สำน ักโครงกำรขนำดใหญ่ กรมชลประทำน ลุ่มนำ้ ท่ ำจีน • • • • • • • • • • • • • ที่ตงั ้ ลักษณะภูมิประเทศ พืน้ ที่ล่ ุมนำ้ ภูมิอำกำศ ปริมำณนำ้ ท่ ำ-นำ้ ฝน - ตำรำงเปรี ยบเทียบในกลุ่มลุ่มนำ้ ทรั พยำกรดิน กำรใช้ ประโยชน์ ท่ ดี นิ พืน้ ที่ทำกำรเกษตร. พืน้ ที่ท่

Download Report

Transcript สำน ักโครงกำรขนำดใหญ่ กรมชลประทำน ลุ่มนำ้ ท่ ำจีน • • • • • • • • • • • • • ที่ตงั ้ ลักษณะภูมิประเทศ พืน้ ที่ล่ ุมนำ้ ภูมิอำกำศ ปริมำณนำ้ ท่ ำ-นำ้ ฝน - ตำรำงเปรี ยบเทียบในกลุ่มลุ่มนำ้ ทรั พยำกรดิน กำรใช้ ประโยชน์ ท่ ดี นิ พืน้ ที่ทำกำรเกษตร. พืน้ ที่ท่

สำน ักโครงกำรขนำดใหญ่ กรมชลประทำน
ลุ่มนำ้ ท่ ำจีน
•
•
•
•
•
•
•
•
•
•
•
•
•
ที่ตงั ้
ลักษณะภูมิประเทศ
พืน้ ที่ล่ ุมนำ้
ภูมิอำกำศ
ปริมำณนำ้ ท่ ำ-นำ้ ฝน
- ตำรำงเปรี ยบเทียบในกลุ่มลุ่มนำ้
ทรั พยำกรดิน
กำรใช้ ประโยชน์ ท่ ดี นิ
พืน้ ที่ทำกำรเกษตร.
พืน้ ที่ท่ ีมีศักยภำพพัฒนำระบบชลประทำน
กำรประเมินควำมต้ องกำรนำ้
ปั ญหำของลุ่มนำ้
ด้ ำนภัยแล้ ง
แนวทำงแก้ ไข
สว่ นอำนวยกำรและติดตำมประเมินผล
ทีต
่ ง้ั
ลุ่มน้ำท่ ำจีน ตั้งอยู่ทำงตอนกลำงของ
ประเทศไทย และอยู่ทำงฝั่งขวำของแม่ น้ำ
เจ้ ำ พระยำ พื้ น ที่ ส่ วนใหญ่ อ ยู่ ใ นเขต 8
จังหวัด คือ อุทัยธำนี ชั ยนำท สุ พรรณบุ รี
นครปฐม สมุ ท รสำคร อ่ ำ งทอง อยุ ธ ยำ
และนนทบุรี
ทิศเหนือติดกับลุ่มน้ำสะแกกรั ง ทิศใต้
ติดกับอ่ ำวไทย ทิศตะวันออกติดกับ ลุ่มน้ำ
เจ้ ำพระยำ และทิศตะวันตกติดกับลุ่ มน้ำ
แม่ กลอง
รู ปที่ 13-1 แสดงทีต่ ้งั ลุ่มนำ้ ท่ ำจีน
 ลักษณะภูมิประเทศ
ตำมรู ปที่ 13-2
ลักษณะของลุ่มน้ำวำงตัวตำมแนวทิศเหนือทิ ศ ใต้ ภู มิ ป ระเทศส่ วนใหญ่ เ ป็ นที่ ร ำบลุ่ ม ริ ม
แม่ นำ้ ตอนบนของลุ่มนำ้ เป็ นที่เชิ งเขำแต่ มีระดับ
ไม่ สูงนัก ส่ วนตอนกลำงและตอนล่ ำงเป็ นที่รำบ
ลุ่มติดต่ อกับทีร่ ำบลุ่มของลุ่มนำ้ แม่ กลอง
