Transcript Week Unit 7
่ วิชา งานเครืองมื อกล ้ เบืองต้ น ผู ส ้ อน อาจารย ์ไพโรจน์ แสงศรี มณี วงศ ์ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล 1.บรรทัดเหล็ก ่ อวัดขันพื ้ นฐานที ้ ่ ยมใช ้กันอย่าง บรรทัดเหล็ กเป็ นเครืองมื นิ แพร่ห ลาย เนื่ องจากสามารถใช ว้ ัด ขนาดของงานได อ้ ย่ า ง รวดเร็วและยังใช ้เป็ นบรรทัดสาหร ับขีดระยะงาน ลักษณะของบรรทัดเหล็ก ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ลักษณะของบรรทัดเหล็ก ปกติบรรทัดเหล็กสร ้างจากแผ่นเหล็กแหนบที่ อาบผิว หรือเหล็กไร ้สนิ ม มีความหนาไม่เกิน 1 มม. และไม่บางกว่า 0.3 มม. ความกว ้างและ ความยาวของบรรทัด เหล็ ก นั้ นมี ห ลายขนาด ่ เ้ หมาะสมกับการใช ้งาน และบรรทัดเหล็กที่ เพือให ดีจะต ้องอ่านสเกลได ้ง่ายและไม่บด ิ งอง่าย หลักการแบ่งสเกล และการอ่านค่าของบรรทัดเหล็ก บรรทัดเหล็กได ้แบ่งขีดสเกลออกเป็ น 2 ระบบ - ระบบอังกฤษ - ระบบเมตริก หลักการแบ่งสเกลของระบบอังกฤษ มี 4 แบบคือ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ้ งเป็ น 8 ช่อง บรรทัดสเกล 1 นิ วแบ่ ้ งเป็ น 8 ช่อง 1 นิ วแบ่ 1 ช่องเท่ากับ เศษ 1 ส่วน 8 นิ ว้ ระยะ ก อ่านได ้ เศษ 3 ส่วน 8 นิ ว้ ระยะ ข อ่านได ้ เศษ 4 ส่วน 8 = เศษ 1 ส่วน 2 นิ ว้ ระยะ ค อ่านได ้ เศษ 6 ส่วน 8 = เศษ 3 ส่วน 4 นิ ว้ ระยะ ง อ่านได ้ 2 เศษ 5 ส่วน 8 นิ ว้ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ระยะ ง อ่านได ้ 2 เศษ 4 ส่วน 32 นิ ว้ เท่ากับ 2เศษ 1 ส่วน 8 นิ ว้ ้ งเป็ น 32 ช่อง 1 นิ วแบ่ 1 ช่องเท่ากับ 1 ส่วน 32 นิ ว้ ้ งเป็ น 32 ช่อง บรรทัดสเกล 1 นิ วแบ่ ระยะ ก อ่านได ้ 3 ส่วน 32 นิ ว้ ระยะ ข อ่านได ้ 9 ส่วน 32 นิ ว้ ระยะ ค อ่านได ้ 1 เศษ 11 ส่วน 32 นิ ว้ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ้ งเป็ น 64 ช่อง บรรทัดสเกล 1 นิ วแบ่ ้ งเป็ น 64 ช่อง 1 นิ วแบ่ 1 ช่องเท่ากับ 1 ส่วน 64 นิ ว้ ระยะ ก อ่านได ้ 9 ส่วน 64 นิ ว้ ระยะ ข อ่านได ้ 57 ส่วน 64 นิ ว้ ระยะ ค อ่านได ้ 1 เศษ 33 ส่วน 64 นิ ว้ ระยะ ง อ่านได ้ 2 เศษ 1 ส่วน 64 นิ ว้ หลักการแบ่งสเกลระบบเมตริกและ การอ่านค่าของบรรทัดเหล็กมี 2แบบคือ บรรทัดสเกลค่าความละเอียดช่องสเกล - 1 ช่องสเกลมีคา่ ความระเอียดเท่ากับ หลักการแบ่งสเกลระบบเมตริกและ การอ่านค่าของบรรทัดเหล็กมี 2แบบคือ บรรทัดสเกลค่าความละเอียดช่องสเกล - 1ช่องสเกลมีคา่ ความละเอียดเท่ากับ ้ การใช้บรรทัดเหล็กว ัดชินงาน ่ นจากจุดอ้างอิงศูนย ์ เริมต้ ้ ่ ้นจากขอบ จากภาพเป็ นการวัดชินงานโดยเริ มต หรือขีดศูนย ์ (0) ของบรรทัดเหล็ก ในการวัดลักษณะ ้ ่ นบ่า หรือเป็ นแบบขันบั ้ นได ของชินงานที เป็ ้ การใช้บรรทัดเหล็กว ัดชินงาน ่ น จุ ด อ้า งอิง ที่ไม่ ใ ช่ ข อบของบรรทัด เหล็ ก การวัดใน เริมต้ กรณี นี ้ควรระวัง การวางบรรทัด เหล็ กในระหว่ า งการวัด ว่ า จะต อ้ ง ้ ขนานกับชินงานด ้วย แนวเล็ งในการอ่า นค่ า เมื่อวางบรรทัด เหล็ ก ทาบกับ ผิว งาน ความ หนาของบรรทัด จะท าให เ้ กิด ระยะห่ า ง ระหว่ า งผิว งานกับ ขีด สเกล ซึง่ ้ นเหตุให ้วัดขนาดของชินงานผิ ้ ระยะห่างนี เป็ ดพลาดได ้ อันเนื่ องมาจากแนว เล็งผิดไป ในภาพที่ 2-10 ถ ้าต ้องการวัดระยะ x แนวเล็ง ณ ตาแหน่ ง B ่ กต ้องจะพบว่าขีด 29 ตรงกับจุดสุดทา้ ยพอดี แต่ถา้ อันเป็ นตาแหน่ งทีถู ่ าแหน่ ง A จะเห็นขีดที่ 28 ตรง และแนวเล็งทีต ่ าแหน่ ง C จะเห็น แนวเล็งทีต ขีดที่ 30 ตรง ้ การใช้บรรทัดเหล็กว ัดชินงาน ตาแหน่ งแนวเล็งในการอ่านสเกล ้ การใช้บรรทัดเหล็กว ัดชินงาน ่ อ้ งการวัด สายตาต อ้ งมองตัง้ การอ่ า นค่า ต าแหน่ งทีต ฉากกับตาแหน่ งทีอ่่ าน แนวการวางบรรทัดเหล็ก ้ั การทาบหรือวางบรรทัดเหล็กลงบนผิวชนงานถื อได ้ ว่าสาคัญมาก เพราะหากวางแนวแกนของบรรทัดเหล็ก ้ ้ นงานจะผิ ดไป ไม่อยู่ในแนววัดชินงานขนาดของชิ ข้อควรระวังในการใช้บรรทัดเหล็ก ้ ่ งร ้อนอยู่ 1. อย่านาบรรทัดเหล็กไปวัดชินงานที ยั 2. วางบรรทัดเหล็กในแนวระนาบเสมอ ่ อคมตัดอืน ่ ๆ เช่น 3. อย่านาบรรทัดเหล็กวางปะปนกับเครืองมื ตะไบ ดอกสว่าน ฯลฯ ้ 4. ก่อนการวัดงานต ้องลบคมชินงานให ้เรียบร ้อย 5. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของสเกลก่อนใช ้ทุกครง้ั ้ั อนและหลังการใช ้งาน 6. ทาความสะอาดทุกครงก่ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล 2. ตลับเมตร ่ ตลับ เมตร คือ เครืองมื อ วัด ชนิ ด หนึ่ งที่มีส ายวัด เก็ บ อยู่ ใ นตลับ อย่ า งมิด ชิด ท าให ส้ ะดวกในการน าติด ตัวไปใช ้งานได ต้ ลอดเวลา ้ ตลับเมตรใช ้ในการวัดหาระยะหรือตรวจสอบขนาดของวัสดุ ชินงาน ่ ซึงใช ่ ้เป็ นที่ ฯลฯ เนื่ องจากตรงหัวสายวัดของตลับ เมตรมีข อเกียว ้ ่ อ้ งการวัด ทาใหก้ ารดึงสายวัดออก เกาะยึดกับขอบของชินงานที ต จากตลับ เพื่อใช ้ในการวัด ระยะหรือ ตรวจสอบขนาดของวัส ดุห รือ ้ ่ ใ้ ช ้ควรเรียนรู ้เรืองส ่ าคัญของตลับเมตร ดังนี ้ ชินงานได ้สะดวก ซึงผู ลักษณะ รู ปร่าง ขนาดของตลับเมตร ตลับเมตรทาดว้ ยโลหะปั๊มมีลก ั ษณะรูปร่างเป็ นตลับ เพื่อ ่ นโลหะมีสปริงไว ้ภายในตลับอย่าง ม้วนเก็บสายวัดชนิ ดบางทีเป็ มิ ด ชิ ตรงส่ ว นปลาสุ ด ของสายวัด นี ้ เป็ นขอเกี่ ยว และที่ ด า้ นหน้า ของสายวัด มีห น่ วยการวัด เป็ นนิ ้ว ฟุ ต หรือ หน่ วย เมตริกกากับไว ้ หรือสายวัดบางชนิ ดของตลับเมตรมีหน่ วยนิ ว้ ฟุต กากับไวข ้ า้ งหนึ่ ง และมีหน่ วยเมตริกกากับไวอ้ ก ี ขา้ งหนึ่ ง เพื่อสะดวกในการใช ้ ตลับ เมตรที่มีจ าหน่ ายตามท อ้ งตลาด ้ ทั่วไป มีขนาดตลับบรรจุสายวัดได ้ความยาวตังแต่ 1.00 – ่ างไม้และช่างก่อสร ้างนิ ยมใช ้มากทีสุ ่ ด 5.00 เมตร ขนาดทีช่ ่ ได ้แก่ขนาดตลับทีบรรจุ สายวัดได ้ความยาว 2.00 เมตร การใช้ตลับเมตร ตลับเมตรใช ้สาหร ับการวัดระยะ ตรวจสอบขนาดของวัสดุหรือ ้ ชินงาน มีวธิ ป ี ฏิบต ั ิ ดังนี ้ ่ ้องการวัดขนาดใหช 1. กาหนดขนาดความกว ้างหรือความยาวทีต ้ ัดเจน ่ ่ 2. ให ้ใช ้ขอเกียวของสายวั ดเกียวกั บริมขอบของไม ้ แล ้วพยายามปร ับสายวัดให ้ได ้ ่ าหนด มุมฉากกับริมขอบของไมแ้ ละตรงกับตาแหน่ งทีก 3. ดึงสายวัดให ้ตึง ใช ้ดินสอหรือเหล็กหมาดจุดให ้ตรงกับระยะความกว ้างหรือ ้ ความยาวลงบนแผ่นไมห้ รือชินงาน การบารุงร ักษาตลับเมตร การบารุงร ักษาตลับเมตรให ้อยู่ในสภาพการใช ้งานได ้ดีมวี ธิ ป ี ฏิบต ั ิ ดังนี ้ ่ ่ าให ้หน่ วย 1. หลีกเลียงการใช ้ของแข็งหรือของมีคม ขูดลงบนหน่ วยการวัดซึงท ่ ดพลาดได ้ การวัดไม่ช ัดเจน เกิดการวัดทีผิ 2. การม้วนสายวัดเขา้ เก็บในตลับ ควรใช ้มือจับช่วยผ่อนแรงไม่ใหส้ ายวัดม้วน เข ้าตลับเร็วเกินไป อาจทาให ้สายวัดติดขัดเสียหายได ้ ่ ่ วสายวัดแรงเกินไปขณะวัดระยะ อาจทาใหข ่ 3. การดึงขอเกียวที หั ้ อเกียวบิ ด หรือยึดตัวออก เป็ นเหตุให ้หน่ วยการวัดผิดพลาดได ้ 4. การวางของหนักทับลงบนตลับเมตร อาจทาให ้ตลับเมตรแตกชารุดเสียหาย ได ้ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล 3. วงเวียนถ่ายขนาด (Caliper and Divider) ่ ้วัดด ้วยคาลิปเปอร ์ ได ้แก่ การวัดเปรียบเทียบ ลักษณะงานทีใช ขนาดงาน งานตรวจสอบขนาดงานว่าเล็กหรือใหญ่กว่าขนาด ่ ลก ่ กาหนด และงานวัดขนาดทีมี ั ษณะตกร่องภายนอก เมือ ่ ต ้องการความสะดวกรวดเร็วและไม่ต ้องการค่าวัดทีละเอี ยดมาก นัก ลักษณะของคาลิปเปอร ์ ลก ั ษณะของคาลิปเปอร ์คล ้ายกับวง ่ ดขนาดงานได ้ ทังภายนอกและ ้ เวียน สามารถถ่ายขนาดเพือวั ภายในด ้วยขาของคาลิปเปอร ์ คาลิปเปอร ์นั้นแยกตามประเภทของ งานได ้ 2 ประเภทคือ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ่ ยกกันทั่วไปว่า “เขาควาย” คาลิปเปอร ์วัดนอก (Outside Caliper) มีชอที ื่ เรี ้ ใช ้วัดหรือตรวจสอบขนาดภายนอกของชินงาน ขาของเขาควายมีลก ั ษณะโค ง้ ่ ่ ้วัดขนาดภายนอก แบ่งได ้ เขา้ เพือหลบผิ วงาน ลักษณะสร ้างของคาลิปเปอร ์ทีใช เป็ น 2 ลักษณะคือ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ้ คาลิปเปอร ์ลักษณะนี แขนวงเวี ยนมีลก ั ษณะบางแข็งแรง และไม่บด ิ ้ งอง่ า ย สร ้างด ว้ ยเหล็ ก สปริง แขนวงเวีย นทังสองยึ ด ติด กัน ด ว้ ย ่ หมุดยา้ การกางออก หรือหุบเข ้าด ้วยวิธก ี ารเคาะทีแขนวงเวี ยน คาลิปเปอร ์ลักษณะนี ้ แขนวงเวียน ค่อนข ้างใหญ่เพราะทาจากเหล็กอ่อนขา ของวงเวียนจะหุบเข ้าหากันตลอดเวลา ด ้วยแรงสปริง ระยะห่างของเกลียวสัมผัส ปร ับด ้วยการหมุนแป้ นเกลียวเข ้า / ออก ตามต ้องการ คาร ์ลิปเปอร ์แบบปร ับด ้วยแป็ นเกลียว ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล คาลิปเปอร ์วัดใน (Inside Caliper or Divider) ่ ยกกันทัวไปว่ ่ คาลิปเปอร ์วัดใน หรือทีเรี า “ตีนผี” ใช ้วัด ้ หรือตรวจสอบขนาดภายในชินงาน เช่น รูเจาะหรือรู คว ้านโต ๆ เป็ นต ้น ขาของวงเวียนทาให ้มีลก ั ษณะโค ้ง ่ ้เขียวสั ้ มผัส สัมผัสกับผิวงานด ้านในได ้ ออก เพือให ้ ลักษณะสร ้างของวงเวียนแบบนี อาจแบ่ งได ้เป็ น 2 ลักษณะ เช่นเดียวกัน คือ แบบปร ับด ้วยความฝื ด และ ด ้วยการหมุนแป้ นเกลียว โดยแบบปร ับด ้วยแป้ นเกลียว ขาของวงเวียนจะกางออกตลอดเวลาด ้วยแรงสปริง ้ มผัสปร ับด ้วยการหมุนแป้ นเกลียว ระยะห่างของเขียวสั เข ้าออกตามต ้องการ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ลักษณะของคาลิปเปอร ์วัดใน ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ลักษณะงานวัดด้วยคาลิปเปอร ์ แบ่งออกเป็ นลักษณะใหญ่ ๆ ได ้ 3 ลักษณะ คือ ้ ้ ้นว่าเล็กหรือใหญ่ วัดเปรียบเทียบขนาด ว่างานทังสองชิ นนั ่ นตัวเลข กว่ากันโดยไม่จาเป็ นต ้องทราบค่าวัดจริงทีเป็ ่ อวัดทีมี ่ ขด ตรวจสอบขนาด จากเครืองมื ี สเกลวัด เมื่ อปร บ ั ขนาดคาร ์ลิป เปอร ์แล ว้ น าไปตรวจสอบขนาด ้ ชินงานว่ าเล็กหรือใหญ่กว่าขนาดกาหนด ้ ่ อวัด วัดถ่ายขนาด ขิงชินงานแล ้วนามาวัดหาค่ากับเครืองมื ่ สเกลมาตรา ทีมี ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ่ ่ กตอ้ งและ วิธใี ช้งานคาลิปเปอร ์ การทีจะใช ้คาลิปเปอร ์วัดขนาดให ้ไดค้ ่าทีถู ่ แม่ น ย านั้ นท าได ย้ ากมาก เนื่ องจากเป็ นเครืองมื อ วัด ที่ไม่ มีขีด สเกลให อ้ ่า นได ้ ชด ั เจน ผู ว้ ด ั ดว้ ยคาลิปเปอร ์ต อ้ งฝึ กจนมีทก ั ษะอย่า งเพียงพอจึงจะสามารถวัด ้ ชินงานได ้อย่างถูกต ้อง กล่าวคือ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ้ การปร ับระยะห่างของเขียวสั มผัส ่ ้ มผัสจะต ้องทา โดยการเคาะแขนวงเวียนเพือปร ับระยะห่างของเขียวสั ่ ให ้เขียวสั ้ มผัสเสียหาย อย่างถูกวิธเี พือไม่ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล หลังจากปร ับขนาดคร่าว ๆ ด ้วยมือแล ้ว จึงทาการปร ับละเอียดโดย ่ วิธก ี ารจับตัวคาลิปเปอร ์เคาะกับวัตถุอน ื่ ๆ โดยเคาะทีขาวงเวี ยนด ้าน ่ ่ ่ บเข ้า ในเพือกางออก และเคาะทีขาวงเวี ยนด ้านนอกเพือหุ ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ้ มผัสของคาลิปเปอร ์วัดใน การปร ับระยะห่างเขียวสั หลังจากปร ับขนาดคร่าว ๆ ด ้วยมือแล ้วจึงทาการ ่ ่ ปร ับละเอียด โดยเคาะทีขาวงเวี ยนด ้านใน เพือกาง ่ วงเวียนด ้านนอกเพือหุ ่ บเข ้า ออกและเคาะทีขา ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ่ ดวิธีี การเคาะปรับขาวงเวียนทีผิ ้ าให ้เขียวสั ้ มผัสเยิน การเคาะปร ับขาวงเวียนเช่นนี จะท ่ าไป วัดชินงานจะท ้ เสียหายเมือน าให ้ค่าวัดผิดพลาด ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ้ ้ ้ การสัมผัสของเขียวสั มผัสวัดทังสองกั บชินงาน โดยจะตอ้ งใช ้ความรู ้สึกสัมผัส ในการฝึ กทักษะการจับ ควร ่ ด หรือ ตรวจสอบขนาด จะต อ้ งท าให ้ จับในแนวดิ่ง ก่ อ นเริมวั ้ มผัสมากกว่าความโตงานเล็ กน้อยแลว้ ค่อย ระยะห่างของเขียวสั ๆ ปร ับให ้แคบเข ้าจนสัมผัสพอดีกบั ผิวงานนั้น ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล ้ แนวแกนวัดชินงานของคาลิ ปเปอร ์ ตอ้ งคานึ งว่าแนวแกนวัด ของ ้ คาลิปเปอร ์ (Axis of Caliper) อยู่ในเสน้ วัดชินงาน (Line of ้ มผัสดู หรือ Measurement) นั้นจริงหรือไม่ โดยทดสอบขยับเขียวสั ้ เปรีย บเทีย บค่า วัดได ส้ ุ ด แต่ล ะลัก ษณะงาน วิธ ีข ยับเขียวสั ม ผัส วัด ควร ้ ้ ่ งเพียงเขียวเดี ้ ขยับเขียวใดเขี ยวหนึ ยว ้ แนวการวัดชินงานทรงกระบอก ่ ่ เครืองมื อว ัดในงานเครืองมื อกล เวอร ์เนี ยคาลิเปอร ์ (VERNIER CALIPER) ่ อทีใช ่ ้วัดความยาวของวัตถุทงภายใน ้ั ้ เป็ นเครืองมื และภายนอกของชินงาน เวอร ์ ่ เนี ยคาลิเปอร ์มีลก ั ษณะทัวไป ดังรูป ส่วนประกอบของเวอร ์เนี ยคาลิเปอร ์ ่ น สเกลหลัก A เป็ นสเกลไม้บรรทัดธรรมดา ซึงเป็ มิลลิเมตร (mm) และนิ ว้ (inch) ่ ่ สเกลเวอร ์เนี ย B ซึงจะเลื อนไปมาได ้บนสเกลหลัก ปากวัด C – D ใช ้หนี บวัตถุทต ี่ ้องการวัดขนาด ปากวัด E – F ใช ้วัดขนาดภายในของวัตถุ แกน G ใช ้วัดความลึก ่ ปุ่ ม H ใช ้กดเลือนสเกลเวอร ์เนี ยไปบนสเกลหลัก สกรู I ใช ้ยึดสเกลเวอร ์เนี ยให ้ติดกับสเกลหลัก ค่าความละเอียดของเวอร ์เนี ย 1 ค่าความละเอียด หรือ Least Count = n = จานวนช่องของสเกลเวอร ์เนี ยรn์ ่ ่ ดของ โดยปกติแล ้ว ตัวเลขทีแสดงค่ าความละเอียดทีสุ ่ ดนี ้ มักจะเขียนไว ้บนสเกลเวอร ์เนี ยในหน่ วยต่าง ๆ เสมอ เครืองวั เช่น สาหร ับสเกลเวอร ์เนี ยชนิ ด 10 ช่อง (n = 10) สาหร ับสเกลเวอร ์เนี ยชนิ ด 20 ช่อง (n = 20) ่ เมือสเกลเวอร ์เนี ยมีจานวนช่อง 50 ช่อง (n = 50) ่ ่ในห ้องปฏิบต ้ั เวอร ์เนี ยทีอยู ั ก ิ ารฟิ สิกส ์ส่วนใหญ่จะมีทงชนิ ด n = 20 และ n = 50 ลาด ับการอ่านค่าผลการวัด 1.ก่อนใช ้เวอร ์เนี ยต ้องตรวจสอบดูวา่ มีคา่ least count เท่าใด ่ ยนไว ้บนสเกล โดยดูจากตัวเลขทีเขี สเกลเวอร ์เนี ยหรืออาจคานวณจาก least count = ่ นย ์ของสเกลเวอร ์เนี ยอยู่ทต 2. ต ้องดูวา่ ขีดทีศู ี่ าแหน่ งใดบนสเกล 1 ้ ได ้ หลัก แล ้วอ่านค่าบนสเกลหลักในหน่ วยมิลลิเมตร หรือนิn วก็ ่ ตามทีเราต ้องการ ่ 3. ต่อไปดูวา่ สเกลเวอร ์เนี ยสเกลแรกทีตรงกั บสเกลหลักคือสเกลใด ่ 4. จากนั้นนับขีดบนสเกลเวอเนี ยจนถึงสเกลทีตรงกั บสเกลหลัก (การถ5. นับสเกลเวอเนี ยให ้นับเป็ นช่องสเกลเล็กๆ ได ้เลย) ่ ้คือ ผลการวัดทีได ตัวอย่างการอ่านสเกลเวอร ์เนี ย ่ เมือผลการวั ดของวัตถุอน ั หนึ่ งดังแสดงในรูป ้ ดที่ 0 ของสเกลเวอร ์เนี ยอยูท 1. ขณะนี ขี ่ ต ี่ าแหน่ งที่ 11.00 มิลลิเมตร เลยออกมาเล็กน้อยบนสเกลหลัก 2. และขีดที่ 13 ของสเกลเวอร ์เนี ยตรงกับขีดบนสเกลหลัก จึงนาเอาเลข 13 คูณกับ least count จะได ้เป็ นค่าเศษของ มิลลิเมตร คือ 13 x 0.05 = 0.65 มิลลิเมตร ่ านได ้จากข ้อ 1 บวกกับค่าทีอ่ ่ านได ้ในข ้อ 2 ก็ 3. นาค่าทีอ่ ้ั ้ นั่นคือ ค่าทีวั่ ดได ้ = 11.00 + จะเป็ นผลการวัดในครงนี 0.65 มิลลิเมตร = 11.65 มิลลิเมตร การใช้เวอร ์เนี ยคาลิเปอร ์วัดขนาดของวัตถุในหลายลักษณะด ังรู ป ในการวัดความยาวของแท่งวัตถุ เส ้นผ่าศูนย ์กลางของทรงกระบอก ทรงกรม ใช ้ปาก วัด CD การวัดเส ้นผ่าศูนย ์กลางภายในของวงแหวน ทรงกระบอกกลวง ใช ้ปากวัด EF ดังรูป การวัดความลึกของวัตถุ ใช ้แกน G ไมโครมิเตอร ์ ( Micrometer ) ่ อวัดขนาดของวัตถุทต เป็ นเครืองมื ี่ อ้ งการความ ละเอียดสูงในระดับทศนิ ยม 3 ตาแหน่ งในหน่ วย ่ ดชนิ ดนี อาศั ้ ่ ่ มิลลิเมตรเครืองวั ยหลักการ การเคลือนที ่ สว่ นประกอบทีส ่ าคัญดังแสดงในรูป ของสกรู ซึงมี ไมโครมิเตอร ์ ( Micrometer ) ่ มี โครง A มีลก ั ษณะคล ้ายกับคันธนู หรือตะขอเกียว ปากวัด C-D และแกนสเกลนอน B ติดอยู่แกนสเกล นอน B เป็ นสเกลหลัก มีหน่ วยเป็ นมิลลิเมตร โดยแบ่ ง ่ ละขีดจะมีขด ออกเป็ นขีดละ 1 มิลลิเมตร ซึงแต่ ี แบ่งครึง่ มิลลิเมตรกากับด ้วย สเกลวงกลม H มีลก ั ษณะเป็ นปลอกครอบสเกล ้ หลัก B แบ่งจานวนขีดโดยรอบทังหมด 50 ช่อง ไมโครมิเตอร ์ ( Micrometer ) ่ ้ปากวัด D เลือนไป ่ แกน G ใช ้สาหรบั หมุนเพือให สัมผัสกับผิวของวัตถุทต ี่ ้องการวัด ภายในปุ่ ม ่ ่ G มีสปริงเพือปร ับแรงกด เมือปากวั ด D สัมผัสพอดี ๊ กับผิววัตถุ จะมีเสียงดังกริกเบาๆ แสดงว่าสปริงรบั แรง กดพอดีแกนวัดจะไม่เดินหน้าต่อไปอีก ปุ่ ม I ใช ้ตรึงแกนวัด ปลอกวัด และปุ่ ม G ให ้ติดกับ ่ โครง A ทาให ้สเกลไม่เลือนต าแหน่ งขณะอ่านค่า เวลา ใช ้ต ้องบิดไปทางซ ้ายสุด ค่าความละเอียดของไมโครมิเตอร ์ ่ เมือปากวั ด C - D สัมผัสกัน ขีดที่ 0 ของ สเกลวงกลมจะทาบพอดีก บ ั แกนสเกลนอนและถ า้ หมุนสเกลวงกลมถอยหลังไป 1 รอบ ขีดที่ 0 ของ สเกลวงกลมจะทาบพอดีกบ ั แกนนอน และขอบของ ่ ลลิเมตรบน สเกลวงกลมจะทับพอดีกบ ั ขีดแบ่งครึงมิ ่ สเกลหลัก ซึงหมายความว่ า ถ ้าหมุนแกนวัดถอยหลัง ไปเพียง 1 ช่อง ปากวัด C - D จะห่างกันเป็ นระยะ ่ นค่าทีน้ ่ อยทีสุ ่ ดทีสามารถอ่ ่ 505.0= ซึงเป็ านได ้จาก ่ ดชนิ ดนี ้ เรียกว่า least count เครืองวั ่ ปกติค่า least count ของเครืองไมโครมิ เตอร ์จะ เขียนไว ้บนโครง A เช่น 0.01 mm การอ่านค่าจากไมโครมิเตอร ์ ผลการวัดจะประกอบด ้วย ค่าสเกลหลัก, ค่า ่ สเกลวงกลม, ค่าความละเอียดของเครืองมื อ วิธใี ช้ไมโครมิเตอร ์ ่ าให ้ปาก C หมุนแกน G ให ้แกนวัดถอยหลังเพือท D เปิ ดกว ้างกว่าขนาดของวัตถุเล็กน้อย แล ้วนาวัตถุที่ จะวัดขนาดไปไว ้ระหว่างปาก C - D ให ้ด ้านหนึ่ งชิดปาก วัด C ไว ้ แล ้วหมุนแกน G ให ้ปากวัด D มาสัมผัสพอดี ๊ กับผิวดา้ นหนึ่ งของวัตถุ โดยสังเกตจากเสียงกริกเบาๆ ่ จากนั้นให ้บิดปุ่ ม I ไปทางซ ้ายเพือตรึ งแกนวัดไว ้แล ้วจึง ตัวอย่างการอ่านค่าการวัดบนสเกลไมโครมิเตอร ์ ่ ดขนาดของวัตถุอน เมือวั ั หนึ่ ง ดังแสดงในรูป โดยที่ Least Count ของไมโครมิเตอร ์ = 0.01 mm 1. ขณะนี ้ขอบของสเกลวงกลมอยู่ ที่ต าแหน่ งที่ 11.500 มิลลิเมตร เลยออกมาเล็กน้อยบนสเกลหลัก 2. ขีดที่ 22.5 ของสเกลวงกลมตรงกับแกนนอนบน ้ ณกับค่า Least สเกลหลัก แล ้วเอาตัวเลข 22.5 นี คู Count จะได ้เป็ นค่าเศษของมิลลิเมตร เป็ น 22.5 x 0.010 = 0.225 mm ตัวอย่างการอ่านค่าการวัดบนสเกล ไมโครมิ ่ ้จากข ้อ (1) และข ้อ (2) รวมกัน 3. เตอร นาค่า์ ทีได ้ั ้ นั่นคือ จะได ้เป็ นผลการวัดครงนี ผลการวัด = ค่าสเกลหลัก + (ค่าสเกล วงกลม x ค่าความละเอียดของ ไมโครมิเตอร ์) = 11.500 mm + 0.225 mm = 11.725 mm ้ าด ับขันการอ่ ้ ด ังนันล านค่าการวัดเป็ นดงั นี ้ 1. ก่อนใช ้ไมโครมิเตอร ์ต ้องดูว่าค่า Least Count ่ ยนไว ้บนโครง A หรือ เท่ากับเท่าใด โดยดูจากตัวเลขทีเขี อาจจะคานวณก็ได ้ (โดยดูจากหัวขอ้ ความละเอียดของ ไมโครมิเตอร ์) 2 .ต อ้ งดู ว่ า ขอบของสเกลวงกลมอยู่ ที่ต าแหน่ งที่ เท่าใดของสเกลหลัก อ่านในหน่ วยมิลลิเมตร ่ าใดบนสเกลวงกลมอยู่ตรงกับ 3. ต่อไปดูว่า ขีดทีเท่ เส น ้ แกนของสเกลหลัก แล ว้ เอาตัว เลขนี ้คู ณ กับ ค่ า Least Count จะได ้เป็ นเศษของมิลลิเมตร ่ ้จากข ้อ 2 และ ข ้อ 3 คือผลการวัด 4. ผลรวมทีได