บทที่ 1 การพัฒนาโค้ งกฎการปฏิบตั ิงานอ่างเก็บนา้ ลาปลายมาศ (Development of Lam Plai Mas Reservoir Operation Rule Curves)

Download Report

Transcript บทที่ 1 การพัฒนาโค้ งกฎการปฏิบตั ิงานอ่างเก็บนา้ ลาปลายมาศ (Development of Lam Plai Mas Reservoir Operation Rule Curves)

บทที่ 1
การพัฒนาโค้ งกฎการปฏิบตั ิงานอ่างเก็บนา้ ลาปลายมาศ
(Development of Lam Plai Mas Reservoir Operation Rule Curves)
1. บทนา
เกณฑ์ การปฏิบัตงิ านอ่ างเก็บนา้ (Reservoir Operation Rules)
เป็ นเครื่องมือทีส่ าคัญอย่ างหนึ่งทีผ่ ู้ควบคุมการปฏิบัตงิ านอ่าง
เก็บนา้ นามาใช้ พจิ ารณาประกอบการตัดสิ นใจทีส่ ะดวกและ
รวดเร็ว ทั้งนีเ้ พือ่ ให้ การวางแผนและจัดสรรนา้ ในอ่ างเก็บนา้
บรรลุตามวัตถุประสงค์ ทวี่ างไว้ และเกิดประสิ ทธิภาพรวมสู งสุ ด
2. วัตถุประสงค์
เพือ่ พัฒนาเกณฑ์ ในการปฏิบัติการอ่างเก็บนา้ ซึ่งสามารถลดความเสี่ ยงต่ อสภาวะการ
ขาดนา้ และสภาวะนา้ ล้น
3. ขอบเขตการศึกษา
พิจารณาศึ กษาและพัฒนาเส้ นโค้ งปฏิบัติการของอ่ างเก็บน้าลาปลายมาศ
อาเภอเสิ งสาง จังหวัดนครราชสี มา โดยใช้ วิธี Probability Based Rule Curves
พิจารณาที่ค่าความเสี่ ยงเท่ ากับ 0.05, 0.10 และ 0.20 ตามลาดับ
4. การตรวจเอกสาร
วิธี Probability Base Rule Curves
1.Upper Rule Curves
หลักทฤษฎี : Upper Rule Curves เป็ นระดับน้ ำหรื อปริ มำณน้ ำในอ่ำงเก็บน้ ำที่มำก
ที่สุดที่จะทำให้ควำมเสี่ ยงต่อกำรที่อ่ำงเก็บน้ ำมีปริ มำตรไม่พอที่จะรับน้ ำนองอยู่ใน
เกณฑ์ที่ยอมรับได้ ระดับน้ ำหรื อปริ มำณน้ ำในอ่ำงเก็บน้ ำที่มำกที่สุดจะเปลี่ยนแปลง
ไปตำมเวลำ (เดือน) ระดับน้ ำระหว่ำง Upper Rule Curves และระดับเก็บกักปกติ
(normal pool level )เรี ยกว่ำ Volume of Flood Control Reserve (VFC)
กำหนดให้
และ
NRI t
It
Ot
NRI t
=
=
=
=
VFC t =
It – O t
(1-1)
Reservoir Inflow ในเดือน t
Reservoir Outflow ในเดือน t
Net Reservoir Inflow ในเดือน t ซึ่งมี f(NRI t)
เป็ น Probability Density Function ดังแสดงใน
ภาพที่ 1-1
Volume of Flood Control Reserve ในเดือน t
เมื่อสำมำรถหำ f(NRI t) ได้แล้ว ค่ำของ VFC t สำหรับกำรกำหนดค่ำควำมเสี่ ยงที่
0.05, 0.10 และ 0.20 สำมำรถหำได้จำกภำพที่ 1-1 หรื อจำกสมกำรที่ (1-2)
P( NRI t > VFC t ) < Risk
(1-2)
สุ ดท้ำย Upper Rule Curves สำมำรถหำได้จำกสมกำรที่ (1-3)
VURC t
=
VNP t – VFC t
(1-3)
เมื่อ
VURC t
=
reservoir upper rule curve volume ในเดือน t
VNP t
=
ปริมาตรเก็บกักปกติในเดือน t
f (NRI)t
Risk
VFC t
(NRI) t
