Transcript ทรานซิชัน
Scandium Titanium Vanadium Chromium Manganese Iron Cobalt Nickel Copper ธาตุแทรนซิชัน (Transition elements) 1. สมบัตขิ องธาตุแทรนซิชัน 2. สารประกอบของธาตุแทรนซิชัน 3. สารประกอบเชิงซ้ อนของธาตุแทรนซิชัน ธาตุแทรนซิชัน การจัดเรียงอิเล็กตรอนของธาตุ K Ca และธาตุแทรนซิชันในคาบที่ 4 ธาตุ เลขอะตอม การจัดเรียง e จานวน e K Ca Sc 19 20 21 [Ar] 3d0 4s1 [Ar] 3d0 4s2 [Ar] 3d1 4s2 2 8 8 1 2 8 8 2 2 8 9 2 Ti V 22 23 [Ar] 3d2 4s2 [Ar] 3d34s2 2 8 10 2 2 8 11 1 Cr Mn 24 25 [Ar] 3d5 4s1 [Ar] 3d5 4s2 2 8 13 2 2 8 13 2 Fe Co Ni 26 27 28 [Ar] 3d6 4s2 [Ar] 3d7 4s2 [Ar] 3d8 4s2 2 8 14 2 2 8 15 2 2 8 16 2 Cu Zn 29 30 [Ar] 3d10 4s1 [Ar] 3d10 4s2 2 8 18 1 2 8 18 2 สมบัตขิ องธาตุแทรนซิชัน ธาตุแทรนซิชันมีสมบัตแิ ตกต่ างจากโลหะทัว่ ๆ ไป ทาให้ ต้องแยกออกเป็ นกลุ่ม ๆ ต่ างหาก ลักษณะทีส่ าคัญของธาตุแทรนซิชันเป็ นดังนี้ 1. มีเลขออกซิเดชันมากกว่ า 1 ค่ า ยกเว้ นหมู่ IIIB เช่ น Sc เป็ น +3 ค่ าเดียว และหมู่ IIB (Zn, Cd) เป็ น +2 ค่ าเดียว 2. ธาตุแทรนซิชันเป็ นโลหะ จึงดึงดูดกับแม่ เหล็ก และมีบางธาตุ เช่ น Fe, Co, และ Ni สามารถแสดงสมบัติเป็ นแม่ เหล็กได้ เมือ่ นาไปวางไว้ ในสนามแม่ เหล็กนาน ๆ นอกจากนีย้ งั มีสารประกอบของธาตุแทรนซิชันอีกหลายชนิดทีส่ ามารถดูดกับ แม่ เหล็กได้ 3. สารประกอบส่ วนใหญ่ มีสี (ยกเว้ นหมู่ IIIB) ซึ่งเป็ นสี ของไอออนเชิงซ้ อน ของธาตุแทรนซิชัน ซึ่งแตกต่ างกันขึน้ อยู่กบั ชนิดของธาตุแทรนซิชันเอง เลข ออกซิเดชัน ชนิดและจานวนของสารทีร่ วมตัวกับธาตุแทรนซิชัน 4. ธาตุแทรนซิชันมีแนวโน้ มทีจ่ ะเกิดสารประกอบเชิงซ้ อนได้ 5. มีเวเลนต์ อเิ ล็กตรอนเท่ ากับ 2 (ยกเว้ น Cr, และ Cu มีเวเลนต์ อเิ ล็กตรอน เท่ ากับ 1) และอิเล็กตรอนถัดจากวงนอกสุ ดไม่ ครบ 18 (ยกเว้ น Cu และ Zn) สมบัตขิ องธาตุแทรนซิชัน 6. รัศมีอะตอมมีแนวโน้ มลดลงจากซ้ ายไปขวาของคาบ (หรือเมือ่ เลขอะตอม เพิม่ ขึน้ รัศมีอะตอมจะเล็กลง) ซึ่งเหมือนกับธาตุในคาบเดียวกันทัว่ ๆ ไป) 7. มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดค่ อนข้ างสู ง เพราะมีพนั ธะโลหะ 8. ความหนาแน่ นเพิม่ ขึน้ เมือ่ เลขอะตอมเพิม่ ขึน้ เนื่องจากมวลเพิ่มขึน้ ในขณะที่ ขนาดเล็กลง 9. ค่ า IE1 , IE2 , และ IE3 มีแนวโน้ มเพิม่ ขึน้ เมือ่ เลขอะตอมเพิม่ ขึน้ แต่ ค่า ต่ างกันไม่ มากนัก เพราะขนาดใกล้เคียงกัน 10. อิเล็กโทรเนกาติวิตีมแี นวโน้ มเพิม่ ขึน้ เมือ่ เลขอะตอมเพิม่ ขึน้ 11. เป็ นโลหะทีน่ าความร้ อนและนาไฟฟ้าได้ ดเี หมือนกับโลหะทัว่ ๆ ไป ทั้งนีเ้ พราะ มีพนั ธะโลหะ 12. ขนาดอะตอมในคาบเดียวกันจะเล็กลงจากซ้ ายไปขวาเล็กน้ อย และขนาด อะตอมเล็กกว่ าธาตุหมู่ IA และ IIA ในคาบเดียวกัน สมบัตขิ องธาตุแทรนซิชัน รัศมีอะตอม สมบัตขิ องธาตุแทรนซิชัน Transition metal densities พลังงานไอออไนเซชันของโลหะแทรนซิชันแถวแรก เลขออกซิเดชันของธาตุแทรนซิชนั Sc Ti V Cr Mn Fe Co Ni Cu Zn +3 +4 +5 +6 +7 +6 +5 +4 +3 +2 +3 +4 +5 +6 +5 +4 +3 +2 +2 +3 +4 +5 +4 +3 +2 +1 +1 +2 +3 +4 +3 +2 +1 +1 +2 +3 +2 +1 +1 +2 +1 +1 เลขออกซิเดชันทีเ่ สถียรทีส่ ุ ดแสดงไว้ ด้วยสี แดง สมบัตขิ องธาตุแทรนซิชัน ธาตุ Atomic No. Atomic Radius(pm) mp.(oC) bp.(oC) Density (g/cm3) IE1 (kJ/mol) EN K 19 227 64 760 0.86 425 0.82 Ca 20 197 839 1490 1.54 596 1.00 Sc 21 160 1540 2730 3.0 632 1.36 Ti 22 150 1680 3260 4.5 661 1.54 V 23 140 1900 3400 6.1 648 1.63 Cr 24 130 1890 2480 7.2 653 1.66 Mn 25 140 1240 2100 7.4 716 1.55 Fe 26 130 1535 2750 7.9 762 1.83 Co 27 130 1500 2900 8.9 757 1.88 Ni 28 130 1450 2730 8.9 736 1.91 Cu 29 130 1080 2600 8.9 908 1.90 Zn 30 130 420 910 7.1 577 1.65 สารประกอบเชิงซ้ อนของธาตุแทรนซิชัน * โลหะแทรนซิชันมีโครงสร้ างทางอิเล็กตรอนทีแ่ ตกต่ างไปจากโลหะหมู่ที่ IA และหมู่ IIA คือสามารถรวมกับไอออน หรือหมู่ไอออน โมเลกุลหรือสารบางชนิดทีม่ อี เิ ล็กตรอนคู่ว่างอยู่ เกิดเป็ น สารประกอบโคเวเลนต์ ที่เรียกว่ า สารประกอบโคออดิเนชันหรือสารประกอบเชิงซ้ อน (Complex Compound) สารประกอบเชิงซ้ อน คือ สารประกอบทีม่ ไี อออนเชิงซ้ อนเป็ นองค์ ประกอบอยู่ด้วย ส่ วนมากเกิด กับธาตุแทรนซิชัน ไอออนเชิงซ้ อน คือ สารทีเ่ กิดจากไอออนลบ (anions) หรือโมเลกุลทีเ่ ป็ นกลางไม่ มปี ระจุจานวน หนึ่ง หรือมากกว่ านั้นมาสร้ างพันธะเคมีกบั ไอออนกลางของโลหะ เช่ น Cu(NH3)42+, ไอออนเชิงซ้ อนมี 2 ชนิดคือ ไอออนเชิงซ้ อนทีเ่ ป็ นไอออนบวก และไอออนลบ สารประกอบเชิงซ้ อนของธาตุแทรนซิชัน อะตอมกลางหรือไอออนกลาง (Central atom ion) คือ อะตอม ของธาตุทอี่ ยู่แกนกลางของสารเชิงซ้ อน ส่ วนมาก ได้ แก่ โลหะแทรนซิชัน ลิแกนด์ คือ ไอออนหรือโมเลกุลทีล่ ้ อมรอบอะตอมกลางหรือ ไอออนกลาง สารพวกนีเ้ ป็ นสารทีม่ อี ะตอมของธาตุทมี่ ี อิเล็กตรอนคู่อสิ ระอยู่ เช่ น F-, Br-, OH-, SCN-, S2-,CO, NH3, H2O เป็ นต้ น พันธะระหว่ างลิแกนด์ และโลหะแทรนซิชันทีอ่ ยู่กลางในสารเชิงซ้ อนเป็ นพันธะโคเวเลนต์ และ จานวนลิแกนด์ ทลี่ ้ อมรอบโลหะแทรนซิชันทีอ่ ยู่กลาง เรียกว่ า เลขโคออร์ ดเิ นชัน และเลขโคออร์ ดิ เนชันเป็ นเท่ าใดนั้นขึน้ อยู่กบั ชนิดของธาตุแทรนซิชัน เลขออกซิเดชันของโลหะแทรนซิชัน และชนิด ของลิแกนด์ ด้วย สารประกอบโคออร์ ดเิ นชัน (Coordination Compound) สารประกอบโคออร์ ดิเนชัน โดยทัว่ ไปประกอบด้วยไอออนเชิงซ้อน (complex ion) และไอออนที่มีประจุตรงข้าม(counter ion) ไอออนเชิงซ้ อน ประกอบด้วย โลหะที่มีประจุบวกตรงกลาง (central metal cation) เกิดพันธะกับโมเลกุลหรื อไอออนตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไป โมเลกุลหรื อไอออนที่ลอ้ มรอบโลหะที่อยูต่ รงกลาง เรี ยกว่า “ลิแกนด์ (ligand)” H H H H H •• Cl •• •• O •• •• •• N •• ลิแกนด์จะมีอิเลกตรอนวงนอกสุ ดที่ไม่ได้ใช้ในการ เกิดพันธะโคเวเลนท์ (unshared pair of valence electrons)อยูอ่ ย่างน้อย 1 คู่ C O สารประกอบโคออร์ ดเิ นชัน อะตอมในลิแกนด์ที่เกิดพันธะโดยตรงกับโลหะอะตอมกลางเรี ยกว่า “อะตอม ดอนเนอร์ (donor atom)” •• N O H H H H H จานวนของอะตอมดอนเนอร์ที่ลอ้ มรอบโลหะตรงกลางในสารประกอบโคออร์ดิ เนชันเรี ยกว่า “เลขโคออร์ ดิเชัน (coordination number)” ลิแกนด์ที่มี: อะตอมดอนเนอร์ 1 ตัว เรี ยกว่า monodentate อะตอมดอนเนอร์ 2 ตัว เรี ยกว่า bidentate อะตอมดอนเนอร์ 3 ตัวขึ้นไป เรี ยกว่า polydentate H2O, NH3, Clethylenediamine EDTA ตัวอย่ างลิแกนด์ ทพี่ บบ่ อยๆ จงหาเลขออกซิเดชันของโลหะในสารเหล่านี้ K[Au(OH)4] และ [Cr(NH3)6](NO3)3 OH- มีประจุเป็ น -1 K+ มีประจุเป็ น +1 ? Au + 1 + 4x(-1) = 0 NO3- มีประจุเป็ น -1 Au = +3 NH3 ไม่มีประจุ (เป็ นกลาง) ? Cr + 6x(0) + 3x(-1) = 0 Cr = +3 Common ligands โครงสร้ างของสารประกอบเชิงซ้ อน โครงสร้ างของไอออนเชิงซ้ อน ธาตุแทรนซิชันและสารประกอบเชิงซ้ อนของธาตุแทรนซิชัน ธาตุแทรนซิชัน