การจัดกลุ่มประเทศตามลักษณะทางการบัญชี

Download Report

Transcript การจัดกลุ่มประเทศตามลักษณะทางการบัญชี

การบัญชีระหวาง
่
International
ประเทศ
Asst. Prof. Dr. Panchat Akarak
Accounting
E-mail [email protected]
School of Accounting
Chiang Rai Rajabhat University
บทที่ 3 การจัดกลุมทางการบั
ญชีและ
่
การบัญชีทส
ี่ อดคลองกั
น
้
หัวขอส
้ าคัญ
การจัดกลุมทางการบั
ญชี
่
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะทางการ
่
บัญชี
วิธก
ี ารในการจัดกลุมประเทศ
่
ความพยายามในการให้นโยบายบัญชีไป
ในแนวทางเดียวกัน
เหตุผลในการสนับสนุ นและเหตุผลคัดคาน
้
วัตถุประสงคบทเรี
ยน
์
บทที่ 3 การจัดกลุมทางการบั
ญชีและ
่
การบัญชีทส
ี่ อดคลองกั
น
้
เพือ
่ ให้นักศึ กษา
สามารถอธิบายวิธก
ี ารจัดกลุมประเทศที
ม
่ ก
ี าร
่
นามาใช้ได้
ทราบวามี
นกลุมต
่ การจัดกลุมประเทศเป็
่
่ างๆ
่
และแตละกลุ
มมี
ั ษณะความเหมือนและแตกตาง
่
่ ลก
่
กันอยางไร
่
สามารถอธิบายความหมายของความพยายามใน
การทาให้การบัญชีมค
ี วามเป็ นไปในแนวทาง
เดียวกันได้
(Accounting Harmonization)
การจัดกลุมทางการบั
ญชี (Accounting
่
Classification)
Nobes and Parker, 2006 การจัดกลุม
่
ทางการบัญชีเพือ
่
1. พิจารณาพัฒนาการทางการบัญชีทเี่ กิดขึน
้ ของ
ประเทศหนึ่ง ๆ
2. การศึ กษาหาทางลดความแตกตางทางการบั
ญชีทม
ี่ ี
่
อยูในโลก
่
3. เป็ นแหลงข
่ อมู
้ ลสาหรับประเทศกาลังพัฒนาในการ
พัฒนาการบัญชีของตน
การจัดกลุมทางการบั
ญชี (Accounting
่
Classification)
สาเหตุทต
ี่ องมี
การจัดกลุมตามลั
กษณะ
้
่
ทางการบัญชี
1. พิจารณาพัฒนาการทางการบัญชีทเี่ กิดขึน
้ ของ
ประเทศหนึ่ง ๆ
-เพือ
่ ให้เห็ นถึงการเปลีย
่ นแปลงทางการบัญชี
และ
-สามารถศึ กษาสาเหตุการเปลีย
่ นแปลงวิธก
ี าร
ทางการบัญชี
การจัดกลุมทางการบั
ญชี (Accounting
่
Classification)
สาเหตุทต
ี่ องมี
การจัดกลุมตามลั
กษณะ
้
่
ทางการบัญชี
ญชี
2. การศึ กษาหาทางลดความแตกตางทางการบั
่
ทีม
่ อ
ี ยูในโลก
่
-ทาให้ทราบความแตกตางของการบั
ญชีในแต่
่
ละประเทศ และจะหาแนวทางเพือ
่ ลดความแตกตาง
่
ทางการบัญชีให้น้อยลงหรือหมดไป
-เพือ
่ พัฒนาการบัญชีระหวางประเทศและ
่
การจัดกลุมทางการบั
ญชี (Accounting
่
Classification)
สาเหตุทต
ี่ องมี
การจัดกลุมตามลั
กษณะ
้
่
ทางการบัญชี
3. เป็ นแหลงข
้ ลของประเทศกาลังพัฒนาในการ
่ อมู
พัฒนาการบัญชีของตน
-ประเทศกาลังพัฒนาสามารถเลือกรูปแบบการ
บัญชีทเี่ หมาะสมกับประเทศของตน
-ประเทศกาลังพัฒนาสามารถนาแบบจาลองของ
ประเทศอืน
่ มาประยุกตใช
์ ้ในประเทศของตนได้
การจัดกลุมทางการบั
ญชี (Accounting
่
Classification)
สาเหตุทต
ี่ องมี
การจัดกลุมตามลั
กษณะ
้
่
ทางการบัญชี
ไข
่ การคาดการณและแก
4. เป็ นแหลงข
้
์
้ ลเพือ
่ อมู
ปัญหาของประเทศกาลังพัฒนาเพือ
่ ปรับตัวเมือ
่ นา
วิธก
ี ารบัญชีของประเทศอืน
่ มาปรับใช้
-ประเทศกาลังพัฒนานาวิธก
ี ารบัญชีมาแกปั
้ ญหา
หรือ
-ปรับปรุงการบัญชีในประเทศของตนไดเหมาะสม
้
การจัดกลุมทางการบั
ญชี (Accounting
่
Classification)
สาเหตุทต
ี่ องมี
การจัดกลุมตามลั
กษณะ
้
่
ทางการบัญชี
ฒนา
่ องการพั
5. เป็ นแนวทางให้กับประเทศทีต
้
ระบบตาง
ๆ ภายในประเทศ
่
-ประเทศทีต
่ องการพั
ฒนาระบบบัญชีในประเทศ
้
ตนสามารถเลือกวิธก
ี ารบัญชีทเี่ หมาะสมกับ
สภาพแวดลอมของตน
เช่น พิจารณาความเข็ม
้
แข็งของตลาดทุน แหลงเงิ
่ นกูยื
้ ม
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบัญชี
Radebaugh and Gray (1997)
สรุปจากงานวิจย
ั มีวธิ ก
ี ารจัดกลุม
่
ทางการบัญชี โดยใช้วิธ ี ดังนี้
1. วิธน
ี ิรนัย (Deductive Approach)
2. วิธอ
ี ุปนัย (Inductive Approach)
การวิจย
ั ทางการบัญชีพจ
ิ ารณาหลักการ
ทัว่ ไปหรือนิรนัย
Deductive Approach
วัตถุประสงคและข
อสมมติ
์
้
(Objective and Postulates)
