การเขียน ทักษะทั้ง 4 ในการสื่ อสาร ได้แก่ การฟัง การพูด การ อ่าน และการเขี น การเขี ยนเป็ นทักยษะ ทีเ่ ราใช้ น้อยทีส่ ุ ด.

Download Report

Transcript การเขียน ทักษะทั้ง 4 ในการสื่ อสาร ได้แก่ การฟัง การพูด การ อ่าน และการเขี น การเขี ยนเป็ นทักยษะ ทีเ่ ราใช้ น้อยทีส่ ุ ด.

การเขียน
ทักษะทั้ง 4 ในการสื่ อสาร
ได้แก่ การฟัง การพูด การ
อ่าน
และการเขี
น
การเขี
ยนเป็ นทักยษะ
ทีเ่ ราใช้ น้อยทีส่ ุ ด
จุดม่ ุงหมายในการเขียน
1.เพื่อให้ความรู ้
2.เพื่อโน้มน้าวจิตใจ
3.เพื่อความบันเทิง
4.เพื่อจรรโลงใจ
ประเภทของงานเขียน
1.ร้อยแก้ว
2.ร้อยกรอง
ชนิดของงานเขียน
1.สารคดี
4.เรื่ องสั้น
2.บทความ
5.นวนิยาย
3.บันเทิงคดี
6.กวีนิพนธ์
เขียนอย่ างไรให้ น่าอ่ าน
การเขียน คือ การสื่ อความหมายไปยัง
ผูอ้ ่าน
โดยใช้ตวั อักษรเป็ นเครื่ องมือใน
การส่ งสาร ผูอ้ ่านจะสามารถรับรู ้ความใน
ใจของผูเ้ ขียนได้ดีเพียงใด
ขึ้นอยูก่ บั
ทักษะในการใช้ภาษาเขียนของผูเ้ ขียนเอง
การวิเคราะห์ ก่อนเขียน
1.จะเขียนอะไร
2.จะเขียนให้ใครอ่าน
3.ต้องการให้ผอู ้ ่านได้รับอะไร
จุดประสงค์ ของการเขียน
1.เขียนเพือ่ เล่าเรื่อง
2.เขียนเพือ่ อธิบาย
3.เขียนเพือ่ โฆษณาจูงใจ
4.เขียนเพือ่ ปลุกใจ
จุดประสงค์ ของการเขียน
5. เขียนเพือ่ แสดงความคิดเห็นและแนะนา
6.เขียนเพือ่ สร้ างจินตนาการ
7.เขียนเพือ่ ล้อเลียนเสี ยดสี
8.เขียนเพือ่ บอกให้ ทราบข้ อเท็จจริง
หลักการเขียน
1.ความรับผิดชอบ
2.ความประณีต
3.ความชัดเจน
4.ความถูกต้ อง
หลักการเขียน
5.ความเรี ยบง่าย
6.ความกระชับ
7.ความประทับใจ
8.ความไพเราะ
ลักษณะการเขียนที่ดี
1.มีเนื้อหาดี
2.ใช้ภาษาดี
3.มีท่วงทานองการเขียนที่ดี
การใช้ ภาษาในการเขียน
การเลือกคาให้ถูกต้องและเหมาะ
สมต้องรู ้จกั ลักษณะของคาและ
ความหมายของคาตลอดจนศักดิ์ของ
คาด้วย
การใช้ คาให้ ถูกต้ อง
1. การใช้ คาให้ ถูกต้ องตามความหมาย
ลวดลายต้นไม้ประดิษฐ์มองดูหวัน่ ไหวเหมือนของจริ ง
นักศึกษาที่มวั่ สุ มกับตารามากเกินไปจะไม่มีโอกาสได้
รู้จกั ชีวิตจริ งในสังคม
ยามเช้าเกล็ดน้ าค้างยังเกาะอยูต่ ามใบหญ้า
ความหมายของคา
1. ความหมายปรนัย