สารประกอบเชิงซ้ อนของธาตุแทรนซิชัน เป็ นโลหะทุกธาตุ และมีความสามารถเป็ นตัวรีดวิ ส์ มีอะตอมหรือไอออนของธาตุแทรนซิชันอยู่ตรงกลาง ได้ และมีไอออน อะตอม หรือโมเลกุล มาล้ อมรอบโดย สร้ างพันธะโคเวเลนต์ ระหว่ างกัน มีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเพิม่ เข้ าไปในระดับ อาจเป็ นไอออนบวก ไอออนลบ หรือเป็ นกลางก็ได้ พลังงานชั้นในทีอ่ ยู่ติดกับระดับพลังงานนอกสุ ด บางธาตุมเี วเลนซ์ อเิ ล็กตรอนเท่ ากับ 1 (Cr, Cu) มักมีสี และถ้ าเลขออกซิเดชันของธาตุแทรนซิชัน และบางธาตุมเี วเลนซ์ อเิ ล็กตรอนเท่ ากับ 2 และเมือ่ เปลีย่ น สี จะเปลีย่ น เป็ นสารประกอบจะมีเลขออกซิเดชันหลายค่ า มีขนาดอะตอมใกล้ เคียงกันภายในกลุ่ม แต่ เล็กกว่ า ธาตุแทรนซิชันชนิดหนึ่งอาจเกิดเป็ นสารประกอบทีม่ ี โลหะหมู่ IA และ IIA ในคาบเดียวกัน องค์ ประกอบเหมือนกันได้ มากกว่ า 1 ชนิด แต่ ละชนิด จะมีสีแตกต่ างกันขึน้ อยู่กบั ชนิด และจานวนโมเลกุล อะตอม หรือไอออน ทีม่ าล้ อมรอบ สารประกอบเชิงซ้ อนของธาตุแทรนซิชัน สารประกอบเชิงซ้ อนของธาตุแทรนซิชัน ตารางแสดงสารประกอบเชิงซ้อนบางชนิดและไอออนองค์ประกอบ สารประกอบ เชิงซ้อน KMnO4 K2MnO4 PbCrO4 K3[Fe(CN)6] ไอออนบวก ไอออนลบ K+ K+ Pb2+ K+ [MnO4][MnO4]2[CrO4]2+ [Fe(CN)6]3- สี ของ สารประกอบ ม่วงแดง เขียว เหลือง ส้มแดง [Cu(NH3)4 ] SO4 [Cu(NH3)4]2+ [SO4]2- คราม [Cu(H2O)5] SO4 [Cu(H2O)5]2+ [SO4]2- น้ าเงิน สมบัติบางประการของสารประกอบของโครเมียมและแมงกานีสไอออน Cr Mn +6 Cr2O72- + H O 2 2 สี ส้ม H+ H+ +6 Cr3+ สี เขียว CrO4 สี เหลือง 2- MnO42สี เขียว +7 MnO4สี ม่วงแดง S2- OH+6 + O2(g) H+ H+ กับ S2- NaOH Cr2+ สี นา้ เงิน +4 MnO2 สี ดา Mn2+ สี ชมพูอ่อน OH+3 Mn(OH)3 สี นา้ ตาล สี ของสารประกอบของโครเมียมและแมงกานีสในนา้ สู ตร ชื่อ สี Cr2+ Cr3+ CrO42Cr2O72Mn2+ Mn(OH)3* MnO2* MnO42MnO4- Chromium (II) ion Chromium (III) ion Chromate ion Dichromate ion Manganese (II) ion Manganese (II) hydroxide Manganese (IV) oxide Manganate ion Permanganate ion นา้ เงิน เขียว เหลือง ส้ ม ชมพูอ่อน นา้ ตาล ดา เขียว ม่ วงแดง *ไม่ละลายน้ า การเตรี ยมสารประกอบเตตระแอมมีนคอปเปอร์ (II) ซัลเฟต เตรี ยมโดยนา CuSO4.5H2Oซึ่ งเป็ นผลึกสี ฟ้ามาละลายน้ า แล้วเติม NH3 