์ ญ ้ำ) POACEAE (วงศห ลำต ้นเป็ นข ้อ (Node) ลำต ้นกลมและเป็ นรูกลวง (Stem round and hole)
Download ReportTranscript ์ ญ ้ำ) POACEAE (วงศห ลำต ้นเป็ นข ้อ (Node) ลำต ้นกลมและเป็ นรูกลวง (Stem round and hole)
์ ญ ้ำ) POACEAE (วงศห ลำต ้นเป็ นข ้อ (Node) ลำต ้นกลมและเป็ นรูกลวง (Stem round and hole) ์ ก) CYPERACEAE (วงศก ลำต ้นตัดขวำงเป็ นรูปสำมเหลีย ่ มและไม่กลวง ์ งิ ) ZINGIBERACEAE (วงศข ใบเรียง 2 ระนำบ มีหใู บ (ligule) เป็ นแผ่น ั บำงๆ เห็นได ้ชด ์ งิ ) ZINGIBERACEAE (วงศข ใบเรียง 2 ระนำบ ั มี ligule เห็นได ้ชด ์ งิ ) ZINGIBERACEAE (วงศข ลักษณะดอกในสกุลเข ้ำพรรษำ Globba ์ งิ ) ZINGIBERACEAE (วงศข สกุลขิง Zingiber กระทือใต ้ Zingiber peninsulare สกุลขมิน ้ Curcuma กระเจียวขำว Curcuma parviflora กระเจียวใบกว ้ำง* Curcuma latifolia สกุลกระวำน Amomum ปลำยใบเป็ นหำงยำวและบิด Amomum maximum ข่ำน้ ำ Alpinia mutica COSTACEAE (วงศเ์ อือ ้ งหมำยนำ) มี ligule เหมือนกันแต่ใบเรียงเวียน เอือ ้ งหมำยนำ Costus speciosus ์ อน) ARACEAE (วงศบ ่ ดอกมีใบประดับขนำดใหญ่ (spathe) รองรับ ชอ กระดำดขำว Colocasia gigantea ์ อน) ARACEAE (วงศบ บอน Colocasia esculenta ์ อน) ARACEAE (วงศบ Pothos sp. ระงดกล ้วย Epipremnum giganteum ว่ำนขันหมำก Aglaonema sp. ผักหนำม Lasia spinosa ์ ลอย) DIOSCOREACEAE (วงศก เป็ นไม ้เลือ ้ ย ใบคล ้ำยใบเลีย ้ งคู่ เป็ น 3 ใบ ์ วั่ คล ้ำยวงศถ บำงชนิดมีตม ุ่ คล ้ำยหนำมตำมลำต ้น มีหวั ผลเป็ น 3 ปี ก กลอย Dioscorea hispida ์ ลอย) DIOSCOREACEAE (วงศก มันเสำ Dioscorea alata ์ ล ้วยไม ้ ) ORCHIDACEAE (วงศก สงั เกตลักษณะโครงสร ้ำงของดอก มีสว่ นทีค ่ ล ้ำยหัว Pseudo bulb ่ ำต ้นทีแ ซงึ่ ไม่ใชล ่ ท ้จริง ANNONACEAE (วงศไ์ ม ้กระดังงำ) ใบเดีย ่ ว •ไม ้ยืนต ้น ไม ้เถำ ไม ้ล ้มลุก •ไม่มน ี ้ ำเลีย ้ ง •ไม่มห ี ใู บ กลำย Mitrephora keithii ั ้ ๆ ละ 3 กลีบ ดอกเรียงเป็ นชน ANNONACEAE (วงศไ์ ม ้กระดังงำ) ้ ศมีในเนือ มีเสนรั ้ ไม ้ กลำย Mitrephora keithii กลึงกล่อม Polyalthia suberosa ี ้ ำตำล หยำบคล ้ำยกำบมะพร ้ำว เปลือกในมีแถบสน สกุลกำระเวก Artabotrys มีตะขอ และดอกออกทีป ่ ลำยตะขอ กระดังงำจีน Artabotrys hexapetalus สกุลชงิ ดอกเดียว Goniothalamus สงั เกตลักษณะ กระจุกดอกเหมือน มือเปิ บ ปำหนันหิน Goniothalamus sp. ์ น SAPINDACEAE (วงศล ิ้ จี)่ สว่ นใหญ่มป ี ลำยก ้ำนใบยืน ่ ล้ำออกมำ มะหวด Lepisanthes rubiginosa คอแลน Nephelium hypoleucum คงคำเดือด Arfeuillea arborescens ์ น SAPINDACEAE (วงศล ิ้ จี)่ ผลออกเป็ นคู่ อำจฝ่ อ 1 โต 1 ่ เงำะ ลิน เชน ้ จี่ ์ ระยงค์ป่ำ) MELIACEAE (วงศป ใบประกอบปลำยใบคี่ ผลไม่เป็ น lobe เหมือน Sapindaceae ไม่มห ี ใู บ ์ ำงสำด MELIACEAE วงศล ใบอ่อนเป็ นเกล็ดและงอ ้ เหมือนชอน ์ ระยงค์ป่ำ) MELIACEAE (วงศป ์ ระยงค์ป่ำ) MELIACEAE (วงศป ์ ม) ้ RUTACEAE (วงศส กำจัดเครือ Zanthoxylum nitidum มีตอ ่ มน้ ำมันเป็ นจุดใสกระจำยตำมผลและใบ มักเป็ นน้ ำมันหอมระเหย ์ ม) ้ RUTACEAE (วงศส ์ ม) ้ RUTACEAE (วงศส ั ปก Glycosmis pentaphylla เขยตำยแม่ยำยชก ใบประกอบ ไม่มห ี ใู บ ์ ำงนำ) DIPTEROCARPACEAE (วงศย ไม ้ยืนต ้นเท่ำนัน ้ มีขนรูปดำว (Stellate hairs) ใบเดีย ่ ว เรียงสลับ ขอบใบเรียบ มีหใู บ ผลมี 5 ปี ก ยำงวำด Dipterocarpus chartaceus DIPTEROCARPACEAE (วงศไ์ ม ้ตะเคียน) สกุล Dipterocarpus ้ เสนใบย่ อย เรียงขนำนกัน เปลือกใน มีกลิน ่ เฉพำะตัว ั สน คล ้ำยกลิน ่ ชน ยำงวำด Dipterocarpus chartaceus DIPTEROCARPACEAE (วงศไ์ ม ้ตะเคียน) สกุลกระบำก (Anisoptera) ั ้ 3 ในปี ก ผลมีปีกยำว 2 สน ยำวมี เสน้ เพียง 3 เสน้ ไทยมี 3 ชนิด แยกกันทีข ่ นบนใบ ้ วง Anisoptera scaphula ชำม่ DIPTEROCARPACEAE (วงศไ์ ม ้ตะเคียน) สกุลไข่เขียว (Parashorea) ผลมีปีกยำว 5 ปี ก ยำวเท่ำกัน ไข่เขียว Parashorea stellata DIPTEROCARPACEAE (วงศไ์ ม ้ตะเคียน) สกุลไข่เขียว (Parashorea) ต ้นเปลำตรงเปลือกเรียบเป็ นมัน ให ้จำสเี ปลือกในคล ้ำยสไี ข่สงั ขยำ DIPTEROCARPACEAE (วงศไ์ ม ้ตะเคียน) สกุลพันจำ (Vatica) ั ตำมขวำง เปลือกต ้นเป็ นสน ์ ำงนำ ผลคล ้ำยวงศย ปูเล Gyrocarpus americanus วงศ ์ HERNANDIACEAE ์ น APOCYNACEAE (วงศต ี เป็ ด ) ดอกตูมบิดเวียน เหมือนไอติม ี ำว มียำงสข ใบมักออกตรงกันข ้ำม ลัน ่ ทม Plumeria sp. ื่ ม กลีบดอก 5 กลีบ เชอ ติดกันแต่ปลำยแยกและเกย ้ ซอนเวี ยนเป็ นรูปกังหัน ์ อกรัก (ASCLEPIDACEAE) ทีค ่ ล ้ำยกันคือวงศด โมกแดง Wrightia dubia ฝั กคู่ แตกข ้ำงเดียว โมกแดง Wrightia dubia ์ อกรัก ) ASCLEPIADACEAE (วงศด ี ำวเหมือนกัน มียำงสข ฝั กออกคูแ ่ ละแตกข ้ำง เหมือนกัน ไฟเดือนห ้ำ Asclepias curassavica ์ อกรัก) ASCLEPIDACEAE (วงศด แต่ดอกตูมไม่เป็ นเกลียวไอติม ้ และดอกบำนไม่ซอนกั น ไฟเดือนห ้ำ Asclepias curassavica ์ อกรัก) ASCLEPIDACEAE (วงศด หัวใจทศกัณฐ์ Hoya kerrii ์ อกรัก) ASCLEPIDACEAE (วงศด รักดอก Calotropis gigantea MYRISTICACEAE (วงศเ์ ลือดควำย) เป็ นไม ้ยืนต ้นเท่ำนัน ้ ั เปลือกจะมีน้ ำเลีย ี ดง ไม่ข ้น ไม่เหนียว เมือ ่ สบ ้ งสแ ์ บำ) MALVACEAE (วงศช กลีบดอก 5 กลีบ เกสรเพศเมีย 3 อัน ก ้ำนชูเกสรยำว เกสรเพศผู ้ จำนวนมำก ชบำ Hibiscus rosa-sinensis ์ บำ) MALVACEAE (วงศช ์ บำ) MALVACEAE (วงศช เสง้ Urena