ภาพที่ 1-1 Probability Distribution ของ NRI t และการกาหนด VFC t
2.Lower Rule Curves
หลักทฤษฎี : Lower Rule Curves เป็ นระดับน้ ำในอ่ำงที่ควรรักษำไว้เพื่อ
หลีกเลี่ยงควำมเสี่ ยงต่อกำรขำดแคลนน้ ำในอนำคต หรื อควำมเสี่ ยงต่อกำรขำดแคลน
น้ ำในอนำคตอยูใ่ นเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ในกำรสร้ำง Lower Rule Curves จะต้องมีกำร
กำหนดช่วงฤดูแล้งและฤดูฝนอย่ำงชัดเจน โดยกำหนดให้ฤดูแล้งคือช่วงเวลำที่ NRI t
น้อยกว่ำหรื อเท่ำกับศูนย์ และฤดูฝนคือช่วงเวลำที่ NRI t มำกกว่ำศูนย์ ดังแสดงใน
ภำพที่ 1-2 ซึ่งกำรกำหนดฤดูแล้งนี้หมำยถึงช่วงเวลำที่เกิดกำรขำดน้ ำ และฤดูฝน
หมำยถึงช่วงเวลำที่มีน้ ำมำกเกินควำมจำเป็ น ซึ่ งหลังจำกกำหนดช่วงฤดูแล้งและฤดู
ฝนแล้วก็จะสำมำรถหำค่ำปริ มำตรสะสมของ NRI t ในช่วงฤดูแล้งได้
NRI t
+
D
0
12
Time
-
Dry Season
Wet Season
ภาพที่ 1-2 เกณฑ์ ทใี่ ช้ วเิ คราะห์ หาช่ วงฤดูแล้งและฤดูฝน
กำหนดให้
D
 NRI =
t
i=t
ค่ำสะสมของ NRI t สำหรับฤดูแล้งซึ่งมีฟังก์ชนั
f (  NRI ) เป็ นฟังก์ชนั แจกแจงควำมน่ำจะเป็ น
(Probability Distribution Function) ดังแสดงใน
ภาพที่ 1-3
เดือนที่สิ้นสุ ดฤดูแล้ง
ปริ มำตรของน้ ำส่ วนสำรองในเดือน t
D
t
i=t
D
=
VBUF t =
D
NRIแt ล้ว ค่ำของ VBUF สำหรับกำรกำหนดค่ำควำม
เมื่อสำมำรถหำ f (
) ได้

t
i=t
เสี่ ยงที่ 0.05, 0.10 และ 0.20 สำมำรถหำได้จำกภาพที่ 1-3 หรื อจำกสมกำรที่ (1-4)
D
P(  NRI t > VBUFt ) < Risk
(1-4)
it
ซึ่งค่ำ VBUF t ที่ได้จำกกำรกำหนดค่ำควำมเสี่ ยงก็คือ Lower Rule Curves
D
f  NRI i
i=t
Risk
VBUF t
D
 NRI
i=t
D
ภาพที่ 1-3 การแจกแจงความน่ าจะเป็ นของ  NRI และการกาหนดค่ าของ VBUF t
i
i=t
i
โดยค่ำควำมเสี่ ยง (Risk) มีควำมสัมพันธ์กบั รอบปี กำรเกิดซ้ ำ (Tr) ดังสมกำรที่ (1-5)
Risk = 1/Tr
(1-5)
เมื่อ
Tr = รอบปี กำรเกิดซ้ ำ
บทที่ 2
ข้อมูลทัว่ ไปของอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศ
1. วัตถุประสงค์ ของโครงการ
เพื่อเป็ นแหล่งน้ ำสำหรับ
1.กำรเพำะปลูกในเขตอำเภอเสิ งสำง จังหวัดนครรำชสี มำ อำเภอปะคำ และ
อำเภอนำงรอง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 66,000 ไร่
2.กำรอุปโภค-บริ โภค ของรำษฎรในหมู่บำ้ นต่ำงๆได้ตลอดปี
3.กำรพัฒนำควำมมัน่ คงของประเทศในยุทธกำรทำงกำรทหำรตำมโครงกำร
พัฒนำเพื่อควำมมัน่ คงระดับพื้นที่ในเขตอำเภอสำง อำเภอครบุรี จังหวัดนครรำชสี มำ
2. ที่ต้งั โครงการ
หัวงำนโครงกำรส่ งน้ ำและบำรุ งรักษำลำปลำยมำศตั้งอยูท่ ี่ตำบลบ้ำนรำษฎร์
อำเภอเสิ งสำง จังหวัดนครรำชสี มำ รหัสไปรษณี ย ์ 30330 อยูห่ ่ำงจำกตัวจังหวัด
