ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน) รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์ รวบรวมและวิเคราะห์ โดย ดร.

Download Report

Transcript ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน) รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์ รวบรวมและวิเคราะห์ โดย ดร.

Slide 1

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 2

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 3

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 4

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 5

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 6

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 7

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 8

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 9

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 10

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 11

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 12

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 13

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 14

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 15

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 16

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 17

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI


Slide 18

ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐกิจการเงินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พ.ศ. 2325 – ปั จจุบัน (ค.ศ. 1782 – ปั จจุบัน)
รากฐาน และความเป็ นจริงที่ชนรุ่ นหลังต้ องนามาใช้ ให้ เกิดประโยชน์
รวบรวมและวิเคราะห์ โดย
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ และทีมนักวิจัย
ของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

ระยะเวลาในการครองราชย์ ของแต่ ละรัชกาลสมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑
รัชกาลที่ ๒
รัชกาลที่ ๓
รัชกาลที่ ๔
รัชกาลที่ ๕
รัชกาลที่ ๖
รัชกาลที่ ๗
รัชกาลที่ ๘
รัชกาลที่ ๙
 Page 2

พ.ศ.
๒๓๒๕-๒๓๕๒
๒๓๕๒-๒๓๖๗
๒๓๖๗-๒๓๙๔
๒๓๙๔-๒๔๑๑
๒๔๑๑-๒๔๕๓
๒๔๕๓-๒๔๖๘
๒๔๖๘-๒๔๗๘
๒๔๗๘-๒๔๘๙
๒๔๘๙-ปั จจุบัน

ค.ศ.
1782-1809
1809-1824
1824-1851
1851-1868
1868-1910
1910-1925
1925-1935
1935-1946
1946-ปั จจุบัน

รวม
27 ปี
15 ปี
27 ปี
17 ปี
42 ปี
15 ปี
10 ปี
11 ปี
FPRI

Standard of International Reserves and Exchange
1500–1870 silver standard of international reserves
Mexican silver coin เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ดอลลาร์ เม็กซิโกยึดโยงกับนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ท่ สี เปนขุด
และหลอมมาจากทวีปอเมริกาโดยประเทศที่ไม่ ตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษ เช่ น จีน และไทยนิยมใช้ เหรียญเงินเม็กซิกันดอลลาร์
เป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศ
1700–1870 silver standard of reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน 1
ปอนด์ ยดึ โยงกันนา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ (เช่ นเดียวกับค่ าเงิน 1
ดอลลาร์ เม็กซิโก) โดยประเทศที่ตกเป็ นอาณานิคมของอังกฤษ เช่ น
อินเดีย ปี นัง และสิงคโปร์ นิยมใช้ เงินปอนด์ สเตอริงเป็ นเงินสารอง
 Page 3

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1870–1945 gold/paper standard of international reserves
Pound Sterling เป็ น international anchor currency และค่ าเงิน
1 ปอนด์ ยดึ โยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์
มีกรุ งลอนดอนเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก
เริ่มมีระบบธนาคาร (base on paper book-keeping) เป็ นครัง้ แรก
โดย ธ.กลาง และ ธ.พาณิชย์ ของโลกตัง้ อยู่ในกรุ งลอนดอน
รัฐบาลประเทศต่ างๆ มีบัญชีเงินฝากเป็ น Pound Sterling ไว้ กับ
ธนาคารในกรุ งลอนดอนเป็ นเงินสารองของประเทศ และยังถือ
ทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองของประเทศแทนเหรียญเงินเม็กซิโก
ดอลลาร์ มากขึน้ เรื่อยๆ อีกด้ วย
 Page 4

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1946–1972 gold/paper standard of reserves
US dollar เป็ น international anchor currency ค่ าเงิน 1 ดอลลาร์
สรอ. ยึดโยงกับนา้ หนักทองคาบริสุทธิ์ (35 USD ต่ อ ทองคาหนัก
1 ออนซ์ )
เป็ นผลพวงจากการประชุมนานาชาติและข้ อตกลงร่ วมกันที่
Bretton Woods (Bretton Woods Agreement)
มีนิวยอร์ คเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินของโลก แทนลอนดอน
ธ.กลางประเทศต่ างๆ เก็บทองแท่ งไว้ ท่ ี ธ.กลาง สหรัฐฯ และมี
บัญชีเงินฝากเป็ น USD ไว้ กับธนาคารในสหรัฐฯ
 Page 5