หลักการ (Principle)
วิธป
ี ฏิบต
ั ิ (Practice)
การวิจย
ั ทางการบัญชีจากการพิสจ
ู นหรื
์ อ
อุปนัย
Inductive Approach
การสั งเกตการณ ์
(Observation)
สมมติฐาน (Hypothesis)
การทดลอง (Experiment)
ข้อสรุป (Conclusion)
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบัญชี
Radebaugh and Gray (1997) สรุปจากงานวิจย
ั
มีวธ
ิ ก
ี ารจัดกลุม
่ 2 กลุม
่
1. วิธน
ี ิรนัย (Deductive Approach)
ใช้การวิเคราะหข
์ อมู
้ ล โดยการศึ กษา
สมมติฐาน แลวศึ
่ หาขอสนั
บสนุ น
้ กษารายละเอียดเพือ
้
สมมติฐานนั้น
ตัวอยางการวิ
จย
ั
่
-มีสมมติฐานวา่ สภาพแวดลอมที
แ
่ ตกตางกั
นยอม
้
่
่
ทาให้การบัญชีในแตละประเทศแตกต
างกั
น
่
่
-ถาสภาพแวดลอมทีม
่ ค
ี วามเหมือนกัน วิธก
ี ารการ
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบัญชี
Mueller (1968) เชือ
่ วาการบั
ญชีมค
ี วามแตกตาง
่
่
กันในแตละประเทศเนื
่องจากสภาพแวดลอมในแต
่
้
่
ละประเทศมีความแตกตางกั
น และไดพิ
่
้ จารณา
สภาพแวดลอมทางธุ
รกิจ โดยแบงกลุ
มประเทศเป็
น
้
่
่
10 กลุม
อ
่ ยูในกลุ
ม
่ และไดชี
้ ใ้ ห้เห็ นวาประเทศที
่
่
่
เดียวกันมีลก
ั ษณะทางบัญชีทเี่ หมือนกัน และ
ประเทศทีต
่ างกั
นมีลก
ั ษณะการบัญชีทแ
ี่ ตกตางกั
น
่
่
4 ลักษณะ ไดแก
้ ่
1. ระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ
2. ความซับซ้อนของธุรกิจ
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบัญชี
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
AAA (1977) ไดวิ
ั โดยจัดกลุมประเทศตาม
้ จย
่
วิธก
ี าร Morphological approach โดยใช้
ลักษณะ 8 ลักษณะหลัก ไดแก
้ ่
ระบบการเมือง
ระบบเศรษฐกิจ
ระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ
วัตถุประสงคของรายงานทางการเงิ
น
์
แหลงที
่ าของมาตรฐานการบัญชี
่ ม
ระบบการศึ กษา
การบังคับใช้มาตรฐานการบัญชีและกฎหมาย
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
Nobes (1983) ไดวิ
ั โดยจัดกลุมประเทศตาม
้ จย
่
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
วิจารณญาณของผู้วิจย
ั (Judgmental Approach) โดย
พิจารณาความเหมือนและความแตกตางของสภาพแวดล
อม
่
้
ทางการบัญชี ใช้ปัจจัยในการแบงกลุ
ม
่
่ 9 ลักษณะ
ไดแก
้ ่
ประเภทของผูใช
้ ้รายงานทางการเงิน
ลักษณะทางกฎหมาย
ลักษณะภาษี
ระดับความระมัดระวัง
การใช้การวัดมูลคาด
นเดิม (Historical cost)
่ วยราคาทุ
้
การปรับปรุงราคาเปลีย
่ นแทน (Replacement cost adjustment)
วิธก
ี ารจัดทางบการเงินรวม
การสารองทางการบัญชี
การบัญชีในรูปแบบเดียวกัน (Uniformity of Accounting)
Developed Western
Countries
MacroMicroUniform
based
Business
Economics,
Theory
Business
practice,
Pragmatic,
British origin
UK
Influence
US
Influence
Continental
Government,
Tax, Legal
Taxbased
Governm
ent,
Economic
s
Lawbased
Netherla
nds
Italy,
W.
Australia,
Cana
Swed
France,
Germany
NZ, UK,
da,
en
Belgium,
, Japan
Nobes,C.W.(1983)
A Judgment international
classification of financial reporting
Ireland
USA
Spain
practices, Journal of Business Finance & Accounting, Vol. 10 No.1 Spring, p.7
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญได
ชีวิ้ จยั โดยจัดกลุมประเทศตาม
Nobes
(1983)
่
วิจารณญาณของผูวิ
ั (Judgmental Approach)
้ จย
โดยพิจารณาความเหมือนและความแตกตางของ
่
สภาพแวดลอมทางการบั
ญชี ปัจจัยในการแบงกลุ
ม
้
่
่
9 ลักษณะ
โดยแบงเป็
่ น Micro-based และ Macrouniform
ประเทศในกลุม
่ Micro-based (ตามแผนภาพ)
ให้ความสาคัญกับธุรกิจในระดับจุลภาค
การวิจย
ั และไดแบ
น 2 กลุมย
คือ
้ งออกเป็
่
่ อย
่
(1) กลุมประเทศที
เ่ น้นทางดานเศรษฐศาสตร
จุ์ ลภาค ให้
่
้
ความสาคัญกับทฤษฎี ไดแก
้ ่
เนเธอรแลนด