นครรำชสี มำ 150 กิโลเมตร พื้นที่ขอบเขตของโครงกำรอยูร่ ะหว่ำงเส้นรุ ้ง (ละติจูด)
14 องศำ 18 ลิปดำกับ 14.6 ฟิ ลิปดำเหนือ และเส้นแวง(ลองติจูด) 102 องศำ 26 ลิปดำ
20.9 ฟิ ลิปดำตะวันออก หรื อตำมแผนที่มำตรำส่ วน 1:50,000 ระวำง 5437 I พิกดั 48
PTA 237-827
2. ที่ต้งั โครงการ
3. ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศจะลำดเทไปสู่ ที่รำบตอนกลำงด้ำนทิศเหนือ ด้ำนทิศใต้
จะเป็ นที่สูงชันเพรำะเป็ นทิวเขำสันกำแพง ซึ่งเป็ นต้นกำเนิดของลำน้ ำสำคัญ ซึ่งเป็ น
สำขำของแม่น้ ำมูล เช่น ลำตะคอง
ลำพระเพลิง ลำแชะ เป็ นต้น พื้นที่บริ เวณ
ริ มตลิ่งสองฝั่งของแม่น้ ำมูลด้ำนท้ำยเขื่อนในเขตโครงกำรจะเป็ นที่รำบลุ่ม แต่บริ เวณ
ห่ำงไกลออกไปจำกแม่น้ ำมูล พื้นที่จะค่อยๆสูงขึ้นเรื่ อยๆในลักษณะสูงๆต่ำๆ
4. ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอำกำศจะอยูภ่ ำยใต้อิทธิพลของมรสุ มเขตร้อนมี 3 ฤดูคือ
1. ฤดูฝน เริ่ มตั้งแต่กลำงเดือนพฤษภำคม หรื อต้นเดือนมิถุนำยนไปจนถึงปลำยเดือน
ตุลำคม
เกิดจำกอิทธิพลของลมมรสุ มตะวันตกเฉียงใต้ และอิทธิพลของพำยุ
ดีเปรสชัน่ จำกทะเลจีนใต้ที่พดั ผ่ำนเข้ำมำ
2. ฤดูหนำว เริ่ มต้นตั้งแต่ปลำยเดือนตุลำคมไปจนถึงเดือนกุมพำพันธ์ เกิดจำก
อิทธิพลของลมมรสุ มตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน
3. ฤดูร้อน เริ่ มตั้งแต่เดือนกุมพำพันธ์ไปจนถึงปลำยเดือนพฤษภำคม เกิดจำกอิทธิพล
ของลมมรสุ มตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพัดมำจำกทะเลจีน และอ่ำวไทย
อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี ประมำณ 30 องศำเซลเซียส ควำมชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยร้อยละ
90 และมีปริ มำณฝนตกเฉลี่ยตลอดปี 1,062 มิลลิเมตร
5. ลักษณะดิน
ประมำณ 42 % ของพื้นที่โครงกำรบริ เวณสองฝั่งลำปลำยมำศเป็ นดินชุด
รำชบุรี เป็ นดินลึก กำรระบำยน้ ำเลว มีปริ มำณอินทรี ยว์ ตั ถุปำนกลำงเหมำะสมใน
กำรปลูกข้ำว รองลงมำประมำณ 20%เป็ นดินชุดสตึก เป็ นดินลึกกำรระบำยน้ ำดี เนื้อ
ดินเป็ นดินร่ วนปนทรำยหรื อร่ วนเหนียวปนทรำย เหมำะสมในกำรเพำะปลูกผลไม้
และประมำณ 38% เป็ นดินชุดสูงเนิน เป็ นดินร่ วนเหนียวปนทรำยแข็ง หรื อดินร่ วน
เหนียวเป็ นกรดเล็กน้อยถึงปำนกลำง ปริ มำณอินทรี ยว์ ตั ถุปำนกลำงถึงต่ำ ควำมอุดม
สมบูรณ์ปำนกลำง เหมำะสมในกำรเพำะปลูกพืชไร่ และไม้ผล
6. สภาพการเพาะปลูก
ในฤดูฝนส่ วนใหญ่ทำนำดำ จะทำกำรตกกล้ำปักตั้งแต่เดือนมิถุนำยนเป็ นต้น
ไป จนถึงเดือนกันยำยนจะเริ่ มเก็บเกี่ยวปลำยเดือนพฤศจิกำยนแล้วเสร็ จต้นเดือน