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1972–1987 paper standard of reserves and fixed exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ไม่ มีการกาหนดค่ าของ USD เทียบกับนา้ หนักของทองคาบริสุทธิ์
อีกต่ อไป ภายหลัง Smithsonian Agreement
ประเทศต่ างๆ fix ค่ าเงินตัวเองในอัตราตายตัวเมื่อเทียบกับ 1
USD with narrow band fluctuation แต่ ให้ เปลี่ยนค่ าเงินได้ เป็ น
ระยะเมื่อจาเป็ น เช่ นกรณีของประเทศไทย fix ไว้ ในอัตรา 21
บาท/USD (ช่ วงปี 1954 - 1972) และเปลี่ยนมาเป็ น 25 บาท/USD
(ช่ วงปี 1972 - 1981) และเป็ น 26 บาท/USD (ช่ วงปี 1981 - 1997)
 Page 6

FPRI

Standard of International Reserves and Exchange (cont’d)
1987–ปั จจุบัน paper standard of reserves and floating exchange rate
US dollar เป็ น international anchor currency
ประเทศต่ างๆ ไม่ จาเป็ นต้ องผูกค่ าเงินของตัวเองไว้ กับ USD อีก
ต่ อไป และ IMF พยายามสนับสนุนให้ ค่าเงินของแต่ ละประเทศ
ลอยตัวตามอุปสงค์ อุปทานของเงินตราต่ างประเทศของตน
ประเทศต่ างๆ เลือกได้ ว่าจะเป็ น free floating เช่ น Euro zone,
England, Indonesia และ ไทย (2 ก.ค.1997 - 31 ส.ค. 2007)
หรือ managed float with target exchange rate and with narrow
band fluctuation เช่ น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
(1 ก.ย. 2007 – ปั จจุบัน)
 Page 7

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓
1782–1850 ใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ fixed exchange rate ใน
การค้ าระหว่ างประเทศ โดยมี Mexican silver coin เป็ นตัวกลางในการ
แลกเปลี่ยนระหว่ างประเทศ (anchor currency) และอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ ากับประมาณ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง
1 Mexican silver dollar = 1.7 บาท (ค่ าเงินบาทของไทยเทียบกับ
เหรียญเงินเม็กซิโกดอลลาร์ โดยเงินไทย 1 บาท = นา้ หนักโลหะ
เงินบริสุทธิ์ 15 กรัม หรือ นา้ หนัก 1 บาท = 15 กรัม, 1 เหรียญ
เงินดอลลาร์ เม็กซิโก = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 25 กรั ม และ
1 ปอนด์ สเตอริงอังกฤษ = นา้ หนักโลหะเงินบริสุทธิ์ 120 กรัม
หรือค่ าเงินบาทเท่ ากับ 8 บาทต่ อ 1 ปอนด์ สเตอริง)
 Page 8

FPRI

ระบบการของเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนต้ น ร.๑-ร.๓ (ต่ อ)
ใช้ หอยเบีย้ และเงินพดด้ วงเป็ น money in circulation ของระบบ
เศรษฐกิจภายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนในภาคเหนือส่ วนใหญ่ ใช้ เงินรูปีอินเดีย (เนื่องจาก
ติดต่ อค้ าขายกับพม่ าเป็ นหลัก)
มีพระคลังข้ างที่ ทาหน้ าที่ในการออกเงินพดด้ วง เพื่อใช้ ในระบบ
เศรษฐกิจ

 Page 9

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕
1850–1882 1 Pound Sterling = 8 บาท (ค่ าเงินบาทยังยึดโยงกับ
นา้ หนักโลหะเงินในช่ วงปี 1850-1902 และเปลี่ยนมายึดโยงกับนา้ หนัก
โลหะทองคาบริสุทธิ์หลังปี 1902 ตามเงินปอนด์ สเตอริงของอังกฤษ
ซึ่งยึดโยงกับนา้ หนักทองบริสุทธิ์ตงั ้ แต่ ปี 1870)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ Pound Sterling เป็ น reference currency พร้ อมๆ
กับการลงนามในสนธิสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษในปี ค.ศ.1855
เริ่มเก็บ international reserve ไว้ ในรูปของเงินฝาก Pound Sterling
ที่ธนาคารพาณิชย์ ในกรุ งลอนดอนพร้ อมกับเก็บเหรียญโลหะเงิน
และโลหะทองคาแท่ งเป็ นเงินสารองระหว่ างประเทศด้ วย