์
์
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ(ต
ชีอ)
Nobes
(1983)
่
ประเทศในกลุม
่ Macro-uniform (ตามแผนภาพ)
เป็ นกลุมประเทศที
ใ่ ห้ความสาคัญกับการบริหาร
่
จัดการในระดับมหภาค และไดแบ
้ งเป็
่ น 2 กลุม
่
ยอย
คือ
่
(1) กลุมประเทศที
ร่ ฐั บาลใช้ระเบียบของรัฐ
่
กฎหมาย และภาษีอากรเป็ นเครือ
่ งมือในการพัฒนา
ประเทศ และไดแบ
คือ กลุม
้ งเป็
่ น 2 กลุมย
่ อย
่
่
ประเทศทีใ่ ช้กฎหมายเป็ นเครือ
่ งมือในการพัฒนา
ประเทศ (Law-based)ไดแก
่ ่ ุน และ
้ ่ เยอรมัน ญีป
กลุมที
่ งมือในการพัฒนาประเทศ
่ ใ่ ช้ภาษีเป็ นเครือ
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
Saudagaran and Diga (1999)
ไดวิ
จย
ั Nobes (1983)
้ จารณงานวิ
์
ปัจจัยทีเ่ ป็ นลักษณะกฎหมายและภาษี
เป็ น
ปัจจัยทีใ่ ช้ในการอธิบายความแตกตางทางการ
่
บัญชี และปัจจัยทีเ่ หลือเป็ นลักษณะทางการ
บัญชีทแ
ี่ ตกตางกั
น ดังนั้น การจัดกลุมยั
่
่ งไม่
มีความเหมาะสม เพราะไมมี
่ ตวั แปรมาอธิบาย
ความแตกตางทางการบั
ญชีทเี่ หมาะสม
่
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
Doupnik and Salter (1995) ไดนาปัจจัย
้
สภาพแวดลอมภายนอก
ไดแก
้
้ ่ การศึ กษา
เศรษฐกิจ การเมือง สั งคม และอืน
่ ๆ
และ
ปัจจัยสภาพแวดลอมภายใน
ไดแก
้
้ ่ สมาคมธุรกิจ
ตลาดหลักทรัพย ์ และสถาบันวิชาชีพตาง
ๆ
่
และผูที
่ าหน้าทีใ่ นการตัดสิ นใจทางธุรกิจ ไดแก
้ ท
้ ่
นักลงทุน ผู้บริหารตาง
ๆ
่
ผู้วิจย
ั ไดเลื
้ อก 6 ตัวแปรในการพิจารณาจัด
กลุมประเทศซึ
ง่ ไดแก
่
้ ่ กฎหมาย ความสั มพันธ ์
ระหวางธุ
่ รกิจและแหลงเงิ
่ นทุน กฎหมายภาษีอากร
ภาวะเงินเฟ้อ ระบบการศึ กษา และระดับการพัฒนา
ดานเศรษฐกิจ และใชวิธ ี Cluster analysis ในการ
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
การจั
ดกลุมตามวิ
ธเี ชิงปริมาณ ของ
่
Country
Number of Cluster
Doupnik
and Salter (1995)
Two
Japan
Germany
Finland
Sweden
Eqypt
Saudi Arabia
Belgium
UAE
Liberia
Thailand
Panama
Macro Uniform
Six
Nine
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
(ตอ)
การจั
ด
กลุ
มตามวิ
ธเี ชิงปริมาณ ของ
่
่
Country
Doupnik
and Salter (1995)Number of Cluster
Two
Portugal
Spain
Columbia
Italy
Korea
Denmark
Norway
France
Argentina
Mexico
Brazil
Chile
Costa Rica
Macro Uniform
Six
Nine
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
การจั
ดกลุมตามวิ
ธเี ชิงปริมาณ ของ
่
Country
Number of Cluster
Doupnik
and Salter (1995)
Two
Malaysia
S. Africa
Zimbabwe
Hong Kong
Singapore
Namibia
Ireland
United Kingdom
Zambia
Papua N. Guinea
New Zealand
Micro Uniform
Six
Nine
(ตอ)
ธเี ชิงปริมาณ ของ
่ การจัดกลุมตามวิ
่
Country and Salter (1995)
Number of Cluster
Doupnik
Two
Trinidad
Nigeria
Sri Lanka
Botswana
Jamaica
Philippines
Taiwan
Netherlands
Neth: Antilles
Luxembourg
Bermuda
Israel
Canada
United States
Micro Uniform
Six
Nine
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
1. วิธน
ี ิรนัย (Deductive Approach)
งานวิจย
ั ในกลุมนี
งมากในปัจจุบน
ั
่ ้ทไี่ ดรั
้ บการอางถึ
้
คืองานวิจย
ั ของ Nobes (1998)
ไดพิ
้ จารณาแหลงเงิ
่ นทุนของธุรกิจเป็ นตัวแปรหลัก
ในการจัดกลุมประเทศและพิ
จารณาเรือ
่ งการ
่
ถายทอดทางวั
ฒนธรรมเป็ นตัวแปรรอง
่
ผู้วิจย
ั มีความเชือ
่ วา่ ระบบบัญชีในประเทศหนึ่ง
สามารถเปลีย
่ นไปเป็ นอีกระบบหนึ่งได้ โดย
Nobes ไดแบ
้ งบั
่ ญชีเป็ น 2 ประเภทหลัก คือ
ระบบบัญชีสาหรับแหลงเงิ
่ นทุนจากบุคคลภายนอก
(Strong equity outsider) และ ระบบบัญชีสาหรับ
Accounting System
in 1998
Strong equityoutsider: A
Weak equity
outsider :B
AngleSaxon
UK.GAA
IASs
1. UKP
1. Any
GAAP
US.
