08_Impact Factor

Download Report

Transcript 08_Impact Factor

Impact Factor : IF
ความหมาย
 คือ ค่าเฉลีย่ ของจานวนการได้รบั การอ้างอิงของ
บทความในวารสารชื่อหนึง่ ต่อ จานวนบทความที่
พิมพ์ก่อนหน้านั้น
ความเป็ นมา
 ปี ค.ศ. 1960 Dr. Eugene Garfield ได้นาเสนอแนวคิดในการนา
ข้อมูลการอ้างอิงมาวัดคุณภาพวารสาร โดยตีพิมพ์บทความนาเสนอให้วารสาร
Science เมือ่ ปี 1955
 ปี ค.ศ. 1963 เกิดฐานข้อมูล Science Citation Index เป็ นการ
นาเสนอบทความวิจยั วิทยาศาสตร์ที่มีขอ้ มูลการอ้างอิง
 ปี ค.ศ. 1970 เกิดฐานข้อมูล Social Science Citation Index
เป็ นการนาเสนอบทความวิจยั สังคมศาสตร์ที่มีขอ้ มูลการอ้างอิง
 ปี ค.ศ. 1976 เกิดบริการ Journal Citation Report,
JCR นาเสนอค่า Journal Impact Factor, JIF
ความเป็ นมา
 ปี ค.ศ.1980 เกิดฐานข้อมูล Arts & Humanities Citation





Index เป็ นการนาเสนอบทความวิจยั มนุ ษยศาสตร์ที่มีขอ้ มูลการอ้างอิง
ปี ค.ศ. 1990 ISI นาเสนอข้อมูล Indicators datasets &
Citation report
ปี ค.ศ. 1995 เกิดบริการแบบเว็บเบส ISI – Web of Knowledge
ปี ค.ศ. 2000 เกิดบริการ Essential Science Indicators, ESI
ปี ค.ศ. 2005 มีการเสนอหน่วยวัดคุณภาพงานวิจยั h index
ปี ค.ศ. 2007 มีการเสนอหน่วยวัดคุณภาพงานวิจยั Eigenfactor
Metrics
หน่วยวัด คุณภาพงานวิจัยวิทยาศาสตร์
1. Impact Factor, IF
2. H index
3. Eigenmetrics
4. Map & Research Fronts
5. Usage Statistics
หน่วยวัด คุณภาพงานวิจัยวิทยาศาสตร์
 จากหน่วยวัด 3 ค่าหลักข้างต้น ทุกๆหน่วยต่างก็ใช้ขอ้ มู ล
การอ้างอิง (citation count) เป็ นสาคัญ
หลักการวัด
 1. Impact Journal Metrics
- เป็ นการนับจานวนการได้รบั การอ้างอิง ต่อจานวนบทความที่
ตีพมิ พ์ (ในวารสาร)
- เป็ นวิธีทีง่ ่าย เข้าใจได้
- เป็ นหน่วยวัดทีร่ ูจ้ กั กันเป็ นอย่างดี ในชุมชนวิจยั ทัว่ โลก คือค่า JIF,
Immediacy index, Time half life index
หลักการวัด
 2. H Family
- อยู่บนหลักการเรียงลาดับจากสูงสุดไล่เรียง ของจานวนบทความตีพิมพ์
- เป็ นหน่วยวัดที่ง่าย เข้าใจได้
- สามารถนาประยุกต์ได้กบั ทุกระดับ คือ วารสาร นักวิทยาศาสตร์ สถาบัน
ประเทศ
 3. Influence Metric
- เป็ นการให้ค่าน้ าหนักในการวัดของโครงสร้างเครือข่ายของการอ้างอิง
ทั้งหมด
- คิดหน่วยวัดเป็ น 2 ค่าหลัก คือ Eigenfactor Influence (EI) /
Article Influence (AI)
วิธีการคานวณหาค่า Journal Impact Factor
 คาจากัดความ หมายถึงสัดส่วนระหว่าง จานวนการได้รบั
การอ้างอิง / จานวนบทความทีต่ ีพิมพ์
วิธีการคานวณหาค่า Journal Impact Factor
 แสดงวิธีการคานวณ 2 years JIF 2007 ของวารสาร A ดังนี้
-มีจานวนการอ้างอิงในปี 2007 ถึงบทความที่ตีพิมพ์ปี 2006 =4541 ครั้ง
-มีจานวนการอ้างอิงในปี 2007 ถึงบทความที่ตีพิมพ์ปี 2005 =5827 ครั้ง
-รวม จานวนการอ้างอิงถึงวารสาร A ช่วง 2 ปี = 10368
-จานวนบทความที่ตีพิมพ์ ปี 2006 = 773 เรื่อง
-จานวนบทความที่ตีพิมพ์ ปี 2005 = 837 เรื่อง
-รวม จานวนการตีพิมพ์ ของวารสาร A ช่วง 2 ปี = 1610 เรื่อง
ฉะนั้น ค่า JIF- 2 years ของวารสาร A = 10368/1610
= 6.440
ประเด็นที่เกิดข้อถกเถียงของค่า JIF
 - Citable items ไม่มีมาตรฐานและคาจากัดความไม่แน่ชดั
- Citation Pattern ในแต่ละสาขาวิชามีความผันแปรแตกต่าง
กันอย่างมาก
- การคิดค่า แค่ช่วงระยะเวลาเพียง 2 ปี เป็ นช่วงเวลาทีส่ ้ นั เกินไป
- ประเภทของบทความตีพมิ พ์ (Review, Research
article) มีความผันแปรในการอ้างอิงแตกต่างกัน
- คิดค่า JIF เฉพาะวารสาร ไม่มีสิง่ พิมพ์ประเภทอื่นๆ
- เป็ นการวัดทีบ่ ดิ เบือนของการกระจายตัวของค่าต่างๆ
ศูนย์ดัชนีการอ้ างอิ งวารสารไทย
Thai Journal Citation Index : TCI
 จัดตั้งขึ้ นโดยได้รบั เงินสนับสนุ นจาก สกว.
 จัดตั้งทีม
่ หาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
เกณฑ์การคัดเลือกวารสารเข้าสู่ฐานข้อมูล TCI
 วารสารสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
 เป็ นวารสารทีจ่ ด
ั พิมพ์อย่างต่อเนือ่ งทุกปี และออกตรงตามเวลา
ทีก่ องบรรณาธิการของแต่ละวารสารกาหนด
 เป็ นวารสารทีจ่ ด
ั ทาขึ้ นภายในประเทศทั้งภาษาไทยและ
ภาษาอังกฤษ
 เป็ นวารสารทีม
่ ีอายุการตีพมิ พ์ไม่นอ้ ยกว่า 3 ปี
เกณฑ์การคัดเลือกวารสารเข้าสู่ฐานข้อมูล TCI
 เป็ นวารสารทีต
่ ีพมิ พ์บทความวิจยั บทความวิชาการ บทความ
ปริทศั น์ และบทความเรือ่ งสั้น
 เป็ นบทความทีม
่ ีบทคัดย่อภาษาไทย และ หรือ ภาษาอังกฤษ
 เป็ นบทความทีม
่ ีเอกสารอ้างอิง
 มีการตรวจสอบคุณภาพของบทความทีเ่ สนอขอรับการตีพม
ิ พ์
โดยมีทรงคุณวุฒิพจิ ารณาบทความอย่างน้อย 2 ท่าน
 สามารถขอรับการประเมินคุณภาพผลงานโดยศูนย์ TCI ตาม
ระยะเวลาทีเ่ หมาะสม