และ เอทานอล จะได้ผลึกสี ครามเข้ม เมื่อตั้งทิ้งไว้ขา้ มคืนจะเปลี่ยนเป็ นสารสี เขียวแกม ฟ้ า ดังสมการ CuSO4.5H2O + 4NH3 (สี ฟ้า) Cu(NH3)4SO4.H2O + 4H2O (สี คราม) ทิ้งไว้ขา้ มคืน Cu(NH3)3SO4 + NH3 + H2O (สี เขียวแกมฟ้ า) สารประกอบเชิงซ้ อนขอธาตุแทรนซิชัน Excess Ammonia TM Formula of Hydroxide Precipitate Colour Excess NaOH Cr Cr(OH)3 green [Cr(OH)6]3-(aq) Mn Mn(OH)2 cream Fe Fe(OH)2 green Fe(OH)3 red/brown Co Co(OH)2 light blue Ni Ni(OH)2 green [Ni(NH3)6]2+(aq) Cu Cu(OH)2 blue Cu(NH3)4]2+(aq) Zn Zn(OH)2 white [Zn(OH)4]2- (aq) [Zn(NH3)4]2+(aq) การเขียนสู ตรและการเรียกชื่อสารประกอบเชิงซ้ อน 1. 2. เรี ยกชื่อไอออนบวกก่อนไอออนลบ เช่นเดียวกับการเรี ยกชื่อสารประกอบไอออนิก การเรี ยกชื่อไอออนเชิงซ้อน ให้เรี ยกชื่อลิแกนด์ก่อนแล้วตามด้วยชื่อของไอออน ของธาตุแทรนซิ ชนั **การเรี ยกชื่อลิแกนด์ 1) ไอออนลบที่ลงท้ายด้วย -ide เปลี่ยนเป็ น -o ไอออนลบ ชื่อทั่วไป ชื่อเมื่อเป็ นลิแกนด์ ClBrICNO2- chloride bromide Iodide cyanide oxide chloro bromo Iodo cyano oxo การเขียนสู ตรและการเรียกชื่อสารประกอบเชิงซ้ อน **การเรี ยกชื่อลิแกนด์ 2) ไอออนลบที่ลงท้ายด้วย –ite หรื อ –ate เปลี่ยนเป็ น –ito , –ato ไอออนลบ CO32S2O32SCN- C2O42- ชื่อทัว่ ไป carbonate thiosulfate thiocyanate thiocyanate oxalate ชื่อเมื่อเป็ นลิแกนด์ Carbonato Thiosulfato thiocyanato เมื่อเกิดพันธะที่ S isothiocyanato เมื่อเกิดพันธะที่ N oxalato การเขียนสู ตรและการเรียกชื่อสารประกอบเชิงซ้ อน **การเรียกชื่อลิแกนด์ 3) ลิแกนด์ ทไี่ ม่ มปี ระจุหรือเป็ นกลาง : ยกเว้ น ลิแกนด์ H2O NH3 CO ให้ เรียกเหมือนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ นกลาง ชื่อเมื่อเป็ นลิแกนด์ aqua ammine carbonyl การเขียนสู ตรและการเรียกชื่อสารประกอบเชิงซ้ อน **การเรี ยกชื่อลิแกนด์ 4) ถ้าสารประกอบเชิงซ้อนมีลิแกนด์ชนิ ดเดียวกันมากกว่าหนึ่ ง : จานวนที่ซ้ ากันไว้หน้าชื่อลิแกนด์ดว้ ยภาษากรี ก จานวนลิแกนด์ ที่ซ้ากัน 2 3 4 5 6 เรียก di tri tetra penta hexa ให้บอก การเขียนสู ตรและการเรียกชื่อสารประกอบเชิงซ้ อน **การเรี ยกชื่อไอออนเชิงซ้อน 1) ถ้าไอออนเชิงซ้อนมีประจุเป็ นลบ : ให้เรี ยกชื่อลิแกนด์แล้วตามด้วยชื่อโลหะ และ เปลี่ยนคาลงท้ายเป็ น –ate และใส่ เลขออกซิ เดชันไว้ในวงเล็บต่อจากชื่อโลหะ ด้วยเลขโรมัน โลหะ ชื่อโลหะ ชื่อโลหะในไอออนเชิงซ้ อนทีม่ ปี ระจุลบ Al Cr Mn Ni Co Zn Mo W Aluminium chromium manganese nickel cobalt zinc molybdenum tungsten Aluminate Chromate Manganate Nickelate Cobaltate Zinccate Molybdate Tungatate การเขียนสู ตรและการเรียกชื่อสารประกอบเชิงซ้ อน **การเรี ยกชื่อไอออนเชิงซ้อน 2) ไอออนเชิงซ้อนที่มีประจุเป็ นลบ : ชื่อโลหะบางตัวมีชื่อเรี ยกเป็ นภาษาละติน ให้ใช้ภาษาละตินและลงท้ายด้วย –ate ธาตุ Fe Cu Pb Ag Au Sn ชื่อโลหะ ภาษาอังกฤษ iron copper lead silver gold tin ภาษาละติน Ferrum Cuprum Plumbum Argentum Aurum Stannum ชื่อโลหะในไอออนเชิงซ้ อน ทีม่ ปี ระจุเป็ นลบ Ferrate Cuprate Plumbate Argentate Aurate Stannate การเขียนสู ตรและการเรียกชื่อสารประกอบเชิงซ้ อน 3) ในกรณี ที่สารประกอบเชิงซ้อนนั้นมีลิแกนด์หลายชนิด ให้เรี ยกชื่อลิแกนด์ตามลาดับ ตัวอักษรภาษาอังกฤษ เรี ยงจาก A-Z สรุปการอ่ านชื่อสารประกอบเชิงซ้ อนหรือ ไอออนเชิงซ้ อน 1. ในกรณีทเี่ ป็ นสารประกอบ ให้ อ่านชื่อไอออนบวกก่อนไอออนลบ ในกรณีทอี่ ่าน ชื่อไอออนเชิงซ้ อนอย่างเดียวให้ อ่านข้ อ 2 2. อ่านชื่อลิแกนด์ โดยบอกจานวนลิแกนด์ ก่อนแล้วตามด้ วยชื่อของลิแกนด์ หากมี หลายลิแกนด์ ให้ อ่านลิแกนด์ ทปี่ ระจุลบก่ อน ตามด้ วยเป็ นกลาง และประจุบวก ตาม ลาดับจนครบ ถ้ ามีประจุเหมือนกันให้ เรียงตามตัวอักษร A-Z 3. หากลิแกนด์ ชนิดนั้นมีชื่อพ้องกับคาบอกจานวน เช่ น มีคาว่ า di- ในชื่อให้ บอก จานวนลิแกนด์ ตามแบบในวงเล็บเป็ น bis4. หากไอออนเชิงซ้ อนเป็ นไอออนบวก ให้ อ่านชื่ออะตอมกลางตามปกติ หากไอออน เชิงซ้ อนเป็ นไอออนลบ ให้ อ่านชื่ออะตอมกลางด้ วยชื่อละตินของธาตุน้ัน 5. บอกเลขออกซิเดชันของอะตอมกลาง การอ่ านชื่อไอออนเชิงซ้ อน จานวนลิแกนด์ ชื่อลิแกนด์ อะตอมกลาง ชื่ออะตอมกลาง ไอออนเชิงซ้ อนเป็ น ประจุบวก ไอออนเชิงซ้ อนเป็ น ประจุลบ 1=mono H2O(aqua) V vanadium Vanadate 2=di (bis)* 3=tri (tris)* NH3(ammine) CO(carbonyl) Cr Mn chromium manganese Chromate manganate 4=tetra (tetrakis)* Cl-(chloro) 5=penta(pentakis)* C2O42-(oxalato) Fe Co iron cobalt ferrate Cobaltate 6=hexa(hexakis)* Ni Cu