Document 7557690

Download Report

Transcript Document 7557690

Cell Respiration
O2
BREATHING
CO2
Lungs
CO2
Bloodstream
Muscle cells
O carrying out
2
CELLULAR
RESPIRATION
Sugar + O2  ATP + CO2 + H2O
1
ความหมายของการหายใจระดับเซลล ์
( cellular respiration ) หมายถึง
Time
r
การย่อยสลายสารอาหารโดยใช ้กระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอน
่
เพือสร
้าง ATP
การใช ้ออกซิเจนเป็ นตัวร ับอิเล็กตรอนตัวสุดท ้าย ( final
electron acceptor )
่
การใช ้สารอืนนอกจากออกซิ
เจนมาเป็ นตัวร ับอิเล็กตรอน
่ ้นจากกลูโคส จนได ้สารทีมี
่ โมเลกุลเล็ก
การสลายอาหารโดยเริมต
่ ด
ทีสุ
2
่
ปพลังงานและการหมุนเวียน
การเปลียนรู
สารเคมีในระบบนิ เวศ
Chloroplast และ
Anabolism
Catabolism
mitochondria เป็ น
่ ยนพลั
่
organelles ทีเปลี
งงาน
รูปหนึ่ งไปอีกรูปหนึ่ ง
ในChloroplast เกิด
กระบวนการ photosynthesis
่
่
ซึงพลั
งงานแสงถูกเปลียนเป็
น
พลังงานสะสมในคาร ์โบไฮเดรต
 ที่ mitochondria เกิด
กระบวนการ cellular
่ บไว ้
respiration พลังงานทีเก็
ในคาร ์โบไฮเดรตจะถูก
่
เปลียนเป็
นพลังงานในรูป ATP
่ งมี
่ ชวี ต
ซึงสิ
ิ จะนาไปใช ้ในเซลล
์
3
ต่อไป
กระบวนการเมทาบอลิซม
ึ หมายเลข 1,2
ตามลาดับ คือ
60
1
Anabolism, Catabolism
2
Catabolism, Anabolism
4
่ ้พลังงานกับสิงมี
่ ชวี ต
สารเคมีใดทีให
ิ ทุก
ชนิ ด
Phosphate
ATP
ADP
Adenine
Time
r
5
ATP (Adenosine triphosphate)
่
เป็ นสารเคมีทมี
ี่ พลังงานสู งพร ้อมทีจะแตก
่ ่ งดด้
ตัวปล่อยให้พลังงานออกมาใช้ทใดที
ี่
หนึ
6
่ ~P สลายภายในเซลล ์ พลังงานบางส่วน
เมือ
จะสู ญเสียดปในรู ปของความร ้อน และบางส่วนถูก
่ ATP ถ่ายทอด ~P ให้ก ับ
นาดปใช้ทางาน และเมือ
่ โมเลกุลของสารนันจะดด้
้
โมเลกุลของสารอืน
่ นด้
้ วย ทาให้เกิดปฏิก ิรย
พลังงานเพิมขึ
ิ ากับ
่ อดป ดังนันพลั
้
โมเลกุลอืนต่
งงานจาก ATP
สามารถทาให้เกิดปฏิก ิรย
ิ าเคมีภายในเซลล ์ดด้
7
The energy in an ATP molecule
• Lies in the bonds between its phosphate groups
Adenosine
Adenosine diphosphate
Triphosphate
Phosphate
groups
P
Adenine
P
P
H2O
P
Hydrolysis
Ribose
ATP
Figure 5.4A
ADP
P +
P +
Energy
่ กใช้แล้วสามารถสร ้าง
ATP เมือถู
กลับมาใหม่ดด้
9