Standard
1.Accounts
GAAP of French
French
Standard
German
1.German
individual and
Singapore
US
individual
group accounts,
company’s
SECaccounts
except for some
account
registered
group accounts
2. Some large
of large
Nobes,C.W.(1998)
Towards
a general
model of the reasons for
European
e.g. 2..Some
Japanes
Swiss
gourpreporting. Abacus, Vol. 342.No.2
international Nestle,
differences
in financial
P.181
Nokia
accounts
2. Irish
accounts
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบัญชี
Radebaugh and Gray (1997) สรุปจากงานวิจย
ั
มีวธ
ิ ก
ี ารจัดกลุม
่ 2 กลุม
่
2. วิธอ
ี ุปนัย (Inductive Approach)
งานวิจย
ั ในวิธน
ี ี้จะศึ กษาขอเท็
จจริง แลวพิ
้
้ จารณา
ข้อสรุปจากขอเท็
จจริงทีท
่ าการศึ กษา (พิจารณา
้
จากข้อเท็จจริงแลวสรุ
ปเพือ
่ จัดกลุมประเทศตาม
้
่
ลักษณะทางการบัญชี)
เช่น งานวิจย
ั ของ Frank (1979) ไดศึ
้ กษาโดยใช้
ข้อมูลลักษณะทางการบัญชีในประเทศตาง
ๆ
่
ของ Price Waterhouse ปี 1973 และใช้วิธ ี
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
งานวิจย
ั ของ Frank (1979) ไดศึ กษาโดยใชขอมูล
้
้ ้
ลักษณะทางการบัญชีในประเทศตาง
ๆ ของ
่
Price Waterhouse ปี 1973 และใช้วิธ ี Factor
analysis
เป็ นตัวกลุจั่มด2 กลุมประเทศ
่ จัดไดกลุ้ ่ม 4
กลุ่ม 1
กลุ่ม 3 ซึง
4 กลุม
่
่
ตามตาราง Argentina
Australia
Belgium
Canada
Bahamas
Ethiopia
Eire
Bolivia
Brazil
Chile
Colombia
France
Italy
Germany
Japan
Mexico
Fiji
Jamaica
Kenya
India
Pakistan
Paraguay
Spain
Sweden
Switzerland
Netherlands
Panama
Philippines
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบัญชี
การจัดกลุมประเทศตามวิ
ธอ
ี ุปนัยโดย Frank
่
(1979) โดยใช้วิธ ี Factor analysis เป็ นตัวจัด
กลุมประเทศ
ซึง่ จัดกลุได
่ ม 2 ้ 4 กลุม
กลุ่ม 4 (ตอ)
่ กลุ่ม 1
่ กลุ่ม 3ตามตาราง
่
New Zealand
Rhodesia
Singapore
Peru
Venezuela
United States
Uruguay
South Africa
Trinidad & Tobago
United Kingdom
Frnak, W.G. (1979) An Empirical analysis of international accounting
principles. Journal of Accounting Research, Vol. 17 No.2 (Autumn), p.
596.
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบัญชี
การจัดกลุมประเทศตามวิ
ธอ
ี ุปนัยโดย Frank
่
(1979) โดยใช้วิธ ี Factor analysis เป็ นตัวจัด
จัด
ได้ มประเทศสหราช
4 กลุม
่ ปแบบการบัซึญง่ ชี
่
1.กลุรูมประเทศ
ในกลุ
่
อาณาจักร
(British Commonwealth Model)
2. รูปแบบบัญชีในกลุมลาติ
นอเมริกา (Latin
่
American Model)
3. รูปแบบบัญชียุโรปตะวันตก (Continental
Frnak, W.G. (1979) An Empirical analysis of international accounting
European
Model)Research, Vol. 17 No.2 (Autumn), p.
principles.
Journal of Accounting
596.
4. รูปแบบการบัญชีในกลุมประเทศสหรัฐอเมริกา
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบัญชี
(ตอ)
ธอ
ี ุปนัยโดย Frank
่ การจัดกลุมประเทศตามวิ
่
(1979) โดยใช้วิธ ี Factor analysis เป็ นตัวจัด
กลุมประเทศ
ซึง่ จัดได้ 4 กลุม
่
่
ตัวแปรทีแ
่ สดงใหเห็ นโครงสรางเศรษฐกิจ
ไดแก
้ ่
้
้
รายไดประชาชาติ
ตอคน
ดุลย
้
่
การคาระหว
างประเทศ
้
่
ตัวแปรที
แ
่ สดงให
ทางการค
าระหว
าง
Frnak,
W.G. (1979)
An Empirical
of international
accounting
้เห็ นanalysis
้
่
principles. Journal of Accounting Research, Vol. 17 No.2 (Autumn), p.
596. ประเทศ ไดแก
้ ่
มูลคาการนาเขาและมูลคาการ
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบัญชี
การจัดกลุมประเทศตามการศึ
กษาของ Nair
่
and Frank มี 2 ลักษณะ
ก. การจั
ี ารบัญชีเป็กลุนเกณฑ
กลุ่ม 1 ดกลุมประเทศโดยใช
กลุ
่ม 4
่ กลุ่ม 2
้วิ่มธ3ก
์
ในการจัดกลุArgentina
ม
ม
่ มี 4 กลุ
่
Australia
Belgium
Bermuda
Bahamas
Fiji
Iran
Bolivia
Brazil
Colombia
Denmark
France
Germany
Canada
Japan
Mexico
Jamaica
Malaysia
Netherlands
Ethiopia
Greece
India
Norway
Sweden
Switzerland
Philippines
Untied Sates
Venezuela
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
การจัดกลุมประเทศตามการศึ กษาของ Nair and
่
Frank (ตอ)
่
ก. การจั
ี 3ารบัญชีเป็กลุน
กลุ่ม 1 ดกลุมประเทศโดยใช
กลุ่ม 2
่ม 4
่
้วิกลุธ่มก
เกณฑ
ในการจั
ดPeru
กลุม
กลุม
New
Zealand
์
่ มี 4Zaire
่
Rhodesia
Singapore
South Africa
Trinidad & Tobago
United Kingdom
Uruguay
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
การจัดกลุมประเทศตามการศึ กษาของ Nair
่
and Frank (ตอ)
่
กลุ่ม 1ดกลุมประเทศโดยใช
กลุ่ม 2
กลุ่ม 3
่ม 4 น
ข. การจั
ดกลุ
เผยเป็
่
้นโยบายการเปิ
Belgium
Australia
Bahamas
Bermuda
เกณฑในการจั
ดกลุมมี
7กลุ
ม
์
่
่
Bolivia
Ethiopia
Germany
Canada
Chile
Fiji
Japan
Jamaica
Colombia
Malaysia
Mexico
Netherlands
France
New Zealand
Panama
Republic of Ireland
Greece
Nigeria
Philippines
Rhodesia
Paraguay
Singapore
United States
United Kingdom
Spain
South Africa
Venezuela
Uruguay
Trinidad & Tobago
Zaire
การจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบั
ญ
ชี
การจัดกลุมประเทศตามการศึ กษาของ Nair and
่
Frank (ตอ)
่
ข. การจัดกลุมประเทศโดยใช
นโยบายการเปิ ดเผย
่
้
กลุ่ม ในการจั
5
กลุ่มมมี
6 7 กลุม กลุ่ม 7
เป็ นเกณฑ
ด
กลุ
่
์
่
Argentina
Denmark
Italy
India
Norway
Switzerland
Iran
Sweden
Pakistan
Peru
แหลงที
่ า
Nair, R.D. and Frnak, W.G. (1980). “The impact
่ ม
of disclosure and measurement practices on international
accounting classification, The Accounting Review, Vol. LV
No.3 (July), p. 433,. 436.