1.1 ความหมายคล้ายคลึงกัน
,
ยิม้ แย้ม,
1.2
ความหมายหลายอย่าง
เช่น มืดมัว
ผูกมัด,ดูแล
เช่น
ขัน
1.3 ความหมายแปรตามลักษณะของการสร้างคา
เช่น ลูก -ลูกกลอน ลูกไก่ ลูกคอ ลูกขุน
ลูกตั้ง
ลูกนิมิต
ความหมายของคา
2. ความหมายอัตนัย
2.1 ความหมายขึ้นอยูก่ บั ผูใ้ ช้ศพั ท์ เช่น
ทาดี
ดพลาดจะเป็ นบทเรี
2.2 ความผิ
ความหมายโดยนั
ย ยนอย่
เช่นางดี เสื อ
อีสานเป็ นแผ่นดินร้องไห้อีกไม่ได้
เสื้ อตัวนี้สีน่ากิน
การใช้ คาให้ ถูกต้ อง
2. การใช้ คาให้ ถูกต้ องตามระเบียบ
2.1
การใช้ตวั สะกดการันต์
ภาษา
2.1.1
รู ปวรรณยุกต์
ข่มขืน-ขมขื่น
2.1.2
การใช้ ร,ล
จลาจล-
เช่น
เช่น
จราจร
การใช้ คาให้ ถูกต้ อง
2. การใช้ คาให้ ถูกต้ องตามระเบียบ
2.2
การใช้ลกั ษณนาม
ภาษา
2.2.1
2.2.2
-
ตามหลังจานวนนับ
ตามหลังนามเพือ่ เน้นข้อความ
นึกเห็นภาพผิด
ทาให้ความปราณี ตของภาษาเสี ย
การใช้ คาให้ ถูกต้ อง
2. การใช้ คาให้ ถูกต้ องตามระเบียบ
ภาษา 2.3 การใช้อาการ
นาม
2.4
การใช้สนั ธาน
2.5
การใช้บุพบท
การใช้ คานาม
ใช้ แตกต่ างกันตามความเกีย่ วข้ อง
ฐานะบุคคล เช่น มือ-หัตถ์
อัยยิกา
ยาย-พระ
ความสุ ภาพของภาษา เช่น ธิดา-ลูกสาว สามีผัว
การใช้ สรรพนาม
ใช้ แตกต่ างกันตามความเกีย่ วข้ อง
เพศ เช่น ผม ดิฉนั
ฐานะ เช่น ท่าน เขา แก มัน
ความสุ ภาพ เช่น
คุณ มึง
ฉัน
กู
การใช้ คากริยา
ใช้ แตกต่ างกันตามความเกีย่ วข้ อง
ฐานะบุคคล เช่น บอก-เรี ยน รับประทานเสวย
ความสุ ภาพ เช่น อาเจียน-อ้วก รับประทานทาน-กิน
การใช้ คาวิเศษณ์
ต้ องคานึงถึงความหมาย
ความหมายหลัก
ความหมายแฝง
เข - เป๋ - เก
การใช้ คาบุพบท
ใช้ ให้ ตรงกับความหมายของคาทีจ่ ะใช้
ขาง-ชิ
ด-ติด-ริ ม-ใกล้
้
เขาอยูข่ า้ งบ้าน โต๊ะตั้งอยูต่ ิดประตู บ้านของเขาอยู่
ชายป่ า เธอชอบเดินเล่นริ มน้ า โรงเรี ยนอยูใ่ กล้บา้ น
การใช้ คาสั นธาน
ใช้ ให้ ถูกต้ องตามความหมายของประโยค
และ
เดียวกัน
-ประธานทากริ ยาอย่าง
เพราะว่า
- ประโยคที่เป็ นเหตุเป็ นผล
แต่,แต่วา่
กัน
- ประโยคที่มีใจความขัดแย้ง
การเลือกใช้ คาทีถ่ ูกต้ อง
1. การเรียงคา
ขันตักน้ า พูดน่าขัน ไก่ขนั
เข็มกลัด -กลัดเข็ม
ใจอ่อน-อ่อนใจ
เลี้ยงลูก- ลูกเลี้ยง