ส่วนประกอบของ ATP ประกอบดปด้วย
คือ
Phosphate
groups
Phosphoenal
60
1
Metyonine
3
Ribosome
5
2
Ribose
4
Adenine
6
<Keypad will appear here based on shape
and location of this rectangle.>
10
่
พลังงานทีสามารถน
าดปใช้ดด้อยู ่ท ี่
โครงสร ้างใด
Time
r
Adenine
Phosphate groups
Ribose
Adenine, Ribose
11
่ ชวี ต
่ ้จากการหายใจไว ้
สิงมี
ิ เก็บพลังงานทีได
่ พลังงานสูงชนิ ดหนึ่ ง
ในรูปอินทรียสารทีมี
โดยพลังงานนั้นอยูท
่ พั
ี่ นธะเคมีระหว่าง
หมู่ฟอตเฟตกับ
้
หมู่นาตาลไรโบส
หมู่เบสอะดีนีนกับ
หมู่ฟอตเฟต
้
หมู่นาตาลไรโบสกั
บ
หมู่เบสอะดีนีน
หมู่ฟอสเฟตกับ
หมู่ฟอตเฟต
Time
r
12
พลังงานในรู ป ATP ถูกนาดปใช้ทางาน
ต่างๆภายในเซลล ์
13
จากแผนภาพข ้างล่างแสดงการใช ้พลังงาน
ในรูปต่าง ๆ อยากทราบว่า A คืออะไร B
คืออะไร
Time
r
A คือ O2 B คือ
CO2
A คือ CO2 B คือ
O2
A คือ ATP B คือ
ADP
A คือ ADP B คือ
14
ATP
้
ATP สร ้างขึน
อย่างดร
เรียกกระบวนการสร ้าง ATP ว่า
Phosphorylation มีวธ
ิ ก
ี ารสร ้าง
หลายแบบ
1. Oxidative phosphorylation
2. Substrate phosphorylation
3. Photophosphorylation
15
Oxidative phosphorylation
การสร ้าง ATP
จากการถ่ายทอด
e- ผ่านสารนา eเช่น NADH,
FADH2 ใน etransport chain
ที่ mitochondria
และมี O2 เป็ น
ตัวร ับ e- ตัว
สุดท้าย
16
Substrate phosphorylation
ATP ถูกสร ้างโดย
การถ่ายทอด ~P
่
จากสารทีมี
พันธะเคมี
พลังงานสู งกว่า
มายัง ADP
โดยตรง โดยมี
enzyme กระตุน
้
17
Photophosphorylation
แสงทาให้ eจากน้ า ถูก
ถ่ายทอดดป
ตาม
e- transport chain
ใน
chloroplast
ดด้พลังงานใน
รู ป ATP
18
่ ชวี ต
กระบวนการใดในสิงมี
ิ ดม่สามารถ
สร ้าง ATPดด้
Oxidative
phosphorylation
Substrate
phosphorylation
Photophosphorylation
Hydrolysis
Time
r
19
การสร ้าง ATP จากการถ่ายถอด e
ผ่านสารตัวนา คือ
Oxidative
phosphorylation
Substrate
phosphorylation
Photophosphorylation
Photosynthesis
Time
r
20
NAD+ = nicotinamide adenine dinucleotide
21
NAD+
พบในเซลล ์
ทางานร่วมกับ enzyme โดยเป็ นตัวร ับ eในปฏิก ิรย
ิ า oxidation-reduction
Oxidation
H
R
C
OH
Dehydrogenase
R’ + NAD+
R
C
R’’ + NADH + H+
O
Reduction
NAD+ = oxidized coenzyme
NADH = reduced coenzyme
