Transcript การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

ดร.ไพจิตร สดวกการ
http://www.edutechie.ws/2007/10/09/cone-of-experience-media/
Passive
Learning
Active
Learning
http://www.edutechie.ws/2007/10/09/cone-of-experience-media/
Inquiry Process (5 Es)
Cooperative Learning
ProbLem-Based Learning
etc.
http://www.oid.ucla.edu/about/units/tatp/old/lounge/pedagogy/downloads/active-learning-eric.pdf
ื เสาะหาความรู ้ (5 Es)
กระบวนการสบ
สร้างพ ันธะทางใจ
Engagement
ประเมิน
Evaluation
เพิม
่ รายละเอียด
Elaboration
สารวจ/ค้นหา
Exploration
อธิบาย
Explanation
http://www.growinginthegarden.org/results.html
การเรียนรู ้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning)
Group Investigation
STAD (Student Teams-
Achievement Divisions)
Think-Pair-Share
Jigsaw
etc.
http://www.worksheetlibrary.com/teachingtips/cooplearning.html
้ ญ
การเรียนรูโ้ ดยใชป
ั หาเป็นฐาน
Problem-Based Learning (PBL)
http://www.vcu.edu/cte/resources/nfrg/11_07_problem_based_learning.htm
้ ญ
การเรียนรูโ้ ดยใชป
ั หาเป็นฐาน
Problem-Based Learning (PBL)
1. เสนอปัญหา
(Introduce Problem)
http://www.vcu.edu/cte/resources/nfrg/11_07_problem_based_learning.htm
้ ญ
การเรียนรูโ้ ดยใชป
ั หาเป็นฐาน
Problem-Based Learning (PBL)
2. อ่านอย่างมีวจ
ิ ารณญาณ
(Critical Reading)
http://www.vcu.edu/cte/resources/nfrg/11_07_problem_based_learning.htm
้ ญ
การเรียนรูโ้ ดยใชป
ั หาเป็นฐาน
Problem-Based Learning (PBL)
3. อภิปรายกลุม
่
(Group Discussion)
3.1 คิดค้นคาตอบ
3.2 เสนอเค้าโครง/แนวคิด
3.3 กาหนดบทบาทกลุม
่
http://www.vcu.edu/cte/resources/nfrg/11_07_problem_based_learning.htm
้ ญ
การเรียนรูโ้ ดยใชป
ั หาเป็นฐาน
Problem-Based Learning (PBL)
4. เสนอคาตอบต่อกลุม
่
(Propose Solution)
http://www.vcu.edu/cte/resources/nfrg/11_07_problem_based_learning.htm
้ ญ
การเรียนรูโ้ ดยใชป
ั หาเป็นฐาน
Problem-Based Learning (PBL)
ิ้ งานกลุม
5. สร้างชน
่
(Group Product)
http://www.vcu.edu/cte/resources/nfrg/11_07_problem_based_learning.htm
้ ญ
การเรียนรูโ้ ดยใชป
ั หาเป็นฐาน
Problem-Based Learning (PBL)
6. เสนอผลงานกลุม
่
(Present solution)
http://www.vcu.edu/cte/resources/nfrg/11_07_problem_based_learning.htm
้ ญ
การเรียนรูโ้ ดยใชป
ั หาเป็นฐาน
Problem-Based Learning (PBL)
7. ไตร่ตรองร่วมก ันทงห้
ั้ อง
(Class Reflection)
7.1 อภิปรายกลน
่ ั กรอง
ั
7.2 สงเคราะห์
การเรียนรู ้
7.3 ประเมินเพือ
่ น/ตนเอง
http://www.vcu.edu/cte/resources/nfrg/11_07_problem_based_learning.htm
้ ญ
การเรียนรูโ้ ดยใชป
ั หาเป็นฐาน
Problem-Based Learning (PBL)
8. ประเมินผลการเรียนรู ้
(Evaluate Learning)
http://www.vcu.edu/cte/resources/nfrg/11_07_problem_based_learning.htm
้ ารวิจ ัยเป็นฐาน
การเรียนรูโ้ ดยใชก
Research-Based Learning (RBL)
โครงการสร้างว ัฒนธรรมการวิจ ัยของ สพฐ. กาหนด
ขนตอนส
ั้
าค ัญของการจ ัดการเรียนรูโ้ ดยน ักเรียนใช ้
กระบวนการวิจ ัย ด ังนี้
• ตัง้ คาถาม (Question)
• เตรียมการค ้นหาคาตอบ (Plan)
• ดาเนินการค ้นหาและตรวจสอบคาตอบ
(Action, Observation and Reflection)
• สรุปและนาเสนอผลการค ้นหา
(Conclusion and presentation)
http://www.research-culture.net/
้ ารวิจ ัยเป็นฐาน
การเรียนรูโ้ ดยใชก
Research-Based Learning (RBL)
โครงงาน เป็ นกิจกรรมทีเ่ ปิ ดโอกาสให ้นักเรียน
ึ ษาตามความถนัดและความสนใจในเรือ
ได ้ศก
่ ง
ทีเ่ กีย
่ วข ้องกับสาระการเรียนรู ้ ด ้วยวิธท
ี าง
วิทยาศาสตร์ โดยได ้รับคาแนะนาดูแลจาก
อาจารย์ทป
ี่ รึกษา และ/หรือผู ้ทรงคุณวุฒ ิ
การไตร่ตรอง (Reflection)
การพิจารณา ทบทวน ตรวจสอบ
และขจ ัดความข ัดแย้งทางความคิด
ระหว่างบุคคล ภายในตนเอง และ
ื่ ก ับผลเชงิ ประจ ักษ์
ระหว่างความเชอ
แผนภาพ (Diagram)
ผ ังมโนท ัศน์ (Concept Map)
แผนทีค
่ วามคิด (Mind Map)
ฯลฯ
http://www.oid.ucla.edu/about/units/tatp/old/lounge/pedagogy/downloads/active-learning-eric.pdf
ตัวอย่างแผนภาพ
่
้
วงจรเครืองส่
ง วิทยุ KY-2 วิทยุกระป๋ อง 2 ช่อง 2 มอเตอร ์ เลียวโดยการดั
บมอเตอร ์
http://www.ifomodel.com/th/index.php?option=com_content&task=view&id=138&Itemid=155
ตัวอย่างผังมโนทัศน์
http://std.kku.ac.th/5140500172/learn_base/learn_base_iden1.html
ตัวอย่างแผนทีค
่ วามคิด
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/196051
แหล่งทร ัพยากรสาหร ับ Visual-Based Learning
• http://www.glocalization.org/
ภก. ดร.ประชาสรรค์ แสนภ ักดี
• http://sourceforge.net/projects/freemind
โปรแกรม freemind
• http://www.inspiration.com/
โปรแกรม inspiration, kidspiration
ทักษะและกระบวนการ
ทางคณิตศาสตร์
หล ักสูตรฯ 2551
สาระที่ 6 มาตรฐาน ค 6.1
มีความสามารถในการแก้ปญ
ั หา การให้
ื่ สาร การสอ
ื่ ความหมาย
เหตุผล การสอ
ทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การ
ื่ มโยงความรูต
เชอ
้ า่ งๆ ทางคณิตศาสตร์
ื่ มโยงคณิตศาสตร์ก ับศาสตร์อน
และเชอ
ื่ ๆ
และมีความคิดริเริม
่ สร้างสรรค์
คุณภาพผู ้เรียน
วิทยาศาสตร์ หล ักสูตรฯ 2551
ั้ ป. 6
จบชน