 Page 10

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
เริ่มผลิตเหรียญกระษาปณ์ ท่ ไี ม่ ใช้ โลหะเงินหรือทองคาออก
หมุนเวียนในมือประชาชนเป็ นครัง้ แรก แต่ ในช่ วงแรกเหรียญ
กระษาปณ์ ไทยยังไม่ เพียงพอต่ อความต้ องการของระบบเศรษฐกิจ
อนุญาตให้ ใช้ เหรียญเงินต่ างประเทศหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ในปี 1857
ด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน 5 บาทต่ อ 3 Mexican dollar แต่ ค่อยๆ หมด
ไป เมื่อเหรียญกระษาปณ์ ไทยออกหมุนเวียนเพียงพอกับความ
ต้ องการของประชาชน

 Page 11

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๔-ร.๕ (ต่ อ)
1883–1891 1 Pound Sterling = 8-10 บาท
(ร.5)
THB fixed หลังจากเงินบาทค่ อยๆ ลดค่ าจาก 8 บาทในปี 1882 เป็ น
10 บาท/sterling ในปี 1883
ปี 1888 เกิดธนาคารพาณิชย์ เป็ นครัง้ แรกในสยามคือธนาคาร HSBC
หลังจากนัน้ มีธนาคารต่ างชาติทยอยเข้ ามาเปิ ดเพิ่ม เช่ น Chartered
Bank of India, Australia and China ในปี 1894 The Banque de
L’Indochine ในปี 1897 โดยธนาคารเหล่ านีไ้ ด้ รับอนุญาตให้ พมิ พ์
ธนบัตรออกใช้ ในระบบเศรษฐกิจ แต่ การใช้ ยังจากัดอยู่แต่ ในเขต
กรุ งเทพฯ และตอนหลังมีธนาคารพาณิชย์ ไทยคือ แบงค์ สยามกัมมาจล
(เริ่มปี 1906)
ภาคเหนือและพืน้ ที่ในรัฐมาเลเซียปั จจุบันยังใช้ เงินรูปีอินเดียในการ
แลกเปลี่ยน
FPRI

 Page 12

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘
1892–1902 1 Pound Sterling = 12.10-19.30 บาท (THB weakening) (ร.5)
เมื่อราคาของโลหะเงินในเทอมของทองเริ่มตกในปี 1870 ค่ าเงินบาท
เมื่อเทียบกับ Sterling ก็เริ่มตก (เนื่องจากเงินปอนด์ อังกฤษเปลี่ยนไป
ผูกติดกับทองคา) จาก 10 บาท/Sterling ในปี 1883 เป็ น 21 บาท/Sterling
ในปี 1902 รัฐบาลจึงยกเลิกการผูกติดค่ าเงินกับโลหะเงิน และเปลี่ยนมา
ใช้ gold standard โดยกระทรวงการคลังประกาศ fix อัตราแลกเปลี่ยนกับ
Sterling ไว้ ท่ ี 20 บาท/Sterling

 Page 13

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6)
อย่ างไรก็ตาม เหรี ยญเงินยังเป็ น money in circulation หลักในระบบ
เศรษฐกิจ ดังนัน้ เมื่อราคาของโลหะเงินแข็งขึน้ เมื่อเทียบกับทองหลังจาก
จุดต่าสุดในปี 1902 เป็ นต้ นมา เหรี ยญเงินก็ถูก export ออกไปในรู ปของ
เงินแท่ ง และส่ งผลให้ เงินบาทแข็งค่ าขึน้ เมื่อเทียบกับ Sterling ซึ่งแข็งค่ าขึน้
จาก 20 บาท/Sterling เป็ น 13 บาท/ Sterling ในปี 1907 และคงที่ท่ ีอัตรา
ดังกล่ าวจนถึงปี 1919 (เพราะว่ าในยามที่ราคาเงินลดลง รั ฐบาลไม่ ยอม
ให้ บาทลดตาม แต่ ในยามที่ราคาโลหะเงินเพิ่มขึน้ รั ฐบาลจะยอมให้ บาท
แข็งตาม)