22
รู ้
NAD (nicltinamide adenineหรื
dinucleotide)
อดม่
เป็ นตัวนา
อิเล็กตรอน พร ้อมด ้วยโปรตรอนและเนื่ องจากอะตอมของ
่ นองค ์ประกอบของ NAD มีประจุบวกจึงเขียน
ไนโตรเจนทีเป็
ว่า NAD+ มีวต
ิ ามิน B5
คือไนอะซีน (niacin) เป็ นองค ์ประกอบ
FAD (flavin adenine dinucleotide) เป็ นตัวนา
อิเล็กตรอน พร ้อมด ้วยโปรตรอน FAD 1 โมเลกุลร ับอิเล็กตรอน
และโปรตรอนจะได ้ FADH2
ดังสมการ
FAD + 2H+ + 2e- -----------> FADH2
่ ้าสูก
FADH2 มีสมบัตเิ ป็ นตัวให ้อิเล็กตรอน เมือเข
่ ระบวนการ
่
ถ่ายทอดอิเล็กตรอนพลังงานทีสะสมอยู
จ
่ ะถูกนามาใช ้ในการ
สร ้าง ATP
ข้อใดดม่ใช่สารตัวนาในการถ่ายทอด
e คือ
NADH
FAD
NAD+
ข ้อ B และ C
Time
r
24
Cellular respiration
รวมหมายถึง 2 กระบวนการ คือ
- Aerobic cellular respiration
กระบวนการหายใจแบบใช้
ออกซิเจน
- Anerobic cellular respiration
(Fermentation)
กระบวนการหายใจแบบดม่ใช้
ออกซิเจน หรือ
25
Aerobic cellular respiration
่
เป็ นกระบวนการย่อยสารอาหาร เพือให้
ดด้ ATP และมี O2 เป็ นตัวร ับ e- ตัวสุดท้าย
Loss of hydrogen atoms
(oxidation)
C6H12O6 +
6 O2
6 CO2
Glucose
+
6 H2O
+ Energy
(ATP)
Gain of hydrogen atoms
(reduction)
26
1
2
3
4
5
6
7
8
ให้นก
ั เรียนเขียนปฏิก ิรย
ิ าการหายใจระดบ
ั
เซลล ์
่
เมือใช้
glucose 2 โมเลกุล?
C6H12O6
O2
H 2O
H 2O
CO2
CO2
ATP
O2
C6H12O6
ATP
9
2
12
12
38
76
76
2
12
12
38
76
76
2
12
12
38
76
76
+
+
+
+
+
+
้
้ ใด
่
ปฏิก ิรย
ิ านี ควรเกิ
ดขึนที
mitochondria
cholorplast
nucleus
cytoplasm
Time
r
28
Fermentation
เป็ นกระบวนการย่อยสารอาหาร
่
เพือให้
ดด้ ATP โดยมี organic
compounds เป็ นตัวร ับ eเป็ น anaerobic process
เป็ นการย่อยสลาย glucose เพียง
บางส่วน ผลดด้ lactate (animal cell)
หรือ CO2 + alcohol (yeast)
ดด้ 2 ATP
29
Aerobic cellular respiration
ประกอบด้วย
 Glycolysis
 Krebs cycle
 Electron transport chain (ETC) and
oxidative phosphorylation
30
Glycolysis
Kreb’s Cycle (Citric acid cycle)
Electron transport chain(ETC)
1
2
3
4
5
6
7
8
จับคู ต
่ าแหน่ งการเกิดปฏิก ิรย
ิ าการหายใจ
ระดับเซลล ์
Glycolysis
Kreb’s Cycle
ETC
Matrix
Cytosol
Inner
membrane
mitochondria
