การวิจัยเชิงคุณภาพ กับหลักสู ตรและการสอน Qualitative Research in curriculum and Instruction โดย… ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มาเรียม นิลพันธุ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม maream @ su.ac.

Download Report

Transcript การวิจัยเชิงคุณภาพ กับหลักสู ตรและการสอน Qualitative Research in curriculum and Instruction โดย… ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มาเรียม นิลพันธุ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม maream @ su.ac.

การวิจย
ั เชิงคุณภาพ กับหลักสู ตรและการสอน
tative Research in curriculum and Instru
โดย… ผู ช
้ ว
่ ยศาสตราจารย ์
ดร.มาเรียม นิ ลพันธุ ์
คณะศึกษาศาสตร ์
มหาวิทยาลัยศิลปากร
เอ๊ะ
่ าไปใช้ตา
หลักสู ตรเมือน
่ งบริบท
กันเป็ นอย่างไร
การจัดการเรียนการสอนแตกต่างกันตาม
บริ
บทหรื
อย่าลงไร
จบครู
เหมือ
อไม่
นกันแต่
ะคนเหมือนกน
ั / ต่างกัน
ครู คนเดิมอยู ่คนละที่ เหมือนก ัน / ต่างกัน
่ ตา
หลักสู ตรเหมือนก ันแต่ผลทีได้
่ งก ัน แล้วต่างก ัน
Why
วิธส
ี อนเหมือนกน
ั ครู ตา
่ งคนนาไปใช้จงึ ไม่เหม
ครู คนเดียวสอน น.ร หลายคนในเวลาเดียวก ันผลทีไ่
ทาไม สถานศึกษาในแต่ละชุมชนจึงต่างกน
ั
ผู เ้ รียนคนเดิมจึงมีพฤติกรรม ต่อครู ตา
่ งกัน
Questi
ons !
เอ๊ะ
่
ทบทวนความรู ้เรืองการวิ
จย
ั เชิงคุณภาพ
การวิจย
ั เชิงคุณภาพ คือ อะไร
เอ๊ตัะวอย่างงานวิจยั เชิงคุณภาพทีเกี
่ ยวข้
่
องก ับหลักสู ตรและ
จะทาวิจย
ั ท่งหลักสู ตรและการสอนสนใจใช้การวิจย
ั เชิงคุณ
่ การวิจย
ั เช
งประเด็นปั ญหาการวิจย
ั ทางหลักสู ตรและการสอนทีใช้
เอ๊ะ
การวิจย
ั เชิงคุณภาพคือ อะไร
What is Qualitative Research ?
ลองมาทบทวนความรู ้
Overview of
Research
ศึQualitative
กษาจากสภาพธรรมชาติ
ปรากฏการณ์
 จริง บริบท
Natural / Phenomena/ Context



ศึกษา จากปรากฏการณ์ทางสังคม
และวัฒน
ธรรม
Social and
culture
phenomena
ให้ ความสาคัญก ับการตอบคาถาม
How / Why
เป็ นการมองแบบองค ์รวม มองรอบด้าน
(Holistic Viewpoint) มองหลายมิต ิ
(Multi
dimension)
เน้น Field - based Research
Fieldw

 เน้นการเก็บรวบรวมข้อมูลork
โดย
Participant Observation
Documents
Unstructured
and
Text
Inter
view
In-depth
Interview
Key
Informants
interview
Prob
Interview
e
as a
Researc
instruments
understand
people
her
,social and cultural
context
การเก็บรวบรวมข้
อมู ลกระทาพร ้อม
กันกับการวิเคราะห ์ข้อมู ลและการแปล
Data
gathering
Data
Interpreting
Data
analysis
Inductive Method : ศึกษา
รวบรวมจากสภาพธรรมชาติ
แล้วนามาสรุป
เก็บข้อมู ลโดย ตาดู หู ฟัง ปาก
ถาม มือเขียน ใจคิด พิจารณา
ขาเดิน เพลิดเพลินก ับบริบท
เทคนิ คสามเส้า
(Triangulation)

• Data Triangulation : use the
variety of data sources
• Researcher Investigator
Triangulation : use the different
researchers
• Time Triangulation : use the
variety time
• Place Triangulation: use the
variety place
 Usually work with small samples of
people
 Tend to purposive > random
 ให้ความสาคัญกับการศึกษาระยะทาง
(Longitudinal Study)
สร ้าง Rapport – เก็บข้อมู ล – ตรวจสอบ
ข้อมู ล – ตีความข้อมู ล
– เรียบเรียงข้อมู ล - ฯลฯ
 ใส่ใจกับกระบวนการวิจ ัย process >
product ในลักษณะของ Dynamic
 ศึกษาองค ์ความรู ้จากระด ับล่าง หรือ ราก
Grounded Theory : build
their theories from the patterns
,(observe in their data )
 ไม่ตค
ี วามบนกรอบความคิด/ทัศนะของผู ว้ จ
ิ ัย
ใส่ใจความเป็ นมนุ ษย ์
 เป็ นการศึกษาค้นหาทาความเข้าใจ
ความหมาย (Meaning)ของ
่ า
ปรากฏการณ์เป้ าหมายของการศึกษาเพือท