มกรำคม ผลผลิตข้ำวนำปี เฉลี่ย 720 กิโลกรัมต่อไร่ (สถิติกำรเพำะปลูกนำปี
2538/2539)
ในฤดูแล้งจะเริ่ มในเดือนมกรำคมถึงเดือนเมษำยน จะปลูกพืชไร่ พืชผัก เช่น
ถัว่ เขียว ถัว่ ลิสง ข้ำวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่ วนกำรปลูกข้ำวนำปรังจะส่ งเสริ มเฉพำะปี ที่มี
น้ ำต้นทุนเพียงพอเท่ำนั้น ผลผลิตข้ำวนำปรัง 925 กิโลกรัมต่อไร่ (สถิติกำรเพำะปลูก
นำปรังปี 2538/2539) เป็ นต้น
7. รายละเอียดโครงการ
1. อ่ำงเก็บน้ ำ
2. เขื่อน
3. อำคำรระบำยน้ ำล้นใช้งำน (SERVICE SPILLWAY)
4. ท่อส่ งน้ ำเข้ำคลองสำยใหญ่ (RIGHT MAIN CANAL OUTLET )
บทที่ 3
อุปกรณ์ และวิธีการ
ข้ อมูลทีใ่ ช้ ในการศึกษา
1. ปริมาณนา้ ไหลเข้ าอ่ างเก็บนา้
2. ปริมาณนา้ ทีส่ ู ญเสี ยเนื่องจากการรั่วซึม
3. ปริมาณนา้ ที่ระเหยจากอ่ างเก็บนา้
4. ปริมาณนา้ ฝน ที่หัวงาน และในพืน้ ที่โครงการฯ
5. ปริมาณการระบายนา้ จากอ่ างเก็บนา้
วิธีการศึกษา
1.สังเครำะห์ขอ้ มูลน้ ำไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศจำนวน 40 ปี จำก
ข้อมูลเดิมที่มีอยูโ่ ดยใช้โปรแกรม HEC-4
2.วิเครำะห์คุณสมบัติทำงสถิติและทดสอบกำรแจกแจงของข้อมูลปริ มำณน้ ำ
ไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำรำยเดือน
3.วิเครำะห์คุณสมบัติทำงสถิติและทดสอบกำรแจกแจงของข้อมูลปริ มำณน้ ำ
ไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำสุ ทธิรำยเดือน
4. สร้ำงเส้นโค้งปฏิบตั ิกำรบนพื้นฐำนของควำมน่ ำจะเป็ น (Probability
Based Rule Curves) ของอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศโดยกำหนดค่ำควำมเสี่ ยงที่ 0.05,
0.10, และ 0.20
บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์
1.
การสั งเคราะห์ ข้อมูล
ใช้ โปรแกรม HEC-4 สั งเคราะห์ ข้อมูลปริมาณน้าไหลลงอ่ างเก็บน้าลาปลาย
มาศรายเดือนจานวนข้ อมูล 40 ปี ดังแสดงในตารางที่ 4-1
ชุดที่
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
ม.ค.
0.32
1.74
2.14
1.15
1.77
1.27
1.73
2.18
1.71
1.54
1.92
0.87
1.42
0.57
0.77
0.26
0.44
2.26
0.89
2.42
ก.พ.
0.63
2.94
1.49
1.07
5.89
0.71
1.43
1.13
1.88
1.17
4.35
1.03
2.26
0.49
0.83
0.67
0.59
2.17
0.7
1.17
มี.ค.
3.36
5.36
2.69
1.47
4.63
1.51
4.24
3.18
6.99
2.2
3.62
6.32
2.61
1.67
3.55
6.13
2.1
3.75
1.11
2.46
เม.ย.
1.94
2.68
2.63
1.91
3.07
1.88
2.13
2.44
2.73
1.84
2.05
2.81
2.74
2.48
2.19
3.12
3.07
3.42
1.81
1.87
พ.ค.
6.14
5.1
2.69
3.43
7.99
5.45
4.98
4.37
4.95
5.09
7.66
3.87
8.33
2.78
3.28
8.85
3.08
5.09
1.69
4.45
มิ.ย.