Outer
membrane
mitochondria
34
9
จากแผนภาพ A คือ
การสังเคราะห ์ด ้วย
แสง
การสังเคราะห ์
โปรตีน
Time
r
การสังเคราะห ์ไขมัน
ไกลโคลิซสิ
35
จากแผนภาพ B และ C คืออะดร
B คือกลูโคส C คือกรด
ไพรูวก
ิ
B คือกลูโคส C คือกรด
แลกติก
Time
r
B คือคาร ์โบไฮเดรต C คือ
กรดไพรูวก
ิ
B คือโปรตีน C คือกรด
36
แลกติก
่ างกายของเราเกิดการเผาผลาญ glucose ในเซลล ์
เมือร่
แล้ว ดด้ product ร่างกายทาอย่างดร
คนเราหายใน O2 เข้าดปในปอด และร ับประทานอาหาร
glucose ซึง่ O2 และ glucose เข้าดปในกระแสเลือด แล้ว
เข้าดปในเซลล ์
้ ่ cytoplasm ดด้ pyruvate
Glycolysis เกิดขึนที
Pyruvate เข้าดปใน mitochondria และถูกเผาผลาญ
ต่อดป จนดด้ CO2 + H2O + พลังงานในรู ป ATP
CO2 , H2O และ ATP แพร่ออกจาก mitochondria ดป
ยัง cytoplasm
 ATP ถูกนาดปใช้ประโยชน์ภายในเซลล ์ CO2 แพร่ออก
จากเซลล ์ เข้าดปในกระแสเลือด และหายใจออกดป ส่วน
37
H O จะถูกนาดปใช้ในเซลล ์
Glycolysis
6C
6C
6C
3C
6C
3C
3C
3C
3C
3C
3C
สรุป
Glycolysis
40
่ ่ทผิ
โปรตีนทีอยู
ี่ วของ mitochondria จะขนส่ง
pyruvate เข้าดปใน mitochondria
2C
3C
Net: 2 Pyruvate
2C2O
2 Acetyl CoA + 2NADH
ออกจากเซลล ์
41
่ นสุ
้ ดกระบวนการไกลโคลิซสิ แล ้ว
เมือสิ
จะได ้กรด
่
่
ไพรูวก
ิ ซึงเปลี
ยนแปลงต่
อไป ในการ
หายใจและใช ้ออกซิเจน คือ
Time
r
ทาปฏิก ิรยิ ากับโค
เอนไซม ์ เอ
่
เปลียนเป็
น CO2 หมด
่
เปลียนเป็
นกรดซิตริก
่
เปลียนเป็
นกรดแลกติก
42
่ ้เมือสิ
่ นสุ
้ ดกระบวนการไกลโคลิ
ผลผลิตทีได
้ั อ
ซิส 1 ครงคื
Time
r
2 กรดไพรูวก
ิ + 2ATP + 4H
กรดไพรูวก
ิ + 2ATP + 4H
2 แอซิตล
ิ โคเอนไซม ์ เอ + 2 คาร ์บอนไดออกไซด ์ +
2ATP + 4H
แอซิตล
ิ โคเอนไซม ์ เอ + คาร ์บอนไดออกไซด ์ +
2ATP + 4H
43
Krebs cycle
เกิดที่
mitochondria
matrix
2C
4C
6C
6C
6C
5C
4C
4C
5C
4C
4C
4C
44
1
2
3
4
5
6
7
8
9
่ นขึน
้
ให้นก
ั เรียนจัดเรียงจานวน C อะตอมทีเกิ
ใน Kreb’s Cycle?
5C
4C
2C
6C
สรุป Kreb’s
ใน
2 Krebs cycle / 1 Glucose
Cycle
2 Acetyl CoA
+ 6NADH2
4CO2
e- transport chain
+2 FADH2
+ 2 ATP (substrate level
phosphorylation)
46
ในวัฏจักรเครบส ์จะไม่เกิดอะไร
Time
r
H2 O
O2
ATP
H+
47
่
ในวัฏจักรเครบส ์มีการเปลียนแปลง
จานวนคาร ์บอนอะตอมดังต่อไปนี ้
6C