ความเข้าใจ มิใช่ทานาย (predict)
่ เป็ นอ ัตวิสย
ั / อ ัตนัย
 ความรู ้ความจริงทีได้
การตรวจสอบสามเส้าด้าน
ผู ว้ จ
ิ ัย
ถ้าผู ว้ จ
ิ ย
ั หรือผู เ้ ก็บรวบรวมข้อมู ลต่างกัน
แล้วได้ขอ
้ มู ลเหมือนเดิม หรือไม่
(ตรวจสอบว่าผู ว้ จ
ิ ย
ั แต่ละคนได้ขอ
้ มู ล
ผู
ว
้
จ
ิ
ัย
แตกต่างกันหรือไม่)
1
ผู ว้ จ
ิ ย
ั
2
ผู ว้ จ
ิ ย
ั
3
การตรวจสอบสามเส้าด้านผู ว้ จ
ิ ย
ั :
วิธเี ก็บรวบรวมข้อมู ล
่
ตรวจสอบว่าในข้อมู ลเรืองเดี
ยวกัน
หากใช้วธ
ิ ก
ี ารเก็บรวบรวม ข้อมู ลที่
แตกต่างกันแล้วได้ขอ
้ มู ลเหมือนเดิมหรือไม่
การ
สัมภาษณ์
การ
สอบถาม
การสังเกต
เช้า
กลาง
วัน
ว ัด
เวลา
เย็น
บ้าน
สถานที่
ร ้านกาแฟ
ครูใหญ่
บุคคล
เจ้าอาวาส
ผู ใ้ ห้
ลุงเข้มแข็ง
่
เก็บข้อมู ล ความคิดเห็น ค่านิ ยม ความเชือ
ประสบการณ์ ฯลฯ

่
ซึงมี
ลักษณะ
เป็ นนามธรรม
(Abstract)มาหก
มีความซ ับซ ้อน
(Complexity) มาก
มีความเป็ นพลวัตร
(Dynamic)
การ
ข้อมู ลส่วนใหญ่
เป็ นพฤติมากมี
กรรมภายใน
่
่ ยนแปลง
เคลือนไหวโดย
(Covert Behavior)เปลี
ซึงเป็
นต ัวกาหนด
พฤติกรรมภายนอกตลอด
(Overt Behavior)
การวิจัย เชงิ
คุณภาพ
มุง่ ทาความเข ้าใจ การตีความ ให ้ความหมายแก่
ปรากฏการณ์ทเี่ กีย
่ วข ้องกับพฤติกรรมของคนในสงั คม ซงึ่
ึ นึกคิด ความเชอ
ื่ ประสบการณ์
เป็ นภาพรวมของความรู ้สก
ึ ษานีม
เกีย
่ วกับชวี ต
ิ ซงึ่ ความรึความจริงทีไ่ ด ้จากการศก
้ ค
ี วาม
เป็ นเฉพาะกรณีไม่มงุ่ นัยทั่วไป
ึ ษา ความเป็ น
ให ้ความสาคัญในเรือ
่ งความวิธก
ี ารศก
องค์รวม
ไม่อยูภ
่ ายใต ้กรอบของสมมุตฐิ านทีก
่ าหนดไว ้ก่อน แต่จะ
พัฒนาคาถาม สมมุตฐิ านในระหว่างดาเนินการวิจัยและ
สุดท ้ายอาจได ้ข ้อสรุปบนพืน
้ ฐานของข ้อค ้นพบทีเ่ รียกว่า
ground theory ซงึ่ มีความเฉพาะตามบริบทของการวิจัย
้
ึ ษาทีล
ใชเวลานาน
เป็ นการศก
่ ม
ุ่ ลึก ผู ้วิจัยเป็ นเครือ
่ ง
้ บข ้อมูลได ้แก่ การสม
ั ภาษณ์
มอหลัก เทคนิคทีใ่ ชเก็
แบบเจาะลึก การสงั เกต การใชบั้ นทึกเหตุการณ์
การวิเคราะห์ข ้อมูลโดยการสงั เคราะห์ข ้อมูล การ
วิเคราะห์เนือ
้ หา
หัวใจหลัก คือการตีความ หรือการให ้ความหมายแก่
พฤติกรรมและเรือ
่ งราว
(interpretation)
โดยสรุปคุณภาพของงานวิจัยเชงิ คุณภาพ ขึน
้ อยู่
ื่ ถือได ้ของข ้อมูลทีส
กับความเชอ
่ ะท ้อนความจริง
ของปรากฏการณ์ วิธก
ี ารตีความและให ้
ความหมาย
Qualitative Research is
multimethod in
focus,involving an
interpretation,naturalisti
c approach to its subject
matter.Study things in
their natural setting,
Qualitative Research
involves the studied
use and collection of a
variety of empirical
materials-case
study,personal
experience,
ารวิจย
ั เชิงคุณภาพ (Qualitative Research)
่ กษาคุณลักษณะและ
เป็ นการวิจย
ั ทีศึ
ความหมายของปรากฏการณ์หรือพฤติกรรม
ของมนุ ษย ์ในสังคมจากสภาพแวดล้อมตาม
ความเป็ นจริง มองหลายมิต ิ มองภาพรวม
่
่
่ง
(Holistic) ศึกษาเจาะลึกเรืองใดเรื
องหนึ
ข้อมู ลมีลก
ั ษณะเป็ นนามธรรม เน้น
ความรู ้สึกนึ กคิด ประวัต ิ วิถช
ี วี ต
ิ การ
่
่ ค่านิ ยม
เปลียนแปลง
/ พัฒนาการ ความเชือ
ทัศนคติ
เปรียบเทียบความแตกต่างของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
กับการวิจ ัยเชิงปริมาณ
ข ้อแตกต่าง
การวิจัยเชงิ ปริมาณ
การวิจัยเชงิ คุณภาพ
1.แนวคิดพืน
้ ฐาน
-ปฏิฐานนิยม
-ปรากฏการณ์นย
ิ ม
2.วัตถุประสงค์
ั - พั
-มุง่ วิเคราะห์หาความสม
ตน้องการเข
ธ์
้าใจความหมาย
ึ นึกคิด
ระหว่างตัวอิสระกับตัวแปรตาม
กระบวนการ ความรู ้สก
ื่ มโยงกับบริบทของสงั
โดยเชอ
.การกาหนดสมมุ
ฐิ าน วงหน ้าก่อนหน ้าก่
-กตาหนดล่
-อ
กน
าหนดคร่าวๆพร ้อมที่
ทาการวิจัย จะเปลีย
่ นแปลง ตามสถานการ
4.การคัดเลือกตัวอย่
ง
่ าโดยอาศ
ั การสุม
่ ชนิ