4.19
8.47
1.85
1.49
2.58
5.31
2.89
3.31
4.11
8.69
10.91
3.96
9.66
4.03
3.03
4.73
0.87
8.9
1.28
5.16
ก.ค.
3.94
16.07
3.74
6.77
5.87
30.74
5.97
6.48
4.28
33.26
4.9
29.78
5.9
3.53
6.98
10.95
3.26
8.15
4.19
4.44
ส.ค.
3.82
8.13
6.07
7.08
6.06
8.55
6.09
6.11
4.38
8.72
4.57
7.32
6.09
4.65
5.21
8.65
4.32
6.96
5.17
5.5
ก.ย.
12.51
12.09
7.14
24.47
12.55
16.52
13.59
25.29
12.9
5.72
12.06
14.12
5.32
23.84
10.99
18.2
14.05
19.41
8.65
33.79
ต.ค.
34.94
13.65
9.71
16.12
18.22
30.6
23.55
45.32
16.91
6.38
14.22
19.33
9.12
26.54
15.25
22.04
34.97
15.96
25.61
19.22
พ.ย.
16.5
3.8
3.36
5.66
3.63
12.42
7.75
21.63
5.96
2.05
5.1
4.02
2.86
10.67
5.16
6.2
15.98
5.23
7
5.47
ธ.ค.
1.01
1.77
1.44
2.92
1.03
2.02
1.55
1.55
1.36
1.79
1.07
2.93
2.05
1.1
1.27
0.98
2.03
1.58
1.93
2.24
รวม
89.3
81.8
44.95
73.54
73.29
117
75.9
123
68.16
78.45
72.43
96.36
58.36
82.35
58.51
90.78
84.76
82.88
60.03
88.19
ตำรำงที่ 4-1 ข้อมูลปริ มำณน้ ำไหลลงอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศจำกกำรสังเครำะห์ดว้ ย HEC-4
การวิเคราะห์ ข้อมูลของปริมาณนา้ ไหลเข้ าอ่ างเก็บนา้ ลาปลายมาศ
2.1 ข้ อมูลปริมาณฝนรายเดือนดังแสดงในตารางที่ 4-2
ปี
2530
2531
2532
2533
2534
2535
2536
2537
2538
2539
2540
2541
2542
2543
2544
2545
ม.ค.
0
0
0.6
0
0.4
0
0
0
0
0
0
0
0.2
0
0
0
ก.พ.
2.9
0
0.3
0
0.5
0
1.1
0
0.3
0
0
0
2
0.1
0.7
0.7
มี.ค.
1.8
4
2.3
0.3
0.3
0
3.2
0.4
1.6
0.5
1.2
6
0.1
5
6.9
0
เม.ย.
3.1
3.5
1.9
3.2
0.9
1.9
1
3.5
8.4
3
2.4
1.7
3
8.7
1.1
2.8
พ.ค.
1.4
3.4
6
4.2
4.2
2.7
3
4.3
5.4
4.2
4.1
4.2
7.9
7.8
3
10.6
มิ.ย.
1.6
0
3.7
1.4
1.7
1.9
4.3
1.5
2.2
3.9
0.2
3.1
3
4.8
5.9
3.2
ก.ค.
1.3
2.4
5.8
0.7
5.5
0.8
4.8
1.8
6.8
2.8
1.4
4.1
1.9
7.7
1.5
0.1
ส.ค.
7.2
1.7
4.5
3.8
4.5
4.7
2.1
3.7
3.2
4.4
3.9
6.3
2.2
5.1
8.1
8
ก.ย.
7.6
8.8
6.2
3.8
9.3
8.1
6.5
2.2
11.8
9.4
9.8
7.7
9.7
14.5
8.5
15.1
ต.ค.
2.3
5
4.8
9.3
5.5
7.4
4.9
2.4
6.2
3.9
4.1
1.4
5.6
7.4
9.7
3.1
พ.ย.
5.9
0
0.1
2
0
0
0.2
0
0.9
1.5
0
3.5
2.3
0
1.6
2.7
ตารางที่ 4-2 ข้ อมูลปริมาณฝนรายเดือนทีห่ ัวงานอ่ างเก็บนา้ ลาปลายมาศ
ธ.ค.