5C 
4C
Time
r
6C

5C

4C

2C
4C

2C

6C

5C
2C

4C

5C

6C
48
ในการหายใจระดับเซลล ์ สารประกอบ
่ ้าสูไ่ มโทคอน
ชนิ ดใดเป็ นสารตัวแรกทีเข
เดรีย
ไดไฮดรอกซีแอซิโตน
ฟอสเฟต
กรดไพรูวก
ิ
ฟอสโฟอีนอลไพรูเวต
แอซิตล
ิ โคเอนไซม ์ เอ
Time
r
49
The pathway of
electron transport
ETC ประกอบด้วย
electron carrier
molecules (ตัวร ับ e-)ที่
อยู ่ใน inner
mitochondrial
membrane
ตัวร ับ e- จะร ับเฉพาะ
e-
H+ จะถูกปล่อย
ออกมาและถูกส่งออกดป
ที่ intermembrane
50
O2 จะเป็ นตัวร ับ e- ตัว
สุดท้าย แล้วรวมกับ H+
กลายเป็ น- H2O +
½ O2 + 2e + 2H
H20
สรุปว่า
ETC ดม่ทาให้สร ้าง
ATP โดยตรง แต่ทาให้
่ ง
เกิด H+ gradient ทีผนั
ด้านในของ
่ าให้
mitochondria ซึงท
สะสมพลังงานมาก
่
พอทีจะท
าให้เกิด
phosphorylation
51
ATP synthase เป็ น
protein cmplex ทา
่ งเคราะห ์ ATP
หน้าทีสั
่
ซึงจะท
างานดด้โดยการ
ดหลผ่านของ H+
การสร ้าง ATP แบบนี ้
เรียกว่า Chemiosmotic
ATP synthesis
52
Electron transport chain and oxidative phosphorylation
53
ตัวร ับไฮโดรเจนในกระบวนการถ่ายทอด
อิเล็กตรอน คือ
Time
r
NAD+
O2
FAD
้ ้อ ก , ข และ ค
ทังข
55
ในกระบวนการหายใจระดับเซลล ์
่ ้ส่วนใหญ่ได ้มา
คาร ์บอนไดออกไซด ์ทีได
จากแหล่งใด
ไกลโคลิซสิ
การสร ้างแอซิตล
ิ โค
เอนไซม ์ เอ
การถ่ายทอด
อิเล็กตรอน
วัฏจักรเครบส ์
Time
r
56
ในการหายใจระดับเซลล ์ ออกซิเจนเข ้าไป
่
้องในช่วงใด
เกียวข
Time
r
การถ่ายทอด
อิเล็กตรอน
วัฎจักรเครบส ์
ไกลโคลิซสิ
การสร ้างแอซิตล
ิ โคเอนไซม ์
เอ
57
ในการหายใจแบบใช ้ออกซิเจน แก๊ส
่
ออกซิเจนทาหน้าทีใด
ตัวร ับอิเล็กตรอน
เป็ นตัวร ับโปรตอน
ตัวให ้อิเล็กตรอน
ตัวร ับอิเล็กตรอนและ
โปรตอน
Time
r
58
Review: how each molecules of glucose yields many
ATP molecules during cellular respiration
59
60
ในกระบวนการหายใจระดับเซลล ์ ATP ซึง่
ไม่ได ้เกิดจากกระบวนการถ่ายทอด
่ ้นจาก
อิเล็กตรอนนั้น มีกโมเลกุ
ี่
ลหากเริมต
กลูโคส 1 โมเลกุล
2
6
4
8
Time
r
61
้
่ ชวี ต
การแยกสลายนาตาลกลูโคสในสิ
งมี
ิ
้ั ง กระบวนการทีท
่ าให ้เกิดพลังงาน
ชนสู
่ ด เกิดขึนที
้ บริ
่ เวณ
มากทีสุ
Time
r
ไรโบโซม
ผนังไมโทรคอนเดรีย
้ั
ชนใน
ผนังไมโทคอนเดรีย
้ั
ชนนอก
ช่องว่างภายในไมโทรคอนเด
รีย
62
่ นสุ
้ ดกระบวนการหายใจแบบใช ้
เมือสิ
ออกซิเจนในเซลล ์
ยูคาริโอต จากกลูโคส 1 โมเลกุล จะได ้
้
่
พลังงาน ATP ทังหมดกี
โมเลกุ
ล
30
34
32
38
Time
r
63