่ ดโดยอาศ
ั การสุม
่ ชนิดทีไ่
-สุม
ย
-สุม
ที่
ย
ทราบโอกาสหรือความน่
ทราบโอกาสหรื
าจะ
อความน่าจะเป
เป็ นทีถ
่ ก
ู เลือก(Probability)
ทีจ
่ ะถูกเลือกเป็ นตัวอย่าง
เปรียบเทียบความแตกต่างของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
กับการวิจ ัยเชิงปริมาณ
ข ้อแตกต่าง
การวิจัยเชงิ ปริมาณ
การวิจัยเชงิ คุณภาพ
5.จานวนตัวอย่าง
-จานวนมาก
-จานวนน ้อย
6.ขอบ เขตการวิ
ึัยษาในวงกว ้างโดยเลื
ึ กษาแนวลึกเฉพาะกลุม
-ศจก
- ศอก
่ ท
เฉพาะกลุม
่ ตัวอย่างทีส
่ ม
ุ่ มา
สนใจ
7.บทบาทของผู-แยกผู
้วิจัย ้วิจัยออกจากเรือ
่ -ผู
งที้วิจ่ ัยเป็ นเครือ
่ งมือในการ
ึ ษา
ศก
ทาวิจัย
8.วิธก
ี ารเก็บข ้อมูล - แบบสอบถาม
ั ภาษณ์
- แบบสม
- การสงั เกต
ั ภาษณ์เจาะลึก
- การสม
-การจัดสนทนากลุม
่
- การบันทึกชวี ประวัตบ
ิ ค
ุ คล
เปรียบเทียบความแตกต่างของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
กับการวิจ ัยเชิงปริมาณ
ข ้อแตกต่าง
การวิจัยเชงิ ปริมาณ
การวิจัยเชงิ คุณภาพ
-วิเคราะห์เชงิ ตรรกเป็ นหลักอา
9.การ วิเคราะห์ ข ้อมู
-วิเลคราะห์เชงิ ปริมาณโดย
มีการวิเคราะห์เชงิ ปริมาณ
้ ตช
ใชสถิ
ิ ว่ ย
ชว่ ยเล็กน ้อย
10.การรายงานผล
-รายงานผลโดยอ -รายงานผลโดยอ
้างสถิต ิ
้างอิงคาพูดห
(Report statistical analysis)
เรือ
่ งราวจริงจากกลุม
่ ตัวอย่าง
(Report rich narrative)
-นาไปใชอ้ ้างอิงแทนประชากร
11.การสรุปผล
-ใชอ้ ้างอิงได ้เฉพาะกลุม
่
ทัง้ หมดได ้
-มีความละเอียดอ่อนในการ
12.ทักษะของนักวิจัย
-มีความสามารถทางสถิต ิ
สงั เกตเก็บรวบรวมข ้อมูล/ตีคว
การเปรียบเทียบคุณลักษณะ
ของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)
และการวิจ ัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research )
เป้ าหมาย
การวิจ ัยเชิงคุณภาพ (
Inductive) อุปนัย
-มุง่ สร ้างทฤษฏี
- มุง่ สร ้างความเข ้าใจ
- มุง่ พรรณนาความจริง
หลายลักษณะ
หลายมิต ิ (Multi dimension)
- มุง่ หาความหมาย (Meaning)
- มุง่ สนใจสภาพการณ์ธรรมชาติ
(Natural Setting)
การวิจ ัยเชิงปริมาณ
(Deductive )นิ รนัย
-มุง่ ทดสอบทฤษฏี
- มุง่ สร ้าง/ หาข ้อเท็จจริง
ั พันธ์ระหว่าง
- มุง่ แสดงความสม
ตัวแปร เหตุ – ผล
-มุง่ บรรยายสภาพเหตุการณ์
- มุง่ การควบคุม (Control)
และทานาย (Predict)
วิธก
ี ารศึกษาวิจ ัย
การวิจ ัยเชิงคุณภาพ
- ไม่เน้นการควบคุมต ัวแปรแทรก
ซ ้อน
การวิจ ัยเชิงปริมาณ
- เน้นการควบคุมต ัวแปรแทรกซ ้อน
(Extraneous Variable)
-- การสังเกตอย่างมีส่วนร่วม
- การสังเกตอย่างไม่มส
ี ่วนร่วม
- การสัมภาษณ์อย่างไม่เป็ นทางการ - การสัมภาษณ์อย่างเป็ นทางการ
(ไม่มโี ครงสร ้าง)
(มีโครงสร ้าง)
- มุ่งการปฏิสม
ั พันธ ์ระหว่าง ผู ว้ จ
ิ ัย
กับผู ใ้ ห้ขอ
้ มู ล
- มุ่งการทดลองสารวจ
- สนใจบรรยากาศระหว่าง เก็บ
รวบรวมข้อมู ล
-ไม่คานึ งถึงบรรยากาศระหว่างการ
เก็บรวบรวมข้อมู ล
การออกแบบการวิจ ัย
การวิจย
ั เชิงคุณภาพ
- ยืดหยุ่น (Flexible)
่
- มีลก
ั ษณะทัวไป
(General)
- ค่อยเป็ นค่อยไป
- ไม่ตอ
้ งระบุสมมติฐานหรืออาจตง้ั
ไว้
่
แล้ว เปลียนแปลงได้
(Working hypothesis)
การวิจย
ั เชิงปริมาณ
่ ก
- มีโครงสร ้าง (Structure) ซึงถู
กาหนดไว้
- มีความเฉพาะเจาะจง (Specific)
- มีแบบแผน
- กาหนดสมมติฐานไว้กอ
่ น
- กาหนดรายละเอียดช ัดเจน
กลุ่มตัวอย่าง
การวิจ ัยเชิงคุณภาพ
- ขนาดเล็ก
- เลือกตัวอย่างตามแนวคิด
(ตามความต้องการความสนใจ
่
เฉพาะเรือง)
- ไม่เน้นความเป็ นต ัวแทน
- ศึกษาเฉพาะกลุ่ม / ชุมชน
การวิจ ัยเชิงปริมาณ
- ขนาดใหญ่
- อาศ ัยกระบวนการสุ่มต ัวอย่าง
(Random
Sampling)
-เน้นการเป็ นต ัวแทน
(Representative)
- ศึกษาหลายกลุ่ม (กลุ่มทดลองกลุ่ม
ควบคุม)
ข้อมู ล
การวิจัยเชงิ
คุณภาพ
- เชงิ คุณลักษณะ(ความคิด
ื่
ความเชอ