0
0
0
0
0
0.9
0.6
0
0
0
0
0
0
0
0.5
0.8
รวม
35.1
28.8
36.2
28.7
32.8
28.4
31.7
19.8
46.8
33.6
27.1
38
37.9
61.1
47.5
47.1
2.2 ข้ อมูลการระบายนา้ รายเดือนดังแสดงในตารางที่ 4-3
ปี
ปริ มำณกำรระบำยน้ ำ (ล้ำน ลบ.ม.)
พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.
ม.ค.
ก.พ.
มี.ค.
เม.ย.
ต.ค.
พ.ย.
ธ.ค.
รวม
2542
0.43
1.42
0.60
0.22
-
1.73
3.54
3.24
3.88
21.60 12.37
-
49.03
2543
1.74
3.03
5.36
2.51
5.01
8.47
16.06
3.80
3.28
13.05
3.80
1.00
67.11
2544
3.58
4.88
3.11
3.41
1.55
0.51
7.30
9.15
4.19
3.15
0.39
-
41.22
2545
4.46
5.23
4.10
4.62
0.35
2.24
5.27
10.37
0.51
3.75
1.16
-
42.06
เฉลี่ย 4 ปี
2.55
3.64
3.29
2.69
2.30
3.24
8.04
6.64
2.97
10.39
4.43
1.00
51.18
ตำรำงที่ 4-3 ข้อมูลกำรระบำยน้ ำรำยเดือนของอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศ
2.3 อัตรำกำรสูญเสี ยเนื่องจำกกำรรั่วซึมใช้ค่ำ 10 เปอร์เซ็นต์ของปริ มำณน้ ำในอ่ำง
เฉลี่ยรำยปี ดังแสดงในตารางที่ 4-4
ม.ค.
ก.พ.
มี.ค.
เม.ย.
พ.ค.
มิ.ย.
ก.ค.
ส.ค.
ก.ย.
ต.ค.
พ.ย.
ธ.ค.
0.61
0.56
0.51
0.50
0.48
0.48
0.46
0.44
0.47
0.56
0.61
0.63
ตำรำงที่ 4-4 อัตรำกำรสูญเสี ยเนื่องจำกกำรรั่วซึมเฉลี่ยรำยเดือนของอ่ำงเก็บน้ ำลำ
ปลำยมำศ
2.4 อัตรำกำรระเหยรำยเดือนจำกอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศดังแสดงในตารางที่ 4-5
ปี
ม.ค.
ก.พ.
มี.ค.
เม.ย.
ปริ มำณกำรระเหย (ล้ำน ลบ.ม.)
พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.
2542
1.05
1.20
1.71
0.88
0.90
1.04
1.10
1.13
1.02
1.30
0.84
1.09
13.29
2543
1.22
1.19
1.38
1.11
1.25
1.20
1.10
1.28
0.91
0.96
1.18
0.96
13.77
2544
1.03
0.95
1.14
1.21
0.96
1.31
1.34
1.18
0.94
0.57
0.98
0.99
12.64
2545
1.06
1.22
1.05
1.10
0.82
1.02
1.05
0.83
0.72
0.91
0.85
0.93
11.60
เฉลี่ย 4 ปี
1.09
1.14
1.32
1.08
0.98
1.14
1.15
1.11
0.90
0.94
0.96
0.99
12.83
ต.ค.
พ.ย.
ธ.ค.
รวม
ตารางที่ 4-5 ข้ อมูลการระเหยรายเดือนของอ่างเก็บนา้ ลาปลายมาศ
2.5 คุณสมบัติทำงสถิติของปริ มำณน้ ำไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศมีค่ำเฉลี่ย และ
ค่ำเบี่ยงเบนมำตรฐำนดังแสดงในตารางที่ 4-6
เดือน
ม.ค.
ก.พ.
มี.ค.
เม.ย.
พ.ค.
มิ.ย.
ก.ค.
ส.ค.
ก.ย.
ต.ค.
พ.ย.
ธ.ค.
Mean 1.329 1.516 3.419 2.348 4.748 4.547 9.309 6.05 14.79 19.86 7.167 1.698
Std.
0.684 1.074 1.639 0.463 1.811 2.963 8.861 1.409 7.975 10.42 4.967 0.56
ตำรำงที่ 4-6 คุณสมบัติทำงสถิติของปริ มำณน้ ำไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศ
2.6 กำรทดสอบกำรแจกแจงควำมน่ำจะเป็ น โดยทดสอบข้อมูลปริ มำณน้ ำไหลเข้ำ
อ่ำงเก็บน้ ำรำยเดือนกับกำรแจกแจงควำมน่ำจะเป็ นแบบ Gumbel และทดสอบควำม
เหมำะสมด้วยวิธี Smirnov-Komogorov ที่ค่ำนัยสำคัญ 5 เปอร์เซ็นต์ พบว่ำส่ วนใหญ่
มีค่ำควำมแตกต่ำงของควำมถี่สมั พัทธ์สะสมที่สูงที่สุด (max) น้อยกว่ำค่ำวิกฤต
(critical)
ยกเว้นเดือนกรกฎำคม
ดังนั้นจึงใช้ฟังก์ชนั กำรแจกแจงและ
ค่ำพำรำมิเตอร์แบบ Gumbel ประเมินได้ ดังแสดงในตารางที่ 4-7
เดือน
ม.ค.
ก.พ.
มี.ค.
เม.ย.
พ.ค.
มิ.ย.
ก.ค.
ส.ค.
ก.ย.
ต.ค.
พ.ย.
ธ.ค.
(max)
0.108
0.126
0.078
0.125
0.075
0.073
0.219
0.112
0.067
0.059
0.119
0.063
(critical)
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
Xo
1.021
1.033
2.681
2.139
3.933
3.214
5.321
5.416
11.2
15.17
4.932
1.446

0.534
0.837
1.278
0.361
1.412
2.31
6.909
1.099
6.218
8.127
3.872
0.436
ตำรำงที่ 4-7 ค่ำควำมถี่สมั พัทธ์สะสมมำกที่สุดและค่ำพำรำมิเตอร์ของ
ข้อมูลปริ มำณน้ ำไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศรำยเดือน
3.การวิเคราะห์ ข้อมูลหาปริมาณนา้ ไหลเข้ าอ่างเก็บนา้ ลาปลายมาศสุ ทธิ
1.
วิเครำะห์กำรแจกแจงปริ มำณน้ ำไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศสุ ทธิโดยกำร
เปรี ยบเทียบกับกำรแจกแจงแบบ Gumbel และทดสอบควำมเหมำะสมด้วยวิธี
Smirnov-Komogorov ที่ค่ำนัยสำคัญ 5 เปอร์เซ็นต์ พบว่ำส่ วนใหญ่มีค่ำควำมแตกต่ำง
ของควำมถี่สัมพัทธ์สะสมที่สูงที่สุด (max) น้อยกว่ำค่ำวิกฤต (critical) ยกเว้น
เดือนกรกฎำคม ดังนั้นจึงใช้ฟังก์ชนั กำรแจกแจงและค่ำพำรำมิเตอร์แบบ Gumbel
ประเมินได้ ดังแสดงในตารางที่ 4-8 แล้วทำกรำฟกำรแจกแจงในแต่ละเดือนดัง
แสดงใน ภาพที่ 4-1
เดือน
ม.ค.
ก.พ.
มี.ค.
เม.ย.
พ.ค.
มิ.ย.
ก.ค.
ส.ค.
ก.ย.
ต.ค.
พ.ย.
ธ.ค.
(max)
0.107539
0.11997
0.074787
0.118965
0.082475
0.070848
0.224292
0.095228
0.066496
0.054709
0.102614
0.07362
(critical)
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
0.2
Xo
-2.712709
-3.829057
-2.052978
-1.708327
1.099753
-1.272357
-3.872734
-2.363356
7.271493
3.476398
-0.68668
0.134783

0.533682
0.840204
1.293223
0.36216
1.418786
2.336858
6.960188
1.077889
6.285922
8.015825
3.749977
0.433462
ตำรำงที่ 4-8 ค่ำควำมถี่สมั พัทธ์สะสมมำกที่สุดและค่ำพำรำมิเตอร์ของข้อมูลปริ มำณ
น้ ำไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศสุ ทธิรำยเดือน
ภำพที่ 4-1 กรำฟกำรแจกแจงแบบ Gumbel ของข้อมูลปริ มำณน้ ำไหลเข้ำอ่ำงลำ
ปลำยมำศสุ ทธิรำยเดือน
4.