บทสรุปการจัดกลุมประเทศตาม
่
ลักษณะทางการบัญชี
สรุปวิธกี ารในการจัดกลุมประเทศตามลั
กษณะ
่
ทางการบัญชี
การจัดกลุมลั
ี่ ลายคลึ
งกันมี 2
่ กษณะการบัญชีทค
้
กลุมหลั
ก
่
กลุมที
่ ่ 1 ระบบบัญชีในประเทศ แองโกร-แซกซอน
(Anglo-Saxon)
เน้นการนาเสนอขอมู
้ ลเชิงบวก (Optimism
Approach) และ
การเปิ ดเผยอยางโปรงใส
(Transparency)
่
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting Harmonization)
ความพยายามให้มีการใช้นโยบายบัญชีเดียวกัน
ในระหวางประเทศ
มีหวั ขอส
่
้ าคัญดังนี้
1. Accounting harmonization VS Accounting
Standardization
2. เหตุผลสนับสนุ นและเหตุผลคัดค้าน
าง
ๆ และ
อในกลุมประเทศต
3. ความรวมมื
่
่
่
สถาบันวิชาชีพบัญชีระหวาง
่
ประเทศ
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting Harmonization)
1. Accounting harmonization VS Accounting
Standardization
คาวา่ Harmonization หมายถึง ความ
พยายามทีจ
่ ะทาให้นโยบายบัญชีเป็ นไปใน
แนวทางเดียวกัน
กระบวนการทีจ
่ ะทาให้ใช้วิธก
ี ารบัญชีนาไปสู่
รายงานทางการเงินทีส
่ ามารถเปรียบเทียบกันได้
ของแตละประเทศ
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting Harmonization)
“Harmonization” หรือ ความพยายามทีจ
่ ะทา
ให้นโยบายการบัญชีเป็ นไปในแนวทางเดียวกัน
Nobes 1998 ชีใ้ ห้เป็ นวาประเทศต
าง
ๆ ใน
่
่
โลกมีการ Harmonization ใน 2 ลักษณะคือ
1. De jure harmonization หมายถึง เป็ น
ความพยายามทีท
่ าให้มาตรฐานการบัญชีของแต่
ละประเทศเป็ นไปในทิศทางเดียวกัน
2. De facto harmonization หมายถึง ความ
พยายามทีจ
่ ะทาให้นโยบายบัญชีในระดับบริษท
ั
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting Harmonization)
Harmoniza
tion
De jure
harmonization
พิจารณา
ระดับประเทศ
-มาตรฐานการบัญชี
-วิธก
ี ารบัญชีและการเปิ ดเผย
ข้อมูล
•งานวิจย
ั ของ
De facto
harmonization
พิจารณาระดับ
บริษท
ั
-วิธก
ี ารบัญชีทใี่ ช้ในแตละ
่
บริษท
ั
-การเปิ ดเผยขอมู
้ ล
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting Harmonization)
Standardization หมายถึง ความ
พยายามทีจ
่ ะทาให้มีการใช้มาตรฐาน
การบัญชีเพียงมาตรฐานเดียวในทุก
ประเทศ (ตองการให
้
้มาตรฐานการ
บัญชีมท
ี างเลือกน้อยทีส
่ ุด)
Standardization คือ ทาให้มาตรฐาน
การบัญชีเป็ นมาตรฐานเดียวและใช้ได้
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting Harmonization)
2. เหตุผลสนับสนุ นและเหตุผลคัดคาน
้
2.1 เหตุผลสนับสนุ น
1) การลดตนทุ
ดท า
้ นและคาใช
่
้จายในการจั
่
รายงานทางการเงินของ
บริษท
ั ระหวางประเทศ
่
2) ความคลองตั
วในการเคลือ
่ นยายเงิ
นทุนจาก
่
้
ประเทศหนึ่งไปอีกประเทศ
3) การซือ
้ ขายหุ้นหรือการควบรวมกิจการ
สามารถทาไดรวดเร็วยิง่ ขึน
้
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting Harmonization)
2. เหตุผลสนับสนุ นและเหตุผลคัดคาน
้
2.2 เหตุผลคัดคาน
้
1) ความแตกตางทางด
านสภาพแวดล
อมในแต
ละ
่
้
้
่
ประเทศ
2) ความแตกตางของวั
ตถุประสงคในการจั
ดทาบัญชี
่
์
3) ต้นทุนในการศึ กษาและวิจย
ั เพือ
่ ลดความแตกตาง
่
ทางการบัญชี
4) การไมมี
่ สนับสนุ นอานาจให้กับ
่ กฎหมายรองรับเพือ
สถาบันวิชาชีพบัญชีสากล
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting
Harmonization)
3. ความรวมมือในกลุมประเทศตางๆและสถาบัน
่
่
่
วิชาชีพบัญชีระหวางประเทศ
่
มีสถาบันทีม
่ ค
ี วามสาคัญ 6 สถาบัน
ดังนี้
1) คณะกรรมการจัดทามาตรฐานรายงานทาง
การเงินระหวางประเทศ
(International
่
Accounting Standard Board: IASB =ไอเอเอสบี)
- IASB จัดตัง้ ขึน
้ ในปี ค.ศ.1973 โดยใช้ชือ
่
IASC
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting Harmonization)
(ตอ)
่
IASB =ไอเอเอสบี
มีวต
ั ถุประสงคหลั
์ ก 2 ข้อ
1. ทาการจัดทาและจัดพิมพมาตรฐานการบั
ญชี
์
ระหวางประเทศเพื
อ
่ ตอบสนองตอความต
องการของ
่
่
้
สาธารณชนดานบั
ญชี
้
2. ทางานเพือ
่ พัฒนาให้เกิดการปฏิบต