ึ
านิยม ทัศนคติ ความรู ้สก
ความพึงพอใจ
ี ง
- เทป เครือ
่ งบันทึกเสย
กล ้องถ่ายรูป
- เน ้นความหมายไม่วัดเป็ น
ตัวเลข
ได ้คาพูด(Verbal)
- เน ้นข ้อมูลตามบริบท
การวิจัยเชงิ
ปริมาณ
- เชงิ ปริมาณ
- เน ้นตัวเลขวัดได ้
- เน ้นเฉพาะข ้อมูลทีเ่ ก็บได ้
- ตัวเลขทีไ่ ด ้จากผู ้ให ้ข ้อมูล
-เก็บข ้อมูลผ่านเครือ
่ งมือ
่
เครืองมื
อ
การวิจัยเชงิ
คุณภาพ
- ตัวผู ้วิจัยเอง(Researcher)
ี ง
- เทป เครือ
่ งบันทึกเสย
กล ้องถ่ายรูป
- บันทึกภาคสนาม(Field
Note)
- เน ้นคน
้ อ
- เน ้นการใชเครื
่ งมือจาก
สภาพจริง
- เน ้นการได ้ข ้อมูลตรงจาก
การวิจัยเชงิ
ปริมาณ
- แบบสอบถาม
แบบสารวจ
แบบสงั เกต
ั ภาษณ์
แบบสม
- เน ้นเอกสาร กระดาษ
- เน ้นการได ้ข ้อมูลผ่าน
เครือ
่ งมือ
การวิเคราะห ์ข้อมู ล
การวิจัยเชงิ
คุณภาพ
- อุปนัย(Inductive)
- วิเคราะห์เชงิ เนือ
้ หา
(Content Analysis)
- อ ้างอิงได ้เฉพาะกรณี
- วิเคราะห์ข ้อมูลระหว่างเก็บ
ข ้อมูลและ
หลังจากเก็บข ้อมูลแล ้ว
- เน ้นกระบวนการ(Process)
การวิจัยเชงิ
ปริมาณ
- นิรนัย(Deductive)
- วิเคราะห์เชงิ สถิตโปรแกรม
- อ ้างอิงได ้ทั่วไป
- วิเคราะห์ข ้อมูลหลังเก็บ
รวบรวมข ้อมูลเสร็จ
เรียบร ้อยแล ้ว
- เน ้นผลทีเ่ กิดขึน
้ (Product)
่
้
ปั ญหาทีอาจเกิ
ดขึน
การวิจัยเชงิ
คุณภาพ
้
- ใชเวลานาน
- เก็บข ้อมูลยาก
- ไม่มก
ี ารควบคุมตัวแปร
ึ ษากับกลุม
- ศก
่ ตัวอย่าง
ขนาดใหญ่
ยากลาบาก
การวิจัยเชงิ
ปริมาณ
้
- ใชเวลาน
้อย
- เก็บข ้อมูลได ้สะดวก
- ควบคุมตัว แปรได ้ยาก
ึ ษากับกลุม
- ศก
่ ตัวอย่างขนาด
เล็กแล ้วทาให ้ขาดความ
ื่ ถือและมีผลต่อการใช ้
เชอ
สถิต ิ
- เน ้นผู ้วิจัยเป็ นสาคัญ
หากผู ้วิจัยขาด
ประสบการณ์ สง่ ผลต่อ
- ข ้อมูลทีไ่ ด ้จากกลุม
่ ตัวอย่าง
่ ้อมูลจริง
อาจไม่ใชข
Quantitative
Mode
Purpose
Qualitative
Mode
Generalizability
 Contextualization
Prediction
Interpretation
Causal
explanation
Approach
Understanding actors’
perspectives
Begins with
hypotheses and
theories
Manipulation
and control
Ends with hypotheses
and grounded theory
Emergence and
portrayal
Quantitative
Mode
Qualitative
Mode
Social facts
have an objective
Primary of
reality
method
Variables can
 Reality is socially
constructed
 Primacy of subject
matter
Variables are complex,
interwoven,
and difficult to measure
 Searches for patterns
Assumptions
be identified and
relationships
measured
Component
analysis
Abstract
language in writeup
 Descriptive write-up
Quantitative
Mode
Use formal
instruments

Experimentation

Deductiv
Component
e
analysis
Abstract
language in writeup
Qualitative
Mode
 Researcher as
instrument
Inductive
 Searches for patterns
 Descriptive write-up
Point of Comparisons
Qualitative Research
Quantitative Research
Qualitative (nature,
Quantity (how much,
Focus of Research
essence)
How many)
Phenomenology,
Positivism,logical
Philosophical roots symbolic
empiricism
interaction
Fieldwork ethnographic,
naturalistic,grounded
Experimental, empirica
Associated phrases
subjective
statistical
Point of Comparisons
Qualitative Research
Quantitative Research
Understanding, Prediction,control,
Goal of investigation
description,discovery
description,confirmatio
hypothesis,generating
hypothesis testing
Design
Flexible evolving, Predetermined,
characteristics
emergent
structured
setting
Sample
nature,familiar
Unfamiliar,
artificial
Small,non-random,Large,random,
theoretical
representative
Data
Subjective
objective