แม่ น้ำ ท่ ำ จี นแยกออกมำจำกทำงฝั่ ง ขวำของ
แม่ น้ำเจ้ ำพระยำที่จังหวัดชั ยนำท แล้ วไหลผ่ ำน
จังหวัดสุ พ รรณบุรี นครปฐม ออกสู่ อ่ ำ วไทยที่
จังหวัดสมุทรสำคร
รู ปที่ 13-2 สภำพภูมปิ ระเทศในเขตพืน้ ทีล่ ่มุ นำ้ ท่ ำจีน
พื้นที่ล่มุ น้ำ
ลุ่มนำ้ ท่ ำจีน มีพนื้ ทีร่ วมทั้งสิ้นประมำณ 13,681 ตำรำงกิโลเมตร แบ่ งออก
เป็ น 2 ลุ่มนำ้ ย่ อย ตำมตำรำงที่ 13-1 และรู ปที่ 13-3 แสดงลุ่มนำ้ ย่ อย
13.03
ตำรำงที่ 13-1 ขนำดของพืน้ ที่ล่มุ นำ้ ย่ อย
13.02
รหัส
รู ปที่ 13-3 แสดงลุ่มนำ้ ย่ อย พืน้ ทีล่ ่มุ นำ้ ท่ ำจีน
ชื่อลุ่มนำ้ ย่ อย
พืน้ ที่รับนำ้
(ตร.กม.)
13.02
ห้ วยกระเสี ยว
1,750
13.03
ทีร่ ำบแม่ นำ้ ท่ ำจีน
11,931
รวมพืน้ ทีล่ ุ่มนำ้
13,681
ภูมอิ ำกำศ
ข้ อมูลภูมอิ ำกำศทีส่ ำคัญของลุ่มนำ้ นีไ้ ด้ แสดงไว้ แล้ วตำมตำรำงที่ 13-2
ซึ่งแต่ ละรำยกำรจะเป็ นค่ ำสู งสุ ด ค่ ำตำ่ สุ ด และค่ ำเฉลีย่ เป็ นรำยปี
ตำรำงที่ 13-2 แสดงข้ อมูลภูมิอำกำศที่สำคัญ
ข้ อมูลภูมอิ ำกำศทีส่ ำคัญ
อุณหภูมิ
ควำมชื้นสั มพัทธ์
ควำมเร็วลม
หน่ วย
ค่ ำสู งสุ ดรำยปี ค่ ำต่ำสุ ดรำยปี ค่ ำเฉลีย่ รำยปี
องศำเซลเซียส
เปอร์ เซ็นต์
น๊ อต
28.0
73.7
3.0
27.9
68.6
2.1
27.9
71.1
2.6
เมฆปกคลุม
ปริมำณกำรระเหยจำกถำด
0-10
มิลลิเมตร
6.1
1,905.1
5.7
1,853.5
5.9
1,879.3
ปริมำณกำรคำยระเหยของพืชอ้ ำงอิง
มิลลิเมตร
1,886.9
1,872.4
1,879.6
ปริมำณนำ้ ฝน ปริมำณนำ้ ฝนรำยปี เฉลีย่ ผันแปรตั้งแต่ 800 มิลลิเมตร จนถึงประมำณ
1,500 มิลลิเมตร โดยมีปริมำณนำ้ ฝนทั้งปี เฉลีย่ ประมำณ 1,040.8 มิลลิเมตร ลักษณะกำร
ผันแปรของปริมำณนำ้ ฝนรำยเดือนเฉลีย่ ได้ แสดงไว้ ตำมตำรำงที่ 13-3 และมีลกั ษณะกำร
กระจำยของปริมำณนำ้ ฝนของแต่ ละลุ่มนำ้ ย่ อย ตำมรู ปที่ 13-4
รู ปที่ 13-5 ปริมำณนำ้ ท่ ำเฉลีย่
รำยเดือนในแต่ ละลุ่มนำ้ ย่อย
รู ปที่ 13-4 ปริมำณนำ้ ฝนเฉลีย่
รำยเดือนในแต่ ละลุ่มนำ้ ย่อย