ั ท
ิ างการบัญชี
ทีเ่ ป็ นไปในแนวทางเดียวกัน (Accounting
Harmonization)
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting Harmonization)
2) กลุมประเทศสหภาพยุ
โรป (The
่
European Union: EU =อีย)ู
-มีความพยายามรวมกลุมตั
่ ง้ แตปี่ 1960
-EU จัดตัง้ ขึน
้ ในปี 1957
-โดยทาสั ญญาระหวาง
6 ประเทศ คือ ฝรัง่ เศส
่
เยอรมัน อิตาลี เบลเยีย
่ ม
เนเธอรแลนด
์
์ และลักแซมเบอรก
์
-ปี 1973 มีประเทศในกลุมยุ
น
่ โรป เข้ารวมเป็
่
สมาชิกเพิม
่ ไดแก เดนมารค อังกฤษ และ
3.2 ความพยายามในการให้นโยบายบัญชี
ไปในแนวทางเดียวกัน
(Accounting Harmonization)
EU (ตอ)
่
-ปี 1981 ประเทศกรีกเขาเป็
้ นสมาชิก
-ปี 1986 โปรตุเกส สเปน เข้าเป็ นสมาชิก
-ปัจจุบน
ั EU มีสมาชิกทัง้ สิ้ น 27 ประเทศ
-ปัจจุบน
ั มี 3 ประเทศ ทีก
่ าลังรอกการพิจารณา
เข้ากลุม
่
รายชือ
่ ประเทศในกลุมยุ
่ โรป
1. ออสเตรีย
9. ฝรัง่ เศส
17. ลักแซมเบอรก
์ 25.สเปน
2. เบเยีย
่ ม
3. บัวแกเรีย
10. เยอรมัน
11. กรีช
18. มอลต้า
19. เนเธอรแลนด
์
์
4. ไซปรัส
5. เชค รีพบ
ั ลิค
12. ฮั งการี
13. ไอรแลนด
์
์
20. โปแลนด ์
21. โปรตุเกส
6. เดนมารก
์
14. อิลาตี
22. โรมาเนีย
7. เอสโคเบิก
15. ลัธเวียร ์
23. สโลวาเกีย
8. ฟิ นแลนด ์
16. ลิถวั เนีย
24. สโลเวเนีย
รายชือ
่ ประเทศทีก
่ าลังพิจารณาเข้ารวมเป็
นสมาชิก
่
โครเอเชีย มาเซโดเนีย ตุรกี
26. สวีเดน
27. อังกฤษ
วัตถุประสงคของการจั
ดตัง้ กลุม
่ EU
์
เป็ นครัง้ แรกทีส
่ หภาพตองการให
่ ี
้
้ประเทศทีม
สภาพแวดลอมทางธุ
รกิจไปในแนวเดียวกัน
้
รวมตัวกันเพือ
่ ให้เกิดการคาระหว
างประเทศ
้
่
มีการเคลือ
่ นยายเงิ
นทุน อุปกรณ ์
้
เครือ
่ งจักร วัตถุดบ
ิ แรงงานตางๆ
อยาง
่
่
เสรี
ตองใช
้
้ความพยายามในการปรับกฎหมาย
และระบบภาษีอากรให้เป็ นไปในแนว
เครือ
่ งมือช่วยในกลุม
่ EU
ประเทศสมาชิกในกลุม
่ งมือช่วย
่ EU มีเครือ
เพือ
่ ให้เป็ นไปในแนวทางเดียวกัน
2 อยาง
่
คือ
1. Directives คือขอกฎระเบี
ยบทีอ
่ อกโดย
้
คณะกรรมการความรวมมื
อระหวางประเทศ
่
่
สมาชิกใน EU และเป็ นกฎระเบียบทีป
่ ระเทศ
สมาชิกจะรับทราบแตยั
่ งไมถื
่ อเป็ นกฎหมาย ให้
แตละประเทศปฏิ
บต
ั ต
ิ าม
่
2. Regulations เป็ นกฎหมายทีอ่ อกโดย
EU Directives and Regulations ทีอ
่ อก
ในสหภาพยุ
โรปDate adopted
Directives
Draft date
Topic
First
Second
1964
1970, 1972
1968
1976
Ultra vires rules
Separation of public companies,
Minimum capital, distributions
Third
1970, 1973
1978
Mergers
Fourth
1975
1971, 1974
1978
Formats and rules of accounting
Fifth
1972, 1983
Structure, management and audit
of companies
EU Directives and Regulations ทีอ
่ อก
ในสหภาพยุ
โรป
Directives Draft date
Date adopted
Topic
Sixth
Seventh
1978
1976, 1978
1982
1983
De-Mergers
Consolidated accounting
Eighth
1978
1982
Qualifications and work of auditor
Ninth
-
-
Tenth
1985
-
Eleventh
1986
1989
Links between public company
groups
International mergers of public
Companies
Disclosures about branches
Twelfth
1988
1989
Single member company
EU Directives and Regulations ทีอ
่ อก
ในสหภาพยุ
โ
รป
Directives Draft date
Date adopted
Topic
Thirteenth
1989, 1996
1997
-
Takeovers
Vredeling
1980, 1983
-
Employee Information and
consultation
EU Directives and Regulations ทีอ
่ อก
ในสหภาพยุ
โรปDate adopted
Regulations
Draft date
Topic
Societas
European
European
Economic
Interest
Grouping
International
Standards
1970,1975
1989
2004
European company subject to
EU laws
1973,
1978
1985
Business form for multination
Joint ventures
2001
2002
Use of IFRSs and a mechanism
for their endorsement
แหลงที
่ า Radebaugh, L.H. and Gray, S.J. (1997)
่ ม
International Accounting and Multinational Enterprises, 4th
edition John Wiley & Sons, New York, p. 175.