Researcher as primary
Inanimate instruments
Data collection
instrument,interview,
(scales,tests,surveys,
observations
questionnaires,compute
Deductive(by statistica
Mode of analysis
Inductive (by researcher)
methods)
findings
Comprehensive, Precise,narrow,
holistic,expansive reductionist
ลักษณะเชิงกลยุทธ ์ของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
(ปร ับปรุง Patton , 1990, p.40-41)
ลักษณะ
กลยุทธ ์ในการดาเนิ นการวิจ ัย
1. เป็ นการศึกษา ทาการศึกษาปรากฏการณ์ในขณะที่
่ าในสถานที่ เกิดขึนตามธรรมชาติ
้
ทีท
ไม่มก
ี าร
่
ธรรมชาติ
เปลียนแปลง
หรือควบคุมจากนักวิจย
ั เปิ ด
่
้
กว้างสาหร ับทุกอย่างทีอาจเกิ
ดขึนใน
ระหว่างการเก็บข้อมู ล ไม่มก
ี ารกาหนดผล
่
ทีคาดไว้
ล่วงหน้า ไม่วา
่ จะเป็ นในรู ปของ
สมมติฐานหรือตัวแปรก็ตาม
ลักษณะเชิงกลยุทธ ์ของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
(ปร ับปรุง Patton , 1990, p.40-41)
ลักษณะ
่ ง
2. เป็ นการศึกษาทีอิ
ตรรกะแบบอุปนัย
กลยุทธ ์ในการดาเนิ นการวิจ ัย
่ ลงสู ่ขอ
้
นักวิจ ัย “ดาดิง”
้ มู ล ทังในทางลึ
กและทาง
้
่
กว้างทังในรายละเอี
ยดและเฉพาะเจาะจง เพือ
ค้นหาประเภท รู ปแบบ มิต ิ และความสัมพันธ ์ ต่อ
่
ก ันของส่วนต่าง ๆ ทีประกอบก
ันในปรากฏการณ์ท ี่
่ นด้วยคาถามเพือการค้
่
ศึกษา เริมต้
นพบแบบเปิ ด
กว้าง มากกว่ามุ่งจะทดสอบสมมติฐานหรือทฤษฏี
ลักษณะเชิงกลยุทธ ์ของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
(ปร ับปรุง Patton , 1990, p.40-41)
ลักษณะ
3. มุ่งทาความเข้าใจ
อย่างเป็ นองค ์รวม
กลยุทธ ์ในการดาเนิ นการวิจ ัย
้
มองปรากกฎการณ์ทศึ
ี่ กษาทังหมดอย่
างเป็ นองค ์
่ ับซ ้อน และเป็ นองค ์รวมที่
รวม เป็ นระบบทีซ
มากกว่าผลบวกของส่วนย่อยแต่ละส่วน มองว่า
่ ันและก ัน ไม่ลดระด ับ
ส่วนย่อยต่าง ๆ อิงอาศ ัยซึงก
การทาความเข้าใจลงมาเพียงแค่ความสัมพันธ ์
่
เชิงเหตุผลของต ัวแปรทีแยกก
ันเป็ นส่วน ๆ
ลักษณะเชิงกลยุทธ ์ของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
(ปร ับปรุง Patton , 1990, p.40-41)
ลักษณะ
กลยุทธ ์ในการดาเนิ นการวิจย
ั
่
4. ใช้ขอ
้ มู ลเชิง
เก็บข้อมู ลเกียวก
ับประสบการณ์และแนวคิดส่วน
่ นรายละเอียดเชิงพรรณนา เจาะลึก
คุณภาพเป็ นหลัก บุคคล ทีเป็
และตรง
5. คิดต่อแบบมีสว
่ น
ร่วมโดยตรงก ับ
ประชากร
กลุ่มเป้ าหมาย
นักวิจย
ั เข้าไปสัมผัสแบบมีสว
่ นร่วมโดยตรงกับ
ประชากรหรือปรากฏการณ์ทศึ
ี่ กษา นักวิจย
ั เป็ น
่
่ าคัญ ประสบการณ์
เครืองมื
อเก็บข้อมู ลทีส
ทักษะ และวิจารณญาณส่วนตัวของนักวิจย
ั เป็ น
ปั จจัยสาคัญในการทาความเข้าใจ
ปรากฏการณ์ทศึ
ี่ กษา
ลักษณะเชิงกลยุทธ ์ของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
(ปร ับปรุ
ง Patton , 1990,
p.40-41)
ลักษณะ
กลยุท
ธ ์ในการดาเนิ นการวิจย
ั
6. มุ่งทาความเข้าใจ
พลวัตของ
ปรากฏการณ์ท ี่
ศึกษา
้ ศึ
่ กษา มอง
ทาความเข้าใจกระบวนการของสิงที
่
่ เกิ
่ ดขึนตลอดเวลา
้
ว่าการเปลียนแปลงเป็
นสิงที
ไม่ว่าจะเป็ นในระดับบุคคลหรือในระดับ
วัฒนธรรมก็ตาม
7. ให้ความสาคญ
ั แก่
กรณี ทมี
ี่
ลักษณะเฉพาะ
ถือว่าแต่ละกรณี (คน , เหตุการณ์ ฯลฯ) มี
ความสาคญ
ั ทาการศึกษาเฉพาะกรณี อย่างดี
้
ในเบืองต้
น แล้ววิเคราะห ์เปรียบเทียบกรณี
้ เพือท
่ าความเข้าใจปรากฏการณ์
เหล่านัน
้
ทังหมด
คุณภาพของการศึกษาเฉพาะกรณี ม ี
ความสาคญ
ั อย่างมาก
ลักษณะเชิงกลยุทธ ์ของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
(ปร ับปรุ
ง Patton , 1990,
ลักษณะ
กลยุp.40-41)
ทธ ์ในการดาเนิ นการวิจย
ั
8. ให้ความสาคัญแก
่ ่
บริบทของสิงที
ศึกษา
้
ตีความข้อค้นพบบนพืนฐานของบริ
บททาง
สังคม ประวัตศ
ิ าสตร ์ และเงื่อนไขของเวลาและ