lobata RUBIACEAE (วงศเ์ ข็ม) ื่ มติดกัน (interpetiolar stipules) มีหใู บเชอ ั ทีป Mitragyna sp. สกุลนีห ้ ใู บชด ่ ลำยยอด รูปใบพำย RUBIACEAE (วงศเ์ ข็ม) ื่ มติดกัน (interpetiolar stipules) มีหใู บเชอ กระท่อม Mitragyna speciosa RUBIACEAE (วงศเ์ ข็ม) ื่ มติดกัน มีหใู บเชอ (interpetiolar stipules) เข็ม Ixora sp. RUBIACEAE (วงศเ์ ข็ม) สกุลยอ (Morinda) ให ้จำลักษณะของผล Morinda scabrida RUBIACEAE (วงศเ์ ข็ม) สกุลเกีย ่ วชู ้ (Uncaria) ก๊ำย Uncaria calophylla มีตะขอ 2 อันออกจำกข ้อใบ มีตะขอ 2 อันออกจำกข ้อใบ สกุลเกีย ่ วชู ้ (Uncaria) RUBIACEAE (วงศเ์ ข็ม) ั เี หลืองหุม สกุลคำมอก (Gardenia) ปลำยยอดมีชนส ้ คำมอกหลวง Gardenia sootepensis RUBIACEAE (วงศเ์ ข็ม) สกุลข้ำวสำรป่ำ (Pavetta) เกสรต ัวเมียยำว ข ้ำวสำรป่ ำ Pavetta tomentosa RUBIACEAE (วงศเ์ ข็ม) สกุลกรำมหิน (Lasianthus) RUBIACEAE (วงศเ์ ข็ม) สกุลกรำมหิน (Rothmannia) Rubiaceae (วงศ์ เข็ม) สกุลใบต่ำงดอก Mussaenda EUPHORBIACEAE วงศใ์ หญ่ทส ี่ ด ุ ใบเดีย ่ ว เรียงสลับ ผลแห ้งแตกเป็ น 3 พู ลังแข Baccaurea macrophylla ่ ง ผลเป็ น 3 lobe หรือเป็ น 3 ชอ ั เจนทีป มักมีหใู บปรำกฏชด ่ ลำยยอด มะเม่ำ Antidesma sp. EUPHORBIACEAE สกุลเปล ้ำ Croton มีขนรูปดำว หรือ มีเกล็ดขำวๆ มีตอ ่ มทีโ่ คนใบ เปล ้ำหลวง Croton roxburghii Euphorbiaceae Usually with stellate hairs or scales also with paired glands at the base of the leaf ต่อม เกล็ด (scale) สกุล Croton เมือ ่ ขยีใ้ บอ่อน หรือสว่ นของเปลือกใน จะมีกลิน ่ เฉพำะตัวคล ้ำยกลิน ่ น้ ำนม EUPHORBIACEAE ใบใหญ่ 3 lobes สกุล Macaranca เต ้ำหลวง Macaranga sp. EUPHORBIACEAE สกุลมะขำมป้ อม Phyllanthus EUPHORBIACEAE แขนงพร ้อย Phyllanthus collinsae ์ ะม่วง) ANACARDIACEAE (วงศม Leaves - simple or compound - alternate , spiral or whorled - pinnate or trifoliate -usually entire - petioles swollen at base. No stipules ี ำ ยำงขำวหรือใสเมือ ่ แห ้งเป็ นสด ์ ะม่วง) ANACARDIACEAE (วงศม ผลในสกุล Semecarpus FAGACEAE (วงศไ์ ม ้ก่อ) เนือ ้ ไม ้ปรำกฏเป็ นร่ำงแห FAGACEAE (วงศไ์ ม ้ก่อ) สงั เกตลักษณะของเปลือกนอก FAGACEAE (วงศไ์ ม ้ก่อ) สกุลก่อนก (Lithocarpus) ั แข็งทิม เปลือกด ้ำนในเป็ นสน ่ เนือ ้ ไม ้ ขอบใบเรียบ ยอดผลแหลม FAGACEAE (วงศไ์ ม ้ก่อ) สกุลก่อนก (Lithocarpus) ั แข็งทิม เปลือกด ้ำนในเป็ นสน ่ เนือ ้ ไม ้ ขอบใบเรียบ ยอดผลแหลม FAGACEAE (วงศไ์ ม ้ก่อ) ั แข็งทิม สกุลก่อหนำม (Castanopsis) เปลือกด ้ำนในไม่เป็ นสน ่ เนือ ้ ไม ้ ขอบใบเรียบ ผลเป็ นหนำมแข็งหุ ้ม FAGACEAE (วงศไ์ ม ้ก่อ) ั แข็งทิม สกุลก่อตลับ (Quercus) เปลือกด ้ำนในเป็ นสน ่ เนือ ้ ไม ้ตำมยำว ขอบใบหยัก ปลำยผลเป็ นตุม ่ เล็กหรือขยำยกว ้ำงออก EBENACEAE (วงศม์ ะเกลือ) เปลือกนอกดำ ถำกเหลือง ใบเดีย ่ ว เรียงสลับ มักมีตอ ่ มกระจำยตำมผิวใบ พญำรำกดำ Diospyros rubra ์ ั่ว) LEGUMINOSAE (วงศถ Caesalpinioideae Mimosoideae Papilionoideae Leguminosae (วงศ์ ถั่ว) มักจะหุบใบในตอนกลางคืน Leguminosae (วงศ์ ถั่ว) มักจะหุบใบในตอนกลางคืน ์ ั่ว) LEGUMINOSAE (วงศถ เมล็ดติดฝั ก แตกออก 2 ฝำ สงั เกตสกุลย่อยทีโ่ ครงสร ้ำงของดอก ์ ั่ว) LEGUMINOSAE (วงศถ Papilionoideae ์ ั่ว) LEGUMINOSAE (วงศถ CAESALPINIOIDEAE มะค่ำโมง Afzelia xylocarpa ์ ั่ว) LEGUMINOSAE (วงศถ สะตอ Parkia speciosa MIMOSOIDEAE Pterdophytes : Ferns & Fern allies เฟิ รน ์ แท ้และเฟิ รน ์ ไม่แท ้ Pterdophytes : Ferns & Fern allies True ferns : - Approximately 35 families. วงศใ์ หญ่ๆ - Aspleniaceae - Thelypteridaceae - Hymenophyllaceae - Polypodiaceae Pterdophytes : Ferns & Fern allies ั ท์ทใี่ ชเรี ้ ยกสว่ นต่ำงๆ ของเฟิ น ศพ Fron = ‘compound leaf ’ Stipe = ‘ petiole ’ Pinna = ‘leaflet’ Pinnule = ‘bipinnate leaflet ’ ASPLENIACEAE (วงศเ์ ฟิ รน ์ ข ้ำหลวง) กลุม ่ ของสปอร์ ออกเป็ นแนวขนำนกัน ASPLENIACEAE (วงศเ์ ฟิ รน ์ ข ้ำหลวง) กลุม ่ ของสปอร์ ออกเป็ นแนวขนำนกัน ข ้ำหลวงหลังลำย Asplenium nidus THELYPTERIDACEAE (วงศเ์ ฟิ รน ์ ดิน, เฟิ รน ์ หิน) ก ้ำนใบตัดขวำงเป็ นรูปโอเมก ้ำ HYMENOPHYLLACEAE (วงศเ์ ฟิ รน ์ ใบบำง) เฟิ นขนำดเล็กมำก เป็ นแผ่นบำงๆ ื้ สูง เกำะตำมหินหรือต ้นไม ้ทีม ่ ค ี วำมชน สปอร์ - Lamina trans lucent (only 1 cell thick) Sporangia on long narrow column. Leaves on the same rhizome different. Colbert a length of rhizome HYMENOPHYLLACEAE (วงศเ์ ฟิ รน ์ ใบบำง) เฟิ นใบบำง มอสส ์ เปรียบเทียบขนำดเฟิ รน ์ ใบบำงและมอสส ์ HYMENOPHYLLACEAE (วงศเ์ ฟิ รน ์ ใบบำง) ั ) POLYPODIACEAE (วงศเ์ ฟิ รน ์ อิงอำศย Stem a creeping rhizome. Leaves articulated at the base. leaving small stalks on rhizome. Sori with out and indusiam. Stem scales with terminal gland. มีเหง ้ำทอดเลือ ้ ย Drynaria sp. ไม ้เลือ ้ ย เถำ กลุม ่ ทีม ่ ใี บเรียงสลับ ให ้สงั เกตตำแหน่งทีม ่ อ ื เกำะแตกออกจำกลำต ้น ว่ำทำมุมกับใบอย่ำงไร ์ ตงกวำ) CACURBITACEAE (วงศแ Tendrils ออกตัง้ ฉำกกับใบ ์ ะทกรก) PASSIFLOARACEAE (วงศก ออกจำกซอกใบ PASSIFLOARACEAE ์ ะทกรก) (วงศก ์ งุน VITACEAE (วงศอ ่ ) Tendril ออกตรงข ้ำมใบ ์ งุน VITACEAE (วงศอ ่ ) Tendril ออกตรงข ้ำมใบ