Ag nickel copper silver nickelate Cuprate argentate OH-(hydroxo) SO42- (sulphato) CN-(cyano) * หมายถึง กรณีจานวนลิแกนด์ ซ้ากับจานวนนับในระบบกรีก จะใช้ prefix เป็ นbis,tris แทนจานวนนับ การเขียนสู ตรและการเรียกชื่อสารประกอบเชิงซ้ อน ตัวอย่ าง การเรียกชื่อสารประกอบเชิงซ้ อน สารประกอบเชิงซ้ อน K3[Fe(CN)6] ไอออนบวก ไอออนลบ เลขโคออร์ ดเิ นชัน อ่ านชื่อ ................... ...................... ................................. ........................ [Cu(NH3)4]SO4 ................... ...................... ................................. ........................ [Cr(H2O)4Cl2]ClO4 ................... ...................... ................................. ........................ Na3[Cr(NO2)6] ................... ...................... ................................. ........................ Fe2[Fe(CN)6] ................... ...................... ................................. ........................ [Ni(NH3)6]Br2 ................... ...................... ................................. ........................ ธาตุกงึ่ โลหะ (Metalloids) ธาตุกงึ่ โลหะ คือ ธาตุทมี่ สี มบัตบิ างประการคล้ ายโลหะ และมีสมบัติบาง ประการคล้ายอโลหะ ได้ แก่ B (โบรอน) Si (ซิลกิ อน) As (อาร์ เซนิก) Sb (แอนติโมนี) Po (โพโลเนียม) At (แอสทาทีน) Ge (เจอร์ เมเนียม) Te (เทลลูเรียม) ธาตุกงึ่ โลหะ โบรอน (B) - มีจุดเดือด จุดหลอมเหลวสู งเหมือนโลหะ แต่ เปราะ และไม่ นาไฟฟ้า - มีโครงสร้ างแบบโครงผลึกร่ างตาข่ ายที่แข็งแรงมาก มีรูปผลึกหลายรู ป ธาตุกงึ่ โลหะ ซิลกิ อน (Si) - เป็ นผลึกสี เทาเงิน มีจุดเดือด จุดหลอม เหลวสู งเหมือน โลหะ แต่ เปราะเหมือนอโลหะ - เป็ นสารกึง่ ตัวนา - อะตอมของ Si ยึดต่ อกันในรู ปโครงผลึก ร่ างตาข่ าย - ใช้ ทาแผงวงจรไฟฟ้าและอุปกรณ์ ไฟฟ้าต่ างๆ เช่ น วิทยุ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ธาตุกงึ่ โลหะ เจอร์ เมเนียม (Ge) มีจุดเดือด จุดหลอมเหลวสู งเหมือนโลหะ แต่ เปราะเหมือนอโลหะ เป็ นธาตุกงึ่ ตัวนา ใช้ ทาส่ วนประกอบ ของอิเล็กทรอนิกส์ อาร์ เซนิก (As) มีจุดเดือด จุดหลอมเหลวค่ อนข้ างสู ง นาไฟฟ้าได้ เหมือนโลหะ แต่ เปราะ