สถานที่ มองว่าการนาข้อค้นพบไปปร ับใช้ใน
่ แตกต่
่
่ ต้
่ องระวังเพราะมี
บริบทอืนที
างก ันเป็ นสิงที
ความเป็ นไปได้น้อย
9. มีการออกแบบการ
่ ดหยุน
วิจย
ั ทียื
่
ออกแบบการวิจย
ั แบบเปิ ดกว้างไว้สาหร ับความ
่
่
้
่
เปลียนแปลงที
อาจจะเกิ
ดขึนเพื
อให้
สามารถลง
่ ด หลีกเลียงการออกแบบที
่
่
ลึกให้มากทีสุ
มี
่
โครงสร ้างอย่างเข้มงวด ซึงจะไม่
ให้โอกาส
่
่
ติดตาม เจาะลึก และค้นหาสิงใหม่
ๆ ทีอาจจะ
้
เกิดขึนในขณะเก็
บข้อมู ล
ลักษณะเชิงกลยุทธ ์ของการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
(ปร ับปรุง Patton , 1990, p.40-41)
ลักษณะ
่
10. ใช้เครืองมื
อในการ
วิจ ัยหลากหลายแต่
นักวิจ ัยเป็ น
่
เครืองมื
อสาค ัญ
่ ดใน
ทีสุ
กระบวนการวิจ ัย
กลยุทธ ์ในการดาเนิ นการวิจ ัย
่
ธรรมชาติของเครืองมื
อสาหร ับรวบรวมข้อมู ลเชิง
่ งคร ัด สามารถปร ับได้ตาม
คุณภาพไม่มโี ครงสร ้างทีเคร่
้
ความเหมาะสมแหล่งข้อมู ลและสถานการณ์ จึงขึนอยู
่
ก ับนักวิจ ัยผู ใ้ ช้วธ
ิ ก
ี ารอย่างมากอย่างมาก นักวิจ ัยต้อง
่
่ และมีทก
แม่นในหลักการของเครืองมื
อทีใช้
ั ษะในการ
้ ๆ อย่างเพียงพอ
ใช้วธ
ิ ก
ี ารนัน
่
่
เมือไรควรใช้
เมือไรไม่
ควรใช้วธ
ิ ก
ี ารเชิง
คุณภาพ
ควรใช้
ไม่ควรใช้
่ องการค้นหา
- เมือต้
่
ประเด็นใหม่ ๆ ของเรือง
่
่ง
ใดเรืองหนึ
่ งที
่ ต้
่ องการทราบคือ แนวโน้มของ
- เมือสิ
่
่
่ ง เช่น พฤติกรรม
เครืองใดเรื
องหนึ
เหตุการณ์ ปรากฏการณ์
่ องการเข้าใจ
- เมือต้
ความหมายหรือ
กระบวนการของการ
กระทาหรือปรากการณ์
่ องการพิสูจน์สมติฐานหรือทฤษฏี
-เมือต้
่
่
เมือไรควรใช้
เมือไรไม่
ควรใช้วธ
ิ ก
ี ารเชิง
คุณภาพ
ควรใช้
ไม่ควรใช้
่ องการหาความรู
- เมือต้
้
่
เบืองต้
นเพือสร
้าง
สมมติฐาน หรือสร ้าง
แบบสอบถาม สาหร ับการ
วิจย
ั เชิงปริมาณใน
ภายหลัง
่
้ านวยทีจะให้
่
- เมือสถานการณ์
ไม่เอืออ
นก
ั วิจย
ั
ติดต่อหรือมีสว
่ นร่วมกับประชากรเป้ าหมาย
อย่างใกล้ชด
ิ
่ องการตรวจสอบ
- เมือต้
หรือหาคาอธิบายสาหร ับ
ข้อค้นพบจากการวิจย
ั เชิง
ปริมาณ
่
-เมือเห็
นว่าการวิจย
ั เชิงปริมาณนาจะให้คาตอบ
ทีตอ
้ งการได้ดก
ี ว่า
่
่
เมือไรควรใช้
เมือไรไม่
ควรใช้วธ
ิ ก
ี ารเชิง
คุณภาพ
ควรใช้
่
- เมือสถานการณ์
หรือ
ประชากรเป้ าหมายใน
่
การศึกษาไม่เหมาะทีจะ
ให้การวิจ ัยเชิงปริมาณ
ไม่ควรใช้
- เพียงเพราะคิดไม่ออกว่าจะใช้วธ
ิ ใี ดดี หรือ
เพราะคิดว่าวิธก
ี ารเชิงคุณภาพน่ าจะง่ ายกว่า
่ งไม่แน่ ใจว่าต ัวเองมีความเข้าใจใน
หรือเมือยั
้ พอ วิธก
วิธก
ี ารนี ดี
ี ารเชิงคุณภาพอาจไม่ง่าย
่ ด
อย่างทีคิ
ข้อได้เปรียบและข้อจากัดของการวิจย
ั
เชิงคุณภาพ
ข้อได้เปรียบ
ข้อจากัด
- เป็ นการศึกษากลุ่มตัวอย่าง - ไม่เหมาะสาหร ับการศึกษากลุ่มตัวอย่างขนาด
ขนาดเล็กนักวิจ ัยสามารถ
ใหญ่
่ องการ
ลงลึกได้มากตามทีต้
- มีความยืดหยุ่นในการ
่
ออกแบบ การใช้เครืองมื
อ
สาหร ับเก็บข้อมู ล และการ
ดาเนิ นการวิจ ัย
-เพราะมีความยืดหยุ่นในการดาเนิ นการวิจย
ั หาก
นักวิจ ัยไม่มป
ี ระสบการณ์เพียงพอ อาจมีปัญหาใน
่
่ อ (reliability) ของการใช้
เรืองความน่
าเชือถื
่
เครืองมื
อและความถู กต้องแม่นตรงของผล
การศึกษา (validity)
ข้อได้เปรียบและข้อจากัดของการวิจย
ั
เชิงคุณภาพ
ข้อได้เปรียบ
ข้อจากัด
- สามารถใช้ขอ
้ มู ลได้
หลากหลายชนิ ด ทัง้
เชิงคุณภาพ และเชิง
่
ปริมาณในเรือง
เดียวกัน
- การเลือกตัวอย่างในการศึกษาแบบ
เจาะจง ทาให้มข
ี อ
้ จากัดในการนาผล
การศึกษาไปใช้ในวงกว้าง
(generalization)
- ใช้วธ
ิ เี ก็บข้อมู ลได้
หลายวิธใี นงานวิจย
ั
่
เรืองเดี
ยวกัน
่ กระบวนการดาเนิ นการ
-เป็ นการวิจย
ั ทีมี
่ อนข้างจะเป็ นอ ัตวิสย
ทีค่
ั
ข้อได้เปรียบและข้อจากัดของการวิจย
ั
เชิงคุณภาพ
ข้อได้เปรียบ
ข้อจากัด
่ ความสาคัญแก่
-เป็ นการวิจ ัยทีให้
-ไม่เหมาะสาหร ับใช้ทดสอบสมมติฐานหรือ
ความเป็ นมนุ ษย ์ของผู ถ
้ ู กศึกษา ใน ทดสอบแนวความคิดทฤษฏี
การดาเนิ นการวิจ ัยเชิงคุณภาพ
ความสัมพันธ ์ระหว่างนักวิจ ัยกับกลุ่ม
ตัวอย่างมีความสาค ัญ กลุ่มตัวอย่าง
ไมใช่เพียงผู ถ
้ ู กกระทา (research
subjects) แต่เป็ นผู ม
้ ส
ี ่วนร่วม
(participants) วิจ ัย
เปรียบเทียบจุดยืนด้านต่าง ๆ ของกระบวน
ทัศน์ปฏิฐานนิ ยม กับกระบวนทัศน์ทางเลือก
มิตเิ ปรียบเทียบ
กระบวนทัศน์ปฏิฐานนิ ยม
กระบวนทัศน์ทางเลือก
-ธรรมชาติของความ
จริง / ความรู ้
(ภววิทยา)
ความจริง / ความรู ้ มีอยูด
่ ้วยตัว
ของมันเองเป็ นอิสระจากผู ้รู ้ เป็ น
ั มีคณ
วัตถุวส
ิ ย
ุ สมบัตเิ ป็ นกฏทั่วไป
และมีเพียงหนึง่ เดียว
ความจริง/ความรู ้ เป็ นสงิ่ ที่
ถูกสร ้างขึน
้ มา อาจมี
หลากหลายมีคณ
ุ สมบัต ิ
ั ขึน
เป็ นอัตวิสย
้ อยูก
่ บ
ั บริบท
ดังนั น
้ จึงมีลก
ั ษณะจาเพาะ
เจาะจง
-- ความสัมพันธ ์ระหว่าง
่ ถู
่ กรู ้ (ญาณ
ผู ร้ ู ้ก ับสิงที
วิทยา)
ผู ้รู ้กับสงิ่ ทีถ
่ ก
ู รู ้ เป็ นสองสว่ นที่
แยกจากกันและเป็ นอิสระต่อกัน
ผู ้รู ้กับสงิ่ ทีถ
่ ก
ู รู ้ เป็ นสอง
สว่ นทีไ่ ม่สามารถแยกจาก
ั พันธ์
กันได ้ ทัง้ สองมีปฏิสม
และต่างก็มอ
ี ท
ิ ธิพลต่อกัน
และกัน
เปรียบเทียบจุดยืนด้านต่าง ๆ ของกระบวนทัศน์ปฏิ
ฐานนิ ยม กับกระบวนทัศน์ทางเลือก
มิตเิ ปรียบเทียบ
กระบวนทัศน์ปฏิฐานนิ ยม
กระบวนทัศน์ทางเลือก
-วิธก
ี ารเข้าถึง
ความจริง / ความรู ้
(วิธวี ท
ิ ยา)
ใชวิ้ ธท
ี น
ี่ ั กวิจัยสามารถควบคุมหรือ
ึ ษาได ้ เชน
่ วิธก
จัดการกับสงิ่ ทีศ
่ ก
ี าร
ทดลองหรือวิธก
ี ารเชงิ ปริมาณ
กระบวนการวิจัยดาเนินไปแบบนิร
นั ย
ใชวิ้ ธก
ี ารเชงิ คุณภาพหลาย
แบบนั กวิจัยเข ้าไปมีสว่ นร่วม
โดยตรงในสถานการณ์ หรือ
ึ ษา ใช ้
กับประชาชนผู ้ถูกศก
ตรรกะแบบอุปนั ยเป็ นหลัก มี
การออกแบบการวิจัย
- ความสัมพันธ ์
เชิงเหตุผลในการ
วิจ ัย
ั พันธ์เชงิ เหตุผล
การโยนความสม
เป็ นสงิ่ ทีเ่ ป็ นไปใด ้ สาเหตุกบ
ั ผล
ั พันธ์กน
้
สม
ั ในลักษณะเป็ นเสนตรง
สาเหตุมาก่อนผล หรืออย่างน ้อย
สาเหตุกบ
ั ผลก็เกิดขึน
้ ในเวลา
ไล่เลีย
่ หรือพร ้อมกัน
สรรพสงิ่ ย่อมอยูใ่ นฐานะทีจ
่ ะ
ผลกระทบต่อกันและกันได ้
สาเหตุกบ
ั ผลไม่ได ้แยกขาด
ิ้ เชงิ
จากกันโดยสน
ั พันธ์ระหว่างสาเหตุ
ความสม
ั พันธ์เชงิ
กับผลเป็ นความสม
พหุ
เปรียบเทียบจุดยืนด้านต่าง ๆ ของกระบวนทัศน์ปฏิ
ฐานนิ ยม กับกระบวนทัศน์ทางเลือก
มิตเิ ปรียบเทียบ
กระบวนทัศน์ปฏิฐานนิ ยม
กระบวนทัศน์ทางเลือก
- บทบาทของ
ค่านิ ยม / อคติใน
การวิจ ัย
การวิจัย เป็ นกระบวนการทีต
่ ้อง
ดาเนินไปอย่างปราศจากค่านิยม
ั จะชว่ ยให ้
วิธก
ี ารทีเ่ ป็ นวัตถุวส
ิ ย
บรรลุถงึ ความปราศจากค่านิยม
หรืออคติได ้
การวิจัย เป็ นกระบวนการที่
หนีไม่พ ้นค่านิยมและอคติ
ซงึ่ อาจมาจากภายในตัว
นั กวิจัย หรือจากบริบท
ภายนอกนั กวิจัยก็ได ้
-- สามัญการ
จุดมุง่ หมายของการวิจัยคือ การ
พัฒนาองค์ความรู ้แบบเป็ นกฎที่
้ ้ทั่วไป (สามัญการได ้)
ใชได
จุดมุง่ หมายของการวิจัย
คือการพัฒนาองค์ความรู ้ที่
เฉพาะเจาะจงในรูปของ
สมมติฐานเชงิ ปฏิบัตก
ิ ารที่
้
มุง่ เพือ
่ ใชเฉพาะกรณี
เป็ น
หลัก
จุดยืนด้านต่าง ๆ ของกระบวนทัศน์ทางเลือก กับ
นั
ต่อวิธด
ี ศาเนิ
จ ัย
มิตย
ท
ิ างกระบวนทั
น์ นการวิ
จุดยืนของกระบวนทั
ศน์
นัยต่อวิธด
ี าเนิ นการวิจ ัย
ทางเลือก
-ธรรมชาติความจริง ความจริง/ ความรู ้เป็ นสงิ่ ทีถ
่ ก
ู
/ ความรู ้
สร ้างขึน
้ มาอาจมีหลากหลาย มี
ั ขึน
คุณสมบัตเิ ป็ นอัตวิสย
้ อยูก
่ บ
ั
(ภววิทยา)
บริบท ดังนั น
้ จึงมีลก
ั ษณะจาเพาะ
เจาะจง
(ตัวอย่าง)
เนือ
่ งจากความจริง /
ความรู ้ขึน
้ อยูก
่ บ
ั บริบท การ
เริม
่ ต ้นกระบวนการวิจัยด ้วย
สมมติฐานไม่ใชว่ ธิ ก
ี ารทีด
่ ี
ทีส
่ ด
ุ สมมติฐานควรจะ