 Page 14

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ตอนกลาง ร.๕-ร.๘ (ต่ อ)
1903–1921 1 Pound Sterling = 19.0-9.54 บาท (THB strengthening) (ร.5 – ร.6) (ต่ อ)
Notes in circulation ถูก back ด้ วย reserve 100% โดยบางส่ วนของ reserve จะ
invest ใน Sterling securities (ปี 1906 พบว่ า 75% เป็ น silver coin อีก 25% เป็ น
foreign securities โดยส่ วนใหญ่ เป็ น Sterling)
ปี 1908 ออกกฎหมายรองรั บ gold-exchange standard
การใช้ ธนบัตรแพร่ หลายขึน้ โดยเพิ่มจาก 18.8 ล้ านบาทในปี 1911 เป็ น 113.8
ล้ านบาทในปี 1919 ในขณะที่ปริมาณ silver coin in circulation ค่ อนข้ างคงที่
ที่ประมาณ 100 ล้ านบาทในช่ วงเวลาเดียวกัน
เมื่อความต้ องการเงินบาทมีมากขึน้ ความลาบากในการผลิต silver coin ออกมา
ให้ เพียงพอกับความต้ องการก็ทาได้ ยากขึน้ ในที่สุดการใช้ เหรียญเงินก็ค่อยลด
สัดส่ วนใน circulation ลง และหายไปในช่ วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 เนื่องจากการ
ซือ้ ขายโลหะเงินถูกควบคุมโดยกองทัพพันธมิตร
1922–1941 1 Pound Sterling = 11 บาท (THB fixed)
(ร.6 - ร.8)
1942–1946 world war II, การค้ าขายระหว่ างประเทศหยุดชะงักเพราะสงคราม
 Page
อัต15ราแลกเปลี่ยนผันแปรมาก
(ร.8)
FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
1947 อัตราแลกเปลี่ยน 24.10 บาท/USD (หลังสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โดยไทย
เป็ นฝ่ ายแพ้ สงคราม)
ไทยเปลี่ยนมาใช้ USD เป็ น reference currency โดย fixed ค่ าเงินบาทกับ USD
เพราะ USD ได้ กลายมาเป็ น international anchor currency แทน Pound sterling
ของอังกฤษ และ New York City กลายเป็ นศูนย์ กลางทางการเงินแทน London
1948–1953 อัตราแลกเปลี่ยน 18.37–22.30 บาท/USD (ไทยใช้ ระบบ multiple
exchange rate system เพื่อปั นส่ วน USD ที่ยังขาดแคลน เพราะส่ งออกยังไม่ เข้ าสู่
ภาวะปกติ)
1954–1972 อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 21.00 บาท/USD (20.77-21.59)
ไทยใช้ ระบบ fixed ค่ าเงินบาทกับ USD แต่ เปลี่ยนค่ าเงินบาทขึน้ ลงบ้ างเป็ น
ระยะๆ เพียงเล็กน้ อย (narrow band fluctuation) โดยใช้ Exchange Equalization
Fund (EEF) เป็ นองค์ กรซือ้ ขาย USD โดยตรงในอัตราผันแปรค่ อนข้ างต่ากับ
ธนาคารพาณิชย์
 Page 16

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙ (ต่ อ)
1972–1981 อัตราแลกเปลี่ยน 25.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต.สมหมาย 1) โดยใช้ EEF เป็ นองค์ กรทา intervention ในตลาด
เงินตราต่ างประเทศ on-shore
1982–1997 อัตราแลกเปลี่ยน 26.xx บาท/USD
ไทยลดค่ าเงินบาทแล้ ว fixed กับ USD with narrow band fluctuation
(รมต. สมหมาย 2) โดยใช้ EEF ทา intervention ในตลาด FX ทัง้
on-shore และ off-shore ในปี 1997 (ก.พ. – ธ.ค. 1997)

 Page 17

FPRI

ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
ยุคกรุ งรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ร.๙
2 Jul 1997 - 31 Aug 2007 อัตราแลกเปลี่ยนขึน้ ลงมากในช่ วงกว้ าง
ประมาณ 30-55 บาท/USD
Free floating exchange rate with little or no intervention from
BOT (ลอยตัวค่ าเงินบาทโดยไม่ จัดการ)
1 Sep 2007 – present อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 34.00-34.50
บาท/USD
Managed float with target exchange rate by authorities and
narrow band fluctuation allowed by BOT ซึ่งฝ่ ายการธนาคาร
ของ ธปท. ทาการแทรกแซงเองโดยไม่ ใช้ EEF เพราะ EEF
เลิกกิจการไปแล้ ว
 Page 18

FPRI