมือ
่ ให้แสงสี ขาวตกกระทบวัตถุตาง
ๆ เราจะ
่
เห็ นนกรองแสงสี
วัตถุมส
ี ี แตกตคืางกั
นนวัตถุสีซง่ึ ยอมใหแสง
่
แผ
อ
แผ
่
่
้
เพียงสี เดียวทะลุผานได
่
้
- วัตถุโปร่งใส
- วัตถุโปร่งแสง
- วัตถุทบึ แสง
Physics3 s32203 light
light1
ตาบอดสี หรือทีเ่ รียกวา่ colour blindness
เกิดขึน
้ จากเซลลประสาทชนิ
ดหนึ่ง ในมานตาซึ
ง่
์
่
มีความไวตอสี
ๆ มีความบกพรองหรื
อพิการ
่ ตาง
่
่
ทาให้ดวงตาไมสามารถที
จ
่ ะมองเห็ นสี บางสี ได้
่
Physics3 s32203 light
light1
การผสมสารสี
สี ปฐมภูม ิ แดง เหลือง น้าเงิน
การผสมแสงสี
แสงสี แดง, แสงสี เขียว, แสงสี น้าเงิน เรียกวา่ แสงสี
ปฐมภูม ิ (primary colour light)
Physics3 s32203 light
light1
ตัวอยาง
นักเรียนคนหนึ่งสวมเสื้ อสี ขาว กระ
่
โปรงมี
รองเทาสี
เข้าไปในห้องทีส
่ ่ อง
่ มวง
่
้ ดา
ดวยไฟสี
เหลือง จะทาให้เห็ นกระโปรงเป็ นสี อะไร
้
(ดา)