สร ้างมาจากข ้อมูลโดยตรง
่ งั ้ มาก่อนการมีข ้อมูล
ไม่ใชต
การวิจัยไม่ได ้มุง่ เพือ
่ พิสจ
ู น์
สมมติฐาน แต่มงุ่ สร ้าง
สมมติฐานเพือ
่ การทดสอบ
ในภายหลัง
จุดยืนด้านต่าง ๆ ของกระบวนทัศน์ทางเลือก กับ
นั
ต่อวิธด
ี ศาเนิ
จ ัย ศน์ทางเลือก นัยต่อวิธดี าเนินการวิจยั
มิตย
ท
ิ างกระบวนทั
น์ จุน
ดยืการวิ
นของกระบวนทั
(ตัวอย่าง)
-สามัญการ
จุดมุง่ หมายของการวิจัยคือ การ
พัฒนาองค์ความรู ้ทีเ่ ฉพาะเจาะจง
ในรูปของสมมติฐานเชงิ ปฏิบต
ั ก
ิ ารที่
้
มุง่ เพือ
่ นาไปใชเฉพาะกรณี
เป็ นหลัก
ชใี้ ห ้เห็นในรายงานการวิจัย
ว่าผล ทีไ่ ด ้อาจมีข ้อจากัด
เชงิ สามัญการอย่างไร
ผลการวิจัยน่าจะเป็ นจริง
อย่างไร ผลการวิจัยน่าจะ
เป็ นจริงในสถานการณ์ และ
เงือ
่ นไขอย่างไร
จุดยืนด้านต่าง ๆ ของกระบวนทัศน์ทางเลือก กับ
นัยต่อวิธด
ี าเนิ นการวิจ ัย
มิตท
ิ างกระบวนทัศน์
จุดยืนของกระบวนทัศน์
ทางเลือก
-ความสัมพันธ ์
ผู ้รู ้กับสงิ่ ทีถ
่ ก
ู รู ้ เป็ นสองสว่ นทีไ่ ม่
่ ถู
่ กรู ้ สามารถแยกจากกันได ้ ทัง้ สองมี
ระหว่างผู ร้ ู ้ก ับสิงที
ั พันธ์และต่างก็มอ
ปฏิสม
ี ท
ิ ธิพลต่อ
- (ญาณวิทยา)
กันและกัน
นัยต่อวิธด
ี าเนิ นการวิจ ัย
(ตัวอย่าง)
ั พันธ์ระหว่าง
ความสม
นั กวิจัยกับผู ้ถูกวิจัย เป็ น
กุญแจสาคัญของการ
เข ้าถึงข ้อมูลทีถ
่ ก
ู ต ้องแม่น
ตรง แต่ ก็จะต ้องระวังไม่ให ้
ั พันธ์ท ี่ “ดีเกินไป”
ความสม
เป็ นอุปสรรคต่อการเก็บ
ข ้อมูล
จุดยืนด้านต่าง ๆ ของกระบวนทัศน์ทางเลือก กับ
นัยต่อวิธด
ี าเนิ นการวิจ ัย
มิตท
ิ างกระบวนทัศน์
จุดยืนของกระบวนทัศน์
ทางเลือก
นัยต่อวิธด
ี าเนิ นการวิจ ัย
(ตัวอย่าง)
-วิธก
ี ารเข้าถึงความ
จริง / ความรู ้ (วิธ ี
วิทยา)
ใชวิ้ ธก
ี ารเชงิ คุณภาพหลายแบบ
นั กวิจัยเข ้าไปมีสว่ นร่วมโดยตรง
ในสถานการณ์หรือกับประชาชนผู ้
ึ ษา ใชตรรกะแบบอุ
้
ถูกศก
ปนั ยเป็ น
หลักมีการออกแบบการวิจัยที่
ยืดหยุน
่
นั กวิจัยเป็ นเครือ
่ งมือสาคัญ
ในการเก็บข ้อมูล, การ
สงั เกตการณ์แบบมีสว่ นร่วม
หรือวิธก
ี ารอืน
่ ทีเ่ ปิ ดโอกาส
้
ั พันธ์
ให ้นั กวิจัยใชความส
ม
แบบไม่เป็ นทางการ เป็ น
ื่ มไปสูก
่ ารได ้
สะพานเชอ
ข ้อมูลทีด
่ ี
จุดยืนด้านต่าง ๆ ของกระบวนทัศน์ทางเลือก กับ
นั
ต่อวิธด
ี ศาเนิ
จ ัย ศน์ทางเลือก นัยต่อวิธดี าเนินการวิจยั
มิตย
ท
ิ างกระบวนทั
น์ จุน
ดยืการวิ
นของกระบวนทั
(ตัวอย่าง)
-ความสัมพันธ ์ เชิง
เหตุผล ในการวิจ ัย
สรรพสงิ่ ย่อมอยูใ่ นฐานะทีจ
่ ะมีผล
กระทบต่อกันและกันได ้ สาเหตุกบ
ั
ิ้ เชงิ
ผลไม่ได ้แยกจากกันโดยสน
ั พันธ์ระหว่างสาเหตุกบ
ความสม
ั ผล
ั พันธ์เชงิ พหุ
เป็ นความสม
ึ ษาวิเคราะห์อย่างเป็ นองค์
ศก
รวมมุง่ ทาความเข ้าใจ
ความหมาย และ การอธิบาย
มากกว่าพิสจ
ู น์หา
ั พันธ์เชงิ เหตุผล
ความสม
ระหว่างปั จจัยต่าง ๆ
จุดยืนด้านต่าง ๆ ของกระบวนทัศน์ทางเลือก กับ
นั
ต่อวิธด
ี ศาเนิ
จ ัย ศน์ทางเลือก นัยต่อวิธดี าเนินการวิจยั
มิตย
ท
ิ างกระบวนทั
น์ จุน
ดยืการวิ
นของกระบวนทั
(ตัวอย่าง)
-บทบาทของค่านิ ยม / การวิจัย เป็ นกระบวนการทีห
่ นีไม่
อคติในการวิจ ัย
พ ้นค่านิยมและอคติ ซงึ่ อาจมาจาก
ภายในตัวนั กวิจัยหรือจากบริบท
ภายนอกตัวนั กวิจัยก็ได ้
นั กวิจัยเปิ ดเผยให ้ผู ้อ่าน
ผลการวิจัยเห็นว่า มีคา่ นิยม
หรืออคติอะไร ในการวิจัย
แยกการตีความของผู ้ถูก
ึ ษาออกจากการตีความ
ศก
ของนั กวิจัย เพือ
่ ไม่ให ้ผู ้อ่าน
ั สน
สบ
แนวทางการดาเนิ นการวิจย
ั
แบบอุปนัย
สมมติฐาน,คาอธิบาย
ข้อสรุปเชิง ทฤษฎี
่ เป็
่ นกฎทัวไป)
่
(สิงที
อุปนัย
เชิงคุณภาพ
ข้อมู ล,ข้อเท็จจริง,
หลักฐานเชิงประจก
ั ษ์
่
(ข้อมู ลทีเฉพาะเจาะจง)
กรอบแนวคิด,ทฤษฎี,
สมมติฐาน
่ เป็
่ นกฎทัวไป)
่
(สิงที
เชิงปริมาณ
นิ รนัย
ข้อมู ล,ข้อเท็จจริง,
หลักฐานเชิงประจักษ ์
่
(ข้อมู ลทีเฉพาะเจาะจง)