ปริ มำณน้ำท่ ำ
พืน้ ที่ล่ ุมน้ำท่ ำจีนมีพืน้ ที่รับน้ำ 13,681 ตำรำงกิโลเมตร มีปริ มำณ
นำ้ ท่ ำรำยปี เฉลีย่ ประมำณ 1,364.4 ล้ ำนลูกบำศก์ เมตร ตำมตำรำงที่ 13-3 หรือมีปริมำณ
น้ำท่ ำรำยปี เฉลี่ยต่ อหน่ วยพืน้ ที่รับน้ำฝนประมำณ 3.16 ลิตร/วินำที/ตำรำงกิโลเมตร
ตำมรู ปที่ 13-5 แสดงปริมำณนำ้ ท่ ำเฉลีย่ รำยเดือนของแต่ ละลุ่มนำ้ ย่ อย
ตำรำงที่ 13-3 ปริมำณนำ้ ฝน
และนำ้ ท่ ำเฉลีย่ รำยเดือน
เดือน
ปริมำณนำ้ ฝน
(มิลลิเมตร)
ปริมำณนำ้ ท่ ำ
(ล่ำน ลบ.ม.)
เม.ย.
45.2
3.9
พ.ค.
117.7
33.3
มิ.ย.
101.3
19.2
ก.ค.
117.8
18.6
ส.ค.
134.3
67.5
ก.ย.
256.1
609.5
ต.ค.
189.8
501.7
พ.ย.
39.1
70.1
ธ.ค.
5.6
20.6
ม.ค.
4.2
11.2
ก.พ.
8.4
5.6
มี..ค.
21.5
3.2
ฤดูฝน
916.9
1,249.8
ฤดูแล้ ง
123.9
114.6
ทั้งปี
1,040.8
1,364.4
ตำรำงเปรียบเทียบ ปริมำณน้ำฝน - ปริมำณน้ำท่ำ
กลุ่มลุ่มนำ้ เจ้ ำพระยำ
ลำดับ
ลุ่มนำ้
ที่
ปริมำณนำ้ ฝน
(ฤดูฝน)
(ฤดูแล้ง)
ปริมำณนำ้ ท่ ำ
ทั้งปี
(ฤดูฝน)
(ฤดูแล้ง)
ทั้งปี
1
ลุ่มนำ้ เจ้ ำพระยำ
957.0
126.8
1,083.8
1,657.0
74.8
1,731.8
2
ลุ่มนำ้ ท่ ำจีน
916.9
123.9
1,040.8
1,249.8
114.6
1,364.4
3
ลุ่มนำ้ ป่ ำสั ก
1,058.8
154.4
1,213.2
2,519.1
378.2
2,897.2
4
ลุ่มนำ้ ปิ ง
992.2
132.4
1,124.6
6,687.6
2,037.7
8,725.3
5
ลุ่มนำ้ วัง
962.5
136.1
1,098.6
1,374.2
243.3
1,617.5
6
ลุ่มนำ้ ยม
1,037.5
121.7
121.7
3,216.8
439.8
3,656.8
7
ลุ่มนำ้ น่ ำน
1,128.3
144.4
1,272.7 10,474.4
8
ลุ่มนำ้ สะแกกรัง
1,059.1
174.7
1,233.8
892.4
1,540.4 12,014.8
232.4
1,124.8
ทรัพยำกรดิน
พืน้ ที่ล่ ุมน้ำท่ ำจีนสำมำรถจำแนกชนิดของดินตำมควำมเหมำะสมของกำรปลูกพืชออกได้ 4 ประเภท ซึ่ งมี
ลักษณะกำรกระจำยของกลุ่มดิน ตำมรู ปที่ 13-6 และแต่ ละประเภทกลุ่มดินมีจำนวนพืน้ ที่ ตำมตำรำงที่ 13-4
ตำรำงที่ 13-4
ลักษณะดิน
(ตำรำงกิโลเมตร)