การเลือกใช้ คาทีถ่ ูกต้ อง
2. การใช้ วรรณยุกต์
คลอง - คล่อง
ปา - ป่ า - ป้ า
เสื อ - เสื่ อ - เสื้ อ
การเลือกใช้ คาทีถ่ ูกต้ อง
3. การใช้ สระ
ตี - ติ
ดู - ดุ
ปา - ปะ
เอน - เอ็น
การเลือกใช้ คาทีถ่ ูกต้ อง
4. การใช้ พยัญชนะ
 การพยัญชนะต้น ได้แก่ รบ - ลบ
ราด - ลาด ริ้ น - ลิ้น กรับ - กลับ
 การใช้ตวั สะกด ได้แก่ การ - กาน กาฬ - กาล - กาญจน์ - กานต์ - กานท์
การเลือกใช้ คา
การใช้ คาต้ องรู้ ท้งั ความหมายหลักและ
ความหมายแฝง
แม่กินข้าว ฉันรักแม่
แม่บา้ น แม่ทพั แม่ครัว แม่เหล็ก
การใช้ คาที่เป็ นสานวน
คอแข็ง
ได้
- ทนต่อรสอันเข้มข้นหรื อรุ นแรง
คอสูง
- ชอบรสดีๆ ชอบขอแพงๆ
ใจจืด
ใจลอย
- ไม่เอื้อเฟื้ อแก่ใคร
- เผลอตัว เคลิบเคลิ้ม
การใช้ คาที่เป็ นสานวน
นอนใจ
แหนงใจ
- วางใจ ไม่รีบร้อน
- มีความแคลงใจ ระแวงใจ
ตัวการ
- ผูก้ ่อเหตุ ผูท้ าให้เกิดเหตุน้ ีข้ ึนในทางอาญา
ตายตัว
- อยูท่ ี่
การใช้ คาที่เป็ นสานวน
ตาเขียว
- แสดงอาการโกรธจัด
ตาต่า
- ไม่รู้จกั คุณค่าของที่ดู
ท้องแห้ง
ปากคม
- ฝื ดเคือง
- พูดจาเผ็ดร้อน
การเข้ าประโยค
1. ให้ ได้ ความชัดเจน
1.1 คาเดียวมีความหมายหลายอย่าง เช่น เขาไม่ไป
โรงเรี ยนเพราะตาเจ็บ
1.2 สานวนคาในภาษา เช่น คนนี้มือแข็งเหลือเกิน
การเข้ าประโยค
2. ให้ มีนา้ หนักตามต้ องการ
2.1 เน้นหนักที่ไหน ให้วางคานั้นไว้ตน้ ประโยค
2.2 ใช้คาให้เหมาะความ
การเข้ าประโยค
3. ต้ องไม่ ผดิ หลักภาษา
3.1 การเรี ยงประธาน กริ ยา กรรม
3.2 การเชื่อมประโยค
3.3 การใช้สนั ธาน
การเข้ าประโยค
3. ต้ องไม่ ผดิ หลักภาษา
3.4 การใช้บุพบท
3.5 การวางส่ วนขยาย
การเข้ าประโยค
4. ให้ เป็ นสานวนไทย
อาจารย์กลับมาพร้อมกับวิชาที่จะนามาสัง่
สอน
ศิษย์ต่อไป
อาจารย์จรี ถูกเชิญไปบรรยายที่วิทยาเขตวัง
ไกล
ลักษณะการเขียนที่ดี
1.มีเนื้อหาดี
2.ใช้ภาษาดี
3.มีท่วงทานองการเขียนที่ดี
ชนิดของท่ วงทานอง
1. ท่ วงทานองเขียนแบบเรียบๆ
…นี่ออกพรรษามาหลายวันแล้วอีกหกเจ็ดวันที่
วัดก็มีเทศน์มหาชาติ
น้ าหน้าอย่างพวก
กรุ งเทพฯ หรื อจะบังอาจรู้ถึงวันออกพรรษามัน
จะรู้เฉพาะ
วันเข้าพรรษาเท่านั้นแหละหวา
เพราะเป็ นวันหยุดราชการ...