การสร้ างเส้ นโค้ งปฏิบัติการ
(Probability Based Rule Curves)
สร้ างเส้ นโค้ งปฏิบตั ิการ (Probability Based Rule Curves) ของอ่าง
เก็บน ้าลาปลายมาศที่คา่ ความเสี่ยง 0.05, 0.10 และ 0.20 ดังแสดงในภาพ
ที่ 4-13
ภาพที่ 4-13 โค้ งปฏิบัติการอ่างเก็บนา้ ลาปลายมาศ
บทที่ 5
สรุ ปและเสนอแนะ
สรุป
1.ปริ มำณน้ ำไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำลำปลำยมำศรำยเดือนมีควำมเหมำะสมกับ
กำรแจกแจงแบบ Gumbel ที่ระดับควำมสำคัญ 5% ในทำนองเดียวกันปริ มำณน้ ำไหล
เข้ำอ่ำงเก็บน้ ำสุ ทธิกม็ ีกำรแจกแจงแบบเดียวกัน
2.ที่ควำมเสี่ ยง 5, 10 และ 20% จะมีรอบปี กำรเกิดซ้ ำ(Tr)เท่ำกับ 20, 10 และ
5 ปี ตำมลำดับ ซึ่งจำกสถิติขอ้ มูลกำรบันทึกมีเพียง 4 ปี (พ.ศ. 2452-2545) ดังนั้นจึง
สังเครำะห์ขอ้ มูลอีก 40 ชุด รวมเป็ น 44 ชุด พบว่ำ ที่รอบปี กำรเกิดซ้ ำ 5, 10 และ 20 ปี
จะมีปริ มำณน้ ำไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำรำยปี เท่ำกับ 107.59, 132.66 และ 156.70 ล้ำน ลบ.
ม. และรำยเดือนดังแสดงในตำรำงที่ 5-1
Tr(ปี )
ม.ค.
ก.พ.
มี.ค.
เม.ย.
พ.ค.
มิ.ย.
ก.ค.
ส.ค.
ก.ย.
ต.ค.
พ.ย.
ธ.ค.
5
1.82
2.29
4.60
2.68
6.05
6.68
15.68
7.06
20.53
27.36
10.74
2.10
10
2.22
2.92
5.56
2.95
7.11
8.41
20.87
7.89
25.19
33.46
13.65
2.43
20
2.61
3.52
6.48
3.21
8.13
10.08
25.84
8.68
29.67
39.31
16.43
2.74
ตารางที่ 5-1 ปริมาณนา้ ไหลเข้ าอ่างเก็บนา้ รายเดือนที่รอบปี การเกิดซ้าต่ าง
เสนอแนะ
1.กำรปฏิบตั ิกำรของอ่ำงเก็บน้ ำในฤดูแล้งให้ควบคุมกำรส่ งน้ ำตำม Lower
Rule Curve(LRC) คือ ให้รักษำปริ มำณน้ ำในอ่ำงเก็บน้ ำไม่ให้ต่ำกว่ำ LRC ที่ควำม
เสี่ ยงต่ำงๆ เช่น ที่ควำมเสี่ ยงมำกก็จะรักษำปริ มำณน้ ำในอ่ำงเก็บน้ ำไว้นอ้ ยกว่ำที่
ควำมเสี่ ยงน้อย
2.กำรปฏิบตั ิกำรของอ่ำงเก็บน้ ำในฤดูฝนให้ควบคุมกำรระบำยน้ ำตำม
Upper Rule Curve(URC) คือ ให้พร่ องน้ ำจำกอ่ำงเก็บน้ ำให้ต่ำกว่ำ URC ที่ควำมเสี่ ยง
ต่ำงๆ เช่น ที่ควำมเสี่ ยงมำกก็จะพร่ องน้ ำในอ่ำงเก็บน้ ำน้อยกว่ำที่ควำมเสี่ ยงน้อย
3.ในกำรเลือกใช้ค่ำควำมเสี่ ยงให้คำดกำรณ์วำ่ ในแต่ละเดือนจะมีปริ มำณน้ ำ
ไหลเข้ำอ่ำงเก็บน้ ำที่รอบปี กำรเกิดซ้ ำเท่ำใด เช่น รอบปี กำรเกิดซ้ ำ 5 ปี ก็ใช้ควำมเสี่ ยง
20 % รอบปี กำรเกิดซ้ ำ 10 ปี ก็ใช้ค่ำควำมเสี่ ยงที่ 10% หรื อ รอบปี กำรเกิดซ้ ำ 20 ปี
ก็ใช้ค่ำควำมเสี่ ยงที่ 5%