ดินทีเ่ หมำะสมสำหรับปลูกข้ ำว และพืชชนิดอืน่ ๆ
6,185.30
ดินทีเ่ หมำะสมสำหรับกำรปลูกพืชไร่ พืชผักและไม้ ผลไม้ ยนื ต้ น (ไม่ เหมำะสำหรับปลูกข้ ำว)
4,130.25
ดินทีไ่ ม่ เหมำะสำหรับปลูกพืชโดยทัว่ ไป
(ต้ องได้ รับกำรปรับปรุงก่อน จึงจะปลูกพืชบำงชนิดได้ )
1,672.38
ดินทีไ่ ม่ เหมำะสมสำหรับปลูกพืชชนิดใดๆเลย
1,223.10
พืน้ ทีช่ ่ ุมนำ้ (wetland) เหมืองแร่ และอืน่ ๆ
469.97
13,681.00
รวม
รู ปที่ 13-6 กำรแบ่ งกลุ่มดินจำแนกตำมควำมเหมำะสมใช้ ปลูกพืช
จำนวนพืน้ ที่
รูปที่ 13-7 กำรทำเกษตร
้ ทีท
1) พืน
่ ำกำรเกษตร.................85.21 %
พืชไร่.....................................37.57 %
ไม้ผล–ไม้ยน
ื ต้น........................6.67 %
ข้ำว.......................................55.31 %
พืชผ ัก.....................................0.45 %
2) ป่ำไม้....................................8.53 %
ั ป่ำ.............4.46 %
เขตอนุร ักษ์พ ันธุส
์ ตว์
อุทยำนแห่งชำติ..... .................0.00 %
้ ทีป
พืน
่ ่ ำอนุร ักษ์......................95.54 %
รู ปที่ 13-8 พืน้ ทีป่ ่ ำไม้ และเพือ่ กำรอนุรักษ์
ั
3) ทีอ
่ ยูอ
่ ำศย.............................3.36
%
4) แหล่งนำ้ ................................1.13 %
5) อืน
่ ๆ......................................1.77 %
รู ปที่ 13-9 กำรใช้ ประโยชน์ จำกทีด่ ิน
ลุ่มนำ้ ท่ ำจีนมีพนื ้ ที่ทำกำรเกษตรของทัง้ หมด 11,658 ตำรำงกิโลเมตร
และมี พืน้ ที่ท่ ีเหมำะสมกั บกำรเพำะปลู ก พืชต่ ำ งๆ 8,508.82 ตำรำง
กิโลเมตร หรื อคิดเป็ นร้ อยละ 72.99
พืน้ ที่เหมำะสมสำหรั บปลูกข้ ำว
5,578.95 ตำรำงกิโลเมตร (65.57%)
พืน้ ที่เหมำะสมสำหรั บปลูกพืชผัก
41.45 ตำรำงกิโลเมตร (0.49%)
พืน้ ที่เหมำะสมสำหรั บปลูกพืชไร่
2,280.02 ตำรำงกิโลเมตร (26.80%)
พืน้ ที่เหมำะสมสำหรั บปลูกไม้ ผล-ไม้ ยืนต้ น 680.40 ตำรำงกิโลเมตร (7.15%)
