Transcript tni karakuri contest - สถาบันเทคโนโลยีไทย

โครงการนี เ้ ป็ นโครงการจัดการแข่ งขันประดิษฐ์ คาราคุริ เป็ นส่ วนหนึ่ งของ
รายวิ ช ากิ จ กรรมส่ งเสริ มหลั กสู ตร 1 (วิ ช าเลื อ กเสรี ) ของนั กศึ ก ษาคณะ
วิศวกรรมศาสตร์ ทุกชัน้ ปี ซึ่งมีนักศึกษาลงทะเบียนทัง้ หมด 15 คน จุดประสงค์ ในการ
แข่ งขันครั ง้ นีเ้ พื่อคัดเลือกนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น เป็ นตัวแทนเข้ าร่ วม
แข่ งขันในโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับมหาวิทยาลัย Monotsukuri โดยโครงการนี ้
นั ก ศึก ษาที่ได้ รับรางวัลชนะเลิศ จะได้ รั บสิทธิ์ ไปเข้ าร่ วมแข่ งขั นคาราคุ ริ คอนเทสที่
มหาวิทยาลัย Monotsukuri ประเทศญี่ปุ่น สาหรั บนั กศึกษาที่ได้ รับรางวัล ชนะเลิศ
อันดับ 2 และ 3 จะได้ รับประกาศณียบัตรจากทางสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
ในการนีท้ างสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น จึงต้ องมีการจัดการแข่ งขันขึน้ 2
ครั ้ง ในครั ้งที่ 1 จั ด ขึน้ ในวั น ที่ 14 พฤษภาคม 2553 และครั ้ง ที่ 2 จั ด ขึ น้ ในวั น ที่ 29
พฤษภาคม 2553 โดยทางสถาบั น เทคโนโลยี ไ ทย-ญี่ ปุ่ นเป็ นผู้ สนั บ สนุ น สถานที่
อุปกรณ์ และค่ าใช้ จ่ายในการแข่ งขันทีมละ 1,000 บาท
กติกาในการแข่ งขัน คือ การประดิษฐ์ กลไกคาราคุริให้ เกิดเสียง โดยนาเอา
กลไกที่ประดิษฐ์ ขึน้ ติดตัง้ ไว้ บนแผ่ นไม้ (ที่ติดล้ อไว้ ด้านล่ าง) โดยมีความกว้ าง 1 เมตร
ความยาว 1 เมตร ใช้ แผ่ นไม้ ต่อกัน 2 แผ่ น และความสูงไม่ เกิน 2 เมตร ความสูงนับ
จากแผ่ นไม้ ท่ ีกาหนดให้ การใช้ วัสดุเป็ นไม้ โลหะ หรื อวัสดุชนิดใดก็ได้ ตามจินตนาการ
ห้ ามอุ ปกรณ์ ท่ ีข้อ งเกี่ ยวกั บ สิ่งผิ ดกฎหมาย หรื ออุ ป กรณ์ ท่ ีก่ อให้ เกิ ดอั นตรายอย่ า ง
ร้ ายแรง ซึ่งกาหนดให้ แต่ ละทีมมีสมาชิกไม่ เกิน 3 คน
การให้ ค ะแนนจะมี ค ณะกรรมการผู้ ทรงคุ ณ วุ ฒิ คณาจารย์ และผู้ ช่ ว ย
อาจารย์ ร่วมให้ คะแนนทัง้ หมด 8 ท่ าน โดยเกณฑ์ การให้ คะแนนคานึงถึงเทคนิ คการ
ใช้ วั ส ดุ ต่า งๆ เทคนิ คการใช้ ก ารคานวณทางด้ านฟิ สิกส์ ความน่ า สนใจของระบบ
กลไกคาราคุริ ความสมบูรณ์ แม่ นยาของอุปกรณ์ ท่ ีประดิษฐ์ ความคิดสร้ างสรรค์ ตาม
แนวคิดที่กาหนด ความผิดพลาด และความสวยงาม
โดยมีจุดให้ คะแนนดังนี ้
1. ภาพรวมทัง้ หมด
0-50 คะแนน
2. ความน่ าสนใจของคาราคุริ
0-50 คะแนน
3. ความสมบุณ์
0-50 คะแนน
4. ความคิดสร้ างสรรค์
0-30 คะแนน
5. ความสวยงาม
0-20 คะแนน
จากนัน้ นาคะแนนที่ได้ ทัง้ หมดมารวมกัน และการตัดสินของคณะกรรมการ
ถือเป็ นที่สนิ ้ สุด