เฉพาะในวัฏจักรเครบส ์ 1 รอบ จะได ้
้ าใด หลังจากผ่านการ
พลังงานเกิดขึนเท่
ถ่ายทอดอิเล็กตรอนแล ้ว
2 ATP
12 ATP
13 ATP
36 ATP
Time
r
64
่ ้จากวัฏจักรเครบส ์ ถ ้า
การคิดพลังงานทีได
่
เริมจากกลูโคส
1 โมเลกุล จะได ้พลังงาน
เท่าใด
22 ATP
32 ATP
24 ATP
36 ATP
Time
r
65
Fermentation
(Backup ATP production)
Glycolysis
Pyruvate
Lactate (animal)
CO2 + alcohol (yeast)
่ ขึนอยู
้
หรือ อาจจะดด้ product อืนๆ
่ก ับ
่ ชวี ต
้
enzyme ในสิงมี
ิ นัน
66
ผลของ fermentation จะดด้ 2ATP
่ จาก fermantation จะถู ก
NADH ทีดด้
่
่
เปลียนเป็
น NAD+ เพือใช้
ใน glycolysis
ดด้
67
Alcohol fermentation (yeast)
68
ในกระบวนการสลายกลูโคสของยีสต ์ ถ ้า
่ จะ
่
ขาดออกซิเจนมาร ับไฮโดรเจนสิงที
้
เกิดขึนตามมา
คือ
Time
r
ปฏิก ิรยิ าจะหยุดอยู่แค่
การถ่ายทอด
อิเล็กตรอน
จะได ้เอทิลแอลกอฮอล ์
และคาร ์บอนไดออกไซด ์
กระบวนการหยุดแค่
กรดไพรูวก
ิ
จะได ้กรดแลกติกและ
คาร ์บอนไดออกไซด ์
69
่
การทีเราอาจหมั
กเหล ้าไวน์ในขวดฝาปิ ด
ระบายแก๊สออกได ้ แต่แก๊สภายนอกเข ้าไป
ไม่ได ้ เพราะ
Time
r
ยีสต ์สามารถสลายอาหารได ้โดยไม่ต ้องออกซิเจน
่
ออกซิเจนทีละลายอยู
ม
่ พ
ี อแก่ความต ้องการของยีสต ์
้
ยีสต ์สามารถสลายโมเลกุลของนาแล
้วนาเอา
ออกซิเจนมาใช ้
ยีสต ์สามารถสลายอาหารได ้อย่างสมบูรณ์โดยไม่ต ้อง
ใช ้ออกซิเจน
70
่ ด
กระบวนการหายใจแบบใช ้ออกซิเจนทีเกิ
ในแบคทีเรียบางชนิ ด จากกลูโคส 1
โมเลกุล ควรได ้พลังงานจานวนเท่าใด
2
36
8
38
Time
r
71
Lactic acid fermentation (animal cell)
72
้ อสั
่ ตว ์มีกระดูกสันหลังชนสู
้ั งที่
เนื อเยื
สามารถเกิดการหายใจแบบไม่ใช ้
ออกซิเจนได ้เป็ นพิเศษ คือ
้ วใจ
กล ้ามเนื อหั
้
กล ้ามเนื อลาย
้ ยบ
กล ้ามเนื อเรี
มา้ ม
Time
r
73
Pyruvate as a key junction in catabolism
ผลของ
Glycolysis คือ
่
pyruvate ซึงจะ
ถูกเผาผลาญ
ต่อดปด้วย
fermentation
หรือ aerobic
cellular
respiration
แล้วแต่วา
่ จะอยู ่
่ O2
ในภาวะทีมี
หรือดม่ สาหร ับ
่
74
เซลล ์ทีสามารถ
ถึงแม้วา
่ fermantation จะดด้พลังงานน้อย แต่กส
็ าคัญ
เพราะว่าทาให้ดด้ ATP อย่างรวดเร็ว ในร่างกายของเรา
่ างกาย
muscle cell จะเกิด fermentation มากในขณะทีร่
้ เช่น วิง่ fermentation เป็ น
ทางานหนักในระยะเวลาสัน
กระบวนการให้เกิด ATP และ lactate ใน muscle cell ใน
่ จานวนมากขึนท
้ าให้เกิดอาการเมือยล้
่
ตอนแรก เมือมี
า
่
่ างกายหายใจ
เนื่ องจากมีสภาพเป็ นกรดมาก เมือหยุ