พืน้ ที่ท่ เี หมำะสมกับกำรเพำะปลูก ส่ วนใหญ่ จะอยู่บริเวณตอนกลำง
และตอนล่ ำงของพืน้ ที่ล่ ุมนำ้ เกือบทัง้ หมด และบำงส่ วนจะอยู่ตอนบน
ด้ ำนตะวันออกของลุ่มนำ้ ในบริเวณที่รำบสองฝั่ งลำนำ้ ของแม่ นำ้ ท่ ำจีน
ซึ่งรวมกันแล้ วประมำณร้ อยละ 62.19 ของพืน้ ที่ทงั ้ ลุ่มนำ้
รู ปที่ 13-10 กำรใช้ ประโยชน์ ทดี่ นิ หลักด้ ำนกำรเกษตร
ในกำรทำกำรเกษตรนัน้ ส่ วนใหญ่ กำรปลูกข้ ำว พืชผัก และไม้ ผลไม้ ยืนต้ นได้ ปลูกบนพืน้ ที่ท่ มี ีควำมเหมำะสมดีอยู่แล้ ว แต่ กำรปลูกพืชไร่
ยังปลูกบนพืน้ ที่ท่ มี ีควำมเหมำะสมไม่ เพียงพอ
พื้นที่ท่ีมีศักยภำพพัฒนำระบบชลประทำน
พืน้ ที่ที่มีศักยภำพพัฒนำระบบชลประทำนในพืน้ ที่ล่ ุมน้ำท่ ำจีน ส่ วนใหญ่ จะอยู่บริ เวณด้ ำนตะวันออกของลุ่มน้ำ ตั้งแต่ ที่
รำบสองฝั่งของลุ่มนำ้ ของแม่ นำ้ ท่ ำจีนตอนบนลงมำถึงตอนล่ ำง โดยมีพนื้ ที่ท้งั หมดประมำณ 5,791 ตำรำงกิโลเมตร และคิด
เป็ นร้ อยละ 68.06 ของพืน้ ที่กำรเกษตรที่เหมำะสมกับกำรเพำะปลูก หรือร้ อยละ 49.68 ของพืน้ ที่กำรเกษตรทั้งหมด
ตำรำงที่ 13-5 ตำรำงเปรียบเทียบพืน้ ที่กำรเกษตรทั้งหมดกับพืน้ ที่ที่มีศักยภำพพัฒนำระบบชลประทำน
จำนวนพืน้ ทีเ่ พำะปลูกพืชแต่ ละชนิด (ตำรำงกิโลเมตร)
รำยกำร
ข้ ำว
พืน้ ที่ทำกำรเกษตรทั้งหมด
พืชไร่
พืชผัก
ไม้ ผล
ไม้ ยนื ต้ น
อืน่ ๆ
รวม
ทั้งหมด
6,448.32 4,379.95
49.00
777.05
-
11,658.04
พืน้ ทีเ่ หมำะสมสำหรับกำรเพำะปลูก 5,578.95 2,280.02
41.45
608.40
-
8,508.82
พืน้ ที่ศักยภำพกำรพัฒนำระบบ
ชลประทำน
16.40
307.85
-
5,791.27
4,248.92 1,218.10
กำรประเมินควำมต้องกำรน้ำ
จำกกำรศึกษำด้ ำนเศรษฐกิจและสังคมได้ คำดคะเนอัตรำกำรเจริญเติบโตของประชำกรที่อำศัยอยู่ในเขตเมืองและนอกเขต
เมือง รวมทั้งควำมต้ องกำรนำ้ สำหรับกำรขยำยตัวของภำคอุตสำหกรรม ช่ วงปี 2542-2564 สรุปได้ ตำมรูปที่ 13-11
4,500
ชลประทำน
4,000
ปริมำณนำ้ (ล้ำน ลบ.ม.)