เครือ
่ งมือช่วยในกลุม
่ EU
4th Directive คือ กฎระเบียบทีไ่ ดรั
้ บการ
ประกาศอยางเป็
นทางการในปี 1978 แตการร
าง
่
่
่
กฎระเบียบมีการจัดทาขึน
้ ตัง้ แตปี่ 1971 เป็ น
เรือ
่ งเกีย
่ วกับกฎเกณฑทางการบั
ญชีในเรือ
่ ง
์
การนาเสนอในรายงานการเงินประจาปี วิธก
ี าร
บัญชีทใี่ ช้ เรือ
่ งทีจ
่ ะตองท
าการเปิ ดเผยขอมู
้
้ ล
รูปแบบการนาเสนองบการเงิน และการวัดมูลคา่
กาหนดให้ใช้ในบริษท
ั จากัดและบริษท
ั มหาชน
จากัด
เครือ
่ งมือช่วยในกลุม
่ EU
7th Directive คือ เป็ นกฎเกณฑที
์ ไ่ ดรั
้ บการ
ประกาศเมือ
่ ปี 1983 โดยเป็ นกฎระเบียบทีจ
่ ด
ั ทา
เพือ
่ บริษท
ั ระหวางประเทศโดยเฉพาะ
เนื่อง
่
เกีย
่ วกับการบัญชีสาหรับงบการเงินรวมเพือ
่ ทาให้
บริษท
ั ระหวางประเทศที
ม
่ บ
ี ริษท
ั ลูกทีอ
่ ยูใน
่
่
ตางประเทศได
น
่
้ าเสนอผลการดาเนินงานและ
ฐานะทางการเงินของบริษท
ั ลูกนั้นมารวมแสดง
มูลคาในรายงานทางการเงิ
นของบริษท
ั แม่
่
ทาให้บริษท
ั ตางประเทศที
อ
่ ยูใน
EU เปิ ดเผย
่
่
เครือ
่ งมือช่วยในกลุม
่ EU
EU ให้ความสาคัญกับการทางานของ IASB
และไมได
Directive ใดๆ เกีย
่ วกับการบัญชี
่ ออก
้
อีก แตจะใช
่ งมือ
่
้ IASs และ IFRSs เป็ นเครือ
ในการทาให้การบัญชีในแถบยุโรปเป็ นไปใน
แนวทางเดียวกัน โดยออกประกาศ EU
Regulation 1606/2002 เกีย
่ วกับการใช้
โดย
มาตรฐานการบัญชีระหวางประเทศ
่
กาหนดให้บริษท
ั จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย ์
ของ EU ตองท
างบการเงินตาม IASs และ
้
IFRSs ภายในปี 2005
เครือ
่ งมือช่วยในกลุม
่ EU
หลังจาก IASB ไดประกาศใช
้
้ IASs หรือ
IFRSs แลว
่ รึกษาการจัดทา
้ คณะกรรมการทีป
รายงานทางการเงินของสหภาพยุโรป (The
European Financial Reporting Advisory
Group: EFRAG) ไดแปลและศึ
กษามาตรฐาน
้
นั้น ๆ รวมกับกลุมต
ๆ ทีม
่ ค
ี วามเกีย
่ วข้อง
่ าง
่
อ
่ จัดทาขอเสนอแนะ
กับมาตรฐานดังกลาวเพื
้
่
เกีย
่ วกับมาตรฐานโดยพิจารณาความสอดคลอง
้
กับ 4th และ 7th Directives
เครือ
่ งมือช่วยในกลุม
่ EU
ว
หลังจาก EFRAG ไดจั
้
้
้ ดทาขอเสนอแนะแล
คณะกรรมการสอบทานขอเสนอแนะมาตรฐาน
้
(The Standards Advice Review Group:
SARG) จะทาการสอบทานขอเสนอแนะดั
งกลาว
้
่
วามี
่ ห
ี รือไม่ และ
่ ความเหมาะสมและมีเหตุผลทีด
ทาการเขียนรายงานความคิดเห็นของตนเอง
เสนอตอ
่ BC
ไดรั
่ BC เมือ
้ บขอมู
้ ลจากทัง้
EFRAG และ SARG แลวจะท
าการรางประกาศ
้
่
รับรอง IASs และ IFRSs ฉบับนั้น ๆ โดยใน
การรับรองรางประกาศนั
้นจะมีคณะกรรมการ
่
กระบวนการประกาศใช้ IAS และ
IFRSs ของสหภาพยุโรป
IASB
EPRAG
Interest
Groups
SARG
European
Commissi
on
ARC
European
Parliament
Council
The European Union (2009). International Accounting Standards
and Interpretations endorsement process in the EU, available at:
http://www. Europa.eu.
