2_Sheet_Metal - วิศวกรรม การ ผลิต

Download Report

Transcript 2_Sheet_Metal - วิศวกรรม การ ผลิต

เครื่องจักรและกรรมวิธีการตัดโลหะแผ่นสมัยใหม่
อ.ธรรม์ณชาติ วันแต่ง
วิชา เทคโนโลยีโลหะแผ่น
Production Technology PCRU
• ประเภทของเครื่องจักรทีใ่ ช้ ในงานปั๊ม
แยกตามระบบส่ งกาลัง
1.เครื่องปั๊มระบบกลไก
ใช้ ระบบกลไกส่ งกาลัง
C-Frame Crank Press
Mechanical Press
Production Technology PCRU
C-Frame Crank Press
SINGLE CRANK PRESS
DOUBLE CRANK PRESS
Production Technology PCRU
Mechanical Press
Mechanical Press Product
Production Technology PCRU
แยกตามระบบส่ งกาลัง
2. เครื่ องปั๊ มระบบไฮดรอลิค
ลูกสู บ
นา้ มัน
ใช้ แรงดันของนา้ มันเป็ นตัวส่ งกาลัง
Production Technology PCRU
เปรียบเทียบการทางาน
การทางาน
อัตราการผลิต
(การขึ้นรู ป)
ความยาวของ
ระยะช่วงชัก
การปรับอัตราการใช้
แรงกด
การปั๊ มเกินกาลัง
1.เครื่องปั๊มระบบกลไก
2.เครื่องปั๊มระบบ
ไฮดรอลิค
เร็ วกว่า
ช้ากว่า
ค่อนข้างสั้น
(600-1,000 มม.)
ไม่สามารถปรับได้
เปรี ยบเทียบแล้วยาวกว่า
สามารถเกิดขึ้นได้
ไม่สามารถเป็ นได้
สามารถปรับได้
Production Technology PCRU
เทคโนโลยีการตัดโลหะแผ่นสมัยใหม่ที่นิยมใช้กนั
ในปัจจุบนั มีอยู่ 4 ประเภท คือ
1. พลาสมา (Plasma)
2. เลเซอร์ (Laser)
3. แรงดันน้า (Water jet)
4. เครื่องเจาะระบบหัวตอก (Turret Punching)
1. พลาสม่า (Plasma)
พลาสม่ าเป็ นสถานะที่ 4 ของสสาร เกิดจากการกระตุ้นอิเล็กตรอนให้
หลุดจากอะตอมของสสาร ทาให้ เกิดพลังงานสู งมาก จนกลายเป็ น
พลังงานความร้ อนที่นามาใช้ ในการตัดโลหะ
ข้ อดี
สามารถตัดงานได้ หนามาก สามารถตัดสเตนเลสได้ หนาถึง 3” และ
ด้ วยความเร็วสู งกว่ าวิธีอนื่ ๆ
จุดด้ อย
ร่ องตัดมีขนาดค่ อนข้ างใหญ่ และเอียง(เตเปอร์ ) จะเหมาะกับงานหนา
ทีม่ ีรูปร่ างไม่ ซับซ้ อน
วัสดุ
ความหนา
สเตนเลส
เหล็ก
3-50mm
3-30mm
2. เลเซอร์ (Laser)
เลเซอร์ เป็ นการตัดโดยใช้ พลังงานความร้ อนเหมือนกับการตัดด้ วยพ
ลาสม่ า แต่ กระบวนการผลิตพลังงานที่นามาใช้ ตัดต่ างกัน ทาให้ เปลวที่ใช้
ในการตัด เล็กและแคบกว่ าพลาสม่ ามาก
ข้ อดี
เหมาะกับงานบางทีต่ ้ องการความละเอียดสู ง โดยมีความคลาดเคลือ่ น
เพียง +/-0.15mm
ร่ องตัดมีขนาดเล็ก, สั นแนวตัดตรง
ข้ อเสี ย
ข้ อจากัดเรื่องความหนา จะตัดสเตนเลสได้ ประมาณ 15-19 mm
ค่ าใช้ จ่ายค่ อนข้ างสู งเมื่อเทียบกับวิธีอนื่ ๆ ตั้งแต่ ราคาเครื่องตัดเลเซอร์
รวมไปถึง แก๊ ส หัวนอซเซิล และวัสดุสิ้นเปลืองต่ างๆ
วัสดุ
สเตนเลส
เหล็ก
อลูมเิ นียม
ความหนา
0.4-15mm
0.4-22mm
0.4-8mm
3. แรงดันน้า (waterjet)
สามารถแบ่ งเป็ น 2 ระบบใหญ่ ๆคือ
ระบบทีใ่ ช้ แรงดันนา้ เพียงอย่ างเดียว (Pure water jet)
ระบบทีใ่ ช้ สารกัดกร่ อน (abrasive) ช่ วยในการตัด (Abrasive jet) สาหรับงาน
โลหะ ใช้ แรงดันนา้ ทีส่ ู งมากเป็ นส่ วนสาคัญในกระบวนการตัด
ข้ อดี
• กระบวนการทั้งหมดไม่ มีความร้ อนเข้ ามาเกีย่ วข้ อง
• เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดปานกลางตัดงานได้ หนา และ มีความเอียง
ของร่ องตัดน้ อย
• ตัดวัสดุได้ หลายประเภท ตั้งแต่ เหล็ก สเตนเลส อลูมิเนียม ทองเหลือง ทองแดง
พลาสติก ไม้ ยาง หิน เซรามิค แก้ว โดยไม่ ทาให้ วสั ดุหลอมเหลว หรือสู ญเสี ย
คุณสมบัติทางกายภาพไป
• ค่ าใช้ จ่ายโดยรวมจะน้ อยกว่ าการตัดเลเซอร์
ข้ อด้ อย
ตัดงานได้ ค่อนข้ างช้ า และร่ องตัดยังมีขนาดใหญ่ กว่ าการตัดด้ วยเลเซอร์
4. เครื่องเจาะระบบหัวตอก (Punching)
punching เป็ นการใช้ หัวตอกเจาะลงไปบนแผ่ นโลหะ (ต่ างจากการตัดทั้งสาม
วิธีที่กล่าวมาข้ างต้ น) ให้ เกิดเป็ นรูหรือแนวตัดตามลักษณะรูปร่ างของหัวตอก
ด้ วยวิธีนีท้ าให้ เครื่อง punching ต้ องมีหัวตอกหลายประเภท หลายขนาด เพือ่
รองรับแบบงานตัดได้ หลากหลาย
ข้ อดี
•สามารถปั๊มเจาะได้ ด้วยความเร็วสู ง แม่ นยา กับแบบงานทีม่ ีหัวแม่ พมิ พ์รองรับ
•วิธีนีจ้ ึงเหมาะกับงานบางผลิตเป็ นจานวนมากในลักษณะ mass production
ข้ อเสี ย
•ไม่ สามารถใช้ กบั งานหนาได้ สเตนเลส ประมาณ 3-4 mm
•แนวตัดที่เป็ นเส้ นโค้ งจะต้ องใช้ หัวแม่ พมิ พ์ตอกต่ อๆกันทาให้ ได้ แนวตัดที่ไม่
สวยเหมือนการตัดด้ วยวิธีอนื่
•การเสี ยเวลาในการจัดเตรียมหัวแม่ พมิ พ์ด้วย, แบบทีม่ ีรูเยอะ
จบบท