ดวิงร่
่
้ lactate จะถู ก
แรงเป็ นการนาเอา O2 มาใช้เพิมมากขึ
น
่ บ และถู กเปลียนเป็
่
ส่งดปทีตั
น pyruvate
ในเซลล ์ของยีส ถ้ามี glucose จานวนมาก ยีสจะหายใจ
่ alcohol เพิม
่
แบบ anaerobic ดด้เป็ น alcohol เมือมี
้
จานวนมากขึนจะท
าให้ยส
ี ตายดด้
่ นพบกระบวนการ fermentation จึง
จากการทีค้
นามาใช้ประโยชน์ดด้มากมาย
75
กระบวนการหายใจแบบใช ้ออกซิเจน ให ้
พลังงานมากกว่าการหายใจแบบไม่ใช ้
ออกซิเจน เพราะกระบวนการแบบหลัง
Time
r
้
่ ชวี ต
้ ่า เช่น ยีสต ์ และพืชซึงใช
่ ้
เกิดขึนเฉพาะในสิ
งมี
ิ ชันต
พลังงานน้อยกว่า
ต ้องการออกซิเจนเป็ นตัวร ับไฮโดรเจนอะตอม
ย่อยสลายโมเลกุลอินทรียสารได ้พลังงานน้อยกว่า
กระบวนการแรก
เป็ นกระบวนการเคมีทเกิ
ี่ ดกับสารประกอบ
คาร ์โบไฮเดรต
76
่ ามาใช ้เป็ นเชือเพลิ
้
แก๊สชีวภาพทีน
งแทน
Time
r
ถ่านหรือฟื นในการหุงต ้มอาหารตาม
ชนบทนั้น เกิดจาก
ปฏิก ิรยิ าของมูลสัตว ์กับ ( 1 ) และแก๊สที่
( 1 ) แบคทีเรียแอโร
ได ้คืบิอก ( 2 )
( 1 ) แบคทีเรียแอนา
( 2 ) แก๊สมีเทน (
CH4 )
( 1 ) แบคทีเรียแอโร
บิก
( 2 ) แก๊สออกซิเจน
โรบิก
( 2 ) แก๊สมีเทน
( 1 ) แบคทีเรียแอนา
โรบิก
( 2 ) แก๊สออกซิเจน
77
The catabolism of
various food molecules
ร่างกายของเราดด้
พลังงานส่วนใหญ่จาก
fats, proteins,
disaccharides และ
่ น
polysaccharides ทีกิ
เข้าดป โมเลกุลเหล่านี ้
ถูกย่อยให้เป็ นโมเลกุล
่ กลงด้วย enzymes
ทีเล็
่
ซึงสามารถจะเข้
าดป
ในกระบวนการ
glycolysis หรือ Krebs
cycle ดด้
78
่ ้นจากกรดอะมิโนเข ้าสู่
หากเริมต
กระบวนการหายใจระดับเซลล ์นั้น จะต ้อง
ผ่านกระบวนการใดมาก่อน
Time
r
่
เปลียนกรดอะมิ
โนให ้เป็ นแอซิตล
ิ โคเอนไซม ์
เอ เสียก่อน
่
เปลียนกรดอะมิ
โนให ้เป็ นกรดไพรูวก
ิ
ขจัดหมู่คาร ์บอกซีลออกไปเสียก่อน
ขจัดหมู่อะมิโน ( - NH3 ) ออกไปเสียก่อน
79
การสลายดขมัน
่ าเลียงเข ้าสู่
กรดไขมันและกลีเซอรอลเมือล
้ ้นในกระบวนการสลาย
เซลล ์จะเป็ นสารตังต
สารอาหาร โดยกลีเซอรอลเข ้าสูก
่ ระบวนการ
ในช่วงไกลโคไลซิส ส่วนกรดไขมันจะมี
่
กระบวนการเปลียนแปลงทางเคมี
โดยการตัด
สายไฮโดรคาร ์บอนออกทีละ 2 คาร ์บอนอะตอม
สร ้างเป็ น แอซีตล
ิ โคเอนไซม ์ เอ เข ้าสูว่ ฏ
ั จักร
เครปส ์ต่อไป
80
่
ในการหายใจระดับเซลล ์หากเริมจากไขมั
น
จะต ้องผ่านกระบวนการใด
Time
r
แตกตัวออกเป็ นกรดไขมันกับกลีเซอรอล
เสียก่อน
ดึงคาร ์บอนไดออกไซด ์ออกจากไขมัน
้
ดึงนาออกจากไขมั
น
เข ้าสูว่ ฏ
ั จักเครบส ์ได ้โดยตรง
81