ความรวมมื
อในกลุมประเทศต
างๆและสถาบั
นวิชาชีพ
่
่
่
บัญชีระหวางประเทศ
่
3) คณะกรรมการกากับดูแลตลาดหลักทรัพย ์
ระหวางประเทศ
(International Organization
่
of Securities Committee : IOSCO=ไอออสโค)
-จัดตัง้ ในปี 1974
-วัตถุประสงค ์ เพือ
่ จัดทากรอบการทางานให้
คณะกรรมการดูแลตลาดหลักทรัพยในสหรั
ฐฯ
์
เพือ
่ ดูแลให้ผูลงทุ
นเกิดความมัน
่ ใจวาบริ
ษท
ั จด
้
่
ทะเบียนมีการเปิ ดเผยขอมู
ทันเวลา
้ ลถูกตอง
้
และเหมาะสม
-ในปี 1983 ไดเปลีย
่ นเป็ นองคกรระหวาง
ความรวมมื
อในกลุมประเทศต
างๆและสถาบั
นวิชาชีพ
่
่
่
บัญชีระหวางประเทศ
่
(ตอ)
่
IOSCO=ไอออสโค)
-ปี 1984 มีสมาชิกเพิม
่ 4 ประเทศ ไดแก
้ ่
ฝรัง่ เศส อินโดนีเซีย เกาหลี อังกฤษ
-ปัจจุบน
ั IOSCO มีสมาชิกประมาณ 135
องคกร
จาก 100 ประเทศ
์
-มีวต
ั ถุประสงคเพื
่ ทาให้ตลาดหลักทรัพยที
่ ยูใน
์ อ
่
์ อ
ประเทศตาง
ๆ มีกฎ ข้อบังคับระเบียบ วิธป
ี ฏิบต
ั ิ
่
ทีด
่ ี และให้คาแนะนาช่วยเหลือ การทางานของ
ความรวมมื
อในกลุมประเทศต
างๆและสถาบั
น
่
่
่
วิชาชีพบัญชีระหวางประเทศ
่
(ตอ)
่ IOSCO=ไอออสโค)
-ไดให
้ ้การรับรองมาตรฐานการบัญชีระหวาง
่
ประเทศทีอ
่ อกโดย IASB
และให้บริษท
ั สมาชิกใช้ IASs และ IFRSs
-ช่วยส่งเสริมให้มีการนา IASs และ IFRSs
ไปใช้อยางแพร
หลาย
่
่
ความรวมมื
อในกลุมประเทศต
างๆและสถาบั
นวิชาชีพ
่
่
่
บัญชีระหวางประเทศ
่
4) สภาวิชาชีพบัญชีระหวางประเทศ
่
(International Federation of Accountants
:IFAC=ไอแฟค)
จัดตัง้ ขึน
้ ในปี 1977
วัตถุประสงค ์ เพือ
่ รวบรวมความรวมมื
อของสถาบัน
่
วิชาชีพในประเทศตาง
ๆ ทัว่ โลก ปัจจุบน
ั IFAC มี
่
สมาชิก 157 สถาบันวิชาชีพ มาจาก 123 ประเทศ
สานักงานใหญ่ นิวยอรค
์ สหรัฐอเมริกา
จุดมุงหมาย
พัฒนามาตรฐานการสอบบัญชี การ
่
พัฒนามาตรฐานการศึ กษาและการฝึ กอบรมทางการ
บัญชีใหมีความเป็ นสากล คุณธรรมจริยธรรมของผู
ความรวมมื
อในกลุมประเทศต
างๆและสถาบั
นวิชาชีพ
่
่
่
บัญชีระหวางประเทศ
่
(ตอ)
่ IFAC=ไอแฟค)
IFAC ทางานรวมกั
บคณะกรรม IASB ในการ
่
พัฒนามาตรฐานการบัญชี IASs และ IFRSs
เช่น
-การนาเสนองบการเงิน
-การรวมกิจการ
-มาตรฐานการบัญชีสาหรับธุรกิจขนาดกลาง
และขนาดยอม
่
ความรวมมื
อในกลุมประเทศต
างๆและสถาบั
นวิชาชีพ
่
่
่
บัญชีระหวางประเทศ
่
5) องคการสหประชาชาติ
(United Nation :
์
UN=ยูเอ็น)
-จัดตัง้ ในปี 1945 (หลังสงครามโลกครัง้ ที่ 2)
-วัตถุประสงคเป็
่
์ นหน่วยงานระหวางประเทศที
่
รักษาความสงบทัว่ โลก
-สนับสนุ นความสั มพันธที
่ รี ะหวางประเทศต
าง
ๆ
์ ด
่
่
-พัฒนาสั งคม ความเป็ นอยู่ และสิ ทธิมนุ ษยชน
-มีการแบงหน
าง
ๆ เช่น
่
่ วยงานรับผิดชอบดานต
้
่
ความปลอดภัย เศรษฐกิจ สั งคม
ความรวมมื
อในกลุมประเทศต
างๆและสถาบั
นวิชาชีพ
่
่
่
บัญชีระหวางประเทศ
่
(ตอ)
(United
่ 5) องคการสหประชาชาติ
์
Nation : UN)
-UNCTAD เป็ นองคกรใน
UN
์
-จัดตัง้ ขึน
้ ในปี 1964
-วัตถุประสงค ์ เพือ
่ ให้ความช่วยเหลือประเทศ
กาลังพัฒนาดานเศรษฐกิ
จให้มีความเข็มแข็ง
้
-ช่วยเหลือประเทศสมาชิกในการปรับปรุง
มาตรฐานการรายงานทางการเงินของประเทศให้
มีความโปรงใสและน
่ ถือ
่
่ าเชือ
ความรวมมื
อในกลุมประเทศต
างๆและสถาบั
น
่
่
่
วิชาชีพบัญชีระหวางประเทศ
่
(ตอ)
(United Nation
่ 5) องคการสหประชาชาติ
์
: UN)
-UNCTAD เป็ นองคกรใน
UN
์
-มีคณะกรรมการออกแนวปฏิบต
ั แ
ิ ละให้ขอแนะน
า
้
ในเรือ
่ งทีเ่ กีย
่ วของกั
บบริษท
ั ขามชาติ
เช่น การ
้
้
บัญชีสาหรับภาวะเงินเฟ้อ บาเหน็ จบานาญ
่ วกับ
กิจการรวมค
้ ลเกีย
้า และการรายงานขอมู
่
สั งคมและสิ่ งแวดลอม
้
-UN มีบทบาทสาคัญในการพัฒนาการบัญชี
ความรวมมื
อในกลุมประเทศต
างๆและสถาบั
นวิชาชีพ
่
่
่
บัญชีระหวางประเทศ
่
วมมื
อเพือ
่ การพัฒนาทาง
6) องคการความร
่
์
เศรษฐกิจและสั งคม (Organization for
Economic Cooperation and Development :
OECD=โออีซด
ี ี)
จัดตัง้ ขึน
้ ในปี 1961
วัตถุประสงค ์ เพอช
่ ่ วยเหลือประเทศสมาชิกให้มี
เศรษฐกิจเจริญเติบโตตอเนื
่ ่ อง
ประเทศสมาชิก 30 ประเทศ
มีความรวมมื
อกับประเทศอืน
่ เพือ
่ ช่วยเหลือให้คาแนะนา
่
ประเทศกาลังพัฒนา
แบบฝึ กหัดทายบทที
่
3
้
คาถามทายบท
้
ขอ
้ 4 ,6
คาถามเชิงอภิปราย ขอ
้ 1
แบบฝึ กหัดทายบทที
่
3
้
ขอ
4
้
แบบฝึ กหัดทายบทที
่
3
้
ขอ
6
้
แบบฝึ กหัดทายบทที
่ 3
้
คาถามเชิงอภิปรายขอ
1
้