3,500
3,000
2,500
2,000
รักษำระบบนิเวศ
1,500
1,000
อุตสำหกรรม
500
อุปโภค - บริโภค
0
2510
2520
2530
2540
2550
รู ปที่ 13-11 สรุปแนวโน้ มปริมำณควำมต้ องกำรนำ้ แต่ ละประเภท
2560
2570
ปัญหำของลุ่มน้ำ
• ด้ำนอุทกภ ัย สภำพกำรเกิดอุทกภ ัยในลุม
่ นำ้ นี้ แบ่งออกเป็น
2 ล ักษณะคือ∶-
้ ทีล
1) อุทกภ ัยทีเ่ กิดในบริเวณพืน
่ ุม
่ นำ้ ตอนบนและลำนำ้ สำขำต่ำงๆ จะเกิดจำก
กำรทีม
่ ฝ
ี นตกหน ักและนำ้ ป่ำไหลหลำกจำกต้นนำ้ ลงมำมำกจนลำนำ้ สำยหล ก
ั ไม่
้ ทำงคมนำคมขวำงทำง
สำมำรถระบำยนำ้ ได้ท ัน ประกอบก ับมีสงิ่ กีดขวำงจำกเสน
นำ้ และมีอำคำรระบำยนำ้ ไม่เพียงพอ
้ ทีท
พืน
่ เี่ กิดนำ้ เป็นประจำได้แก่ อำเภอว ัดสงิ ห์ อำเภอห้วยคต และอำเภอเมือง
จ ังหว ัดอุท ัยธำนี
้ ทีร่ ำบลุ่ม เกิด บริเวณทีเ่ ป็ นพืน
้ ทีร่ ำบลุ่ม และแม่น ำ้ สำย
2) อุท กภ ย
ั ทีเ่ กิด ในพืน
้ เขิน มีควำมสำมำรถระบำยนำ้ ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สำมำรถระบำยนำ้ ลง
หล ักตืน
ิ ธิภำพ
ได้อย่ำงมีประสท
้ ทีท
พืน
่ เี่ กิดนำ้ ท่วมประจำได้แก่ อำเภอบำงปลำมำ อำเภอเมือง จ ังหว ัด
สุพรรณบุร ี อำเภอบำงเลน อำเภอกำแพงแสน อำเภอดอนตูม จ ังหว ัดนครปฐม
และอำเภอบ้ำนแพ้ว จ ังห ัว ัดสมุทรสำคร
หมู่บ้ำนทีม่ นี ำ้ อุปโภค-บริโภค แต่ ขำดแคลนนำ้ เพือ่ กำรเกษตร
หมู่บ้ำนทีข่ ำดแคลนนำ้ อุปโภค-บริโภค และนำ้ เพือ่ กำรเกษตร
ปัญ หำภ ย
ั แล้ง ในลุ่ม น ำ
้ นี้ เกิด จำกภำวะ
ฝนทิง้ ช่ว งยำวนำน ท ำให้พ น
ื้ ทีก
่ ำรเกษตรที่
อยู่น อกเขตชลประทำนเกิด ควำมแห้ง แล้ง
ข ำ ด แ ค ล น น ้ ำ อุ ป โ ภ ค - บ ริ โ ภ ค แ ล ะ ท ำ
้ ำ้ ในกิจกรรมอืน
กำรเกษตร รวมถึงกำรใชน
่ ๆ
ด้วย
ตำมข้อ มู ล กชช.2ค. ปี 2542 ในลุ่ ม
น ้ำ ท่ ำ จีน มีจ ำนวนหมู่ บ ้ำ นท งั้ หมด 2,943
หมู่บ ำ
้ น
พบว่ำ มีห มู่บ ำ
้ นทีข
่ ำดแคลนน ำ
้
ทงหมด
ั้
1,331 หมูบ
่ ำ้ น (ร้อยละ 45.23 โดย
แ ย ก เ ป็ น ห มู่ บ ้ ำ น ที่ ข ำ ด แ ค ล น น ้ ำ เ พื่ อ ท ำ
กำรเกษตร 537 หมู่บ ำ
้ น (ร้อ ยละ18.259)