ตงค
ั้ าถามเกีย
่ วก ับสงิ่ ทีจ
่ ะเรียนรู ้
คาดคะเนคาตอบหลายแนวทาง วางแผน
และสารวจตรวจสอบโดยใชเ้ ครือ
่ งมือ
ื่ สาร
อุปกรณ์ วิเคราะห์ขอ
้ มูล และสอ
ความรูจ
้ ากผลการสารวจตรวจสอบ

คุณภาพผู ้เรียน
วิทยาศาสตร์ หล ักสูตรฯ 2551
ั้ ม. 3
จบชน

ตงค
ั้ าถามทีม
่ ก
ี ารกาหนดและควบคุมต ัวแปร
คาดคะเนคาตอบหลายแนวทาง วางแผน
และลงมือสารวจตรวจสอบโดยใชเ้ ครือ
่ งมือ
อุปกรณ์
วิเคราะห์และประเมินความ
สอดคล้องของข้อมูล และสร้างองค์ความรู ้

คุณภาพผู ้เรียน
วิทยาศาสตร์ หล ักสูตรฯ 2551
ั้ ม. 6
จบชน

 ระบุปญ
ั หา ตงค
ั้ าถามทีจ
่ ะสารวจตรวจสอบ
ั ันธ์ระหว่าง
โดยมีการกาหนดความสมพ
ื ค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง
ต ัวแปรต่างๆ สบ
ตงสมมติ
ั้
ฐานทีเ่ ป็นไปได้หลายแนวทาง
ิ ใจเลือกตรวจสอบสมมติฐานทีเ่ ป็นไป
ต ัดสน
ได้
คุณภาพผู ้เรียน
วิทยาศาสตร์ หล ักสูตรฯ 2551
ั้ ม. 6
จบชน
 วางแผนการสารวจตรวจสอบเพือ
่
แก้ปญ
ั หาหรือตอบคาถาม วิเคราะห์
ั ันธ์ของต ัวแปรต่างๆ
ื่ มโยงความสมพ
เชอ
้ มการทางคณิตศาสตร์หรือสร้าง
โดยใชส
แบบจาลองจากผลหรือความรูท
้ ไี่ ด้ร ับ
จากการสารวจตรวจสอบ
คุณภาพผู ้เรียน
วิทยาศาสตร์ หล ักสูตรฯ 2551
ั้ ม. 6
จบชน
ื่ สารความคิด ความรูจ
 สอ
้ ากผลการ
สารวจตรวจสอบโดยการพูด เขียน
จ ัดแสดง หรือใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ

ทาให้คณ
ุ ภาพผูเ้ รียน
ในทุกระด ับเป็นจริง
ด้วย
การเรียนรูเ้ ชงิ รุก
Active Learning