ชนิดของท่ วงทานอง
2. ท่ วงทานองเขียนแบบกระชับรัดกุม
…มีแสงไฟสว่างไสวตามร้านรวง ส่วนพวกค้าเร่ ตาม
ข้างถนนที่เอาสิ นค้าวางเรี ยงรายกับบาทวิถี จุดไฟดวง
นิดๆไว้ให้ความสว่างแสงนีออนโฆษณาเป็ นภาษาจีนสี
แดงประดับประดาอยูก่ บั ฟ้ า มันอาจจะบอกว่าดื่มโค
คา-โคลาหรื อใช้ยาหม่องตราเสื อก็ได้...
ชนิดของท่ วงทานอง
3. ท่ วงทานองเขียนแบบเข้ มข้ น
…เหนือเมฆย่อมมีฟ้า
เหนือสภาย่อมมีกลุ่ม
อานาจ
เหนือกระดาษย่อมมีซาละเปา
ชนิดของท่ วงทานอง
4. ท่ วงทานองเขียนสละสลวย
…เพียงขวดใบหนึ่งลอยเนิบอย่างเดียวดายอยูก่ ลางทะเล
หลวงมันโผล่ข้ ึนมาแล้วผลุบหายลงไปเลื้อยเรื่ อยไปตาม
เกลียวคลื่นว้าเหว่และเคว้งคว้างเหมือนคนพเนจรทีร่ ่ อนเร่
อยูก่ ลางสมุทรทรายแลเป็ นจุกลิบอยูร่ อบคอลักษณะการ
ประหนึ่งนักโทษที่ถูกตัดสิ นเนรเทศตัวสัน่ งันงกอยูก่ ลาง
สมุทรชีวติ
แต่กต็ อ้ งซัดเซเรื่ อยไปหากจะใฝ่ ฝันถึงฝั่งถึง
แหลม
แผ่นดินสักอันก็เพียงภาพลับๆล่อๆอันเหลือจะ
หวังให้
ปรากฏเป็ นจริ ง
ชนิดของท่ วงทานอง
5. ท่ วงทานองเขียนแบบสู งส่ ง
… กาลที่เสด็จ ณ เวฬุวนารามเป็ นพรรษาที่สุด
ครบ 45 พระวัสสานั้น ภายในไตรมาสทรงอาพาธ
หนักครั้งหนึ่ง ทรงเยียวยาพระโรคาของพระองค์ดว้ ย
พระโอสถ คือ สมบัติให้ระงับมีครุ วนาดังกอไม้ออ้
อันเพลิงไหม้แล้วนามาซึ่งสุ คนธอุทกธารามารคให้
อันตรธานดับได้...