และ หมู่ บ ้ำ นที่ข ำดแคลนน ้ำ ท งั้ เพื่อ กำ ร
อุปโภค-บริโภคและกำรเกษตร 794 หมูบ
่ ำ้ น
(ร้อยละ 26.98)
่ นใหญ่ จะ
หมูบ
่ ำ้ นทีป
่ ระสบภ ัยแล้งสว
้ ทีจ
อยูใ่ นพืน
่ ังหว ัดสุพรรณบุรถ
ี งึ 624
หมูบ
่ ำ้ น หรือคิดเป็นร้อยละ 46.88 ของ
หมูบ
่ ำ้ นทีป
่ ระสบภ ัยแล้งทงหมด
ั้
รู ปที่ 14-12 แสดงลักษณะกำรกระจำยตัวของหมู่บ้ำนทีป่ ระสบปัญหำภัยแล้ง
แนวทำงกำรแก้ไข
้ ทีล
ปัญหำกำรเกิดอุทกภ ัยและภ ัยแล้งในลุม
่ นำ้ ท่ำจีน มีล ักษณะคล้ำยก ับพืน
่ ม
ุ่ นำ้ อืน
่
่ ผลให้เกิดควำมแห้งแล้งในชว
่ งทีฝ
่ ง ในทำง
ๆ คือกำรผ ันแปรของปริมำณนำ้ ฝนสง
่ นทิง้ ชว
ั
้ ทีอ
้ ทีก
กล ับก ันเมือ
่ มีฝนตกหน ักก็ทำให้เกิดนำ้ ไหลหลำกท่วมพืน
่ ยูอ
่ ำศยและพื
น
่ ำรเกษตร กำร
แก้ไขปัญหำด ังกล่ำวจึงมีแนวทำงแก้ไขในภำพรวมโดยสรุปด ังนี้
่ นำ้ และกระจำยนำ้ ให้ก ับพืน
้ ทีท
1) กำรก่อสร้ำงระบบสง
่ ม
ี่ ค
ี วำมเดือดร้อนจำกภ ัยแล้ง
และอยูไ่ ม่หำ
่ งจำกลำนำ้ สำยหล ักมำกน ัก โดยอำจดำเนินกำรในล ักษณะก่อสร้ำงฝำย/ประตูระบำย
นำ้ พร้อมระบบคลองส่งนำ้ /ระบบสูบนำ้ และส่งนำ้ ด้วยท่อ เพือ
่ บรรเทำควำมเดือดร้อนจำกปัญหำ
ภ ัยแล้ง
่ งทีต
ิ ธิภำพกำรระบำยนำ้
2) กำรขุดลอกลำนำ้ สำยหล ักในชว
่ น
ื้ เขินเพือ
่ เพิม
่ ประสท
่ งฤดูแล้ง
(ควรดำเนินกำรควบคูไ่ ปก ับกำรก่อสร้ำงฝำย/ประตูระบำยนำ้ เพือ
่ เก็บก ักนำ้ ไว้ใชใ้ นชว
่ ง)
หรือใชว้ ธ
ิ ข
ี ด
ุ เป็นชว
3) กำรปร ับปรุงฝำย ประตูระบำยนำ้ สะพำน ท่อลอดถนน และอำคำรอืน
่ ๆทีก
่ ด
ี
ขวำงทำงนำ้ และเป็นอุปสรรคต่อกำรระบำยนำ้ ให้มค
ี วำมสำมำรถในกำรระบำยนำ้ ทีพ
่ อเพียงและ
เหมำะสมก ับสภำพทำงนำ้
้ ระโยชน์ทด
้ ทีโ่ ดยรอบให้เป็นไป
4) ควบคุมกำรใชป
ี่ น
ิ บริเวณเขตต ัวเมือง และพืน
ตำมผ ังเมืองทีว่ ำงไว้ และควบคุมกำรลุกลำ้ แนวคลองและลำนำ้ สำธำรณะ
้ /บ่อบำดำล ก่อสร้ำ งถ ังเก็ บ นำ้
5) ส่งเสริมกำรขุดสระนำ้ ประจำไร่นำ ขุดบ่อ นำ้ ตืน
้ ทีท
้ ที่
สำหร ับพืน
่ อ
ี่ ยูห
่ ำ
่ งไกลจำกแหล่งนำ้ ตำมสภำพควำมเหมำะสมของพืน
_________________________