การใช้ โวหาร
1.บรรยายโวหาร
2.พรรณนาโวหาร
3.เทศนาโวหาร
4.อุปมาโวหาร
5.สาธกโวหาร
การปรุงแต่ งถ้ อยคา
1. การตัดคาที่เกินออก
เขาทาการสร้างบ้าน
ใหม่
ในปัจจุบนั นี้ยอ่ ม
สาคัญกว่าในอนาคต
ปัญญาชนผูม้ ีความรู้
การปรุงแต่ งถ้ อยคา
2. การหาคามาเสริ มแต่ง
บ้านเขามี 2 ชั้น่่
เขาทาให้ฉนั เสี ยอีก
ฉันรู้เท่าเธอ
คุณลุงกลับไปดูที่ดินที่
การปรุงแต่ งถ้ อยคา
3. การเปลี่ยนคาใหม่
เทศบาลกาลังทาถนน
สายสาคัญ
เขาขว้างหัวฉัน
ฉันไม่ชอบคนที่ชอบ
พูด
การปรุงแต่ งถ้ อยคา
4. การสับเปลี่ยนตาแหน่งของคาเสี ยใหม่
เพื่อนบ้านของเรา คือ
พม่า
มุขบัญญัติของศาสนา
อิสลามคือการถือศีลอด
ฉันออกกาลังกายทุกวัน
คาที่ควรหลีกเลีย่ ง
1. คาต่า
2. คาที่ใช้ผดิ
ระเบียบ
3. คาภาษาพูด
4. คาภาษาถิ่น
คาที่ควรหลีกเลีย่ ง
6. คาวิทยาการ
7. คาในการประพันธ์
8. คาที่ใช้ในการ
โฆษณา
9. คายอ
เขียนอย่ างไรให้ น่าอ่ าน
ในการเขียนนั้น การจัดใจความถือเป็ นสิ่ ง
สาคัญ
เพราะงานเขียนทุกชนิดจะต้องมี
เนื้อหาและการจัดระเบียบเนื้อหาให้เป็ นไป
ตามลาดับ
การจัดใจความ
1. การเตรียมเนือ้ หา
1.1 การเลือกหัวข้อเรื่ อง
1.2 ตั้งจุดมุ่งหมายของเรื่ อง
หัวข้ อเรื่อง
ปัญหาการจราจรที่ติดขัด
จุดมุ่งหมายที่ 1
แสดงปัญหาจราจร
จุดมุ่งหมายที่ 2
วิธีแก้ ไขการจราจรทีต่ ิดขัด
การจัดใจความ
1.3 ค้นคว้าหาข้อมูล
การ
อ่านหนังสื อ
การ
สัมภาษณ์
การ
การจัดใจความ
2. การจัดระเบียบเนือ้ หา
2.1 เขียนประโยคกล่าวนา
หัวข้ อเรื่อง
ปัญหาการจราจรที่ตดิ ขัด
จุดมุ่งหมายที่ 1 แสดงปัญหาจราจร
ประโยคกล่ าวนา ปัญหาการจราจรที่ตดิ ขัดเท่ าที่พบ
กันมีสาเหตุจากปัญหาด้ านพาหนะ และปัญหาด้ าน
ระเบียบการจราจร
หัวข้ อเรื่อง
ปัญหาการจราจรที่ตดิ ขัด
จุดมุ่งหมายที่ 2 วิธีแก้ไขการจราจรที่ติดขัด
ประโยคกล่ าวนา วิธีที่จะแก้ไขปัญหาการจราจรที่
ติดขัดอาจทาได้ ดังนี้
1. ก่ อสร้ างทางเพิม่ เติม
2. แก้ ไขทีต่ วั ผู้ใช้ รถ
3. ควรปรับปรุงการจราจร
การจัดใจความ
2. การจัดระเบียบเนือ้ หา
2.2 การเขียนโครงเรื่ อง
งอบ
1. ความหมายของคาว่ างอบ
2. ลักษณะและส่ วนประกอบของงอบ
2.1 โครงงอบ
2.2 กระหม่ อมงอบ
2.3 เส้ นประกับงอบ
2.4 รังงอบ
งอบ
3. ประวัติความเป็ นมาของงอบ
3.1 งอบเป็ นเครื่องสวมศีรษะเพือ่ ป้ องกันความร้ อน
มักใช้ วสั ดุทไี่ ด้ จากสภาพแวดล้ อม
3.2 เครื่องสวมศีรษะแสดงลักษณะฐานะ ยศ
ตาแหน่ ง 4. การทางอบของชาวบ้ าน
4.1 นิยมในภาคกลาง
4.2 การทางอบในปัจจุบันดัดแปลงเป็ นของทีร่ ะลึก
การจัดใจความ
2. การจัดระเบียบเนือ้ หา
2.3 การเขียนย่อหน้า
ย่อหน้า คือเนื้อความตอนหนึ่งที่ประกอบด้วยใจ
ความ สาคัญกับส่ วนประกอบขยายซึ่งทาให้ใจ
ความ กระจ่าง ชัดเจน